มาเฟียสุดเฟี้ยวกะยัยเปรี้ยวสุดบ้า
9.8
เขียนโดย Akademi
วันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 18.45 น.
12 ตอน
5 วิจารณ์
20.57K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 3 เมษายน พ.ศ. 2557 21.23 น. โดย เจ้าของนิยาย
11) ส่งท้าย (เจอกันอีกครั้ง)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทส่งท้าย
“อ๊า~ ในที่สุดก็ถึงสักที เมืองไทยจ๋าคิดถึงจังเลย~” ตอนนี้เวลาก็ผ่านไปแล้ว 4 ปี สินะ อยากจะเห็นยัยสองคนนั้นมีแฟนจัง และก็อยากเห็นบิ๊กกัฟใส่ชุดนักศึกษาด้วย จะเป็นยังไงน๊า ระหว่างที่ฉันเรียนที่อเมริกาก็ได้เจอกับเพื่อนใหม่หลายคน และที่สำคัญมีคนมาจีบฉันเยอะด้วย ย้ำนะ! ว่าเยอะจริงๆ เยอะจนไม่รู้ฉันควรจะเลือกใครดี ทั้งๆ ที่อยากจะมีใครสักคนแต่ฉันกลับยังไม่ลืมคนๆ นั้น ตอนนี้จะเป็นยังไงบ้างนะ (-_- )(-_-)( -_-) บ้าๆ! แล้วเราจะคิดถึงเขาทำไมเนี่ย นี่ก็ผ่านมาตั้ง 4 ปีแล้ว เขาคงลืมฉันแล้วมีผู้หญิงอื่นไปแล้วล่ะ คิดแล้วมันเศร้าจัง ในการกลับครั้งนี้ฉันไม่ได้บอกใครเลย เพราะฉันต้องการจะเซอร์ไพรส์!!! ก่อนจะกลับบ้านต้องแวะไปที่ห้างซื้อของเลี้ยงฉลองสักหน่อย ส่วนของฝากน่ะเหรอตอนนี้อยู่ในกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว ฉันอุตส่าห์เลือกของที่มีชื่อเสียงที่สุดในอเมริกามาเลยนะ ยังไงตอนนี้ก็ต้องรีบไปซื้อของที่ห้างก่อนล่ะ
โอ้โห้ *0* เวลาผ่านไปทุกอย่างก็เปลี่ยนไปจริงๆ เพราะห้างก็ใหญ่กว่าเดิม แถมของก็น่าซื้อทั้งนั้นเลย แล้วฉันจะเลือกซื้อตั้งแต่ตรงไหนเนี่ย
“ไปซื้อเนื้อหมูทำหมูย่างดีกว่า ^0^”
เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมงในที่สุดก็ซื้อของเสร็จเรียบร้อย ได้เวลากลับบ้านแต่ไหงฉันมาอยู่โรงจอดรถข้างล่างล่ะเนี่ย แค่ฉันไม่ได้อยู่ที่นี่ 4 ปี ประเทศไทยเปลี่ยนไปจนทำให้ฉันเดินหลงทางจากทางออกมาที่โรงจอดรถได้เลยหรือเนี่ย ระหว่างที่ฉันกำลังเดินหาทางออก จู่ๆ ก็มีเสียงปืนดังขึ้น
ปัง! ปัง! และก็มีชายชุดดำถือปืนกำลังวิ่งหนีมาทางฉัน และเมื่อมันเห็นฉันมันจึงเข้ามารัดตัวฉันและเอาปืนมาจ่อหน้าอก จนทำให้ของที่ซื้อมาหล่นไปกองกับพื้นทั้งหมด ตอนนี้ฉันไม่สนแล้วว่าของจะหล่นหรือไม่หล่นแต่ฉันห่วงชีวิตฉันมากกว่า ถึงจะเคยจับปืน อยู่ใกล้ปืนแต่มาจ่อหน้าอกกันอย่างนี้ฉันก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน แต่เราต้องตั้งสติไว้ทุกอย่างมีทางแก้ ระหว่างที่กำลังตั้งสติก็มีชายชุดดำที่ถือปืนเหมือนกันวิ่งเข้ามา และคนๆนั้นก็คือ..
“พี่แกช!!”
“เจมิน!! เธอมาอยู่นี่ได้ไง”
“อย่าเพิ่งถามได้ไหม ช่วยฉันก่อน!”
“เฮ้ย!! แกอย่าเข้ามานะ ไมม่งั้นนังนี่ตาย” มันไม่เพียงแต่พูดขู่อย่างเดียว แต่มันกลับเอาปืนมาจิ้มนมฉันอีก นี่แกจะลามกเกินไปแล้วนะ!!><’’
“แกอย่าทำอะไรเธอนะ!” พี่แกชพยายามเข้ามา และมันก็ขยับไปข้างหลังเรื่อยๆ ถ้ามั่วแต่รอให้พี่แกชช่วย หน้าอกฉันได้ระบมไปมากกว่านี้แน่ ฉันจึงตัดสินใจใช้วิชาต่อสู้ที่ได้เรียนมาจากเพื่อนที่อเมริกา โดยใช้ข้อศอกกระทุ้งเข้าที่ท้องของมัน จนทำให้มันปล่อยฉัน แต่ฉันไม่ยอมให้โอกาสหมดเพียงแค่นี้หรอก ฉันเลยต่อด้วยท่าเท้าเสยหน้า และเมื่อมันตั้งตัวได้ก็เล็งปืนมาที่ฉัน หึ! แต่อย่านึกว่าจะได้แอ้มฉันเลย ฉันเตะเข้าที่มือของมันจนทำให้ปืนลอยกระเด้งขึ้นกลางอากาศ นี่แหละ! คือโอกาส ฉันรีบคว้าปืนที่ลอยอยู่กลางอากาศและเล็งไปที่กลางกบาลของมันทันที
“แกคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงที่อ่อนแอขนาดนั้นเชียวเหรอ!” ฉันพูดพร้อมมองหน้ามันอย่างเหยียดหยาม สิ่งที่แกทำลงไปฉันไม่ให้อภัยแน่ ที่ฉันยอมให้แกจับตัวก็เพื่อวัดใจตัวเองว่าจะอดทนต่อสิ่งเร้าที่จะเข้ามากระตุ้นต่อมนักบู๊ของฉันได้หรือเปล่าก็แค่นั้นแหละ แต่ในที่สุดแกก็ทำให้ฉันต้องทำแบบนี้ เมื่อก่อนท่านผู้อ่านอาจจะเห็นว่าเจมินคนนี้อ่อนแอ ไม่ค่อยเก่งเรื่องการต่อสู้ แต่เมื่อเวลาเปลี่ยน คนก็เปลี่ยนเหมือนกัน
“เจมินไปทำอะไรมาเนี่ย ทำไมถึงได้เก่งขนาดนี้!” ฉันปล่อยที่เหลือให้พี่แกชจัดการ และก็ส่งปืนคืนทันที ไม่งั้นปืนอาจจะลั่นเข้าหัวมันก็ได้ โทษฐานที่มาจิ้มหน้าอกฉัน
“ก็ได้เรียนมานิดหน่อยนะค่ะ ^^”
“ฮะฮ่าๆ ฝีมืออาจจะทัดเทียมกับคุณชายฮาเดสได้เลยนะเนี่ย ^0^”
“อ่อ..เอ่อ” ทำไมต้องพูดชื่อเขาออกมาด้วยนะ ฉันอุตส่าห์ไม่นึกถึงแล้วนะ
“แต่ว่าเจมินหายไปไม่ยอมบอกกันเลยนะ คุณชายออกตามหาเธอแทบพลิกประเทศเลยนะ แต่ก็ได้ข่าวมาว่าเธอไปเรียนต่อที่เมืองนอก”
“เอ่อ..มันกระทะหันไปหน่อยน่ะค่ะ ก็เลยไม่ได้บอก” แต่จริงๆ มันไม่ใช่เลย -_-‘’
“งั้นรอแป๊ปนึงสิ คุณชายกำลังมาที่นี่”
“หา! กำลังมาเหรอ o0o”
“ใช่..ทำไมเหรอ” ฉันไม่ตอบอะไรนอกจากรีบเก็บข้าวของที่หล่นพื้นให้เร็วที่สุด และก็ใส่เกียร์วิ่งหนีออกมาทันที
“เจมิน! จะรีบไปไหนล่ะ”
“เผอิญว่าเจมินมีธุระด่วนน่ะค่ะ!!” ฉันตะโกนบอกพี่แกชทั้งที่ยังวิ่งอยู่ และฉันก็รู้ได้ว่าฮาเดสกำลังมาที่นี่จริงๆ เพราะขณะที่ฉันกำลังหันหลังวิ่งหนีออกไป ฉันเห็นเงาผู้ชายกำลังเดินมาที่พี่แกช ฉันวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อไม่ให้เขาเห็นฉัน!
ด้านฮาเดส
“คุณชายครับ เมื่อกี้...”
“ฉันรู้” ผมรู้ดีว่าผู้หญิงที่วิ่งหนีผมในตอนนี้เป็นคนเดียวกับที่วิ่งหนีจากผมไปเมื่อ 4 ปีก่อน ผมยังจำได้ดีเรือนผมที่เงางามของเธอ หุ่นเล็กๆ ที่น่ากอดของเธอ ผมยังจำทุกอย่างได้ดี จำได้แม้กระทั่งอาการของตัวเองเมื่อรู้ว่าเธอจากผมไป!!
“จะไม่ไปตามสักหน่อยหรือครับ”
“ไม่ต้อง” เพราะยังไงผมจะต้องได้เจอเธออีกแน่ และคราวนี้ผมจะไม่ยอมให้เธอหนีหรือจากผมไปอีก
“เมื่อตอนที่คุณชายรู้ว่าเจมินไม่อยู่แล้ว ก็เอาแต่ดื่มเหล้าทั้งวันทั้งคืน ผมยังจำได้เลยว่าคุณชายเอาแต่เรียกชื่อเจมิน รักเขาทำไมไม่รีบบอกล่ะครับ ^^”
“นี่แกช! -///-”
“อึก..ฮะฮ่าๆ คุณชายฮาเดสเขินเป็นด้วยเหรอเนี่ย ^0^”
“แกช!!” ผมรีบวิ่งเข้าไปเตะแกช โทษฐานที่หัวเราะผม แต่แกชเองก็ไม่ได้โง่อยู่นิ่งให้ผมเตะหรอกนะ และก็ยิ่งทำให้ผมรู้ว่าผมรักเจมินมากไหน ยังไงซะ! ผมไม่มีวันปล่อยเธอไปอีกครั้งแน่! เจมิน
แฮ่กๆ กว่าจะออกมาจากห้างได้แทบตายเลยนะเนี่ย ไม่ได้การณ์ล่ะจะต้องโทรให้ยัยสองคนนั้นมารับดีกว่า พวกนั้นจะได้เซอร์ไพรส์จนตกใจตายไปเลย
ติ๊ด ติ๊ด~
‘ฮัลโหล ว่าไงเจมิน’
“ท๊อฟฟี่แกช่วยมารับฉันทีสิ ที่......”
‘หา? นี่แกจะให้ฉันขึ้นเครื่องไปรับแกที่อเมริกาเลยเหรอ อย่ามาล้อเล่นน๊า!!’ จะบ้าไปกันใหญ่แล้ว นี่แกจะช่วยฟังให้มันจบประโยคก่อนไม่ได้เหรอไงเนี่ย!! -_-‘’
“ไม่ใช่! ตอนนี้ฉันกลับมาถึงไทยแล้ว และตอนนี้อยู่ที่ห้าง xoxo”
‘หา!! แกกลับมาทำไมไม่บอกกันก่อนล่ะ!!’
“ฉันแค่อยากจะเซอร์ไพรส์อ่ะ _=_”
‘เฮ้อ ~ งั้นรอ 10 นาที ฉันจะไปรับ -_-’
“ขอบใจจ้าเพื่อนรัก ^0^”
ติ๊ด ~
ตอนนี้ฉันก็ได้ผ่านเวลาโดนเทศนามาได้ครึ่งชั่วโมง หลังจากที่กลับมาถึงบ้านก็โดนพ่อ แม่ และก็รวมถึงบิ๊กกัฟบ่นเรื่องที่ไม่ยอมบอกว่าจะกลับมาไทยวันนี้ โดยประโยคนี้ฉันจี๊ดมากกกกกก ‘โตจนหมาเลียก้นไม่ถึงแล้ว ยังจะทำตัวเป็นเด็กไปได้’ อ๊ากกกก -0- ฉันโตแล้วจริงๆ นะ แต่ยังไงฉันก็ได้รับความรักกลับมาเหมือนเคย ได้รับความห่วงใยจากทุกคน ถึงจะโดนบ่นฉันก็ไม่โกรธหรอก เพราะยังไงซะคืนนี้ก็เลี้ยงฉลองเต็มที่อยู่แล้ว!! วะฮะฮ่าๆ ^0^ ระหว่างที่กำลังเลี้ยงฉลองกันอย่างสนุกสนาน ฉันก็มีไอเดียเด็ดโผล่ออกมาจากหัวขึ้นมา และก็ป่าวประกาศให้ทุกคนได้รับฟัง
แปะ แปะ ~
“ทุกคนฟังทางนี้หน่อยค่ะ” ตอนนี้ทุกคนหันมาทางฉันหมด และก็มีบางคนที่ไก่ย่างยังคาปาก เค้กยังคามือ หนังสือยังคาตา (อันสุดท้ายไม่ต้องสงสัยว่าเป็นใคร บิ๊กกัฟนั่นเอง) และก็ทำหน้างงกันเป็นแถว
“เจมินคิดว่าพวกเราทุกคนในที่นี้ น่าจะไปเที่ยวกันนะค่ะ”
“ไปเที่ยวเหรอลูก?”
“ค่ะ แม่อยากไปที่ไหนเป็นพิเศษหรือเปล่าค่ะ”
“พ่อกับแม่ไม่ไปหรอก แม่ไม่อยากห่างบ้าน ส่วนพ่องานก็ยุ่งๆ อยู่”
“ไม่เป็นไรค่ะ” ไม่เป็นไรได้ไงเล่า!! อุตส่าห์อยากไปเที่ยวกันทั้งครอบครัวทั้งที แต่ก็ช่วยไม่ได้ฉันก็ไม่อยากทำให้ท่านต้องลำบากใจ ชวนบิ๊กกัฟไปแทนก็ได้ แต่ไหงมันดันตอกกลับมาอย่างนี้ล่ะเนี่ย!!
“ผมไปไม่ได้นะพี่เจมิน เพราะผมต้องอ่านหนังสือเตรียมตัวในการสอบ”
“เฮ้อ ~ ก็แล้วแต่แกแล้วกัน -_-” และสองคนสุดท้ายที่ฉันหวังว่ามันคงจะไปกับฉันนะ
“ฉันว่างเสมอ จะไปที่ไหนล่ะ ^^” = ยัยแคนดี้
“ใช่ๆ ฉันก็ว๊างว่างเหมือนกัน ^^” = ยัยท๊อฟฟี่
“เย้! งั้นเราไปที่เดิมกันนะ \^0^/”
“โอเคเลยเพื่อน!! / ไปพรุ่งนี้กันเลยนะ!!”
“โอเค” ฮ่าๆ ในที่สุดพวกเราก็ได้ไปเที่ยวด้วยกันอีกครั้ง ถึงแม้พ่อ แม่ และก็บิ๊กกัฟ จะไม่ไปก็เถอะ แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะฉันยังมีเพื่อนสองคนนี้ร่วมก๊วนในการเที่ยวครั้งนี้อยู่
9.00 น.
พวกเรามาถึงทะเลที่ภูเก็ตที่เดิมที่เคยมาเที่ยวกันคราวที่แล้ว ถึงคราวนี้จะมาเที่ยวกันแค่สามคนก็เถอะ แต่ฉันก็จะต้องสนุกไปกับการเที่ยวครั้งนี้ไม่แพ้ครั้งที่แล้วแน่นอน
“หาว ~ ฉันขอไปนอนก่อนะ เมื่อคืนนอนน้อยตอนนี้ก็เลยง่วงมาก -0-” = ยัยท๊อฟฟี่
“ฉันก็เหมือนกัน” = ยัยแคนดี้ พวกแกง่วงกันหมดเลยใช่ไหมเนี่ย เรามาเที่ยวกันนะไม่ได้มานอน แต่จะว่าไปฉันก็รู้สึกง่วงเหมือนกัน ผลน่าจะมาจากเมื่อคืนที่นอนไม่ค่อยหลับเพราะไม่คุ้นกับสถานที่ ทั้งๆ ที่เป็นบ้านตัวเองแท้ๆ
“ฉันว่าเราไปนอนพักสักหน่อย แล้วค่อยออกมาก็ได้”
“ใช่ เป็นความคิดที่ดี” พวกเราเดินเข้าห้องพัก ซึ่งฉันจำได้ว่าเป็นห้องเดิมที่พวกเราเคยพักกันตอนมาเที่ยวครั้งที่แล้ว เมื่อมาถึงห้องพวกฉันก็แยกย้ายกันเลือกเตียงและเสด็จหลับไปทันที ตื่นมาอีกทีก็ตอนเย็นๆ เลยก็แล้วกันจะได้ออกมาดูพระอาทิตย์ตกทีเดียวเลย
17.45 น.
“หาว ~ ” โอ้โห้ *0* นี่ฉันนอนนานขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ส่วนยัยพวกนั้นก็ยังไม่ตื่น นี่พวกแกตายกันหรือยัง ใกล้ถึงเวลาพระอาทิตย์ตกแล้วต้องชวนยัยพวกนั้นไปดูด้วยกัน
“นี่ท๊อฟฟี่ แคนดี้ ตื่นไปดูพระอาทิตย์ตกกัน”
“อื้อ ~ เจมินอย่ามากวนได้ไหม?” = ยัยท๊อฟฟี่ แกยังนอนกันไม่เต็มที่เลยหรือไงห๊ะ!! นอนตั้งแต่มาถึงตอนนี้ก็ยังไม่อยากตื่น นี่แกบ้าหรือไง!!!!! ชิ! ยัยท๊อฟฟี่ไม่ไปชวนยัยแคนดี้แทนก็ได้
“แคนดี้ ไปดู......”
“ฉัน..ไม่...ไป หาว ~-0-” อ๊ากกกกกก ยัยแคนดี้ยิ่งกว่ายัยท๊อฟฟี่อีกนะ ฉันยังไม่ทันพูดจบประโยคเลยด้วยซ้ำ หึ! ฉันไปเองคนเดียวก็ได้!!
“เชอะ! พวกแกจำไว้ก็แล้วกัน ฉันไปคนเดียวก็ได้!!”
แอ๊ด ~ ปัง!
ฉันจงใจปิดประตูเสียงดังเพื่อประชดยัยสองคนนั้น ยัยเพื่อนบ้า! ฉันกลับมาจากเมืองนอกทั้งทีทำไมถึงทำกับฉันแบบนี้ ระหว่างที่เดินคิดเรื่องนู้นเรื่องนี้ไปตามชายหาด ฉันก็ได้เห็นพระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า ซึ่งตอนนี้มันกำลังทอแสงสีส้ม ทำให้รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกเหมือนมีคนที่เรารักมาโอบกอด อ๊าห์ ~ รู้สึกดีจังเลย ^0^ ขณะที่ฉันกำลังเดินไปข้างหน้าก็มีผู้ชายคนหนึ่งกำลังเดินมาทางฉันเหมือนกัน ยิ่งเมื่อแสงตะวันกระทบลงที่ใบหน้าของเขา ใบหน้าของเขาก็ยิ่งดูมีเสน่ห์จนทำให้ฉันไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้เลย และยิ่งเข้ามาใกล้ๆ ก็ทำให้ฉันรู้ว่าเขาคือ...
“ฮาเดส 0o0” ฉันทำอะไรไม่ถูก แต่หัวสมองฉันกลับสั่งให้ฉันวิ่งหนีให้เร็วที่สุด แต่ฮาเดสก็ยอมปล่อยฉันไปง่าย เพราะตอนนี้เขากำลังวิ่งตามฉันมา สุดท้ายฉันก็เร็วไม่เท่าเขาเหมือนเคย
“เธอจะวิ่งหนีจากฉันไปอีกครั้งหนึ่งเหรอ?” เขาไม่เพียงวิ่งทันฉันอย่างเดียว แต่เขากอดฉันจากทางด้านหลังและเริ่มแน่นขึ้น เมื่อฉันไม่ยอมตอบคำถามเขา ทำไมฉันจะต้องมาเจอกับเขาอีกครั้งด้วยนะ!! ฉันตั้งใจจะลืมเขาแล้วนะ!! ทำไมกันนน!
“ทำไมเธอต้องหนีจากฉันไปด้วย เธอรู้ไหมว่าฉันต้องทำใจนานแค่ไหนกว่าจะลืมเธอ แต่เมื่อฉันเห็นเธออีกครั้งก็รู้ทันทีว่าตัวเองไม่สามารถลืมเธอได้จริงๆ เธอกำลังทำให้ฉันเป็นบ้านะ!!”
“...”เขาเพิ่มแรงในการกอดอีกเป็นเท่าตัว และรู้สึกได้ถึงความน้อยเนื้อต่ำใจ นายคงเริ่มหมดหวังกับตัวฉันแล้วสินะ? ฉันต้องไม่ใจอ่อนเด็ดขาด ฉันจะไม่กลับไปเป็นตัวซวยสำหรับเขาอีกต่อไป!!
“พูดอะไรมั้งสิ เจมิน!!”
“ฉันไม่อยากเจอหน้านายอีก ฉันไม่อยากเป็นตัวซวยสำหรับนาย ฉันไม่อยากทำให้นายเดือดร้อน ฉันไม่อยาก.... อึกฮือๆ T^T” ฉันไม่สามารถพูดให้จบประโยคได้ เพราะตอนนี้น้ำตามันได้ท่วมหน้าฉันหมดแล้ว ฉันไม่สามารถอดกลั้นไปมากกว่านี้แล้ว ฉันมันเป็นผู้หญิงอ่อนแอ ฮาเดสรีบจับตัวฉันให้ไปเผชิญหน้ากับเขา พร้อมทั้งเอานิ้วมาเกลี่ยน้ำตาให้ฉันอย่างนุ่มนวล ยิ่งนายทำอย่างนี้ฉันยิ่งใจอ่อนนะ
“เธอไม่ใช่เป็นแค่ตัวซวยสำหรับฉันนะ”
“เอ๋?”
“แต่เธอคือทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับฉัน ฉันรักเธอนะเจมิน” เขาเขยิบหน้าเข้ามาใกล้ก่อนจะบรรจงจูบลงบนริมฝีปากฉันอย่างนุ่มนวล ไม่เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนแต่รสจูบของเขาก็ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยจริงๆ ตอนนี้เรากำลังจูบกันท่ามกลางตะวันทอแสงที่กำลังจะลับขอบฟ้า เขายอมผละออกเมื่อรู้ว่าจูบนี้อาจจะทำให้ฉันตายได้ เพราะขาดอากาศหายใจ ต่อไปนี้ฉันจะไม่ยอมเป็นแค่ตัวซวยของนายแน่ เพราะฉันจะต้องเป็นทุกอย่างที่นายขาดไม่ได้!! และฉันก็...
“รัก..นายนะ”
“อ๊า~ ในที่สุดก็ถึงสักที เมืองไทยจ๋าคิดถึงจังเลย~” ตอนนี้เวลาก็ผ่านไปแล้ว 4 ปี สินะ อยากจะเห็นยัยสองคนนั้นมีแฟนจัง และก็อยากเห็นบิ๊กกัฟใส่ชุดนักศึกษาด้วย จะเป็นยังไงน๊า ระหว่างที่ฉันเรียนที่อเมริกาก็ได้เจอกับเพื่อนใหม่หลายคน และที่สำคัญมีคนมาจีบฉันเยอะด้วย ย้ำนะ! ว่าเยอะจริงๆ เยอะจนไม่รู้ฉันควรจะเลือกใครดี ทั้งๆ ที่อยากจะมีใครสักคนแต่ฉันกลับยังไม่ลืมคนๆ นั้น ตอนนี้จะเป็นยังไงบ้างนะ (-_- )(-_-)( -_-) บ้าๆ! แล้วเราจะคิดถึงเขาทำไมเนี่ย นี่ก็ผ่านมาตั้ง 4 ปีแล้ว เขาคงลืมฉันแล้วมีผู้หญิงอื่นไปแล้วล่ะ คิดแล้วมันเศร้าจัง ในการกลับครั้งนี้ฉันไม่ได้บอกใครเลย เพราะฉันต้องการจะเซอร์ไพรส์!!! ก่อนจะกลับบ้านต้องแวะไปที่ห้างซื้อของเลี้ยงฉลองสักหน่อย ส่วนของฝากน่ะเหรอตอนนี้อยู่ในกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว ฉันอุตส่าห์เลือกของที่มีชื่อเสียงที่สุดในอเมริกามาเลยนะ ยังไงตอนนี้ก็ต้องรีบไปซื้อของที่ห้างก่อนล่ะ
โอ้โห้ *0* เวลาผ่านไปทุกอย่างก็เปลี่ยนไปจริงๆ เพราะห้างก็ใหญ่กว่าเดิม แถมของก็น่าซื้อทั้งนั้นเลย แล้วฉันจะเลือกซื้อตั้งแต่ตรงไหนเนี่ย
“ไปซื้อเนื้อหมูทำหมูย่างดีกว่า ^0^”
เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมงในที่สุดก็ซื้อของเสร็จเรียบร้อย ได้เวลากลับบ้านแต่ไหงฉันมาอยู่โรงจอดรถข้างล่างล่ะเนี่ย แค่ฉันไม่ได้อยู่ที่นี่ 4 ปี ประเทศไทยเปลี่ยนไปจนทำให้ฉันเดินหลงทางจากทางออกมาที่โรงจอดรถได้เลยหรือเนี่ย ระหว่างที่ฉันกำลังเดินหาทางออก จู่ๆ ก็มีเสียงปืนดังขึ้น
ปัง! ปัง! และก็มีชายชุดดำถือปืนกำลังวิ่งหนีมาทางฉัน และเมื่อมันเห็นฉันมันจึงเข้ามารัดตัวฉันและเอาปืนมาจ่อหน้าอก จนทำให้ของที่ซื้อมาหล่นไปกองกับพื้นทั้งหมด ตอนนี้ฉันไม่สนแล้วว่าของจะหล่นหรือไม่หล่นแต่ฉันห่วงชีวิตฉันมากกว่า ถึงจะเคยจับปืน อยู่ใกล้ปืนแต่มาจ่อหน้าอกกันอย่างนี้ฉันก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน แต่เราต้องตั้งสติไว้ทุกอย่างมีทางแก้ ระหว่างที่กำลังตั้งสติก็มีชายชุดดำที่ถือปืนเหมือนกันวิ่งเข้ามา และคนๆนั้นก็คือ..
“พี่แกช!!”
“เจมิน!! เธอมาอยู่นี่ได้ไง”
“อย่าเพิ่งถามได้ไหม ช่วยฉันก่อน!”
“เฮ้ย!! แกอย่าเข้ามานะ ไมม่งั้นนังนี่ตาย” มันไม่เพียงแต่พูดขู่อย่างเดียว แต่มันกลับเอาปืนมาจิ้มนมฉันอีก นี่แกจะลามกเกินไปแล้วนะ!!><’’
“แกอย่าทำอะไรเธอนะ!” พี่แกชพยายามเข้ามา และมันก็ขยับไปข้างหลังเรื่อยๆ ถ้ามั่วแต่รอให้พี่แกชช่วย หน้าอกฉันได้ระบมไปมากกว่านี้แน่ ฉันจึงตัดสินใจใช้วิชาต่อสู้ที่ได้เรียนมาจากเพื่อนที่อเมริกา โดยใช้ข้อศอกกระทุ้งเข้าที่ท้องของมัน จนทำให้มันปล่อยฉัน แต่ฉันไม่ยอมให้โอกาสหมดเพียงแค่นี้หรอก ฉันเลยต่อด้วยท่าเท้าเสยหน้า และเมื่อมันตั้งตัวได้ก็เล็งปืนมาที่ฉัน หึ! แต่อย่านึกว่าจะได้แอ้มฉันเลย ฉันเตะเข้าที่มือของมันจนทำให้ปืนลอยกระเด้งขึ้นกลางอากาศ นี่แหละ! คือโอกาส ฉันรีบคว้าปืนที่ลอยอยู่กลางอากาศและเล็งไปที่กลางกบาลของมันทันที
“แกคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงที่อ่อนแอขนาดนั้นเชียวเหรอ!” ฉันพูดพร้อมมองหน้ามันอย่างเหยียดหยาม สิ่งที่แกทำลงไปฉันไม่ให้อภัยแน่ ที่ฉันยอมให้แกจับตัวก็เพื่อวัดใจตัวเองว่าจะอดทนต่อสิ่งเร้าที่จะเข้ามากระตุ้นต่อมนักบู๊ของฉันได้หรือเปล่าก็แค่นั้นแหละ แต่ในที่สุดแกก็ทำให้ฉันต้องทำแบบนี้ เมื่อก่อนท่านผู้อ่านอาจจะเห็นว่าเจมินคนนี้อ่อนแอ ไม่ค่อยเก่งเรื่องการต่อสู้ แต่เมื่อเวลาเปลี่ยน คนก็เปลี่ยนเหมือนกัน
“เจมินไปทำอะไรมาเนี่ย ทำไมถึงได้เก่งขนาดนี้!” ฉันปล่อยที่เหลือให้พี่แกชจัดการ และก็ส่งปืนคืนทันที ไม่งั้นปืนอาจจะลั่นเข้าหัวมันก็ได้ โทษฐานที่มาจิ้มหน้าอกฉัน
“ก็ได้เรียนมานิดหน่อยนะค่ะ ^^”
“ฮะฮ่าๆ ฝีมืออาจจะทัดเทียมกับคุณชายฮาเดสได้เลยนะเนี่ย ^0^”
“อ่อ..เอ่อ” ทำไมต้องพูดชื่อเขาออกมาด้วยนะ ฉันอุตส่าห์ไม่นึกถึงแล้วนะ
“แต่ว่าเจมินหายไปไม่ยอมบอกกันเลยนะ คุณชายออกตามหาเธอแทบพลิกประเทศเลยนะ แต่ก็ได้ข่าวมาว่าเธอไปเรียนต่อที่เมืองนอก”
“เอ่อ..มันกระทะหันไปหน่อยน่ะค่ะ ก็เลยไม่ได้บอก” แต่จริงๆ มันไม่ใช่เลย -_-‘’
“งั้นรอแป๊ปนึงสิ คุณชายกำลังมาที่นี่”
“หา! กำลังมาเหรอ o0o”
“ใช่..ทำไมเหรอ” ฉันไม่ตอบอะไรนอกจากรีบเก็บข้าวของที่หล่นพื้นให้เร็วที่สุด และก็ใส่เกียร์วิ่งหนีออกมาทันที
“เจมิน! จะรีบไปไหนล่ะ”
“เผอิญว่าเจมินมีธุระด่วนน่ะค่ะ!!” ฉันตะโกนบอกพี่แกชทั้งที่ยังวิ่งอยู่ และฉันก็รู้ได้ว่าฮาเดสกำลังมาที่นี่จริงๆ เพราะขณะที่ฉันกำลังหันหลังวิ่งหนีออกไป ฉันเห็นเงาผู้ชายกำลังเดินมาที่พี่แกช ฉันวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อไม่ให้เขาเห็นฉัน!
ด้านฮาเดส
“คุณชายครับ เมื่อกี้...”
“ฉันรู้” ผมรู้ดีว่าผู้หญิงที่วิ่งหนีผมในตอนนี้เป็นคนเดียวกับที่วิ่งหนีจากผมไปเมื่อ 4 ปีก่อน ผมยังจำได้ดีเรือนผมที่เงางามของเธอ หุ่นเล็กๆ ที่น่ากอดของเธอ ผมยังจำทุกอย่างได้ดี จำได้แม้กระทั่งอาการของตัวเองเมื่อรู้ว่าเธอจากผมไป!!
“จะไม่ไปตามสักหน่อยหรือครับ”
“ไม่ต้อง” เพราะยังไงผมจะต้องได้เจอเธออีกแน่ และคราวนี้ผมจะไม่ยอมให้เธอหนีหรือจากผมไปอีก
“เมื่อตอนที่คุณชายรู้ว่าเจมินไม่อยู่แล้ว ก็เอาแต่ดื่มเหล้าทั้งวันทั้งคืน ผมยังจำได้เลยว่าคุณชายเอาแต่เรียกชื่อเจมิน รักเขาทำไมไม่รีบบอกล่ะครับ ^^”
“นี่แกช! -///-”
“อึก..ฮะฮ่าๆ คุณชายฮาเดสเขินเป็นด้วยเหรอเนี่ย ^0^”
“แกช!!” ผมรีบวิ่งเข้าไปเตะแกช โทษฐานที่หัวเราะผม แต่แกชเองก็ไม่ได้โง่อยู่นิ่งให้ผมเตะหรอกนะ และก็ยิ่งทำให้ผมรู้ว่าผมรักเจมินมากไหน ยังไงซะ! ผมไม่มีวันปล่อยเธอไปอีกครั้งแน่! เจมิน
แฮ่กๆ กว่าจะออกมาจากห้างได้แทบตายเลยนะเนี่ย ไม่ได้การณ์ล่ะจะต้องโทรให้ยัยสองคนนั้นมารับดีกว่า พวกนั้นจะได้เซอร์ไพรส์จนตกใจตายไปเลย
ติ๊ด ติ๊ด~
‘ฮัลโหล ว่าไงเจมิน’
“ท๊อฟฟี่แกช่วยมารับฉันทีสิ ที่......”
‘หา? นี่แกจะให้ฉันขึ้นเครื่องไปรับแกที่อเมริกาเลยเหรอ อย่ามาล้อเล่นน๊า!!’ จะบ้าไปกันใหญ่แล้ว นี่แกจะช่วยฟังให้มันจบประโยคก่อนไม่ได้เหรอไงเนี่ย!! -_-‘’
“ไม่ใช่! ตอนนี้ฉันกลับมาถึงไทยแล้ว และตอนนี้อยู่ที่ห้าง xoxo”
‘หา!! แกกลับมาทำไมไม่บอกกันก่อนล่ะ!!’
“ฉันแค่อยากจะเซอร์ไพรส์อ่ะ _=_”
‘เฮ้อ ~ งั้นรอ 10 นาที ฉันจะไปรับ -_-’
“ขอบใจจ้าเพื่อนรัก ^0^”
ติ๊ด ~
ตอนนี้ฉันก็ได้ผ่านเวลาโดนเทศนามาได้ครึ่งชั่วโมง หลังจากที่กลับมาถึงบ้านก็โดนพ่อ แม่ และก็รวมถึงบิ๊กกัฟบ่นเรื่องที่ไม่ยอมบอกว่าจะกลับมาไทยวันนี้ โดยประโยคนี้ฉันจี๊ดมากกกกกก ‘โตจนหมาเลียก้นไม่ถึงแล้ว ยังจะทำตัวเป็นเด็กไปได้’ อ๊ากกกก -0- ฉันโตแล้วจริงๆ นะ แต่ยังไงฉันก็ได้รับความรักกลับมาเหมือนเคย ได้รับความห่วงใยจากทุกคน ถึงจะโดนบ่นฉันก็ไม่โกรธหรอก เพราะยังไงซะคืนนี้ก็เลี้ยงฉลองเต็มที่อยู่แล้ว!! วะฮะฮ่าๆ ^0^ ระหว่างที่กำลังเลี้ยงฉลองกันอย่างสนุกสนาน ฉันก็มีไอเดียเด็ดโผล่ออกมาจากหัวขึ้นมา และก็ป่าวประกาศให้ทุกคนได้รับฟัง
แปะ แปะ ~
“ทุกคนฟังทางนี้หน่อยค่ะ” ตอนนี้ทุกคนหันมาทางฉันหมด และก็มีบางคนที่ไก่ย่างยังคาปาก เค้กยังคามือ หนังสือยังคาตา (อันสุดท้ายไม่ต้องสงสัยว่าเป็นใคร บิ๊กกัฟนั่นเอง) และก็ทำหน้างงกันเป็นแถว
“เจมินคิดว่าพวกเราทุกคนในที่นี้ น่าจะไปเที่ยวกันนะค่ะ”
“ไปเที่ยวเหรอลูก?”
“ค่ะ แม่อยากไปที่ไหนเป็นพิเศษหรือเปล่าค่ะ”
“พ่อกับแม่ไม่ไปหรอก แม่ไม่อยากห่างบ้าน ส่วนพ่องานก็ยุ่งๆ อยู่”
“ไม่เป็นไรค่ะ” ไม่เป็นไรได้ไงเล่า!! อุตส่าห์อยากไปเที่ยวกันทั้งครอบครัวทั้งที แต่ก็ช่วยไม่ได้ฉันก็ไม่อยากทำให้ท่านต้องลำบากใจ ชวนบิ๊กกัฟไปแทนก็ได้ แต่ไหงมันดันตอกกลับมาอย่างนี้ล่ะเนี่ย!!
“ผมไปไม่ได้นะพี่เจมิน เพราะผมต้องอ่านหนังสือเตรียมตัวในการสอบ”
“เฮ้อ ~ ก็แล้วแต่แกแล้วกัน -_-” และสองคนสุดท้ายที่ฉันหวังว่ามันคงจะไปกับฉันนะ
“ฉันว่างเสมอ จะไปที่ไหนล่ะ ^^” = ยัยแคนดี้
“ใช่ๆ ฉันก็ว๊างว่างเหมือนกัน ^^” = ยัยท๊อฟฟี่
“เย้! งั้นเราไปที่เดิมกันนะ \^0^/”
“โอเคเลยเพื่อน!! / ไปพรุ่งนี้กันเลยนะ!!”
“โอเค” ฮ่าๆ ในที่สุดพวกเราก็ได้ไปเที่ยวด้วยกันอีกครั้ง ถึงแม้พ่อ แม่ และก็บิ๊กกัฟ จะไม่ไปก็เถอะ แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะฉันยังมีเพื่อนสองคนนี้ร่วมก๊วนในการเที่ยวครั้งนี้อยู่
9.00 น.
พวกเรามาถึงทะเลที่ภูเก็ตที่เดิมที่เคยมาเที่ยวกันคราวที่แล้ว ถึงคราวนี้จะมาเที่ยวกันแค่สามคนก็เถอะ แต่ฉันก็จะต้องสนุกไปกับการเที่ยวครั้งนี้ไม่แพ้ครั้งที่แล้วแน่นอน
“หาว ~ ฉันขอไปนอนก่อนะ เมื่อคืนนอนน้อยตอนนี้ก็เลยง่วงมาก -0-” = ยัยท๊อฟฟี่
“ฉันก็เหมือนกัน” = ยัยแคนดี้ พวกแกง่วงกันหมดเลยใช่ไหมเนี่ย เรามาเที่ยวกันนะไม่ได้มานอน แต่จะว่าไปฉันก็รู้สึกง่วงเหมือนกัน ผลน่าจะมาจากเมื่อคืนที่นอนไม่ค่อยหลับเพราะไม่คุ้นกับสถานที่ ทั้งๆ ที่เป็นบ้านตัวเองแท้ๆ
“ฉันว่าเราไปนอนพักสักหน่อย แล้วค่อยออกมาก็ได้”
“ใช่ เป็นความคิดที่ดี” พวกเราเดินเข้าห้องพัก ซึ่งฉันจำได้ว่าเป็นห้องเดิมที่พวกเราเคยพักกันตอนมาเที่ยวครั้งที่แล้ว เมื่อมาถึงห้องพวกฉันก็แยกย้ายกันเลือกเตียงและเสด็จหลับไปทันที ตื่นมาอีกทีก็ตอนเย็นๆ เลยก็แล้วกันจะได้ออกมาดูพระอาทิตย์ตกทีเดียวเลย
17.45 น.
“หาว ~ ” โอ้โห้ *0* นี่ฉันนอนนานขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ส่วนยัยพวกนั้นก็ยังไม่ตื่น นี่พวกแกตายกันหรือยัง ใกล้ถึงเวลาพระอาทิตย์ตกแล้วต้องชวนยัยพวกนั้นไปดูด้วยกัน
“นี่ท๊อฟฟี่ แคนดี้ ตื่นไปดูพระอาทิตย์ตกกัน”
“อื้อ ~ เจมินอย่ามากวนได้ไหม?” = ยัยท๊อฟฟี่ แกยังนอนกันไม่เต็มที่เลยหรือไงห๊ะ!! นอนตั้งแต่มาถึงตอนนี้ก็ยังไม่อยากตื่น นี่แกบ้าหรือไง!!!!! ชิ! ยัยท๊อฟฟี่ไม่ไปชวนยัยแคนดี้แทนก็ได้
“แคนดี้ ไปดู......”
“ฉัน..ไม่...ไป หาว ~-0-” อ๊ากกกกกก ยัยแคนดี้ยิ่งกว่ายัยท๊อฟฟี่อีกนะ ฉันยังไม่ทันพูดจบประโยคเลยด้วยซ้ำ หึ! ฉันไปเองคนเดียวก็ได้!!
“เชอะ! พวกแกจำไว้ก็แล้วกัน ฉันไปคนเดียวก็ได้!!”
แอ๊ด ~ ปัง!
ฉันจงใจปิดประตูเสียงดังเพื่อประชดยัยสองคนนั้น ยัยเพื่อนบ้า! ฉันกลับมาจากเมืองนอกทั้งทีทำไมถึงทำกับฉันแบบนี้ ระหว่างที่เดินคิดเรื่องนู้นเรื่องนี้ไปตามชายหาด ฉันก็ได้เห็นพระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า ซึ่งตอนนี้มันกำลังทอแสงสีส้ม ทำให้รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกเหมือนมีคนที่เรารักมาโอบกอด อ๊าห์ ~ รู้สึกดีจังเลย ^0^ ขณะที่ฉันกำลังเดินไปข้างหน้าก็มีผู้ชายคนหนึ่งกำลังเดินมาทางฉันเหมือนกัน ยิ่งเมื่อแสงตะวันกระทบลงที่ใบหน้าของเขา ใบหน้าของเขาก็ยิ่งดูมีเสน่ห์จนทำให้ฉันไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้เลย และยิ่งเข้ามาใกล้ๆ ก็ทำให้ฉันรู้ว่าเขาคือ...
“ฮาเดส 0o0” ฉันทำอะไรไม่ถูก แต่หัวสมองฉันกลับสั่งให้ฉันวิ่งหนีให้เร็วที่สุด แต่ฮาเดสก็ยอมปล่อยฉันไปง่าย เพราะตอนนี้เขากำลังวิ่งตามฉันมา สุดท้ายฉันก็เร็วไม่เท่าเขาเหมือนเคย
“เธอจะวิ่งหนีจากฉันไปอีกครั้งหนึ่งเหรอ?” เขาไม่เพียงวิ่งทันฉันอย่างเดียว แต่เขากอดฉันจากทางด้านหลังและเริ่มแน่นขึ้น เมื่อฉันไม่ยอมตอบคำถามเขา ทำไมฉันจะต้องมาเจอกับเขาอีกครั้งด้วยนะ!! ฉันตั้งใจจะลืมเขาแล้วนะ!! ทำไมกันนน!
“ทำไมเธอต้องหนีจากฉันไปด้วย เธอรู้ไหมว่าฉันต้องทำใจนานแค่ไหนกว่าจะลืมเธอ แต่เมื่อฉันเห็นเธออีกครั้งก็รู้ทันทีว่าตัวเองไม่สามารถลืมเธอได้จริงๆ เธอกำลังทำให้ฉันเป็นบ้านะ!!”
“...”เขาเพิ่มแรงในการกอดอีกเป็นเท่าตัว และรู้สึกได้ถึงความน้อยเนื้อต่ำใจ นายคงเริ่มหมดหวังกับตัวฉันแล้วสินะ? ฉันต้องไม่ใจอ่อนเด็ดขาด ฉันจะไม่กลับไปเป็นตัวซวยสำหรับเขาอีกต่อไป!!
“พูดอะไรมั้งสิ เจมิน!!”
“ฉันไม่อยากเจอหน้านายอีก ฉันไม่อยากเป็นตัวซวยสำหรับนาย ฉันไม่อยากทำให้นายเดือดร้อน ฉันไม่อยาก.... อึกฮือๆ T^T” ฉันไม่สามารถพูดให้จบประโยคได้ เพราะตอนนี้น้ำตามันได้ท่วมหน้าฉันหมดแล้ว ฉันไม่สามารถอดกลั้นไปมากกว่านี้แล้ว ฉันมันเป็นผู้หญิงอ่อนแอ ฮาเดสรีบจับตัวฉันให้ไปเผชิญหน้ากับเขา พร้อมทั้งเอานิ้วมาเกลี่ยน้ำตาให้ฉันอย่างนุ่มนวล ยิ่งนายทำอย่างนี้ฉันยิ่งใจอ่อนนะ
“เธอไม่ใช่เป็นแค่ตัวซวยสำหรับฉันนะ”
“เอ๋?”
“แต่เธอคือทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับฉัน ฉันรักเธอนะเจมิน” เขาเขยิบหน้าเข้ามาใกล้ก่อนจะบรรจงจูบลงบนริมฝีปากฉันอย่างนุ่มนวล ไม่เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนแต่รสจูบของเขาก็ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยจริงๆ ตอนนี้เรากำลังจูบกันท่ามกลางตะวันทอแสงที่กำลังจะลับขอบฟ้า เขายอมผละออกเมื่อรู้ว่าจูบนี้อาจจะทำให้ฉันตายได้ เพราะขาดอากาศหายใจ ต่อไปนี้ฉันจะไม่ยอมเป็นแค่ตัวซวยของนายแน่ เพราะฉันจะต้องเป็นทุกอย่างที่นายขาดไม่ได้!! และฉันก็...
“รัก..นายนะ”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ