RED STONE WAR
9.0
เขียนโดย nemon
วันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 21.50 น.
86 ตอน
9 วิจารณ์
74.35K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 23.26 น. โดย เจ้าของนิยาย
81) คดีฆาตกรรม1
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“ไม่…ไม่รู้ ผมไม่รู้ผมขอโทษ”ชายคนนั้นยังคงตอบเช่นเคยพร้อมกับทำท่าทางหวาดกลัว ตัวของเค้าเริ่มสั่นอย่างเห็นได้ชัด
“แกพูดเป็นแค่นี้เหรอ ขอโทษแกขอโทษทำไมแกไปทำอะไรผิดมาบอกมาซะดีดีนะ”เจ้าหน้าที่ตำรวจตะโกนใส่ชายคนนั้นอีกครั้ง
“ผมไม่รู้อย่าทำอะไรผมเลยนะครับ ผมขอโทษ”ชายคนนั้นกล่าว พร้อมกับเริ่มที่จะมีหยดน้ำตาไหลพรั่งพรูออกมา
“ถ้าแกไม่บอกแกได้เจอดีแน่”เจ้าหน้าที่ตำรวจตะโกนใส่ชายคนนั้นอย่างไม่หยุด
“ขอโทษนะครับคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผมอยากจะขอคุยกับผู้ต้องหาเป็นการส่วนตัวจะได้มั้ยครับ”เจ้าหน้าที่โตโต้กล่าวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจคนนั้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ พอเจ้าหน้าที่ตำรวจคนนั้นได้ฟังคำขอของเจ้าหน้าที่โตโต้แล้ว เค้าจึงพยักหน้าตอบรับแต่โดยดีแล้วจึงลุกออกจากห้องไป ทิ้งให้เจ้าหน้าที่โตโต้ได้อยู่กับผู้ต้องหาเพียงลำพัง แต่ความจริงยังมีชายอีกหลายคนที่ยืนรอฟังการสอบปากคำอยู่ที่ห้องด้านข้าง
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจรูปร่างเจ้าเนื้อได้เดินออกจากห้องไปแล้ว เจ้าหน้าที่โตโต้จึงค่อยค่อยนั่งลงแล้วจ้องมองดูชายคนนั้นอยู่ตรงเก้าอี้ฝั่งตรงกันข้าม เจ้าหน้าที่โตโต้ยังคงไม่พูดอะไรเลยเค้าเพียงแต่จ้องมองดูชายคนนั้นอย่างเงียบเงียบ แต่เพียงแค่จ้องมองชายคนดังกล่าวเท่านั้นแต่ชายคนนั้นก็แสดงท่าทางหวาดกลัวออกมาอย่างเห็นได้ชัด อาจจะเป็นเพราะรอยสักตามร่างกายของเจ้าหน้าที่โตโต้ที่หลุดเล็ดลอดออกมาจากเสื้อผ้าก็เป็นได้
“ผมรู้ว่าคุณไม่ได้เป็นคนทำไม่ต้องกลัวนะครับ ผมไม่ทำร้ายคุณหรอกผมมีเรื่องอยากจะถามคุณสองสามข้อเท่านั้นครับ”เสียงที่ทุ้มต่ำและนุ่มนวลของเจ้าหน้าที่โตโต้ที่เอ่ยออกมา ทำให้ชายคนนั้นดูสงบลงไปในทันที สายตาที่ดูหวาดระแวงก็เริ่มหายไปจากแววตาของเค้า
“ผม…ผมไม่รู้แต่ผมขอโทษ”ชายคนนั้นยังคงเอ่ยคำเดิมออกมา
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่โตโต้ได้หยิบรูปภาพเครื่องเพชรชนิดหนึ่งออกมาจากแฟ้ม ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจรูปร่างเจ้าเนื้อวางทิ้งเอาไว้ ยื่นให้กับชายคนนั้นดู
“คุณเคยเห็นเครื่องเพชรชิ้นนี้มั้ยครับ”เจ้าหน้าโตโต้กล่าวอย่างสุภาพ ชายคนนั้นเมื่อมองเห็นรูปภาพเค้าก็พยักหน้าตอบ
“อัน…อันนี้แหล่ะครับที่ผมเจอ”ชายคนนั้นกล่าว
“เจอมาอย่างงั้นรึ เจอที่ไหนพอจะจำได้มั้ย”เจ้าหน้าที่โตโต้กล่าว
“ตรง… ตรงถังขยะใกล้กับที่นอนของผมครับ ผม… ผมไม่ได้ทำอะไรผิดนะครับมี มีคน…คนเอามาทิ้งไว้”ชายคนนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ตะกุกตะกักและเบามาก
ไค ที่ยืนมองอยู่ที่ห้องข้างข้าง เค้ามองผ่านกระจกเข้าไปเค้าเองก็คิดเช่นเดียวกันกับเจ้าหน้าที่โตโต้ คนคนนี้ไม่ใช่คนร้ายอย่างแน่นอนเพราะไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่ชายคนนี้จะไปเกี่ยวข้องกับเรื่องของคดี ความหวาดกลัวความหวาดระแวงไม่ใช่บุคลิกของคนที่จิตใจโหดเหี้ยม แถมยังไม่มีร่องรอยของผู้มีพลังอักขระเลยแม้แต่น้อย แล้วเจ้าหน้าที่โตโต้กำลังสืบหาอะไรอยู่นะไคคิดภายในใจ
“มีคนนำมาทิ้งไว้อย่างนั้นรึ เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายรูปร่างลักษณะของคนนั้นเป็นยังไงพอจะจำได้บ้างมั้ย”เจ้าหน้าที่โตโต้ถามต่อ
“ไม่…ไม่รู้ครับไม่…ไม่เห็น”ชายคนนั้นกล่าว
“ถ้าอย่างนั้นไม่เป็นไรครับ ผมขอรบกวนอะไรคุณซักอย่างจะได้มั้ย”เจ้าหน้าที่โตโต้กล่าว
“อะ…อะไรครับ”ชายคนนั้นตอบ
“พาผมไปดูสถานที่ ที่คุณได้พบเจอสร้อยเส้นนี้หน่อยจะได้มั้ยครับ”เจ้าหน้าที่โตโต้กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ชายคนนั้นนั่งคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงพยักหน้าตอบรับ
“แล้ว…จะปล่อยตัวผมมั้ยครับ”ชายคนนั้นเอ่ยขึ้น พร้อมกับจ้องมองเจ้าหน้าที่โตโต้ด้วยสายตาในเชิงร้องขอ
“ปล่อยสิ ปล่อยอยู่แล้วก็ในเมื่อคุณไม่ได้ทำอะไรผิดนิ”เจ้าหน้าที่โตโต้กล่าว ชายคนดังกล่าวเมื่อได้ฟังดังนั้นก็ยิ้มออกทันที จนเห็นฟันสีเหลืองเหมือนกับว่าไม่ค่อยได้รับความเอาใจใส่ซักเท่าไหร่นัก
พอดำเนินการสอบสวนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางเจ้าหน้าที่โตโต้ได้พาชายคนดังกล่าวไปยังจุดที่ชายคนนั้นอ้างว่าพบเจอสร้อยเพชรที่เห็นในรูปภาพ พอไปถึงที่เกิดเหตุทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เดินทางไปด้วยได้ทำการปิดกั้นสถานที่ห้ามผู้ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องเข้าไปยังสถานที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่โตโต้ได้ออกคำสั่งให้ทางด้านเจ้าหน้าที่สืบสวนของหน่วยCTSOออกตรวจสอบเพื่อหาหลักฐานในทันที ไม่นานนักก็ได้พบหลักฐานสำคัญ นั้นก็คือพบรอยคราบเลือดบริเวณใกล้ใกล้กับถังขยะ แถมที่พื้นยังคงมีรอยคราบเลือดเช่นกันคราวนี้ทางหน่วยสืบสวนโชคดีที่พบรอยคราบเลือดที่คาดว่าน่าจะเป็นรอยเท้าของคนร้าย ดูจากลักษณะแล้วเป็นรอยเท้าของผู้ชายไม่ผิดแน่ ทางด้านเจ้าหน้าที่โตโต้จึงสั่งให้หน่วยสืบสวนเก็บรวบรวมหลักฐานทั้งหมดและได้นำกลับไปเพื่อทำการขยายผลต่อไป
“คุณ…คุณเจ้าหน้าที่ผม…ไม่ผิดใช่มั้ยปล่อยผมไปได้แล้วใช่มั้ย”ชายคนนั้นเอ่ยถามเจ้าหน้าที่โตโต้
“ได้สิ”เจ้าหน้าที่โตโต้กล่าว พร้อมกับเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ใกล้ใกล้ให้มานำตัวชายคนนั้นออกไปจากที่เกิดเหตุทันที และเมื่อทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาพาตัวชายคนนั้นไปเค้าก็เริ่มโวยวายทันที
“ไหน…ไหนบอกว่าจะปล่อยไงทำไม…ทำไมจับผมทำไมผม...ผมทำอะไรผิด”ชายคนนั้นตะโกนโวยวายเสียงดังลั่น
“ตอนนี้คุณควรจะต้องอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน เพราะเราต้องกันคุณไว้เป็นพยานเพราะว่าคุณเป็นเพียงคนเดียวที่เห็นตัวคนร้ายและเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองด้วย”เจ้าหน้าที่โตโต้กล่าว
“แกหลอกข้าไอ้คนโกหก คนโกหกพวกแกมันพวกหลอกลวงพวกแกมันคนโกหกทั้งนั้น”ชายคนนั้นตะโกนออกมาเสียงดังลั่นไปทั่วก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจลากตัวออกไป ไคเองซึ่งยืนดูอยู่กับรู้สึกแปลกใจกับการกระทำของชายคนนั้น และเค้าเองก็ไม่เข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเอาเสียเลย แต่ทางด้านเจ้าหน้าที่โตโต้กับไม่รู้สึกอะไรเลยเจ้าหน้าที่โตโต้ยังคงทำงานของเค้าต่อไปเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไคยืนมองดูเจ้าหน้าที่โตโต้อยู่ครู่หนึ่งเค้าจึงเข้าใจแล้วว่าทำไมชายคนนี้ถึงได้เป็นหัวหน้าของหน่วยสืบสวน เพราะว่าเจ้าหน้าที่โตโต้เป็นคนที่ค่อนข้างจริงจังกับการทำงาน เจ้าหน้าที่โตโต้มุ่งมั่นกับการสืบคดีนี้อย่างมากความหวังที่ไคอยากจะช่วยเหลือเพื่อนของเค้าเริ่มมีความหวังเข้าไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว
และเมื่อทางทีมสืบสวนเก็บรวบรวมหลังฐานจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางด้านเจ้าหน้าที่โตโต้ได้มีคำสั่งให้ทุกคนกลับไปยังจุดเกิดเหตุแรกที่บ้านของผู้ตายต่อทันที เมื่อกลับไปยังที่บ้านของผู้ตายซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดที่พบสร้อยเพชรมากนัก เมื่อไคและเจ้าหน้าที่โตโต้มาถึงเจ้าหน้าที่วากัซก็เข้ามารายงานผลการค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมแต่ก็ยังคงไม่ได้ความคืบหน้าใดใด ในตอนนั้นไคเองก็ไม่รอช้าเค้าเดินตรงดิ่งไปยังตู้เซฟทันที ไคไปหยุดยืนตรงบริเวณตู้เซฟอีกครั้งแต่คราวนี้เค้าลืมความหวาดกลัว ของร่องรอยความสยดสยองจนหมดสิ้นเค้าก้มลงมองดูภายในตู้เซฟอย่างละเอียด เค้ามองดูจนทั่วคล้ายกับว่ากำลังค้นหาอะไรบางอย่างอยู่
“เจ้าค้นหาอะไรรึ ไค”เสียงเจ้าหน้าที่วากัซเอ่ยขึ้น
“ผมว่าตรงบริเวณตู้เซฟนี้มีข้อสงสัยหลายอย่างเลยนะครับ”ไคกล่าว
“มีอะไรอย่างนั้นรึ”เจ้าหน้าที่โตโต้ให้ความสนใจกับความคิดของไคทันที
“ดูจากภายในตู้แล้วคนร้ายไม่ได้หยิบของมีค่าใดใดไปเลย มีเพียงแค่สร้อยเพชรชุดใหญ่เพียงอย่างเดียว สังเกตได้จากกล่องเครื่องเพชรที่อยู่ภายในตู้ไม่ได้ถูกเปิดออกหรือถูกแตะต้องเลยแม้แต่น้อย ดูสิครับกล่องเครื่องเพชรกล่องอื่นยังคงอยู่ที่เดิมทั้งหมด สังเกตได้ง่ายจากรอยคราบเลือดที่ติดอยู่”ไคกล่าวพร้อมกับชี้ให้เจ้าหน้าที่ทั้งสองคนได้ดู
“จริงด้วยสิ ไม่มีร่องรอยการรื้อค้นเลยแม้แต่น้อย แสดงว่าคนร้ายหยิบสร้อยเพชรนั้นไปเพียงอย่างเดียว แต่เราก็ตรวจหารอยนิ้วมือแฝงแต่ก็ไม่พบรอยนิ้วมือใดใดเลย นอกจากรอยนิ้วมือของผู้ตายเท่านั้น”เจ้าหน้าที่วากัซกล่าว
“ไม่ใช่คนร้ายหรอกครับที่หยิบเครื่องเพชร แต่เป็นผู้ตายต่างหากล่ะครับ”ไคกล่าว
“หมายความว่ายังไง”เจ้าหน้าที่วากัซเอ่ยขึ้น
“ดูจากประตูของตู้เซฟครับ สังเกตมั้ยครับว่ามันถูกเปิดออกก่อนที่จะถูกอะไรบางอย่างตัดขาดออกจากกัน เศษที่ขาดออกจากกันของประตูตู้เซฟเองก็พบว่ามีรอยคราบเลือดขนาดใหญ่ติดอยู่”ไคกล่าวพร้อมกับชี้ให้เจ้าหน้าที่วากัซดูตรงบริเวณประตูตู้เซฟที่ถูกตัดขาด
“ถ้าอย่างนั้นย่อมหมายความว่า ผู้ตายยืนอยู่ตรงบริเวณประตูตู้เซฟที่เปิดออกพร้อมกับส่งเพชรชุดใหญ่ให้กับคนร้าย ก่อนที่จะถูกคนร้ายฆ่าตายสินะ”เจ้าหน้าที่โตโต้กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“แกพูดเป็นแค่นี้เหรอ ขอโทษแกขอโทษทำไมแกไปทำอะไรผิดมาบอกมาซะดีดีนะ”เจ้าหน้าที่ตำรวจตะโกนใส่ชายคนนั้นอีกครั้ง
“ผมไม่รู้อย่าทำอะไรผมเลยนะครับ ผมขอโทษ”ชายคนนั้นกล่าว พร้อมกับเริ่มที่จะมีหยดน้ำตาไหลพรั่งพรูออกมา
“ถ้าแกไม่บอกแกได้เจอดีแน่”เจ้าหน้าที่ตำรวจตะโกนใส่ชายคนนั้นอย่างไม่หยุด
“ขอโทษนะครับคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผมอยากจะขอคุยกับผู้ต้องหาเป็นการส่วนตัวจะได้มั้ยครับ”เจ้าหน้าที่โตโต้กล่าวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจคนนั้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ พอเจ้าหน้าที่ตำรวจคนนั้นได้ฟังคำขอของเจ้าหน้าที่โตโต้แล้ว เค้าจึงพยักหน้าตอบรับแต่โดยดีแล้วจึงลุกออกจากห้องไป ทิ้งให้เจ้าหน้าที่โตโต้ได้อยู่กับผู้ต้องหาเพียงลำพัง แต่ความจริงยังมีชายอีกหลายคนที่ยืนรอฟังการสอบปากคำอยู่ที่ห้องด้านข้าง
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจรูปร่างเจ้าเนื้อได้เดินออกจากห้องไปแล้ว เจ้าหน้าที่โตโต้จึงค่อยค่อยนั่งลงแล้วจ้องมองดูชายคนนั้นอยู่ตรงเก้าอี้ฝั่งตรงกันข้าม เจ้าหน้าที่โตโต้ยังคงไม่พูดอะไรเลยเค้าเพียงแต่จ้องมองดูชายคนนั้นอย่างเงียบเงียบ แต่เพียงแค่จ้องมองชายคนดังกล่าวเท่านั้นแต่ชายคนนั้นก็แสดงท่าทางหวาดกลัวออกมาอย่างเห็นได้ชัด อาจจะเป็นเพราะรอยสักตามร่างกายของเจ้าหน้าที่โตโต้ที่หลุดเล็ดลอดออกมาจากเสื้อผ้าก็เป็นได้
“ผมรู้ว่าคุณไม่ได้เป็นคนทำไม่ต้องกลัวนะครับ ผมไม่ทำร้ายคุณหรอกผมมีเรื่องอยากจะถามคุณสองสามข้อเท่านั้นครับ”เสียงที่ทุ้มต่ำและนุ่มนวลของเจ้าหน้าที่โตโต้ที่เอ่ยออกมา ทำให้ชายคนนั้นดูสงบลงไปในทันที สายตาที่ดูหวาดระแวงก็เริ่มหายไปจากแววตาของเค้า
“ผม…ผมไม่รู้แต่ผมขอโทษ”ชายคนนั้นยังคงเอ่ยคำเดิมออกมา
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่โตโต้ได้หยิบรูปภาพเครื่องเพชรชนิดหนึ่งออกมาจากแฟ้ม ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจรูปร่างเจ้าเนื้อวางทิ้งเอาไว้ ยื่นให้กับชายคนนั้นดู
“คุณเคยเห็นเครื่องเพชรชิ้นนี้มั้ยครับ”เจ้าหน้าโตโต้กล่าวอย่างสุภาพ ชายคนนั้นเมื่อมองเห็นรูปภาพเค้าก็พยักหน้าตอบ
“อัน…อันนี้แหล่ะครับที่ผมเจอ”ชายคนนั้นกล่าว
“เจอมาอย่างงั้นรึ เจอที่ไหนพอจะจำได้มั้ย”เจ้าหน้าที่โตโต้กล่าว
“ตรง… ตรงถังขยะใกล้กับที่นอนของผมครับ ผม… ผมไม่ได้ทำอะไรผิดนะครับมี มีคน…คนเอามาทิ้งไว้”ชายคนนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ตะกุกตะกักและเบามาก
ไค ที่ยืนมองอยู่ที่ห้องข้างข้าง เค้ามองผ่านกระจกเข้าไปเค้าเองก็คิดเช่นเดียวกันกับเจ้าหน้าที่โตโต้ คนคนนี้ไม่ใช่คนร้ายอย่างแน่นอนเพราะไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่ชายคนนี้จะไปเกี่ยวข้องกับเรื่องของคดี ความหวาดกลัวความหวาดระแวงไม่ใช่บุคลิกของคนที่จิตใจโหดเหี้ยม แถมยังไม่มีร่องรอยของผู้มีพลังอักขระเลยแม้แต่น้อย แล้วเจ้าหน้าที่โตโต้กำลังสืบหาอะไรอยู่นะไคคิดภายในใจ
“มีคนนำมาทิ้งไว้อย่างนั้นรึ เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายรูปร่างลักษณะของคนนั้นเป็นยังไงพอจะจำได้บ้างมั้ย”เจ้าหน้าที่โตโต้ถามต่อ
“ไม่…ไม่รู้ครับไม่…ไม่เห็น”ชายคนนั้นกล่าว
“ถ้าอย่างนั้นไม่เป็นไรครับ ผมขอรบกวนอะไรคุณซักอย่างจะได้มั้ย”เจ้าหน้าที่โตโต้กล่าว
“อะ…อะไรครับ”ชายคนนั้นตอบ
“พาผมไปดูสถานที่ ที่คุณได้พบเจอสร้อยเส้นนี้หน่อยจะได้มั้ยครับ”เจ้าหน้าที่โตโต้กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ชายคนนั้นนั่งคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงพยักหน้าตอบรับ
“แล้ว…จะปล่อยตัวผมมั้ยครับ”ชายคนนั้นเอ่ยขึ้น พร้อมกับจ้องมองเจ้าหน้าที่โตโต้ด้วยสายตาในเชิงร้องขอ
“ปล่อยสิ ปล่อยอยู่แล้วก็ในเมื่อคุณไม่ได้ทำอะไรผิดนิ”เจ้าหน้าที่โตโต้กล่าว ชายคนดังกล่าวเมื่อได้ฟังดังนั้นก็ยิ้มออกทันที จนเห็นฟันสีเหลืองเหมือนกับว่าไม่ค่อยได้รับความเอาใจใส่ซักเท่าไหร่นัก
พอดำเนินการสอบสวนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางเจ้าหน้าที่โตโต้ได้พาชายคนดังกล่าวไปยังจุดที่ชายคนนั้นอ้างว่าพบเจอสร้อยเพชรที่เห็นในรูปภาพ พอไปถึงที่เกิดเหตุทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เดินทางไปด้วยได้ทำการปิดกั้นสถานที่ห้ามผู้ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องเข้าไปยังสถานที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่โตโต้ได้ออกคำสั่งให้ทางด้านเจ้าหน้าที่สืบสวนของหน่วยCTSOออกตรวจสอบเพื่อหาหลักฐานในทันที ไม่นานนักก็ได้พบหลักฐานสำคัญ นั้นก็คือพบรอยคราบเลือดบริเวณใกล้ใกล้กับถังขยะ แถมที่พื้นยังคงมีรอยคราบเลือดเช่นกันคราวนี้ทางหน่วยสืบสวนโชคดีที่พบรอยคราบเลือดที่คาดว่าน่าจะเป็นรอยเท้าของคนร้าย ดูจากลักษณะแล้วเป็นรอยเท้าของผู้ชายไม่ผิดแน่ ทางด้านเจ้าหน้าที่โตโต้จึงสั่งให้หน่วยสืบสวนเก็บรวบรวมหลักฐานทั้งหมดและได้นำกลับไปเพื่อทำการขยายผลต่อไป
“คุณ…คุณเจ้าหน้าที่ผม…ไม่ผิดใช่มั้ยปล่อยผมไปได้แล้วใช่มั้ย”ชายคนนั้นเอ่ยถามเจ้าหน้าที่โตโต้
“ได้สิ”เจ้าหน้าที่โตโต้กล่าว พร้อมกับเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ใกล้ใกล้ให้มานำตัวชายคนนั้นออกไปจากที่เกิดเหตุทันที และเมื่อทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาพาตัวชายคนนั้นไปเค้าก็เริ่มโวยวายทันที
“ไหน…ไหนบอกว่าจะปล่อยไงทำไม…ทำไมจับผมทำไมผม...ผมทำอะไรผิด”ชายคนนั้นตะโกนโวยวายเสียงดังลั่น
“ตอนนี้คุณควรจะต้องอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน เพราะเราต้องกันคุณไว้เป็นพยานเพราะว่าคุณเป็นเพียงคนเดียวที่เห็นตัวคนร้ายและเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองด้วย”เจ้าหน้าที่โตโต้กล่าว
“แกหลอกข้าไอ้คนโกหก คนโกหกพวกแกมันพวกหลอกลวงพวกแกมันคนโกหกทั้งนั้น”ชายคนนั้นตะโกนออกมาเสียงดังลั่นไปทั่วก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจลากตัวออกไป ไคเองซึ่งยืนดูอยู่กับรู้สึกแปลกใจกับการกระทำของชายคนนั้น และเค้าเองก็ไม่เข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเอาเสียเลย แต่ทางด้านเจ้าหน้าที่โตโต้กับไม่รู้สึกอะไรเลยเจ้าหน้าที่โตโต้ยังคงทำงานของเค้าต่อไปเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไคยืนมองดูเจ้าหน้าที่โตโต้อยู่ครู่หนึ่งเค้าจึงเข้าใจแล้วว่าทำไมชายคนนี้ถึงได้เป็นหัวหน้าของหน่วยสืบสวน เพราะว่าเจ้าหน้าที่โตโต้เป็นคนที่ค่อนข้างจริงจังกับการทำงาน เจ้าหน้าที่โตโต้มุ่งมั่นกับการสืบคดีนี้อย่างมากความหวังที่ไคอยากจะช่วยเหลือเพื่อนของเค้าเริ่มมีความหวังเข้าไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว
และเมื่อทางทีมสืบสวนเก็บรวบรวมหลังฐานจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางด้านเจ้าหน้าที่โตโต้ได้มีคำสั่งให้ทุกคนกลับไปยังจุดเกิดเหตุแรกที่บ้านของผู้ตายต่อทันที เมื่อกลับไปยังที่บ้านของผู้ตายซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดที่พบสร้อยเพชรมากนัก เมื่อไคและเจ้าหน้าที่โตโต้มาถึงเจ้าหน้าที่วากัซก็เข้ามารายงานผลการค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมแต่ก็ยังคงไม่ได้ความคืบหน้าใดใด ในตอนนั้นไคเองก็ไม่รอช้าเค้าเดินตรงดิ่งไปยังตู้เซฟทันที ไคไปหยุดยืนตรงบริเวณตู้เซฟอีกครั้งแต่คราวนี้เค้าลืมความหวาดกลัว ของร่องรอยความสยดสยองจนหมดสิ้นเค้าก้มลงมองดูภายในตู้เซฟอย่างละเอียด เค้ามองดูจนทั่วคล้ายกับว่ากำลังค้นหาอะไรบางอย่างอยู่
“เจ้าค้นหาอะไรรึ ไค”เสียงเจ้าหน้าที่วากัซเอ่ยขึ้น
“ผมว่าตรงบริเวณตู้เซฟนี้มีข้อสงสัยหลายอย่างเลยนะครับ”ไคกล่าว
“มีอะไรอย่างนั้นรึ”เจ้าหน้าที่โตโต้ให้ความสนใจกับความคิดของไคทันที
“ดูจากภายในตู้แล้วคนร้ายไม่ได้หยิบของมีค่าใดใดไปเลย มีเพียงแค่สร้อยเพชรชุดใหญ่เพียงอย่างเดียว สังเกตได้จากกล่องเครื่องเพชรที่อยู่ภายในตู้ไม่ได้ถูกเปิดออกหรือถูกแตะต้องเลยแม้แต่น้อย ดูสิครับกล่องเครื่องเพชรกล่องอื่นยังคงอยู่ที่เดิมทั้งหมด สังเกตได้ง่ายจากรอยคราบเลือดที่ติดอยู่”ไคกล่าวพร้อมกับชี้ให้เจ้าหน้าที่ทั้งสองคนได้ดู
“จริงด้วยสิ ไม่มีร่องรอยการรื้อค้นเลยแม้แต่น้อย แสดงว่าคนร้ายหยิบสร้อยเพชรนั้นไปเพียงอย่างเดียว แต่เราก็ตรวจหารอยนิ้วมือแฝงแต่ก็ไม่พบรอยนิ้วมือใดใดเลย นอกจากรอยนิ้วมือของผู้ตายเท่านั้น”เจ้าหน้าที่วากัซกล่าว
“ไม่ใช่คนร้ายหรอกครับที่หยิบเครื่องเพชร แต่เป็นผู้ตายต่างหากล่ะครับ”ไคกล่าว
“หมายความว่ายังไง”เจ้าหน้าที่วากัซเอ่ยขึ้น
“ดูจากประตูของตู้เซฟครับ สังเกตมั้ยครับว่ามันถูกเปิดออกก่อนที่จะถูกอะไรบางอย่างตัดขาดออกจากกัน เศษที่ขาดออกจากกันของประตูตู้เซฟเองก็พบว่ามีรอยคราบเลือดขนาดใหญ่ติดอยู่”ไคกล่าวพร้อมกับชี้ให้เจ้าหน้าที่วากัซดูตรงบริเวณประตูตู้เซฟที่ถูกตัดขาด
“ถ้าอย่างนั้นย่อมหมายความว่า ผู้ตายยืนอยู่ตรงบริเวณประตูตู้เซฟที่เปิดออกพร้อมกับส่งเพชรชุดใหญ่ให้กับคนร้าย ก่อนที่จะถูกคนร้ายฆ่าตายสินะ”เจ้าหน้าที่โตโต้กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ