▲เจ้าชู้นัก...เดี๋ยวจัดให้▼(YAOI)

9.6

เขียนโดย AMINOKOONG

วันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 21.25 น.

  20 ตอนที่
  10 วิจารณ์
  34.94K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2557 21.55 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

16) ▲เจ้าชู้นัก...เดี๋ยวจัดให้▼(YAOI) : ตอนที่14

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
▲เจ้าชู้นัก...เดี๋ยวจัดให้▼
 
 
ตอนที่14 : ปฐมบทของการเอาคืน
 
 
ตอนนี้ทุกคนคงกำลังสงสัยอยู่ใช่มั๊ยครับ ว่าสรุปแล้วนายเป้ ปรมิณทร์คนนี้ตกลงสูญเสียความทรงจำจริงรึเปล่า คืออย่างนี้นะครับ ตอนแรกที่ผมตื่นขึ้นมาที่โรงพยาบาล ผมจำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ แม้แต่ชื่อของตัวเองก็ยังไม่รู้คือสมองมันว่างเปล่าไปหมดเลยอีกทั้งยังมึนๆ กลิ่นยาของโรงพยาบาลอีก จนได้เจอกับผู้ชายคนหนึ่งที่นอนเฝ้าผมอยู่ และพอมันบอกว่าผมเป็นแฟนมัน ผมกลับเห็นร่างของผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนอยู่ตรงประตูระเบียงของห้องพิเศษที่ ผมพัก เธอสวมชุดสีขาวใบหน้าขาวซีดยืนส่ายหน้าร้องไห้ไปมาเหมือนพยายามจะบอกจะเตือน ว่าสิ่งที่ผู้ชายคนนี้พูดมันไม่ใช่เรื่องจริง และซักพักผมก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง พร้อมทั้งเกิดภาพแฟลชแบ็คสลับไปมา ตอนนั้นรู้แต่ว่ามันทรมานมากเหมือนใครเอาค้อนมาทุบที่หัว และภาพสุดท้ายที่จำได้คือมีหมอกับพยาบาลยืนล้อมตัวผมอยู่ และก่อนที่ผมจะสลบไปผมได้รับสัมผัสแผ่วเบาเหมือนใครซักคนมาลูบศีรษะของผม สัมผัสที่ดูอบอุ่นและคุ้นเคย พร้อมกับเสียงกระซิบหวานๆเสนาะหูที่เธอเปร่งออกมา
 
 
 
 
“ไม่เป็นไรนะลูก เดี๋ยวหนูตื่นขึ้นมาก็หายแล้ว”
.
.
.
และพอผมฟื้นขึ้นมาผมก็สามารถจดจำทุกอย่างได้เป็นปกติ จำได้ว่าไอ้สารเลวกวินมันทำอะไรกับผมไว้บ้าง และที่สำคัญผมได้แต่เฝ้าบอกกับตัวเองว่าในเมื่อกฎหมายบ้านเมืองไม่สามารถเอา ผิดกับคนเลวๆอย่างมันได้ และมันยังสามารถอยู่สุขสบายโดยไม่สนใจว่าการกระทำของมันจะทำร้ายคนอื่นยังไง ก็ตามและในเมื่อมันไม่ได้รับกรรมที่ตัวเองก่อซักที "งั้นผมก็จะขอเป็นกรรมติดจรวดให้มันเองก็แล้วกัน" อาจจะมองว่าผมเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น แต่การที่ผมจะทำอะไรไปต่อจากนี้ ผมคิดเพียงว่าเป็นการให้บทเรียนกับเลวๆคนหนึ่ง ให้มันได้รับรู้รสชาดของการเป็นเหยื่อและเป็นผู้ถูกกระทำบ้าง เผื่อซักวันมันจะได้รู้จักสำนึกขึ้นมาซักนิดก็ยังดี
 
ปฐมบทของการเอาคืนของผมเริ่มต้นจากไหนๆมันก็เห็นว่าผมความจำเสื่อมไปแล้ว ผมก็แค่ใช้ความรู้จากการเรียนนิเทศศาสตร์เนี่ยแหละมาใช้ให้เกิดประโยชน์โดย แกล้งความจำเสื่อมต่อมันซะเลย และผมได้ขอร้องหมอเจ้าของไข้ว่าอย่าเพิ่งบอกว่าผมหายเป็นปกติแล้ว เพราะต้องการจะเซอร์ไพรส์แฟน ซึ่งหมอก็ยิ้มล้อเลียนและยินดีทำตามอย่างง่ายดาย พอผมออกจากโรงพยาบาล มันก็พาผมมาพักที่คอนโดของมัน ซึ่งผมก็แกล้งสงสัยไปว่าไม่เห็นจะมีรูปของผมกับมันซักรูปเลย มันก็โกหกบอกว่าผมไม่ชอบถ่ายรูปคู่กับมัน
 
และพอผมถามว่าทำไมมันพูดกับผมไม่เพราะเลย มันก็อึกๆอักๆ ตอบมาว่ามันไม่ใช่คนหวานๆเพราะถ้าให้พูดกับแฟนเพราะๆแล้วมันเขิน มันก็ยังแถได้อีกนะ ทีกับสาวๆนี่มีคะมีขา แต่ผมก็แค่เออออตามน้ำไป
 
พอตอนเย็นมันก็พาผมไปงานวันเกิดของพลอย จนได้มารู้ความลับอีกอย่างของมัน ว่าจริงๆแล้วยัยพลอยเก๊แอบชอบมันแต่ที่มาคบกับเรย์เพียงเพื่อจะได้เข้าหาและ ใกล้ชิดกับไอ้หื่น ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ก็สอนให้ผมได้รู้ว่าการศึกษานี่มันไม่ได้ทำให้คน ฉลาดขึ้นมาได้เลยนะ งงกับตรรกกะการใช้ชีวิตและวิธีคิดของนางจริงๆ...
 
“โอ๊ะ!” ผม ร้องออกมาด้วยความเจ็บแผลที่หัวนิดๆ ที่เมื่อกี้ผมดันแสยะยิ้มใส่ยัยพลอยเก๊นั่นมากไปหน่อย บางคนอาจจะมองว่าหล่อนน่าสงสาร แต่สำหรับผมแล้วมันมีเส้นคั่นบางๆระหว่างน่าสงสารกับน่าสมเพชซึ่งแน่นอนว่า ความรู้สึกของผมมันเอนเอียงมาอย่างหลังมากกว่า หล่อนคิดได้ไงมาคบกับเพื่อนสนิทของคนที่ตัวเองแอบรักเพื่อที่จะได้เข้าหา เค้าเนี่ยนะ
 
“อ้าว! ฟื้นแล้วเหรอวะ อ่ะงั้นถ้าฟื้นแล้วก็ลงเดินเองแล้วกัน ตัวหนักชิบ!” ไอ้หื่นมันบ่นก่อนจะวางผมลง นึกแล้วเชียวคนอย่างมันนี่น่ะเหรอจะห่วงคนอื่นเป็น นี่ถ้าให้เดาที่มันพาผมมาเปิดตัวในงานวันเกิดยัยพลอยเนี่ย มันคงคิดจะใช้ผมเป็นไม้กันหมาสินะ
 
“พะ...พลอย ทำไมเธอถึงได้น่ากลัวขนาดนี้อ่า เอ่อ......ขอบคุณนะฮะที่วินมาช่วยเป้ไว้ ไม่งั้นเป้ต้องแย่แน่ๆเลย” ผมยิ้มตอบแบบใสซื่อทำตาบ้องแบ๊วที่หลายๆคนแม้แต่อิเจ๊มันยังบอกว่าผมยิ้มแบบ นี้แล้วน่ารักสุดติ่งต่างจากยิ้มเพชรฆาตอย่างลิบลับพร้อมกับคว้ามือของมันมา กุมเอาไว้ แอบเห็นมันชะงักไปแค่ครู่เดียวและถ้าผมตาไม่ฝาดเห็นแก้มมันขึ้นสีแดงระเรื่อ ด้วยนะ
 
“ฮึ่ม..... มึงอย่าไปสนใจเลย อยู่ให้ห่างผู้หญิงคนนั้นเป็นพอ แล้วนี่ที่หัวเป็นยังไงบ้างเดี๋ยวกูพาไปให้หมอดูซักหน่อยแล้วกัน”มันกระแอม ขึ้นมาแล้วเสมองไปทางอื่นก่อนจะตอบผม นี่อย่าบอกนะว่าคนอย่างไอ้หื่นนี่มันจะเขินผมจริงๆ
 
“ได้ฮะเป้จะจำไว้  อ๊ะ! มะ...มือถือ มือถือเป้หายไปไหนนะ เอ.....หรือว่าวันจะตกตอนที่โดนพลอยทำร้ายน๊า โอ๊ะ!” ผมตอบมันไปก่อนจะแสร้งทำเป็นคลำหาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงพร้อมทำท่าเป่าลม แก้มพองเอียงคอนิดๆและคิดว่า(คงจะ)น่ารักเหมือนที่ดูนางเอกซีรี่ย์เกาหลี เค้าชอบทำกัน ก่อนจะร้องออกมาเพราะเริ่มเจ็บแผลจี๊ดๆขึ้นมาอีกแล้ว
 
“ช่างมันเถอะน่ะ เดี๋ยวกูซื้อให้ใหม่ก็ได้ รีบๆไปกันเถอะ กูง่วงแล้ว ไหนจะต้องพามึงไปโรง’บาลแล้วกว่าจะถึงห้องอีก” มันบอกก่อนจะลากแขนผมไป
 
“ไม่ได้นะ ในนั้นมีเบอร์คนที่เค้ารู้จักเป้ตั้งเยอะและยังมีข้อมูลอะไรอีกมากมายที่จะ สามารถช่วยให้เป้จำอะไรได้เร็วๆขึ้นด้วยไง” ผมบอกเหตุผลกับมันไปเห็นมันนิ่งเงียบผมเลยรีบพูดขึ้นต่อ
 
“เอาอย่างนี้นะฮะ เดี๋ยวเป้รีบไปหาดูแป๊บเดียวเดี๋ยวมา วินไปนั่งรอเป้ที่รถได้เลย” ผมบอกมันก็จะรีบหันหลังเดินกลับไปทางเดิม ที่จริงแล้วผมไม่ได้ทำโทรศัพท์หายอย่างที่ว่านั่นหรอกครับ ผมก็แค่มาทำตามคติพจน์ประจำตัวของตัวเองก็แค่นั้น
 
 
 
 
 
ใครทำเราเจ็บมันต้องเจ็บยิ่งกว่า
 
และเหมือนโชคจะเข้าข้างที่ทำให้ผมมาได้ยินอะไรดีๆเข้าซะก่อน
“อย่า ให้ชั้นจับได้นะ แม่จะตบมันทั้งสองคนให้ลืมวันลืมคืนไปเลยไอ้ผัวเฮงซวย” ในขณะที่ผมกำลังจะเดินอ้อมกลับไปด้านหลังของผับก็ได้ยินกลุ่มสาว(ประเภท สอง)แต่งตัวเปรี้ยวจัดสองคนส่วนอีกคนเหมือนจะมาแบบรีบๆที่แต่งชุดนอนมาเลย ทั้งสามคนยืนคุยกันเหมือนกำลังตามหาใครอยู่
 
“แกใจเย็นๆก่อนเถอะปอยบางทีชั้นอาจจะตาฝาด เอ่อ....เค้าอาจจะมากับเพื่อนผู้หญิงก็ได้”เพื่อนคนหนึ่งบอกเธอเหมือนพยายาม จะปลอบให้เธอใจเย็น
 
“เพื่อนบ้าอะไรล่ะอีนนนี่แต่งตัวนี่ใบเตยชิดซ้ายแถมยังกอดจูบนัวเนียกันขนาดนั้น อุ๊ปส์!ซอร์รี่ แหะๆ”
 
“หุบปากไปเลยอีเป้ย อย่ามาชักใบให้เรือเสียตอนนี้”คนที่ชื่อนนนี่ด่าเพื่อนที่ดันเผลอหลุดพูด(คาดว่าน่าจะเป็น)ความจริงออกมา
 
“แกคงไม่ได้ตาฝาดหรอกนนนี่ก็รถมันยังจอดอยู่ตรงนั้นแกก็เห็น”
 
หลังจากที่ผมฟังพวกเธอคุยกันแล้วคาดว่าแฟนของคนชื่อปอยแอบมาเที่ยวแล้วดันมา นัวเนียกับสาวจนเพื่อนๆทั้งสองต้องโทรรายงานเพื่อนสาวเจ้าของแฟนหนุ่มคนนั้น แน่ๆ พอสมองผมตกผลึกได้ดังนั้นผมก็เกิดปิ๊งไอเดียเอาคืนยัยพลอยเก๊นั่นโดยไม่ต้อง ลงแรงเองให้เหนื่อย
 
“เอ่อ ขอโทษนะครับ เมื่อกี้ผมได้ยินว่าพวกคุณมาตามหา ผะ....เอ่อ...หาแฟนน่ะครับ”
 
“ใช่ค่ะ มีอะไรรึเปล่าคะ” คนที่ชื่อนนนี่หันมาตอบ
 
“แล้วคนที่คุณหานี่เป็นผู้ชายที่มากับผู้หญิงสวยๆแต่งตัวเปรี้ยวๆหรือเปล่าครับ”
 
“ใช่ค่ะ ผู้ชายหล่อๆใส่เสื้อเชิ้ตสีดำ แต่ผู้หญิงนี่ไม่แน่ใจค่ะเห็นไกลๆ”นนนี่ตอบออกมานั่นโชคยังดีที่เธอจำผู้หญิงไม่ได้
 
“เอ่อ ผมก็ไม่แน่ใจนะครับ แต่เมื่อกี้ผมมาจากข้างหลังผับ ตรงนั้น เห็นผู้ชายแต่งตัวอย่างที่คุณว่ากับผู้หญิงคนนึงสวยๆ รู้สึกผู้หญิงจะชื่อพลอย อะไรเนี่ยแหละครับเผอิญได้ยินผู้ชายเรียกชื่อเธอตอนที่กำลัง เอ่อ.....กำลังนัวเนียแลกลิ้นกันอยู่น่ะครับ นี่ผมยังคิดว่า.........” ผมยังพูดไม่จบคนที่ชื่อปอยก็รีบวิ่งแจ้นไปทางที่ผมบอกซะก่อน
 
“เอ่อ...ขอบ คุณมากนะคะ พวกเราขอตัวไปดูเพื่อนก่อนนะ”นนนี่หันมาตอบก่อนจะรีบวิ่งตามปอยและเป้ยไป ผมมองตามหลังพวกเธอก่อนจะยกยิ้มออกมา ยิ้มที่เพื่อนหรือคนรอบข้างเห็นแล้วมักจะบอกว่าขนลุกเพราะมันน่ากลัวเสียจน พวกมันพากันเรียกมันว่ารอยยิ้มเพชรฆาต
 
“นี่เธอชื่อพลอยใช่มั๊ย”ปอยถามแบบกระชากเสียงพร้อมกับพลอยที่ลุกขึ้นยืนพลางเช็ด น้ำตาและปัดฝุ่นตามเสื้อผ้าของเธอ แต่งานนี้ปอยเธอกำลังโมโหคงไม่ทันสังเกตุว่าพลอยร้องไห้อยู่
 
“ใช่ พวกแกมีอะไรกับชั้นงั้นหรอ เพราะเท่าที่ชั้นจำได้ชั้นไม่เคยรู้จักคนอย่างพวกแก”พลอยใช้หางตามองพวกเธอ ทั้งสามตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนตอบ
 
“งั้นก็คงเป็นแกล่ะสินะ อีผู้หญิงหน้าด้าน แย่งผัวของคนอื่น ไหน ไอ้ผัวเฮงซวยของชั้นมันไปมุดหัวอยู่ที่ไหน” ปอยชี้หน้าด่าพลางมองหาแฟนของเธอ
 
“คนอย่างชั้นนี่นะจะไปแย่งผัวของแก เอาสมองส่วนไหนคิดย่ะ ชั้นไม่คิดจะเอาพวกวิปริตผิดเพศอย่างผัวของแกมาทำพันธุ์ให้เป็นเสนียดชีวิต ของชั้นหรอกนะ”พลอยตอบก่อนจะเบ้ปากใส่พวกเธอทั้งสาม
 
“หนอย!! อีนี่แย่งผัวกูแล้วยังมาว่าพวกกูวิปริตผิดเพศอีกเหรอ ทำไม พวกกูเป็นกระเทยแล้วมันหนักหัวใคร อย่างน้อยก็ไม่ทำตัวหน้าด้านมาถ่างขาให้ผัวคนอื่นเค้าเอาแบบแกหรอก” ปอยตอบพร้อมก้าวเดินเข้าไปหายัยพลอย
 
“นี่...แก จะทำไรชั้น คิดจะหมาหมู่เหรอ ออกไปนะ ช่วย............” พลอยถอยหลังก้าวหนีสามสาวนั่น แต่ยังไม่ทันจะร้องให้คนช่วย ปอยก็ชิงลงมือตบหล่อนซะก่อน
 
 
 
 
เพี๊ยะ!   เพี๊ยะ!   เพี๊ยะ!  เพี๊ยะ!
 
 
 
“มึงอย่าอยู่เลย อีหน้าด้าน”
 
 
 
ผลั่ก!ผลั๊วะ! 
 
 
 
“โอ๊ย กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!”
 
ปอยชี้หน้าด่าพร้อมจะกระโดดถีบพลอยจนล้มลงไปกองกับพื้นก่อนจะเอาเท้ากระทืบปาก ของเธอไปหนึ่งที ส่วนพลอยเธอก็ได้แต่ร้องกรี๊ดๆๆอยู่ที่พื้น
 
“พอเถอะแก เดี๋ยวมันก็ได้ตายกันพอดี ถ้าแกจะสั่งสอนอีนี่ แกก็อย่าลืมนะว่าคนที่ผิดจริงๆมันก็คือผัวของแก เก็บแรงไปลงที่มันจะดีกว่ามั๊ย สะใจกว่าเยอะ” นนนี่กับเป้ยรีบเข้าไปคว้าตัวเพื่อนไว้ก่อนที่ยัยพลอยจะโดนกระทืบซ้ำพร้อม กับเตือนสติของเพื่อน
 
“ชั้นจะเตือนแกแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว และหลังจากนี้ ชั้นหวังว่าแกจะไม่มายุ่งกับผัวของชั้นและอย่าเสนอหน้ามาให้ชั้นเห็นอีกนะ” ปอยด่าเธออีกรอบส่วนพลอยได้แต่นิ่งอึ้งไปทั้งที่หน้าของเธอปูดโปนและเลือด ที่ซึมมออกมาจากปากนิดๆ เธอคงจะคิดว่าประโยคนี้มันคุ้นๆสินะ ก็จะไม่ให้คุ้นได้ยังไงล่ะเพราะเธอเพิ่งจะด่าผมไปนี่นา
 
 
“ชั้นจะเตือนแกแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว และหลังจากนี้ ชั้นหวังว่าแกจะไม่เสนอหน้ามาให้ชั้นเห็นอีกนะ”
 
 
“ไปกันเถอะ ชั้นจะไปรอจัดการไอ้ผัวเจ้าชู้เฮงซวยมันที่ห้อง พวกแกโทรเรียกรถโรง’บาลมารอไว้ได้เลย”
 
ผมรีบเดินออกมาหลังจากที่แอบเดินตามพวกเธอไปดูฉากเด็ดเมื่อกี้ พอเดินไปถึงรถก็โดนไอ้หื่นมันบ่นใหญ่เลยว่าไปนานจนมันบอกว่าถ้าอีกห้านาที ยังไม่มาจะกลับก่อนล่ะ ผมก็ได้แต่แก้ตัวไปว่าที่นานเพราะกว่าจะหามือถือเจอพร้อมโชว์ให้มันดูว่าผม หาเจอแล้วจริงๆ
 
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
พวกคุณอาจจะคิดว่าตอนนี้ทำไมการกระทำของนายกวินอย่างผมมันช่างสวนทางกันกลับ เมื่อสามวันก่อนทั้งๆที่ผมเป็นคนถีบมันตกรถและเป็นคนทำร้ายมันเองแท้ๆ แต่ทำไมตอนนี้ถึงมาทำตัวเป็นองครักษ์ปกป้องเป้มันแบบนี้ จริงๆแล้วที่ทุกอย่างผมทำไปมันก็มีเหตุผลนะ อย่างที่พามันมาเปิดตัวว่าเป็นแฟนกับเพื่อนๆในกลุ่มเพื่อประกาศศักดาว่าคน ที่พวกมันคลั่งไคล้กันจะเป็นจะตาย สุดท้ายผมก็ได้มันมา อาจจะเหมือนว่าผมอยากจะเอาชนะซึ่งมันก็จริง แต่เหนือสิ่งอื่นใดที่ผมพามันมาและบอกกับทุกคนว่ามันเป็นแฟนของผมทั้งๆที่ ตั้งแต่คบกันมาผมไม่เคยแนะนำใครว่าเป็นแฟนผมเลยซักคน ก็เพราะต้องการตัดความรำคาญจากพลอยที่นับวันเธอก็ยิ่งล้ำเส้นมากเกินไป ผมอยากให้เธอหยุดคิดที่จะมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตผมของผมซักที
 
ผมเห็นว่าเป้มันไปเข้าห้องน้ำซะนาน และพลอยก็ยังขอตัวออกไปด้วย ผมจึงรีบตามออกมาดู แล้วก็เป็นจริงอย่างที่คาดไว้ เพราะผมเห็นพลอยเธอกำลังทำร้ายเป้อยู่ จริงๆผมก็ไม่ได้คิดจะใส่ใจหรอกนะ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรก เวลาผมมาเที่ยวแล้วมีสาวๆมาทอดสะพานให้ ต้องมีอันโดนพลอยเธอแอบออกมาจัดการแบบนี้ทุกที แต่เพราะครั้งนี้ผมบอกกับทุกคนไปว่าเป้มันเป็นแฟนผมเลยต้องทำตัวเป็นแฟนที่ ดีเพื่อให้พลอยเธอเชื่อและไม่สงสัยในความสัมพันธ์ของเรา.....
 
“กินยาซะ จะได้นอนกันซักที” ผมเอายาพร้อมแก้วน้ำให้เป้มันกิน ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยทำให้ใครขนาดนี้เลยนะเนี่ย ตอนนี้เราอยู่ที่คอนโดผมแล้วครับ หลังจากที่พาเป้มันไปโรงพยาบาลเพื่อให้หมอทำแผลให้ เป้มันยังมีอาการสั่นและผวากลัวอยู่ตลอดเวลา จนแว่บนึงผมก็รู้สงสารมันขึ้นมาแต่ก็ได้สลัดความคิดบ้าๆนั้นออกไปจากหัว
 
“ขอบคุณนะฮะ” มันรับยาไปกินก่อนจะยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม ไม่รู้ว่าตอนนี้มันรีบหรือจงใจจะยั่วผมกันแน่ที่มันทำน้ำหกไหลออกมาจากปาก ไล่มาจนถึงคอขาวๆของมัน ผมเห็นดังนั้นก็แทบทนไม่ไหวเพราะครั้งล่าสุดที่ผมได้ปลดปล่อยก็เมื่อสองวัน ก่อนที่ผมไปเฝ้ามันแล้วได้มีอะไรกับนางพยาบาลที่เอายามาเช็คน้ำเกลือตอนดึก ในห้องน้ำ โดยที่เป้มันหลับอยู่
 
“ฝันดีฮะ ทะ...ที่รัก”เป้มันกินยาเสร็จก็หันมาพูดกับผม ก่อนจะรีบล้มตัวลงนอนเอาผ้าคลุมโปงหลังจากพูดจบ เดี๋ยวนะ เมื่อกี้ถ้าผมได้ยินไม่ผิดมันพูดว่าที่รักใช่มั๊ย? ไอ้บ้าเอ๊ย! พูด อะไรของมันก็ไม่รู้ แล้วทำไมใจกูต้องเต้นแรงด้วยวะเนี่ย ผมหันไปมองมันที่นอนคลุมโปงอีกครั้ง อะไรวะมายั่วให้อยากแล้วจากไปแบบนี้นี่นะ ผมได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาๆด้วยความเซ็งก่อนจะลุกขึ้นไปปิดไฟ เอาวะแค่คืนเดียวปล่อยมันไปก่อนก็ได้ นี่เห็นว่าดึกแล้วนะซ้ำมันยังโดนทำร้ายมาขนาดนี้อีกเอาไว้พรุ่งนี้ค่อยรวบ ยอดทีเดียวล่ะกัน หึหึ
 
“อ๊ะ! เอ่อ ปะ...ปล่อยได้มั๊ยฮะ มันอึดอัด” พอล้มตัวลงนอนผมก็มุดเข้าผ้าห่มแล้วรวบตัวมันมากอดเอาไว้มันได้แต่ดิ้นไปมาก่อนจะบอกให้ผมปล่อย
 
“นอนเฉยๆไปเหอะน่า อย่าเรื่องมาก รำคาญ” ผมพูดกับมันออกไปติดเสียงห้วนนิดๆให้มันเข้าใจว่าผมรำคาญจริงๆ ก่อนที่มันจะหยุดดิ้นแล้วเงียบไป ผมได้แต่ซุกหน้าไปที่ต้นคอของมัน ทำไมมันหอมอย่างนี้วะเนี่ย เชี่ยเอ๊ย! นี่คืนนี้กูต้องพึ่งแม่นางทั้งห้าจริงๆเหรอวะ...หลังจากเสร็จกิจในห้องน้ำผมก็กลับมานอน พอหลับไปได้ซักพักก็ได้ยินเสียงจากคนข้างๆจนสะดุ้งตื่นขึ้นมา
 
 
 
“ไม่ อย่าเค้ามานะ ฮึก...อย่าทำผมเลย ฮือ”
 
 
 
“เฮ้ย!เป้ ตื่นๆ เป็นอะไรวะเนี่ย”ผมพยายามปลุกมันแต่มันก็ยังไม่ยอมตื่นซักที
 
 
“อย่า.... อย่าทำ....มันเจ็บ...ฮึก.....เอามันออกไป.....ฮือ”มันพูดทั้งที่ยังหลับอยู่ พร้อมทั้งสะอื้นร้องไห้และดิ้นออกจากแขนของผมที่กอดมันอยู่ซ้ำมือมันยังปัด ป่ายไปมา
 
 
“อย่าทำ...อย่าเอามันเข้ามา”
 
 
“อย่าข่มขืนผมเลย ผมกลัวแล้ว ได้โปรด......ฮึก..สงสารผมเถอะนะ....ฮือ”พอได้ยินประโยคนี้แล้วผมรู้สึก เหมือนโดนตบหน้าไปเลย นี่มันฝังใจกับสิ่งที่ผมทำกับมันไปขนาดต้องนอนฝันร้ายทั้งๆที่ความจำเสื่อม แบบนี้เลยเหรอเนี่ย ทั้งๆที่มันก็น่าจะผ่านเรื่องพวกนี้มาไม่รู้ตั้งเท่าไหร่จากที่ผมได้ยินเค้า ลือกันมาน่ะนะ มันยังคงพึมพำปนเสียงสะอื้นทำให้ผมรู้สึกใจหายแปลกๆ รู้ตัวอีกทีผมก็คว้าเอาตัวมันเข้ามากอดปลอบพร้อมลูบหลังให้มันอยู่นานกว่า มันจะสงบลงได้ เล่นเอาเมื่อยแขนไปหมดเลย แต่ไม่เป็นไรเพราะพรุ่งนี้ผมจะเอาคืนมันบ้างให้มันร้องครางใต้ร่างผมจน เหนื่อยไปทั้งตัวเลยคอยดู และที่สำคัญมันจะได้ชินกับลีลารักของผมจะได้ไม่ต้องมานอนผวาให้ผมรำคาญต้อง ตื่นมากลางดึกแบบนี้อีก
 
 
 
 
 
และหากกวินก้มลงมามองหน้าของปรมิณทร์ที่ซุกอยู่กับอกของตัวเองซักนิดคงจะเห็นใบ หน้าเปื้อนคราบน้ำตาที่แฝงไปด้วยรอยยิ้มร้ายที่มุมปากทั้งที่ยังหลับตาใต้ อ้อมกอดของกวินอยู่
 
 
- - - - - TBC - - - - -
ไม่รู้ว่าจะแซ่บถูกใจกันบ้างรึป่าว ขอบอกเลยว่านี่แค่น้ำจิ้มเพราะว่าเป้นางจะทวีความร้ายกาจขึ้นเรื่อยๆ ส่วนกวินตอนนี้เหมือนจะซอล์ฟลงเพราะกำลังเริ่มสับสนแต่มันก็ยังคงความเลวขึ้นเรื่อยๆอยู่ดีเพียงแต่ไต่ระดับไม่ทันความร้ายกาจของเป้ก็เท่านั้น ฮ่าๆๆๆ (หัวเราะแบบสะใจ)ขอบอกนะครับว่าสำหรับเรื่องนี้น่าจะกลางๆเรื่องนู่นถึงจะได้รู้ว่าใครกันแน่คือตัวจริงของเป้ซึ่งอาจทำให้หลายคนผิดหวังที่อุตส่าห์เชียร์อีกคนแต่หลายคนคงลุกขึ้นเฮกันใหญ่ที่เป้ได้คู่กับคนๆนี้บอกได้เท่านี้แหละครับไม่อยากสปอยล์เยอะ อิๆๆ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา