ความรักของตุ๊กตา
9.0
เขียนโดย Kuroki
วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 16.29 น.
31 ตอน
4 วิจารณ์
33.76K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2558 15.10 น. โดย เจ้าของนิยาย
25) บทเพลงแห่งวิญญาณ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ณ ตอนเช้าที่ห้องพักของศาสตราจาร์ยเรนที่รักษาตัวอยู่
เป็นเช้าที่อากาศดูแจ่มใส่นิดหน่อยมีเมฆไม่มากนักเรนที่ยังนอนรักษาตัวอยู่ก็นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่บนเตียงคนไข้ แต่เรนก็ต้องตกใจกับข่าวที่ว่ามีชาวบ้านพบศพของพ่อคิลที่ลอยมากับน้ำแต่เมื่อนักข่าวไปบอกเรื่องนี้แม่ของคิล ทั้ง2คนจำอะไรที่เกี่ยวกับพ่อของคิลไม่ได้เลยสักนิด
''หรือว่า.....คนที่ฆ่าพ่อของคิลจะเป็นแพนโดร่า''เรนพูดพร้อมทำสีหน้าที่ช๊อกมาก
''ไง~เรนไม่ได้เจอกันนานเลยนะ''เสียงของเอเลนที่ห้อยหัวลงมาจากเพดานแล้วมายืนข้างๆเตียงเรน
''เฮ้ย!!เอเลนนายมาแบบดีๆไม่เป็นรึไงฟ้ะ!''เรนตกใจจนเพลอขว้างหนังสือพิมพ์ที่ถืออยู่ใส่เอเลน
''แอ๊ก!! โทษทีๆคราวหน้าจะมาแบบดีๆแล้วครับ''
''ว่าแต่นายนะ มาทำไมมิทราบเอเลน''เรนพูดพร้อมกับนั่งหันไปทางเอเลน
''ก็วันนี้ฉันมีเรื่องะมาบอกนายนะสิ เกี่ยวกับแพนโดร่าด้วย''เอเลนพูดพร้อมกับเอามือลูบจมูกเบาๆ
''ฮ้ะ!!นายรู้หรอว่าแพนโดร่าอยู่ที่ไหนนะ!''เรนพูดพร้อมกับจับแขนนทั้ง2ข้างของเอเลนไว้แน่น
''ใจเย็นๆก่อนเรน แต่อาจจะเป็นข่าวร้ายสำหรับนายนะ''เอเลนพูดพร้อมเดินไปนั่งบนโซฟา
''ไง!เรน''จู่ๆก็มีเสียงของเอมี่และเกียร์ที่เปิดประตูห้องเข้ามาแล้วพุ่งเข้าไปกอดเรนโดยที่เรนไม่ได้ตั้งตัว
''โอ้ยๆ!!มาได้ไงเนี้ยทั้ง2คน''เรนพูดพร้อมกับตะโกนออกมาเพราะยังเจ็บแผลอยู่
''ก็พอรู้ว่านายอยู่นี้ฉันกับเอมี่ก็รีบมาหาเพราะเป็นห่วงนายเลยนะ''
''แล้วแพนโดร่าละ ฉันนึกว่ามาหานายซะอีกเห็นแพนโดร่าไปบ้านนายพอฉันไปหาก็ไม่เจอแพนโดร่าเลย''
''ฉันรู้นะว่าแพนโดร่าเขาอยู่ไหนนะ''เอเลนพูดพร้อมกับนั่งยิ้มแบบเหมือนมีแผนการอะไรสักอย่าง
''เอิ่ม......นายเป็นใครอะ''ทุกคนยกเว้นเรนหันไปหาเอเลนแล้วพูดพร้อมกัน
''ต้องขออภัยที่แนะนำตัวช้าไปนะครับ ผมเอเลน ครอส เป็นคนรู้จักของแพนโดร่าในสมัยก่อนและปัจจุบันครับ''เอเลนพูดพร้อมกับยืนโค้งให้พวกเรนอย่างสง่างาม
''สมัยก่อนงั้นหรอ หมายความว่าไงเอเลน''เรนถามด้วยน้ำเสียงที่ดูจริงจังมาก
''แหม่ๆ~ก็ผมอยู่ทีีี่องกรค์เดียวกับเธอเมื่อก่อนนิ และผมก็เป็นนทำให้เธอเป็นตุ๊กตาเอง''เอเลนพูดแล้วยิ้มมุมปาก
''ทำไม...ทำไมนายต้องทำให้แพนโดร่ากลายเป็นตุ๊กตาด้วย''เรนลุกออกจากเตียงแล้วเข้าไปทำท่าจะต่อยเอเลนแต่เกียร์มาห้ามเอาไว้ได้ทัน
''ใจเย็นๆก่อนนะเรนนายยังไม่หายดีเลยนะ''เกียร์พูดพร้อมกับประคองเรนไปที่เตียงเหมือนเดิม
''เรื่องนั้นผมจะเล่าให้ฟังทีหลังละกัน ก่อนอื่นฉันจะบอกที่อยู่ของแพนโดร่าตอนนี้ให้''เอเลนพูดพร้อมกับหยิบสร้อยล๊อคเก็ตรูปนาฬิกาสีดำมีลายหยดน้ำอยู่ตรงกลางออกมา
''นั้นมันสัญลักษณ์ของคนที่ได้ชื่อว่าแกร่งรองอันดับ3ในหน่วย''เสียงของพ่อเอมี่ที่เดินประตูเข้ามาหาพร้อมกับหยิบสร้อยแบบเดียวกับเอเลน
''พ่อคะ/ครับ! มาได้ไงเนี้ย''เอมี่กับเกียร์หันไปหาพ่อของเอมี่แล้วก็ตกใจ
''เกียร์ทำไมนายเรียกคุณแบล็คว่าพ่อละ''เรนพูดพร้อมทำหน้าสงสัย
''อ๋อลืมบอกนายไปเลยนะ ผมกับเอมี่นะกำลังจะแต่งงานกันในเดือนหน้าแล้วละ''
''งั้นหรอ ดีใจด้วยนะทั้ง2คน''เรนพูดพร้อมกับยิ้มให้เกียร์และเอมี่
''อาวไงครับคุณอันดับ4แบล็ค''เอเลนพูดพร้อมเดินไปหาแบล็ค
''อันดับ4อะไรกันฉันก็แค่พ่อคนหนึ่งก็เท่านั้นแหละ''แบล็คพูดพร้อมกับมองเอเลนด้วยสายตาที่นิ่งแต่ในใจพูดว่า(อย่าพูดเรื่องฉันเด็ดขาดฉันไม่อยากให้ครอบครัวฉันเป็นอันตรายนะ)
''หมายความว่าไงคะพ่อ!''เอมี่พูดพร้อมจ้องแบล็คพ่อของตนแบบตาไม่กระพริบ
''คือว่า.....พอดีพ่อแค่รู้เฉยๆเองนะจ้ะ~''แบล็คพูดพร้อมกับเหงือตกนิดๆ
''งั้นหรอคะพ่อ''
''เอิ่ม....สรุปพวกคุณจะไม่ห่วงแพนโดร่าหน่อยหรอ''เอเลนพูดพร้อมกับทำหน้าเซง
''งั้นก็บอกมาสิว่าแพนโดร่าอยู่ไหนกันแน่''เรนหันไปถามเอเลนในทันที
''okงั้นก็เงียบๆกันก่อนนะ''เอเลนพูดพร้อมกับเปิดล๊อคเก็ตรูปนาฬิกาสีดำลายหยดน้ำ
ทันใดนั้นก็มีภาพของแพนโดร่ากับวิโนน่าที่กำลังจะขึึึึึึึึึึ้นรถม้าสีดำอยู่ที่หน้าทางเข้าถ้ำที่เรนเคยไปปิกนิกกับแพนโดร่าและเคยเก็บบสมุนไพรในภูเขาคาโฮะและรถม้าสีดำก็วิ่งหายเข้าไปในถ้ำนั้นทันทีแต่ในมือของแพนโดร่านั้นมีรูปของเรนติดมาด้วย
''เอ๋!ทำไมแพนโดร่าหายไปในถ้ำได้ละ แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกัน= =+''เอมี่พูดออกมาด้วยความหงุดหงิดและสงสัย
''คนธรรมดาคงจะมองไม่เห็นอย่างฉันกับคุณอันดับ4หรอกเพราะจริงๆแล้วทางเข้าถ้ำนั้นมีม่านพลังที่คนธรรมดาอย่างพวกนายมองไม่เห็นมีแค่คนในองกรค์เท่านั้นที่จะเห็นได้''เอเลนพูดพร้อมกับเก็บล๊อคเก็ตรูปนาฬิกาสีดำลายหยดน้ำลงไปในกระเป๋ากางเกง
''แต่ฉันเห็นนะเอเลน''เรนพูดขึ้นมาในขณะที่ทุกคนกำลังงงกับสิ่งที่เอเลนพูด
''นายเห็นได้ไงอะเรน''เกียร์หันไปถามเรน
''คงเป็นเพราะจิตใจที่เชื่อมถึงกันของแพนโดร่าและเรนละมั้งถึงทำให้เรนมองเห็นได้ม่านพลังนั้นได้นะ''เอเลนพูด
''อาจจะจริงที่เอเลนพูดนะเพราะเมื่อหัวใจของมนุษย์เราสื่อถึงกันได้จะมองเห็นได้ทุกสิ่ง''จู่ๆก็มีเสียงของแมรี่ดังออกมาจากที่ไหนสักแห่ง
''อะ อะ เอ๋!เสียงใครนะ''เอมี่พูดพร้อมกับตัวสั่น
''ลืมฉันกันอีกแล้วหรอ!''แมรี่โผล่ขึ้นมาจากพื้น(ก็เป็นวิญญาณนี้เนอะ)
''เฮ้อ~แมรี่เองหรอ''เอมี่พูดแล้วถอนหายใจ
''ถ้าแมรี่เป็นวิญญาณแล้วทำไมโดนแดดได้อะ''เกียร์หันไปหาแมรี่
''เออ...คือแบบว่า....เพราะ..''แมรี่พูดพร้อมกับเขินจนหน้าแดง
''เพราะทำสัญญาด้วยจูบไงละ''เอเลนพูดแทรกขึ้นมาแล้วยิ้มมุมปาก
''จูบหรอ!!!''ทุกคนอึ้งกับสิ่งที่เอเลนพูดยกเว้นแมรี่
''อะ อืม...''เขินจนหน้าแดงมากกว่าเดิมแล้วเอเลนก็เดินมาโอบแมรี่ให้เข้ามาใกล้ๆตัวเอง
''เอเลนนายนี้ก็ร้ายไม่ใช่เล่นเลยนิ''แบล็คพูดแซวเอเลน
''หยุดพูดเรื่องนี้กันก่อนเถอะครับ ฉันว่ามาเข้าเรื่องกันเถอะ''เรนพูดแทรกขึ้นมาเพราะกำลังเป็นห่วงแพนโดร่ามาก
''โอเคๆ เท่าที่ผมไปสืบมานะถ้าผมเดาไม่ผิดอีก1อาทิตย์หลังจากที่แพนโดร่าไปหาหัวหน้าจะเกิดโศกนาฏกรรมจะมีคนล้มตายไปเป็นจำนวนมากด้วยบทเพลงแห่งวิญญาณของเธอ''เอเลนพูดพร้อมทำหน้าเครียดนิดๆพร้อมกับจับแมรี่มานั่งตัก
''บทเพลงแห่งวิญญาณงั้นหรอ อืม~เหมือนเคยได้เห็นชื่อนี้ที่ไหนนะ''เรนพูดพร้อมทำหน้าสงสัยและพยายามนึก
''มันร้องแบบนี้สินะ''เ
เนื้อบทเพลงแห่งวิญญาณ
''ผีเสื้อแห่งความสุขจงบินไปยัง
สุดขอบฟ้าที่ดูหม่นหมองเพื่อ
จะไปโปรยความสุขชัวนิรันดิ์
ให้กับดินแดนที่สงบสุข
แต่ผีเสื้อแห่งความสุขก็บินไปไม่ถึง
เพราะถูกความมืดครอบงำจนกลาย
เป็นผีเสื้อแห่งความโศกเศร้าและโปรยความโศก
เศร้าไปทั่วดินแดนทำให้ทุกสิ่งกลายเป็นความตาย''
''ใช่แล้วละ!เพลงนี้เลยละนายไปจำมาจากไหนนะเรน!''เอเลนพูดพร้อมเดินไปกุมไหล่ทั้ง2ข้างของเรนด้วยสีหน้าที่ตกใจ
''คือ...ก่อนที่ท่านแม่จะตายท่านได้ร้องเพลงนี้เป็นเพลงสุดท้ายของท่านนะ''เรนพูดด้วยท่าทางที่ตกใจนิดๆที่จู่ๆเอเลนก็มาจับไหล่
''งั้นหรอ หึๆๆอย่างนี่นี้เอง เข้าใจแล้วว่าทำไมหัวหน้าถึงได้แต่งเพลงนี้ขึ้นมาหึๆๆ''เอเลนกุมหน้าตนเองพร้อมกับหัวเราะแบบสะใจออกมา
''หมายความว่าไงกันแน่เอเลน''เอมี่พูดด้วยน้ำเสียงที่ดูจริงจังมาก
''หมายความว่าหัวหน้าของท่านเอเลนนั้นเข้ารู้แล้วว่าอนาคตของแพนโดร่าจะเป็นแบบนี้ยังไงละคะ''แมรี่พูดขึั้นแทนเอเลนที่กำลังกุมหน้าและหัวเราะแบบสะใจอยู่
''อย่างนี่นี้เองสินะ เอาละเกียร์ เอเลน เอมี่ แมรี่และคุณแบล็คครับช่วยผมเรื่องหนึ่งจะได้ไหมครับ''เรนหันไปถามทุกๆคน
''จะให้ช่วยอะไรงั้นรึเรน''
''คือผมอยากจะให้ปิดเรื่องนี้เป็นความลับระหว่างพวกเรากันแค่นี้จะได้ไหมเพราะถ้าคนอื่นรู้มันจะอันตรายนะครับ''เรนพูดพร้อมกันเดินลงมาจากเตียงแล้วเกาะขอบเกาะไว้
''แล้วผมก็อยากจะไปช่วยแพนโดร่าด้วยตัวของผมเอง''
''เรื่องนั้นพวกเราตั้งใจจะไม่บอกใครอยู่แล้วละ แต่นายยังไม่หายเลยนะเรน จะไหวหรอ''เอมี่ถาม
''ยังไงฉันก็ต้องไปนะเอมี่เธอก็รู้นิว่าฉันรู้สึกยังไงกับแพนโดร่านะ''เรนหันไปเถี่ยงเอมี่
''ให้เขาทำตามตนเองเถอะนะลูกพ่อ''แบล็คเดินมาจับบ่าเอมี่
''นั้นสิ งั้นเอาเป็นว่าคืนพรุ่งนี้พระจันทร์เต็มดวงมาเจอกันที่หน้าปากถ้ำบนภูเขาคาโฮะนะ ส่วนเรื่องที่จะไปหาแพนโดร่ายังไงนั้นผมจะจัดการเอง''เอาเลนพูดพร้อมอุ้มแมรี่ในท่าอุ้มเจ้าหญิงแล้วหายไปพร้อมกัน
''อื้ม!''ทุกคนพูดพร้อมกัน
หลังจากนั้นทุกคนก็บอกลาเรนแล้วแยกย้ายกันกลับบ้านไป ในขณะที่เรนกำลังจะหลับตานอนเรนก็เห็นภาพของแพนโดร่าตอนเด็กที่กำลังยิ้มอย่างมีความสุขแล้วจู่ๆก็มีมือสีดำมาจับตัวเธอไปทำให้เธอกลายเป็นอีกบุคลิกไปในทันที
*เอาไว้พอแค่นี้ก่อน ไว้พบกันตอนที่26นะจ้ะ>w<*
เป็นเช้าที่อากาศดูแจ่มใส่นิดหน่อยมีเมฆไม่มากนักเรนที่ยังนอนรักษาตัวอยู่ก็นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่บนเตียงคนไข้ แต่เรนก็ต้องตกใจกับข่าวที่ว่ามีชาวบ้านพบศพของพ่อคิลที่ลอยมากับน้ำแต่เมื่อนักข่าวไปบอกเรื่องนี้แม่ของคิล ทั้ง2คนจำอะไรที่เกี่ยวกับพ่อของคิลไม่ได้เลยสักนิด
''หรือว่า.....คนที่ฆ่าพ่อของคิลจะเป็นแพนโดร่า''เรนพูดพร้อมทำสีหน้าที่ช๊อกมาก
''ไง~เรนไม่ได้เจอกันนานเลยนะ''เสียงของเอเลนที่ห้อยหัวลงมาจากเพดานแล้วมายืนข้างๆเตียงเรน
''เฮ้ย!!เอเลนนายมาแบบดีๆไม่เป็นรึไงฟ้ะ!''เรนตกใจจนเพลอขว้างหนังสือพิมพ์ที่ถืออยู่ใส่เอเลน
''แอ๊ก!! โทษทีๆคราวหน้าจะมาแบบดีๆแล้วครับ''
''ว่าแต่นายนะ มาทำไมมิทราบเอเลน''เรนพูดพร้อมกับนั่งหันไปทางเอเลน
''ก็วันนี้ฉันมีเรื่องะมาบอกนายนะสิ เกี่ยวกับแพนโดร่าด้วย''เอเลนพูดพร้อมกับเอามือลูบจมูกเบาๆ
''ฮ้ะ!!นายรู้หรอว่าแพนโดร่าอยู่ที่ไหนนะ!''เรนพูดพร้อมกับจับแขนนทั้ง2ข้างของเอเลนไว้แน่น
''ใจเย็นๆก่อนเรน แต่อาจจะเป็นข่าวร้ายสำหรับนายนะ''เอเลนพูดพร้อมเดินไปนั่งบนโซฟา
''ไง!เรน''จู่ๆก็มีเสียงของเอมี่และเกียร์ที่เปิดประตูห้องเข้ามาแล้วพุ่งเข้าไปกอดเรนโดยที่เรนไม่ได้ตั้งตัว
''โอ้ยๆ!!มาได้ไงเนี้ยทั้ง2คน''เรนพูดพร้อมกับตะโกนออกมาเพราะยังเจ็บแผลอยู่
''ก็พอรู้ว่านายอยู่นี้ฉันกับเอมี่ก็รีบมาหาเพราะเป็นห่วงนายเลยนะ''
''แล้วแพนโดร่าละ ฉันนึกว่ามาหานายซะอีกเห็นแพนโดร่าไปบ้านนายพอฉันไปหาก็ไม่เจอแพนโดร่าเลย''
''ฉันรู้นะว่าแพนโดร่าเขาอยู่ไหนนะ''เอเลนพูดพร้อมกับนั่งยิ้มแบบเหมือนมีแผนการอะไรสักอย่าง
''เอิ่ม......นายเป็นใครอะ''ทุกคนยกเว้นเรนหันไปหาเอเลนแล้วพูดพร้อมกัน
''ต้องขออภัยที่แนะนำตัวช้าไปนะครับ ผมเอเลน ครอส เป็นคนรู้จักของแพนโดร่าในสมัยก่อนและปัจจุบันครับ''เอเลนพูดพร้อมกับยืนโค้งให้พวกเรนอย่างสง่างาม
''สมัยก่อนงั้นหรอ หมายความว่าไงเอเลน''เรนถามด้วยน้ำเสียงที่ดูจริงจังมาก
''แหม่ๆ~ก็ผมอยู่ทีีี่องกรค์เดียวกับเธอเมื่อก่อนนิ และผมก็เป็นนทำให้เธอเป็นตุ๊กตาเอง''เอเลนพูดแล้วยิ้มมุมปาก
''ทำไม...ทำไมนายต้องทำให้แพนโดร่ากลายเป็นตุ๊กตาด้วย''เรนลุกออกจากเตียงแล้วเข้าไปทำท่าจะต่อยเอเลนแต่เกียร์มาห้ามเอาไว้ได้ทัน
''ใจเย็นๆก่อนนะเรนนายยังไม่หายดีเลยนะ''เกียร์พูดพร้อมกับประคองเรนไปที่เตียงเหมือนเดิม
''เรื่องนั้นผมจะเล่าให้ฟังทีหลังละกัน ก่อนอื่นฉันจะบอกที่อยู่ของแพนโดร่าตอนนี้ให้''เอเลนพูดพร้อมกับหยิบสร้อยล๊อคเก็ตรูปนาฬิกาสีดำมีลายหยดน้ำอยู่ตรงกลางออกมา
''นั้นมันสัญลักษณ์ของคนที่ได้ชื่อว่าแกร่งรองอันดับ3ในหน่วย''เสียงของพ่อเอมี่ที่เดินประตูเข้ามาหาพร้อมกับหยิบสร้อยแบบเดียวกับเอเลน
''พ่อคะ/ครับ! มาได้ไงเนี้ย''เอมี่กับเกียร์หันไปหาพ่อของเอมี่แล้วก็ตกใจ
''เกียร์ทำไมนายเรียกคุณแบล็คว่าพ่อละ''เรนพูดพร้อมทำหน้าสงสัย
''อ๋อลืมบอกนายไปเลยนะ ผมกับเอมี่นะกำลังจะแต่งงานกันในเดือนหน้าแล้วละ''
''งั้นหรอ ดีใจด้วยนะทั้ง2คน''เรนพูดพร้อมกับยิ้มให้เกียร์และเอมี่
''อาวไงครับคุณอันดับ4แบล็ค''เอเลนพูดพร้อมเดินไปหาแบล็ค
''อันดับ4อะไรกันฉันก็แค่พ่อคนหนึ่งก็เท่านั้นแหละ''แบล็คพูดพร้อมกับมองเอเลนด้วยสายตาที่นิ่งแต่ในใจพูดว่า(อย่าพูดเรื่องฉันเด็ดขาดฉันไม่อยากให้ครอบครัวฉันเป็นอันตรายนะ)
''หมายความว่าไงคะพ่อ!''เอมี่พูดพร้อมจ้องแบล็คพ่อของตนแบบตาไม่กระพริบ
''คือว่า.....พอดีพ่อแค่รู้เฉยๆเองนะจ้ะ~''แบล็คพูดพร้อมกับเหงือตกนิดๆ
''งั้นหรอคะพ่อ''
''เอิ่ม....สรุปพวกคุณจะไม่ห่วงแพนโดร่าหน่อยหรอ''เอเลนพูดพร้อมกับทำหน้าเซง
''งั้นก็บอกมาสิว่าแพนโดร่าอยู่ไหนกันแน่''เรนหันไปถามเอเลนในทันที
''okงั้นก็เงียบๆกันก่อนนะ''เอเลนพูดพร้อมกับเปิดล๊อคเก็ตรูปนาฬิกาสีดำลายหยดน้ำ
ทันใดนั้นก็มีภาพของแพนโดร่ากับวิโนน่าที่กำลังจะขึึึึึึึึึึ้นรถม้าสีดำอยู่ที่หน้าทางเข้าถ้ำที่เรนเคยไปปิกนิกกับแพนโดร่าและเคยเก็บบสมุนไพรในภูเขาคาโฮะและรถม้าสีดำก็วิ่งหายเข้าไปในถ้ำนั้นทันทีแต่ในมือของแพนโดร่านั้นมีรูปของเรนติดมาด้วย
''เอ๋!ทำไมแพนโดร่าหายไปในถ้ำได้ละ แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกัน= =+''เอมี่พูดออกมาด้วยความหงุดหงิดและสงสัย
''คนธรรมดาคงจะมองไม่เห็นอย่างฉันกับคุณอันดับ4หรอกเพราะจริงๆแล้วทางเข้าถ้ำนั้นมีม่านพลังที่คนธรรมดาอย่างพวกนายมองไม่เห็นมีแค่คนในองกรค์เท่านั้นที่จะเห็นได้''เอเลนพูดพร้อมกับเก็บล๊อคเก็ตรูปนาฬิกาสีดำลายหยดน้ำลงไปในกระเป๋ากางเกง
''แต่ฉันเห็นนะเอเลน''เรนพูดขึ้นมาในขณะที่ทุกคนกำลังงงกับสิ่งที่เอเลนพูด
''นายเห็นได้ไงอะเรน''เกียร์หันไปถามเรน
''คงเป็นเพราะจิตใจที่เชื่อมถึงกันของแพนโดร่าและเรนละมั้งถึงทำให้เรนมองเห็นได้ม่านพลังนั้นได้นะ''เอเลนพูด
''อาจจะจริงที่เอเลนพูดนะเพราะเมื่อหัวใจของมนุษย์เราสื่อถึงกันได้จะมองเห็นได้ทุกสิ่ง''จู่ๆก็มีเสียงของแมรี่ดังออกมาจากที่ไหนสักแห่ง
''อะ อะ เอ๋!เสียงใครนะ''เอมี่พูดพร้อมกับตัวสั่น
''ลืมฉันกันอีกแล้วหรอ!''แมรี่โผล่ขึ้นมาจากพื้น(ก็เป็นวิญญาณนี้เนอะ)
''เฮ้อ~แมรี่เองหรอ''เอมี่พูดแล้วถอนหายใจ
''ถ้าแมรี่เป็นวิญญาณแล้วทำไมโดนแดดได้อะ''เกียร์หันไปหาแมรี่
''เออ...คือแบบว่า....เพราะ..''แมรี่พูดพร้อมกับเขินจนหน้าแดง
''เพราะทำสัญญาด้วยจูบไงละ''เอเลนพูดแทรกขึ้นมาแล้วยิ้มมุมปาก
''จูบหรอ!!!''ทุกคนอึ้งกับสิ่งที่เอเลนพูดยกเว้นแมรี่
''อะ อืม...''เขินจนหน้าแดงมากกว่าเดิมแล้วเอเลนก็เดินมาโอบแมรี่ให้เข้ามาใกล้ๆตัวเอง
''เอเลนนายนี้ก็ร้ายไม่ใช่เล่นเลยนิ''แบล็คพูดแซวเอเลน
''หยุดพูดเรื่องนี้กันก่อนเถอะครับ ฉันว่ามาเข้าเรื่องกันเถอะ''เรนพูดแทรกขึ้นมาเพราะกำลังเป็นห่วงแพนโดร่ามาก
''โอเคๆ เท่าที่ผมไปสืบมานะถ้าผมเดาไม่ผิดอีก1อาทิตย์หลังจากที่แพนโดร่าไปหาหัวหน้าจะเกิดโศกนาฏกรรมจะมีคนล้มตายไปเป็นจำนวนมากด้วยบทเพลงแห่งวิญญาณของเธอ''เอเลนพูดพร้อมทำหน้าเครียดนิดๆพร้อมกับจับแมรี่มานั่งตัก
''บทเพลงแห่งวิญญาณงั้นหรอ อืม~เหมือนเคยได้เห็นชื่อนี้ที่ไหนนะ''เรนพูดพร้อมทำหน้าสงสัยและพยายามนึก
''มันร้องแบบนี้สินะ''เ
เนื้อบทเพลงแห่งวิญญาณ
''ผีเสื้อแห่งความสุขจงบินไปยัง
สุดขอบฟ้าที่ดูหม่นหมองเพื่อ
จะไปโปรยความสุขชัวนิรันดิ์
ให้กับดินแดนที่สงบสุข
แต่ผีเสื้อแห่งความสุขก็บินไปไม่ถึง
เพราะถูกความมืดครอบงำจนกลาย
เป็นผีเสื้อแห่งความโศกเศร้าและโปรยความโศก
เศร้าไปทั่วดินแดนทำให้ทุกสิ่งกลายเป็นความตาย''
''ใช่แล้วละ!เพลงนี้เลยละนายไปจำมาจากไหนนะเรน!''เอเลนพูดพร้อมเดินไปกุมไหล่ทั้ง2ข้างของเรนด้วยสีหน้าที่ตกใจ
''คือ...ก่อนที่ท่านแม่จะตายท่านได้ร้องเพลงนี้เป็นเพลงสุดท้ายของท่านนะ''เรนพูดด้วยท่าทางที่ตกใจนิดๆที่จู่ๆเอเลนก็มาจับไหล่
''งั้นหรอ หึๆๆอย่างนี่นี้เอง เข้าใจแล้วว่าทำไมหัวหน้าถึงได้แต่งเพลงนี้ขึ้นมาหึๆๆ''เอเลนกุมหน้าตนเองพร้อมกับหัวเราะแบบสะใจออกมา
''หมายความว่าไงกันแน่เอเลน''เอมี่พูดด้วยน้ำเสียงที่ดูจริงจังมาก
''หมายความว่าหัวหน้าของท่านเอเลนนั้นเข้ารู้แล้วว่าอนาคตของแพนโดร่าจะเป็นแบบนี้ยังไงละคะ''แมรี่พูดขึั้นแทนเอเลนที่กำลังกุมหน้าและหัวเราะแบบสะใจอยู่
''อย่างนี่นี้เองสินะ เอาละเกียร์ เอเลน เอมี่ แมรี่และคุณแบล็คครับช่วยผมเรื่องหนึ่งจะได้ไหมครับ''เรนหันไปถามทุกๆคน
''จะให้ช่วยอะไรงั้นรึเรน''
''คือผมอยากจะให้ปิดเรื่องนี้เป็นความลับระหว่างพวกเรากันแค่นี้จะได้ไหมเพราะถ้าคนอื่นรู้มันจะอันตรายนะครับ''เรนพูดพร้อมกันเดินลงมาจากเตียงแล้วเกาะขอบเกาะไว้
''แล้วผมก็อยากจะไปช่วยแพนโดร่าด้วยตัวของผมเอง''
''เรื่องนั้นพวกเราตั้งใจจะไม่บอกใครอยู่แล้วละ แต่นายยังไม่หายเลยนะเรน จะไหวหรอ''เอมี่ถาม
''ยังไงฉันก็ต้องไปนะเอมี่เธอก็รู้นิว่าฉันรู้สึกยังไงกับแพนโดร่านะ''เรนหันไปเถี่ยงเอมี่
''ให้เขาทำตามตนเองเถอะนะลูกพ่อ''แบล็คเดินมาจับบ่าเอมี่
''นั้นสิ งั้นเอาเป็นว่าคืนพรุ่งนี้พระจันทร์เต็มดวงมาเจอกันที่หน้าปากถ้ำบนภูเขาคาโฮะนะ ส่วนเรื่องที่จะไปหาแพนโดร่ายังไงนั้นผมจะจัดการเอง''เอาเลนพูดพร้อมอุ้มแมรี่ในท่าอุ้มเจ้าหญิงแล้วหายไปพร้อมกัน
''อื้ม!''ทุกคนพูดพร้อมกัน
หลังจากนั้นทุกคนก็บอกลาเรนแล้วแยกย้ายกันกลับบ้านไป ในขณะที่เรนกำลังจะหลับตานอนเรนก็เห็นภาพของแพนโดร่าตอนเด็กที่กำลังยิ้มอย่างมีความสุขแล้วจู่ๆก็มีมือสีดำมาจับตัวเธอไปทำให้เธอกลายเป็นอีกบุคลิกไปในทันที
*เอาไว้พอแค่นี้ก่อน ไว้พบกันตอนที่26นะจ้ะ>w<*
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ