EAT ME IF YOU CAN [[ Yaoi ]]

9.9

เขียนโดย iamkin

วันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 21.05 น.

  28 ตอน
  8 วิจารณ์
  84.14K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2557 19.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

14) ตอนที่ : 14

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

EAT ME IF YOU CAN [14]

  

     [Near]

                ผมมาถึงห้องไอ้บลู ตอนเที่ยงกว่าๆครับ เพราะไอ้บลูมันโทรไปหาผมบอกให้ผมซื้อของสดเข้ามาด้วย มันจะทำสุกี้ให้กิน เอิ่ม..นี้คืออาการของคนอกหัก ผมเลยต้องแวะซุปเปอร์มาร์เก็ตแถวๆบ้านมาก่อน เพื่อหาซื้อของสดให้มันครับ พอมาถึงห้องผมก็นึกว่าไอ้บลูมันจะร้องไห้ฟูมฟาย เสียอกเสียใจ ยกใหญ่ เพราะเพิ่งจับได้ว่าแฟนมันมีชู้ แต่ขอโทษที ผมคิดผิดไป เพราะพอผมกับไอ้กัสมาถึง ก็เจอไอ้บลูกับไอ้มิลานนั่งกระดกแบล็คกันตั้งแต่หัววันแล้ว มึงจะรีบคึกกันไปไหนนี่เพิ่งเที่ยงเอง ส่วนอีกคนก็คึกไม่แพ้กัน เพราะพอไอ้มิลานเห็นไอ้กัสปุ๊บ ก็คอตั้งขึ้นมาทันที ทันใด ...

                'เห้ยๆๆ...มันเป็นอะไรวะ วันนี้มันดูหงอยๆ' ไอ้บลูหันมากระซิบผมครับ ตอนนี้ผมอยู่ในห้องครัว ปล่อยให้อดีตคนเคยนอนด้วยกัน เขาอยู่กันตามลำพังไปในห้องนั่งเล่น 

                'ไม่รู้ว่ะ'

                'แต่ดูเฮียกัส..มันขยะแขยงยังไงชอบกลนะ' ไอ้บลูพูดจบ ผมก็หันเพียงเสี้ยวหน้าน้อยๆ ไปทางห้องนั่งเล่นครับ เจอไอ้กัสกำลังตีหน้าเซ็งสุดตีน เพราะไอ้มิลานกำลังเกาะแกะมัน ผมเลยได้ยิ้มออกมาบ้าง

                'มันเป็นวิธีการแสดงความรัก มึงไม่รู้หรอก' ผมเอ่ยกลับไป เมื่อครู่ตอนล้างผักกัน ไอ้บลูมันเปรยๆเรื่องพี่ธันให้ผมฟังแล้วครับ มันบอกว่าพี่ธันยังโทรมาหามันทั้งวัน แอบไปรอเจอมันตามหน้าโมเดลลิ่งเวลามันไปแคสติ้งงานบ้าง แต่ไอ้บลูมันก็ถือคติ หยิ่งเท่านั้นที่ได้โล่ไปเสียแล้ว งานนี้เลยดูว่า พี่ธันงานน่าจะเข้าชุดใหญ่

                'เหอะๆ..ช่วงนี้เฮียกัสมันทำตัวดีขึ้นเปล่าวะ แลดูเป็นพี่ที่ดีในทันตาเห็น ร้อยวันพันปี กูไม่เคยเห็นมันมาส่งมึงเลย.. แอบไปติดสินบนอะไรกับมันหรือเปล่า'

                'พ่อ..มึงเหอะ มันก็แค่กลัวตัวเอง ไม่กล้าอยู่บ้านคนเดียวเท่านั้น จะอะไรมากมาย'

                'จะว่าไปใครมีแฟนเป็นเฮียกัส ก็ดีนะ..' ไอ้บลูมันพูดครับ ผมที่กำลังหั่นเต้าหู้หลอดอยู่ ถึงกับเผลอออกแรงบีบไป จนกระทั่งเต้าหู้แม่งเละคามือกูเลยครับ ไอ้บลูเลยได้หันมาด่าผมยกใหญ่ แต่ก็ยังดีที่ไม่เละมาก ยังกินได้อยู่ครับ

                'ดีอย่างกับผีอะไรวะ แม่งดุอย่างกับหมา ปากหมายิ่งกว่าหมาอีกเหี้ยนี่อ่ะ' ผมพูดครับ พยายามปรับเสียงให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด เพราะคนภายนอกเห็นผมกับมันเป็นแค่ พี่น้องกันเท่านั้น...

                'แต่อย่างน้อยแม่งก็แสดงตัวว่าเหี้ยจริงอะไรจริง ไม่ได้แอ๊บเหี้ยแบบหมาบางตัว!'

                'มึงก็...ไม่ฟังพี่เขาหน่อยเลยหรือไง' ผมจริงจังขึ้นมาบ้างแล้วครับ ผมไม่อยากให้มีคนใช้อารมณ์ในการตัดสินใจผิดๆแบบตัวผมแล้วครับ ผมอยากให้มันลองฟังเหตุผลของพี่ธันดูบ้าง เพราะบางที..มันอาจจะไม่ใช่อย่างที่เราคิดก็ได้

                'ดูมันทำตัวดิ จะให้กูฟังอะไร'

                'ถ้าพี่ธันเขาเหี้ยแค่นี้ มึงยังรับไม่ได้ มึงลองไปเป็นแฟนเหี้ยกัสดูสิ จะได้รู้ ว่าแม่งเหี้ยจริงอะไรจริงขนาดไหน'

                'พูดอย่างกับมึงเป็นอะไรกับมันงั้นแหละ ถามจริงเหอะ อยู่บ้านกับมันสองคนทุกวันๆแบบนี้ ไม่มีหวั่นไหวบ้างหรอวะ.. กัสมันก็หล่อ หุ่นมันก็ดีขนาดนั้นอ่ะ...' ไอ้บลูพูดครับ ไม่พูดเปล่ามันหันหน้าไปหาเหี้ยนั่นด้วย ตอนนี้กัสมันแทบจะเอาตัวทรุดลงกับไปพื้นเพื่อหลุดจากการเกาะแกะของไอ้มิลานอยู่แล้วครับ เห้อ..สงสาร

                'ได้ข่าวว่าหุ่นมันเข้าขั้นสุดยอดเลยไม่ใช่หรอวะ' 

                'บลู เสียงมึงหื่นมาก...'

                'เอ้า ก็กูได้ยินพี่ที่ทำงานกูพูดมา เขาบอกว่ามีตั้งหลายทีไปทาบทามมันให้มาเป็นนายแบบ แต่แม่งไม่ยอม เล่นตัวชิบหาย...'

                'นายแบบ..นายแบบผลิตภัณฑ์ถุงยางอ่ะนะ กูว่าแม่งเหมาะสุดแล้ว'

                'เห้ยๆๆ มึงก็พูดไป รวยนะโว้ย ได้ตั้งหลายบาท พูดแค่ไม่กี่คำเอง'

                'เหี้ย กูไม่พูดกับมึงแล้ว กูว่าจะมาปลอบใจมึงซะหน่อย มึงหื่นขนาดนี้ กูไม่ต้องมาก็ได้มั้ง!' ผมว่าแล้วยกถาดผักออกไป เหี้ยกัสอยากให้ผมกินผักเยอะๆครับ มันแทบจะหยิบผักมาทั้งกระบะในห้างแล้วด้วยซ้ำ แต่กลัวเราจะกินไม่หมดกัน

                'ช่วย..' พอผมเดินออกไปปุ๊บ แม่งก็เสนอหน้ามาช่วยผมทันทีเลยครับ แหม..บทจะอยู่ในโอวาทนี่ก็ให้ทำอะไรก็ได้ คุณเชื่อไหม เมื่อวานผมใช้มันรดน้ำต้นไม้หน้าบ้านด้วย ต้นมะขามแทบจะออกลูกเป็นมะม่วงอ่ะ พอแม่งรดน้ำทีนึง!

                'ขอบใจ' ผมพูดเบาๆ เพราะมันดึงถาดผักในมือผมไปแล้ว ทำไงได้ ผมเลยรีบเดินกลับเข้าครัว ไปยกถาดเนื้อสัตว์ต่อ หรืออีกนัย ไม่อยากยืนรับสายตาพิฆาตของใครบางคน ที่จ้องผมตาเขม่นอยู่

                'มิลานช่วยไหม พี่กัส'พอคล้อยหลังผมเท่านั้นแหละ เสียงไอ้มิลานก็ดังขึ้นทันที แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร เดินไปหยิบถาดเนื้อสัตว์อีกสองสามถาด เพราะอีบลูแม่งตัวกินเนื้อ แล้วเดินเข้าๆออกๆในห้องครัวอีกสองสามรอบ คือกูจะเป็นพ่อบ้านเกินไปแล้วไง .. 

     

                'ถามจริงเหอะ อยู่บ้านกับมันสองคนทุกวันๆแบบนี้ ไม่มีหวั่นไหวบ้างหรอวะ' 

                 'ไม่หวั่นไหวกูก็ตายด้านแล้ว ไอ้ห่า...'

                พวกผมกินสุกี้กันอย่างเงียบๆ ครับ คุยบ้างอะไรบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา แต่ก่อนที่ไอ้บลูจะได้อิ่มท้อง งานมันก็เข้าเสียก่อน เนื่องจากพี่ธันมาหามันถึงประตูห้อง มันได้แต่ชักสีหน้าหงุดหงิด แล้วก็ไม่ทำอะไรอีกเลย จนไอ้กัสมันทนฟังเสียงระดมกริ่งหน้าประตูไม่ไหว ต้องพูดขึ้น

                'จะปล่อยให้มันทุบกริ่งหน้าบ้านมึงอีกนาน..ไหมครับ!' ไอ้บลูถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ พอเจอเสียงเรียบ เงียบ และ เย็นของเหี้ยกัส 

                'งั้นกูไปเปิดเอง' ผมพูดพร้อมจะลุกขึ้นครับ แต่ยังไม่ทันจะลุกขึ้น ไอ้กัสก็ตวัดสายตามาหาผม แล้วส่งสัญญาณให้ผมประมาณว่า ถ้าลุกมึงตาย!

                'มึงเลือกเอานะบลู จะไปเปิดเองหรือให้กูไปเปิด' ไอ้กัสยื่นข้อเสนอครับ มิลานถึงกับร้องเบาๆ เพื่อรอตอบรับความจริงอันโหดร้าย ถ้าไอ้บลูให้ไอ้กัสไปเปิด

                'ไปเปิดให้ผมหน่อย ไล่มันไปไกลๆเลยยิ่งดี ผมไม่อยากเจอหน้ามัน'ได้งามหน้ากันทั้งบางแน่ .... ไอ้กัสพยักหน้า ก่อนจะลุกขึ้นจากพื้นเดินไปที่หน้าประตู ที่ยังคงมีเสียงกริ่งเรียกอย่างไม่ขาดสาย

                'กดหาพ่อมึงหรอครับ!!!!!'ร่างสูงที่ยืนอยู่หน้าประตูข้างนอกถึงกับเอ๋อ เมื่อเจอคำทักทายแบบไร้มารยาทที่สุด เช่นเดียวกับพวกผมสามคนที่นั่งเอ๋อแดก แม่งทักทายกันแบบนี้ กูว่ามึงเปิดประตูแล้วเอามืดกระซวกไส้มันเลยดีกว่ากัส

                'ไอ้กัส...'

                'เออ กูเองไอ้สัด กูแดกข้าวไม่ลงเพราะเสียงกริ่งมึงเนี่ยแหละ ไอ้เหี้ย!!' แม่งปล่อยเหี้ยไปตัวโตเลยครับ ผมเห็นพี่ธันแว้บๆ เพราะกัสแม่งสูง ผมมองไม่เห็นพี่ธันได้แบบเต็มๆ แต่เพียงแว้บเดียวที่เห็น ก็ทำเอาผมตกใจ

                'พี่ธันหน้าโคตรโทรมเลยว่ะ...' ผมหันไปพูดกับไอ้บลู ที่กำลังลวกลูกชิ้นลักบี้แดกอย่างสบายใจ

                'เห้ยๆๆ จริงอ่ะจริง หน้าโคตรโทรมเลย' จนกระทั่งมิลานเสริม ไอ้บลูมันเลยเงยหน้าขึ้นมา มันเงยหน้าขึ้นมานิดเดียว แล้วก็ก้มหน้าเป่าลูกชิ้นในชามมันที่ลวกสุกแล้วต่อเพื่อให้หายร้อน

                'กัส! มึงหลบไป ไม่เกี่ยวกับมึง!! อย่าสะเออะ!!' โอ้ยเจ็บแทน ... ผมได้แต่คิดในใจครับ ผมเงยหน้ามองแผ่นหลังไอ้กัสที่ยืนขวางอยู่ที่ประตู กัสแม่งยืนเท้าเอวได้ชิวมากอ่ะ แต่กูว่าเขาจะเข้าใจผิดว่ามึงจะไปหาเรื่องเขามากกว่านะกัส

                'กูก็ไม่ได้อยากสะเออะหรอกนะ แต่ถ้าเป็นกูอ่ะ ไม่มาง้อแม่งมันหรอก!'

                'อ้าว/อ้าว!/อ้าว!!!' (ไอ้บลู/มิลาน/ผม) อ้าวเลยสิครับกู นี่แสดงว่าถ้ากูงอนบ้าง มึงจะไม่ง้อกูใช่ไหมเหี้ยกัส!

                'ยังไม่ได้ทันฟังอะไรเลย ตีโพยตีพายไปแล้ว ใช้ไม่ได้ ไม่ได้เรื่อง!!!!'โอ้เยส! กัสพูดดีว่ะ ไอ้บลูถึงกับหน้าเจื่อนไปเลย ตอนผมคุยกับไอ้บลูที่บ้านผม มันคงได้ยินละมั้ง เลยเอามาแขวะไอ้บลูด้วย เออดีๆกัสมึงพูดต่อไป

                'มึงก็เหมือนกัน! ถ้าเป็นกูนะ ไม่รอมาง้อหรอก จับลากแม่งเข้าห้องเลย จบ!!!!'

                'แล้วถ้าแม่งไม่จบอ่ะ...' พี่ธันแม่งพูดต่อครับ ตอนนี้ผมกำลังภาวนาไม่ให้ไอ้ห้องข้างๆ วิ่งออกมาด่า ว่าจะเสียงดังหาพระแสงอะไรอยู่ครับ แต่ผมว่า พออีห้องข้างๆ เจออีกัส ผมว่าแม่งจอดอ่ะ

                'ไม่จบ มึงก็กดต่อสิวะ! เอาแม่งให้พอ เท่านี้นะ กูจะแดกต่อ!' อั๊ยยะ! มีต่อยกสอง กัสกูว่ามึงกลับมานั่งแดกต่อเหอะว่ะ!!! มันจะไม่ขำแล้วไอ้กัสเดินกลับมานั่งแดกต่อแล้วครับ จังหวะที่มันนั่งลง ผมเห็นไอ้บลูกับพี่ธัน สบตากันด้วย 

                'มึงอ่ะ มึงจะเข้ามาไหมสัด! ไม่เข้ามึงก็ปิดประตูซะ แอร์ออกหมดพอดีไอ้ห่า!' ไอ้กัสหันไปโวยวายกับร่างสูงที่ประตูครับ พี่ธันก็ไม่รอช้า รีบก้าวเข้ามาพอดี

                'ห้องนอนมึงอยู่ไหนวะบลู' ไอ้กัสหันไปถามไอ้บลูครับ สงสัยด่าคนมากเลยอยากล้างหน้ามั้ง เพราะห้องน้ำข้างนอกเสีย เราเลยต้องบุกเข้าไปใช้ห้องน้ำในห้องนอนไอ้บลูแทน

                'ห้องนู้นเฮีย..'

                'สัดเรียกดีๆอย่าเพี้ยน'

                'ห้องนู้นเฮียๆ'

                'เออๆๆ มึงๆๆอ่ะ มึงลากมันเข้าไปคุยในห้องซะ จะได้จบๆ จะได้ไม่มีใครมาแย่งกูแดกกุ้งสักที เร็วๆเข้า!' ไอ้กัสพูดเชิงสั่งครับ จะบอกว่ามันเป็นคนดี ที่ชี้ทางสว่างให้กับคนคู่หนึ่งได้ไหมเนี่ย

                'บลู..ไปกับพี่เถอะนะ'

                'ไม่ จะกิน'

                'สัด! กูบอกให้ลากเข้าไปเลย!' ไอ้กัสมึงอย่าเสือกกับเขาเลยกูขอ...

                'เห้ยๆๆๆๆ ทำเหี้ยไรวะ!!!' ไอ้บลูถึงกับร้องครับ เพราะสิ้นสุดคำไอ้กัส พี่ธันก็จับคอเสื้อไอ้บลู แล้วออกแรงลาก! ลากเข้าห้องไปจริงๆ

                'ปล่อยกู ไอ้สัดปล่อยกู!!!!! ไอ้เนียร์ช่วยกูด้วย ไอ้มิลานเรียกตำรวจเลย!!!!!!! อ๊ากกกก ปล่อยกูไอ้สัดดดดด!!!' มันหายไปแล้วครับ บลูมันหายไปในห้องนอนมันพร้อมกับพี่ธันแล้ว ผมกับไอ้มิลานได้แต่นั่งมองหน้ากันตาปริบๆ เอ่อ คือคุณพี่ธันมึงคิดดีแล้วใช่ไหมครับ เชื่อเหี้ยกัสเนี่ย

                'ไอ้กัส!' ขณะที่ผมกับไอ้มิลานนั่งอึ้งกันอยู่ พี่ธันก็โผล่ออกมาจากห้องอีกรอบ อะไรวะ เผลอแปบเดียวพี่ธัน..ถอดเสื้อแล้วอ่า

                'เหี้ยไร กูไม่ได้เอาถุงยางมา มึงเล่นสดไปแล้วกัน!'

                'เปล่า กูจะบอกว่า ขอบใจ ที่ชี้ทางสว่างให้ว่ะ หึๆ' พอพูดจบปุ๊บ พี่ธันก็หายกลับเข้าไปในห้องทันที ผมได้ยินเสียง กิ๊ก ด้วย แม่งล็อคห้องอ่ะ กูจะแอบดูยังไงวะ!!!!

                'เหอะๆไอ้พวกนี้ เอ้าจะกินกันไหมเนี่ย ถ้าไม่กินกัน กูจะแดกให้หมดเลยนะ'เอ่อ...กัส มึงยังจะแดกลงอีกหรอ!!!!!!!

     [End Near]

 

     [Thunder]

                ผมรอให้ไอ้กัสมันขนย้ายเด็กๆออกจากห้องไปก่อน ผมจึงค่อยมาจัดการกับ เจ้าเด็กดื้อ ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย ที่นั่งนิ่งอยู่ที่เตียง

                'มองเหี้ยไร!' ดูมันครับดูมัน สงสัยวันหลังผมต้องไปขอคถาข่มเมียจากไอ้กัสบ้างแล้ว เพราะผมเห็นตั้งหลายครั้งต่อหลายครั้ง ที่มันแค่มอง เด็กมันก็จอดเงียบทุกราย

                'มองเหี้ยอยู่ไง!!' ผมตอบร่างเล็กหัวทอง ด้วยเสียงที่ดังกว่าและกระชากกว่า ความจริงผมไม่ชอบพูดจาอะไรแบบนี้หรอกนะ แต่มันทำให้ผมต้องพูดมากกว่า 

                'มึง!!!' ร่างเล็กตาลุกวาวด้วยความโกรธ มันถลึงตาจนผมกลัวว่าคอนแทคเลนส์ที่มันชอบใส่จะหลุดออกมา แล้วจะวิ่งหากันให้วุ่น

                'มึงจะทำไม!'

                'ออกไปจากห้องกูเลยนะ ออกไปเลย!' ร่างเล็กไล่ผม แล้วชี้มือไปที่ประตู รอบแรกที่ผมเข้ามาในห้อง ก่อนจะชะโงกหน้าออกไปขอบใจไอ้กัส ผมเหวี่ยงร่างเล็กลงเตียงอย่างแรง แต่ผมก็ไม่รู้แรงมากขนาดไหน แต่เอาเป็นว่ามันทำให้แจกันที่อยู่บนหัวเตียง ตกลงมาแตกได้เลยแล้วกัน

                'กูไม่ออก! ต้องพูดกันให้รู้เรื่อง!!'

                'กูกับมึง คุยกันรู้เรื่องแล้ว! กูเลิกกับมึง กูมันมั่วเอง!!' ร่างเล็กตะโกนใส่หน้าผมอีกแล้ว ผมล่ะไม่ชอบความรุนแรงเลยจริงๆ!

                'มึงบังคับกูเองนะ...' ผมพูดเสียงเรียบ ดวงตาผมมองเป็นผ้าพันคอของมันที่ตกอยู่บนพื้นพอดี และไม่รอช้าที่ผมจะเดินไปหยิบมันมาไว้ในมือ

                'ไอ้เหี้ย อย่าบอกนะมึง!' ร่างเล็กตีสีหน้าตื่น ก่อนจะรีบตะกุยตะกายเพื่อพาตัวเองหนีรอด แต่ด้วยสรีระร่างกายของมันและผม ทำให้ผมก้าวไปถึงร่างเล็กที่นั่งอยู่บนเตียงอย่างไว

                'หึๆ..' ผมหัวเราะอย่างคนโรคจิต ก่อนจะจับผ้าพันคอไว้ให้เป็นเส้นตรง 'มึงอยากรู้ไม่ใช่หรอว่ากู... เคะหรือเมะ'บรูไนกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมเจอมัน มันไม่เคยแสดงสีหน้า ท่าทางหวาดกลัวอย่างวันนี้ และตอนนี้เลย! 

                'กูไม่อยากรู้แล้วสะ...อือ...' ริมฝีปากอันร้อนระอุของร่างเล็ก ถูกปิดทาบด้วยริมฝีปากของผมก่อนที่เจ้าของริมฝีปากจะพูดจบ เสียงครางเครือดังออกมาจากลำคอสวย เช่นเดียวกับเรียวแขนเล็กที่ทั้งทุบและทำร้ายผมไปด้วย ผมค่อยๆผ่อนร่างเล็กที่เบาแรงลงให้นอนราบกับเตียง แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ให้ความร่วมมือกับผมเอาเสียเลย

                'นอนลง!'

                'ไม่!!!'

                'ทีตอนมึงเมา ไม่เห็นจะยากอะไรขนาดนี้เลยนี่หว่า! สั่งให้นอนก็นอน!' ผมหลุดปากพูดวาจาอันรุนแรงออกไป ทำเอาผมอยากตบปากตัวเองหลายๆที แต่พอเจอใบหน้าเรียบตึง หยิ่งยโส ของร่างเล็ก ความคิดเหล่านั้นก็หายไป กลายเป็นกระสุนจูบที่ระดมลงกลีบปากสวยของมัน อย่างไม่ว่างเว้น จูบของผมเป็นเหมือนสิ่งที่ดูดเรี่ยวแรงในตัวของร่างเล็กออกจนหมด เพราะยิ่งผมเม้มจูบให้ร้อนแรงมากแค่ไหน อันตราการดิ้นของร่างเล็กก็ยิ่งลดลงไปอีก

                'อือออ.....!!! ออก....อื้อออ....ออกไป!!!' มือเล็กเลื่อนมือขึ้นมาจิกไหล่ของผมนับครั้งไม่ถ้วน พอจิกผมไม่ได้ ก็เปลี่ยนเป็นข่วนแทน ถ้าหลังกูเป็นรอย กูจะกดตามรอยเลย! ผมเอื้อมหยิบผ้าพันคอมาผูกมือร่างเล็กแล้วใช้แรงกดไว้ แม่งโคตรดิ้นเลย ให้ตายเหอะ!

                'ไอ้เหี้ย!!!' ผมโพล่งออกมา เมื่อบรูไนยันลูกถีบเข้าใจกลางลำตัวผมอย่างสุดแรง ทำให้ผมกระเด็นออกมาจากร่างเล็ก งานนี้สงสัยต้องปล้ำแม่งลูกเดียวแล้วล่ะมั้ง!!!

                'เข้ามาอีกดิ คราวนี้กูจะไม่ถีบท้องมึงแน่ กูจะถีบน้องมึงแทน!!!'

                'หรอ!' ผมขึ้นเสียงสูง แล้วโถมตัวลงทับร่างเล็กอีกครั้ง พร้อมกับใช้แรงตัวกดร่างเล็กให้จมพื้นเตียง และระดมจูบบนกลีบปากสวยให้หนักหน่วงเข้าไปอีก จนร่างเล็กหมดแรงสู้ ผมซุกใบหน้าไซร้ลงไปที่ซอกคอขาวอย่างหลงใหล และใช้จังหวะที่ร่างเล็กเผลอรีบถอดเสื้อผ้ามันอย่างไว เสื้อผ้าแต่ละชิ้นถูกโยนทิ้งอย่างไม่ใยดี ความจริง..หน้าที่นี้มันทำนะ แต่สถานการณ์แบบนี้ กูทำเองก็ได้ครับ!

                'หมดแรงดิ้นแล้วหรอวะ! นี่ยังไม่ได้คุยกันเลยนะ!!' ผมใช้เสียงเยาะเย้ยมันที่กำลังนอนหอบอยู่ แน่แหละ ปกติมันคุมเกมส์ แต่คราวนี้ผมคุมเกมส์เองครับ!ร่างเล็กไม่ตอบ มันหันใบหน้าสวยเกินผู้ชายของมันหนีผม นี่ขนาดไม่มีเสื้อผ้าติดตัวแล้วยังหยิ่งได้ขนาดนี้นะ!

                'ไอ้ธัน!!!' 

                'อะไร สะดุ้งเลยสิมึง หึๆ' ผมหัวเราะออกมาอีกครั้ง เมื่อครู่ผมเบียดกายแนบชิดกับหว่างขามันจนมันสะดุ้งตัวเฮือกใหญ่

                'เออ ทำเลย! กูสู้อะไรมึงไม่ได้อยู่แล้วนี่!! มึงมันแรงควาย กูมันแรงหมา!' สุดท้ายมันก็ทำอะไรไม่ได้ ก็ได้แต่ตัดพ้อผมออกมาทางสีหน้าแทน เด็กหนอเด็ก!ผมประทับริมฝีปากกับคนด้านล่างเบาๆ การที่ได้เห็นเรือนร่างของร่างเล็กที่อยู่ด้านล่างแบบไม่มีอะไรห่อหุ้ม เรียกให้ความรู้สึกเถื่อนดิบภายในตัวผมให้ตื่นได้อย่างรวดเร็ว

                'อือออ.....อื้ออออออ!!!!' เสียงครางเครือจากร่างเล็กดังออกมาไม่เป็นศัพท์ แต่ถึงยังไง ร่างเล็กก็ยังไม่ยอมให้ความร่วมมือกับผมอยู่ดีจนกระทั่งผมต้องใช้มาตรการสุดท้าย...

                ความรุนแรงในช่วงแรก ส่งผมให้ผมมาถึง ปากทาง..ได้อย่างรวดเร็ว แต่เนื่องจากร่างเล็กไม่ยอม ผมเลยต้องเจรจาต่อรองอยู่นานกว่า ร่างเล็กจะยอมเปิดทางให้

                'ถ้าปากกูบวม กูจะด่ามึงให้!' ร่างเล็กด่าผมครับ แน่นอนว่า ถ้าไม่ยอมเปิดทาง ผมก็จะกดจูบแรงๆลงบนกลีบปากของมัน แล้วถ้ามันยังไม่ยอมอีก ผมก็จะกดจูบลงบนตัวมันอีก เอาให้นับรอยกันไม่ถ้วนเลยคอยดู!

                'ก็ทำตัวให้มันเป็นเด็กดีสิ จะได้ปากไม่บวม!' 

                'นิสัยเสีย!'ผมกระแทกเข้ากับร่างของร่างเล็กอย่างแรง เพื่อเป็นการลงโทษ!

                'อย่าปากเสียได้ไหม' ผมกระซิบข้างหูมันเบาๆ เมื่อกี้มันร้องลั่นห้อง ถ้าไอ้กัสอยู่นอกห้อง มันคงได้หัวเราะเยาะผมแน่

                'อ๊ะ...อือ....อึด...อัด...ว่ะ!'

                'ก็อย่าเกร็งดิ!'ผมดุมันด้วยคำพูด ที่มันกำลังเป็นอยู่เป็นเพราะตัวมันแท้ๆ ที่กำลังต่อต้านผม ผมเริ่มขยับเป็นจังหวะช้าๆ และปรับจังหวะให้เร็วช้าตามลำดับของเราไป เรียวขาเล็กขยับออกมากขึ้น นั่นทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง ความโกรธของผมเริ่มหายไป เมื่อเห็นใบหน้าเล็กปริยิ้มออกมาน้อยๆ

                'ไม่..ไม่คิดถึง...กะ..กันบ้างเลยหรอ' ผมกระซิบข้างหูมันครับ ขณะที่ขยับสะโพกเข้าออกไปด้วย  เรียกเสียงครางอือจากลำคอสวย จนในที่สุดเด็กดื้อด้านก็ยอมแพ้ให้กับความต้องการของตัวเอง เรียวแขนเล็กที่ทุบตีผมจนถึงเมื่อครู่หยุดการทำร้าย เปลี่ยนเป็นตวัดคอผมแล้วโน้มให้ลงไปหามันแทน

                'หือ ว่าไง ไม่คิดถึงกัน...บ้างเลยหรอ' ผมกระทุ้ง..เข้าไปในตัวร่างเล็กอีกเพื่อต้องการคำตอบ

                'ยะ..หยุด...กะ...ก่อนสิวะ....จะ...ได้ตอบ!'ผมแสยะยิ้ม แล้วขยับสะโพกเข้าออกอย่างช้าๆ เสียงครางหวานหลุดออกมาจากริมฝีปากบางไม่หยุด ร่างเล็กสั่นสะท้านไปทั้งตัวด้วยความเสียวซ่าน ความรู้สึกเดิมๆ สัมผัสเดิมๆของเรากำลังจะกลับมา เมื่อร่างเล็กดันตัวขึ้นแนบชิดกับตัวผมที่อยู่ทางด้านบน

                ร่างเล็กยังเชื้อชวนให้ผมเข้าไปสำรวจอยู่อย่างต่อเนื่อง เหมือนกับยังไม่อยากให้ผมถอนตัวออกมา และเมื่ออีกฝ่ายยกร่างของตัวเองให้แนบติดกับตัวผม พร้อมกับเรียวขาที่ยกขึ้นเกี่ยวเอวของผมไว้เพื่อให้การสอดใส่นั้นเป็นไปได้ง่ายขึ้น

                'ความจริง ไม่ต้องช่วยก็ได้นะ'

                'จะบอกว่าเทพ?'

                'เอออออ...' ผมลากเสียงยาวก่อนจะดัน..เข้าไปอีก ร่างเล็กกระเส่าออกมาเสียงหวาน จนหูตาผมเริ่มจะมองไม่เห็น

                'อื้อ...อ๊า'

                'ตื่นมาแล้ว อย่าเพิ่งด่ากูนะ...'

                'ทำไมอีก! มีอะไรจะเซอร์ไพรส์กูอีกหรือไง'

                'อือ มีอีกเยอะเลยแหละ อย่างน้อยกูยังไม่ได้บอกความในใจกูให้มึงฟังเลย...'

                'หยุดพูดมากแล้วทำหน้าที่ของตัวเองต่อไปได้แล้ว! ไม่งั้นกูจะขึ้นข้างบนเองนะ!' 

                'ให้มันได้อย่างงี้สิครับ...เมีย'พอเราตื่นขึ้นมาอีกที ผมจะบอกทุกอย่างกับมันให้หมดเลย แต่ตอนนี้ผมขอบอกรักมันก่อนก็แล้วกัน ไว้จะหาเครื่องเซ่นไปให้ไอ้กัสมันวันหลังนะครับ

     [End Thunder]

 

     [Near]

                ไอ้กัสมันลากผมสองคนออกมาจากห้อง ก่อนที่ฉากเร่าร้อนจะได้บังเกิดขึ้น โหยเสียดายอ่ะ ผมก็อยากจะรู้นะว่า มันจะเป็นยังไง แต่ไอ้เหี้ยกัสมันแอบโน้มลงมากระซิบข้างหูผมเสียก่อน ผมเลยไม่อยากดูแม่งมันแหละ

 

                'จะไปแอบดูพวกมันทำไม มึงกับกูเด็ดกว่าเยอะ'

 

                ไอ้เหี้ย...เท่านั้น ที่กูจะมอบให้มึง!

                'พี่กัส มิลาน..' ตอนนี้ผมอยู่กันในลิฟท์ครับ อยู่ๆไอ้มิลานมันก็เปิดเรื่องขึ้นมา ผมแกล้งทำเป็นไม่สนใจอะไร แต่หูกูฟังอยู่นะขอบอก

                'มีอะไร' กัสมันก็ถามกลับไปครับ ผมยิ่งเอียงหูฟังเข้าไปใหญ่ ถ้ามึงตอบไม่ดี มึงกับกูได้แตกกันจริงๆแน่!

                'เปล่า ไม่มีอะไร'อ้าว ไอ้เหี้ย เพราะมีกูอยู่ใช่ไหม มึงเลยไม่พูดกันอ่ะ!

                'มีอะไรก็พูดมา ถ้าถึงชั้นล่างพี่จะไม่ฟังเราพูดแล้วนะ' ไอ้กัสใส่เสียงดุครับ ผมหันหน้าไปทางมิลานเล็กน้อย แอบสงสารมันนะ หน้ามันเหมือนจะร้องไห้เลยอ่ะ

                'มิลานยัง..รักพี่กัสอยู่นะ กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม...'

                !!เฮือก!! 

                !!!ตุ๊บ!!!

                'เห้ย บีบีกู!' ผมโวยวายแก้เก้อครับ เมื่อกี้ผมตกใจ แล้วเผลอทำบีบีที่อยู่ในมือตกพื้น

                'ค้างเลยกู เอ่อ...กูไม่ได้ตั้งใจขัดจังหวะพวกมึงนะ' ผมรีบหันไปบอกกับพวกมันสองคนครับ ไอ้มิลานทำหน้าอึ้งๆใส่ผม ส่วนไอ้กัสเหมือนจะทำหน้าขอบคุณผมเป็นนัยๆ เพราะประตูลิฟท์เปิดออกพอดี

                เอ่อ...กูไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะ

                เราเดินลงกันมาถึงชั้นล่างครับ เหี้ยกัสก็บ่นว่าหิวต่อทันที เพราะเมื่อกี้พี่ธันบุกขึ้นไปถึงห้อง ทำให้วงสุกี้เราแตก ไอ้กัสมันเลยยังแดกไม่อิ่มครับ อย่าว่าแต่มันเลย ผมเองตอนโดนมันลากออกมายังล้วกลูกชิ้นกินอยู่เลย

                'ไปกินร้านนั้นกันไหม บลูเคยพามากิน อร่อยดีนะ ไม่แพงด้วย' ไอ้มิลานเสริม พร้อมกับชี้ไปทางร้านอาหารเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ใต้คอนโดไอ้บลูพอดี

                'เออ ไปเหอะกูหิวมาก' ไอ้กัสรีบเดินไปทางร้านนั้นทันที ส่วนผมสองคนก็เดินตามมันไป แต่พอไปถึงประตูร้าน แทนที่ไอ้กัสมันจะเปิดเข้าไป แม่งเสือกหยุดอยู่หน้าร้าน อะไรของมึงเนี่ย!

                'ทำไมไม่เข้าไปวะ' ผมเอ่ย แล้วมองเข้าไปในร้าน 'พี่เต็นท์..' แล้วก็เห็นพี่เต็นท์แล้วก็พวกพี่เขานั่งอยู่ในนั้น คาดว่าคงตามพี่ธันกันมา แล้วพี่ธันบอกให้รออยู่ด้านล่างล่ะมั้ง

                'มีร้านอื่นไหมมิลาน!'ไอ้กัสเริ่มหัวเสีย เมื่อพี่เต็นท์และพวกหันมาเห็นพวกเรา ที่ยืนอยู่หน้าร้าน

                'ไม่มีแล้วพี่กัส'

                'แพงแค่ไหน ก็จ่ายได้ ขอแค่ไม่มีไอ้พวกเหี้ยนั่น!' พี่เต็นท์เดินมาทางเราแล้วครับ พี่เขายิ้มสบายๆ เหมือนจะไม่อยากมีเรื่องกับไอ้กัสมัน แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร 

                'ไปนั่งด้วยกันไหม'

                'เอาสิครับ หิวจะตายอยู่แล้ว ไปเหอะมิลาน ไปเหอะกัส มึงก็หิวไม่ใช่หรอ' ผมว่า ผมรีบดันหลังมิลานให้เข้าไปในร้าน แล้วแอบดึงแขนไอ้กัส ให้ตามเข้าไป ผมว่ารอบที่แล้วแม่งไม่ล้มโต๊ะ แต่รอบนี้แม่งอาจล้มโต๊ะได้!

                ในที่สุดเราก็ร่วมโต๊ะเดียวกันครับ ผมยินยอม อนุญาติ และ อนุมัติ เป็นนัยๆให้ไอ้มิลานนั่งประกบไอ้กัสไป เผื่อมันของขึ้นขึ้นมาจะได้รั้งมันไว้ทัน แต่ดูท่าจะไม่มีอะไรหรอกครับ เพราะพวกพี่ธันวันนี้มากันแบบสงบ

                'เห้ย!! ของมึง!' ไอ้กัส เห้ย กลางวงอาหาร ก่อนจะโยนบางสิ่งบางอย่างคล้ายกุญแจรถไปทางพี่เต็นท์

                'เครื่องยนต์กระจอก กูไม่เอาหรอกว่ะ น้องๆมาสั่งของดิ๊!' ที่แท้มันก็คืนกุญแจรถให้พี่เต็นท์นั่นเอง หน้าพี่เต็นท์กับพวกเพื่อนเขาอย่างพี่ต้นน้ำ พี่เอ็ม ดูอึ้งๆไปนะ แน่ล่ะสิเป็นผม ผมก็คิดว่า เหี้ยกัสแม่งเอารถไปชำแหละขายแล้ว

                'ขอบใจ'

                'กองไว้ตรงนั้น เอาสปาเก็ตตี้ซอสหมู...ผักโขมอบชีส....แล้วก็....เพนเน่ คาโบนาร่า' 

                'กัสมันไปอดอยากมาจากที่ไหนหรือเปล่าวะ...' พี่เต็นท์พูดเบาๆ ข้างผม ผมเองก็พยักหน้าเห็นด้วย แม่งแดกแหลกเลยล่ะครับ ถ้าเป็นผม ผมตายตั้งแต่สปาเก็ตตี้แล้ว แม่งเลี่ยนชิบหาย ยิ่งมาเจอเพนเน่ คาโบนาร่าอีกรอบ กูตาย!

                สักพักพวกเราก็กินกันเสร็จ แต่ต้องนั่งรอไอ้กัสมันสวาปามเครื่องเซ่นมันก่อน (ได้ข่าวว่าพี่ธันโทรลงมาหาพี่เต็นท์ แล้วให้พี่เต็นท์สั่งเครื่องเซ่นให้ไอ้กัสมันแดก ตามที่มันอยากจะแดก และแดกไหว...) 

                'อิ่มเหี้ยๆ' ในที่สุดกัสมันก็วางช้อนลงครับ มันแดกจริงแดกจัง เหมือนอดอยากอะไรอย่างนั้น มันเอามือลูบท้องเบาๆ ภาพลักษณ์เหี้ยๆที่มึงสร้างขึ้นมา แม่งหายหมดก็งานนี้แหละ

                'น้องๆคิดเงิน' พี่เต็นท์เรียกพนักงาน ไอ้กัสมันไม่ได้จบแค่สามจานแรกหรอกนะ เพราะหลังจากพี่ธันโทรลงมา แม่งสั่งแหลกเลยอ่ะ ดีนะแม่งไม่หน้าด้านสั่งกลับบ้านด้วยอีก

                'ทั้งหมด xxxx บาทค่ะ' พนักงานเอ่ยพร้อมกับวางถาดบิลลงบนโต๊ะ ไอ้กัสหยิบแบงค์พันสองใบลงถาดเช่นเคยด้วยความรวดเร็ว แล้วลุกขึ้นจากโต๊ะ

                'จะรอร้านปิดหรอมึง'

                'กัส มึงไม่เอาเงินทอนหรอ' ผมถามมันครับ เพราะแม่งจะเดินถือซองบุหรี่ออกจากร้านแล้ว แดกเสร็จแล้วก็สูบ สูบเสร็จแล้วก็แดก!

                'ทิปเด็กมันไปดิ'ไอ้รวยเอ๊ย!

 

พวกผมแยกกับพวกพี่เต็นท์ตรงหน้าร้านครับ เพราะพวกพี่เต็นท์มีงานต่อ แล้วที่นั่งอยู่ข้างล่างก็ไม่ได้จะรอพี่ธัน แต่เพราะหิวข้าวกันเลยแวะมากิน พวกพี่เต็นท์ไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่านี่คอนโดไอ้บลู แล้วพี่ธันก็อยู่บนห้อง มารู้ตอนที่พี่ธันโทรลงมาเนี่ยแหละ

                'นั่งหน้าสิ' ผมบอกกับไอ้มิลาน มันลังเลอยู่ระหว่างประตูหน้ากับประตูหลังรถไอ้กัสอยู่นาน จนกระทั่งผมเดินไปหา

                'ไม่เอาหรอก เดี๋ยวกูกลับเอง จะยืมโทรศัพท์มึงโทรหาพี่ดีฟส์อยู่พอดีเลย'

                'เห้ย ไม่เป็นไร เดี๋ยวกูให้มันไปส่งมึงเอง ไหนๆก็อยู่ด้วยกันแล้ว' ผมว่า ไอ้กัสมันเดินออกไปสูบบุหรี่อยู่ที่อีกมุมหนึ่ง พวกผมเลยได้คุยกันสองคนอยู่ที่ข้างรถมัน

                'ไม่เป็นไร แม้แต่จะคุย พี่เขายังไม่คุยกับกูเลย... สงสัยกูกับเขาคงกลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้วว่ะ' ไอ้มิลานพูด พร้อมกับตีหน้าเศร้าไปด้วย ผมก็กำลังจะรู้สึกสงสารมันอยู่หรอกนะ แต่อยู่ๆก็เหมือนมีกระแสจิตจากเหี้ยกัส สั่งให้อย่าสงสารมัน...

    

                 'อื้อ...อ๊าาา...'

                'นิเนียร์ ฟังกูให้ดีๆนะ'

                'ทำไมหรอ...อือ' ผมช้อนตามองร่างสูงบนตัวผมอย่างโหยหา วินาทีนี้ต้องมันเท่านั้น ...และจะต้องมันคนเดียวตลอดไป

                 'อย่าไปไว้ใจไอ้มิลานให้มันมาก ไอ้เด็กนั้นมันร้าย มันจะทำร้ายมึงโดยที่มึงไม่รู้ตัว เข้าใจไหม'

                 'อ๊าาา...มะ..ไม่เข้าใจ'

                'ดีแล้ว.. เข้าใจแค่ท่านี้ตอนนี้ก็พอ'

 

                กัสมันหมายความว่ายังไงกันแน่... ไม่ใช่มันคนเดียวที่เตือนผมเรื่องมิลาน ขนาดไอ้บลูยังเตือนผมเรื่องมิลานเลย ถ้ามิลานมันจะร้ายขนาดนั้น มันคงเป็นเพื่อนผมไม่ได้หรอก

                'ขึ้นรถสิ' ไอ้กัสสูบบุหรี่เสร็จแล้ว มันเลยเดินมาหาผมสองคนที่รถ ผมปลายตามองมิลาน และหันไปมองไอ้กัสอีกรอบ อยากจะให้มันพูดอะไรขึ้นมาบ้าง  

                'เดี๋ยวพี่ไปส่งเราก็แล้วกัน ไหนๆก็หม้อเดียวกันแล้ว' กัสมันว่า ก่อนจะทรุดตัวเข้าไปในรถ ส่วนผมก็เปิดประตูด้านหลังขึ้นไปนั่ง ไอ้กัสถลึงตามองผมผ่านกระจกมองหลังรถด้วยความไม่พอใจตลอดทาง จนกระทั่งถึงบ้านมิลาน

                'ย้ายมานั่งหน้าได้แล้วไอ้สัด ทำอะไรไม่ได้ห่วงผัวเลย' มิลานลงไปแล้ว กัสมันเลยโวยวายได้ หลังจากเก็บเงียบมาตลอดทาง ผมขี้เกียจเปิดประตูขึ้นๆลงๆ เลยกระโดดข้ามเบาะแม่งไปเลย ไอ้กัสเลยได้ตบหัวผมอย่างแรงไปสองสามที

                'เหี้ย!! เดี๋ยวเบาะกูเลอะ กูจะกดมึงตามจำนวนรอยเลยไอ้สัด!'

                'เท้ากูสะอาดไอ้สัด แล้วทำไมต้องตบกูด้วย พูดดีๆกูก็เข้าใจแล้ว!' ผมหันกลับไปวีนใส่มันบ้างครับ กัสมันเลยดึงผมเข้าไปหอมแก้มเบาๆ 

                'ถ้าไม่ตบ ก็ไม่ได้ง้อสิ จริงมะ' มันว่าแล้วเอานิ้วจิ้มแก้มผม อย่าเรียกว่าจิ้มเลยครับ ทิ่มเลยดีกว่า

                'ไม่ได้หวังอะไร นอกจากได้แอ้มกูเป็นพอใช่ไหมกัส'

                'ถูกต้อง!!'

                'เหี้ย ขับรถไปเลยไป ไหนมึงบอกมีงานต้องทำ'

                'เออใช่ เยส!! งานกูยังไม่ได้เริ่มเลยนี่หว่า' กัสมันว่าแล้วก็เหยียบตีนหมาใส่คันเร่งรถไป จนกระทั่งถึงบ้าน เมื่อถึงปากซอยยังไม่วายใช้ผมลงไปซื้อกล้วยทอดอีก เออวันหลังกูจะใช้มึงไปซื้อของให้กูกินบ้าง!!!

     

                'แค่นี้จริงๆหรอ...' วันต่อมา ไอ้กัสออกไปมหาลัยแต่เช้า เพื่อไปสะสางงานที่ติดค้างของมันให้เรียบร้อย ไม่อยากจะบอกว่า เมื่อคืนกัสมันทำหามรุ่งหามค่ำเลยแหละ กว่าจะเสร็จก็เกือบเช้าแล้ว มันเข้ามานอนในห้องผมได้ไม่เท่าไร แม่งก็ลุกอาบน้ำแต่งตัวขับรถออกไปแล้ว พอมันออกไปได้สักพัก สายๆไอ้บลูมันก็เข้ามาอัพเดทข่าวมันให้ผมฟังถึงบ้าน

                'เออ ไม่มีอะไรเลย มันบอกว่า มันเคลียร์กับไอ้ทงไอ้ทาร์ตอะไรนั่นเรียบร้อยแล้วด้วย ... มันบอกว่าอยากให้กูเชื่อใจมันให้มากกว่านี้ ก็เท่านั้นเอง' 

                'ไม่ได้มีออนทง..ออนท๊อป'

                'เหี้ยเนียร์ กูว่ามึงอยู่กับไอ้พี่กัสมากเกินไปแล้วนะ รู้สึกมึงจะหื่นมากอะไรมากเกินไปแล้ว' ไอ้บลูว่าผมครับ 'มีไรกินบ้างวะ หิว'

                'ไปดูในครัวดิ ไม่รู้คุณพี่กัสชั่วซื้ออะไรทิ้งไว้ให้กูกินบ้าง' ผมบอกแล้วลุกขึ้นยืนครับ ไอ้บลูพยักหน้าแล้วลุกขึ้นจากพื้น เดินเข้าห้องครัว ส่วนผมเองก็เดินตามมันไปติดๆเช่นกัน บลูบอกว่าพี่ธันเล่าเรื่องแฟนเก่าพี่เขาให้มันฟังแล้ว ส่วนตัวมันก็เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง สภาพมันกับพี่เขาตอนนี้เลยค่อนข้างที่จะคลุมเครือหน่อย แต่พี่ธันก็ยืดอกรับแบบแมนๆว่า เขากับแฟนเก่าเคยทำกันอย่างนั้นจริงๆ และอยากจะให้บลูมันฟังพี่เขาก่อน อย่าเพิ่งพลีพลาม เพราะยังไงพี่เขากับแฟนคนนั้น ก็เลิกลากันไปแล้วจริงๆ และเห็นว่าวันนี้พี่ธันก็จะไปคุยกับพี่คนนั้นให้รู้เรื่องอีกด้วยล่ะมั้ง ก็ดีแล้วแหละ

                'เห้ย บ้านมึงอุดมสมบูรณ์ดีว่ะ' มันว่าครับ แน่ล่ะเมื่อเช้าผมใช้ไอ้กัสออกไปซื้อของ มันเลยจัดมาให้ผมอย่างเยอะ มันคิดว่าผมจะกินเยอะแบบมันไง เลยซื้อมาโคตรเยอะเลย ไก่ทอด หมูทอด หมูปิ้ง น้ำเต้าหู้ โอ้ย ... แค่บอกว่า 'ถ้าออกไปซื้อให้ กูยอมให้มึงจุ๊บแก้มกูเลยอ่ะ' เท่านั้นแหละครับ แทบจะวิ่งออกไปในทันทีทันใด

                'อือๆ จะกินอะไรก็หยิบมา เหลือให้ไอ้กัสมันกินด้วย กูว่ากลับมาแม่งก็ปอบลงเหมือนเดิมอ่ะ'

                'แลดูมันเชื่องลงเนอะ เอาอะไรเลี้ยงมันวะ หรือว่าตัว!'

                'ไอ้สัด มึงออกไปจากบ้านกูเลย กูเป็นเพื่อนมึงนะ กูขู่ว่าถ้าแม่งยังแกล้งกูอีก กูจะฟ้องพ่อมันก็เท่านั้นเอง เลยเชื่องผิดหูผิดตา'

                'หรออออ ถามจริงเหอะ มึงยังซิงอยู่ใช่ป่ะ' ไอ้บลูถามผมครับ แล้วทำหน้าจริงจังสุดๆ

                 '......เอออออ...สิวะ...กูไม่ได้เสียซิงให้ใครต่อใคร อย่างมึงหนิ' ผมว่าแล้วยกแก้วน้ำเต้าหู้เดินออกจากครัว เดี๋ยวแม่งถามกูต่ออีก ว่ากูเป็นท่าไหนบ้าง แค่กูดูหนังโป๊ ก็ไม่ได้หมายความว่ากูจะมั่วเหมือนใครบางคนนะครับ!

                'ขอถามอะไรอีกรอบได้ไหมวะ เนียร์' ไอ้บลูที่เดินตามหลังผมมาพร้อมกับถุงข้าวเหนียวไก่ทอด จะถามผมอีกรอบ

                'อะไรอีก'

                'ไอ้กัสกับพี่เต็นท์.. ถ้าให้เลือกมึงจะเลือกแบบไหนวะ หล่อเลวโหดเหี้ยๆ หล่อน่ารักดูดีผู้ดีสุดๆ' เอ่อ ไอ้อันแรกนี่ไม่ใช่พี่เต็นท์ใช่ไหม?

                'เลือกอะไรของมึง ไอ้กัสมันพี่กูนะโว้ย'ไอ้บลูเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆครับ มันจ้องหน้าผม เหมือนจะเอาผมให้ตายจนได้

                'เออดี เพราะเพื่อนกูแม่งจะเอาเบอร์เหี้ยพี่กัสให้ได้ กูเลยต้องมาถามความสมัครใจจากน้องชายมันก่อน เดี๋ยวมันได้วิ่งมาฉีกอกกูทำไง'

                'เหอะๆแล้วมึงคิดว่ามันจะไม่ฉีกอกกูหรอวะ' ผมถามมันกลับครับ

                'เออจริง แต่ช่วงนี้เฮียกัสแม่งดูเรียบร้อยขึ้นเนอะ'

                'ทำไม มันชี้ทางสว่างให้มึงกับพี่ธัน เลยเห็นว่ามันเป็นคนดีใช่ป่ะ' ผมเอาเรื่องของมันมาล้อครับ ไอ้บลูมันไม่ยอมเล่าเรื่องฉากหวิวของมันกับพี่ธันให้ผมฟังหรอก แต่ผมดูเอาจากร่องรอยบนตัวมันเอายิ่งตรงแถวๆคอนี่โคตรจะแดง ไม่ได้มีอะไรเล๊ยยยยย....

                'ไอ้บ้า ทางสว่างอะไร กูจะตายห่าอยู่แล้ว แม่งแรงเยอะชิบหาย...ใส่เข้ามาได้'

                '...จริงหรอวะ' ผมทำหน้าอยากรู้สุดๆ ไอ้บลูพยักหน้าเบาๆ หน้าแม่งค่อยๆแดงขึ้นเรื่อยๆ

                'ทำไมวะ ตอนมึงคบกับพี่เครป มึงยังมาเล่าให้กูฟังเป็นฉากๆๆเลย ทีนี้ทำไมเล่าให้กูฟังบ้างไม่ได้'

                'ไอ้เหี้ยเนียร์...'

                'ครับไอ้เหี้ยบลู....'

                'มึงยังจูบไม่เป็นเลย มึงจะรู้ไปทำไมวะ! หรือจะเก็บไว้ยั่วพี่เต็นท์ กูอยากจะบอกว่าไม่ต้องหรอกนะ พี่เต็นท์พื้นฐานแน่นมาก! มึงไม่ต้องทำอะไรเลย มองหน้าพี่แกบ่อยๆ เอียงคอไปมา เดี๋ยวแม่งก็ลากมึงขึ้นเตียงเอง เชื่อกู!'

                'หรอ....' ผมตอบไอ้บลูไปสั้นๆ เชื่อสิอีกัสได้ยินแม่งของขึ้นแน่ นั่นไงพูดถึงแม่งก็มาเลย เมื่อเช้ามันบอกผมว่า จะออกไปส่งงานอย่างเดียว แล้วรีบกลับมานอน แม่งรีบกลับมาจริงๆ

                'เฮียหวัดดี'ไอ้บลูทักทายไอ้กัสที่เดินหัวฟูเข้าบ้านมา เอิ่ม..อย่าได้บอกกูนะ เมื่อเช้ามึงออกจากบ้านไปทรงนี้อ่ะ

                'เยสสสส!! ลุกขึ้นมาไหวด้วย กูนึกว่าแม่งจะกดมึงจบเตียงไปแล้วซะอีก' ไอ้กัสเองก็ทักทายไอ้บลูกับเช่นกัน เอิ่ม ทักทาย...

                'หุบปากไปเลยเฮีย แนะนำบ้าบออะไรวะ มันเล่นผมไม่หยุดเลย'

                'หึๆๆ โดนไปกี่ยกอ่ะมึง' กัสเดินเข้ามาในห้อง แล้วยกน้ำเต้าหู้ในแก้วผมขึ้นดื่ม นั่นไงกูว่าแล้วปอบแม่งลง

                'มึงไปเอาอะไรมาให้กูกินหน่อยดิ หิว' ไอ้กัสหันมาบอกผมครับ ทำไมมันต้องไล่กูออกด้วย เวลากูจะฟังฉากเขาอย่างงั้นๆกันอ่ะ 'เร็วดิ!!!!'

                'เออ! แม่งไรวะ' ผมเดินเหวี่ยงออกมาจากห้องนั่งเล่นครับ สักพักเสียงไอ้บลูกับไอ้กัส ก็ดังขึ้นตามมา แหม มึงคุยกันได้ถูกคอจริงอะไรจริงเลยนะ แล้วพอผมเดินเข้าไป แม่งเงียบทั้งคู่ จะถามไอ้บลูก็ฝันไปเหอะ มันไม่ยอมบอกหรอก ส่วนจะถามไอ้กัส แม่งเดี๋ยวผมได้เจอของจริงแล้วผมจะซวยอีก! 

 

สรุปเพราะกูบอกว่ากูซิงใช่ไหม แม่งไม่มีใครเล่าให้กูฟังสักคน!

               

'มึง...มึงว่ากูกับไอ้ธันจะกลับมาคบกันอีกดีไหมวะ' ไอ้กัสขึ้นไปได้สักพักแล้วครับ ผมสองคนเลยนั่งอยู่กันข้างล่าง บลูมันชวนผมเล่นเกมส์ที่มันติดมาในรถด้วย สักพักมันก็วนเข้าเรื่องเดิม

                'กูไม่รู้ เพราะกูไม่ใช่มึง แต่กูจะบอกมึงไว้ว่า จำไว้นะบลู เราไม่ควรให้โอกาสใครเกินสองครั้งในความผิดเรื่องเดิมๆ จำไว้ให้ขึ้นใจนะ...'

                'แล้วมึงอ่ะเนียร์ มึงเคยให้โอกาสใครแล้วหรือยัง กูหมายถึง มันจะเป็นยังไง เราเจ็บหรือมันเจ็บวะ...' ไอ้บลูถามผมกลับครับ ผมถึงกับไปไม่ถูก ผมได้แต่ก้มหน้านิ่ง ส่วนเกมส์แม่งจะโอเว่อร์ไงก็ช่างแม่งมันไป

                'ไม่รู้สิ...........' เพราะกูยังไม่รู้ว่าโอกาสที่กูให้มันไป มันจะเอาไปใช้ในทางที่ดี หรือ ทำให้กูเสียใจอีกเหมือนเดิม หรือเปล่า.........

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา