ตำนานรักแห่งสายลม

9.0

เขียนโดย นิกซ์

วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 23.38 น.

  34 ตอน
  13 วิจารณ์
  38.41K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 20.00 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

9) บทที่ 8 พายเรือเล่นท่ามกลางแสงจันทร์1

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ทางด้านอาเรนเทียที่ตอนนี้มาถึงบ้านของวินเนียสที่อยู่ที่ท่าเรือของเฮลเทียเธอถึงได้รู้ว่าที่วินเนียสผิวเข้มขนาดนี้ก็เพราะแดดแรงมาก บ้านของวินเนียสเป็นบ้านไม้สองชั้นหลังเล็กที่เรียบง่าย หนุ่มผิวเข้มเปิดประตูแล้วเดินนำเข้าไป"แม่จ๋าข้ากลับมาแล้ว"
เมื่อทั้งสามเข้าไปในบ้านอาเรนเทียถอดเสื้อคลุมไปแขวนที่ไม้แขวน เซตหันมาถามเด็กสาวด้วยความเป็นห่วง"เจ้าเป็นยังไงบ้าง หน้าเจ้าดูแดงๆนะ"ร่างสูงเข้ามาใกล้พลางเอามือแตะที่หน้าผาก"ตัวร้อนนิดๆนะ"
เด็กสาวได้เห็นใบหน้าของร่างสูงเด่นชัดมากขึ้น เขาดูหล่อเหลาคมคายเมื่อใบหน้าของทั้งเข้าใกล้มากเกินทำให้เด็กสาวต้องผงะออกเล็กน้อยก่อนจะตอบ"ข้าไม่ค่อยชินกับอากาศร้อนน่ะที่บ้านข้าอยู่ทางเหนือของคาลาสอากาศที่นั่นออกจะหนาวนิดๆน่ะ"
เจ้าชายหนุ่มพยักหน้าอย่างเข้าใจเพราะผิวของเด็กสาวผู้ใช้มนตราคนนี้ค่อนข้างขาวเนียนสวยราวกับหิมะขาวถึงแม้จะเป้นผู้ใช้มนตราแต่ดูเผินๆแล้วก็เป็นเพียงเด็กสาวคนหนึ่งก็เท่านั้น วินเนียสมองกิริยาของคนทั้งคู่แล้วอมยิ้ม
"อ้าว วินเนียสกลับมาแล้วรึ"เสียงของหญิงวัยกลางคนดังขึ้นทำให้ทั้งสามหันมามอง สตรีวัยกลางคนในชุดกระโปรงผ้าฝ้ายสีทรายยาวกรอมเท้า ใบหน้านั้นซีดเซียวผมสีน้ำตาลม้วนเป็นมวยต่ำตาสีเดียวกันนั้นมองมาทั่่ทั้งสามอย่างเอ็นดู
วินเนียสเข้าไปสวมกอดผู้เป็นแม่อย่างคิดถึงแล้วคลายอ้อมกอด"วันนี้ข้าหยุดน่ะครับแล้วนี่ เทียข้าหลวงคนใหม่ เอ่อพอดีนางพลัลหลงกับครอบครัวน่ะครับ"
สตรีวัยกลางคนพยักหน้ารับก่อนจะถาม"แล้วแม่หนูมาจากไหนรึ"
สองหนุ่มชะงักทันที อาเรนเทียนึกขึ้นได้จึงตอบไป"หนูมาจากพีเรนเชียค่ะ"
"เหรอจ๊ะ ฉันเวนดี้นะ มาจากพีเรนเชียเหรอก็อยู่ทางเหนือของเฮลเทียเองพ่อแม่ของหนูคงเป็นพ่อค้าล่ะสินะ"เวนดี้ยิ้มให้
เด็กสาวพยักหน้า สองหนุ่มรูสึกโล่งอก เวนดี้พูดขึ้น"วันนี้ท่านเซตลี้ภัยอีกแล้วใช่ไหมเพคะ"
เจ้าชายหนุ่มหัวเราะแก้เขิน"ท่านเดาถูกแล้วล่ะ"
หญิงสูงวัยยิ้มเพราะเข้าดีว่าถ้าเจ้าชายเซตจะมาที่บ้านของตนนั้นส่วนมากจะมาลี้ภัยหลบพระคู่หมั้น จึงไม่แปลกที่ทั้งวินเนียสและตัวเธอเองนั้นจะคุ้นเคยกับเจ้าชายหนุ่มผู้นี้"ตามสบายนะค่ะเดี๋ยว ข้าจะไปนอนพักเสียหน่อย"ว่าแล้วเวนดี้ก็ขึ้นชั้นสองไปพักผ่อน
วินเนียสมองผู้เป็นแม่ด้วยสายตาอ่อนใจ"แม่ข้าไม่ค่อยสบายน่ะนะ"
อาเรนเทียพยักหน้ารับ เซตตรงไปยังโซฟาแล้วล้มตัวนอน"ข้าขอพักเสียหน่อยนะเย็นๆช่วยปลุกข้าด้วยล่ะวินเนียส"
"ได้ พ่ะย่ะค่ะเจ้าชาย"พอวินเนียสรับคำเจ้าชายแห่งเฮลเทียก็หลับตานอน วินเนียสจูงมือเด็กสาวพาไปที่หลังบ้าน
เมื่อถึงหลังบ้านมีโต็ะหินอ่อนและม้านั่งทั้งคู่นั่งลง วินเนียสเป็นฝ่ายพูดก่อน"เรื่องที่ปราสาทที่อยู่แถวอุทยานนั่นน่ะคือตำหนักของเจ้าหญิงเซร่า พี่สาวของท่านเซต เมื่อสามปีก่อนเมื่อแม่นมไปปลุกตามปกติก็พบว่าเจ้าหญิงเซร่าสลบอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้งแล้วทางราชสำนักเองก็พยายามหาหมอมารักษารวมถึงผู้ใช้มนตราแต่ก็ไม่ได้ผล"
อาเรนเทียกอดอก"เพราะอย่างงี้เจ้าหญิงเซร่าจึงหลับไหลมาถึงสามปีสินะ"
องครักษ์หนุ่มผิวเข้มพยักหน้าก่อนจะถาม"เจ้าพอช่วยได้รึไม่"
เจ้าหญิงแห่งคาลาสครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง"ขอให้ข้าได้ดูอาการของเจ้าหญิงได้ไหมล่ะ จะได้แก้ถูกทางอีกอย่างท่านอย่าลืมนะว่าข้าไม่สามารถใช้เวทย์ย้ายสถานที่ไม่ได้นะ"
หนุ่มผิวเข้มแสนจะเซ็ง"ไว้หาทางอื่นละกันนะถ้าไปบอกท่านเซตตรงๆท่านไม่ยอมสถานเดียว"
เจ้าหญิงแห่งคาลาสพอเข้าใจว่าผู้เป็นนายขององครักษ์ผิวเข้มคนนี้คงพยายามหาคนมารักษาหลายคนจนตัวเองหมดหวัง
วินเนียสถามเสียงแผ่ว"ว่าแต่เจ้ารู้จักอาณาจักรพีเรนเชียได้ยังไงรึ"
เด็กสาวตอบเสียงใส"ก็อาณาจักรนี้เคยทำการค้ากับคาลาสน่ะสิ"ใช่นางจำได้อาณาจักรแห่งนี้จะค้าขายพวกเครื่องปั้นงานฝีมือทางอาณาจักรพีเรนเชียเองก็เคยส่งบรรณาการมาเป็นพวกถ้วยโถโอชามที่เคลือบสีสวยและลวดลายงดงามมากตอนนั้นท่านแม่ของนางราชินีทีเรนเซียโปรดมาก
วินเนียสพยักหน้าก่อนจะพูดขึ้น"เป็นเรื่องจริงสินะ พอดีข้าได้ยินมาบ้างว่าพ่อค้าที่พีเรนเชียเริ่มไปทำการค้ากับผู้ใช้มนตราเห็นว่าได้กำไรมากมายดูท่าจะเป็นจริงแฮะ"
อาเรนเทียหันซ้ายแลขวา"ว่าแต่พ่อของท่านล่ะข้าไม่เห็นเลย"
วินเนียสเอ่ยเสียงเรียบๆ"พ่อของข้าน่ะเสียชีวิตตั้งนานแล้ว"เด็กสาวตกใจหากเเต่เธอปล่อยให้ชายหนุ่มพูดต่อ"พ่อของข้าน่ะเป็นทหารที่เสียชีวิตในสงครามแต่นั่นก็ทำให้ข้าได้มีโอกาสเรียนที่โรงเรียนทหารและเจอท่านเซตและเป็นเพื่อนกันตอนนั้นข้าก็สอบเข้าเป็นองครักษ์ชีวิตที่บ้านของข้าเองก็ค่อยดีขึ้น"
เด็กสาวปลอบ"ท่านเนี่ยเข้มแข็งเสียจริงนะ"
หนุ่มผิวเข้มยิ้มรับ"แน่นอน เพราะพ่อของข้าไม่ได้จากไปไหนแต่ยังอยู่ในใจของข้าเสมอและตลอดไป"
อาเรนร่ายคาถาสั้นๆแล้วเธอก็แบมือออกมาก็มีขวดแก้วเจียระไนใบเล็กบรรจุของเหลวสีอำพัน"ข้าให้"
หนุ่มผิวเข้มเลิกคิ้ว"อะไรรึ"
เด็กสาวยิ้มรับ"ยาบำรุงน่ะเอาไปผสมในน้ำชาให้แม่ท่านดื่มเถอะสามสี่วันอาการก็ดีขึ้น"
หนุ่มผิวเข้มรู้สึกระเเวงอาเรนเทียเดาได้ว่าอีกฝ่ายไม่ไว้ใจ"เอาไปเถอะยานี่ข้าพกไว้เพื่อรักษาตัวพอดีข้าชอบออกไปขี่ม้าแล้วต้องเจอพวกก๊อบลินลอบทำร้ายบางครั้งข้าก็บาดเจ็บบ้างแต่แค่กินยานี่แผลก็ค่อยๆสมานและก็ดีขึ้นนะเชื่อข้าเถอะ"
วินเนียสรับยามา"ขอบคุณ"
เมื่อหนุ่มผิวเข้มรับยาแล้วเด็กสาวจึงถามต่อ"ไม่เป็นไรหรอกท่านคงมาเป็นองครักษ์เพื่อจุนเจือครอบครัวด้วยสินะ"
หนุ่มผิวเข้มพยักหน้า"ข้าขอลองกินดูสักนิดจะได้ไหมล่ะเทีย"
เด็กสาวหัวเราะเบาๆ"ตามสบายเลยแต่นิดหน่อยพอนะเดี๋ยวพละกำลังของท่านจะมากผิดคนปกติ"
วินเนียสเปิดขวดแก้วแล้วจิบยาสีอำพันผลปรากฏว่าอาการเหนื่อยล้านั้นหายไปหมดรู้สึกสดชื่นมากและรสยานั้นไม่ขมและที่สำคัญคือเขาไม่รู้รสของยาเลยสักนิด
อาเรนเทียยิ้มให้"เป็นไงล่ะ"
ชายหนุ่มรู้สึกกระชุ่มกระชวยคลายจากความเมื่อยล้า"ข้าว่ายานี่ควรให้ท่านเซตดื่มด้วยน่าจะดีนะเพราะท่านเซตเองก็เหนื่อยจากการนั่งโต๊ะชำระเอกสารไหนวันนี้จะโดนพระคู่หมั้นกอดคอจนหายใจไม่ออกอีกนะ"
เด็กสาวพยักหน้า"ได้สิแต่นิดเดียวพอนะเดี๋ยวท่านเซตจะมีกำลังเกินเหตุ"ใช่นั่นเป็นยาบำรุงฟื้นกำลังนางและพี่ชายมักจะกินเพื่อคลายความเหนื่อยล้าและก็จริงที่นางเคยโดนพวกก๊อบลินลอบทำร้ายขณะที่นางกำลังขี่ม้ากับท่านพี่อาเรสที่โคเทียตอนนั้นทำให้นางบาดเจ็บที่แขนซ้ายดีที่มียาตัวนี่เมื่อกินเข้าไปแล้วแผลค่อยๆสมานและหายไปจนเหมือนกับไม่เกิดแผลเลย อาเรนเทียเสริมเล็กน้อย"แต่ยานี่ไม่สามารถถอนคำสาปอะไรได้นะ"
วินเนียสจ๋อยทันที"จริงเหรอ"
เด็กสาวพยักหน้า"ใช่นั่นเป็นยาที่ไว้ใช้บำรุงร่างกายฟื้นตัวเท่านั้นแหละ"
ยามบ่ายวินเนียสปล่อยให้เด็กสาวนั่งเล่นอยู่หลังบ้านส่วนตนเข้าครัวไปเครียมน้ำชาและของว่างยามบ่ายสายลมเย็นๆได้พัดมาผมสั้นสีน้ำเงินพริ้วไปตามแรงลมกลิ่นของทะเลโชยมา เธอเองก็ไม่ค่อยชอบอากาศร้อนนักแต่ตอนนี้อากาศช่างเย็นสบายเหลือเกิน ตอนนี้เธอคิดถึงบ้านเกิด คาลาสนั้นมีปราสาทสองแห่ง แห่งหนึ่งอยู่ทางใต้ที่ติดทะเลอีกฝั่งคือทางเหนือที่ติดภูเขาน้ำแข็งเธอจึงเลือกที่จะอยู่กับพี่ชายทางเหนือแทนที่จะอยู่กับพระบิดาและพระมารดาทางใต้ตั้งแต่หกขวบเพราะตัวเธอไม่ค่อยถูกกับอากาศร้อนเลย ปราสาททางเหนือที่หนาวเย็นแม้แต่เป็นเวลาเที่ยงก็ตามแสงแดดนั้นไม่อาจทำให้ความร้อนมากขึ้น
"เข้ามานั่งในบ้านเถอะเทียเดี๋ยวก็เป็นลมหรอก"เสียงของเซตดังขี้น
อาเรนเทียหันไปก็เห็นเซตในสภาพงัวเงียผมสีทองปนน้ำตาลไหม้นั้นยุ่งเหยิง สภาพนั้นทำให้เด็กสาวขำ
เซตถามเสียงขุ่น"หน้าข้าตลกมากรึ"
เด็กสาวพยักหน้ารับ"ใช่ ท่านไปล้างหน้าหวีผมให้เรียบร้อยก่อนเถอะนะ ฮิๆ"
เจ้าชายแห่งเฮลเทียหันกลับไปทำตามที่เด็กสาวบอก ส่วนตัวเธอเองก็เดินลับเข้าไปในบ้านไปเช่นกัน
ภายในห้องนั่งเล่นวินเนียสออกมาพร้อมถาดใส่ถ้วยชาและขนมที่ส่งกลิ่นหอมจนเจ้าหญิงแห่งคาลาสต้องออกปากชม"กลิ่นหอมจังวินเนียส นี่่ท่านเป็นองครักษ์หรือคนทำขนมกันรึ"
องครักษ์ผิวเข้มวางถาดใส่น้ำชาและขนมลงบนโต๊ะเตี้ย"ไม่หรอกนี่แค่งานอดิเรกเล็กๆน้อยๆน่ะ"
ทั้งสามนั่งจิบชา เซตนั้นพอจิบชาแล้วก็รู้สึกกระชุ่มกระชวยอย่างประหลาดอาการเหนื่อยล้าจากการนั่งโต๊ะนั้นหายไป"เจ้าใส่อะไรลงไปในชารึวินเนียส"
วินเนียสยกชาขึ้นจิบ"ยาของเทีย เป็นไงได้ผลดีใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ"
เจ้าชายแห่งเฮลเทียหัวเราะเบาๆก่อนจะหันไปสนทนากับเด็กสาวที่กินขนมปัง"เทีย ข้ามีเรื่องจะถามเจ้าหน่อย"
เด็กสาวตอบทั้งๆที่ขนมเต็มปาก"อะไออ้อเอ้าอาย(แปลได้ว่า:อะไรเหรอเจ้าชาย)"
คนถามต้องหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดมุมปากให้เด็กสาวที่กินจนขนมเลอะ"จริงๆเลยเจ้าทำตัวเป็นเด็กไปได้"
อาเรนเทียหน้าขึ้นสีเพราะอายก่อนจะปัดมือของอีกฝ่าย"ไม่ต้องหรอกข้าเช็ดเอง"หากแต่
"ข้าเช็ดออกหมดแล้วล่ะ เรื่องที่ข้าจะถามก็คือทำไมเจ้าถึงไว้ผมสั้นล่ะ"โดยส่วนตัวนั้นเซตเองก็ข้องใจเพราะเท่าที่เขาเจอผู้หญิงมามากมายนั้นส่วนมากจะไว้ผมยาวน้อยคนนักจะไว้ผมสั้น
อาเรนเทียจับเส้นผมสีน้ำเงินเข้ม"ข้ารำคาญน่ะมันไม่คล่องตัวด้วย"เธอนึกถึงสมัยก่อนเมื่อเจ็ดปีก่อนตอนที่เธอยังไว้ผมยาวจนถึงเอวแม่นมของเธอมักจะมาปลุกให้ตื่นนอนทุกเช้าแล้วพาไปอาบน้ำแต่งตัวและหวีผมซึ่งใช้เวลานานมากมันทำให้เธอเสียเวลาตอนนั้นเธอจึงตัดสินใจที่จะตัดผมที่ยาวออกตอนนั้นทั้งท่านแม่และแม่นมค้านเสียงเเข็งหากแต่ท่านพ่อของนางนั้นอนุญาติเพราะว่าอยากให้เธอตัดสินใจด้วยตนเองตั้งแต่นั้นเธอจึงไว้ผมสั้นปะบ่าเท่านั้น
"วินเนียสเจ้าช่วยไปจ่ายตลาดให้แม่ที"เสียงของเวนดี้ดังขึ้นทำให้อาเรนเทียได้สติ
วินเนียสหันไปขานรับ"ได้ครับ"
"ข้าไปด้วยนะวินเนียสนะๆ"อาเรนเทียออดอ้อนหนุ่มผิวเข้มเซตแย้งขึ้น
"ตอนนี้ยังร้อนอยู่เดี๋ยวเจ้าออกไปเดินตลาดเดี๋ยวเป็นลมหรอกเทียอยู่นี่แหละ"
เด็กสาวแก้มป่องเพราะงอล
วินเนียสจึงปลอบใจ"เอาน่าเทียเดี๋ยวเย็นนี้ท่านเซตจะพาเจ้าไปนั่งเรือเล่นดีไหม"
อาเรนเทียมองเซตอย่างแปลกใจผิดกับเซตที่มองหน้าองครักษ์ตนอย่างไม่พอใจ วินเนียสเข้าไปกระซิบข้างหูของผู้เป็นนาย"ถือซะว่าเป็นการตอบเเทนเรื่องยาที่นางให้ท่านดื่มก็แล้วกันนะท่านเซต"
เซตกระซิบกลับ"ก็ได้รอบนี้ข้ายอมเจ้า"
วินเนียสละออกไปซื้อของ ทิ้งให้แม่เจ้าชายแห่งเฮลเทียและเด็กสาวผู้ใช้มนตราอยู่กันเอง
"ขอบคุณนะ"เสียงหวานพูดขึ้น
เซตเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะถาม"เรื่องอะไรรึ"
เด็กสาวยกชาขึ้นจิบก่อนจะบอก"เรื่องที่ท่านจะพาข้าไปนั่งเรือเล่นไง"แล้วเด็กสาวก็เอ่ยเสียงแผ่วให้ได้ยินกันแค่สองคน"ข้าน่ะไม่เคยนั่งเรือมาก่อนนะบอกตามตรง"
เซตเอนหลังบนโซฟาอย่างสบายๆ"คาลาสจะไปไหนมาไหนก็คงใช้เวทย์ย้ายสถานที่กันล่ะสิ"
เด็กสาวพยักหน้าแล้วเสริม"ที่จริงพวกเชื้อพระวงค์เวลาจะไปไหนมาไหนอย่างเป็นทางการก็จะนั่งรถเทียมเปกาซัสกันน่ะนะ"
"จริงเหรอ"
เด็กสาวพยักหน้ารับ"อืม"ใช่ทำไมจะไม่รู้ก็เพราะว่าเธอเป็นเจ้าหญิงนี่นาทุกครั้งที่จะไปไหนอย่างเป็นทางการก็จะนั่งรถเทียมเปกาซัสไปทุกครั้ง อาเรนเทียตัดสินใจถามอีกฝ่ายตรงๆ"พี่สาวท่านป่วยด้วยโรคอะไรเหรอ"
คำถามนั้นทำเอาเซตสะอึก"เจ้ารู้ได้ยังไง สงสัยวินเนียสผู้หวังดีอีกล่ะสิ ยุ่งไม่เข้าเรื่อง"
อาเรนเทียเอ่ยเสียงอ่อน"ข้าขอดูอาการพี่สาวของท่านหน่อยได้ไหม"
เซตตัดบทสนทนา"ไว้ครั้งหน้าเถอะ"แล้วหยิบขนมเข้าปากอาเรนเทียจึงทำได้แต่เพียงกินขนมดื่มชาอย่างเงียบๆเท่านั้น เจ้าหญิงแห่งคาลาสสังเกตุเห็นว่าจริงๆบุคลิกของร่างสูงที่กำลังดื่มชาอยู่นั้นเธอรู้ทันทีเลยว่าเขาไม่ได้เฉยชามาตั้งแต่แรกคงเป็นเพราะเรื่องของพี่สาวที่ทำให้เขาทุกข์ใจเป็นอย่างมาก
เซตนั้นลอบสังเกตุเด็กสาวผู้ใช้มนตราเป็นระยะๆนางเป็นคนสวย สวยแบบมองเท่าไหรก็ไม่เบื่อ น้อยครั้งนักที่เขาจะชมผู้หญิง ถ้าหากเอาคู่หมั้นของตนกับเด็กสาวจากแดนมนตรามาเปรียบกันต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าเทียสวยกว่า ทำไมเธอต้องมาสนเรื่องของเขาด้วยเขาไม่เข้าใจเธอเลย เขาไม่เคยเชื่อใครเลยเพราะหาคนรักษามามากมายร่วมสามปีจนเขาทำได้แต่เพียงภาวนาต่อพระเจ้าให้เกิดปาฏิหาริย์กับพี่สาวเท่านั้น
เวลาผ่านไปนานเสียจนอาเรนเทียต้องนอนหลับบนโซฟา เซตเห็นอย่างนั้นจึงช้อนขาของเด็กสาววางลงบนโซฟาให้นอนเหยียดขาได้สบายแล้วจับศรีษะของร่างบอบบางเล็กหนุนหมอนแล้วกลับมานั่งที่ตน เขามองเด็กสาวที่นอนหลับปุ๋ยช่างดูน่ารักและไร้เดียงสาริมฝีปากสีกุหลาบจิ้มลิ้มน่าจูบ...น่าจูบ...นี่เขาคิดอะไรกับเธอ ตัวเขาเองก็มีคู่หมั้นอยู่แล้วถึงแม้จะไม่เต็มใจหมั้นก็ตามที
ตลอดเวลาที่เด็กสาวหลับบนโซฟา เขานั้นทำได้แต่นั่งมองร่างบอบบางที่หลับสนิทแทนที่จะอ่านหนังสือ
ไม่นาน
"กลับมาแล้ว"วินเนียสเดินเข้าบ้านโดยที่ในมือถือของมามากมาย หนุ่มผิวเข้มเอาของที่ซื้อมาวางบนโต๊ะ เขามองมาที่เด็กสาวผู้ใช้มนตราที่หลับบนโซฟาเขามองอย่างเอ็นดูนางช่างเหมือนลูกแมวน้อยจริงๆ"ท่านเซต ข้าเตรียมเรือสำหรับท่านแล้วนะ"
"ขอบใจวินเนียส"เขาเอ่ยหากแต่สายตาของเขานั้นจ้องมองที่หนังสือเล่มเล็กในมือ หนุ่มผิวเข้มมานั่งข้างๆผู้เป็นนาย"ท่านว่าตอนเทียหลับนั้นน่ารักไหม"
หากแต่อีกฝ่ายกลับตอบเสียงเรียบ"ก็เฉยๆนะ"
วินเนียสเลิกคิ้ว"จริงรึ"
"จริง"
องครักษ์หนุ่มยิ้ม"อย่ามาโกหกข้าหน่อยเลยท่านเซตโกหกใครก็โกหกได้แต่โกหกความรู้สึกตัวเองมันไม่ดีเลยนะท่านเองก็รู้ดีนิ"
เมื่อเจอคนสนิทพูดแบบนี้ทำเอาใบหน้าหล่อเหลาขึ้นสี"ข้าไม่ได้โกหกอะไรนะ"
วินเนียสแหย่"จริงรึ"
เซตโต้กลับ"จริง!"เสียงของเซตทำเอาร่างบอบบางที่หลับอยู่ตื่นขึ้น เด็กสาวหาวพร้อมบิดขี้เกียจสองสามทีแล้วถาม"เอะอะอะไรกันเหรอเสียงดังเชียว"
สองหนุ่มนั่งนิ่ง วินเนียสชวน"เจ้าอยากลองเข้าครัวดูมั้ย"
เด็กสาวพยักหน้า"อื้อ อยากสิ"ว่าแล้วเด็กสาวก็เดินตามหนุ่มผิวเข้มไปในครัวในขณะที่เจ้าชายแห่งเฮลเทียมองไปที่วินเนียสอย่างไม่ค่อยพอใจซักเท่าไหร่

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา