เรียนๆรักๆ กูดันรักมึงเข้าแล้วซิ
-
เขียนโดย แพทครับ
วันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 เวลา 15.36 น.
4 บท
0 วิจารณ์
8,132 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน พ.ศ. 2557 00.35 น. โดย เจ้าของนิยาย
3)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความLove Boy Friend เรียนๆรักๆ กูดันรักมึงเข้าแล้วซิ
By PATTYRfc
#ภาพเขียน#
ณ โรงพยาบาล
“เฮ้ยกูกลับก่อนนะเว้ย”
ภาพเขียนพูดบอกลาเพื่อนๆหลังจากที่มาเยี่ยมอาจารย์ป้าของกรณ์เสร็จแล้ว
“มึงจะรีบไปไหนวะไอ้ภาพกลัวบ้านหายหรอวะ”
เจมส์ถามขึ้นเมื่อเห็นว่าภาพเขียนดูเหมือนจะอยากกลับบ้านซะเดี๋ยวนี้
“เออ...กูจะรีบกลับไปเฝ้าบ้านกลัวว่าจะเหลือแต่เสาวะ”
ภาพเขียนพูดบอกเพื่อนอย่างขำๆ แต่ที่เขารีบกลับเพราะจะรีบไปรอรับพี่สาวกลัวว่าจะมีคนมีขายขนมจีบพี่สาวตนมากเกินไป
“มึงจะรีบกลับไปเฝ้าบ้านหรือเฝ้าพี่มึงวะ”
กรณ์แกล้งพูดขึ้นอย่างรู้ทันและไม่ใช่แค่กรณ์คนเดียวที่รู้แต่เพื่อนๆคนอื่นๆไม่พูดเพราะรู้อยู่แล้วไม่ใครก็ใครแหละที่จะพูด
“เออ...กูจะกลับไปเฝ้าพี่กู โอเคไหมวะเชี่ยรู้ทันกูตลอดเลยพวกมึงนิ่”
คำพูดของกรณ์ทำให้ภาพเขียนยอมรับอย่างเสียไม่ได้เพราะสิ่งที่กรณ์พูดมันเป็นเรื่องจริงแต่ก่อนที่ภาพเขียนจะเดินจากไปชิที่พึ่งเดินเข้ามาหลังคุยโทรศัพท์เสร็จทักไว้ก่อน
“เฮ้ยไอ้ภาพจะกลับแล้วหรอวะ...แมร่งจะรีบกลับไปเฝ้าพี่มึงรึไงวะพี่มึงไม่หายไปไหนหรอก อยู่กินข้าวกันพวกกูก่อนดิวะ”
ภาพเขียนเมื่อได้ยินแบบนั้นก็หันกลับมามองที่ต้นเสียงทันที่แล้วตอบกลับไปอย่างกวนๆ
“ชวนกูไปกินข้าวด้วยคิดอะไรกับกูเปล่าวะไอ้ชิ...หึหึมึงเลี้ยงนะถ้าไม่กูกลับ...”
ชิเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็แทบจำกระโดดถีบเพื่อนสนิทของตนในทันทีถ้าไม่ติดที่ว่าภาพเขียนถ้าได้ทำให้โกรธแล้วก็อย่าหวังว่าจะดีด้วยและรู้ว่าภาพเขียนพูดเล่นไม่ได้จริงจังอะไร
“เออๆเลี้ยงก็เลี้ยงเว้ยแต่คราวหน้ามึงเลี้ยงกูนะ”
ชิพูดขึ้นเมื่อภาพเขียนยักคิ้วให้อย่างเป็นต่อจากนั้นภาพเขียนและเพื่อนๆก็พากันไปที่ร้านอาหารหน้าโรงพยาบาลทันที
“พวกมึงจะแดกไรวะเดี๋ยวกูสั่งให้”
เจมส์หันมาถามเพื่อนๆเมื่อเดินเข้ามาในร้านและหาที่นั่งในร้านได้แล้ว
“ถามพวกกูแบบนี้จะเลี้ยงพวกกูหรอวะ”
เชนแกล้งถามขึ้นอย่างสงสัย และทำท่าดีใจเมื่อได้ยิน แต่แล้วก็ต้องทำหน้าเหมือนเด็กโดนผู้ใหญ่ดุก็ไม่ปาน เมื่อหันมาเจอสายตาของเจมส์ที่มองมา
“กูสั่งให้พวกมึงเฉยๆเว้ย ส่วนค่าอาหารพวกมึงจัดการของพวกมึงเองดิ”
เจมส์พูดบอกอีกแต่ไม่ได้จริงจังอะไรมากนักเพราะรู้ว่าชิเองก็ไม่ได้จริงจังอะไรมากนักเหมือนกัน
“เฮ้อออ...ทำไมกูไม่มีคนเลี้ยงข้าวเหมือนไอ้ภาพบ้างวะ”
ชิพูดขึ้นมาอีกแล้วทำหน้าหงอยๆลงไปและติดจะงอนนิดๆแต่ไม่จริงจังอะไร
“พวกมึงจะเสียงดังอีกนานไหมวะ แมร่งไม่เกรงใจเจ้าของร้าน เสือกไม่เกรงใจคนอื่นอีก พวกมึง 3 ตัวดูกรณ์มันหน่อยสิวะว่ามันสำรวมกว่าพวกมึงอีก”
ภาพเขียนพูดปามเพื่อนทั้ง 3 คน เพราะเขารู้สึกเกรงใจเจ้าของร้านและโต๊ะข้างๆเหลือเกิน
“เออภาพเรื่องมึงกับไอ้ธันวามึงคิดได้รึยังว่ามึงจะทำยังไงต่อไป”
กรณ์ที่นั่งเงียบตั้งแต่เข้ามาในร้านถามขึ้นอย่างสงสัย ทำเอาภาพเขียนชะงักนิ่งไปทันที และก็ทำให้ใครบางคนที่ตอนนี้กำลังนั่งหันหลังให้กับโต๊ะของภาพเขียนที่กำลังนั่งฟังบทสนทนาของพวกเขาอยู่นั้นยิ้มออกมาทันที
“ไม่รู้ว่ะ กูคิดหาทางยังไงก็คิดไม่ออกสักทีขอเวลากูคิดหน่อยนะเว้ย”
ภาพเขียนพูดบอกกรณ์ด้วยสีหน้าเครียด ทั้งๆที่ในใจอยากตะโกนออกมาให้สุดเสียงก็ตาม เพราะในใจของภาพเขียนตอนนี้มีอะไรบางอย่างที่บอกกับเพื่อนๆไม่ได้ในตอนนี้
“ให้กูช่วยมึงคิดไหมวะ ภาพเขียน ^^”
ทันใดนั้นธันวาที่กำลังนั่งฟังบทสทนาของภาพเขียนและเพื่อนๆอยู่นั้นก็หันหน้าไปพูดกับภาพเขียนและเมื่อภาพเขียนหันมามองที่ต้นเสียงก็เล่นเอาภาพเขียนแทบช็อคไปนิดเพราะไม่คิดว่าจะเจอธันวาที่นี่และอดไม่ได้ที่จะถามกลับไป
“อะ...ไอ้ธันวา!!มึงมาที่นี่ได้ไง”
ภาพเขียนพูดออกมาอย่างตกใจเพราะไม่คิดว่าจะเจอธันวาที่นี่ แต่ต้องรีบปรับสีหน้าให้กลับเป็นปกติเพราะธันวากำลังมองอยู่
(นัดตี้ ไอ้ธันวามันมาได้ยังไงเนี่ย : ภาพเขียน)
(นัดตี้ก็ไม่รู้สินะ คือ...อารมณ์พาไปน่ะทำไงได้ล่ะ : นัดตี้)
“รถกูก็มีกูก็ขับมาสิวะ กูจะมาเอาคำตอบเมื่อเช้า”
ธันวาพูดบอกกวนๆและถามถึงเรื่องที่ทำให้ภาพเขียนคิดอะไรไม่ออกในตอนนี้ขึ้นทำเอาภาพเขียนถึงกับชะงักนิ่งไปนิด
“กูไม่รู้ กูไม่มีคำตอบอะไรให้มึงทั้งนั้นแหละ ไม่ต้องมายุ่งกับกูก็พอ ไอ้เชนกูกลับก่อนนะเว้ย ส่วนข้าวกูไม่แดกแล้วว่ะแดกไม่ลง”
ภาพเขียนหันกลับมาพูดบอกเชนแล้วหันไปมองหน้าธันวาเขม็งและทำท่าจะหันหน้าเดินกลับออกไปที่หน้าร้านแต่ธันวากลับคว้าข้อมือไว้ซะก่อน ภาพเขียนหันกลับมาจ้องเขม็งอีกครั้งและก็ต้องตกใจเมื่อธันวาทำท่าจะลากตนตรงไปที่ห้องน้ำ
“มึงกับกูมีเรื่องต้องคุยกัน พวกมึงเข้าใจแล้วใช่ไหม มานี้เลยมึงอะ”
ธันวาหันไปพูดบอกกับเพื่อนๆของภาพเขียนเป็นเชิงห้ามว่าไม่ต้องยุ่ง เมื่อพูดจบธันวาก็กระชาก (ลาก) ข้อมือภาพเขียนให้เดินตามเข้ามาในห้องน้ำทันที
“เฮ้ย!!ไอ้ธันวาปล่อยกูเดี๋ยวนี้นะเว้ย มึงจะลากกูเข้ามาทำไม ไอ้เชน ไอ้เจมส์ ไอ้ชิ กรณ์ ช่วยกูด้วยเว้ยยยย”
เมื่อภาพเขียนถูกธันวาลากเข้ามาในห้องน้ำเรียบร้อยแล้วก็โวยวายออกมาไม่หยุด และเสียงดังขึ้นเรื่อยๆและก็ทำให้ธันวาแทบจะหมดความอดทนและโวยออกมาในที่สุด
“มึงจะแหกปากโวยวายทำเชี่ยไรวะ เดี๋ยวกูก็จับกดในนี้ซะดีไหมเนี่ย”
ธันวาพูดขึ้นเพราะเห็นว่าภาพเขียนยังคงโวยวายไม่หยุดสักที
“กดเหี้ยไรสัส มึงปล่อยกูเดี๋ยวนี้นะเว้ย ไอ้ธันวา!! โอ้ย!!สัสเจ็บนะเว้ย แมร่ง!!”
เมื่อสิ้นเสียงของธันวา ภาพเขียนก็สวนกลับทันทีและหันมาโวยใส่ธันวาต่อทันที จนธันวาเผลอบีบข้อมือเล็กของภาพเขียนแรงกว่าเดิมทำให้ภาพเขียนต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บ
“หึ! ดื้อฉิบหายเลยนะมึง ถ้ามึงไม่ดื้อแล้วยอมมากับกูดีๆมึงก็ไม่ต้องเจ็บตัวแบบนี้หรอก”
ธันวายอมปล่อยมือจากข้อมือเล็กของภาพเขียนให้เป็นอิสระแล้วพูดบอกภาพเขียนเยาะๆ ซึ่งก็ทำให้ภาพเขียนหันมาจ้องหน้าธันวาเขม็งและแคล้นหัวเราะเบาๆ
“เหอะ! แล้งมึงทำอะไรให้กูควรจะทำดีด้วยบ้างไหมล่ะ ถ้ากูบอกมึงดีๆว่ากูไม่มากับมึง ยังไงมึงก็ลากกูมาด้วยอยู่ดีนั่นแหละ หรือไม่จริงล่ะวะ”
ภาพเขียนถามกลับอย่างท้าทาย(?)เล่นเอาธันวาเถียงไม่ออกเหมือนกัน ทั้งสองจ้องหน้ากันเขม็งและด้วยพื้นที่ในห้องน้ำแคบเกินที่คนตัวใหญ่จะเข้ามาอยู่ในนี้ถึงสองคนซึ่งทำให้ทั้งสองยืนห่างกันไม่ถึงคืบ ทำให้ร่างเล็กของภาพเขียนที่อยู่ด้านในสุดทำให้ภาพเขียนเริ่มหายใจไม่ทั่วท้องนักเพราะรู้สึกว่าเมือนมีลมหายใจอุ่นๆของธันวาที่ปล่อยออกมากระทบปอยผมด้านหน้าของภาพเขียน ทำให้ภาพเขียนจากที่เมื่อกี้เกิดอาการหงุดหงิดที่ธันวาลากตนเข้ามาในห้องน้ำ เหมือนตอนนี้ความรู้สึกนั้นกำลังเปลี่ยนไปกลายเป็นอาการใจสั่นแปลกทั้งๆที่เขาเองก็ไม่เคยเป็นมาก่อน
(นัดตี้!!ไหงเป็นงี้ได้ล่ะเนี่ย : ภาพเขียน)
(นัดตี้บอกแล้วไงว่ามันเป็นไปตามอารมณ์น๊ะ : นัดตี้)
“มะ...มึงจะเอายังไงก็ว่ามาสิ เงียบทำเหี้ยไรล่ะวะ”
และแล้วความเงียบในเมื่อครู่ก็ถูกภาพเขียนพูดทำลายหายไปหมด ทำให้ธันวายิ้มมุมปากและก้มลงมากระซิบข้างหูของภาพเขียน
“กูจะเอา…หัวใจ มึงได้ไหมล่ะ ถ้ามึงให้กูจะไม่ทำอะไรรุนแรงกับมึง แต่ถ้า ไม่ กูจะไม่มายุ่งกับมึงอีกเลย...แต่...”
ธันวาพูดบอกจ้องหน้าภาพเขียนนิ่งๆ และทำให้ภาพเขียนเงียบธันวาพูดให้จบ เมื่อธันวาเห็นว่าภาพเขียนไม่มีท่าทีใดๆจึงพุดต่อ
“แต่...ก่อนที่มึงจะตัดสินใจพูดอะไร กูขอให้มึงฟังกู...หลังจากนั่นมึงคำตอบจะเป็นยังไงก็อยู่ที่มึงแล้วล่ะ...กูไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไร เวลากูได้ทะเลาะกับมึง ได้เจอหน้ามึงทุกวัน ใจสั่นทุกครั้งเมื่อได้อยู่ใกล้”
ในความรู้สึกของภาพเขียนในตอนนี้อยากจะให้มีอะไรมาขัดซะจริงๆเพราะในใจตอนนี้มันแทบจะหลุดออกมาข้างนอก
“คือ...กูชะ...”
+++++++++++++++++++++++++++++
ขอกำลังใจหน่อยน้าาาาาาาาาาาาา
+++
++
+
ขอบคุณที่เม้นน้าาาาาาา^^
By PATTYRfc
#ภาพเขียน#
ณ โรงพยาบาล
“เฮ้ยกูกลับก่อนนะเว้ย”
ภาพเขียนพูดบอกลาเพื่อนๆหลังจากที่มาเยี่ยมอาจารย์ป้าของกรณ์เสร็จแล้ว
“มึงจะรีบไปไหนวะไอ้ภาพกลัวบ้านหายหรอวะ”
เจมส์ถามขึ้นเมื่อเห็นว่าภาพเขียนดูเหมือนจะอยากกลับบ้านซะเดี๋ยวนี้
“เออ...กูจะรีบกลับไปเฝ้าบ้านกลัวว่าจะเหลือแต่เสาวะ”
ภาพเขียนพูดบอกเพื่อนอย่างขำๆ แต่ที่เขารีบกลับเพราะจะรีบไปรอรับพี่สาวกลัวว่าจะมีคนมีขายขนมจีบพี่สาวตนมากเกินไป
“มึงจะรีบกลับไปเฝ้าบ้านหรือเฝ้าพี่มึงวะ”
กรณ์แกล้งพูดขึ้นอย่างรู้ทันและไม่ใช่แค่กรณ์คนเดียวที่รู้แต่เพื่อนๆคนอื่นๆไม่พูดเพราะรู้อยู่แล้วไม่ใครก็ใครแหละที่จะพูด
“เออ...กูจะกลับไปเฝ้าพี่กู โอเคไหมวะเชี่ยรู้ทันกูตลอดเลยพวกมึงนิ่”
คำพูดของกรณ์ทำให้ภาพเขียนยอมรับอย่างเสียไม่ได้เพราะสิ่งที่กรณ์พูดมันเป็นเรื่องจริงแต่ก่อนที่ภาพเขียนจะเดินจากไปชิที่พึ่งเดินเข้ามาหลังคุยโทรศัพท์เสร็จทักไว้ก่อน
“เฮ้ยไอ้ภาพจะกลับแล้วหรอวะ...แมร่งจะรีบกลับไปเฝ้าพี่มึงรึไงวะพี่มึงไม่หายไปไหนหรอก อยู่กินข้าวกันพวกกูก่อนดิวะ”
ภาพเขียนเมื่อได้ยินแบบนั้นก็หันกลับมามองที่ต้นเสียงทันที่แล้วตอบกลับไปอย่างกวนๆ
“ชวนกูไปกินข้าวด้วยคิดอะไรกับกูเปล่าวะไอ้ชิ...หึหึมึงเลี้ยงนะถ้าไม่กูกลับ...”
ชิเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็แทบจำกระโดดถีบเพื่อนสนิทของตนในทันทีถ้าไม่ติดที่ว่าภาพเขียนถ้าได้ทำให้โกรธแล้วก็อย่าหวังว่าจะดีด้วยและรู้ว่าภาพเขียนพูดเล่นไม่ได้จริงจังอะไร
“เออๆเลี้ยงก็เลี้ยงเว้ยแต่คราวหน้ามึงเลี้ยงกูนะ”
ชิพูดขึ้นเมื่อภาพเขียนยักคิ้วให้อย่างเป็นต่อจากนั้นภาพเขียนและเพื่อนๆก็พากันไปที่ร้านอาหารหน้าโรงพยาบาลทันที
“พวกมึงจะแดกไรวะเดี๋ยวกูสั่งให้”
เจมส์หันมาถามเพื่อนๆเมื่อเดินเข้ามาในร้านและหาที่นั่งในร้านได้แล้ว
“ถามพวกกูแบบนี้จะเลี้ยงพวกกูหรอวะ”
เชนแกล้งถามขึ้นอย่างสงสัย และทำท่าดีใจเมื่อได้ยิน แต่แล้วก็ต้องทำหน้าเหมือนเด็กโดนผู้ใหญ่ดุก็ไม่ปาน เมื่อหันมาเจอสายตาของเจมส์ที่มองมา
“กูสั่งให้พวกมึงเฉยๆเว้ย ส่วนค่าอาหารพวกมึงจัดการของพวกมึงเองดิ”
เจมส์พูดบอกอีกแต่ไม่ได้จริงจังอะไรมากนักเพราะรู้ว่าชิเองก็ไม่ได้จริงจังอะไรมากนักเหมือนกัน
“เฮ้อออ...ทำไมกูไม่มีคนเลี้ยงข้าวเหมือนไอ้ภาพบ้างวะ”
ชิพูดขึ้นมาอีกแล้วทำหน้าหงอยๆลงไปและติดจะงอนนิดๆแต่ไม่จริงจังอะไร
“พวกมึงจะเสียงดังอีกนานไหมวะ แมร่งไม่เกรงใจเจ้าของร้าน เสือกไม่เกรงใจคนอื่นอีก พวกมึง 3 ตัวดูกรณ์มันหน่อยสิวะว่ามันสำรวมกว่าพวกมึงอีก”
ภาพเขียนพูดปามเพื่อนทั้ง 3 คน เพราะเขารู้สึกเกรงใจเจ้าของร้านและโต๊ะข้างๆเหลือเกิน
“เออภาพเรื่องมึงกับไอ้ธันวามึงคิดได้รึยังว่ามึงจะทำยังไงต่อไป”
กรณ์ที่นั่งเงียบตั้งแต่เข้ามาในร้านถามขึ้นอย่างสงสัย ทำเอาภาพเขียนชะงักนิ่งไปทันที และก็ทำให้ใครบางคนที่ตอนนี้กำลังนั่งหันหลังให้กับโต๊ะของภาพเขียนที่กำลังนั่งฟังบทสนทนาของพวกเขาอยู่นั้นยิ้มออกมาทันที
“ไม่รู้ว่ะ กูคิดหาทางยังไงก็คิดไม่ออกสักทีขอเวลากูคิดหน่อยนะเว้ย”
ภาพเขียนพูดบอกกรณ์ด้วยสีหน้าเครียด ทั้งๆที่ในใจอยากตะโกนออกมาให้สุดเสียงก็ตาม เพราะในใจของภาพเขียนตอนนี้มีอะไรบางอย่างที่บอกกับเพื่อนๆไม่ได้ในตอนนี้
“ให้กูช่วยมึงคิดไหมวะ ภาพเขียน ^^”
ทันใดนั้นธันวาที่กำลังนั่งฟังบทสทนาของภาพเขียนและเพื่อนๆอยู่นั้นก็หันหน้าไปพูดกับภาพเขียนและเมื่อภาพเขียนหันมามองที่ต้นเสียงก็เล่นเอาภาพเขียนแทบช็อคไปนิดเพราะไม่คิดว่าจะเจอธันวาที่นี่และอดไม่ได้ที่จะถามกลับไป
“อะ...ไอ้ธันวา!!มึงมาที่นี่ได้ไง”
ภาพเขียนพูดออกมาอย่างตกใจเพราะไม่คิดว่าจะเจอธันวาที่นี่ แต่ต้องรีบปรับสีหน้าให้กลับเป็นปกติเพราะธันวากำลังมองอยู่
(นัดตี้ ไอ้ธันวามันมาได้ยังไงเนี่ย : ภาพเขียน)
(นัดตี้ก็ไม่รู้สินะ คือ...อารมณ์พาไปน่ะทำไงได้ล่ะ : นัดตี้)
“รถกูก็มีกูก็ขับมาสิวะ กูจะมาเอาคำตอบเมื่อเช้า”
ธันวาพูดบอกกวนๆและถามถึงเรื่องที่ทำให้ภาพเขียนคิดอะไรไม่ออกในตอนนี้ขึ้นทำเอาภาพเขียนถึงกับชะงักนิ่งไปนิด
“กูไม่รู้ กูไม่มีคำตอบอะไรให้มึงทั้งนั้นแหละ ไม่ต้องมายุ่งกับกูก็พอ ไอ้เชนกูกลับก่อนนะเว้ย ส่วนข้าวกูไม่แดกแล้วว่ะแดกไม่ลง”
ภาพเขียนหันกลับมาพูดบอกเชนแล้วหันไปมองหน้าธันวาเขม็งและทำท่าจะหันหน้าเดินกลับออกไปที่หน้าร้านแต่ธันวากลับคว้าข้อมือไว้ซะก่อน ภาพเขียนหันกลับมาจ้องเขม็งอีกครั้งและก็ต้องตกใจเมื่อธันวาทำท่าจะลากตนตรงไปที่ห้องน้ำ
“มึงกับกูมีเรื่องต้องคุยกัน พวกมึงเข้าใจแล้วใช่ไหม มานี้เลยมึงอะ”
ธันวาหันไปพูดบอกกับเพื่อนๆของภาพเขียนเป็นเชิงห้ามว่าไม่ต้องยุ่ง เมื่อพูดจบธันวาก็กระชาก (ลาก) ข้อมือภาพเขียนให้เดินตามเข้ามาในห้องน้ำทันที
“เฮ้ย!!ไอ้ธันวาปล่อยกูเดี๋ยวนี้นะเว้ย มึงจะลากกูเข้ามาทำไม ไอ้เชน ไอ้เจมส์ ไอ้ชิ กรณ์ ช่วยกูด้วยเว้ยยยย”
เมื่อภาพเขียนถูกธันวาลากเข้ามาในห้องน้ำเรียบร้อยแล้วก็โวยวายออกมาไม่หยุด และเสียงดังขึ้นเรื่อยๆและก็ทำให้ธันวาแทบจะหมดความอดทนและโวยออกมาในที่สุด
“มึงจะแหกปากโวยวายทำเชี่ยไรวะ เดี๋ยวกูก็จับกดในนี้ซะดีไหมเนี่ย”
ธันวาพูดขึ้นเพราะเห็นว่าภาพเขียนยังคงโวยวายไม่หยุดสักที
“กดเหี้ยไรสัส มึงปล่อยกูเดี๋ยวนี้นะเว้ย ไอ้ธันวา!! โอ้ย!!สัสเจ็บนะเว้ย แมร่ง!!”
เมื่อสิ้นเสียงของธันวา ภาพเขียนก็สวนกลับทันทีและหันมาโวยใส่ธันวาต่อทันที จนธันวาเผลอบีบข้อมือเล็กของภาพเขียนแรงกว่าเดิมทำให้ภาพเขียนต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บ
“หึ! ดื้อฉิบหายเลยนะมึง ถ้ามึงไม่ดื้อแล้วยอมมากับกูดีๆมึงก็ไม่ต้องเจ็บตัวแบบนี้หรอก”
ธันวายอมปล่อยมือจากข้อมือเล็กของภาพเขียนให้เป็นอิสระแล้วพูดบอกภาพเขียนเยาะๆ ซึ่งก็ทำให้ภาพเขียนหันมาจ้องหน้าธันวาเขม็งและแคล้นหัวเราะเบาๆ
“เหอะ! แล้งมึงทำอะไรให้กูควรจะทำดีด้วยบ้างไหมล่ะ ถ้ากูบอกมึงดีๆว่ากูไม่มากับมึง ยังไงมึงก็ลากกูมาด้วยอยู่ดีนั่นแหละ หรือไม่จริงล่ะวะ”
ภาพเขียนถามกลับอย่างท้าทาย(?)เล่นเอาธันวาเถียงไม่ออกเหมือนกัน ทั้งสองจ้องหน้ากันเขม็งและด้วยพื้นที่ในห้องน้ำแคบเกินที่คนตัวใหญ่จะเข้ามาอยู่ในนี้ถึงสองคนซึ่งทำให้ทั้งสองยืนห่างกันไม่ถึงคืบ ทำให้ร่างเล็กของภาพเขียนที่อยู่ด้านในสุดทำให้ภาพเขียนเริ่มหายใจไม่ทั่วท้องนักเพราะรู้สึกว่าเมือนมีลมหายใจอุ่นๆของธันวาที่ปล่อยออกมากระทบปอยผมด้านหน้าของภาพเขียน ทำให้ภาพเขียนจากที่เมื่อกี้เกิดอาการหงุดหงิดที่ธันวาลากตนเข้ามาในห้องน้ำ เหมือนตอนนี้ความรู้สึกนั้นกำลังเปลี่ยนไปกลายเป็นอาการใจสั่นแปลกทั้งๆที่เขาเองก็ไม่เคยเป็นมาก่อน
(นัดตี้!!ไหงเป็นงี้ได้ล่ะเนี่ย : ภาพเขียน)
(นัดตี้บอกแล้วไงว่ามันเป็นไปตามอารมณ์น๊ะ : นัดตี้)
“มะ...มึงจะเอายังไงก็ว่ามาสิ เงียบทำเหี้ยไรล่ะวะ”
และแล้วความเงียบในเมื่อครู่ก็ถูกภาพเขียนพูดทำลายหายไปหมด ทำให้ธันวายิ้มมุมปากและก้มลงมากระซิบข้างหูของภาพเขียน
“กูจะเอา…หัวใจ มึงได้ไหมล่ะ ถ้ามึงให้กูจะไม่ทำอะไรรุนแรงกับมึง แต่ถ้า ไม่ กูจะไม่มายุ่งกับมึงอีกเลย...แต่...”
ธันวาพูดบอกจ้องหน้าภาพเขียนนิ่งๆ และทำให้ภาพเขียนเงียบธันวาพูดให้จบ เมื่อธันวาเห็นว่าภาพเขียนไม่มีท่าทีใดๆจึงพุดต่อ
“แต่...ก่อนที่มึงจะตัดสินใจพูดอะไร กูขอให้มึงฟังกู...หลังจากนั่นมึงคำตอบจะเป็นยังไงก็อยู่ที่มึงแล้วล่ะ...กูไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไร เวลากูได้ทะเลาะกับมึง ได้เจอหน้ามึงทุกวัน ใจสั่นทุกครั้งเมื่อได้อยู่ใกล้”
ในความรู้สึกของภาพเขียนในตอนนี้อยากจะให้มีอะไรมาขัดซะจริงๆเพราะในใจตอนนี้มันแทบจะหลุดออกมาข้างนอก
“คือ...กูชะ...”
+++++++++++++++++++++++++++++
ขอกำลังใจหน่อยน้าาาาาาาาาาาาา
+++
++
+
ขอบคุณที่เม้นน้าาาาาาา^^
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ