RED STONE WAR
เขียนโดย nemon
วันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 21.50 น.
แก้ไขเมื่อ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 23.26 น. โดย เจ้าของนิยาย
83) คดีฆาตกรรม3
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความสำหรับมุมนี้ เจ้าหน้าที่วากัซสั่งเครื่องดื่มทันทีที่ไปถึง sex on the beachคือเครื่องดื่มที่เจ้าหน้าที่วากัซเลือก อาหารต่างต่างก็ถูกจัดว่างเอาไว้ในส่วนทางด้านซ้ายของงานไคมองดูแล้วดูน่ากินไปเสียหมดหากว่าจัมพ์กับแปปซีมาด้วยคงจะถูกอกถูกใจคนทั้งสองเป็นแน่ ผู้คนมากหน้าหลายตาที่มาร่วมงาน คล้ายกับว่าแต่ละคนต่างก็รู้จักซึ่งกันและกันในแวดวงสังคมชั้นสูง ไคเดินตามหลังสองสามีภรรยาไปติดติด การแต่งกายของผู้ที่มาร่วมงานครั้งนี้ดูคล้ายกับว่าเป็นตู้โชว์เครื่องเพชรเคลื่อนที่กันเลยทีเดียวก็ว่าได้ ไคสังเกตดูว่ามีการกล่าวคำทักทายกันอย่างเป็นมิตรดูช่างสนิทสนมกันแต่แปลกตรงที่ ไม่มีใครพูดถึงการเสียชีวิตของมารดาของเธอเลยแม้แต่คนเดียว หรือข่าวการตายของผู้ตายยังไม่มีใครรู้เรื่องนี้ อาจเป็นเพราะทางหน่วยCTSOให้ปิดเรื่องเป็นความลับเอาไว้ก่อนก็เป็นไปได้
หลังจากที่เวลาผ่านไปเรื่อยเรื่อยผู้คนภายในงานก็เริ่มที่จะเพิ่มจำนวนขึ้น ทางเจ้าหน้าที่การจัดงานก็ได้ประกาศเริ่มเปิดงานการแสดงโชว์เครื่องเพชรระดับโลก ทางด้านเจ้าหน้าที่โตโต้ได้ออกคำสั่งให้ไค และเจ้าหน้าที่วากัซคอยสังเกตดูคนที่มาร่วมในงาน หาคนที่ดูผิดสังเกตไคจึงเริ่มที่จะสอดส่องมองหาคนที่ผิดสังเกต แต่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นแต่ผู้คนจำนวนมากมายที่ยืนแออัดเพื่อจะเข้าชมเครื่องเพชรที่จัดมาแสดงโชว์กันอย่างเนื่องแน่น จนไคต้องเบียดเสียดผู้คนออกมาจากกลุ่มคนที่หนาแน่น ออกมายืนมองดูอยู่ห่างห่าง ไคมองดูจนทั่วแต่ก็ยังไม่พบสิ่งผิดปรกติใดใด เค้าจึงลองสังเกตดูทางด้านของเจ้าหน้าที่ของทางโรงแรมบ้าง จนไคสังเกตเห็นชายคนหนึ่งรูปร่างผอม สูง ไว้ผมรองทรง ผิวสองสี แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ของโรงแรม มีป้ายแขวนที่คอเพื่อแสดงตนว่าคือเจ้าหน้าที่ของงานมีลักษณะที่แตกต่างจากคนทั่วไป เค้าจึงเรียกเจ้าหน้าที่วากัซให้ช่วยสังเกตดูชายคนนั้น
“มีอะไรรึไค เจ้าเห็นใครที่หน้าสงสัยอย่างงั้นรึ”เจ้าหน้าที่วากัซกล่าว จากนั้นไคจึงส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่วากัซทางสายตาให้ลองมองดูชายคนหนึ่งซึ่งกำลังถ่ายรูปผู้คนในงานอยู่ด้วยกล้องจากโทรศัพท์ของเค้า
“ชายคนนั้นมีอะไรอย่างงั้นรึ ไค”เจ้าหน้าที่วากัซพูดเบาเบาใกล้ใกล้กับไค
“ดูการกระทำของเค้าสิครับ คุณวากัซรู้สึกแปลกใจมั้ยครับ”ไคกล่าว
“ยังไงรึ”เจ้าหน้าที่วากัซเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย
“สังเกตดูการถ่ายภาพของคนอื่นสิครับ ไม่ว่าจะเป็นช่างภาพหรือผู้คนที่มาร่วมงานต่างก็มีการถ่ายภาพเช่นกัน แต่ทุกคนก็ถ่ายภาพแต่เครื่องเพชรที่นำมาแสดงโชว์ แต่ชายคนนั้นถ่ายภาพผู้คนที่มาร่วมงานอย่างเดียว”ไคกล่าว พร้อมกับชี้ให้เจ้าหน้าที่วากัซสังเกตการกระทำของชายคนนั้น เมื่อเจ้าหน้าที่วากัซสังเกตดูก็คิดแบบเดียวกับไค เจ้าหน้าที่วากัซเลยบอกให้ไคไปดักรออีกทางด้านหนึ่งหากว่าชายคนนั้นคิดที่จะหลบหนี ส่วนตัวเจ้าหน้าที่วากัซจะแสดงตัวเพื่อเข้าจับกุมชายคนนั้นเอง
และเมื่อเจ้าหน้าที่วากัซแสดงตัวเพื่อขอตรวจสอบโทรศัพท์ของชายคนดังกล่าว ชายคนนั้นถึงกับหน้าถอดสีเลยทีเดียว เค้าทำท่าทางคล้ายกับจะวิ่งหนีแต่ทางที่เค้ากำลังจะไปก็มีไคซึ่งยืนดักรออยู่ตรงบริเวณนั้นแล้ว ชายคนดังกล่าวจึงเริ่มที่จะโวยวายเสียงดังร้องขอความช่วยเหลือจากใครบางคนอยู่ ในตอนนั้นเจ้าหน้าที่วากัซก็เอื้อมมือไปจับที่บริเวณหัวไหล่ของชายคนนั้น แล้วจู่จู่ชายคนนั้นก็ผลอยหลับไปในทันที เมื่อไคเห็นความสามารถของเจ้าหน้าที่วากัซเค้าก็นึกถึงตอนที่เค้าเจอกับเรนโบว์ครั้งแรกเค้าก็คงถูกเจ้าหน้าที่วากัซทำแบบเดียวกันนี้ไม่ผิดแน่ หลังจากนั้นทางด้านเจ้าหน้าที่วากัซก็ใช้ความสามารถจากประสบการณ์ของเค้า โดยการตะโกนขึ้นเสียงดังว่า“มีคนเป็นลม”จากนั้นจึงให้ไคช่วยกันพยุงชายคนนั้นออกทางด้านหลังงานงานเลี้ยงทันที
“มีพลังทำให้คนหลับได้แบบคุณวากัซนี่ก็ดีนะครับ ไม่ต้องเสียเวลาจับกุมอะไรมากมาย”ไคกล่าวในขณะที่กำลังช่วยพยุงร่างของชายผู้ต้องสงสัย
“ฮ่า ฮ่า แน่นอนอยู่แล้วพลังนี้แหล่ะสุดยอดที่สุดของหน่วยไล่ล่าแล้วล่ะ ฮ่า ฮ่า”เจ้าหน้าที่วากัซกล่าวอย่างภาคภูมิใจในตัวเอง
“แต่เสียอย่างเดียวนะครับ พอใช้เสร็จต้องมาคอยแบกผู้ต้องสงสัย ถ้าเกิดผู้ต้องสงสัยตัวใหญ่กว่านี้คงจะลำบากแย่”ไคกล่าว เมื่อไคพูดจบก็เหมือนกับว่าเค้าได้ยินเสียงของเจ้าหน้าที่ของหน่วยสืบสวนหัวเราะเบาเบาผ่านหูฟังของเค้า เจ้าหน้าที่วากัซเองก็เช่นกันเค้ามองดูไคพร้อมกับทำสายตาเซงเซงนิดนิดออกมา
หลังจากที่ไคและเจ้าหน้าที่วากัซได้เคลื่อนย้ายชายผู้ต้องสงสัยออกมาจากงานเลี้ยง จากทางด้านหลังเวทีแล้ว ไม่นานนักก็มีเจ้าหน้าที่ของหน่วยสืบสวนมาช่วยรับตัวผู้ต้องสงสัยทันที จากนั้นเจ้าหน้าที่โตโต้ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ทุกคนให้คอยจับตาดูผู้ที่มาร่วมงานเลี้ยงต่อไป ส่วนทางเจ้าหน้าที่โตโต้ได้ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่วากัซ ประจำตำแหน่งเดิมภายในงานเลี้ยงต่อไป ส่วนทางไคให้เดินทางไปยังสถานีตำรวจใกล้ใกล้กับโรงแรม เพื่อสอบปากคำผู้ต้องสงสัยร่วมกับเจ้าหน้าที่โตโต้ ไคจึงแยกตัวออกมาจากงานเลี้ยงและเดินทางขึ้นรถตู้สีดำพร้อมด้วยผู้ต้องสงสัยและเจ้าหน้าที่โตโต้
พอไปถึงสถานีตำรวจเจ้าหน้าที่โตโต้ก็นำตัวผู้ต้องสงสัยเข้าไปยังห้องสอบสวนทันที แต่คราวนี้ทางเจ้าหน้าที่โตโต้ได้อนุญาตให้ไคเข้าร่วมในการสอบสวนครั้งนี้ด้วย ภายในห้องสอบสวนของสถานีตำรวจแห่งนี้ เป็นห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดไม่ใหญ่มากความกว้างประมาณสิบห้าเมตร ความยาวประมาณยี่สิบเมตร เป็นห้องเปล่าเปล่ามีเพียงโต๊ะสีขาวขนาดเท่าโต๊ะทั่วทั่วไปพร้อมเก้าอี้สามตัวเพียงเท่านั้น
ภายในห้องเป็นบรรยากาศที่ดูอึดอัดเอามากมาก เพราะเมื่อจับตัวผู้ต้องสงสัยมาได้แล้ว แต่เจ้าหน้าที่โตโต้ก็ได้แต่นั่งจ้องมองดูชายคนนั้นอย่างเงียบเงียบ ไคเองซึ่งอยู่ภายในห้องเดียวกันก็รู้สึกอึดอัดไปด้วย อยู่ดีดีเจ้าหน้าที่โตโต้ก็ลุกขึ้นยืนทำเอาผู้ต้องสงสัยเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่โตโต้ยืนขึ้นก็ทำท่าทางตกใจหวาดผวาทันที และเมื่อเจ้าหน้าที่โตโต้เห็นอาการของผู้ต้องสงสัยเค้าก็แอบยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย จากนั้นเจ้าหน้าที่โตโต้ก็ค่อยค่อยถอดเสื้อสูทสีดำที่เค้าสวมอยู่ออกจนเหลือแต่เพียงเสื้อเชิ๊ตสีขาว เจ้าหน้าที่โตโต้เริ่มขยับปมเนคไทไปมาเพื่อให้คลายออก พร้อมทั้งถลกแขนเสื้อเชิ๊ตสีขาวขึ้น จนเห็นรอยสักรูปปืนและรอยสักรูปสัตว์ต่างต่างจำนวนมากรอบรอบแขนของเค้า ไคซึ่งนั่งอยู่ใกล้ใกล้ก็สังเกตเห็นทุกสิ่งได้อย่างชัดเจน
หลังจากนั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น เมื่อผู้ต้องสงสัยได้ยินก็ทำท่าตกใจสะดุ้งสุดตัวอีกครั้งด้วยความหวาดผวา จนไครู้สึกได้ว่าชายคนนี้ดูอ่อนแอเกินไปที่จะเป็นคนร้ายได้ และตัวเค้าเองก็เชื่อว่าเจ้าหน้าที่โตโต้เองก็คงคิดแบบเดียวกับเค้า เมื่อประตูเปิดออกก็พบมีเจ้าหน้าที่สืบสวนของหน่วยCTSOได้นำแฟ้มเอกสารสีน้ำตาล นำมาส่งให้เจ้าหน้าที่โตโต้ภายในห้องสืบสวนเมื่อทางเจ้าหน้าที่โตโต้ได้รับแฟ้มดังกล่าวก็พยักหน้าคล้ายเป็นการแสดงคำขอบคุณ เจ้าหน้าที่สืบสวนคนดังกล่าวเมื่อเห็นดังนั้นก็พยักหน้าตอบกลับแล้วจึงออกจากห้องไป ปล่อยให้บรรยากาศภายในห้องกลับเข้าสู่ภาวะความกดดันอีกครั้ง
และเมื่อทางด้านเจ้าหน้าที่โตโต้ได้เปิดแฟ้มซองสีน้ำตาลออกดู เค้าเปิดพลิกไปมาอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงค่อยค่อยนั่งลง ตรงเก้าอี้ที่อยู่อีกฝั่งของผู้ต้องสงสัย
“คุณชื่อ นาย วีรวัฒน์ นาคสมเทียม ใช่มั้ย อายุ ยี่สิบห้าปี เกิดที่จังหวัดระยอง เคยมีประวัติคดีลักทรัพย์ ที่ สน บางพลี เลือดกรุ๊ปของคุณคือ เอบี ผิวสองสี สูงร้อยเจ็ดสิบห้าเซนติเมตร น้ำหนักหกสิบ ถูกต้องมั้ยครับ”เจ้าหน้าที่โตโต้กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มและต่ำ
“ครับ ใช่ครับ”นาย วีรวัฒน์ตอบ
“คุณเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยของการจัดงานภายในโรงแรมมานานเท่าไหร่แล้วครับ”เจ้าหน้าที่โตโต้ถามต่อ
“ประมาณสองปีแล้วครับ”นาย วีรวัฒน์ตอบ
“แล้วคุณรู้มั้ยว่าที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวคุณมาที่นี่เพราะอะไร”เจ้าหน้าที่โตโต้กล่าวด้วยเสียงราบเรียบ
“ไม่ทราบครับ ผม…ผม ทำอะไรผิดเหรอครับ”นายวีรวัฒน์กล่าว
“ตอนนี้คุณกำลังต้องเป็นผู้ต้องหาคดีฆ่าคนตายเพื่อชิงทรัยพ์อยู่คุณรู้ตัวรึเปล่า”เจ้าหน้าที่โตโต้กล่าว เมื่อชายผู้ต้องสงสัยได้ยินดังนั้นถึงกับหน้าถอดสีเลยทีเดียว
“ฆ่าคนตายอย่างนั้นหรือครับ ผมไม่เคยฆ่าใครนะครับเป็น…เป็นเรื่องเข้าใจผิดรึเปล่าครับ”นาย วีรวัฒน์ปฏิเสธข้อกล่าวหาทันที
“ครับ ผมเข้าใจคนร้ายส่วนใหญ่ไม่มีใครยอมรับความผิดที่ตนได้ทำหรอกครับ”เจ้าหน้าที่โตโต้กล่าว เมื่อไคได้ยินก็รู้สึกแปลกใจ ไคเองคิดว่าเจ้าหน้าที่โตโต้น่าจะดูออกว่าชายคนนี้ไม่น่าที่จะใช้คนร้ายตัวจริง แต่เค้าเองก็ยังไม่กล้าที่จะพูดขัด ไคเองก็ได้แต่เฝ้าดูเหตุการณ์การสนทนาของทั้งสองคนต่อไป
“ก็ผมไม่ได้ฆ่าใครจริงจริง ผมพูดความจริงนะครับคุณเจ้าหน้าที่ คุณจะมากล่าวหาคนอื่นโดยไม่มีหลักฐานกันแบบนี้นะครับ”นายวีรวัฒน์กล่าว
“หลักฐานจะมีหรือไม่มีนั้นเดี๋ยวเราก็จะได้รู้กัน ในตอนนี้เราก็คุยอะไรเรื่อยเปื่อยกันไปก่อนในช่วงที่รอหลักฐานที่กำลังเดินทางมา เอาเป็นว่าคุณ วีรวัฒน์คุณแต่งงานรึยังครับ”เจ้าหน้าที่โตโต้ถามต่อทันที
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ