Fic B2ST Big Mama [JunSeung ft.Lee Joon] [Rate 20]

10.0

เขียนโดย เช้าตรู่

วันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2557 เวลา 10.44 น.

  20 chapter
  5 วิจารณ์
  39.74K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 มกราคม พ.ศ. 2557 11.03 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) Big Mama Chapter 6

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
 
     “ไม่ยักรู้มาก่อนว่านายแม่ชอบดอกไม้ด้วย” เสียงทุ้มดังขึ้นจากด้านหลัง ส่งผลให้คนที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ของตัวเองอยู่พักใหญ่สะดุ้งสุดตัวแล้วรีบหันไปดูว่าใครกันที่กล้าเหยียบย่างเข้ามาในห้องส่วนตัวของตน
 
     “เดวิลน่ะเอง” ร่างบอบบางถอนหายใจอย่างโล่งในอก
 
     “ครับ...ผมเอง กลับมาถึงองครักษ์ของนายแม่ก็คะยั้นคะยอให้มาหาเลย นี่เชื่อมั้ยว่ายังไม่ได้พักเลย ว่าแต่ว่า...คิดยังไงเอาดอกไม้มาไว้ในห้องแบบนี้ มันไม่ขัดกันไปหน่อยเหรอ” ถามขึ้นพร้อมทั้งเดินไปเขี่ยดอกไม้ที่อยู่ในแจกันไปด้วย
 
     “ห้องชั้นจะมีดอกไม้บ้างมันแปลกตรงไหน”
 
     “แปลกทุกตรงนั่นแหละครับ ปกติเห็นหยีดอกไม้อื่นอย่างกับอะไรดี ยกเว้นกุหลาบ แต่นี่...เบญจมาศสีขาว มันไม่ใช่นายแม่เลยซักนิดหรือว่า...”
 
     “หุบปากไปเลยเดวิล!” ดูจุนกำลังจะพูดต่อหากแต่ว่าก็ถูกร่างบางห้ามเอาไว้ก่อน สีหน้าเอาเรื่องของผู้เป็นใหญ่เหนือตน ทำให้ดูจุนไม่กล้าพูดอะไรต่อจากนั้น ทำเพียงโค้งให้จนแทบจะติดพื้นขออภัยกับสิ่งที่ตัวเองเกือบจะล่วงเกินเจ้านายของตนลงไป
 
     “ขอโทษครับนายแม่”
 
     “ที่ชั้นเรียกตัวกลับมาจากจีน ชั้นไม่ได้มีแกมาวิพากษ์วิจารณ์ชั้น แต่ชั้นมีงานให้แกทำ อีจุนบอกแล้วใช่มั้ยว่ากลับมาที่นี่ จะต้องทำอะไร”
 
     “ทราบครับ”
 
     “ชั้นเรียกตัวแกกลับมาแบบนี้ หมอนั่นนะต้องเรียกดอลล์กลับมาด้วยแน่ๆ เพราะฉะนั้น ชั้นอยากให้นายคอยจับตาดูดอลล์เอาไว้ เป็นไปได้ถ้าสบโอกาสก็ฆ่าซะ ก่อนที่ดอลล์จะเป็นคนฆ่าแกซะเอง”
 
     “นายแม่ก็ยังคงเป็นนายแม่อยู่วันยังค่ำนะครับ อ่านเกมขาดเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน” ดูจุนยกยิ้มเล็กน้อย ตนรู้ชะตากรรมข้อนี้ของตัวเองดีว่า ในเมื่อรุ่นแปดยื่นข้อเสนอให้หนีไปแล้ว แล้วตนไม่ยอมทำตามข้อเสนอนั้น เกมต่อจากนั้นคือ “ความตาย” และดูจุนไม่มีทางหนีมันพ้น หากไม่โกงความตายเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์รอด
 
     เพราะดูจุนเป็นคนเดียวที่กุมความลับการตายของท่านซึงฮอนเอาไว้
 
     และรุ่นแปดไม่ต้องการให้ใครรู้ แม้กระทั่งรุ่นสิบ
 
     “เพราะฉะนั้นชั้นถึงอยากจะให้แกระวังตัวเองไว้ให้มาก ดอลล์ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่แกจะล้มได้ง่ายๆ”
 
     “ผมทราบดีครับ”
 
     “เอาล่ะ ไปพักผ่อนได้แล้ว ช่วงเย็นจะมีงานเลี้ยงต้อนรับแกที่ห้องโถงใหญ่ ยังไงก็อยากให้ไปร่วมงานด้วย”
 
     “แล้วนายแม่ล่ะครับ จะเข้าร่วมงานเลี้ยงของผมด้วยรึเปล่า” ดูจุนย้อนถาม มือยังคงสัมผัสดอกเบญจมาศที่ปักอยู่ในแจกันขนาดใหญ่ไม่หยุด
 
     “ชั้นต้องลงไปจัดการเรื่องที่บ่อนกับอีจุน คงไม่ร่วมไม่ได้ แต่ถ้างานที่บ่อนเสร็จเร็ว ชั้นก็อาจจะแวะไป” ร่างบางตอบเพียงเท่านั้นก็ปัดมือไล่ดูจุนอีกรอบ บอกว่าให้ออกไปได้แล้ว เพราะตนอยากจะอยู่คนเดียว
 
     “อ้อ...บอกฮาราเข้ามาหาในห้องด้วย”
 
     “ได้ครับ” ดูจุนโค้งให้ทั้งที่อีกคนยังคงนั่งหันหลังให้ ก่อนจะออกไปข้างนอกตามที่เจ้าของห้องต้องการ
 
     “ฮารา นายแม่ให้เธอเข้าไปหาน่ะ”
 
     “ค่ะคุณยุน” เธอโค้งให้เล็กน้อยเท่านั้น เอื้อมมือไปเลื่อนประตูห้องให้เปิดออก ถามเจ้าของห้องจากข้างนอกว่าต้องการอะไร
 
     “นายแม่ต้องการให้ฮารารับใช้อะไรเหรอค่ะ”
 
     “เตรียมน้ำนมให้ด้วย วันนี้ชั้นอยากจะแช่น้ำนม” เอ่ยสั่งเสียงเรียบ
 
     “อ้อ...เปลี่ยนน้ำในแจกันดอกไม้ด้วย” สั่งต่อจากนั้น เมื่อดวงตาเรียวสวยหันไปมองที่ช่อดอกไม้ที่เริ่มโรยราและกลีบเบญจมาศร่วงลงมามากพอสมควรแล้ว
 
     “แต่ดอกไม้ใกล้จะเหี่ยวหมดแล้วนะคะนายแม่ อีกวันสองวันก็ต้องทิ้งแล้ว”
 
     “ชั้นบอกให้เปลี่ยนก็เปลี่ยนสิ!” หันมาตวาดลั่นใส่ฮาราด้วยสีหน้าที่มากไปด้วยความน่ากลัว ฮาราลนลานทำตามที่ร่างบอบบางสั่งทันที เริ่มต้นที่เข้าไปเตรียมน้ำนมเพื่อให้ จุดกำยานเพื่อให้ร่างบางได้ผ่อนคลายจากกลิ่นของกำยานไปด้วย เตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้วเธอก็รีบออกมาจัดการเปลี่ยนน้ำในแจกันดอกไม้ให้อย่างที่ร่างบางต้องการ
 
 
     หลังจากเปลี่ยนน้ำในแจกันเรียบร้อยแล้วเธอกำลังจะออกจากห้อง แต่ก็ต้องชะงักเสียก่อนเมื่อเห็นใครอีกคนเดินเข้าห้องมา
 
     “คุณอีจุน....” เธอเรียกชื่อชายหนุ่มแผ่วเบาก่อนจะก้มหน้าลงมองพื้นนิ่ง
 
     “ไง...วันนี้ก็โดนดุอีกรึไงฮารา”
 
     “เป็นเรื่องปกติไปเสียแล้วล่ะค่ะที่ฮาราชอบทำให้นายแม่อารมณ์เสีย”
 
     “นายแม่มีเรื่องให้คิดเยอะน่ะ คงจะเครียด...เธอคงไม่ได้โกรธนายแม่หรอกใช่มั้ย” อีจุนถามพร้อมทั้งยกมือขึ้นลูบที่กลุ่มผมสีดสนิทของหญิงสาวแผ่วเบา ส่งยิ้มเจือจางที่ฮาราไม่มีวันจะได้เห็น หากว่าเธอยังคงก้มหน้ามองพื้นหินอ่อนอยู่แบบนี้
 
     “ไม่หรอกค่ะ ฮาราไม่โกรธนายแม่และไม่เคยคิดจะโกรธนายแม่ด้วย นายแม่มีพระคุณกับฮารา...” ฮาราทำเหมือนว่าจะพูดอะไรต่อ แต่เธอก็กลืนคำพูดนั้นลงคอไปเหมือนเดิม
 
     “ดีแล้วที่ฮาราคิดแบบนั้น ว่าแต่ตอนนี้นายแม่อยู่ไหนล่ะ เข้าไปในห้องหนังสือหรือว่ายังไง”
 
     “นายแม่อยู่ในห้องน้ำค่ะ บอกว่าอยากแช่น้ำนมและให้ฮาราเตรียมน้ำนมให้เมื่อครู่นี่เอง”
 
     “อ๋อ...ถ้าเรียบร้อยแล้วฮารามีอะไรต้องไปทำก็ไปทำเถอะ ชั้นมีเรื่องจะคุยกับนายแม่ซักหน่อย”
 
     “ค่ะ”
 
     หลังจากที่ฮารารับปากแล้ว อีจุนก็เดินเข้าไปยังห้องด้านในทันที ฮารามองตามแผ่นหลังกว้างนั้นไปด้วยสายตาแสนอาลัยอาวรณ์ ยกมือขึ้นสัมผัสบริเวณที่อีจุนลูบผมตนเมื่อครู่ ความอบอุ่นจากมือใหญ่นั้นยังคงอยู่
 
     “....คุณอีจุนเอง..ก็มีพระคุณกับฮารามากเหมือนกันค่ะ” เธอพูดเพียงเท่านั้นก็เดินออกจากห้องส่วนตัวของเจ้านายไปทันที
 
 
 
     “อีจุนเหรอ” เสียงหวานถามขึ้นเมื่อได้ยินเสียงประตูห้องน้ำเลื่อนเปิดและปิดลง
 
     “ไม่ระมัดระวังตัวเองเสียเลยนะครับนายแม่ ถ้าหากว่าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ผมจะทำยังไง”
 
     ร่างบางลอบยิ้มก่อนจะพลิกตัวหันมาทางต้นเสียง วางแขนทั้งสองข้างกับขอบอ่างน้ำทรงกลมแล้วเกยคางไว้บนแขนเรียวทั้งสองนั้น
 
     “ไม่มีใครเข้ามาที่นี่ได้หรอก ตราบใดที่ยังมีอีจุนอยู่”
 
     “แต่ถึงยังไงผมก็อยากให้นายแม่ระวังตัวด้วยนะครับ”
 
     “ชั้นเอาตัวรอดได้เสมอแหละน่าอีจุน...เลิกบ่นเป็นตาแก่ได้แล้ว” พูดจบก็หันหลังกลับไปเหมือนเดิม มือเรียวเอื้อมไปหยิบเอาแก้วไวน์ขึ้นมาจิบไปเพียงเล็กน้อยแล้ววางไว้ที่เดิม
 
     ปากอิ่มเม้มแน่นก่อนจะปล่อยกันเป็นอิสระ
 
     “ที่นั่นมีอะไรผิดปกติมั้ย” ปากอิ่มถามขึ้นถึงเรื่องที่มอบหมายให้อีจุนไปจัดการในช่วงบ่ายของวันนี้
 
     “ค่อนข้างคึกคักครับ เพราะรุ่นแปดสั่งให้ตกแต่งคฤหาสน์ใหม่เกือบทั้งหลังเลย แถมยังสั่งให้ลงกุหลาบที่หลังคฤหาสน์ใหม่ทั้งหมด...ที่สำคัญลงพันธุ์ Christian Diorด้วยครับ...รุ่นแปดจำได้ว่านายแม่ชอบกุหลาบ...” อีจุนรายงานก่อนจะพูดบางสิ่งที่ตนรู้ว่าร่างบางอาจจะไม่ชอบก็เป็นได้ออกมา แต่เค้ารู้ดีมาเสมอว่า ทุกอย่างที่เกี่ยวกับรุ่นสิบ รุ่นแปดรู้และไม่เคยลืม เค้าจำทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นรุ่นสิบได้เสมอ
 
     “หมอนั่นคงอยากจะเอาใจชั้นล่ะสิ แต่ก็ดีเหมือนกัน...ยิ่งเอาใจชั้นมากเท่าไหร่ หมอนั่นก็จะยิ่งตายเร็วขึ้นเท่านั้น” ร่างบางยกยิ้มบางเบาที่มุมปาก ก่อนจะลุกขึ้นจากอ่างน้ำนมที่ตนแช่มาได้ซักพักแล้ว หยิบเอาเสื้อคลุมมาคลุมกายแล้วเดินไปล้างตัวอีกด้านหนึ่งของห้องน้ำ
 
     “นายแม่ครับ ถึงยังไงผมก็ยังไม่เห็นด้วยเรื่องที่นายแม่จะเข้าไปอยู่ในนั้นนะครับ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม และถึงผมจะมั่นใจว่ารุ่นแปดจะไม่ทำอะไรนายแม่...แต่ผมก็ไม่อยากให้ไปอยู่ดี”
 
     “เราคุยเรื่องนี้กันรู้เรื่องแล้วนะอีจุน” ร่างบางตอบกลับเสียงราบเรียบ หันมาเพียงเสี้ยวหน้าให้อีจุนเห็นเท่านั้น ชายหนุ่มเงียบกริบทันที ดังนั้นตอนนี้มีเพียงสายน้ำจากฝักบัวเท่านั้นที่ดังอยู่ท่ามกลางความเงียบ
 
     “หยิบเสื้อคลุมตัวใหม่ให้ที”
 
     สิ้นเสียงคำสั่งนั้น อีจุนเดินไปหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำตัวใหม่มา แล้วเดินเข้าไปหาร่างบางที่ยังคงยืนเปลือยกายอยู่ คลี่เสื้อคลุมสีดำสนิทนั้นออกแล้วใส่ให้จากด้านหลัง ขยับเข้าไปใกล้ร่างบอบบางนั้นอีกนิด สอดมือผ่านช่องว่างระหว่างแขนและเอวบางไปผูกสายเสื้อคลุมให้ เรียบร้อยแล้ว เจ้าตัวก็ถอยห่างออกมา
 
     “คืนนี้จะมีงานเลี้ยงต้อนรับเดวิล ชั้นอยากให้อีจุนอยู่ด้วย”
 
     “แต่เย็นนี้มีงานที่บ่อนนะครับ นายแม่คงไม่ได้จะไปบ่อนเพียงลำพังหรอกใช่มั้ย”
 
     “ชั้นจัดการเองได้”
 
     “แต่นายแม่ครับ ยังไงผมก็ปล่อยให้นายแม่ไปที่บ่อนคนเดียวไม่ได้!”
 
     “แต่นี่เป็นคำสั่ง!” ร่างบางตวาดลั่นใส่หน้าร่างสูง สีหน้าและแววตาเต็มไปด้วยความโกรธและไม่พอใจ ตนต้องการให้อีจุนและเดวิลได้มีเวลาพูดคุยกันบ้างตามประสาเพื่อน ฮยอนซึงไม่ได้ต้องการจะให้อีจุนมาตามติดตนอยู่แบบนี้
 
     อีจุนควรจะมีเวลาเป็นของตัวเองเสียบ้าง ไม่ใช่วันๆ เอาแต่ทำงาน
 
     และที่มากไปกว่านั้น อีจุนควรจะมีใครซักคนมาดูแลได้แล้ว
 
     “ถ้านี่เป็นคำสั่ง ผมจะปฏิบัติตามครับ” อีจุนก้มหัวให้แล้วหุนหันเดินออกจากห้องไป
 
     เสียงบานประตูปิดลงพร้อมๆ กับร่างบอบบางที่ทิ้งตัวลงที่โซฟาเหมือนกัน ไม่รู้ทำไมจู่ๆ ถึงได้ร้องไห้ออกมา เป็นครั้งแรกที่ฮยอนซึงตวาดใส่หน้าและพูดไม่ดีกับอีจุนแบบนั้น
 
     ไม่ได้ตั้งใจ
 
     ไม่โกรธใช่มั้ย...อีจุน
 
     ร่างบางโน้มไปหอบเอาแบล็คโรสที่นอนหลับสนิทอยู่บนเบาะ
นุ่มลายกุหลาบที่ตั้งเอาไว้บนโต๊ะตัวขนาดย่อมที่ข้างโซฟาที่ร่างบางจะนั่งอยู่เป็นประจำ
 
     มือเรียวลูบแผ่วเบาและเหม่อลอยไปบนขนนุ่มฟูสุขภาพดีของแมวรักตัวอ้วนของตน
 
     “เค้าจะไม่โกรธชั้นใช่มั้ยแบล็คโรส...อีจุนจะไม่โกรธนายแม่ใช่มั้ย”
 
 
 
 
     ร่างบางออกมาบ่อนที่มีเพียงคนขับรถประจำตัวออกมาด้วยเท่านั้น บ่อนการพนันในย่านเริงรมย์ คราค่ำไปด้วยนักเสี่ยงโชค สุรา นารี ที่สำคัญของเล่นผิดกฎหมายก็รวมอยู่ในนี้ด้วย ควันบุหรี่ลอยคลุ้งไปทั่ว พร้อมทั้งเสียงดังเซ็งแซ่ของเหล่านักเสียงโชคที่ส่วนใหญ่แล้วเป็นผู้ชาย
 
     บางคนก็หอบหิ้วเอานารีขนาบข้างมาด้วย หวังจะให้เป็นเครื่องลางค์นำโชค กอด จูบ กันไม่อายสายตาคนอื่น
 
     และทุกอย่างหยุดนิ่งเมื่อปรากฏร่างบอบบางภายใต้ยูกาตะสีเพลิงอันเป็นเอกลักษณ์ของคนที่ทุกคนที่นี่ก็รู้จักเป็นอย่างดี 
 
     เด็กในบ่อนรีบกุลีกุจออกมาต้อนรับทันทีที่เห็น
 
     “นายแม่จะมา แต่คุณอีจุนไม่เห็นแจ้งพวกผมก่อน...เลยไม่ได้เตรียมอะไรไว้รับรองนายแม่เลยครับ”
 
     “กูแค่จะมาเด็ดหัวลูกหนี้ที่มันไม่ยอมใช้หนี้ตามลำพัง ไม่อยากให้อีจุนมาด้วยก็เท่านั้น เอาบัญชีมาสิกวังซู” มือเรียวยกขึ้นเล็กน้อยเพื่อรับเอาบัญชีหนี้สินที่ถือมาด้วยจากคนขับรถที่ส่งให้อย่างนอบน้อมแล้วส่งให้เด็กคนที่เพิ่งกุลีกุจอออกมาต้อนรับ และตอนนี้ทั้งบ่อนก็แหวกให้เหลือที่ว่างสำหรับกิจกรรมเด็ดหัวลูกนี้ของนายแม่แล้ว
 
     บ่อนปิดโดยอัตโนมัติ คนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้า เป็นที่ชัดเจนว่า หากใครในนี้มีหนี้สินที่เกินจะผ่อนปรนให้ได้ ก็ต้องจมกองเลือดอยู่ตรงนี้และศพก็จะกลายเป็นเถ้าถ่านในวันต่อมา
 
     ลูกน้องคนเดิมส่งให้ลูกน้องที่คุมบ่อนให้ดูทั่วทุกคน ก่อนที่เก้าอี้ทรงสูงจะตามมาในอีกไม่กี่วินาที ร่างบางนั่งลงด้วยท่าทางที่น่าเกรงขาม และก็ยังไม่พ้นกรยกขาขึ้นไขว่ห้างเหมือนเดิม
 
     “กูให้เวลาพวกมึง 5 นาที ลากตัวไอ้ 5 ตัวนั้นออกมา!!” สิ้นคำสั่งเท่านั้น ลูกน้องก็รีบควานหาตัวลูกหนี้มหาศาลห้าคนนั้นทันที และเพียงไม่ถึง 5 นาทีอย่างที่บอก ทั้ง 5 คนก็มาหมอบอยู่ต่อหน้าร่างบางเป็นที่เรียบร้อย
 
     “ไง...สบายดีกันมั้ย ก็คงจะสบายนะ เล่นก็ฟรี กินก็ฟรี แถมยังมีนารีให้มั่วอีกด้วย มาเที่ยวบ่อนนี้น่ะจะสบายเกินไปแล้วล่ะ หนี้สินแต่ละคน...ถ้าหากว่ากูปล่อยให้ค้างคาต่อไป คาดว่ายังไงก็คงไม่ได้คืนแน่ๆ แล้วมันก็คงจะเสียเปล่า...ไหน...ยังหนุ่มกันอยู่เลยนี่...” ร่างบางลุกขึ้นจากเก้าอี้ทรงสูงที่นั่งอยู่เดินเข้าไปหาทั้ง 5 คนที่ถูกตรึงมือไว้ด้วยกุญแจมือจากด้านหลัง โน้มลงไปแล้วเชยคางหนึ่งในนั้นขึ้นมา
 
     “หน้าตาถือว่าหล่อใช้ได้...” พูดแค่นั้นก็ก้าวต่อไปที่คนที่สอง มือทั้งสองบีบที่ต้นแขนแกร่งของคนที่สองแรงๆ
 
     “เนื้อก็แน่น ท่าทางจะหุ่นดีและก็คงจะแรงดีไม่น้อย...” ร่างบางหยุดที่คนที่สอง ก่อนจะยืดตัวขึ้นเต็มความสูง สะบัดพัดออกพัดเบาๆ แล้วหันไปสั่งลูกน้องทั้งหมด
 
     “ดีกว่าจะฆ่ามันทิ้ง เอาไปทิ้งไว้ที่ซ่องของเราดีกว่า ช่วงนี้มีฝรั่งหนุ่มๆ อยากได้หนุ่มญี่ปุ่นมาระบายความใคร่เยอะอยู่นี่...ใช่มั้ย...ให้ทำงานใช้หนี้ไปก็แล้วกัน ก็ดี...เราจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปซื้อใครมาอีก”
 
     “ไม่นะครับนายแม่!” ทั้ง 5 คนประสานเสียงพร้อมกัน สีหน้าและแววตาเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นพรั่นพรึง พยายามดิ้นรนทั้งที่ถูกตรึงเอาไว้ไม่ว่าจะเป็นกุญแจมือหรือมีลูกน้องของร่างบางคุมเอาไว้อีกชั้นหนึ่งก็ตาม
 
     “พวกมึงมีสิทธิ์เลือกรึไง!” ร่างบางหันมาตวาดและส่งสายตาดุให้
 
     “พวกเรายอมทำทุกอย่าง แต่ถ้าจะให้พวกเราเข้าไปที่นั่น พวกเรา...” หนึ่งในนั้นก้มหน้าลงในขณะที่พูด
 
     “ทำ! หรือ ตาย! เลือกมา!” หมดซึ่งความอดทน ร่างบางเลยยื่นข้อเสนอให้ทันที ขี้เกียจจะเถียงหรือฟังพวกนี้โหยหวนร้องขอชีวิต
 
     “ถ้าทำกูจะให้เด็กพวกนี้ไปส่งแบบดีๆ แต่ถ้าเลือกตาย กูก็จะยอมเหนื่อยเหนี่ยวไกปืนระเบิดหัวพวกมึงเอง...เอาไง...” ร่างบางนั่งลงวางแขนที่พนักพิง เอนตัวไปกับพนักเก้าอี้ทรงสูงพร้อมทั้งส่งยิ้มให้ทั้ง 5 คน
 
     ทั้ง 5 เงียบไปนานจนร่างบางต้องตัดสินให้เอง
 
     “เอาเป็นว่า เอามันไปทิ้งไว้ที่ห้องใต้ดิน มีแขกเมื่อไหร่ค่อยเอามันขึ้นมาขัดตัวแล้วโยนให้แขก!”
 
 
 
 
 
     “ตั้งใจว่าจะไปรับวันมะรืน แต่เห็นวันนี้ออกมาแล้ว...หอบกลับบ้านเลยดีมั้ยนะ” พอเคลียร์เรื่องในบ่อนเสร็จแล้ว กำลังจะกลับก็ปรากฏว่ามีใครอีกคนยืนสูบบุหรี่รออยู่ข้างนอกก่อนแล้ว ร่างบางก้มลงมองที่พื้น สังเกตสิ่งรอบตัวก็เห็นว่ามีก้นบุหรี่ทิ้งอยู่ที่พื้นประมาณสี่ห้าตัวเห็นจะได้
 
     “ว่างมากนักรึไง ถึงไม่ทำการทำงาน” เงยหน้าขึ้นถามคนตัวสูงๆ ร่างหนาๆ ภายใต้เสื้อโค้ทราคาแพงสีดำสนิท
 
     “จริงๆ งานก็เยอะ แต่มันคิดถึง รู้ว่ามาที่นี่ก็เลยมาหา แต่พอดีเห็นว่าทำงานอยู่เลยไม่อยากเข้าไปกวน ก็เลยรออยู่ข้างนอก”
 
     “มึงเมาใช่มั้ย” ได้ยินสิ่งที่อีกคนร่างหนาตรงหน้าพูด ร่างบางเลยถามขึ้นด้วยความสงสัย ปกติไม่เป็นแบบนี้ ปกติไม่ออกไปไหนมาไหนคนเดียว แล้วก็ไม่ใจเย็นพอจะมารอใครนานๆ ด้วย
 
     “ใช่ กูเมา” ตอบสั้นๆ แล้วก็ผลักอีกคนเข้ากับซอกตึกก่อนจะตามเข้าไปรวบร่างบอบบางนั้นไว้ในอ้อมกอดของตัวเอง ระดมจูบจนอีกคนตั้งตัวไม่ทัน มือเรียวดันร่างหนานั้นออกห่าง หากแต่ไม่เป็นผล เมื่อราวแขนรัดแน่นขึ้นกว่าเดิม
 
     “มึงอยากตายใช่มั้ยจุนฮยอง!” เบี่ยงหน้าหลบไปด้วย ผลักไปด้วย พยายามจะให้อีกคนเลิกวุ่นวายกับทั้งแก้มทั้งซอกคอของคนซักที ถ้าขืนปล่อยให้คนเมาแรงเยอะคนนี้ยังได้ใจอยู่แบบนี้ มันจะไม่ใช่แค่ผ้าคาดเอวที่กำลังจะหลุด และคอเสื้อที่ไหลลงมาที่ไหล่นั้น แต่มันอาจจะเป็นทั้งชุดเลยก็ได้
 
     “กูยังไม่อยากตาย แต่ถึงจะต้องตายจริงๆ ก็บอกแล้วไงว่ากูจะยอมตายเพราะมือมึงคนเดียว”
 
     “งั้นมึงจะได้ตายสมใจแน่ๆ!”
 
     “กูยอม...ถ้ามึงคิดว่ามึงทำใจฆ่ากูได้อย่างที่ปากมึงพูด”
 
     “.......................” ร่างบางนิ่งอึ้งกับประโยคที่ร่างหนาพูดออกมาจนถึงขั้นเหม่อลอย
 
     ปากหยักยังคลอเคลียแก้มใสและซอกคอไม่ห่าง มือเริ่มอยู่ไม่สุข เปะป่ายจนกระตุกเอาผ้าขาดเอวหลุดลงไปแล้ว ดันร่างบางติดกำแพงตึกอีกครั้ง ดันหน้าขาเข้ากับระหว่างขาเรียวสวย
 
     ลิ้นร้อนลากผ่านซอกคอจนเกือบจะมาถึงแผ่นอกขาว หากแต่มือเรียวของอีกคนประคองข้างแก้มสากทั้งสองไว้เสียก่อน บังคับให้ร่างหนามองหน้าตน
 
     “_____ซักวัน กูจะต้องทำใจฆ่ามึงให้ได้ จุนฮยอง!!”
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา