EAT ME IF YOU CAN [[ Yaoi ]]
เขียนโดย iamkin
วันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 21.05 น.
แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2557 19.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
15) ตอนที่ : 15
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความEAT ME IF YOU CAN [15]
[Near]
'ครับๆๆ ผมดีใจครับที่แม่จะกลับสักที...ครับๆ...คร้าบ....รู้แล้วครับ.......รักแม่เหมือนกันครับ' ผมวางหูโทรศัพท์บ้านลงกับแป้นหลังจากคุยกับแม่ได้เกือบครึ่งชั่วโมง ซึ่งก่อนหน้านั้นเป็นลุงรัชประมาณสิบนาที เพราะลุงรัชแกกลัวลูกชายแกไปทำซ่าส์ไว้ เลยสั่งให้ผมควบคุมความประพฤติไอ้กัสอย่างเด็ดขาด เพราะรู้สึกว่าช่วงนี้ชายกัสจะจ่ายแหลกเหลือเกิน
'แม่มึงโทรมา?' พอผมวางสายปุ๊บ คู่กรณีในสายก็เผยตัวให้เห็น วันนี้วันหยุดอีกแล้วครับ ผมล่ะดีใจจริงอะไรจริงเหอะ จะได้ไม่ต้องตื่นเช้าแหกขี้ตาไปโรงเรียน
'เออ อีกสองสามวันก็จะกลับมาแล้ว พ่อมึงฝากความคิดถึงมากกก ถึงมึงด้วยนะกัส' ผมเอ่ย ไอ้กัสพยักหน้าตอบเบาๆ คุณเชื่อไหมสองเกือบสามปีที่แม่ผมแต่งงานกับพ่อมัน ผมไม่เคยได้ยินมันเรียกลุงรัชว่าพ่อเลย ขนาดแม่ผมมันยังจะเรียกคุณอาเลยด้วยซ้ำ อีกอย่างบางครั้งผมก็ได้ยินลุงรัชแทนตัวเองกับไอ้กัสว่าลุงบ้าง บางครั้งที่อยู่ต่อหน้าแม่ผมกับผมก็แทนตัวเองว่าพ่อบ้างแหละ แต่ไอ้กัสนี่สิแทบจะไม่เคยเรียกลุงรัชว่าพ่อเลย
จะว่าไปกัสกับลุงรัช ก็ไม่ได้มีความคล้ายคลึงกันเลยด้วยซ้ำ เพื่อนผมบางคนที่เห็นมันตอนมันไปส่งผมที่โรงเรียน บ้างบอกว่าหน้าแม่งโคตรลูกครึ่ง แต่ผมว่าก็จริงนะ เพราะกัสแม่งจมูกโด่งมาก โด่งเกินคนไทยด้วยซ้ำ สีตามันก็เช่นกัน ถ้ามองลึกลงไปดีๆกัสโซ่ไม่ได้ตาสีดำ มันตาสีเทา อารมณ์เหมือนพวกคอนแทคเลนส์สีที่พวกวัยรุ่นใส่กันอ่ะ ขนาดไอ้บลูเจ้าพ่อคอนแทคเลนส์ยังเคยทักไอ้กัสเลย ว่าไอ้กัสใส่คอนแทคเลนส์เบอร์อะไร แต่ผมถามมันแล้วครับ มันไม่ได้ใส่
'ไปดูหนังกันไหม นิเนียร์' มันดึงผมเข้าไปกอดไว้แบบหลวมๆ แล้วเอาปลายคางมันมาวางไว้บนไหล่ผม พร้อมกับใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลางคีบตั๋วหนังขึ้นมาปึกหนึ่ง
'เห้ย เรื่องนี้กูอยากดู'
'กูเคยเดาใจมึงผิดด้วยหรอ ไปกับกูนะ นะครับนิเนียร์' มันว่าแล้วพูดเสียงหวาน แต่ผมไม่สนแม่งมันหรอก มาเป็นปึกขนาดนี้แสดงว่าผมไม่ได้ไปกับมันสองคน ผมปลอดภัยแน่นอน!
'เออๆๆ'
'กัส ทำไมเพื่อนมึงยังไม่มาเลยวะ' ผมหันไปกระซิบคนที่นั่งข้างๆ เรามาถึงห้างตอนเกือบเที่ยง แวะหาข้าวกิน แล้วพอบ่ายก็เข้าโรงหนัง กัสแม่งจองแถวบนสุดเลย แต่หน้าแปลก ทั้งๆที่เป็นหนังเข้าใหม่ชนโรง ทุกแถวเต็มหมด ยกเว้นแถวที่ผมกับมันนั่งอยู่ เพราะในขณะที่แถวอื่นนั่งกันเต็มเอี้ยด แถวผมกับมันมีแค่ผมกับมันเท่านั้นที่นั่งอยู่
'ไม่รู้สิ..ไม่อยากขัดจังหวะเรามั้ง' กัสมันว่า ก่อนที่มันจะโน้มใบหน้าหล่อๆของมันมาพิงไหล่ผม
'กูจะดูหนัง' ผมพูดดักคอมันไว้ก่อน เพราะตอนนี้แขนมันเริ่มป้วนเปี้ยนตามตัวผมแล้ว ผมน่าจะยอมให้แม่งซื้อป๊อบคอร์นกินไป มือมันจะได้ไม่ว่างมาจับนู่นจับนี่ผมไง
'หนังยังไม่เริ่มเลย แต่เรามาเริ่มกันเหอะ' มันไม่พูดเปล่า มันเงยหน้าขึ้นมาจากไหล่ผมที่พิงอยู่ มาหอมแก้มผมเบาๆ ไอ้สัดทำอะไรอายคนเขาหน่อยเหอะ!
'ไอ้เหี้ย...กู-จะ-ดู-หนัง'
'โหยไรว้า.. ไม่ได้ดูหนังด้วยกันมาตั้งนาน' กัสมันยังพูดต่อ พร้อมกับลูบขาผมไปด้วย ให้ตายเหอะ! ผมเริ่มไม่มีสมาธิดูหนังแล้วนะ!
[End Near]
[Casso]
ผมใช้มือลูบตัวเนียร์แล้วก็เบียดตัวเองกับเนียร์ไปพร้อมกัน คุณคงสงสัยว่าทำไม ไม่มีใครมานั่งแถวผมเลยก็แน่น่ะสิ ก็ผมจองหมดทั้งแถวแล้วหนิ ไม่อยากให้เนียร์นั่งใกล้ใคร แล้วก็ไม่อยากให้ใครนั่งใกล้เนียร์ อีกอย่าง จะมีใครสักกี่คนที่พึงพอใจกับการเห็นฉากสุดสวีทของผมล่ะครับ ผมก็แค่ดึงบัตรมาสองใบจากทั้งแถวที่ผมจอง ส่วนที่เหลือผมเผาทิ้งไปแล้ว เพื่อใครแม่งไปเจอในถังขยะ กูซวยพอดี
'เนียร์...' ผมกระซิบข้างหูมัน สงสารมันนะ เพราะมันเป็นคนชอบดูหนัง รอบที่แล้วขนาดผมบุกไปนั่งข้างมัน มันยังแทบไม่รู้ว่าเป็นผมเลย
'หือ'
'จูบหน่อยดิ'
'ไปตายซะ! กูจะดูหนัง...' ร่างเล็กว่า พร้อมกับปัดมือผมออก ผมเลยโน้มคอมันมาจูบเลย เสียงอื้ออ้าดังออกจากลำคอของมัน เพื่อเป็นการประท้วง
'เหี้ย คนเห็นหมด!'
'งั้นห้องน้ำไหม..'
'ไอ้กัส!' มันถลึงตาใส่ผมครับ ผมเลยบดจูบลงบนกลีบปากมันอีกรอบอย่างไม่ลังเล ผมบดคลึงจูบเร้าอารมณ์ลงไปซ้ำๆ ขณะลูบไล้ร่างกายมันไปด้วย แสงไฟอันน้อยนิดของโรงหนัง และเด็กหน้าโรงที่ผมทิปไว้แล้ว ไม่สามารถขัดจังหวะผมได้หรอกครับ แม้กระทั่งหนังสุดมันส์ ที่เขาว่าจะทำรายได้เป็นร้อยเป็นพันล้าน ก็เอาผมไม่อยู่
'ยังจะอยากดูหนังอีกหรือเปล่าครับ..นัวเนีย' ผมพูดชิดริมฝีปากบาง ก่อนจะบดจูบลงมาอีกรอบ ริมฝีปากของมันหอมหวานมากกว่าคัพเค้กที่ผมชอบกินเสียอีก
'...แฮ่กๆ...' เสียงหอบจากริมฝีปากเล็ก ยิ่งทำให้เครื่องผมร้อนเข้าไปอีก ส่วนตัวนิเนียร์เองก็คงอยากจะเก็บความหอมหวานนั้นไว้เหมือนกัน เพราะหลังจากผมถอนจูบออกมา เจ้าตัวก็ใช้ลิ้นเล็กของตัวเอง ที่ผมเคยสัมผัสมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เลียริมฝีปากตัวเองเบาๆ
'.....ไอ้กัส...อย่านะ'
'ถ้าอย่า..ก็ต้องยอมให้จูบ'
'แต่กูจะดูหนัง!'
'ไว้กูพามึงมาดูวันหลังก็ได้'
'งั้นจูบวันหลังก็ได้!' นิเนียร์เถียงผมเสียงเข้มเลยครับ มันผลักผมออกห่างตัวมัน จนกระทั่งผมยอมแพ้ ผมหลี่ตามองมันในที่มืด ก่อนที่มันจะเอื้อมตัวผ่านเบาะที่นั่งมากระซิบข้างหูผมแทน
'กลับห้องก่อนสิ..'
'กลับเลยไหม อยากจะนอนแล้วอ่ะ'
'งั้นก็นอนไปเลย กูจะดูหนัง!'
'เห็นหนังดีกว่ากู!'
'หรือจะอด...' เสียงเด็ดขาดของร่างเล็กทำให้ผมจนมุมในที่สุด ผมยอมถอยออกมาจากตัวร่างเล็กอันแสนน่ากอด แล้วหันมากอดอกตัวเองแทน
'ขอในห้องน้ำอีกนะ'
'ไอ้บ้ากัส! ไอ้โรคจิต ไอ้หื่น!'
'กูก็ไม่ได้หื่นมากไปกว่ามึงหรอกเนียร์....'หนังผ่านไปครึ่งเรื่องแล้วครับ แต่ผมรู้สึกเหมือนหนังเพิ่งเริ่มเองอ่ะ กูอยากกลับบ้าน!! ไม่อยากดูแล้วโว้ย!!
'ห้องน้ำเหอะ..'
'โรคจิตป่าวเนี่ยมึง!' มันหันมาโวยวายผมครับ คุณเชื่อไหม ผมดูหนังแม่งไม่รู้เรื่องแล้ว หรืออีกนัย ผมแอบหิ้วเด็กมาดูก่อนแล้วอ่ะ เฮ้ๆแค่ดูหนังกันเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไรเลย ...ก็ไซร้กันบ้างนิดหน่อยเอง โด่!!
'นิเนียร์..เห็นหนังดีกว่าพี่กัส..หรอครับ' ผมพูดเสียงหวาน แล้วเอานิ้วจิ้มแขนมันไปด้วย ไอ้เนียร์หันมาค้อนตาใส่ผมวงใหญ่ ก่อนจะหันไปดูหนังต่อ
'นิเนียร์...ครับ'
'ถ้ามึงไม่ไหว ออกไปก่อนเลยก็ได้นะ! กูจะดูหนัง!!!'สัดเอ๊ย รอบหน้ากูจะเหมาทั้งโรงเลย กูจะได้จับมึงปล้ำเสียที!! แถวเดียวแม่งน้อยไป!!
'เหี้ย..กูงอนมึงแล้วนะเนียร์' ผมว่า แล้วดีดตัวออกจากมันเลย นิเนียร์หันมามองผมด้วยหางตา! หางตา!! แค่นั้น ก่อนจะหันกลับไปที่จอหนังดังเดิมกูโดนเมินอ่ะ! กูไม่ยอม เดี๋ยวคืนนี้กูจัดหนักแน่!!! ไอ้แว่นเดี๋ยวก่อน
แต่จะเรียกมันไอ้แว่นได้ก็ไม่เต็มปากหรอกครับ เดี๋ยวนี้นิเนียร์แม่งรู้ตัวว่าพอโตเป็นสาว(??) แล้วตัวเองสวย(???) มันเลยหาซื้อคอนแทคเลนส์สายตามาใส่แทนแว่นของมัน เดี๋ยวผมจะไปถล่มไอ้บลู แม่งสนับสนุนให้เมียกูแรด! เดี๋ยวก่อนเหอะมึง
'กัส...'เราเงียบไปอยู่นานครับ พอเสียงหวานเรียกผมเท่านั้นแหละ หูตามันสว่างจริงอะไรจริง
'ครับบบบ'
'ไม่ต้องทำเสียงดีใจ กูจะบอกว่าพระเอกแม่งเหี้ยเหมือนมึงเลยอ่ะ'อ้าว เรียกกูเพื่อไปด่า ..
'เขาเรียกว่าเลวอย่างมีสไตล์โว้ย'
'ไม่อ่ะ เพราะพระเอกแม่งเหี้ยในหนัง แต่มึงในหนังก็เหี้ย ตัวจริงก็ยิ่งเหี้ยใหญ่'อะหือ บอกได้คำเดียว ไม่ใช่เมีย นี่กูขึ้นก้านคอไปแล้วนะ..
จากนั้นผมก็เงียบปากเงียบคำต่ออีกประมาณชั่วโมงนึงครับ สักพักแสงไฟในโรงหนังก็เปิด ในที่สุด กูก็เป็นอิสระ! ผมรีบลากนิเนียร์ออกมาจากโรงหนังก่อนที่คนอื่นจะออกกันมา
'กัส หิวว่ะ'
'อยากกินอะไรอ่ะ' ผมถามมันกลับ ความจริงผมก็หิวแล้วนะ คือแบบว่าช่วงนี้ผมต้องใช้แรง..หมายถึงพลังงานเยอะไง เลยต้องกินเก็บไว้ใช้บ้าง
'แล้วมึงอยากกินไรอ่ะ' มันถามผมกลับครับ
'อยากกินเมีย.. กินร้านไหนได้วะ' ผมโน้มลงไปกระซิบข้างหูมันครับ มันส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะรีบเดินเข้าฟู้ดคอร์ทไปครับ กลางวันหนีได้หนีไปเหอะ กลางคืนมึงไม่รอดกูแน่!
[End Casso]
[Near]
เดินครับผมกำลังเดินอยู่ มือข้างหนึ่งถือจานผัดไทยของผมเอง ส่วนมืออีกข้างถือหอยทอดของอีกัสมัน ช่วงนี้มันแดกได้แดกดีเลยครับ ไม่รู้จะแดกอะไรนักหนา หอยทอดนี่ไม่ใช่เหยื่อรายแรกของมันนะ เหยื่อรายแรกมันนี่ลูกชิ้นสี่ไม้ ลงท้องมันไปแล้ว
'เร็วๆ มัวแต่เดินอ่อยเหยื่ออยู่ได้'
'เอาไป' ผมว่าแล้วดันจานหอยทอดกระทะร้อนให้มันไป พร้อมกับถ้วยน้ำจิ้ม ส่วนผมก็เดินไปซื้อน้ำดื่มอีกรอบ หวานกับกูได้ไม่เท่าไรไง ก็เริ่มใช้กูเป็นทาสเหมือนเดิม
'พี่ครับ น้ำเปล่าสองขวด' ผมบอกกับพี่พนักงาน ไม่นานผมก็ได้น้ำสองขวดมาไว้ในมือ ผมจะเดินกลับโต๊ะครับ จังหวะนั้นเอง ผมบังเอิญเห็นคนรู้จักก่อนพอดี เลยแวะเข้าไปทักทายกันเสียหน่อย
'ไงพวกมึง'
'อ้าวเนียร์ มาทำไรวะ'ไอ้อ้นครับ หัวหน้าห้องผมไง จำได้ป่าว
'ดูหนังว่ะ แล้วพวกมึงอ่ะ' ผมว่าแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ครับ สงสัยจะคุยยาว
'กูก็มาดูหนัง เรื่อง... นี้ไง ดูกันป่าว'
'กูเพิ่งดูมาเมื่อกี้เอง แม่งโคตรจะมันส์เลย'
'มาดูกับใครวะ แก๊งค์สาวสาวสาวหรอ'
'เหี้ย เลิกเรียกกูด้วยชื่อนี้เหอะ มาดูกับพี่กู' ผมว่าแล้วหันไปทางโต๊ะที่ไอ้กัสนั่งอยู่
'พี่กัสหรอ..พี่มึง'
'เออ ทำไมหรอ'
'เพิ่งรู้นะ มึงมีพี่ด้วยหรอเนียร์'
'มึงไม่ถามกูเองไอ้อ้น มึงรู้จักมันด้วยหรอวะ'
'โหย ทำไมจะไม่รู้จัก แม่งดังจะตาย เป็นคนธรรมดาที่ดังมากในหมู่นักเรียน'
'เยส กูเป็นพี่น้องกับมันมา เพิ่งรู้ว่าแม่งดังขนาดนี้' ผมคุยกับพวกไอ้อ้นต่อสักพัก ส่วนใหญ่ก็เรื่องที่พวกแม่งหิ้วคนนู้นมาคนนี้มานั่นแหละ จากนั้นผมก็เดินกลับโต๊ะ
'ถ้ากูไม่บีบีไป นี่มึงจะไม่กลับมาเลยใช่ไหม' มันถามครับ คือที่กลับมาเพราะไอ้ห่านี่เล่นบีบีไปหาผมเป็นกระสุนเลย บอกให้กลับมาที่โต๊ะ
'คือกูคุยกับเพื่อนบ้างอะไรบ้าง ไม่ได้หรอ' ผมว่าแล้วกำลังจะวางขวดน้ำไว้ตรงหน้ามัน แต่ไอ้กัสกระชากออกไปจากมือผมก่อน ผมเลยถลึงตาใส่แม่งเลย ส่วนมันก็ได้แต่ทำไม่รู้ร้อนรู้หนาว กระดกน้ำลงคอมันไปเท่านั้น
'ยืมโทรศัพท์หน่อย จะโทรหาบลู'
'แล้วของมึงอ่ะ' มันโวยวายครับ แต่มันก็ยอมส่งไอโฟนมันมาให้ผมอยู่ดี
'กูไม่อยากโทรเยอะ เดี๋ยวเกินโปร กูไม่ได้รวยเหมือนมึง' ผมว่าครับ แล้วกดสไลต์ปุ่มล็อคไอโฟนมัน เห้ยจริงดิมันล็อคเครื่องไว้นี่หว่า
'รหัสอ่ะ'
'วันเกิดมึงไง ไอ้ควาย' มันด่าผมกลับมาเสียงเรียบครับแต่สร้างความประทับใจให้กับตัวผมอย่างน่าประหลาด ... วันเกิดกู เป็นรหัสล็อคโทรศัพท์มึงหรอเนี่ย ...ดีใจว่ะ
ผมกดวันเกิดผมลงไปครับ ไม่นานก็เข้ามาสู่หน้าโฮมของโทรศัพท์ได้ ผมกดเบอร์ไอ้บลูลงไปครับ แหม พอกดโทรออกเท่านั้นแหละ ก็พบว่าไอ้กัสมีเบอร์ไอ้บลูในเครื่องมันอยู่แล้ว
'ไม่ติดหรอ'
'เออ สงสัยแม่งทำงานมั้ง'
'หรือไม่ แม่งก็ออกรอบอยู่' ไอ้กัสมันว่า ผมเลยตัดสายทิ้งเลย เกิดมันกำลังทำอย่างงั้นๆอยู่จริงๆ ผมไม่อยากเป็นก้างของใคร ผมส่งไอโฟนคืนไอ้กัส ไอ้กัสก็ส่งบีบีมันกลับมาหาผม
'บีบีไปหามันสิ เครื่องมึงง้องแง้งอยู่ไม่ใช่หรอ'
'อือ กูว่าจะซื้อใหม่แล้วแม่ง'
'กูให้กู้ไหม...ดอกร้อยละยก'
'สัด กูเคยได้ยินแต่ดอกร้อยละยี่ ดอกร้อยละยกพ่อมึงเหอะ' ผมว่าพร้อมกับทิ่มบีบีไปด้วย แม่งก็ไม่ตอบเหมือนกัน ผมเลยใช้โอกาสนี้ดูอะไรในเครื่องไอ้กัสไปด้วย ... อะหือ เด็กเพียบ!
'เห้ยๆอย่าลบพินเด็กกูนะ'
'งั้นก็อย่าจีบกูเลย'
'งั้นมึงลบออกไปให้หมดเลยไป ตกลงมึงจะกู้กูไหม ดอกร้อยละยก..ยกละหลายๆชั่วโมง'
'ไอ้หน้าเงิน กูไม่กู้มึงหรอก'
'แล้วมึงจะไปกู้ใคร' มันว่า แล้วเท้าแขนดันคางมันไว้
'พี่เต็นท์...'
'ไปตายซะนิเนียร์ ก่อนที่มึงจะโดนกูหักคอ!'
'ฮ่าๆ' ผมหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี ผมมองหน้ามันที่กำลังขึ้นด้วยความโกรธก่อนจะปริยิ้มออกมา นานแล้วนะครับที่ผมกับมันไม่ได้ออกมาทำอะไรด้วยกันแบบนี้ นานแล้วนะครับที่ผมไม่ได้จับต้องอะไรของมันเลยแบบนี้ และนานแล้วนะครับที่ผม...
ไม่ได้อยู่ข้างมันนานๆแบบนี้...
เป็นไปได้..ผมก็อยากจะให้เรา..กลับมาเป็นเหมือนเดิมเหมือนกัน...
'นิเนียร์ นิเนียร์! ไอ้เหี้ยเนียร์!!!'เสียงเรียกจากไอ้กัส ทำให้ผมที่เผลอหลับไปตอนออกมาจากห้าง ตื่นขึ้นทันที ผมลืมตาขึ้น พบว่าอยู่ในซอยบ้านผมแล้ว มึงจะเรียกกูเพื่อใช้ไปเปิดประตูบ้านใช่ไหม!
'เหี้ยเปิดเองไม่เป็นหรอไงวะ' ผมด่ามันทั้งๆที่ยังมองเห็นอะไรไม่ชัด เนื่องจากยังไม่ได้ใส่แว่น
'มึงแหกตาดูนู่นซะก่อน' มันว่า ทำให้ผมรีบใส่แว่น ก่อนจะมองตามทางที่มันบอก
'พี่เนี๊ยส!!!' ผมโพล่งออกมาด้วยความดีใจ เมื่อเห็นพี่ชายตัวเองยืนอยู่หน้าบ้าน ผมรีบลงจากรถไอ้กัส แล้ววิ่งแหกปากเรียกชื่อพี่ชายที่ยืนอยู่หน้าบ้านด้วยใบหน้าเซ็งๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นใบหน้ายิ้มแย้มเมื่อเห็นผมวิ่งมา
'โคตรคิดถึงเลยอ่ะ ไหนของฝาก' ผมกระโดดกอดพี่เนี๊ยสแบบทั้งตัว ทำเอาไอ้กัสที่อยู่ในรถบีบแตรลั่นซอย เหี้ย!! กูกอดกับพี่ไม่ใช่ชู้!!
'เออ คิดถึงเหมือนกัน พ่อแม่ไม่อยู่หรอ แล้วไปไหนกันมา'
'ไปห้างฯมาน่ะ ยืนรอนานป่าว' ผมว่าแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยแขนที่กอดพี่เนี๊ยสไว้ จนไอ้กัสที่เอารถเข้าบ้านไม่ได้ มันต้องจอดเทียบหน้าบ้าน เดินลงมาไอแรงๆใส่หัวผมสองสามรอบ
'ไงมึง...'
'ไงมึง....'นี่คือคำที่ พี่ชาย ทั้งสองคนของผมใช้ทักทายกันครับ ไอ้กัสกำหมัดแล้วต่อยบ่าพี่เนี๊ยสเบาๆ ส่วนพี่เนี๊ยสก็ต่อยไอ้กัสคืนเบาๆเช่นกัน
'กลับมาทำไมวะ'
'เหี้ยกัส!! พี่กูนะ'
'กลับมาให้มึงด่ามั้ง กูก็ต้องคิดถึงน้องกูบ้างดิ' พี่เนี๊ยสพูดแล้วดึงผมเข้าไปกอดครับ ส่วนผมก็ไม่สนใจใครแล้ว เพราะถ้าพี่เนี๊ยสอยู่บ้าน ไอ้กัสก็จะทำอะไรผมไม่ได้ รวมถึงเรื่อง..ด้วยฮ่าๆ โชคดีชิบหายเลยกูเนี่ย! แต่ผมทำบุญมาน้อย พี่ชายผมเลยหันมาพูดกับผมตอนเดินเข้าบ้านต่อ
'เนียร์ คืนนี้เนียร์ไปนอนกับไอ้กัสนะ พี่มีเพื่อนมานอนด้วยว่ะ สองสามคน คงจะนอนห้องเดียวกันไม่พอ'
พี่เนี๊ยสรู้ไหม พี่กำลังจะยัดน้องให้ไอ้หื่นเลยนะ!!!!
'จะทำหน้าตกใจทำไม ได้ข่าวนอนกับมันบ่อยๆไม่ใช่หรอ อีกแค่คืนเดียว ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวพี่ไปพูดกับไอ้กัสให้ รับรองมันไม่ทำอะไรเราหรอก'
'อะ..อือ'มันไม่ทำอะไรหรอก เพราะมันทำไปแล้วอ่ะเด้!!!
[End Near]
[Casso]
รอครับรอ.. รอให้ฟ้ามืดเท่านั้น หึๆ
'มึงไม่ต้องทำหน้าหื่นขนาดนั้นก็ได้ เกรงใจพี่มันบ้าง' ไอ้เนี๊ยสเดินมากระซิบข้างหูผมครับ เหี้ยนี่เป็นน้องผมปีนึงครับ แต่เราก็ไม่เคยถือพี่ถือน้องกันอยู่แล้ว
'อะไรของมึงเนี๊ยส' ผมละสายตาจากจอทีวีหันไปตีหน้าใสซื่อใส่มัน ไอ้เนี๊ยสมันเลยใช้นิ้วดีดปากผมทีนึง สัด!! ถ้าไม่ใช่พี่เมียกู กูยัดเข้าฝาไปแล้ว!
'เหี้ย อย่ามาใสซื่อ กูรู้นะมึงหวังจะฟันน้องกูอยู่...' ไอ้เนี๊ยสว่าครับ แล้วหลี่ตามองผม มันเป็นพี่น้องกับไอ้เนียร์จริงๆ แบบแท้ๆเลยนะ แต่ทำไมนิเนียร์ของผมไม่แมนแบบเหี้ยนี่บ้างก็ไม่รู้ ทั้งเรื่องหน้าตา ผิวพรรณ หุ่น นิเนียร์สู้เหี้ยไรไอ้เนี๊ยสไม่ได้เลย คือนิเนียร์แม่งเกิดมาเคะอย่างเดียวอ่ะ ไม่ได้เกิดมาเพื่อรุกอย่างพวกผมนี่!!
'กูไม่เคยคิด...' กูฟันเลย!
'แต่มึงฟันเลย!'
'ไอ้สัด อย่างน้อยกูก็พี่พวกมึงเหอะ'
'ไอ้กัส.. มึงคิดว่ากูดูมึงไม่ออกหรอ ว่าหน้ามึงมันฟ้องว่าอยากแดกน้องกูมากมาย'
'เหี้ย หุบปากได้ละ กูเขิน'
'ยังไงมึงก็ต้องดูแลมันให้ดีนะโว้ย ต้องดูแลมันให้ดีกว่าที่กูกับแม่ดูแลมัน เข้าใจป่าว!' ไอ้เนี๊ยสมันพูดใส่หน้าผมครับ หน้าแม่งโคตรจริงจังเลย
'อะ...เอออ'
'สรุปยอมรับแล้วใช่ไหม ว่าฟันน้องกูแล้ว'
'เหี้ย!! น้องมึงช่างยั่วขนาดนั้น ใครมันจะอดใจไหววะ'
'มึงนี่เหี้ยจริงๆ กูรักษาไอ้เนียร์มาอย่างดิบดี! เสียซิงให้มึงจนได้!!' ไอ้เนี๊ยสไม่พูดเปล่าครับ มันตบหัวผมด้วยทีนึงอย่างแรง
'ไอ้สัด!! เกินไปแล้วเหี้ย!!' ผมปารีโมทลงกับพื้นเลยครับ เมื่อกี้ตีปาก นี่มาตบหัว เกินไปแล้ว
'ทำไม!!! กูพี่เมียมึง!'จอดสนิท...เลยครับกู
'มึงเข้าใจไหมกัส กูไม่อยากให้น้องกูเสียใจ ไม่อยากให้น้องกูเสียใจสักครั้งเดียว รับปากกูสิว่าจะดูแลมันให้ดี'
'เออ กูจะดูแลมันให้ดี แล้วทำไมมึงต้องดราม่าใส่กูด้วยเนี่ย!'
'เพราะกูจริงจังไง ไอ้สัด! เหี้ยๆอย่างมึงไว้ใจได้ซะที่ไหน แต่อย่างน้อย น้องกูก็คงคิดดีแล้วที่เอามึงเนี่ย!'
'ใช่ น้องมึงคิดถูกแล้วเอากูเนี่ย เพราะสำหรับมัน ไม่มีใครเลิศเท่ากูแล้ว เชื่อกูสิ...หึๆ'ในที่สุดเวลาที่รอคอยมันก็มาถึงแล้วครับ ตอนนี้กลางคืนแล้ว และนิเนียร์ก็ได้กลายร่างเป็นนิเนียนเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย
'ขอนอนด้วยไม่ได้หรอ อยากนอนกอดพี่บ้างอะไรบ้าง' ดูครับดูมันพูด ผมแอบอยู่ตรงตีนบันไดด้านล่างครับ สองพี่น้องเลยไม่เห็นว่าผมแอบฟังพวกมันคุยกันอยู่
'ไม่ได้ เดี๋ยวเพื่อนพี่ก็มาแล้ว แล้วเพื่อนพี่จะนอนยังไง'
'พี่ไม่ห่วงน้องบ้างเลยหรอ ไปนอนกับไอ้กัส เนียร์ต้องผจญกับอะไรบ้าง'
'มันไม่ทำอะไรเราหรอก ไปได้แล้ว ไม่งั้นพี่จะทิ้งให้เรานั่งตากยุงอยู่ข้างนอกนะ'
'โหย พี่เนี๊ยสโคตรใจร้ายเลยว่ะ เนียร์เป็นน้องพี่นะ แต่ทำไมพี่ถึงยัดเนียร์ให้กับคนอื่นก็ไม่รู้'
'เห้ยๆๆมากไปมั้ง เดี๋ยวกัสมันได้ยินแล้วมันจะเสียใจเอานะ ถือซะว่าไปนอนเป็นเพื่อนมันก็แล้วกัน พี่ออกไปรับเพื่อนที่สนามบินก่อนล่ะ' ไอ้เนี๊ยสว่าแล้วมันก็ปิดประตูห้องไอ้เนียร์ ใส่หน้าไอ้เนียร์เลยครับ ส่วนผมก็ได้แต่ตีหน้าเศร้าขึ้นไปชั้นสอง
'ไอ้กัส..เห้ย...'
'ถ้ามึงไม่อยากนอนกับกู ก็ไม่เป็นไร' ผมเดินก้มหน้าเข้าห้องเลยครับ ตีเสียงเศร้าๆ แล้วก้มหน้าต่ำๆ แปบเดียวไอ้ตัวเล็กก็วิ่งเข้ามาในห้องผมแล้ว
'คะ..คือมึงได้ยินหรอ.. กูไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะโว้ยกัส...' มันเริ่มร้อนรนครับ เมื่อผมยืนหันหลังให้มันลูกเดียว ไม่นานสัมผัสนุ่มนิ่มก็มาแนบกับหลังผม
'กูไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้นจริงๆนะกัส กูหมายถึง..กูประชดพี่เนี๊ยสเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่ามึงเป็นคนอื่นสำหรับกูเลย...' มันพูดพร้อมกับเอาหน้าแนบกับหลังผม มันสวมกอดผมที่เอวไว้หลวมๆ แต่คิดหรือกูจะยอมมึงง่ายๆ ....
'ออกไปเถอะ กูไม่อยากบังคับมึงอีกแล้ว' ทั้งที่ใจกูอยากลากมึงขึ้นเตียงจะตายห่า! ร่างเล็กยังคงกอดผมไม่ปล่อยเลยครับ อ่า ผมชักใจอ่อนแล้วสิ อยากจะพามันขึ้นเตียงเร็วๆ แล้วบอก รัก ข้างหูมันให้มันฟังตลอดเลย แต่ผมก็ยังทำไม่ได้ ถ้าผมทำอย่างนั้น ก็เท่ากับว่า... ผมไม่ใช่กัสโซ่น่ะสิ หึๆ
‘เนียร์.. กูพูดจริงๆนะ มึงไปเหอะ กูไม่อยากบังคับมึง’ ผมพูดซ้ำอีกรอบในประโยคเดิม ผมรู้สึกถึงแรงสะเทือนสั่นไหวของร่างเล็ก เมื่อมันกำลังร้องไห้... และมันกำลังทำให้ผมรู้สึกแย่ไปด้วย พูดถึงเมื่อกี้บ้างดีกว่า ใช่ครับ ผมได้ยินพี่น้องคุยกัน ผมเจ็บนะ..ที่เนียร์บอกว่าผมเป็นแค่คนนอกสำหรับมัน แต่ผมก็คิดในแง่ดีมากกว่า เนียร์คงหมายถึงผมไม่ใช่พี่น้องกับมันแท้ๆ ไม่ได้พูดถึงระหว่างผมกับมันในเชิงคนรักกันซะหน่อย จริงป่ะ
‘ไม่เอา...จะนอนกับมึง’ ร่างเล็กว่า ริมฝีปากของมันแนบติดกับหลังผม จนมวลในกายผมเริ่มแล่นไปรวมที่จุดสูญกลางลำตัวช้าๆ แล้วยิ่งร่างเล็กขยับปากพูดมากเท่าไร ก็เท่ากับว่าริมฝีปากของมันถูไปกับหลังผมมากขึ้นเท่านั้น ไม่ต่างอะไรกับ การยั่ว ผมแบบอ้อมๆเลย
‘แน่ใจหรอจะนอนกับกู’
‘อือ อยากนอนกับมึง ไม่ได้หรอไง’ มันพูด พร้อมกับดึงตัวผมให้หันกลับไปหามัน ให้ตายเหอะ ผมจะยอมมันอยู่แล้วนะ
‘ช่วยถอดเสื้อไหม...’ คำพูดของร่างเล็กทำเอาผมตาโตเลยครับ แต่ผมก็ปรับสีหน้าให้เนียนและนิ่งอยู่ดี ผมส่ายหน้าและจับมือมันที่กำลังไต่ขึ้นมาจากชายเสื้อผม ไม่สิ..ขอบกางเกงผมเลยด้วยซ้ำไว้ในมือของผม นิเนียร์มองหน้าผมเหมือนต้องการจะสื่ออะไรบางอย่าง แต่ผมดึงมันเข้ามาจูบเสียก่อน ผมเลยตีความบนใบหน้าหวานของมันไม่ได้...
ผมกดจูบแนบกับกลีบปากอย่างบ้าคลั่ง เหมือนไอ้หื่นที่ตายอดตายอยากจูบจากที่ไหนไม่รู้มานานแสนนาน ผมเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ เช่นกันกับร่างเล็กที่สั่นสะท้านไปทั้งตัวด้วย รสจูบของเรา..
‘อือ...อือ...อื้ม’ เสียงครางอู้อี้ดังลอดออกมาจากลำคอสวยของนิเนียร์ ผมถอนจูบออกจากปากมัน แล้วย้ายไปที่ซอกคอของมันอย่างห้ามใจไว้ไม่ได้
‘กะ..กัส...อืออ....ตะ..เตียง’ เพราะจูบทำให้ร่างเล็กเสียพลังงานไปมาก จึงไม่แปลกหรอก ที่มันจะเรียกร้องหาเตียงไวขนาดนี้
‘ไม่’ ผมค้านเสียงแข็ง พร้อมกับกดจูบเม้มลงบนลำคอมันไปด้วย อย่าว่าแต่เดินเลย ตอนนี้นิเนียร์ยืนยังจะไม่ไหว ร่างเล็กมองผมด้วยสายตาหวานหยดย้อย เหมือนอยากให้ผมรู้ว่ามันกำลังต้องการอะไร...
‘ทำไม...’ ปากของนิเนียร์สั่นไปหมด เมื่อเจอคำปฏิเสธของผม ใบหน้าของมันคล้ายคนกำลังจะร้องไห้ ส่วนผมก็หมุนตัวกลับ เพื่อจะเดินเข้าห้องน้ำดังเดิม
‘อื้อ!’ แต่ร่างเล็กแข็งใจสู้ มันดึงผมไว้ ก่อนจะใช้แรงเกือบทั้งตัวโน้มคอผมลงมาประกบจูบมันอีกรอบ ... นี่มันง้อ หรือ มันกำลังจะปล้ำผมกันแน่ครับ ร่างเล็กยังคงสร้างรสจูบที่หอมหวานแก่ช่องปากผมอย่างสม่ำเสมอ และร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อลิ้นเล็กๆของมันเริ่มรู้จักการตวัดเข้ามาหาลิ้นของผมเอง ผมได้แต่ยืนนิ่งๆ แข็งตัวแข็งใจ ไอ้เจ้าเด็กอวดดีมันจูบไปเรื่อยๆ จนกระทั่งตัวมันเองไม่มีอากาศหายใจและถอนจูบออกไปในที่สุด
‘...ใจร้าย ไหนบอกรักกูไง’ ร่างเล็กที่เป็นคนจูบผม แต่กลับปากบวมซะเองเอ่ย ผมหลี่ตามองนิเนียร์ ด้วยสายตาสบประมาท อยากจะรู้ว่ามันจะทำยังไงแต่
!!แคว่ก!!
ผมถึงกับเบิกตากว้าง เมื่อร่างเล็กที่น่าจะยอมแพ้แล้ว กลับเอามือฉีกเสื้อตัวเองออก ไอ้สัด!! คืนนี้กูจัดหนัก มึงอย่ามาว่ากูนะ!
‘คราวนี้.. ยังจะหยิ่งอยู่ได้อีกมะ’ ร่างเล็กซึ่งเปลือยท่อนบนเอ่ยด้วยวาจาสุดเซ็กซี่ นิเนียร์ชอบกัดปากตัวเองจนเป็นนิสัย เวลา...มันมีอารมณ์...
‘ยั่วได้อีกไหม?’ ผมถามมันกลับครับ ใช้คำถามเดิมๆกับตัวมันเองนั่นแหละ สะใจที่สุด! ร่างเล็กกัดปากแทนคำตอบตัวเอง มันโน้มคอผมลงไปอีกรอบ แต่คราวนี้มันไม่ได้จะจูบ แต่มันทิ้งตัวเองและดึงตัวผมลงไปด้วย ...ลงกับเตียง ซึ่งจะเป็นสมรภูมิรักของเราในคืนนี้
‘แน่ใจว่าจะอยู่ข้างล่าง...’ นิเนียร์ถามผมกลับบ้างครับ เพราะผมแกล้งพลิกตัวเพื่อให้มันอยู่ข้างบนแทน ผมได้แต่ส่งเสียงในลำคอ เป็นการแสดงอาการไม่พอใจ เพราะเป็นอันรู้กันว่า ถ้าผมไม่พูด และถ้ากูเงียบ มึงเตรียมเจอ หายนะได้เลย!
‘แน่ใจหรอ..กัส’ นิเนียร์ว่าพร้อมกับกรีดนิ้วเรียวของมันลงบนแผงกระดุมเสื้อผมไล่ลงไปเรื่อยๆ จนถึงขอบเกงกางที่ผมใส่อีกครั้งหนึ่ง เหี้ยนี่พอกูหยิ่งก็เล่นกูอย่างเดียวเลยนะ!
‘ปากไม่ตรงกับ..เลยนะกัส..’ นิเนียร์ว่า เมื่อครู่มือเล็กของมัน ซุกซนไปมาระหว่างกลางตัวผมในช่วงล่าง จนอะไรๆของผมมันตื่นตัวขึ้นมาหมด
‘ถอดเสื้อสิ อยากจะรู้เหมือนกัน จะยั่วได้อีกไหม’ ผมเอ่ย แล้วเอาแขนหนุนหัว โดยที่มีร่างเล็กของนิเนียร์ทับอยู่ด้านบน อารมณ์เหมือนผมกำลังนอนดูหนังอะไรทำนองนั้น
‘เร็วสิ ถ้าไม่เด็ดจริง.. ไม่ให้นอนด้วยหรอกนะ’ผมเอ่ยแล้วกระตุกยิ้มอย่างร้ายกาจ ตอนนี้ผมมีประสงค์อยากจะแกล้งมันให้รัญจวนใจที่สุด จนมันทนไม่ได้เอง เพื่อเป็นการลงโทษพวกปากแข็ง ปากดี อย่างมัน
‘หือ... ยั่วขนาดนี้แล้ว ยังไม่ยอมอีก’ มันว่า ตัวเล็กๆของมันเริ่มนอนทาบตัวผมทั้งตัวแล้วครับ ส่วนข้างล่างของมันและผมปะทะกันแบบไม่ได้ตั้งใจ และวินาทีนั้นแหละครับ ที่เป็นเหมือนเชือกฟางเส้นสุดท้าย
ผมจับร่างเล็กที่นอนทับอยู่บนตัวผม ให้พลิกลงมานอนด้านล่าง ก่อนที่ผมจะเป็นฝ่ายขึ้นคร่อมมันแทน พอผมได้อยู่ข้างบน ผมก็ไม่รอช้าที่จะขยี้จูบทับลงบนริมฝีปากมันอีกรอบจนได้ ก่อนจะตามไปกดจูบตามร่างกายมัน โดยเฉพาะตามลำตัว ที่ไอ้เด็กคนนี้มันถอดให้ผมดูตั้งนานสองนาน
‘อืออออ....อ๊าาาา.....’ เสียงหวานของร่างเล็กเริ่มทำงาน พร้อมกับการบิดตัวเพื่อรอตอบรับการมาของผม ... ผมไม่รู้ว่ากางเกงของร่างเล็กหลุดไปเมื่อไร แต่จังหวะที่ผมก้มลงไปจะถอดเสื้อผ้าของตัวเอง ก็พบว่า ร่างเล็กนั้นไม่มีอะไรปกปิดร่างกายอยู่แล้ว
‘อือ..เล็กว่ะ!’ ผมแซวมันเล่น พร้อมกับแกล้งเอามือไปปัดป่ายแถวๆ จุดสูญกลางของร่างเล็กไปมา จนมันทำตัวไม่ถูก และเส้นขนของมันยิ่งลุกตั้งขึ้นไปอีกเมื่อผมขบใบหูของมันเล่นอย่างสนุกปากสนุกฟัน ส่วนมือผมก็ยังค่อยๆวนเวียนอยู่กับสะโพกบางเล็กของมันไปเรื่อย จนมันต้องมาจับมือผมไว้
‘มึงก็ไม่ได้ใหญ่อะไรมากกว่ากูเท่าไรหรอกกัส!’ พอเห็นผมมันส์ แม่งก็เริ่มได้ใจ ไอ้ตัวเล็กเริ่มกลับมาซ่าส์อีกครั้ง ผมเลยแกล้งจับของมันแม่งเลย!
‘เห้ย ถึงเล็กแต่ก็เหมาะมือดีว่ะ’ ผมว่า นิเนียร์หน้าแดงจนไม่รู้จะแดงยังไง มันคงทั้งเขินและอายที่ผมมาเล่นแบบนี้ แต่ผมก็สงสารเมียครับ..ยอมปล่อยจนได้
‘เล่นอะไรไม่รู้เรื่องเลยนะมึง ไอ้กัส!’
‘เอ้า ก็ของเมีย ทำไมจะจับไม่ได้’ ผมตอบกลับหน้าตายครับ พร้อมกับกดจูบมันอีกรอบ ตอนนี้อยากจะจูบมันอย่างเดียว เรื่องอื่นไว้ตามสเต็ปก็แล้วกัน... สองลิ้นตวัดรัดกันอย่างเร่าร้อนอยู่ในโพรงปากของกันและกัน บ่อยครั้งที่คนตัวเล็กต่อว่าคนตัวใหญ่กว่า แต่ไม่นานเสียงต่อว่าก็กลายเป็นเสียงกระเส่าเสียงหวานที่ดังไปทั่วทั้งห้อง
นิเนียร์เป็นพวกเรียนรู้ได้เร็วครับ ดังนั้นไม่นาน ลิ้นเล็กก็ตวัดรับลิ้นร้อนของผมได้อย่างดี และเปิดทางให้ผมเข้าไปเยี่ยมชมมากขึ้น เมื่อร่างเล็กพร้อมและขยับขาออก
‘อื้อ...อ้าาาาาา...อือ...’ร่างเล็กครางออกมาพร้อมกับจังหวะที่ผมสอดแก่นกายเข้าไปในตัวมันช้าๆ ผมขยับเข้าขยับออกให้เร็วขึ้นเพื่อเร่งให้เราไปสู่จุดหมายให้เร็วที่สุด เพราะเราช้ามามากแล้ว! ยิ่งร่างเล็กครางออกมาไม่เป็นศัพท์มากเท่าไร ผมก็ยิ่งกระแทกเข้าไปมากเท่านั้น...
‘ดีแล้ว..เนียร์’
‘กัส...อะ..อีก...ได้...อ๊าาา...ไหม’
‘หือ อะไรนะ’
‘ขะ..ขยับอีก...’ผมเร่งจังหวะรัวถี่เมื่อร่างเล็กเอ่ยปากขอ มันคงรู้สึกเสียวซ่านไปทั้งกายตัว เลยได้ซี๊ดปากออกมา แทนเสียงครางเมื่อครู่
‘อ๊าาาา....อื้อ...อ้าาาา...กัส...กัส...กะ..กัส’ ร่างเล็กแอ่นสะโพกขึ้น เพื่อเป็นการช่วยผม นิเนียร์แยกขาเรียวออกให้มากกว่าเดิม มันดูจะเกร็งๆและขัดเขินไปหน่อย แต่ก็ยินยอมทำอยู่ดี ก็ใช่น่ะสิครับ เราสองคนไม่ค่อยออกรอบกันแบบเต็มรู้แบบกันบ่อยหนัก
‘ชอบไหม’ ผมถามครับ พร้อมกับสอดมือเข้าไปใต้ผมมันช้าๆ เพื่อเป็นการช่วยมันให้ผ่อนคลาย ก่อนที่ผมจะเลื่อนมืออีกข้างลงไปลูบไล้หน้าท้องขาวแบนเรียบของมัน เพื่อเป็นการกระตุ้นอารมณ์รักของร่างเล็กให้เกิดขึ้นมาอีก เพราะเรื่องแบบนี้ ให้ผมแรงฝ่ายเดียวไม่ได้หรอกครับ
‘ชอบไหม...’ ผมถามซ้ำอีกครั้งครับ
‘อือ…อ่ะกัสอย่า!!!!’ เพราะร่างเล็กตอบคำถามผมไม่โดนครับ ผมเลยหยุดขยับ...ปล่อยให้แก่นกายมันนิ่งอยู่อย่างนั้น จนร่างเล็กสะดุ้งตัวโหย่ง
‘ว่าไง ชอบไหม’
‘ชะ..ชอบ’
‘ค่อยหน้าฟังหน่อย’ผมพูด ก่อนจะขยับเป็นจังหวะสั้นๆ เอาให้เว้นช่วงให้เราได้คุยกันบ้าง
‘กะ..กัส...ระ..รักนะ...โอ๊ย!!!!!!!’
‘เห้ยๆ นิเนียร์! ขอโทษ เจ็บหรือเปล่า!!!’ เพราะร่างเล็กเอ่ยคำที่ผมรอมาแสนนานให้ผมฟังแบบไม่มีบอกกล่าว ผมเลยเผลอกระแทกแรงไปหน่อย นิเนียร์เลยได้น้ำตาคลอเบ้า ผมใช้นิ้วมือปาดน้ำตาออกจากดวงตาของมันครับ เช่นเดียวกับการถอดแก่นกายออก แล้วทิ้งตัวนอนลงข้างๆมันแทน
‘ขอโทษนะครับ.. พี่ไม่ได้ตั้งใจทำนิเนียร์เจ็บนะ’ ผมว่า แล้วดึงร่างมันเข้ามากอดและลูบหลังเพื่อเป็นการประโลม เหตุการณ์เอ็กซิเดนเมื่อครู่ ทำให้นิเนียร์เจ็บตัวไม่น้อยเลยครับ ใบหน้าหวานมันฟ้องผมแบบนั้นออกมา หรือไม่ รอยเลือดบนที่นอนก็บอกผมแบบนั้นแหละครับ
‘ไม่อยากได้ยินก็บอกกันดีๆสิ...’ ร่างเล็กในอ้อมกอดผม พูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ ก่อนจะพยายามๆดันตัวออก แต่ผมไม่ยอม ผมปล่อยกอดมันก็จริง แต่ผมขึ้นคร่อมมันอีกรอบ
‘ขอพี่แก้ตัวใหม่ได้ไหมครับ’ ผมถาม ถึงผมจะอยู่บนตัวมันแล้ว แต่ร่างเล็กคงยังโกรธผมอยู่ เพราะมันไม่ยอม..เปิดทางให้ผมเข้าไป
‘ยังไม่บอกนิเนียร์เลย.. ว่าพี่กัสรักนิเนียร์หรือป่าว’ ร่างเล็กถามผมกลับ คำว่า นิเนียร์ ที่มันใช้แทนตัวเอง ทำให้ผมชื่นใจ..จนบอกไม่ถูก และไม่รอช้าที่จะตอบคำถาม
‘รักครับ...รักมากด้วย’ ผมเอ่ย ร่างเล็กปริยิ้มออกมาอย่างเขินๆ แต่อย่างเราๆหน้าด้านกันแล้ว เขินแปบเดียวก็กลับมาด้านเหมือนเดิมอีกนั่นแหละ
‘ต่อสิ.. อย่าทำอะไรแรงๆอีกนะ...เจ็บ’
‘อ่าฮะ’ ผมตอบรับ นิเนียร์แยกขาออกจากกันอีกครั้ง พร้อมกับเสียงหวานที่เชื้อเชิญผมให้เข้าไป เป็นระยะๆ
‘อ๊ะ อ๊ะ อ๊า อื้อ...เร็วอีก...’
‘เดี๋ยวก็เจ็บอีกหรอก พี่ไม่กล้าทำแล้ว’ ผมกระซิบข้างหูร่างเล็ก นิเนียร์เลยเอามือตีผมที่สีข้างอย่างแรงจนผมเจ็บบ้าง ผมเลยต้องเร่งจังหวะให้ทันใจแม่คุณเค้า เดี๋ยวผมจะเจ็บตัวอีกช่วงนี้ผมเชื่องครับ อาการรักเมีย มันบังคับให้ผมทำแบบนี้ ผมไม่ได้แค่มีอาการรักเมียอย่างเดียวนะ ยังมีหลงเมีย ห่วงเมีย หวงเมีย เยอะแยะ ความรู้สึกผมตอนนี้หรอครับ ไม่มีอะไรนอกจาก..
ดีใจครับ ดีใจที่ผมได้เป็นเจ้าของร่างบางอีกครั้ง เป็นทั้งเจ้าของกายและเจ้าของใจ...
‘นิเนียร์ครับ’
‘หือออ....’ เสียงเล็กลากเสียงยาว ตอนนี้เที่ยงคืนแล้ว เรายังไม่หยุดกิจกรรมกันเลย นี่มันจะสามชั่วโมงกว่าแล้วนะตัวเธอ
‘ขอบคุณครับ..ที่รักกัน’
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ