บังเอิญรัก
เขียนโดย Necha
วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 13.21 น.
แก้ไขเมื่อ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2557 13.47 น. โดย เจ้าของนิยาย
13) บังเอิญ...เกลียด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความอากาศสดชื่นในยามเช้าพร้อมกับการดื่มด่ำกลิ่นไอทะเลพร้อมกับฟังเสียงคลื่นกระทบหาดทรายสีขาว บรรยากาศสุดแสนโรแมนติกหากได้ยืนมองพระอาทิตย์ขึ้นกับใครสักคน แต่ทว่ากลับมีหลายคนที่ไม่ได้สนใจในความงามของธรรมชาติตรงหน้า พายุที่สลัดมาดชายหนุ่มอารมณ์ดีออกไปหมด สีหน้ากระวนกระวายมือกอดอก ขาทั้งสองข้างขยับไปมาจนคนที่นั่งขนาบข้างอย่างภาสกรและบาสต้องหันมาเตือน
“อยู่นิ่งๆ สิวะพายุ กระวนกระวายให้ได้อะไร ทำใจเหอะเรื่องมาถึงขั้นนี้ ทำได้อย่างเดียวคือรอ” บาสเอ่ยแต่ตาจ้องจอโทรศัพท์
ใช่...รออย่างที่ทำมาแล้วทั้งคืน ได้งีบหลับแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องรีบจับไอ้คนต้นเรื่องที่กำลังจะแอบย่องหนี ถึงจะรู้ว่ามันคงออกจากเกาะไม่ได้ง่ายๆ แต่ด้วยคำสั่งประกาศิตจากน้องสาวสุดที่รักที่หากตอนเช้าพายุไม่อยู่ พวกเขาตาย ! T^T ยายปีศาจ ยายแม่มด ยายอสรพิษ...กับพี่กับเชื้อโหดร้ายตลอด
แล้วที่บอกว่ารอนะ ไม่ได้รอคู่กรณี แต่รอให้หนูน้อย(?)พิชชาตื่นต่างหาก พายุมันก็โง๊โง่ โดนหล่อนต้มจนเปื่อยยังไม่รู้อีกว่าน้องไม่ได้โกรธจริง แค่หาเรื่องอยากอัดคนก็เท่านั้นโดยเฉพาะคนที่กำลังจะมา ภาสกรกับภูผายิ่งแล้วใหญ่เชื่อฟังพิชชาถึงขนาดย้ายห้องมานอนเฝ้าพายุแล้วยังลากเขามาอีก Y_Y มีแต่ไอ้เคนที่รอดตัวนอนสบายอยู่ห้องของตัวเอง บาสได้แต่ถอนหายใจให้เหล่าพี่ชายที่หลงน้องจนลืมหูลืมตา มารยาตื้นๆ ยังพากันจับไม่ได้ แต่ว่านะ...คงเพราะพากันตกใจที่เห็นพิชชาเป็นลมล่ะมั้งก็เลยหลงกลง่าย ส่วนเขาที่รู้เรื่องก็ได้แต่รูดซิปปิดปากเงียบ ขืนปากโป้งโดนพิชชาเล่นงานแน่ แม่คุณยิ่งเจ้าคิดเจ้าแค้น -_-
“ก็...”
“ไม่ต้องมากงมาก็ หึ ! เป็นไงล่ะ ลากใครไม่ลากดันลากไอ้พิชไปเอี่ยว ก็รู้ๆ อยู่ว่าน้องมีเรื่องกับพวกวิลสัน ที่เฉยๆ ไม่ยอมทำอะไรก็เพราะเห็นแก่นาย คราวนี้ล่ะได้น้ำตาเช็ดหัวเข่าเป็นหม้ายผัวตาย พิชฆ่าหมอนั่นแน่”
เพี้ยะ !
“ไม่ขำนะชิดคนยิ่งเครียดๆ อย่ามาซ้ำเติม”
“ใครพูดให้ขำ นายน่าจะรู้ว่าพิชมันเจ้าคิดเจ้าแค้น นายเดินหมากผิดแล้วว่ะพายุ” ภาสกรตบไหล่เพื่อนเบาๆ ให้กำลังใจ ถึงข้างในใจจะร้องโวยวายอยากจะจับเพื่อนตัวดีมาโขกกำแพงสักร้อยที...โธ่เอ๊ย ! อุตส่าห์มาเที่ยวทะเลทั้งทีแทนที่จะได้สวีทกับที่รัก กลับต้องมาเจอการนองเลือด เหอะๆ เชื่อเถอะงานนี้ไอ้พิชไม่คุยกันแบบธรรมดาหรอก ต้องมีใครสักคนไม่ตายก็เจ็บหนัก ที่แน่ๆ คนเจ็บไม่ใช่คนชื่อพิชชา
“ฉัน...ไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้ เรื่องผ่านมาตั้ง 7 ปี ไม่คิดว่าพิชจะยังจำอยู่”
“พายุ นายอย่าลืมว่าพิชกับวิลสันมีอดีตด้วยกันมาก่อนที่จะรู้จักกับเรา ฉันเคยเตือนนายแล้วว่าอย่าให้สองคนนั้นเจอกัน ไม่สิต้องบอกว่าอย่าให้วิลสันโผล่หน้ามาให้พิชเจอ เรื่องจะยิ่งแย่...”
“ฉันขอโทษ...”
“ก่อนจะทำไม่คิด มานึกได้ตอนนี้ก็สายไปแล้ว...นายไม่ควรมาเจอพิชตราบใดที่นายยังรักเขา นายกำลังทำน้องเจ็บ” ภูผาที่เงียบมาตลอดวางหนังสือลงบนโต๊ะ ดวงตาคมวาวโรจน์อย่างไม่พอใจ
“...ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่นายจะทำให้พิชเจ็บ ต่อให้นายเป็นเพื่อน...หากมีครั้งหน้าฉันจะไม่ปล่อยนายไว้”
น้ำเสียงหนักแน่นของภูผาพร้อมกับดวงตาที่จ้องเขม็งมาที่พายุบ่งบอกว่าเจ้าตัวไม่ได้ล้อเล่น ภาสกรและบาสเองก็ไม่คิดห้ามเพราะพวกเขาเองก็คิดไม่ต่างกัน ก่อนที่จะมีใครได้พูดอะไร เสียงประตูหน้าห้องก็ดังขึ้น ภูผาเป็นคนลุกไปเปิด ร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีดำ ใบหน้านิ่งที่ยากจะเดาว่าเขารู้สึกอย่างไรที่ภูผาจำได้ดี ผ่านไปหลายปีคนตรงหน้าก็ยังเหมือนเดิม มีเสน่ห์และน่าเกรงขามและยิ่งเพิ่มมากขึ้นตามวัย
“สวัสดีคุณคเณศ ไม่สิมิสเตอร์วิลสัน...คงจะดีกว่านี้หากเราไม่ต้องพบเจอกันอีก”
“จะดีที่สุดถ้าคนของฉันไม่มาอยู่กับเธอ”
“ถ้าหวงขนาดนั้นทำไมไม่ล่ามโซ่เอาไว้ ปล่อยให้เดินเพ่นพ่านคนเขาก็นึกว่าไม่มีเจ้าของ”
“ก็แค่เผลอละสายตา รู้ตัวอีกทีเจ้าตัวก็แล่นมาอยู่นี่”
“หึ ! เข้ามาสิ” ภูผาเดินนำคเณศเข้ามาในห้องที่ดูคับแคบขึ้นทันทีที่มีผู้ชายตัวโตถึง 5 คน บาสเป็นคนเดียวที่ยกมือไหว้คเณศ ภาสกรแค่มองหน้าก่อนจะลุกไปนั่งที่อื่น ส่วนพายุไม่แม้แต่จะเงยหน้ามองตั้งแต่ได้ยินว่าใครมา
“สวัสดีครับพี่คเณศ สบายดีไหมฮะ” บาสเอ่ยถามรุ่นพี่ อดีตเฮดว้ากคณะวิศวฯ ถึงจะอยู่คนละคณะแต่กิตติศัพท์ความโหดก็ดังกระฉ่อนทั้งมหา’ลัย และเขาก็เคยเห็นกับตามาแล้วด้วย ไม่รู้ว่าเป็นชะตาลิขิตหรือกรรมบังที่ทำให้เพื่อนของเขามาคบกับรุ่นพี่คนนี้
“อืม...คงจะดีถ้าไม่มีใครแอบหนีมาก่อเรื่อง” พายุเม้มปากเมื่อร่างสูงในชุดสูททิ้งตัวนั่งลงข้างๆ เขาขยับออกห่างแต่แค่นิดเดียวเพราะไอ้เพื่อนตัวดีที่นั่งอีกด้านแกล้งเขยิบดันเขาไว้ พอจะลุกหนีมือหนาก็คว้าหมับที่ต้นแขนจนชายหนุ่มเซล้มลงจนเกือบจะเกยตักอีกคน
“โกรธอะไร ?”
“...”
“ถ้าไม่พูดฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าทำอะไรให้เธอโกรธ”
“...”
“อย่าเอาแต่เงียบได้ไหม วินดี้ !!” เสียงทุ้มกดเสียงหนักใบหน้าปกตินิ่งเย็นชาแต่กลับแสดงอารมณ์อื่นได้เมื่ออยู่ต่อหน้าคนรัก บัดนี้ฉายชัดถึงความเคร่งเครียดและไม่เข้าใจในการกระทำของคนในอ้อมกอด ยิ่งดวงตาที่หลุบต่ำไม่ยอมเงยหน้าสบตากับเขายิ่งทำให้คเณศหนักใจ เขาคิดทบทวนมาตลอดทางว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้พายุหนีมาทั้งๆ ที่เขากำลังจะไปหา หรือจะโกรธที่เขาไม่สามารถยกเลิกงานในวันฉลองครบรอบ 5 ปี แต่เรื่องนั้นพวกเขาคุยกันรู้เรื่องแล้วไม่ใช่หรือ ? แล้วสาเหตุอยู่ตรงไหน ? ในเมื่อวันๆ นอกจากงานเวลาทั้งหมดของเขาก็มีแค่พายุ
“เดี๋ยวค่อยเคลียร์ รอก่อน” ภูผาเอ่ยขึ้นหลังดูท่าทีคู่รักเจ้าปัญหา ฝ่ายหนึ่งก็หงุดหงิดแทบจะงับหัวคนในอ้อมแขนดูน่ากลัวจนแม้กระทั่งบาสยังต้องย้ายที่นั่ง ส่วนเพื่อนของเขา...บทจะดื้อมันก็ดื้อสุดฤทธิ์ ไม่มีทางที่จะง้างปากออกถ้ามันไม่อยากพูด มีวิธีเดียว...ให้พิชชาจัดการ
“รอทำไม ? ฉันจะเคลียร์กับวินดี้ให้รู้เรื่อง เล่นหายมาเฉยๆ แบบนี้ไม่...”
“พอ ! คุณจะคุยจะเคลียร์ก็เอาไว้ทีหลัง ตอนนี้ทำได้แค่รอ”
“ทำไม ?”
“พิชชายังไม่ตื่น”
!!!!!?
ก๊อกๆ
ร่างบางของพิชชาเดินเข้ามาพร้อมใบหน้าเรียบยากจะเดาอารมณ์ ทุกคนเงียบรอดูท่าทีทั้งบาสและภาสกรเองก็ยังไม่กล้าจะต่อว่าที่หญิงสาวปล่อยให้พวกเขาอดหลับอดนอน แต่จะโทษน้องก็ไม่ได้เพราะใครใช้ใครพวกเขานั่งถ่างตารอ ทั้งๆ ที่จริงแล้วจะงีบหลับก็ได้ในเมื่อรู้ๆ กันอยู่ว่าพิชชาเป็นจอมตื่นสาย
“อรุณสวัสดิ์หนุ่มๆ หลับสบายกันมะ ?” ถามทั้งๆ ที่ขอบตาแต่ละคนคล้ำจากการอดนอน พิชชายกยิ้มมุมปากก่อนจะชะงักเมื่อสบตากับคนที่เพิ่งออกจากห้องน้ำ เสื้อสูทถูกถอดออกถือไว้ในมือ เนคไทคลายไว้หลวมๆ กระดุมบนถูกปลดออกไปสองเม็ดส่วนแขนเสื้อก็พับทบขึ้นมาใต้ศอก ใบหน้าขาวมีหยดน้ำเกาะ สาวๆ มาเห็นคงมีกรี๊ดกร๊าดเลือดกำเดาไหลกับภาพสุดเซ็กซี่ แต่พิชชาที่เคยชินกับพวกผู้ชายหน้าตาดีรู้สึกเฉยๆ มากกว่านี้ก็เคยเห็นมาแล้ว อีกอย่างต่อให้หล่อขนาดไหน ก็ไม่มีใครจะเซ็กซี่น่าหม่ำเท่าซานตาคลอสหนุ่มของเธอได้หรอก
“มาเร็วดีนี่”
“...”
“พิช พี่จัดการเรื่องค่าเสียหายกับทางโรงแรมแล้วจะทำอะไรก็ทำ ส่วนบาสนายออกไปก่อนได้ไหม”
ภูผาเอ่ยหลังจากพิชชายืนจ้องตากับคเณศนิ่ง บาสพยักหน้าอย่างเข้าใจเขาเองก็ไม่อยากจะอยู่เวลาที่พิชชาจะองค์ลง ถ้าขนาดที่ภูผาติดต่อกับทางโรงแรมไว้ก่อนห้องนี้คงเละเป็นหน้ากอง โชคดีที่ทั้งชั้นเป็นของโคลเวอร์ที่ป่านนี้คงจะเริงร่าท่าลมแดดชมปะการังกันสนุกสนานจนลืมประธานและบอสใหญ่ของบริษัท
“ก็ดีเหมือนกัน ฉันเองก็มีงานคงจะกลับขึ้นฝั่งวันนี้...พวกนายเอาอยู่แน่นะ” บาสถามสองแฝดที่เดินมาส่งเขาหน้าห้อง
“คงไม่ต้องมือพวกฉันหรอก เราก็แค่มายืนสังเกตการณ์...แต่ตอนนี้ฉันหิวโคตรเลยว่ะ” ภาสกรพูดพลางหาวไปด้วย เสียงท้องก็ร้องลั่นทำเอาแฝดน้องอย่างภูผาส่ายหน้า
“เดี๋ยวก็ได้กิน ดูท่าทางพิชคงจะคุยไม่นาน เห็นแวบๆ ว่าถือถุงมือมาด้วยคงจะเล่นถึงตาย ไม่รู้จะหัวเราะหรือสงสารพายุถึงไม่รู้ว่าเรื่องอะไรแต่มันโง่ปะเนี่ยที่วิ่งหนีมาหาพิช”
“คงจะคิดว่าถ้าอยู่กับพิช วิลสันไม่กล้าโผล่มาล่ะมั้ง”
“พวกนายเข้าไปดูเถอะไม่รู้เฮียแกจะโดนพิชฆ่าหมกส้วมหรือยัง”
“พิชไม่ฆ่าวิลสันหรอก ไม่งั้นคนที่จะซวยหนักก็คือพิช ตำแหน่งนายใหญ่ของดีฟรอนโซ่หนีไม่พ้นแน่”
“อา...ถ้าเกิดพิชชาได้เป็นเจ้าแม่ไม่อยากจะคิดว่าวงการมาเฟียจะเป็นไง”
“แต่ฉันไม่อยากให้มือน้องเปื้อนเลือด” คำพูดของภูผาทำให้ภาสกรกับบาสที่ทำทีเล่นทีจริงชะงัก
“ฉันรู้ ไม่งั้นนายคงไม่ส่งคนของเราไปเป็นบอดี้การ์ดให้วิลสันหรอกใช่มั้ยล่ะ ตราบใดที่วิลสันยังอยู่ ดีฟรอนโซ่ก็ไม่มีทางจะยุ่งกับพิชได้” ภาสกรกอดไหล่น้องชายฝาแฝดอย่างปลอบประโลม ภูผาฉลาดและเด็ดขาดแต่อ่อนไหวง่ายโดยเฉพาะเรื่องของน้องสาวนอกไส้อย่างพิชชา
“ฉันไปล่ะ เจอกันที่กรุงเทพนะพวก” บาสตบไหล่เพื่อนทั้งสองก่อนจะโบกมือลา เขาเป็นแค่คนนอกได้แต่เฝ้าดู หากยื่นมือเข้าไปโดยที่เพื่อนไม่ได้ขอร้องอาจจะทำให้เรื่องยิ่งแย่กว่าเดิม บาสได้แต่ภาวนาให้เรื่องไม่ร้ายแรง แต่ว่า...เฮอะ ! อย่างพิชชานะเหรอจะยอมให้คนอื่นมาบังคับชีวิตตัวเอง คงมีหรอก...
พิชชารู้ตัวนานแล้วว่าตนเองมิใช่เด็กกำพร้าที่เกิดมาไม่มีพ่อแม่ แต่ถึงมีก็เหมือนไม่มีเพราะพวกเขาไม่เคยทำหน้าที่นั้นเลยกระทั่งเธอเกิดจนพวกเขาตาย บางครั้งสมองอัจฉริยะก็มีข้อเสียมันทำให้พิชชาจำเรื่องในวัยเด็กได้...แม่ของเธอเป็นลูกสาวหัวหน้ามาเฟียในชิคาโก เป็นคุณหนูเอาแต่ใจ บ้าอำนาจ และ...บ้าเซ็กส์ ก่อนที่แม่จะแต่งงานกับพ่อ หล่อนนอนกับผู้ชายคนอื่นจนท้อง เด็กเป็นผู้ชายและถูกส่งให้คนในแก๊งเลี้ยงเพื่อปกปิด ส่วนพ่อเป็นนักธุรกิจ เขาเป็นคนทะเยอทะยานไม่รู้จักพอ ฉากหน้าสวยหรูแต่ฉากหลังดำมืดทั้งค้ายา ผู้หญิงและฟอกเงิน แม้จะรู้ว่าแม่มีลูกมาก่อน เขาก็แค่ทำเป็นไม่รับรู้เพียงเพื่อต้องการอำนาจหนุนหลังจากดีฟรอนโซ่
หลังพวกเขาแต่งงานกัน พฤติกรรมบ้าเซ็กส์ของแม่ก็ยังอยู่ หล่อนแอบนอนกับคนของพ่อตั้งแต่คนสวนยันเลขา ส่วนพ่อก็ไม่ต่างกัน ต่างฝ่ายต่างนอกใจ จนกระทั่งแม่ท้องและเสียชีวิตหลังจากคลอดเธอ เมื่อพิชชาเกิดความเคลือบแคลงสงสัยว่าใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของเขาหรือเปล่าทำให้พ่อผลักไสให้โตมากับพี่เลี้ยง...นารี สาวชาวไทยที่เป็นหนึ่งในเมียน้อยของพ่อ นารีรักพิชชาเหมือนลูกและเป็นคนที่พาพิชชาหนีมาที่ไทยในตอนที่พ่อถูกยึดอำนาจจากดีฟรอนโซ่และตายอย่างทรมาน เสียงกรีดร้องโหยหวนยังก้องในหู
หลังจากนั้นนารีก็เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทิ้งให้พิชชาต้องเติบโตในบ้านเด็กกำพร้า แรกๆ เด็กหญิงแทบจะไม่เข้าใกล้หรือคุยกับคนอื่น เธอฝันร้ายและหวาดผวาอยู่ตลอดจนต้องพบจิตแพทย์กว่าจะสามารถใช้ชีวิตปกติร่วมกับคนอื่นก็ใช้เวลาถึง 2 ปี พิชชาเป็นเด็กฉลาด เรียนรู้ได้เร็ว อยากรู้อยากเห็น เธอเคยแอบมุดรั้วไปนั่งฟังครูสอนภาษาในโรงเรียนกวดวิชาจนโดนจับได้แต่ครูใจดีจึงอนุญาตให้เธอนั่งเรียนด้วยโดยไม่เสียค่าเรียน
เมื่อเข้ามหา’ลัยพิชชาก็ได้เจอเขา...พี่ชายต่างพ่อ หน้าของเขาเหมือนแม่มากและต่อให้เวลาผ่านไปนานแค่ไหนเธอก็จำได้ในเมื่อครั้งแรกที่เจอกันตอนเด็กเขาผลักเธอลงสระน้ำจนเกือบไม่รอด ความแค้นครั้งนั้นเธอจะต้องทำให้เขาชดใช้ !
เธอเกลียด...ใบหน้านิ่งเย็นชาไร้ความรู้สึกนั้น
ที่สำคัญ...หมอนั่นทำไมต้องเป็นเฮดว้ากของคณะเธอด้วย T^T โดนเล่นจนน่วมแล้วเธอจะหาทางเอาคืนได้ยังไง
หาทางกลั่นแกล้งสารพัด...แต่หมอนั่นก็ไม่สะทกสะท้าน
จนกระทั่ง...มันจูบกับพี่พาของเธอ !
คเณศ ดี.วิลสัน อย่าหวังว่าจะอยู่ร่วมโลกกันได้ง่ายๆ !!
พิชชาสติแตกจนเผลอหลุดปากบอกว่าตัวเองเป็นใคร เป็นครั้งแรกที่เห็นคนอย่างคเณศตกตะลึงอ้าปากค้าง เรื่องตาลปัตรจากที่ข่มไม่เคยได้ก็กลายเป็นฝ่ายนั้นยอมทำตามคำสั่ง ยอมให้โดนกระทืบ และไม่นานคนของดีฟรอนโซ่ก็มาพร้อมกับนักฆ่าจากแก๊งอื่นที่ต้องการกำจัดดีฟรอนโซ่ให้พ้นทาง คเณศเองที่มาอยู่ไทยก็เพื่อความปลอดภัยในเมื่อทายาทสายตรงเหลือเพียงเขากับพิชชา และอดีตบอสของดีฟรอนโซ่หรือคุณตาของพวกเขามีคำสั่งสุดท้าย...บอสคนถัดไปคือหลานสาวคนเดียวซึ่งก็คือ พิชชาเท่านั้น ! แต่เธอไม่รับแต่พวกเขาก็บังคับจะพาเธอกลับไปให้ได้ จนต้องออกคำสั่งให้คเณศเป็นตัวแทนทำหน้าที่บอสดีฟรอนโซ่จนกว่าเขาจะตาย !
“เอาล่ะ คุณชายทั้งสองเรามาเปิดอกคุยกันตรงๆ ดีกว่า...จะเริ่มตรงที่พวกคุณทะเลาะกันหรือเหตุผลที่พี่พาขอพิชแต่งงาน”
“!?” คเณศตกใจถึงกับหันไปมองคนข้างตัวอย่างไม่เข้าใจ เพราะอะไร ? มันเกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกเขา
‘...เมื่อไรที่เราไปกันไม่ได้ไม่ว่าตอนนั้นผมจะยังรักหรือเลิกรักคุณ...ผมจะขอพิชแต่งงาน’
นานมาแล้วที่พายุบอกกับเขาเอาไว้ เป็นสิ่งเดียวที่คอยย้ำเตือนให้คเณศไม่ทำผิดพลาดในชีวิตคู่ เขาจะไม่ยอมให้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น เพราะมันหมายถึงเขาจะไม่มีแม้แต่โอกาสแก้ตัวเป็นครั้งที่สองหรืออาจจะรวมทั้งชีวิตของเขาก็คงต้องจบสิ้น และต่อให้เขายังมีชีวิตอยู่ หากสองคนนั้นได้แต่งงานกัน พิชชาคงจะหาทางเขี่ยเขาให้กระเด็นไปนอกวงจรชีวิตพายุแน่นอน
หัวใจของเขาเจ็บปวด...เจ็บยิ่งกว่าโดนกระสุนฝังร่าง มีแต่คำว่าทำไม ? ทำไมๆๆๆ อยู่ในหัวเต็มไปหมด
“วิน...ห หมายความว่าไง...ที่คุณพิชพูด ล้อเล่นสินะ คุณแค่แกล้งผมเล่น...ใช่ไหม ?”
“...”
“วิน...วินดี้...วินดี้...ว”
“เฮ้ย ! ไอ้ทุยเผือก อย่ามาดราม่าตอนนี้ฉันยังคุยไม่จบ หุบปาก ! ฟังอย่างเดียวถ้าไม่ถามอย่าสอใส่เกือก ไปชำระความกันเอาเองทีหลังแต่ตอนนี้คิวฉันโว้ย !”
ไม่ว่าเปล่าพิชชายังขว้างหมอนอิงใส่จนคนถูกเรียก ‘ไอ้ทุยเผือก’ ยอมหันกลับมาทำตัวสงบเสงี่ยมตีหน้านิ่งเหมือนเดิม ความขุ่นข้องหมองใจหายตั้งแต่แม่คุณชี้หน้าตาเขียวใส่แล้ว ที่เหลือมีแต่อาการเสียวสันหลัง คเณศรู้ว่าน้องสาวต่างพ่อคนนี้จะทำให้เรื่องง่ายขึ้นถ้ายอมเออออไปกับเจ้าตัว แต่ถ้าขัดใจเมื่อไหร่เขานี่แหละจะลำบาก
“ว่าไงคะพี่พา ตอบมา !”
ปัง !
พิชชาตบโต๊ะทำเอาสองหนุ่มสะดุ้งแทบจะกระโดดกอดกัน ยิ่งเห็นหญิงสาวยืนเท้าเอวจ้องเขม็งพายุยิ่งรู้สึกตัวลีบ ไม่เคยเจอใครที่น่ากลัวได้เท่าพิชชาเวลาที่เธอโมโห เมื่อก่อนเขาชอบหัวเราะเวลาที่ภาสกรนั่งขอโทษพิชชาอย่างเอาเป็นเอาตาย เขาไม่เคยมีเรื่องให้น้องโกรธเลยไม่เข้าใจแต่ตอนนี้รู้ซึ้งเลยว่า...อย่าปลุกเสือที่หลับอยู่ถ้าไม่อยากถูกขย้ำจนไม่เหลือซาก
“ค คือ...พี่ เอ่อ...”
“เอางี้ดีกว่าพี่พา พิชจะถาม พี่ก็ตอบ สั้นยาวตามใจแต่ขอให้ชัดเจนอย่าอุบอิบ ส่วนรายละเอียดใครมันสงสัยอยากรู้ก็ถามเอาเอง โอเคไหมคะ” ครับ ถ้าหรี่ตามองเป็นนัยขนาดนี้ พี่จะตอบอะไรได้...พายุพยักหน้า
“คำถามแรก พี่ทะเลาะกันหรือเปล่า”
“ไม่...” พายุยังไม่ทันตอบ ฝรั่งตัวโตข้างๆ ก็โพล่งออกมาอย่างไม่กลัวตายก่อนจะอ้อมแอ้มพูดเสียงเบาเมื่อเจอสายตาพิฆาต
“ไม่ยุติธรรมเลย พี่มีสิทธิ์จะแก้ต่างให้ตัวเอง คุณพิชจะฟังความข้างเดียวหรือไงครับ”
“ก็ได้ ฉันจะให้คุณพูดได้แต่ต้องรอฉันถาม ระหว่างนั้นหุบปากซะ”
“...”
“อะไรคือสาเหตุที่พี่หนีมา” พิชชาหันมาถามพายุ
“...ผู้หญิง”
“ของใคร ?” พายุชี้ไปข้างตัว พิชชาลุกขึ้นหักนิ้วย่างสามขุมไปกระชากคอเสื้อคเณศ
“เผือก คุณกล้านอกใจพี่พาเรอะ !”
“จะบ้าหรือไง คุณพิชก็รู้ว่าพี่รักวินดี้แค่คนเดียว สองตาไม่เคยแลใคร วันๆ มีแต่ทำงานกับหลบกระสุนจะเอาเวลาไหนไปจีบคนอื่น...ผู้หญิงที่ว่าคือใครหรือวินดี้”
“โซเฟีย...”
“หืม ? น้องสาวของผมเหรอ เป็นไปได้ไง”
“คุณจะบอกว่าผมโกหกเหรอ ! ตาคุณนะถั่วดูไม่ออกหรือไงว่าเขาอยากจะได้คุณเป็นสามีจนตัวสั่น อีกอย่างก็เพราะคุณนั่นแหละที่ทำให้เขามีหวัง ไม่ใช่สายเลือดเดียวกันสักหน่อยทำไมต้องเอาอกเอาใจ ถึงเนื้อถึงตัวอยู่ตลอด ผมต้องทนดูภาพพวกนั้นมานานนับปีและจะไม่เป็นบ้าเลยถ้าคุณไม่เข้าข้างแต่หล่อน อึก คุณไม่รู้หรอกว่าลับหลังผมต้องโดนเขาพูดดูถูกถากถางแค่ไหน...อุตส่าห์หนีไปเรียนตั้งสองปีกลับมาก็ยังเหมือนเดิม อึก ที่สำคัญ...คุณลืมวันเกิดผมแล้วยังไปดินเนอร์กับเขาในวันนั้นด้วย !...คุณมัน...คนเฮงซวยที่สุด ฮือ”
คเณศตกใจที่เห็นน้ำตาคนรัก เขาหมายจะกอดร่างนั้นแนบอกแต่ถูกผลักตกโซฟาในขณะที่คนผลักเดินไปกอดพายุแทน พิชชายักคิ้วใส่ก่อนจะตีหน้าโมโหเมื่อเห็นสองแฝดเปิดประตูเข้ามา
“เกิดอะไรขึ้น !?” ภาสกรกับภูผาตกใจเมื่อเห็นเพื่อนร้องไห้ซบไหล่พิชชา
“วิลสัน คุณทำเพื่อนผมร้องไห้ !!” ภาสกรปรี่จะเข้าไปเอาเรื่องคเณศแต่พิชชาห้ามและส่งตัวพายุที่สะอื้นหนักให้ภูผาอุ้มออกไปนอกห้อง คเณศลุกจะตามแต่โดนเตะที่ท้องอย่างรวดเร็วและรุนแรงแบบไม่ทันตั้งตัวจนหมดแรงล้มกองอยู่กับพื้น
“พิชจัดการเอง เฮียออกไปก่อน”
ภาสกรฮึดฮัดไม่พอใจเดินออกไปพร้อมล็อกประตูห้อง พิชชาหยิบถุงมือคู่ประจำที่ใช้ซ้อมต่อสู้มาสวมพลางขยับนิ้วก่อนจะนั่งยองๆ ตรงหน้าคเณศ มือบางลูบใบหน้าคมเบาๆ
“ลุกขึ้น”
พิชชามองร่างสูงที่พยายามทรงตัวขึ้นยืน เธอส่งยิ้มหวานโชว์เขี้ยวเล็กๆ ที่มุมปาก ก่อนจะเดินยืดเส้นยืดสายไปนั่งไขว้ห้างแบบมาดนางพญา ดวงตาเปล่งประกายวาววับเล่นเอาคนถูกมองรู้สึกหนาวๆ ยิ่งแม่คุณกระดิกนิ้วชี้เรียกให้เข้าไปใกล้
“ถอดเสื้อผ้าสิ”
!!!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ