ไอ้หน้าหวานกับประธานสุดโหด
10.0
เขียนโดย crystal_on
วันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 16.24 น.
5 บท
2 วิจารณ์
9,428 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 16.40 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) Tee part
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ผมธีร์ หรือ นายธีรพัฒน์ วัฒนกิจ เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาเครื่องกลครับ มีดีกรีเป็นประธานนักศึกษาของปีนี้พ่วงท้ายแบบจำยอม ใครๆก็เรียกผมว่าไอ้หน้าโหด อาจเป็นเพราะด้วยบุคลิกภายนอกของผมทำให้หลายคนคิดว่าผมโหดรวมทั้งไอ้หนุ่มหน้าหวานคนนั้นด้วย ที่จริงแล้วผมไม่ได้โหดอะไรเลยครับ ออกจะนิสัยดีเข้ากับคนอื่นได้ง่ายด้วยซ้ำ (จริงหรือ) ผมมีเพื่อนสนิทที่สุดอยู่ 3 คน คือ ไอ้กิจ ไอ้มิน และไอ้โจ้ คนหลังนี้สนิทสุดครับ คุยกันได้ทุกเรื่อง โจ้มันเป็นคนอัธยาศัยดี โดยเฉพาะกับสาวๆ และที่สำคัญมันสนิทกับแยมหรือน้องแย้มของผม
คงรู้จักแยมกันแล้วนะครับ ส่วนชื่อน้องแย้มผมเป็นคนตั้งให้เองครับ จดลิขสิทธิ์แล้วด้วย เพราะฉะนั้นผมเรียกได้คนเดียว(ไม่หล่อแล้วยังงก) ผมกับแยมเราเริ่มต้นกันไม่ค่อยดีนัก เพราะผมดันปากเปราะไปแซวว่ามันเป็นตุ๊ดเข้า เลยโดนหมัดสอยหน้าเข้าทีนึง หลังจากนั้นก็ไม่ได้เรียกตุ๊ดอีก ไม่ใช่กลัวแต่เพราะรู้ว่ามันคงไม่ชอบจริงๆ ขืนแซวเยอะผมกลัวว่าจะกลายเป็นเสียเพื่อนแล้วมีเรื่องหมางใจกันไปเปล่า ผมเลยเรียกน้องแย้มแทนครับ เห็นหน้ามันหวานๆ ตาโตๆ นี่ถ้าใส่วิกคงสวยกว่าผู้หญิงหลายคนแน่ ส่วนที่โดนต่อยไม่เจ็บหรอกครับมันตัวเล็กกว่า ผอมกว่าผมเยอะ แถมแรงยังน้อยอีก
2 ปีที่ผ่านมาในมหาลัยชีวิตผมเรียบง่ายมาตลอดครับ ไม่ค่อยมีอะไรหวือหวาเท่าไหร่ จะมีเรื่องชกต่อยบ้างก็นิดหน่อยตามประสาผู้ชายวิศวะ (เกี่ยวกันไหม) แต่ปีนี้ถือได้ว่าเป็นการพลิกบทบาทของผมเป็นอย่างมาก เพราะผมดันชนะการเลือกตั้งประธานนักศึกษา เลยต้องรับหน้าที่นี้ไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
หลังจากนับคะแนนเลือกตั้งเสร็จ พวกเพื่อนๆสาขาผมรวมตัวกันเลี้ยงฉลองใหญ่ แอลกอฮอล์ครบครันเรียกได้ว่าไม่เมาไม่เลิก วันนั้นผมเลยถือโอกาสกินเต็มที่ครับ เงินก็ไม่ต้องจ่ายเอง ย้อมใจสักหน่อยเพราะเมื่อถึงเวลาที่ผมต้องรับตำแหน่งเต็มตัวเมื่อไหร่โอกาสเมาปลิ้นแบบนี้หายากแน่ๆ เพราะคงต้องรักษาภาพพจน์กันสักนิด
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา จริงครับเพราะพวกผมเมาปลิ้นกันแล้ว มีไม่กี่คนที่ยังไม่เมาก็พวกที่ต้องคอยหามพวกที่เมาไปส่งห้อง ซึ่งคนที่รับหน้าที่หามผมก็คือ ไอ้กิจกับไอ้มิน ส่วนไอ้โจ้หายหัวไปตั้งแต่กลางงานแล้วครับ มันบอกว่าจะกลับไปคอนโดเก็บห้องให้เรียบร้อยก่อน เพราะผมดันหากุญแจห้องตัวเองไม่เจอ ไม่รู้ลืมไว้ที่ไหน เมาแล้วขี้เกียจหา และผมก็ไปถึงห้องไอ้โจ้ด้วยวิธีใดก็ไม่อาจทราบได้ เพราะผมดื่มแบบจัดหนักมาก
เขาบอกว่าคนเมาไม่รู้เรื่องมักเพ้อหรือเห็นภาพหลอน ท่าจะจริงครับ สติที่เหลืออันน้อยนิดของผมร้องบอกว่าตรงหน้าผมมีนางฟ้าลอยอยู่ จะผิดไหมถ้าผมจะขอจูบนางฟ้า
จุ๊บ
แต่นางฟ้าไม่ยอมให้ผมจูบครับ เม้มปากแน่นเชียว แต่ไม่เป็นไร ผมทำอย่างอื่นก็ได้(ไม่หน้าโหดอย่างเดียว หื่นด้วย) นางฟ้าของผมตัวนุ่มแล้วก็หอมน่าฟัด แล้วโลกอันเพ้อฝันกับสติอันน้อยนิดของผมก็หล่นวูบหายไป
ผมเป็นคนที่เมาแล้วถ้าได้หลับสักงีบก็จะสร่างเมาเร็ว ครั้งนี้ก็เหมือนกัน ผมรู้สึกตัวตื่นตอนเก้าโมงนิดๆ แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่าตัวเองไม่ได้นอนบนที่นอนนุ่มๆตรงหน้า แต่กลับลงมานอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้นปลายเตียงแทน แถมยังอาการปวดหลังนั่นอีก จะว่าผมนอนดิ้นจนตกเตียงเองก็ไม่น่าใช่ จะคิดต่อก็คิดไม่ออกเลยลุกไปล้างหน้าล้างตาเตรียมตัวกลับคอนโดตัวเอง
เปิดประตูออกมาก็เจอไอ้เจ้าของห้องที่มันหนีผมไปเมื่อคืนกำลังคุยอยู่กับแยมไม่สิต้องเรียกว่าไอ้โจ้ยืนหัวเราะอยู่ แต่แยมนั่งแยกเขี้ยวอยู่บนโซฟา พอไอ้โจ้เห็นผมเลยทัก
“ตื่นแล้วหรือวะไอ้ประธาน” อยากจะตอบไปเหลือเกินว่าที่ยืนอยู่นี่เทวดาตกสวรรค์ ส่วนไอ้ธีร์มันยังไม่ตื่น แต่ขี้เกียจครับ เลยได้แต่พยักหน้ารับส่งๆไป หันไปเห็นแยมนั่งหน้าหงิกอยู่บนโซฟา แต่พอมันเห็นผมนี่ทำหน้าซะตกใจเชียว แถมวันนี้ยังแต่งตัวแปลกๆอีก ใส่เสื้อคอเต่าปิดซะมิดชิด ไม่ร้อนหรืออย่างไร
“หนาวหรือน้องแย้ม” ไม่มีเสียงตอบรับครับ แต่ถลึงตาใส่ผมซะน่ากลัวเชียว ตลกชะมัด
“อะไรกันน้องแย้ม ถามแค่นี้ทำเป็นโกรธ เมื่อคืนก็นอนร่วมห้องกันทั้งคืน” ผมแกล้งพูดให้ดูสองแง่สองง่าม แซวมันแล้วสนุกดีครับ คงโกรธควันออกหูแน่หน้าแดงแปร๊ดเลย น่ารักดีครับ แซวกันแค่พอหอมปากหอมคอผมก็ขอให้ไอ้โจ้ไปส่งผมที่ร้านเพื่อไปเอารถที่จอดทิ้งไว้เมื่อคืน
“ไอ้โจ้ ไปส่งกูเอารถที่ร้านเมื่อคืนหน่อยสิ”
“ไอ้เล็กขับมาให้มึงแล้ว จอดอยู่ข้างล่าง เอ้านี่กุญแจ” พูดเสร็จมันก็โยนกุญแจให้ผมก่อนเดินเข้าห้องมันไป ดีเลยครับจะได้ไม่ต้องขับรถย้อนไปมาให้เสียเวลา
“พี่ธีร์ไปก่อนนะจ๊ะน้องแย้ม” หยอดแกล้งปิดท้ายก่อนกลับสักนิด ได้แกล้งมันแล้วมีความสุข (ออกแนวโรคจิต)
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปไวเหมือนโกหก
ก่อนหน้านี้หลังจากกลับจากห้องไอ้โจ้ผมก็กลับบ้านครับ โดนที่บ้านเรียกตัวด่วน ดีที่ว่ายังไม่ได้มีการเรียนการสอนเกิดขึ้นผมเลยกลับบ้านได้สะดวก ส่วนเหตุผลที่โดนเรียกกลับก็คือ คุณนายมัลลิกาหรือแม่มะลิ คุณแม่ของผมเองครับเรียกตัวผมไปแปลงโฉมเพื่อให้เหมาะสมกับตำแหน่งประธานนักศึกษา เรียกได้ว่าเปลี่ยนอสูรให้กลายเป็นคน ไอ้โจ้เป็นคนบอกมา โดยเริ่มจากตัดผมที่อุตส่าห์ไว้ยาวตั้งสองปีออก ต่อด้วยหนวดเคราหรอมแหรมก็จัดการโกนออกจนเกลี้ยง จนคุณนายมัลลิกาท่านพอใจในผลงานของตัวเองนั่นแหละ ภาพพจน์โหดเถื่อนที่สร้างมาสองปีหายหมดครับ
วันนี้ต้องไปเปิดตัวในฐานะประธานนักศึกษาเป็นวันแรกครับ เลยโดนอาจารย์วิฑูรย์เรียกตัวแต่เช้าเพื่อไปรับฟังหน้าที่ต่างๆที่ต้องปฏิบัติ กว่าจะเสร็จก็เกือบถึงเวลาเข้าเรียน ผมเลยรีบไปให้ถึงห้องเรียนก่อนที่อาจารย์จะเข้าสอน
เมื่อถึงห้องก็เลือกที่นั่ง ผมนั่งหลังไอ้โจ้ไปอีกสองโต๊ะ วันนี้ผมเรียนเสคเดียวกับแยมด้วย แต่ดูเหมือนมันจะจำผมไม่ได้หรือไม่ก็ยังไม่เห็นผม นั่งเรียนไปสักพักไม่รู้ว่าผมจ้องมันนานเกินไปจนมันรู้ตัวหรือเปล่า เพราะมันหันมามองข้างหลังที่ผมนั่งอยู่ด้วยสายตาหวาดระแวงแล้วก็หันกลับ มันคงไม่เห็นผมหรือไม่ก็ไม่เคยเห็นผมอยู่ในสายตา เศร้าครับ
พอหมดคาบเรียนผมก็ต้องรีบออกจากห้องไปพบอาจารย์วิฑูรย์อีกรอบเพื่อรับฟังมติเรื่องการรับน้องคณะนอกสถานที่กับเรื่องถ่ายแบบประชาสัมพันธ์สาขาจากรองอธิการบดีแต่ละคณะ
ถึงเวลานัดประชุมกับนักศึกษา อาจารย์วิฑูรย์เป็นคนแจกแจงรายละเอียดทั้งหมดเอง ก่อนจะเรียกผมไปเปิดตัว
“วันนี้มีอีกเรื่องนึงที่จะประกาศ เป็นข่าวดี รู้กันแล้วใช่ไหมว่าคณะเราได้รับโหวตสูงสุดเมื่อตอนเลือกตั้งประธานนักศึกษา ก็ขอแสดงความยินดีด้วย” อาจารย์ปรบมือให้ คนอื่นๆเลยปรบมือตาม
“นายธีรพัฒน์ วัฒนกิจ เชิญออกมาด้านหน้าด้วย” ถึงคิวผมโชว์ตัวแล้วครับ พวกเพื่อนๆต่างพากับปรบมือ ผิวปาก ส่งเสียงโหวกเหวกโวยวายกันใหญ่ ไม่มีใครแปลกใจเรื่องภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนไปของผมครับ เพราะพวกมันเห็นกันก่อนหน้านี้แล้ว ยกเว้นเพื่อนสาขาอื่น แต่มีอยู่คนนึงที่นั่งนิ่งเป็นรูปปั้นเลยครับ ไม่ต้องบอกก็รู้นะครับว่าใคร น้องแย้มของผมนั่นเอง สงสัยจะตะลึงในความหล่อของผม
TBC.
ฝากวิจารณ์นิยายด้วยนะคะ
เจอกันตอนหน้าค่ะ
คงรู้จักแยมกันแล้วนะครับ ส่วนชื่อน้องแย้มผมเป็นคนตั้งให้เองครับ จดลิขสิทธิ์แล้วด้วย เพราะฉะนั้นผมเรียกได้คนเดียว(ไม่หล่อแล้วยังงก) ผมกับแยมเราเริ่มต้นกันไม่ค่อยดีนัก เพราะผมดันปากเปราะไปแซวว่ามันเป็นตุ๊ดเข้า เลยโดนหมัดสอยหน้าเข้าทีนึง หลังจากนั้นก็ไม่ได้เรียกตุ๊ดอีก ไม่ใช่กลัวแต่เพราะรู้ว่ามันคงไม่ชอบจริงๆ ขืนแซวเยอะผมกลัวว่าจะกลายเป็นเสียเพื่อนแล้วมีเรื่องหมางใจกันไปเปล่า ผมเลยเรียกน้องแย้มแทนครับ เห็นหน้ามันหวานๆ ตาโตๆ นี่ถ้าใส่วิกคงสวยกว่าผู้หญิงหลายคนแน่ ส่วนที่โดนต่อยไม่เจ็บหรอกครับมันตัวเล็กกว่า ผอมกว่าผมเยอะ แถมแรงยังน้อยอีก
2 ปีที่ผ่านมาในมหาลัยชีวิตผมเรียบง่ายมาตลอดครับ ไม่ค่อยมีอะไรหวือหวาเท่าไหร่ จะมีเรื่องชกต่อยบ้างก็นิดหน่อยตามประสาผู้ชายวิศวะ (เกี่ยวกันไหม) แต่ปีนี้ถือได้ว่าเป็นการพลิกบทบาทของผมเป็นอย่างมาก เพราะผมดันชนะการเลือกตั้งประธานนักศึกษา เลยต้องรับหน้าที่นี้ไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
หลังจากนับคะแนนเลือกตั้งเสร็จ พวกเพื่อนๆสาขาผมรวมตัวกันเลี้ยงฉลองใหญ่ แอลกอฮอล์ครบครันเรียกได้ว่าไม่เมาไม่เลิก วันนั้นผมเลยถือโอกาสกินเต็มที่ครับ เงินก็ไม่ต้องจ่ายเอง ย้อมใจสักหน่อยเพราะเมื่อถึงเวลาที่ผมต้องรับตำแหน่งเต็มตัวเมื่อไหร่โอกาสเมาปลิ้นแบบนี้หายากแน่ๆ เพราะคงต้องรักษาภาพพจน์กันสักนิด
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา จริงครับเพราะพวกผมเมาปลิ้นกันแล้ว มีไม่กี่คนที่ยังไม่เมาก็พวกที่ต้องคอยหามพวกที่เมาไปส่งห้อง ซึ่งคนที่รับหน้าที่หามผมก็คือ ไอ้กิจกับไอ้มิน ส่วนไอ้โจ้หายหัวไปตั้งแต่กลางงานแล้วครับ มันบอกว่าจะกลับไปคอนโดเก็บห้องให้เรียบร้อยก่อน เพราะผมดันหากุญแจห้องตัวเองไม่เจอ ไม่รู้ลืมไว้ที่ไหน เมาแล้วขี้เกียจหา และผมก็ไปถึงห้องไอ้โจ้ด้วยวิธีใดก็ไม่อาจทราบได้ เพราะผมดื่มแบบจัดหนักมาก
เขาบอกว่าคนเมาไม่รู้เรื่องมักเพ้อหรือเห็นภาพหลอน ท่าจะจริงครับ สติที่เหลืออันน้อยนิดของผมร้องบอกว่าตรงหน้าผมมีนางฟ้าลอยอยู่ จะผิดไหมถ้าผมจะขอจูบนางฟ้า
จุ๊บ
แต่นางฟ้าไม่ยอมให้ผมจูบครับ เม้มปากแน่นเชียว แต่ไม่เป็นไร ผมทำอย่างอื่นก็ได้(ไม่หน้าโหดอย่างเดียว หื่นด้วย) นางฟ้าของผมตัวนุ่มแล้วก็หอมน่าฟัด แล้วโลกอันเพ้อฝันกับสติอันน้อยนิดของผมก็หล่นวูบหายไป
ผมเป็นคนที่เมาแล้วถ้าได้หลับสักงีบก็จะสร่างเมาเร็ว ครั้งนี้ก็เหมือนกัน ผมรู้สึกตัวตื่นตอนเก้าโมงนิดๆ แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่าตัวเองไม่ได้นอนบนที่นอนนุ่มๆตรงหน้า แต่กลับลงมานอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้นปลายเตียงแทน แถมยังอาการปวดหลังนั่นอีก จะว่าผมนอนดิ้นจนตกเตียงเองก็ไม่น่าใช่ จะคิดต่อก็คิดไม่ออกเลยลุกไปล้างหน้าล้างตาเตรียมตัวกลับคอนโดตัวเอง
เปิดประตูออกมาก็เจอไอ้เจ้าของห้องที่มันหนีผมไปเมื่อคืนกำลังคุยอยู่กับแยมไม่สิต้องเรียกว่าไอ้โจ้ยืนหัวเราะอยู่ แต่แยมนั่งแยกเขี้ยวอยู่บนโซฟา พอไอ้โจ้เห็นผมเลยทัก
“ตื่นแล้วหรือวะไอ้ประธาน” อยากจะตอบไปเหลือเกินว่าที่ยืนอยู่นี่เทวดาตกสวรรค์ ส่วนไอ้ธีร์มันยังไม่ตื่น แต่ขี้เกียจครับ เลยได้แต่พยักหน้ารับส่งๆไป หันไปเห็นแยมนั่งหน้าหงิกอยู่บนโซฟา แต่พอมันเห็นผมนี่ทำหน้าซะตกใจเชียว แถมวันนี้ยังแต่งตัวแปลกๆอีก ใส่เสื้อคอเต่าปิดซะมิดชิด ไม่ร้อนหรืออย่างไร
“หนาวหรือน้องแย้ม” ไม่มีเสียงตอบรับครับ แต่ถลึงตาใส่ผมซะน่ากลัวเชียว ตลกชะมัด
“อะไรกันน้องแย้ม ถามแค่นี้ทำเป็นโกรธ เมื่อคืนก็นอนร่วมห้องกันทั้งคืน” ผมแกล้งพูดให้ดูสองแง่สองง่าม แซวมันแล้วสนุกดีครับ คงโกรธควันออกหูแน่หน้าแดงแปร๊ดเลย น่ารักดีครับ แซวกันแค่พอหอมปากหอมคอผมก็ขอให้ไอ้โจ้ไปส่งผมที่ร้านเพื่อไปเอารถที่จอดทิ้งไว้เมื่อคืน
“ไอ้โจ้ ไปส่งกูเอารถที่ร้านเมื่อคืนหน่อยสิ”
“ไอ้เล็กขับมาให้มึงแล้ว จอดอยู่ข้างล่าง เอ้านี่กุญแจ” พูดเสร็จมันก็โยนกุญแจให้ผมก่อนเดินเข้าห้องมันไป ดีเลยครับจะได้ไม่ต้องขับรถย้อนไปมาให้เสียเวลา
“พี่ธีร์ไปก่อนนะจ๊ะน้องแย้ม” หยอดแกล้งปิดท้ายก่อนกลับสักนิด ได้แกล้งมันแล้วมีความสุข (ออกแนวโรคจิต)
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปไวเหมือนโกหก
ก่อนหน้านี้หลังจากกลับจากห้องไอ้โจ้ผมก็กลับบ้านครับ โดนที่บ้านเรียกตัวด่วน ดีที่ว่ายังไม่ได้มีการเรียนการสอนเกิดขึ้นผมเลยกลับบ้านได้สะดวก ส่วนเหตุผลที่โดนเรียกกลับก็คือ คุณนายมัลลิกาหรือแม่มะลิ คุณแม่ของผมเองครับเรียกตัวผมไปแปลงโฉมเพื่อให้เหมาะสมกับตำแหน่งประธานนักศึกษา เรียกได้ว่าเปลี่ยนอสูรให้กลายเป็นคน ไอ้โจ้เป็นคนบอกมา โดยเริ่มจากตัดผมที่อุตส่าห์ไว้ยาวตั้งสองปีออก ต่อด้วยหนวดเคราหรอมแหรมก็จัดการโกนออกจนเกลี้ยง จนคุณนายมัลลิกาท่านพอใจในผลงานของตัวเองนั่นแหละ ภาพพจน์โหดเถื่อนที่สร้างมาสองปีหายหมดครับ
วันนี้ต้องไปเปิดตัวในฐานะประธานนักศึกษาเป็นวันแรกครับ เลยโดนอาจารย์วิฑูรย์เรียกตัวแต่เช้าเพื่อไปรับฟังหน้าที่ต่างๆที่ต้องปฏิบัติ กว่าจะเสร็จก็เกือบถึงเวลาเข้าเรียน ผมเลยรีบไปให้ถึงห้องเรียนก่อนที่อาจารย์จะเข้าสอน
เมื่อถึงห้องก็เลือกที่นั่ง ผมนั่งหลังไอ้โจ้ไปอีกสองโต๊ะ วันนี้ผมเรียนเสคเดียวกับแยมด้วย แต่ดูเหมือนมันจะจำผมไม่ได้หรือไม่ก็ยังไม่เห็นผม นั่งเรียนไปสักพักไม่รู้ว่าผมจ้องมันนานเกินไปจนมันรู้ตัวหรือเปล่า เพราะมันหันมามองข้างหลังที่ผมนั่งอยู่ด้วยสายตาหวาดระแวงแล้วก็หันกลับ มันคงไม่เห็นผมหรือไม่ก็ไม่เคยเห็นผมอยู่ในสายตา เศร้าครับ
พอหมดคาบเรียนผมก็ต้องรีบออกจากห้องไปพบอาจารย์วิฑูรย์อีกรอบเพื่อรับฟังมติเรื่องการรับน้องคณะนอกสถานที่กับเรื่องถ่ายแบบประชาสัมพันธ์สาขาจากรองอธิการบดีแต่ละคณะ
ถึงเวลานัดประชุมกับนักศึกษา อาจารย์วิฑูรย์เป็นคนแจกแจงรายละเอียดทั้งหมดเอง ก่อนจะเรียกผมไปเปิดตัว
“วันนี้มีอีกเรื่องนึงที่จะประกาศ เป็นข่าวดี รู้กันแล้วใช่ไหมว่าคณะเราได้รับโหวตสูงสุดเมื่อตอนเลือกตั้งประธานนักศึกษา ก็ขอแสดงความยินดีด้วย” อาจารย์ปรบมือให้ คนอื่นๆเลยปรบมือตาม
“นายธีรพัฒน์ วัฒนกิจ เชิญออกมาด้านหน้าด้วย” ถึงคิวผมโชว์ตัวแล้วครับ พวกเพื่อนๆต่างพากับปรบมือ ผิวปาก ส่งเสียงโหวกเหวกโวยวายกันใหญ่ ไม่มีใครแปลกใจเรื่องภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนไปของผมครับ เพราะพวกมันเห็นกันก่อนหน้านี้แล้ว ยกเว้นเพื่อนสาขาอื่น แต่มีอยู่คนนึงที่นั่งนิ่งเป็นรูปปั้นเลยครับ ไม่ต้องบอกก็รู้นะครับว่าใคร น้องแย้มของผมนั่นเอง สงสัยจะตะลึงในความหล่อของผม
TBC.
ฝากวิจารณ์นิยายด้วยนะคะ
เจอกันตอนหน้าค่ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ