RED STONE WAR
เขียนโดย nemon
วันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 21.50 น.
แก้ไขเมื่อ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 23.26 น. โดย เจ้าของนิยาย
54) คำถามแลกป้าย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความทันใดนั้นเสียงปืนก็ดังขึ้นหนึ่งครั้งซึ่งเป็นสัญญาณการปล่อยตัวนักกีฬา นั่นเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ว่าการแข่งขันประจำปีได้เริ่มขึ้นแล้ว นักกีฬาทั้งหมดที่รอเพียงเสียงสัญญาณอยู่นั้น ต่างก็ออกตัววิ่งทันทีในบริเวณจุดปล่อยตัวที่เคยมีคนหลายสิบคนยืนอยู่ตอนนี้เหลือเพียงฝุ่นที่ลอยฟุ้งกระจายอยู่โดยรอบ นักกีฬาทุกคนต่างก็วิ่งออกตัวกันไปจนหมด แต่เมื่อฝุ่นที่ลอยฟุ้งอยู่จางหายไปภาพที่กองเชียร์ต่างต่างที่มารอชมการแข่งขันต่างก็ตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น นั่นก็คือยังมีคนที่ยังไม่ได้ออกตัววิ่งไปอยู่อีกถึงห้าคนด้วยกันความแปลกใจของกองเชียร์ที่มาชมต่างพูดคุยกันจนเสียงอื้ออึงไปหมด
และห้าคนที่ยังไม่ได้ออกวิ่งไปนั้นก็คือนักกีฬาของทีมสีแดงสี่คนและนักกีฬาของทีมสีเขียวหนึ่งคน ในตอนนั้นคนที่ยืนอยู่ก็คือไค ฮันนี่ หรั่ง จัมพ์และเด็กสาวที่ชื่อตังเม ทั้งสามคนของทีมสีแดงต่างก็ยืนจ้องมองจัมพ์และตังเมด้วยความสนใจ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนทั้งคู่จัมพ์เองในตอนนั้นก็ไม่ได้สนใจอะไรกับสิ่งรอบข้างเลยเค้าได้แต่ยืนจ้องมองตังเม เหมือนกับว่าต้องมนต์สะกดอะไรบ้างอย่างอยู่ทำให้เค้าไม่มีพลังงานใดใดที่จะต้านทาน เพื่อที่จะไม่หยุดจ้องมองแววตาของเธอ
“จัมพ์”เสียงของไคพูดขึ้นเบาเบาพร้อมกับจับที่หัวไหล่ของจัมพ์ ในตอนนั้นเองทำให้จัมพ์สามารถละสายตาจากตังเมได้
“มีอะไรเหรอไค”จัมพ์กล่าว
“การแข่งขันเริ่มขึ้นแล้วนะเราต้องออกวิ่งกันได้แล้วเดี๋ยวจะไม่ทันคนอื่น”ไคกล่าว เมื่อจัมพ์ได้ยินดังนั้นจึงหันมองดูรอบรอบตัวเค้าก็ไม่พบนักกีฬาคนอื่นอื่นเลย เค้ามองเห็นแค่เพียงฮันนี่กับหรั่งที่ยืนจ้องมองเค้าอยู่
“แล้วทำไมสองคนนั่นไม่ออกวิ่งล่ะ”จัมพ์กล่าวพร้อมกับชี้ไปทางฮันนี่กับหรั่ง
“ทำไมฉันต้องวิ่งด้วยล่ะในการแข่งรอบนี้เป็นหน้าที่ของพวกนายต่างหากและถ้าหากว่าพวกนายเอาชนะไม่ได้ละก็ ฉันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเตรียมการแข่งขันต่อไป ทางพวกฉันต่างหากที่ต้องถามพวกนายว่าทำไมไม่ออกตัววิ่งกันซะที มั่วแต่หลงเสนห์แม่สาวน้อยคนนั้นอยู่ได้”ฮันนี่กล่าว
และเมื่อพอฮันนี่พูดจบตังเมที่ยื่นอยู่ข้างข้างจัมพ์ ก็ออกวิ่งทันทีพร้อมส่งยิ้มให้กับจัมพ์ก่อนที่จะออกวิ่งไป จากนั้นไคจึงรีบคว้าข้อมือของจัมพ์ออกวิ่งตามหลังตังเมไปติดติด พร้อมกับปล่อยโจเซฟให้วิ่งนำหน้าของพวกเค้า โดยปล่อยให้ฮันนี่และหรั่งยืนอยู่ที่จุดปล่อยตัวเพียงสองคนเท่านั้น
ไคและจัมพ์วิ่งตามหลังของสาวน้อยตังเมไปติดติด แต่ไม่ว่าไคและจัมพ์จะเร่งฝีเท้าขนาดไหนแต่ก็วิ่งไม่ทันเธอสักที จนเมื่อเธอวิ่งไปจนถึงหัวมุมถนนตรงบริเวณป้ายบอกทาง เมื่อไคและจัมพ์วิ่งมาถึงตรงบริเวณนั้นตังเมเธอก็หายไปเสียแล้ว ไคจึงกางแผนที่ขึ้นแล้วกำหนดจุดไปยังฐานแรกเพื่อรับป้าย ระยะทางจากจุดที่พวกเค้ายืนอยู่กับจุดรับป้ายแรกห่างกันประมาณหนึ่งกิโลเมตร ไคและจัมพ์จึงต้องรีบเร่งฝีเท้าทั้งคู่จึงรีบวิ่งต่อไปทันที
ในที่สุดทั้งสองคนก็มาถึงจุดรับป้ายแรก ตรงบริเวณนั้นเป็นซุ้มเล็กเล็กที่ตั้งอยู่ใต้ต้นสนมีโต๊ะไม้ตั้งอยู่ โดยมีเจ้าหน้าที่เป็นผู้หญิงดูมีอายุซักหน่อยผมยาวสีดำสวมเสื้อสีดำกางเกงขายาวสีดำใส่ร้องเท้าส้นสูงสีแดงสดเธอนั้งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ เมื่อไคและจัมพ์ไปถึงเธอจึงกวักมือเรียกทั้งสองคนเข้าไปหาเธอทันที
เมื่อไคและจัมพ์เดินเข้าไปหาเธอ ไคจึงอุ้มโจเซฟขึ้นแต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ยอมให้เค้าอุ้มง่ายง่าย มันพยายามดิ้นไปมาจนไคต้องปล่อยมันลง พอโจเซฟลงถึงพื้นได้มันก็กระโดดโลดเต้นพร้อมกับกระดิกหางไปมามันยืนจ้องมองไปทางที่จะวิ่งไปต่อเหมือนกับว่ามันอยากจะวิ่ง ดูมันมีความสุขกับการได้ออกวิ่งในระยะทางไกลไกลเสียเหลือเกิน ไคคิดภายในใจ
“พวกเธอมาถึงเป็นกลุ่มสุดท้ายเลยนะ”เจ้าหน้าที่รับป้ายฐานแรกกล่าว
“ครับ พวกเราขอรับป้ายเลยครับ”ไคเอ่ยขึ้น
“ถ้าจะรับป้ายนั้นไม่ยากหรอกค่ะ แต่พวกเธอจะต้องตอบคำถามที่ดิฉันจะถามให้ได้เสียก่อน”เจ้าหน้าที่รับป้ายฐานแรกกล่าว
“คำถามอะไรครับ”ไคถามต่อ
“เอาคำถามไหนดีนะ”เธอทำท่าค้นหาอะไรบางอย่างในกล่องกระดาษเล็กเล็กสีน้ำตาลที่อยู่ตรงหน้าของเธอ
“เจอละ ฟังคำถามให้ดีดีนะดิฉันจะถามเพียงครั้งเดียวเท่านั้น”เจ้าหน้าที่รับป้ายฐานแรกกล่าว
“ครับ”ไคตอบ ส่วนจัมพ์ที่ยืนอยู่ข้างข้าง ได้แต่นิ่งเงียบโดยไม่พูดอะไรเลยอาจเป็นเพราะจัมพ์เองไม่ค่อยถนัดกับเรื่องการตอบคำถามสักเท่าไหร่นัก
คำถามมีอยู่ว่า ถ้าหากสมมุติว่าเธอต้องการอยากได้เสื้อตัวหนึ่งแต่ว่าเธอไม่มีเงินเลยเธอก็เลยไปยืมเงินพ่อกับแม่ของเธอมาคนละห้าร้อยบาท รวมเป็นเงินหนึ่งพันบาทพอไปถึงร้านเธอก็ซื้อเสื้อตัวที่เธอต้องการในราคาเก้าร้อยเจ็ดสิบบาท เธอก็จะเหลือเงินสามสิบบาท
หลังจากนั้นพอกลับมาถึงบ้านเธอก็เอาเงินไปคืนให้พ่อของเธอสิบบาท คืนให้แม่อีกสิบบาท ส่วนเธอเองเก็บเอาไว้สิบบาท รวมแล้วสรุปได้ว่าเธอคืนเงินให้พ่อและแม่คนละสิบบาท เธอจึงเป็นหนี้พ่อกับแม่คนละสี่ร้อยเก้าสิบบาทและเมื่อเอาเงินที่เธอเป็นหนี้พ่อและแม่ของเธอเอามารวมกันก็จะได้เก้าร้อยแปดสิบบาทบวกกับเงินที่เธอเอามาเก็บไว้อีกสิบบาทก็จะเป็นเงินเก้าร้อยเก้าสิบบาท คำถามมีอยู่ว่า เมื่อเธอมีเงินอยู่ในตอนแรกหนึ่งพันบาท แต่ในตอนนี้เงินอีกสิบบาทหายไปไหน
พอเมื่อเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวพูดจบไคและจัมพ์ต่างก็นิ่งเงียบไปและใช้เวลาในการคิดหาคำตอบโดยจัมพ์เริ่มหันมาปรึกษาไคก่อน
“เงินมันจะหายไปได้ยังไงวะหนึ่งพันลบเก้าร้อยเจ็ดสิบก็เหลือสามสิบก็ถูก คืนให้พ่อให้แม่แล้วก็เก็บไว้เองคนละสิบก็ยังถูกอยู่ เงินพ่อกับเงินแม่สี่ร้อยเก้าสิบบาทเอามารวมกันก็ได้เก้าร้อยแปดสิบก็ถูกอีกเอามารวมกับเงินที่มีอีกสิบทำไมมันได้เก้าร้อยเก้าสิบละ คำถามอะไรกันวะเนี๊ยะ”จัมพ์เริ่มโวยวายขึ้นหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“จัมพ์ใจเย็นเย็นก่อนนะ ดูเหมือนว่าคำถามแบบนี้ผมเคยเห็นที่ไหนมาก่อนนะ”ไคพูดขึ้นและเมื่อเจ้าหน้าที่หญิงได้ยินก็แอบยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย
“พร้อมจะตอบคำถามรึยังล่ะ”เจ้าหน้าที่รับป้ายฐานแรกกล่าว
“ใครจะไปตอบได้ละคำถามบ้าบออะไรกัน”จัมพ์บ่นพรึมพรำเบาเบา
“ขอเวลาคิดสักครู่นะครับ”ไคตอบ
“ข้าว่ามันจะต้องเป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบแน่แน่เลยไค ข้าว่าเราไปต่อกันเถอะอย่ามัวเสียเวลากับคำถามบ้าบออะไรแบบนี้เลย”จัมพ์กล่าว
“เราจะต้องหาคำตอบให้ได้นะ ไม่อย่างงั้นเราก็ไม่มีทางที่จะชนะในการแข่งครั้งนี้เลย”ไคกล่าว
“พวกเธอจะไม่รับป้ายอันแรกก็ได้นะ พอจบการแข่งขันทีมที่มีป้ายมากที่สุดและเข้าเส้นชัยก็จะเป็นผู้ชนะไปมีหลายทีมที่เลือกจะไม่ตอบคำถาม พวกเธอจะไม่ตอบก็ได้นะแล้วก็วิ่งต่อไป”เจ้าหน้าที่รับป้ายฐานแรกกล่าว
“ถ้างั้นเราก็ไปกันเถอะไค อย่ามัวเสียเวลาอยู่เลยคำถามแปลกประหลาดแบบนี่ใครจะไปตอบได้”จัมพ์พูดขึ้น
“ไม่ได้หรอกจัมพ์ ผมคิดว่าเราควรจะต้องตอบคำถามนี้ให้ได้หากเราอยากจะชนะเกมนี้ และถ้ามีอีกหลายทีมที่ไม่ยอมรับป้ายแรกไปนั้นก็ถือว่าเป็นโอกาสขอทีมเราหากเราตอบคำถามนี้ได้ ถึงแม้ว่าเป็นความหวัง เพียงน้อยนิดแต่มันก็คือความหวังนะ เราต้องลองดู”ไคเอ่ย
“ข้าว่ามันทำให้เราเสียเวลามากกว่านะ ไม่รู้ว่าตอนนี้พวกที่วิ่งกลุ่มนำเค้าวิ่งกันไปถึงไหนแล้ว”จัมพ์กล่าว
พอไคได้ฟังก็หยิบคู่มือการแข่งขันขึ้นมากางออก แล้วอ่านทวนซ้ำดูอีกครั้งถึงกฏการแข่งขันอีกที เค้าสังเกตเห็นกฏการแข่งขันที่มีวงเล็บข้อแม้ตรงกฏข้อสุดท้ายเค้าจึงอ่านให้จัมพ์ฟัง
“กฏพิเศษเกี่ยวกับป้ายประจำฐาน หนึ่งป้ายประจำแต่ละฐานจะได้รับสิทธเทียบเท่าหนึ่งอันดับของการเข้าเส้นชัย ซึ่งหมายความว่าหากเราเข้าที่อันดับสองหรือสามแต่เรามีป้ายมากกว่าทีมอื่นเราก็อาจจะได้เป็นทีมอันดับหนึ่งได้หากเราเก็บป้ายประจำฐานมากกว่าทีมอื่น”ไคอ่านออกเสียงเพื่อให้จัมพ์ฟังได้ชัดเจน
“ถ้างั้นเราก็ต้องตอบคำถามนี้ให้ได้สินะ”จัมพ์กล่าว
“ถูกต้องแล้วล่ะ ที่พวกเธอเข้าใจนั้นถูกต้องแล้วสรุปว่าพวกเธอจะตอบคำถามเพื่อจะรับป้ายจากดิฉันใช่มั้ย”เจ้าหน้าที่ประจำฐานกล่าว
“ครับ เราจะตอบคำถาม”ไคตอบ
“งั้นผมขอยืมกระดาษกับปากกาหน่อยจะได้มั้ยครับ”ไคกล่าวต่อเจ้าหน้าที่ประจำฐาน หลังจากที่เธอได้ยินเธอก็ส่งกระดาษกับปากกาให้ไค พอไคได้รับกระดาษกับปากกาแล้วก็เริ่มเขียนตัวเลขลงไป
500+500 = 1000
1000-970 = 30
30 – 20 = 10
490 + 490 = 980
980 + 10 = 990
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ