ไอ้หน้าหวานกับประธานสุดโหด

10.0

เขียนโดย crystal_on

วันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 16.24 น.

  5 บท
  2 วิจารณ์
  9,417 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 16.40 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) Yam part

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          หลังจากเหตุการณ์วันนั้นก็ผ่านมาได้หนึ่งอาทิตย์แล้วที่ผมไม่เจอมัน ร่องรอยที่คอก็หายแล้วครับ และวันนี้เป็นวันแรกที่คณะของผมมีการเรียนการสอนเป็นวันแรกของปี 3 และเย็นวันนี้เป็นวันแรกที่มีการประชุมรวมของคณะ คือวิศวะทุกสาขาประชุมรวมกัน และผมคิดว่าวาระการประชุมวันนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องการรับน้องรวม และเปิดตัวประธานนักศึกษาคนใหม่ของปีนี้ คงรู้กันนะครับว่าผมหมายถึงใคร

          ผมแต่งตัวไปเรียนใส่เสื้อยืด เสื้อช็อป กางเกงยีนส์ ซึ่งมันก็เป็นการแต่งตัวตามปกติของเด็กวิศวะ วันนี้ผมอาศัยรถโจ้ไปเรียนด้วยครับเพราะว่าเรียนเสคเดียวกันเลยไปพร้อมกันได้ หรืออีกนัยน์นึงคือผมขี้เกียจขับรถและก็ประหยัดน้ำมันด้วย(แอบงก)

          ผมเรียนเสคเดียวกับโจ้ ซึ่งนั่นหมายความว่าผมต้องเจอกับไอ้บ้านั่น แต่แปลกครับนั่งเรียนไปครึ่งคาบแล้วผมก็ไม่เห็นมันเลย หันไปถามโจ้ มันก็มองผมแปลกๆแล้วก็ชวนกันหัวเราะกับพวกไอ้กิจ ไอ้มิน โดยก็ไม่ตอบคำถามผม สงสัยจะโดดเรียน ช่างทำตัวเหมาะสมกับฐานะประธานนักศึกษาซะจริง โดดเรียนตั้งแต่คาบแรก

          นั่งเรียนไปสักพักผมก็รู้สึกเหมือนมีคนจ้องมองอยู่ข้างหลัง หันหาก็ไม่เห็นมี เพราะส่วนใหญ่ที่นั่งเรียนอยู่นี่ผมรู้จักกันหมดครับ ถึงแม้จะไม่ค่อยสนิทกันมากนักเพราะเรียนคนละสาขา แต่ไอ้ความรู้สึกเหมือนมีคนมองอยู่นั้นผมรู้สึกจริงๆ หรือว่าผมจะโดนผีหลอก

          ผมนั่งระแวงจนหมดคาบจนเพื่อนคนอื่นๆเดินออกจากห้องไปแล้ว แต่พวกผมยังนั่งเตร่กันอยู่ในห้อง เพราะไอ้กิจมัวแต่หลับจนจดงานที่อาจารย์สั่งไม่ทันเลยขอลอกจากพวกผมแทน ระหว่างรอผมเลยเล่าว่าตอนนั่งเรียนอยู่รู้สึกเหมือนมีคนมองจากข้างหลัง แต่ก็ไม่เจอคนน่าสงสัย พวกมันบอกว่าผมประสาทหลอนคิดไปเองแล้วที่แปลกอีกอย่างคืออาจารย์บอกว่าวันนี้มีคนมาเรียนกันครบ แต่ทำไมผมไม่เห็นไอ้ธีร์ สาบานได้ว่าสายตาผมปกติดีทุกอย่าง แต่ผมไม่เห็นมันจริงๆ ถามพวกไอ้โจ้มันก็ไม่ยอมบอกเอาแต่หัวเราะผม และผมก็ยังไม่รู้เลยว่ามันหัวเราะผมเรื่องอะไร แต่ขี้เกียจถามครับ

          “เฮ้ย กินข้าวกัน กูหิวแล้ว” มินเป็นคนเอ่ยชวนเมื่อเห็นกิจจดงานเสร็จ

          “กินไหนดี โรงอาหารหรือข้างนอก” โจ้เป็นคนถาม

          “ข้างนอกเถอะ โรงอาหารท่าจะคนเยอะ” กิจเป็นคนตอบครับ แล้วพวกเราก็ยกโขยงกันไปร้านข้าวหลังมหาลัยซึ่งใกล้ที่สุด

          พอไปถึงที่ร้านก็เจอไอ้เล็ก ไอ้ทศ ต้น และแก๊งสามนางคว้าที่ไอ้โจ้เป็นคนตั้งชื่อให้ ไม่ผิดครับนางคว้าจริงๆเพราะพวกนางเป็นกระเทยที่มีร่างกายบึกบึน แต่นิสัยดีครับเรียนสาขาเดียวกับผมด้วย ประกอบไปด้วย เชอรี่ โรสและมิลค์ ผมไม่รู้หรอกว่าที่จริงแล้วชื่อเดิมของแต่ละคนชื่ออะไร พวกเขาไม่อยากบอกกันผมเลยไม่ถามเพื่อความสบายใจของพวกนั้น ส่วนเล็กเรียนเครื่องกล ทศกับต้นเรียนสาขาเดียวกับผม

          “พี่แยมขา มานั่งกับเชอรี่มา” เชอรี่เรียกผมแล้วเดินมาคว้าแขนผมไปนั่งด้วยกัน พวกผมทั้งหมดเลยไปนั่งรวมกันครับต่อโต๊ะเอา

          “น้อยๆหน่อยนังเชอรี่ เดี๋ยวไอ้ธีร์ก็ฆ่ามึงหรอก” ไอ้กิจพูดขึ้น ผมหันขวับไปมองหน้ามันเมื่อได้ยินชื่อบุคคลที่สาม

          “ต๊ายยยย ปากเสียนะอีกิจ วันนี้ไอ้มหาโหดธีร์ไม่มาเรียนนี่ ฉันยังไม่เห็นมันเลย” เชอรี่ตอบกลับไปก่อนจะหันมาขอดแขนผมเหมือนเดิม ผมก็ไม่ได้ผลักไสอะไรเพราะรู้ดีว่าพวกนี้แค่หยอกกันเล่นเฉยๆ

          “ตาถั่วนะมึง พอๆกับไอ้แยมเลย” ไอ้มินครับ มีพาดพิงถึงผมด้วย ว่าแต่ผมตาถั่วเรื่องอะไรล่ะนี่ ยังไม่รู้ตัวเลยครับ ว่าจะถามแต่ข้าวที่สั่งไว้มาเสริฟคั่นกลางซะก่อน

          เงียบเหมือนป่าช้าเลยครับพอข้าวเข้าปาก ไม่มีใครพูดอะไรกันเลย ตั้งหน้าตั้งตากินอย่างเดียวเลย สงสัยจะหิวกันมาก หลังจากกินเสร็จ ต่างคนต่างจ่ายเงินส่วนของตัวเองแล้วเดินกลับเข้าไปมหาลัยเพื่อร่วมประชุมตอนบ่ายกันครับ

          เมื่อเดินมาถึงห้องประชุม พวกผมก็จับจองที่นั่งกันตามสะดวก ผมเลยไปนั่งรวมกับเพื่อนๆสาขาเดียวกันตรงกลางๆห้องเพื่อสะดวกเวลาปรึกษาหารือกัน ด้านซ้ายผมเป็นไอ้ต้นครับ มันเป็นประธานรุ่นปี 3 ของสาขาผม ส่วนด้านขวาเป็นไอ้ทศ ด้านหลังนี่ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่าใครครับ

          “พี่แยมขา พี่แยมว่าคราวนี้เราสองคนไปรับน้องกันที่ไหนดีคะ” เชอรี่เองครับ พอผมนั่งลงปุ๊บแก๊งสามนางคว้าก็มานั่งต่อหลังทันทีพร้อมกับพูดคุยกับคนโน้นคนนี้ไปทั่ว

          “นี่นังเชอ ใครเขาให้หล่อนไปกับพี่แยมสองคนยะ พี่แยมเขาไปกับฉันย่ะ” โรสก็ไม่น้อยหน้าครับ ยื่นหน้าเข้ามาคุยซะเกือบชิดแก้มผม ผละเกือบไม่ทัน พวกไอ้ต้น ไอ้ทศ กับพวกที่เห็นหัวเราะกันใหญ่เลยครับ

          “เดี๋ยวไอ้ธีร์จับพวกมึงหักคอกูไม่ช่วยนะ ฮะ ฮะ” ไอ้ต้นพูดออกมาก่อนหันมาหัวเราะกับผม ทำไมเวลาคุยเรื่องผมถึงต้องมีชื่อไอ้บ้านั่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เข้าใจอยู่หรอกว่าแซวเล่น แต่บางทีมันก็เยอะไปจนผมเซ็ง แทนที่จะจับคู่ผมกับสาวๆสวยๆ กลายเป็นไอ้บ้าผมรุงรังนั่นซะนี่ แล้วไอ้ธีร์มันก็ไม่ได้เป็นเกย์ด้วย หน้าโหดซะขนาดนั้น

          ผมชอบผู้หญิงนะแต่ที่ยังไม่อยากมีแฟนใหม่หลังจากที่เลิกรากับเธอคนนั้นไปนานเพราะสัญญากับที่บ้านไว้ว่าขอเรียนจบก่อนแล้วค่อยหาแฟน หรือไม่ก็คุยๆกันไปก่อนแต่จะยังไม่ถึงขั้นเป็นแฟน อาจจะเพราะผมยังไม่มีใครพวกเพื่อนๆถึงได้จับคู่ผมกับไอ้ธีร์ ไอ้โจ้เคยบอกว่าดูการ์ตูนเรื่องโฉมงามกับเจ้าชายอสูรแล้วคิดถึงผมกับไอ้ธีร์ เศร้าครับ มันเห็นผมเป็นโฉมงามไปซะแล้ว

          นั่งคิดอะไรไปเพลินๆ อยู่ๆในห้องประชุมก็เงียบครับ อาจารย์วิฑูรย์ เป็นอาจารย์ภาคคณะและเป็นรองอธิการบดีของมหาลัยเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับเอกสารจากอธิการบดีเรื่องการรับน้องให้จัดนอกสถานที่ได้ พออาจารย์ประกาศจบเท่านั้นแหละ เสียงโห่ร้องดีใจดังเซ็งแซ่ทั่วห้องเลยครับ ผมก็ดีใจนะ จะได้เที่ยวไปในตัวด้วย

          นอกจากเรื่องรับน้องนอกสถานที่แล้วอาจารย์วิฑูรย์ยังขอให้แต่ละสาขาส่งตัวแทนสาขาละ 2 คน เพื่อถ่ายแบบติดป้ายประชาสัมพันธ์สาขาของตัวเอง

          “ไอ้แยม หน้าที่นี้มึงรับไปนะ เพราะในบรรดาพวกกูทั้งหมดมึงดูเป็นผู้เป็นคนสุดแล้ว หรือพวกมึงว่าอย่างไร” ไอ้ต้นโยนหน้าที่มาให้ผมพร้อมขอความเห็นจากคนอื่น แต่ก็ไม่มีใครคัดค้าน

          “ถ้าอย่างนั้นเชอรี่รับหน้าที่นี้คู่กับพี่แยมเองนะคะ จุ๊บๆ” พูดเสร็จพร้อมยื่นหน้าทำปากจู๋จะจูบผม ดีที่ไอ้ทศไวกว่าตะปบหน้าเชอรี่ไว้ได้ทัน

          “อีกคนนึงเขาเอาผู้หญิงเว้ย มึงอ่ะหมดสิทธิ์” ไอ้ต้นพูดตัดความหวัง ส่วนเชอรี่ก็นั่งหน้าบูดไปตามระเบียบ

          “ชิชะ ไอ้ต้น พวกกูก็เป็นผู้หญิงนะ มีแต่มึงนั่นแหละตาถั่ว มองไม่เห็นความสวยของพวกกู” พูดเสร็จสะบัดหน้าเชิดใส่ไอ้ต้นซะคอแทบหัก ไอ้พวกที่ได้ยินบทสนทนาเมื่อกี๊พากันหัวเราะครืนเลยครับ

          “ตกลงมึงกับฟ้าไปถ่ายแบบนะ” ไอ้ต้นขอคำยืนยันอีกที

          “เออ ก็ได้” ผมขี้เกียจปฏิเสธ เพราะเดี๋ยวมันก็หาเหตุผลมาให้ผมตกลงจนได้ ส่วนฟ้า คนที่จะถ่ายคู่ผมเธอตัวเล็ก น่ารัก ยิ้มเก่งครับ มีดีกรีเป็นรองดาวมหาลัยด้วย เธอเลยได้รับหน้าที่นี้ไปโดยไม่มีใครโต้แย้ง

          “เอาล่ะ เงียบๆกันหน่อย” เสียงอาจารย์วิฑูรย์ดังขึ้นจนพวกเราต้องเงียบ

“วันนี้มีอีกเรื่องนึงที่จะประกาศ เป็นข่าวดี รู้กันแล้วใช่ไหมว่าคณะเราได้รับโหวตสูงสุดเมื่อตอนเลือกตั้งประธานนักศึกษา ก็ขอแสดงความยินดีด้วย” อาจารย์ปรบมือให้ พวกเราเลยต้องปรบมือตาม

          เมื่อตอนเลือกตั้งประธานนักศึกษามีคนลงสมัครด้วยกัน 8 คน คณะวิศวะลงสมัครโดยไม่ได้สมัครใจแค่คนเดียวคือไอ้ธีร์ ที่บอกว่าไม่ได้สมัครใจเพราะโดนเพื่อนในกลุ่มเสนอชื่อลงสมัครโดยที่เจ้าตัวไม่ได้รู้เรื่อง พอมันเห็นชื่อตัวเองอยู่ในบอร์ดประกาศรายชื่อผู้สมัครเท่านั้นแหละ มันโวยวายใหญ่เลยครับ ดีที่พวกเพื่อนมันช่วยกันกล่อมว่าไม่ต้องห่วงมันอาจไม่ได้รับรับเลือก ธีร์มันเลยยอมครับ พอถึงวันเลือกตั้ง นับคะแนนกัน ผลออกมาเป็นอะไรที่ตกตะลึงกันมากครบ ไอ้ธีร์ชนะการเลือกตั้ง แถมได้คะแนนโหวตชนะขาดคนอื่นด้วย มันก็เลยต้องก้มหน้ารับหน้าที่อันทรงเกียจนี้ไปครับ

          “นายธีรพัฒน์ วัฒนกิจ เชิญออกมาด้านหน้าด้วย” อาจารย์วิฑูรย์เรียกไอ้ธีร์ออกไปโชว์ตัวพร้อมกับเสียงปรบมือ ผิวปากกันเกรียวกราว และสิ่งที่ทำให้ผมต้องแปลกใจก็คือ คนที่ผมเห็นบนเวทีหน้าห้องนั้นไม่ใช่ไอ้ธีร์ แล้วไอ้หล่อหน้าห้องนี่มันเป็นใคร

 

 

TBC.

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา