Fic B2ST Big Mama [JunSeung ft.Lee Joon] [Rate 20]

10.0

เขียนโดย เช้าตรู่

วันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2557 เวลา 10.44 น.

  20 chapter
  5 วิจารณ์
  39.64K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 มกราคม พ.ศ. 2557 11.03 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

18) Big Mama Chapter 17

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

Chapter 17

 

“ขอโทษครับนาย...” ลูกน้องทักขึ้นในทันทีที่เจ้านายประชุมงานเสร็จแล้ว ก่อนจะกระซิบให้ฟังเบาๆ เรื่องสำคัญที่เพิ่งได้รู้จากเพื่อนร่วมงานอีกคนมาตั้งแต่ที่เจ้านายเริ่มประชุมได้ไม่นาน

 

“จริงเหรอ” ถามย้ำเพื่อให้แน่ใจว่าที่ตัวเองได้ยินนั้นไม่ผิดเพี้ยนไปจากที่ได้ยิน

 

“แทคยอนบอกผมตั้งแต่เริ่มประชุมแล้วครับ เพียงแต่ผมไม่กล้ารายงานนายเพราะเห็นว่านายกำลังยุ่งอยู่” สิ้นประโยคของลูกน้องเท่านั้น นายใหญ่ของแก๊งค์ก็รีบรุดออกจากห้องประชุมไปทันที แต่ก็นึกขึ้นได้ว่ามีอีกอย่างที่ค้างอยู่ ก็เลยหันกลับไปสั่งลูกน้องอีกครั้ง

 

“เรื่องของวันนี้กูฝากเช็คด้วย”

 

ลูกน้องยิ้มกว้าง ไม่ได้ยิ้มกว้างที่ได้เช็คของหรอกนะแต่เป็นเพราะขำเจ้านายที่มาอารมณ์แบบว่ากลัวเมียแล้วมันก็ดูน่ารักดี

 

“หุบยิ้มมึงซะอูบิน!”

 

“ครับนาย!” อูบินจำเป็นต้องหุบยิ้มตัวเองลงทันที ก่อนที่เจ้านายจะโมโห หลังจากที่เจ้านายออกไปพ้นห้องประชุมแล้วอูบินก็หันไปสั่งงานต่อจากนั้น

 

“พวกมึงแยกย้ายกันไปทำงานได้แล้ว” สั่งเสียงเรียบแล้วก็เดินตรงไปยังห้องพักของพนักงานต้อนรับคนใหม่ที่ตอนนี้คงรอการสัมภาษณ์แบบถึงพริกถึงขิงอยู่เป็นแน่ แต่เสียใจด้วยนะที่วันนี้มันคงไม่ได้ถึงพริกถึงขิงอย่างที่หวัง เพราะคนที่ต้องเช็คของเองตอนนี้ถูกเมียอย่างไม่เป็นทางการก่อเรื่องป่วนหัวใจไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

 

 

 

“ไอ้แทค! เจ้านายมึงอยู่ไหน!” พอเดินออกมาถึงส่วนหน้าก็รีบถามหาร่างบอบบางในทันทีเพราะกลัวจะไม่ทันการและอีกอย่างถ้าหากว่าเด็กดื้อเข้าไปนั่งเล่นในนั้นจริงๆ ก็จะได้รีบไปลากออกมาเลย

 

“.................” แทคยอนนิ่งเงียบและก้มหน้าไม่กล้าสบตากับผู้เป็นนาย มันยิ่งทำให้ร่างหนายิ่งฉุนเฉียวมากขึ้นไปอีก

 

“กูถามว่านายแม่ของมึงอยู่ไหน!” ถามย้ำอีกครั้งจนเสียงดังก้องไปทั่วทั้งห้องโถงส่วนหน้า

 

แทคยอนค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาและมองไปยังตู้กระจกใสที่อยู่เบื้องหน้า เป็นการตอบคำถามด้วยภาษากายแทนการพูด ร่างหนามองตามสายตาของแทคยอนไปทันที และมันก็ทำให้ร่างหนาแทบจะทุบตู้กระจกนั้นทิ้งมันเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อเห็นว่าร่างบางนั่งอยู่ในนั้น สวมอาภรณ์สุดโปรดนั่นคือยูกาตะสีแดงปักด้วยเป็นลายกุหลาบสีดำด้วยไหมราคาแพง แถมที่หน้าอกก็ยังติดเบอร์เอาไว้เหมือนคนอื่นๆ ด้วย

 

“ทำไมมึงปล่อยให้รันทำแบบนี้!” หันมาต่อว่าแทคยอน นิ้วก็ชี้ไปที่ตู้กระจกด้วย

 

“นายแม่คิดเอาไว้อยู่แล้วว่านายท่านจะต้องถามแบบนี้ ก็เลยบอกให้ผมตอบไปว่า....”

 

 

“ถ้าหมอนั่นถามนายว่าทำไมถึงปล่อยให้ฉันทำแบบนี้ ก็ตอบไปเลยยนะว่า ทีหมอนั่นยังเช็คของด้วยตัวเองได้เลย แล้วทำไมฉันถึงจะเข้ามานั่งในนี้ให้แขกเลือกบ้างไม่ได้...”

 

“ผมพยายามห้ามนายแม่แล้วครับ แต่นายแม่ไม่ยอมฟังผม รู้สึกจะไม่ชอบเอามากๆ ที่นายท่านเช็คของด้วยตัวเองทั้งที่จริงๆ ให้ใครทำก็ได้” แทคยอนกล่าวเสียงเรียบ ก้มหน้านิ่ง กุมมือได้ข้างหน้าแน่น ระงับอาการสั่นเทาขอตัวเอง แทคยอนรู้ดีว่าตอนนี้นายท่านโมโหมากแค่ไหนแต่ทำอะไรไม่ได้

 

“มันเป็นงาน มึงก็รู้ มึงอยู่กับกูมากี่ปีแล้วแทคยอน!”

 

“ก็ใช่ครับ มันเป็นงาน แต่นั่นมันเมื่อก่อน ก่อนที่นายท่านจะรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคและก็ก่อนที่นายท่านจะตัดสินใจพานายแม่มาอยู่ที่นี่ด้วย แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมแล้วนี่ครับ นายท่านก็น่าจะรู้ว่านายแม่น่ะ....”

 

“อะไร?”

 

“รักนายท่าน....” แทคยอนตอบออกไปเพียงเบาๆ แล้วก็เดินไปรวมกลุ่มกับลูกน้องอีกสองสามคนที่ยืนดูแลความเรียบร้อยอยู่ไม่ไกลนัก

 

ร่างหนานิ่งเงียบและเดินไปยืนอยู่ต่อหน้าตู้กระจกใสที่มีสาวๆ นั่งอยู่ในนั้น ที่ว่างเกิดขึ้นหลายที่เนื่องจากถูกแขกที่มาเที่ยวเลือกไปใช้บริการ

 

“มึงคิดว่ากูควรจะทำยังไงกับเด็กดื้อในตู้นั่นดี” หันไปถามลูกน้องที่เอาแต่จ้องร่างบางอยู่ นี่ถ้าไม่บอกก่อนว่านายแม่เป็นผู้ชาย เขาก็ไม่มีทางเชื่อแน่ๆ

 

“แล้วแต่นายท่านเลยครับ”

 

“ถ้ากูทำห่าอะไรลงไป เดี๋ยวรันก็โกรธกูอีก แล้วไอ้ที่มานั่งในนี้ก็เพราะว่าโกรธกูที่กูเช็คของเอง!”

 

“นายท่านก็แค่เลิกเช็คของเองก็สิ้นเรื่องนี่ครับ นายแม่จะได้ไม่โกรธ”

 

“กูก็ไม่ได้อยากทำเอง แต่มึงเข้าใจไหมว่าบางทีอีพวกนี้มันก็เรื่องมาก ถ้ากูไม่ทำให้มัน มันก็ไม่อยากทำงาน!”

 

“แต่นายต้องเลือกนะครับ ระหว่างนายแม่กับอีตัวในตู้...งั้นผมขอตัวไปทำงานตามที่นายสั่งก่อนนะครับ ช้าแล้วจะไม่ทันไอ้อีจุน” ลูกน้องหาตัวเลือกให้เจ้านายเสร็จสรรพแล้วก็ขอตัวไปทำงานตามที่เจ้านายสั่งเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว งานนี้สำคัญมาก แต่เจ้านายก็ยังไว้ใจให้ตนไปทำแทน ถึงยังไงก็ต้องทำให้ดีที่สุด

 

“ยังไงกูก็ฝากด้วยนะอูบิน”

 

“ผมจะทำให้ดีที่สุดครับนาย ส่วนนายก็...พยายามลากนายแม่ออกมาจากตู้นั่นให้ได้ก่อนที่จะมีแขกที่ไหนมาลากไปก่อนละกันนะครับ” อูบินอมยิ้มเล็กน้อย เห็นเจ้านายทำหน้าโมโหหึง โมโหหวงแล้วมันก็อดขำไม่ได้

 

ร่างหนาทำเหมือนจะเตะอูบินแต่แล้วก็ปล่อยอูบินให้เป็นอิสระด้วยการให้ไปทำงานตามหน้าที่ของมัน ส่วนตัวเองก็เตรียมจะไปจัดการกับคนหัวดื้อที่มีความสามารถพิเศษคือการกวนโทโสตน

 

 

 

“นายแม่คะ...ดูแล้วนายท่านจะโกรธมากเลยนะคะ ฉันว่านายแม่ออกไปเถอะค่ะ ก่อนที่พวกฉันจะได้ตู้นั่งใหม่อีกตู้” สาวสวยคนหนึ่งพูดด้วยสีหน้าเป็นกังวล เธอทำงานมาที่นี่นานพอที่จะรู้ว่าเจ้านายอารมณ์ร้อนขนาดไหน

 

“นั่นมันเรื่องของพวกเธอไม่ใช่รึไง ก็ดีแล้วนี่...ถ้าทำห้องกระจกนี้ใหม่พวกเธอก็จะได้พักงานด้วย ไม่ดีเหรอ ทำงานทุกวัน รับแขกทุกวันก็เหนื่อยแย่สิ” พูดไปก็เขี่ยๆ หน้าจอโทรศัพท์ไปด้วยอย่างอารมณ์ดี ไม่ได้สนใจหน้าตาของคนที่อยู่นอกห้องกระจกนั่นเลยสักนิด รู้ว่าพี่จุนโกรธและกำลังโมโห แต่มันก็ช่วยไม่ได้นี่ อยากทำเรื่องไว้ก่อนทำไม

 

“มันก็จริงอย่างที่นายแม่พูดค่ะ แต่พวกเราก็ไม่อยากพักนี่คะ ถ้าพักก็ไม่มีกินนะคะ”

 

“สรุปคือเธอจะให้ฉันออกจากห้องนี้ไปให้ได้ใช่ไหมริสะ”

 

“.........................” หญิงสาวเจ้าของชื่อไม่ตอบ ก้มหน้านิ่ง ตอนนี้เธอรู้ว่านายแม่กำลังไม่พอใจแน่ๆ และถ้าหากนายแม่โกรธเธอขึ้นมา เธออาจจะต้องระเห็จออกไปหางานอื่นทำก็เป็นได้

 

“ช่างเหอะ ก็ฉันอยากนั่งเล่นอยู่ในนี้นี่”

 

ริสะถอนหายใจเบาๆ แล้วก็ปล่อยให้ร่างบางนั่งเล่นต่อไป ท่ามกลางสายตาของเจ้านายที่จ้องเขม็งไม่วางตา

 

....แล้วแต่ละกัน....

 

 

แม้ว่าจะโมโหคนหัวดื้อมากเท่าไหร่ แต่ว่าร่างหนากลับนิ่งมากกว่าปกติ ผิดไปจากที่ร่างบางคิดเอาไว้โดยสิ้นเชิง เมื่อร่างหนากระดิกนิ้วลูกน้องให้ยกโซฟามาให้นั่ง หยิบซิก้าร์ขึ้นมาอัดควันเข้าปอด มองร่างบางที่ตอนนี้เปลี่ยนจากจิ้มๆ เขี่ยๆ โทรศัพท์มาสนใจร่างหนาแทน ร่างหนายักคิ้วพร้อมทั้งยิ้มมุมปากด้วยท่าทางแสนยียวนส่งไปให้

 

“หมอนี่มันกวนประสาทชะมัด!” ร่างบางโพล่งขึ้น ลุกขึ้นยืนเท้าเอวหมายจะเอาเรื่องร่างหนทั้งที่ตัวเองอยู่ในห้องกระจกใสนั่นแหละ

 

ท่าทางแสนน่ารักนั้นทำให้ร่างหนาหลุดหัวเราะออกมาเสียงดัง ก่อนจะลุกเดินเข้าไปหาร่างบาง ยืนอยู่หน้ากระจกสักพักก่อนจะเอื้อมไปหยิบเบอร์ของร่างบางขึ้นมา

 

“กูเอาคนนี้ แต่กูไม่ให้บริการกูที่นี่นะ กูจะหอบกลับบ้าน”

 

และดูเหมือนว่าลูกน้องจะร่วมด้วยช่วยเล่นกับเจ้านายด้วย ไฟประจำที่นั่งของร่างบางปิดลงทันที ร่างบางแยกเขี้ยวใส่ร่างหนาอย่างเอาเรื่อง

 

“นี่มันอะไรกันน่ะ! กูไม่ใช่ผู้หญิงพวกนี้นะ!”

 

“อ้าว...ไม่ใช่แล้วเข้าไปอยู่ในนั้นทำไมกันล่ะ ก็นึกว่าใช่ ก็เลยอยากจะใช้บริการสักหน่อย...นี่พี่ผิดเหรอ?” แม้ว่าร่างบางจะพูดไม่เพราะด้วย แต่ร่างหนาก็ยังคงพูดด้วยสรรพนามเดิมของตนกับร่างบางอยู่ดี

 

“......................” ร่างบางพูดไม่ออก ไม่รู้จะแก้ตัวหรือพูดว่ายังไง จะให้บอกว่าที่เข้ามาอยู่ในนี้ก็แค่เพราะว่าอยากจะประชดประชันเขาอย่างนั้นเหรอ มันไม่ใช่หรอก พูดออกไปแบบนั้นมันน่าอาย คนอย่างนายแม่จาง ฮยอนซึง ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องมานั่งประชดประชันใคร โดยเฉพาะศัตรูอย่างยง จุนฮยอง !

 

“เอาล่ะ...แม่เสือสาวของพี่ ออกมาได้แล้ว...พี่อยากกลับบ้านจะแย่แล้ว” ร่างหนายังคงพูดด้วยอารมณ์ดีเช่นเดิม เพราะว่าหากตัวเองยิ่งอารมณ์ดีมากแค่ไหน ร่างบางก็จะยิ่งอารมณ์เสียมากเท่านั้น การเห็นรันอารมณ์เสียนั่นเป็นความสุขอย่างหนึ่งของจุนฮยองก็ว่าได้นะ

 

“ไม่!”

 

“ไม่ออกมาเอง พี่จะเข้าไปอุ้มออกมานะ” พูดจบก็อัดควันซิก้าร์เข้าปอดไปอีกครั้ง พ่นใส่หน้าร่างบางผ่านกระจกกั้นนั่นแหละ

 

“กูจะอยู่ในนี้แล้วก็จะทำงานเหมือนสาวๆ พวกนี้ด้วย!”

 

“ไม่ได้!”

 

“แล้วทำไมถึงจะไม่ได้ล่ะ!”

 

“มันใช่เรื่องเหรอที่คนรักของของยง จุนฮยอง จะต้องมาทำอะไรแบบนี้น่ะ!”

 

“แล้วทีมึงล่ะ! รับผู้หญิงเข้ามาใหม่กี่คนก็ยังมาเช็คของ เปิดของเองเลย แล้วทำไมกูถึงจะอยู่ในนี้ไม่ได้!”

 

“นี่...หึง...?”

 

“ใครหึง!”

 

“มึงนั่นแหละ หึงก็บอกมาเถอะน่า”

 

“ไม่ได้หึงโว้ย!” ร่างบางโวยวายเสียงดัง มันทำให้สาวๆ ที่นั่งอยู่ในนั้นขำกับท่าทางน่ารักน่าชังของนายแม่คนใหม่ของตนกันเสียยกใหญ่ เขาว่ากันว่านายแม่โหดไม่เป็นสองรองใครเลยนี่ แล้วนี่มันอะไรกันน่ะ

 

ร่างหนาถอนหายใจออกมาเบาๆ แต่ก่อนที่จะได้ต่อล้อต่อเถียงอะไรกับร่างบางต่อ ลูกน้องก็เข้ามากระซิบบางอย่างเสียก่อน คำบอกเล่าของลูกน้องทำให้ร่างหนายิ้มออกมาได้ง่ายๆ ปัดมือไล่ลูกน้องออกห่างแล้วขยับเข้าไปหาร่างบางที่กลับไปนั่งที่ตัวเองแล้วเรียบร้อย

 

“ถ้าอยากนั่งอยู่ในนี้ก็ตามใจนะ เพราะเดี๋ยวกูต้องไปเปิดของใหม่ก่อน” ร่างหนาพูดเสียงเรียบ กำลังจะเดินออกไป แต่แล้วร่างบางกลับลุกขึ้นแล้ววิ่งออกจากห้องกระจกนั้นด้วยความรวดเร็ว

 

“ห้ามเลยนะ! ห้ามเลย! พี่จะแตะต้องผู้หญิงคนไหนไม่ได้ นี่เป็นคำสั่งจากรัน!” ร่างบางร้องเสียงหลงอย่างไม่อายใครเลยสักคน วินาทีนี้มันไม่ใช่วินาทีที่จะมาอายหรอกนะ ยอมอายดีกว่าจะให้จุนฮยองไปทำแบบนั้นกับคนอื่น...เป็นไหนๆ

 

...คนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเอง...

 

ร่างหนายิ้มกว้างแต่แล้วก็หุบเก็บในวินาทีต่อมา แล้วหันมาหาร่างบางที่ยืนอยู่ต่อหน้าตัวเอง พร้อมทั้งหน้าง้ำหน้างอ

 

“มันเป็นงาน”

 

“งานก็ช่าง”

 

“แล้วจะให้ใครทำ”

 

“ลูกน้องมีตั้งเยอะแยะ ไม่ใช้พวกมันทำงานแล้วจะจ้างมาให้เสียเงินทำไม ใช้ไปสิ!”

 

มันเป็นเรื่องไม่ปกติเสียแล้วล่ะ ที่ยง จุนฮยอง ต้องมายืนเถียงกับจาง ฮยอนซึง ด้วยเรื่องแบบนี้ ใช่...มันผิดปกติ แต่สิ่งที่มากับสความผิดปกตินั่นก็คือความน่าชังที่มีมากกว่าปกติของรันจังของเขานั่นเอง

 

ร่างหนาพยักหน้าช้าๆ ก่อนจะเดินเข้าไปหาร่างบาง โอบกอดร่างบอบบางไว้เพียงหลวมๆ

 

“โอเคๆ พี่ยอมแพ้แล้วรัน พี่สัญญาว่าต่อไปนี้พี่จะไม่ทำอีก ถ้ามีของเข้าใหม่ พี่จะใช้อูบินทำแทน ตกลงไหม....”

 

ร่างบางไม่ตอบอะไรออกมา พยักหน้าเล็กน้อยกับอกกว้างพร้อมรอยยิ้ม ยิ้มที่ตัวเองก็ยังไม่คิดเลยว่าจะเผลอยิ้มออกมาแค่เพราะเขาสัญญาว่าจะไม่แตะต้องผู้หญิงคนไหนอีก บางทีใจที่มันอ่อนอยู่แล้ว ปล่อยมันไปแบบนี้...

มันจะเป็นการทรยศต่อท่านพ่อและคนตระกูลจางไหมนะ

 

“แต่ความผิดวันนี้ ยังไงพี่ก็ต้องทำโทษ!” ร่างหนาดันร่างบางออกจากอกของตน ทำหน้าเข้มใส่ ร่างบางขมวดคิ้วแน่น สงสัยว่าตัวเองมีความผิดอะไร ความผิดทั้งหมดมันเป็นของจุนฮยองหมดเลยไม่ใช่รึไง

 

“ผิดอะไร! กูไปทำอะไรผิดไว้อีก!”

 

“ก็ผิดที่เข้าไปอยู่ในนั้นทำตัวเหมือนอีพวกนั้นไงล่ะ ถ้าแขกมาเลือกไปแล้วพี่ไม่เห็นจะทำไง!”

 

“ก็ฆ่ามันซะสิ ไม่เห็นจะยาก” คำตอบจากปากของร่างบางทำให้ร่างหนาอ้าปากค้าง ไม่คิดว่าจะพูดเรื่องฆ่าคนออกมาได้ง่ายขนาดนี้ ฆ่าคนบริสุทธิ์น่ะไม่มีใครสอนนะ แม้กระทั่งจุนฮยองที่ฆ่าคนเหมือนผักปลา แต่คนบริสุทธิ์ที่ไม่รู้เรื่องอะไร จุนฮยองก็ไม่คิดจะทำเรื่องเลวร้ายอย่างนั้น

 

“ถึงยังไงก็แล้วแต่ วันนี้ก็ต้องถูกทำโทษ กลับบ้าน!” ว่าแล้วก็ลากร่างบางให้ตามออกไปทันที แม้ว่าร่างบางจะโวยวายแค่ไหน แต่มันก็ไม่ได้ผล เมื่อจุนฮยองปักใจจะทำโทษซะอย่าง

 

 

“มองอะไรเล่า!” ร่างบางแว้ดขึ้น เมื่อเห็นว่าร่างหนาเอาแต่มองหน้าตน จอดรถที่ลานจอดรถของที่บ้านเรียบร้อยตั้งนานแล้วแต่ก็ไม่ยอมให้ลงจากรถ เอาแต่ล็อคเอาไว้อย่างนั้น จะลงไปไหนก็ไม่ได้ แถมก็ยังไม่ยอมพูดอะไร จ้องหน้าแบบนี้น่ะใครที่ไหนเขาจะรู้ว่าต้องการอะไรกันแน่ล่ะ ต้องการจะทำโทษยังไงก็ยังตรัสรู้ไม่ได้เลย แต่ถ้าลงโทษในแบบของรุ่นแปดก็คงหนีไม่พ้นเรื่องนั้นหรอก

 

“มองหน้าไม่ได้ จะให้มองอย่างอื่นรึไง...จริงๆ อย่างอื่นมันก็น่ามองกว่าหน้าเนอะ” ว่าแล้วร่างหนาก็กดสายตาลงต่ำ จ้องมองรอยผ่าของยูกาตะที่ร่างบางสวมอยู่ เผยให้เห็นเรียวขาเนียนสวย สีผิวสว่างจ้าท่ามกลางแสงไฟสลัวที่ลอดผ่านกระจกรถเข้ามา

 

ร่างบางรีบปิดรอยผ่านั่นทันที พร้อมทั้งแยกเขี้ยวขู่ใส่หน้ารุ่นแปดหวังจะให้กลัว แต่ว่ารุ่นแปดกลับไม่กลัวอย่างที่คิดเอาไว้

 

“ปลดล็อคได้แล้ว จะลง!” ร่างบางออกคำสั่ง ร่างหนายอมปลดล็อคให้ง่ายๆ เพียงไม่กี่วินาทีร่างบางก็รุดลงจากรถไป แต่ทว่าร่างหนาวิ่งไปคว้าเอวไว้ได้เสียก่อน

 

“นี่ปล่อยนะ!”

 

“ไม่ปล่อย....” ร่างหนาตอบกลับเสียงแผ่ว ปลายจมูกเริ่มคลอเคลียอยู่แถวๆ ซอกคอหอมของร่างบาง แขนแกร่งที่รั้งเอวบางไว้ก็เริ่มอยู่ไม่สุข สอดเข้าไปภายในชุดสวย เพื่อสัมผัสผิวขาวเนียนนั้นให้เต็มที่

 

“ไม่เคยว่านะถ้าจะทำโทษน่ะ! แต่มันไม่ใช่ตรงนี้!” ร่างบางหันไปโวยวายใส่ แต่แล้วกลีบปากบางก็ถูกปิดเสียสนิท ก่อนจะถูกปล่อยให้เป็นอิสระในเวลาเพียงไม่กี่วินาที

 

“ไม่มีใครหน้าไหนกล้าดูหรอกน่า”

 

“ถึงงั้นก็เถอะ!”

 

“ถ้าไปที่เตียง...เค้าจะเรียกว่าว่าทำโทษรึไง...ถ้าพาไปที่เตียงก็เรียกว่าทำ “รัก” มากกว่าทำโทษสิ” ร่างหนายิ้มยียวนส่งให้ ก่อนจะดันร่างบอบบางเข้าไปในรถ ร่างบางถอยหนีจนติดปรตูอีกด้าน แต่ร่างหนาก็ดึงกลับมาหาตัวเองจนได้

 

“พี่ชอบจัง...เวลาที่รันทำหน้าแบบนี้”

 

“แบบไหน!”

 

“แบบที่กลัวว่าพี่จะกอดนี่ไงล่ะ มันไม่บ่อยนี่นาที่รันจะทำท่าทางลัวใครแบบนี้...” นิ้วเรียวเกลี่ยแก้มใสแผ่วเบา ก่อนจะบรรจงพรมจูบไปจนทั่วใบหน้าสวยอย่างทะนุถนอมที่สุด ผ้าคาดเอวหลุดออกโดยที่ร่างบางก็ไม่รู้ตัวเลยสักนิด เพลิดเพลินไปกับจูบอ่อนโยนที่ร่างหนาส่งมาให้

 

ยูกาตะหลุดลุ่ยออกจากเรือนกายขาวผ่อง พร้อมๆ กับที่ขาเรียวสวยถูกดันขึ้นไปด้วยแขนแกร่งของคนด้านบน ร่างหนาจงใจบดเบียดร่างกายส่วนล่างของตนเข้ากับส่วนกลางลำตัวของร่างบางผ่านกางเกงชั้นในตัวบางที่สวมอยู่

 

ซอกคอหอมกรุ่นกลายเป็นที่รองรับของลิ้นชื้นก่อนที่มันจะถูกปล่อยปละละเลยให้เงียบเหงาไปโดยปริยาย เมื่อลิ้นแสนซนนั้นเห็นว่าอกบางพร้อมทั้งยอดสีสดน่าสนใจและน่ากินมากกว่า

 

ใบหน้าหล่อจมหายไปกับอกบางที่เจ้าตัวไม่ได้อยากจะถูกสัมผัสเลยแม้สักนิด ยอดอกสีชมพูสวยกลายเป็นอาหารชั้นเลิศของกลีบปากหยัก ลิ้นร้อนชื้นโลมเลียยอดสีสวยนั้นอย่างหื่นกระหาย ในขณะเดียวกันมือใหญ่ก็ปลดเทน็คไทค์ของตัวเองออกจากคอเสื้อด้วย ส่วนกระดุมหลายต่อหลายเม็ดนั้นถูกมือเรียวปลดออกให้ โดยไม่ต้องร้องขอ

 

ร่างหนาเงยหน้าขึ้นจากอกเล็ก สิ่งยิ้มอ่อนโยนไปให้ร่างบางที่แก้มใสสุกปลั่งอย่างน่ามอง มันมีทั้งความเขินอายและมากด้วยความเสน่หามากล้นที่มีต่อคนตรงหน้า สองมือเรียวประคองใบหน้าหล่อไว้ แล้วเป็นฝ่ายกดจูบร่างหนาเสียเอง แต่เพียงไม่นานก็ดันอกกว้างออกห่าง ชันตัวลุกขึ้นแล้วดันร่างหนาไปติดอีกด้านของประตู

 

“ไหนๆ ก็หนีไม่พ้นอยู่แล้ว...ใช่ไหม...”

 

ร่างหนาพยักหน้ารับทั้งที่ดวงตายังจับจ้องเรือนร่างขาวโพลนนั้นไม่วางตา เรือนร่างที่ยูกาตะยังไม่หลุดหายไปไหน มันน่าดูกว่าเรือนร่างที่เปลือยเปล่าเป็นไหนๆ

 

“งั้น...พี่ชอบแบบขัดขืนหรือว่าสมยอมกันล่ะ” ร่างบางถามขึ้น น้ำเสียงยั่วยวน นิ้วเรียวเกลี่ยอกกว้างช้าๆ แล้วเป็นฝ่ายจะขึ้นมาอยู่บนตัวของร่างหนาเสียเอง

 

“ว่าไง...พี่ชอบแบบไหน...” ถามเสียงแผ่วเบา ปากบางพรมจูบไปทั่วซอกคอของร่างหนา มือเล็กค่อยๆ ปลดเข็มขัดและตะขอกางเกงของร่างหนาออก ก่อนที่ซิปจะถูกรูดลงเหมือนกัน

 

“แบบที่รันทำอยู่ตอนนี้ ก็ดีนะ”

 

“งั้นเหรอ...” เงยหน้าขึ้นมาพูดกับร่างหนาพร้อมรอยยิ้มหวานยั่วยวน

 

“ใช่ แต่พี่ชอบที่จะทำให้รันทรมานด้วยฝีมือพี่เองมากกว่า” ว่าแล้วก็พลิกตัวเองขึ้นด้านบนอีกครั้ง ปลดเปลื้องอาภรณ์ของร่างบางออกจากเรือนกายขาวผ่องนั้นให้หมด รวมทั้งเสื้อผ้าของตัวเองด้วย ร่างบางถูกจับให้นั่งเอนหลังไปกับเบาะนั่งของรถ ขาเรียวทั้งสองอ้ากว้าง อวดอ้างส่วนที่ไม่ควรอวดอ้างต่อสายตาของร่างหนา

 

ร่างหนากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เมื่อสิ่งสวยงามอวดความงามอยู่เบื้องหน้า ร่างบางเห็นทุกอย่างโดยตลอด อยากจะหุบขาหนีเหลือเกิน หากแต่ก็ทำไม่ได้ เมื่อมือใหญ่ทั้งสองดันมันเอาไว้เสียก่อน

 

“มองอะไรนักหนาล่ะ!”

 

“มองเมียตัวเองเนี่ยแหละ”

 

“หุบปากไปเลยนะ!” ร่างบางโวยวายขึ้น

 

“ขยันโวยวายจังเลย โวยวายไปก็ไม่รอดหรอกน่า” ร่างหนาพูดกลั้วเสียงหัวเราะแล้วแทรกกายเข้าหาหว่างขาสวยงามนั้น แท่งเนื้อขนาดใหญ่ขูขันเต็มที่ส่วนปลายจดจ่ออยู่ที่ช่องทางด้านหลังแต่ก็ยังไม่ยอมกดกายใหญ่นั้นเข้าไปภายในกายอุ่นนั่นสักที

 

ร่างบางยิ้มยั่วอีกครั้ง มือเล็กแตะผิวแก้มกร้านของคนตรงหน้าแผ่วเบา

 

“เชื่อไหมล่ะว่าจริงๆแล้วรันก็หนีได้....เพียงแค่รันไม่หนี...” ปากบางที่เจื้อยแจ้วด้วยประโยคแสนน่าฟังเมื่อครู่จำต้องเงียบลงเพราะรสจูบที่ร่างหนามอบให้

 

ดวงตากลมปิดลง ตอบรับจูบแสนอ่อนโยนที่ได้รับ มือเล็กโอบรอบแผ่นหลังกว้างเหมือนกับกลัวว่าเจ้าของจูบจะหายไปอีกครั้ง หนีไปอีกครั้งทั้งที่ตนยังคงอยู่ที่เดิม

 

....จาง ฮยอนซึง หนีมามากพอแล้ว หนีทั้งความจริง หนีทั้งความรู้สึกตัวเอง ต่อไปนี้จะไม่หนีไปไหนอีกแล้ว แม้ว่าการสู้กับความจริง การเผชิญหน้ากับความจริงมันจะทำให้เจ็บปวด น่าอายและไม่เหลือซึ่งศักดิ์ศรี ก็ไม่เป็นไร...

 

กลีบปากอิ่มถอดถอนออกจากรสจูบที่ไม่เว้นช่องว่างให้หายใจเลยแม้แต่น้อย ขยับกลีบปากชิดกับปากหยักทั้งที่ดวงตากลมโตปิดสนิท ก่อนจะกดใบหน้าสวยเข้ากับสันไหล่กว้าง

 

“เข้ามาเถอะ...เข้ามาได้แล้ว...” เสียงแผ่วเบาดังออกมาจากปากอิ่มเพียงสั้นๆ มันไม่ใช่การออกคำสั่งแต่ในความรู้สึกของทั้งสองคน ณ ตอนนี้คือการร้องขอ เรียกร้องหากันและกัน

 

ร่างหนาค่อยๆ ดันแก่นกายของตนเข้าไปภายในกายอุ่นช้าๆ อุณหภูมิภายในร้อนจนแทบจะละลายเสียให้ได้ ผนังด้านในค่อยๆ ปรับตัวกับความใหญ่โตที่ได้รับ และแม้ว่าจะรู้สึกเจ็บกับสิ่งแปลกปลอมที่ผ่านเข้ามาในร่างกายหากแต่ร่างบางกลับทำเพียงนิ่วหน้าเล็กน้อยเท่านั้น เพราะรู้แน่แก่ใจว่า ความเจ็บปวดในตอนนี้จะกลับกลายเป็นความหฤหรรษ์ในอีกไม่ช้า

 

“เจ็บไหม” ร่างหนาถามเสียงแหบพร่า ทั้งที่ยังดันกายใหญ่เข้าไปไม่หมด

 

ร่างบางเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อพร้อมทั้งยิ้มให้ “เจ็บ...แต่ถ้าเจ็บเพราะพี่...รันทนได้”

 

“เด็กบ้า” พรมจูบแก้มใสไม่หยุด ก่อนจะดุนแก่นกายเข้าไปให้หมดและเริ่มเคลื่อนไหวตัวเองช้าๆ เพื่อให้ร่างบางค่อยๆชินกับสัมผัสของตน มือใหญ่ดันเบาะนั่งไว้เพื่อพยุงตัวอยู่บนเรือนกายของอีกคน

 

“อ้าขาออกอีกหน่อยรัน” เสียงสั่นพร่าที่เปล่งออกมา ทำให้ร่างบางถึงกับหน้าแดงมากกว่าที่เป็น เหงื่อค่อยๆ อาบไหลลงตามกล้ามเนื้อสวยงาม ผ่านรอยสักที่บรรจงสักอย่างสวยงาม ภาพตรงหน้าทำให้ร่างบางเขินอายจนแทบทำอะไรไม่ถูก

 

โดยไม่รอให้ร่างบางทำตามที่สั่ง ร่างหนากลับจับมันอ้าออกเอง กดแท่งเนื้อเข้าและออกเชื่องช้าแม้จะเป็นจังหวะเนิบนาบแต่ก็เรียกเสียงครวญครางจากร่างบางได้เป็นอย่างดี

 

เสียงหวานครางอือแผ่วเบาเหมือนกำลังอยู่ในความฝันที่ภาพฝันไม่มีอะไรเลย มีเพียงเงาเลือนลางของคนตรงหน้าตนเองเท่านั้น  เรือนกายสวยสั่นเทิ้มเพราะแรงกระแทกจากกายกำยำตรงหน้า แท่งเนื้อใหญ่เสียดสีผนังภายในที่อุ่นจนร้อน กลืนกินแท่งเนื้อครั้งแล้วครั้งเล่า เหมือนจะหลอมให้ละลายด้วยความร้อนในกายนั้น แต่เหมือนกับว่ายิ่งร้อนกลับทำให้ร่างบางเองที่เป็นฝ่ายจะละลายเสียเอง

 

สองแขนแกร่งโอบรอบแผ่นหลังบาง ดังเข้าหาตัวเอง กดใบหน้าหล่อลงกับสันไหล่บางทั้งที่ร่างกายทั้งสองยังคงเป็นเนื้อเดียวกัน แท่งเนื้อใหญ่ยังคงกระแทกกระทั้นกายบางไม่หยุดหย่อน และไม่มีทีท่าว่าความแข็งแกร่งนั้นจะอ่อนแรงลงง่ายๆ

 

“ดีไหมรัน....”

 

“อ่ะ...อื้อ...ดี...ดีที่สุดเลย...” ร่างบางกัดปากตัวเองแน่น แม้จะพยายามเก็บกลั้นเสียงครางไว้ แต่ก็ไม่อาจต้านทานความเสียวซ่านที่ได้รับ เปล่งเสียงจนแม้แต่ตัวเองยังรู้สึกเขินอาย เมื่อคิดว่าอาจจะมีลูกน้องได้ยินหรือมองเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นภายในรถเบนซ์คันงามของนายใหญ่คนนี้

 

ร่างหนาละใบหน้าจากสันไหล่บางแล้วเปลี่ยนมาจ้องหน้าร่างบางแทน

 

“รักพี่ไหม...ยังรักพี่อยู่รึเปล่า...” จู่ๆ ก็ถามบางสิ่งออกมา บางสิ่งที่ร่างหนารู้ดีว่าไม่มีวันจะได้คำตอบอย่างแน่นอน

 

ร่างบางดันอกกว้างไว้ และทุกอย่างก็หยุดลง

 

“ต้องให้เอ่ยเหรอ...พี่ถึงจะรู้...” เจ็บปวดที่จะเอ่ยคำนั้นออกไป กลัวที่จะพูดมันครั้งแล้วครั้งเล่า เจ็บที่จะต้องบอกว่ายังรักเขาอยู่ทุกลมหาย เจ็บที่ต้องรับรู้ว่าตัวเองไม่มีวันจะหมดรักเขาได้ แม้ว่าเขาจะเลวแค่ไหนก็ตาม  

 

“______อยากได้ยิน แต่พี่รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้...พี่ทำเลวทรามกับรันไว้มาก...ขอ...” คำขอโทษที่อยากจะเอ่ยให้ได้ยิน แต่กลับถูกมือเล็กปิดปากหยักไว้ก่อน ใบหน้าสวยส่ายไปมาช้าๆ

 

“นี่ไม่ใช่เวลามาพูดเรื่องเก่าๆ นะตาบ้า” ร่างบางตัดบทแค่นั้น แล้วเปลี่ยนอิริยาบถตัวเองเป็นหันหลังให้ร่างหนา ยันเข่ากับเบาะรถ มือทั้งสองเกาะกุมพนักพิงของเบาะรถไว้ ก่อนเอี้ยวหน้าไปหาร่างหนาที่อยู่ข้างหลัง

 

“นายท่านไม่ควรจะมีเรื่องในสนใจมากกว่านายแม่ไม่ใช่เหรอ...หื้ม?”

ร่างหนาทาบตัวเองลงกับหลังเนียน มือใหญ่ฟาดลงที่ก้นงอนแรงๆ เพราะความหมั่นเขี้ยว

 

“ใครสอนให้พูดแบบนี้”

 

“ใครสอนก็ช่างเหอะน่า...จะเข้ามาเอง หรือให้จับเข้ามา” ปากอิ่มกัดเบาๆ เพื่อยั่วร่างหนาข้างหลัง และมันก็ได้ผล เมื่อร่างหนาไม่รอให้อีกคนได้พูดจบเขาก็กระแทกแก่นกายกับก้นสวยนั้นทันที

 

“อ๊ะ! เมื่อกี๊แรงไปนะ...อ๊า...ตาบ้า!” ร่างบางร้องโวยวายเมื่อแท่งเนื้อใหญ่ผ่านเข้ามาในกายร้อนของตนโดยไม่ทันได้ตั้งตัว และมันก็กระหน่ำทิ่มแทงก้นงอนของตนไม่ยั้ง

 

“จุนบ้า! นี่....เบาๆ หน่อยสิ อ่ะ...อื้อ...อื้อ...อื้ม...อ๊า.....” เสียงหวานทั้งต่อว่า ทั้งครวญครางและคว้าเอามือของร่างหนามากุมแก่นกายของตน

 

“ช่วยรันด้วย...ทำให้ด้วย...” เอี้ยวหน้าไปสั่งร่างหนา และทันทีที่พูดจบ ปากอิ่มก็ถูกจูบและดูดดึงกลีบปากอย่างโหยหา มือใหญ่เคลื่อนไหวสัมผัสกับแก่นกายของร่างบางด้วยจังหวะรัวเร็ว เมือกลื่นที่หลั่งออกมายิ่งทำให้จังหวะเร็วขึ้น ด้านหน้าและด้านหลังที่ถูกกระหน่ำทำร้ายไม่หยุด ร่างบางแทบคลั่งจนแทบบ้า สัมผัสเสียวซ่านที่ต่างฝ่าย ต่างต่อและเติมให้กันและกัน ไฟรักลุกโชนทำให้รอบข้างร้อนรุ่มไปหมด แม้อุณหภูมิในรถจะเย็นเฉียบแค่ไหน กลับไม่สามารถทำให้เหงื่อที่ไหลโทรมกายของทั้งสองเหือดแห้งไปกับกายได้

 

“จุน...อ่ะ...อ้า...จุน...จุน...” เสียงครวญครางมีเพียงชื่อของร่างหนาที่กระแทกก้นของตนอยู่เท่านั้น ก้นสวยกระแทกรับกับแท่งเนื้อใหญ่ไม่มีทีท่าจะหยุดง่ายๆ ยอดอกสวยถูกนิ้วหยาบก้านบดเบีบดขยี้จนสีเข้มขึ้น ความเจ็บปวดมากมายหากแต่ปนมากับความเสียวซ่านที่ทำให้ร่างบางแทบไม่อยากให้ร่างหนาหยุดสิ่งที่กำลังกระทำลง

 

“ร้อนไปหมดแล้วรัน”

 

“เหมือนกันจุน...ร้อนจนแทบจะระเบิดแล้ว...อ่ะ..อ๊า...” นิ้วเรียวจกลงที่เบาะแน่น กัดปากล่างแน่นจนขึ้นเป็นรอยฟัน ขาเรียวสั่นเทิ้มและหมดแรงจนแทบจะยันเบาะรถไว้ไม่อยู่เสียแล้ว จนร่างหนาต้องหิ้วเอบวบางนั้นช่วย

 

“ข้างหน้าน่ะ อีกนิดมันก็ระเบิดแล้วล่ะ...แต่อยากให้รอพี่ก่อน...”

 

ไม่มีคำพูดจากปากอิ่ม มีเพียงเสียงครางเบาๆ เป็นชื่อของจุนฮยองเท่านั้น ยิ่งได้ฟัง ยิ่งได้ยิน ร่างหนาก็ยิ่งอยากจะทำให้ร่างบางนี้มอดไหม้ไปด้วยไฟรัก ไฟราคะ ไฟแห่งตัณหาของตน

 

ร่างหนาดันเบาะลง แล้วประคองร่างบางให้นอนราบลงกับเบาะที่หุ้มด้วยหนังชั้นดี แล้วทาบทับรเรือนกายสวยอีกครั้ง

 

“พี่ชอบที่จะเห็นหน้ารันตอนถูกพี่รักมากว่า”

 

ร่างบางมองหน้าร่างหนานิ่ง หน้างอเล็กน้อย หากแต่แดงก่ำอย่างน่ารัก เสมองไปทางอื่นเพราะไม่กล้ามองหน้าคนด้านบน แต่แล้วก็ตัดสินใจยกแขนขึ้นโอบรอบคอของร่างหนา ดึงเข้าหาตัวเองจนใบหน้าแทบชิดติดกัน

 

“งั้น...รันก็จะยอมให้พี่รักจนกว่าพี่จะพอใจ....”

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา