ริมฝั่งทะเลฝัน

-

เขียนโดย น้ำไนล์

วันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 18.56 น.

  14 ตอน
  2 วิจารณ์
  17.04K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 19.24 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) นางฟ้าในดวงตาฝัน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

                    มอเตอร์ไซค์คันนั้นส่งเสียงครางดังห่างออกไปจนลับโค้งชายหาด ฟ้ามองส่งนัทด้วยรอยยิ้ม ความรู้สึกแปลกๆบางอย่างเกิดขึ้นในหัวใจฟ้าอย่างไม่รู้สาเหตุเป็นความรู้สึกใหม่ๆบางประการที่ทำให้หัวใจสดชื่น คลายเหงา มีชีวิตชีวาขึ้นจากเดิม

                   รถเก๋งสีแดงขับมาจอดตรงหน้าบ้านฟ้าหันไปมอง ชายหนุ่มผิวขาวก้าวลงมาจากรถรอยยิ้มบางๆแต้มบนใบหน้า

                   “ไงจ๊ะ วันนี้ฟ้าเก็บร้านเร็วเหรอเอกไปแล้วไม่เจอ” เอกเดินโอบไหล่ฟ้าเข้ามาในบ้านแล้วหยุดนั่งตรงเก้าอี้ริมระเบียง

                   “ค่ะ…เอกทานข้าวมารึยังเดี๋ยวฟ้าจัดให้เอามั๊ย”

                   “เรียบร้อยตั้งแต่ตอนเลิกประชุมแล้วล่ะ”

                   “งั้นกาแฟหน่อยนะ”

                   “ดีจ๊ะ” ฟ้าเดินเข้าไปในบ้านไม่นานก็กลับออกมาพร้อมแก้วกาแฟหอมกรุ่น เอกเอนหลังนอนกับพนักพิงหลับตานิ่งใบหน้าเครียด ฟ้าใช้สองมือค่อยๆนวดตรงขมับเบาๆ

                   “งานยุ่งหรือจ๊ะ” ฟ้าถาม เอกพยักหน้ารับทั้งที่ยังหลับตาอยู่

                   “ฟ้าอยากให้เอกพักผ่อนบ้าง…ช่วงนี้เอกโหมงานหนักเกินไปรู้มั๊ย เราไม่ค่อยมีเวลาอยู่ด้วยกันเหมือนเมื่อก่อนเลยนะ” ฟ้าพูดในน้ำเสียงนั้นมีแววตัดพ้อเล็กน้อย เอกลืมตาขึ้นค่อยๆยกถ้วยกาแฟขึ้นมาจิบ

                   “คงอีกพักเดียวเท่านั้นแหละ เอกขอเคลียร์ทุกอย่างให้ลงตัวก่อน คุณพ่อกำลังเร่งโรงแรมที่กรุงเทพฯอยู่…เอกก็มาหาฟ้าทุกวันแล้วนี่จ๊ะ” ประโยคหลังนั้นคล้ายจะหันมาปลอบใจฟ้า

                   “งั้นเราลงไปเดินเล่นริมหาดดีมั๊ยเอกจะได้คลายเครียด” เอกก้มลงมองดูนาฬิกานิดหนึ่งก่อนที่จะหันมาบอกฟ้า

                   “คงไม่ได้จ๊ะ…เดี๋ยวเอกต้องกลับไปบังกะโล วันนี้สั่งให้คนมาตกแต่งส่วนหน้าใหม่ คงต้องไปดูสักหน่อย…เอกไปก่อนนะเดี๋ยวพรุ่งนี้เอกจะมาหาอีก” เอกเดินออกจากบ้านไปที่รถฟ้ามองตามด้วยสายตาซึมโศก

                   ดวงอาทิตย์ลับหายไปในผืนน้ำนานแล้ว ฟ้านั่งทอดถอนลมหายใจอยู่ที่ริมระเบียง…ความพึงพอใจในความเงียบสงบที่ริมทะเลแห่งนี้เริ่มถูกความเงียบเหงาจู่โจมคุกคาม ความอ้างว้างเริ่มก่อตัวลึกๆในจิตใจ

                   สามสี่ปีที่ผ่านมาหลังจากที่ฟ้าตัดสินใจลาออกจากงานที่มาอยู่ที่ริมทะเลแห่งนี้ด้วยเหตุผลที่ว่าฟ้าคิดถึงพ่อกับแม่ ฟ้าใช้ชีวิตอยู่กับความเรียบง่ายสงบเงียบ มีความสุขกับการเขียนรูป และการเปิดร้านหนังสือเช่า เป็นความง่ายงามที่ฟ้าพึงพอใจ  ช่วงเวลานั้นฟ้าได้รู้จักกับเอกชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของบังกะโลแถบริมทะเลที่นี่ ความสุภาพของเอกและการดูแลเอาใจใส่ที่ทำให้ฟ้ารู้สึกว่าฟ้ามิได้อยู่เพียงลำพังคนเดียว ทำให้ทั้งคู่ตกลงคบหาดูใจกัน ระยะเวลาที่ผ่านมาเอกยังคงสม่ำเสมอในความรู้สึกของฟ้า เป็นสิ่งที่ฟ้าคุ้นชินราวกับเข็มนาฬิกาที่ยังคงหมุนวนในรอบวงเดิมๆ จนบัดนี้ฟ้าเริ่มไม่แน่ใจว่าความรู้สึกเหล่านั้นยังคงทำให้ฟ้าอบอุ่นเป็นสุข หรือมันได้เริ่มจืดจางจนกลายเป็นความชาชินกันแน่ 

                   โมงยามนี้ความเงียบเหงา โดดเดี่ยวห่มคลุมหัวใจจนหม่นหมอง ภาพของใครบางคนติดอยู่ในครุ่นคำนึง…เส้นผมยาวระบ่าสะบัดพลิ้วในสายลม ดวงตาคมซึ้งทอดมองพร้อมรอยยิ้มโชว์เขี้ยวสวยมีเสน่ห์…ฟ้าหลับตาลงด้วยความรู้สึกที่สับสนอยู่ภายใน

…………………………………………..

                   ดึกนี้…หลังจากที่ร้านฝั่งฝันเก็บร้านเสร็จเรียบร้อยแล้ว แทนนั่งเกากีต้าร์หลับตาพริ้มอย่างสบายอารมณ์อยู่ตรงระเบียงด้านหน้า นัทเดินออกมาจากในบ้านหยุดมองภาพนั้นพร้อมกับรอยยิ้ม

                   “แทนคืนนี้แกไม่ไปส่งแม่กุหลลาบแดงของแกหรือไง…ทุกทีเห็นเลิกงานแล้วต้องออกไปกับเค้าทุกคืน”

                   “โอ้ยไม่ได้หรอกคืนนี้พ่อเค้ากลับมาบ้านขืนไปส่งมีหวังหัวแตก”

                   “พ่อจริงๆ…หรือพ่อทูนหัวกันแน่ว้า…” นัทกระเซ้าเย้าแหย่

                   “อ้าวไอ้นัท…ไอ้นี่หาเรื่อง คนนี้น่ะเราจริงจังนะโว้ย” แทนทำท่าขึงขัง

                   “ก็เห็นแกจริงจังมาตั้งหลายคนแล้วนี่”

                   “มันไม่เหมือนกัน…เฮ้อ เวลาที่เราเจอใครสักคนที่เค้าเข้าใจเราในสิ่งที่เราเป็นน่ะมันเป็นความรู้สึกที่ดีมากรู้มั๊ยนัท…เราไม่รู้หรอกว่าความรักมันมีรูปแบบของมันยังไง เรารู้แต่ว่าถ้ามันเกิดขึ้นกับใครแล้ว หัวใจของเค้าจะอ่อนโยนและเป็นสุข” แทนหลับตาพริ้มเกากีร์ตาร์ด้วยท่วงทำนองอ่อนหวาน

                   “อย่างที่แกเป็นอยู่ตอนนี้ใช่มั๊ย” แทนไม่ตอบคำถามนั้นแต่ความสุขฉาบฉายอยู่บนใบหน้าของเขา

                   นัทเดินมาหลบอยู่อีกมุมหนึ่งเงียบๆเพราะไม่อยากรบกวนเวลาแห่งความสุขใจของแทน เสียงกีต้าร์พลิ้วผสานกับกับเสียงร้องหวานนุ่มดังแว่วมากับสายลมขับกล่อมค่ำคืนให้ดูอ่อนโยน

                   “แสงจันทร์กระจ่างส่องนำทางสัญจร คิดถึงนางฟ้าอรชรป่านนี้นางนอนหลับแล้วหรือยัง แสงจันทร์นวลใยข้าจ่อมจมอยู่ในภวังค์เรไรเสียงไพรแว่วดังยิ่งฟังยิ่งเหงาจับใจ คิดถึง”

                   ลมทะเลยามดึกหนาวเสียจนนัทต้องเอามือกอดอกเม็ดดาวระยิบบนราวฟ้าทำให้นัทคิดถึงดวงตาของใครบางคนดวงตาอ่อนหวานทอดมองมาด้วยกระแสแห่งความอบอุ่น…นัทยืนยิ้มให้กับผืนฟ้าอาจเป็นไปได้ว่าเวลานี้ยามนี้หัวใจของนัทนั้นอ่อนโยนและเป็นสุข

คิดถึงนางฟ้าอรชรป่านนี้นางนอนหลับแล้วหรือยัง

                ป่านนี้ใครคนนั้นคงจะนอนหลับใหลอยู่ในค่ำคืนที่อ่อนหวานเช่นนี้

                   “โอ้โห  อะไรกันเนี่ย…” วินเพิ่งเสร็จจากการอาบน้ำ เดินออกมายังหน้าระเบียงหันมามองทั้งนัทและแทนที่อยู่กันคนละมุม

                   “คนนึงก็ร้องเพลงหวานซึ้ง…อีกคนก็ยืนยิ้มกับผืนฟ้าท่าทางจะอินเลิฟนะเนี่ย”

                   “ไม่ใช่เราหรอกวิน…โน่นไอ้แทนโน่นมันกำลังฝันหวานถึงแม่กุหลาบแดงอยู่”

                   “แกกำลังอินเลิฟครั้งที่สองร้อยยี่สิบอยู่เหรอวะแทน” วินหยอกล้อด้วยรอยยิ้ม

                   “เอา…เอาเข้าไป…ไอ้วินคนนี้เราจริงจังนะโว้ยแกน่ะไม่เข้าใจคนมีความรักหรอกนะพ่อเสือยิ้มยาก” แทนค่อนขอดและมองค้อนวินจนวินอดหัวเราะไม่ได้

                   “เออ…เออ…เราเข้าใจแกก็ได้ ไอ้ความรักนี่นะยามมันเป็นสุขอะไรๆก็ดูสวยงามเสียทั้งนั้นยังไงแกก็ระวังพิษของมันด้วยก็แล้วกันนะเพราะมันอาจทำให้แกกระอักเลือดได้” วินเดินมาตบบ่าแทนเบาๆก่อนที่จะนั่งลงแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง

                   “เรามีเรื่องมาปรึกษาพวกแกน่ะ…คือมีลูกค้าเค้ามาจ้างให้ร้านเราสร้างบรรยากาศในการขอแฟนแต่งงานให้หน่อย…เค้ากะเซอร์ไพรส์แฟนน่ะ”

                   “ขอแต่งงาน” ทั้งนัทและแทนอุทานมาพร้อมกัน

                   “โหโรแมนติกซ้า…แล้วจะทำยังไงล่ะ”นัทถาม

                   “ไม่ยาก…ไม่ยาก…เรื่องแบบนี้เราถนัด” แทนวางท่าทีเอาการเอางานแล้วเริ่มอธิบายให้เพื่อนฟัง

                   “การขอแต่งงานมันต้องอยู่ในบรรยากาศที่โรแมนติก เพลงเพราะๆดอกไม้สวยๆอืม...ต้องดอกกุหลาบนะดอกกุหลาบแดงเอาซักเก้าร้อยเก้าสิบเก้าดอกนะถึงจะโรแมนติก”

                   “ไม่เว่อร์ไปเหรอวะไอ้แทนเก้าร้อยเก้าสิบเก้าดอกน่ะ…เก้าดอกก็พอแล้วมั้ง” วินท้วงติง

                   “โธ่…ไอ้วิน…ขอแต่งงานนะไม่ได้เอาไปบูชาพระ ผู้หญิงน่ะเค้าชอบอะไรที่หรูเลิศ ทำให้เค้ารู้สึกพิเศษ…ขอแต่งงานทั้งทีนะเว้ย…เอางี้เรื่องบรรยากาศน่ะเราจัดการเอง ส่วนเรื่องกุหลาบ…นัทแกช่วยจัดการนะแกเป็นผู้หญิงเหมาะกว่า”

                   “เอางี้สินัท…ลองไปขอร้องให้พี่ฟ้าช่วยดีมั๊ย…เพราะพี่ฟ้าเค้าถนัดเรื่องดอกไม้พวกนี้” วินแนะนำนัทยิ้มรับอย่างพอใจ

                   “ได้…เดี๋ยวเราไปขอร้องพี่ฟ้าดู” นัทรับคำอย่างมั่นเหมาะดวงตาเป็นประกายเมื่อพูดถึงฟ้า

                   “เอองั้นตกลงตามนี้นะ…เราจะเข้านอนแล้วพวกแกจะนอนกันหรือยัง”วินหันไปถามเพื่อน

                   “เราก็จะไปเหมือนกัน…ปล่อยให้ไอ้แทนมันครวญเพลงถึงแม่กุหลาบแดงอยู่ที่นี่เถอะ” นัทเดินตามหลังวินเข้าไปในบ้านเสียงเพลงของแทนดังหวานแว่วอยู่ในสายลมยามดึก

                   “….เดินทางกลางเถื่อนกลางหมู่เดือนและหมู่ดาวแหงนมองฟ้าดั่งมองหาเงาของเยาวมาลย์อยู่ในสายลมผู้ใดซ่อนเจ้าน้ำค้างเหน็บหนาวหรือขื่นขมน้ำตาหยดหยดทุกข์ระทมพร่างพรมอยู่ในสายตาหวั่นไหว…”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา