Fic B2ST Big Mama [JunSeung ft.Lee Joon] [Rate 20]
เขียนโดย เช้าตรู่
วันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2557 เวลา 10.44 น.
แก้ไขเมื่อ 8 มกราคม พ.ศ. 2557 11.03 น. โดย เจ้าของนิยาย
19) Big Mama Chapter 18
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
Chapter 18
เสียงดาบซามูไรกระทบกันดังไม่หยุดหย่อนที่บริเวณลานกว้างของคฤหาสน์หลังใหญ่ที่กินเนื้อที่กว้า 25 ไร่ ที่อยู่นอกเมืองออกไป
“เดวิลครับ มีคนมาหาครับ” ลูกน้องเดินเข้าไปยังลานประลอง แล้วเขย่งขึ้นกระซิบกับเจ้านายชั่วคราวของตนที่ทำหน้าที่ดูแลทั้งคฤหาสน์หลังนี้และดูแลสาขาที่ญี่ปุ่นควบคู่ไปด้วย เจ้าของเชื่อหยุดประดาบยาวเงาวับนั้น ส่งดาบแสนรักที่ตีขึ้นอย่างดีด้วยช่างตีเหล็กที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น หยิบเอากิโมโนผู้ชายขึ้นมาสวมคลุมร่างกายตัวเองเพียงลวกๆ ก่อนจะถามว่าผู้มาเยือนถึงคฤหาสน์หลังนี้นั้นคือใคร
“ใคร”
“ฉันเอง” เสียงก้องใสดังขึ้นก่อนที่ลูกน้องจะได้ตอบว่าเป็นใคร ร่างกำยำหันไปตามเสียงที่คุ้นเคยเป็นอย่างดี ยิ้มและส่ายหน้าเล็กน้อยให้กับคนตรงหน้า จำได้ว่าบอกหลายครั้งแล้วว่าไม่อยากให้มาที่นี่ มันอันตราย เหมือนเดินเข้ามาดงเสือ บ่อจระเข้ ถึงดอลล์จะมีฝีมือมากแค่ไหน แต่ก็เทียบไม่ได้กับไอ้พวกนี้ที่ฝึกฝนมาเป็นอย่างดี แล้วนี่เดินเข้ามาง่ายๆ แบบนี้ได้ยังไงโดยที่ไอ้พวกนี้ไม่ทำอะไรเลย
“บอกแล้วไงว่าอย่ามาที่นี่ เดี๋ยวว่างแล้วฉันจะแอบไปหาที่บ้านเอง”
“ก็คนมันคิดถึงนี่ เดวิลไม่แวะไปเลยจะเป็นเดือนแล้วนะ ก็ยังคิดๆ อยู่ว่าถ้าวันนี้เดวิลไม่แวะไปหาก็จะมีคนใหม่แล้ว ขี้เกียจรอ” คนตัวเล็กหน้าง้ำงอ กดอกแล้วหันหลังทำท่าทางบางบอกว่าตัวเองงอนคนตัวโตมากแค่ไหน
ดูจุนปัดมือไล่ลูกน้องออกไปให้หมด เพื่อหวังจะอยู่กับตัวเล็กตามลำพังเพียงสองคน พอลูกน้องออกไปจากลานกว้างหมดแล้ว ดูจุนก็เดินเข้าไปใกล้ๆ ร่างเล็กที่ยังคงกอดอกหน้าบูดบึ้งอยู่เช่นเดิม
“อย่างอนสิครับ งานมันยุ่งจริงๆ”
“ก็ไม่ได้ทำคนเดียวสักหน่อยสิ”
“ก็จริงครับที่ไม่ได้ทำงานคนเดียว แต่ต้องเป็นคนจัดการระบบใหม่คนเดียวหมดเลย มันก็ยิ่งยุ่ง แล้วตอนนี้อีจุนก็ไม่อยู่ช่วยงานด้วย หมอนั่นเดินทางไปดูความเรียบร้อยที่จีนตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วแล้ว อีกหลายวันกว่าจะกลับ”
“ถ้างานยังไม่เสร็จ ซึ่งก็คงไม่มีวันเสร็จ! เราก็คงไม่ได้เจอกันเลยใช่ไหม!?” แล้วคนตัวเล็กก็ยอมหันกลับมาหาดูจุนจนได้ เจ้าตัวยิ้มเล็กน้อยแล้วกอดคนตัวเล็กไว้จากด้านหลัง
“ก็ถ้ามีเวลาว่างเยอะๆ แล้วจะได้รู้เหรอว่าดอลล์คิดถึงผมมากแค่ไหน”
“ไม่ต้องมาปากหวานเลย!”
“งั้นอยากให้ผมทำอะไรเป็นการไถ่โทษที่กล้าทิ้งแฟนไว้คนเดียวไว้ตั้งนานแบบนี้ดีครับ”
“ทำได้ทุกอย่างจริงนะ” บทจะยิ้มก็ยิ้มออกมาเสียง่ายๆ เกาะแขนดูจุนแน่นแม้ว่าแขนแกร่งนั้นจะเต็มไปด้วยเหงื่อก็ตามที
“จริงสิ ขอแค่แฟนของผมต้องการ ผมทำให้ได้ทุกอย่างอยู่แล้ว” ดูจุนยืนยันคำพูดของตัวเองให้คนรักตัวเล็กได้มั่นใจว่าตัวเองจะทำอย่างที่พูดแน่นอน
“งั้น...” ร่างเล็กหยุดไว้แค่นั้น ก่อนะหยิบบางสิ่งออกจากกระเป๋าเสื้อด้านหน้าแล้วส่งให้ดูจุน
“หมอนี่ใคร?” หลังจากดูรูปที่ได้รับมาแล้ว ดูจุนก็ถามขึ้นด้วยความสงสัย
“หมอนี่เป็นหนอน...หนอนของแอนดรูน่ะ สงสัยว่าแอนดรูจะให้มันเยอะกว่าที่พี่รองให้ มันก็เลยแปรพรรคไปอยู่กับแอนดรูน่ะ ฉันเตือนพี่รองแล้วแต่พี่รองไม่เชื่อว่าหมอนี่ทรยศ เพราะมันทำงานให้พี่รองมานาน”
“แล้วยังไงครับ”
“ฉันอยากให้เดวิลเก็บมันให้ฉันหน่อย ถ้าฉันทำเอง...พี่รองจะยิ่งโกรธฉันมากขึ้น แค่เรื่องของเดวิล...พี่รองก็แทบจะไม่มองหน้าฉันอยู่แล้ว”
“แล้วดอลล์รู้ได้ยังไงว่ามันทรยศ”
“ฉันเคยพลาดรึไงเรื่องแบบนี้น่ะ! ถามแบบนี้แสดงว่าจะไม่ทำอย่างนั้นใช่ไหม! ก็ไหนเดวิลบอกว่าทำให้ฉันได้ทุกอย่างไง!”
“ไอ้ทำให้มันก็ทำให้ได้ครับ แต่เรื่องฆ่าคน ยังไงก็ต้องมีหลักฐานแล้วก็มีมูลความจริงประกอบกันด้วย ไม่งั้นฆ่าไปเสียลูกน้องไปเปล่าๆสิครับ”
“พูดเหมือนไม่เชื่อฉันอีกแล้วนะ!”
“ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อครับดอลล์” ดูจุนยังพยายามพูดให้คนรักเข้าใจว่าการฆ่าคนนั้นถึงมันจะเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ก็ไม่มีใครสมควรตายเพียงเพราะความหวาดระแวงหรือว่าเข้าใจผิด
“ก็เนี่ยแหละที่เค้าเรียกว่าไม่เชื่อ! ก็ได้! ถ้าเดวิลอยากได้หลักฐาน คืนนี้ฉันจะไปหาหลักฐานมาให้!” ว่าแล้วคนตัวเล็กก็ออกไปจากลานกว้างในทันที ดูจุนเลือกที่จะไม่ตามไป แต่บอกให้ลูกน้องสะกดรอยตามโยซอบไปว่าจะไปหาหลักฐานได้จากที่ไหน แล้วรีบรายงานทันที
จริงๆ ก็อยากตามไปเอง แต่ต่อจากนี้ต้องรีบเคลียร์กับตำรวจเรื่องที่มีลูกน้องไปก่อเรื่องเอาไว้ แล้วทางฝ่ายเจ้าทุกข์เขาไม่ยอม เรียกร้องค่าเสียหายจำนวนมหาศาล หากไม่ยอมจ่ายก็จะฟ้องร้องให้ถึงที่สุด
มันจะอะไรนักหนาก็แค่ไปข่มขืนลูกสาวเจ้าของร้านราเมงแค่นั้นเอง ฟังจากที่ตำรวจบอกมาแล้ว ลูกน้องไม่ได้ข่มขืนด้วยซ้ำ มันเป็นการสมยอม แต่ทำไมไปๆ มาๆ รูปคดีถึงเปลี่ยนมาเป็นข่มขืนได้ อันนี้ดูจุนก็คิดไม่ถึง
ไอ้พวกนี้ก็ขยันหาเรื่องมาให้ไม่เว้นแต่ละวัน !!
ตกเย็นในขณะที่ดูจุนกำลังแต่งตัวเตรียมจะออกไปข้างนอก ลูกน้องก็เข้ามารายงานว่าวันนี้ดอลล์จะไปหาหลักฐานได้จากที่ไหน
“ได้เรื่องแล้วครับเดวิล”
“ไหนว่ามาสิว่าวันนี้เหยื่อกูจะไปที่ไหน”
“ดอลล์จะไปที่ผับเถื่อนนอกเมืองเพื่อตามไปเล่นงานคนที่ดอลล์บอกว่าทรยศครับ”
“ไปคนเดียว?” ดูจุนเลิกคิ้วถามในขณะที่กำลังติดกระดุมที่แขนเสื้อ
“ครับ”
“เขียนแผนที่มาให้กูด้วย”
“เดวิลจะออกไปคนเดียวเหรอครับ ผมว่าให้คนตามไปด้วยสักสองสามคนดีไหมครับ ที่นั่นเป็นถิ่นของตระกูลยงนะครับ มันจะไม่ปลอดภัย”
“ไม่มีใครกล้าทำอะไรกูทั้งนั้นแหละ มึงลืมไปแล้วรึไงว่ากูมีดอลล์คุ้มกะลาหัวอยู่”
“แต่นั่นน่ะเหยื่อนะครับเดวิล”
“เอาน่า...เล่นสนุกกับเหยื่อแบบนี้น่ะของชอบกูเลย เอาเป็นว่าส่งแผนที่ให้กูทางข้อความละกัน กูจะออกไปทำธุระก่อนแล้วจะเลยไปผับเถื่อนนั่นเลย”
“ครับ” ลูกน้องรับคำสั้นๆ แล้วรีบออกจากห้องส่วนตัวของเจ้านายชั่วคราวของตน
“ทำไมชอบหนีออกไปนอกกรงให้ต้องตามตัวอยู่เรื่อยเลยนะ...แม่นกขมิ้นของผม...” ดูจุนยกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะสนใจกับการแต่งตัวต่อ คืนนี้ต้องเรียบร้อยหน่อย เพราะมีนัดทำธุรกิจสำคัญกับลูกสาวรัฐมนตรี จะทำตัวกเฬวรากเหมือนปกติไม่ได้
หลังจากคุยเรื่องธุรกิจกับลูกสาวรัฐมนตรีอยู่เป็นนานสองนาน กว่าจะคุยเสร็จก็กินเวลาไปเกือบค่อนคืน จริงๆ แล้วดูจุนอยากจะจบเรื่องธุรกิจวันนี้ให้เร็วที่สุด แต่หญิงสาวก็เอาแต่ชวนคุยไปเรื่องอื่น ไม่ยอมเข้าประเด็นหลักเสียที
“คุณดูจุนจะกลับเลยเหรอคะ” เธอเอื้อมมือไปจับมือใหญ่เอาไว้ เมื่อเห็นว่าดูจุนลุกจากเก้าอี้ทันทีที่คุยเรื่องธุรกิจกันจบแล้ว ดูจุนก้มลงมองมือตัวเองเล็กน้อย ก่อนจะโน้มลงไปใกล้ๆ เธอ มือใหญ่กุมมือข้างที่เธอกุมมือเขาเอาไว้ ลูบที่หลังมือนุ่มนั่นแผ่วเบา
“วันนี้แค่นี้ก่อนครับ แต่ถ้าคุณอายูมิอยากจะคุยกับผมเป็นการส่วนตัวกับผมที่หลังล่ะก็.....” ดูจุนหยุดแค่นั้นแล้วหยิบเอานามบัตรของตัวเองออกมา ก่อนะเสียบลงไปที่ร่องอกอิ่มของเธอ
“โทรหาผมพรุ่งนี้นะครับ” พูดจบก็แกะมือเธอออกจากมือตัวเอง แล้วก้าวออกจากห้องอาหารสุดหรูทันที พร้อมๆ กับที่หยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูแผนที่บอกทางไปผับเถื่อนที่ลูกน้องส่งมาให้ เพื่อจะได้รีบตามไปจัดการแม่นกขมิ้นของตัวเอง
กำลังจะเก็บโทรศัพท์เข้าที่เดิม แต่แล้วเสียงข้อความก็ดังขึ้นอีกครั้ง ดูจุนรีบเปิดดูทันทีว่ามันคืออะไร และสิ่งที่เห็นในคลิปวีดีโอสั้นๆ ที่ลูกน้องส่งมาให้นั่นคือภาพที่โยซอบกำลังนัวเนียกับใครสักคน ทั้งที่คิดว่าตัวเองไม่ได้รู้สึกอะไรกับคนตัวเล็กนี่มากไปกว่าเหยื่อแสนงามเท่านั้น แต่พอเห็นแบบนี้แล้วมันก็อดไม่ได้ที่จะโมโห...
“หนอย...บอกกูว่าจะไปหาหลักฐาน นี่เหรอหลักฐาน เหอะ! ไม่ได้เจอกันนานก็ว่าจะใจดีด้วยหน่อยแล้วนะ แบบนี้คงต้องเล่นบทโหดด้วยซักหน่อยแล้วมั้ง!?”
“กูบอกพวกมึงแล้วใช่ไหมว่าอย่าเสนอหน้ามา งานนี้กูจัดการเอง” เมื่อมาถึงหน้าผับแล้วดูจุนก็โวยลูกน้องที่มารออยู่ก่อนแล้วทันที
“มาหลายคนก็ยังดีกว่ามาคนเดียวนะครับเดวิล เอางี้ถ้าเดวิลไม่เรียกให้เข้าไปช่วย ผมสองคนจะไม่เข้าไปยุ่ง จะกินเหล้าเงียบๆ โอเคไหมครับ” เด็กในแก๊งค์ยังคงยืนยันชัดว่าจะอยู่ด้วย เพราะเกรงว่าลูกพี่ตัวเองจะได้รับอันตราย ตอนนี้แก๊งค์ไม่มีคนดูแล ถ้าหากว่าเดวิลเกิดเจ็บหนัก งานที่นายแม่ทำไว้ก็จะไม่มีคนสานต่อ
ดูจุนไม่ได้พูดอะไรต่อจากนั้น เพราะรู้แน่แก่ใจว่ายังไงไอ้สองสามตัวนี่มันก็ไม่ยอมกลับไปแน่ๆ ถ้าหากว่าไม่เห็นว่าเขายังคงปลอดภัยดีหรือว่าบาดเจ็บแค่เล็กน้อย
“ตามนั้นก็ได้ พวกมึงนี่มันดื้อจริงๆ กูอยากจะรู้นักว่าพวกมึงได้นิสัยดื้อแบบนี้มาจากที่ไหน!”
“นายแม่ครับ!” สามคนนั้นตอบเป็นเสียงเดียวกัน
ดูจุนหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น เมื่อได้ยินคำตอบของลูกน้อง ถือว่าเป็นคำตอบที่ถูกต้องรอยเปอร์เซ้นต์เลยก็ได้
“เข้าใจตอบนะพวกมึง”
ลูกน้องหัวเราะออกมาบ้าง แล้วยื่นดาบยาวกว่าหนึ่งเมตรให้กับดูจุน
“แทนที่จะส่งปืนให้กู นี่มันจะไปทันลูกปืนได้ยังไง!”
“เผื่อว่าเดวิลอย่างเปลี่ยนบรรยากาศการฆ่าคนบ้างนี่ครับ”
ฟังลูกน้องพูดจบแล้วดูจุนก็เดินเข้าไปภายในผับเถื่อนนั้นทันที พอเข้ามาถึงภายแล้วก็รีบมองหน้าคนตัวเล็กของตัวเองทันทีว่าตอนนี้ไปอยู่ที่ไหนแล้ว สายตาสอดส่องไปทั่วทุกมุมของผับที่เปิดไฟไว้เพียงไม่กี่ดวงเท่านั้น อยากต่อการมองเห็นและมองได้ชัดว่าใครเป็นใคร
ดวงตาคมยังคงทำหน้าที่ของมันอย่างต่อเนื่อง พร้อมๆ กับที่ร่างสูงสมส่วนเดินแทรกผ่านผู้คนที่เบียดกันแน่นภายในผับ เพราะที่นี่เป็นผับเถื่อนคนถึงได้เยอะกว่าปกติ จะเปิดถึงเช้าก็ไม่มีเจ้าหน้าที่บ้านเมืองหน้าไหนเข้ามายุ่ง เหล้า บุหรี่ ยาเสพย์ การพนันหรือแม้กระทั่งเนื้อสดหวานๆ ก็มีไว้คอยบริการ
และแล้วสายตาก็ไปตกกระทบสิ่งมีชีวิตที่ดูจุนคุ้นเคยเป็นอย่างดี มันเป็นเรื่องดีที่เจอโยซอบเสียที แต่ว่ามันจะดีกว่านี้ถ้าหากว่าร่างเล็กๆนั้นกำลังวุ่นวายอะไรสักอย่างอยู่บนตักของคนที่ดูจุนไม่รู้จัก เจ้าตัวพยายามทำให้หัวตัวเองเย็นลงให้เร็วที่สุดแล้วเดินเข้าไปใกล้ร่างสองร่างที่กำลังนัวเนียกันอยู่ ดูจุนหยุดยืนข้างๆ และพยายามเงี่ยหูฟังว่าสองคนนี้คุยอะไรกัน
“ฉันรู้นะว่านาย...ทรยศพี่รอง” นิ้วเรียวเกลี่ยไปตามโครงหน้าคมสันเบาๆ แล้วเปลี่ยนมาบีบคางของอีกคนแน่น
“แล้วยังไงครับ?” ชายหนุ่มตอบกลับด้วยภาษาถิ่นพร้อมทั้งหัวเราะออกมาเบาๆ ยอมให้ร่างเล็กบีบคางของตนอยู่เช่นนั้น
“ก็ไม่ยังไง...ฉันก็แค่อยากจะแน่ใจว่านายทำจริงๆ ก็แค่นั้น เพราะยังไงฉันก็ไม่ขัดขวางนายอยู่ดี”
“น่าแปลกจังนะครับที่คุณหนูเล็กเห็นดีเห็นงามไปกับการกระทำของผม”
“ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน พี่รองไม่เห็นฉันเป็นน้อง ฉันก็ไม่เห็นจะต้องเห็นพี่รองเป็นพี่นี่...อีกอย่าง..พี่รองก็เป็นก้างชิ้นใหญ่ที่คอยมาขวางคอฉัน! ไม่ยอมให้ฉันคบกับเดวิลด้วย ฉันเลยคิดจะขวางนายหรอก นายอยากทำอะไรก็ตามสบาย...หรือว่า...อยากมาอยู่กับฉันไหมล่ะ ฉันให้สองเท่าจากที่แอนดรูว์ให้เลย” ร่างเล็กร่ายยาวไปเรื่อย ดวงตาเรียวสวยจับจ้องมองทุกสีหน้าและอารมณ์ของเหยื่อไปด้วย พร้อมๆ กับที่ปรายสายตาไปหาดูจุน รู้อยู่แล้วว่าดูจุนมา แต่ก็ทำเป็นไม่สนใจและทำเหมือนว่ามองไม่เห็น
“สองเท่าที่ว่าน่ะ...จำนวนมหาศาลเลยนะครับ คุณหนูเล็กจ่ายไหวเหรอ” หลังจากนั่งเป็นรูปปั้นอยู่นาน ชายหนุ่มก็เริ่มสัมผัสร่างเล็กๆนั่น และมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ร่างเล็กก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด ปล่อยให้เหยื่อลูบไล้ส่วนเว้าส่วนโค้งของตัวเองตามแต่ชอบใจ
สองแขนเรียวเปลี่ยนมาวางที่สันไหล่กว้าง ก่อนจะโน้มเข้าไปใกล้ใบหน้าหล่อนั่นมากขึ้น
“เท่าไหร่ฉันก็ยอมจ่าย”
“จริงนะครับ”
“จริงสิ ฉันรู้ว่านายน่ะมีฝีมือขนาดไหน ถ้าได้นายมาอยู่ด้วย ฉันก็ไม่จำเป็นต้องสนใจพี่รองอีก”
“ถ้าจ่ายด้วยร่างกายของคุณหนูเล็กล่ะครับ จะยอมจ่ายให้ผมรึเปล่า...” มือใหญ่สอดเข้าไปในเสื้อตัวบางแนบเนื้อที่ร่างเล็กสวมใส่แค่ปกปิดผิวสวยๆ เอาไว้เท่านั้น ลูบไล้แผ่นหลังเนียนขึ้นลงก่อนจะรวบเอวบางเข้ามาใกล้มากขึ้นอีก
“____ขอค่าตอบแทนเยอะเกินไปรึเปล่าน่ะ”
“ถ้าจ่ายด้วยเงิน คุณหนูเล็กจะมั่นใจได้ไงครับว่าผมจะไม่หักหลังคุณหนูเล็กเหมือนที่ผมหักหลังนาย”
“ก็แล้วถ้าจ่ายด้วยร่างกายของดอลล์ แล้วมั่นใจได้ยังไงว่ามึงจะไม่หักหลังดอลล์เหมือนที่มึงหักหลังรุ่นแปด!” แล้วคนที่ยืนกระดกเหล้าอยู่ข้างๆ เป็นนานสองนานก็หมดความอดทน กระชากเอาร่างเล็กที่ตนเป็นเจ้าของออกจากไอ้คนทรยศแล้วผลักชายหนุ่มออกห่างจากตนเองด้วยสองมือที่มือหนึ่งถือดาบซามูไรเอาไว้ด้วย ชายหนุ่มเซไปด้านหลังจนแทบจะล้ม
“หึ! เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับมึง ไอ้ขี้ข้า!” ชายหนุ่มกระชับสูทให้เข้าที่เข้าทาง เชิดหน้าพูดกับดูจุนอย่างไม่เกรงกลัว
“แล้วมึงกับกูต่างกันตรงไหน!”
“ต่างหรือไม่ต่างมันก็ไม่ใช่เรื่องที่มึงจะเข้ามายุ่ง คุณหนูเล็กเสนอให้กูเองทั้งนั้น!”
ดูจุนพยักหน้าขึ้นสองสองสามครั้ง ยกยิ้มให้ชายหนุ่มตรงหน้าด้วยอารมณ์ที่กำลังยั้วสุดๆ
“ดอลล์เสนอให้มึงเองทั้งนั้นเหรอ ก็ได้...ก็ได้....” ดูจุนลากเสียงพูดเพียงเท่านั้นก็หันหลังให้ชายหนุ่มคนเดิมก่อนจะหันกลับมาด้วยความรวดเร็วแล้วศีรษะของชายหนุ่มก็หลุดออกจากบ่าด้วยความรวดเร็วเหมือนกัน เสียงกรี๊ดดังไปทั่วทั้งผับเถื่อนกับภาพชวนสยดสยองที่เพิ่งเกิดขึ้น
“เดวิล!!” ร่างเล็กอุทานชื่อร่างสูงออกมาเสียงดังลั่น
“ทำบ้าอะไร!” ร่างเล็กร้องถาม ยังคงสั่นไปทั้งร่าง ไม่ใช่ไม่คุ้นชินกับการฆ่า แต่เมื่อครู่มันรวดเร็วและสะเทือนขวัญเกินไป
“ก็ฆ่ามันอย่างที่ดอลล์อยากให้ฆ่าไง” ร่างสูงไหวไหล่ให้คนตรงหน้าเล็กน้อย หยิบเอาผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าเสื้อด้านในออกมาเช็ดเลือดที่ติดอยู่ที่ดาบซามูไรที่ยาวกว่าหนึ่งเมตรของตนด้วยท่าทางสบายๆ และเพียงไม่นานลูกน้องก็วิ่งเข้ามาเพราะได้ยินเสียงกรี๊ดลั่นไปทั้งผับ นึกว่าเกิดเรื่องไม่ดีกับลูกพี่ของตน
“เดวิล! เกิดอะไรขึ้นครับ!”
“กูตัดหัวคน” ร่างสูงตอบสั้นๆ ในขณะที่กำลังเช็ดเลือดอยู่
“ผมก็นึกว่ามันทำอะไรเดวิลซะอีก” ลูกน้องถอนหายใจออกมาอย่างโล่งในอก ท่าทางไม่รู้ร้อนรู้หนาวของดูจุนและท่าทางโล่งใจของลูกน้องดูจุน มันทำให้ความโมโหก่อตัวขึ้นที่ร่างเล็กทีละน้อย
“อย่ามาทำเหมือนไม่รู้สึกอะไรนะเดวิล!” ร่างเล็กหันไปเอาเรื่องพร้อมทั้งฟาดมือลงที่ร่างกายของดูจุนหลายครั้ง แต่ดูจุนก็ไม่ได้สะทกสะท้านอะไร ยังคงนิ่งเช่นเดิม
“ก็ดอลล์บอกให้ผมฆ่ามันไม่ใช่รึไง” หันไปถามเสียงเรียบ
“ก็ใช่! ฉันบอกให้เดวิลฆ่ามัน แต่ไม่ใช่แบบนี้!”
“แล้วจะให้ฆ่าแบบไหน”
“แบบไหนก็ได้ ที่ไม่ใช่แบบนี้ ยิงทิ้งก็ได้ หรืออะไรก็ได้!”
“ผมไม่มีปืน! ไอ้สองตัวนั่นมันไม่ให้ผมพกปืน มันให้แค่ไอ้นี่มา!” ว่าแล้วดูจุนก็ยื่นดาบที่เช็ดเลือดเสร็จพอดีให้ร่างเล็กดู “ผมก็ต้องฆ่ามันด้วยไอ้นี่!”
“ก็ได้เดวิลบอกว่าจะฆ่าคนต้องมีหลักฐานไงล่ะ!”
“ไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานอะไรทั้งนั้นแหละ ในเมื่อมันแตะต้องตัวคนของผม มันก็ต้องตายแบบนี้แหละ!...มึงสองตัวเอาศพไอ้เหี้ยนี่ไปเผาทิ้งได้แล้ว!” ดูจุนสบถขึ้นมาเสียง สั่งลูกน้องแล้วก็เดินออกจากผับไปด้วยท่าทางหัวเสียสุดๆ
ร่างเล็กตั้งสติได้ก็หลังจากที่ลูกน้องของร่างสูงเก็บเอาศพของคนในแก็งค์ตัวเองไปแล้ว และเด็กในผับก็มาทำความสะอาดบริเวณนั้นแล้วเรียบร้อย ถึงได้วิ่งตามร่างสูงออกไป และถือเป็นเรื่องดีที่ยังคงเห็นร่างสูงยืนสูบบุหรี่อยู่ที่อีกฟากของผับ มือยังคงถือดาบไว้เช่นเดิม
สูดหายใจเข้าไปจนเต็มปอด ผ่อนมันออกมาแผ่วเบาจนหมดแล้วถึงได้เดินเข้าไปหาร่างสูงช้าๆ
ดูจุนทิ้งบุหรี่ลงพื้นแล้วขยี้มันให้ดับด้วยเท้า ไม่คิดจะสนใจคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าสักนิด
“นี่....” เรียกขึ้นด้วยคำสั้นๆ รู้ว่าร่างสูงกำลังโมโหและพยายามทำให้หัวตัวเองเย็นลงด้วยการสูบบุหรี่
“.......................” เงียบและเริ่มจุดบุหรี่ขึ้นอีกมวน แต่ก็ถูกร่างเล็กแย่งไปเสียก่อนที่จะได้อัดควันหอมกรุ่นนั้นเข้าปอด
“มีอะไร!”
“ไม่มีอะไร นึกว่ากลับบ้านไปแล้วซะอีก”
“กลับได้ไง”
“หื้ม?”
“ก็รอกลับพร้อมกัน” ตอบกลับสั้นๆ สีหน้ายังคงบ่งบอกว่าอารมณ์ไม่ดี
ร่างเล็กยิ้มออกมาเล็กน้อยแล้วเข้าไปกอดเอวหนาไว้หลวม เงยหน้าขึ้นจูบที่ปลายคางของร่างสูงเบาๆ
“เดวิลโกรธเหรอ” ถามออกไปตรงๆ รู้อยู่แล้วว่าเขาโกรธ มันหลายเรื่องจนไม่รู้ว่าวันนี้เดวิลจะโกรธตนเรื่องไหนบ้าง
“หน้าอย่างนี้คงไม่โกรธหรอกมั้ง!” ว่าแล้วก็ชี้มาที่หน้าตัวเอง ก้มลงให้ร่างเล็กเห็นชัดๆ
“ฉันรู้อยู่แล้วว่าเดวิลน่ะโกรธแน่ๆ แต่ไม่รู้ว่าโกรธเรื่องไหนนี่ ก็วันนี้ฉันทำให้เดวิลโกรธทั้งวันเลย”
“เรื่องอื่นน่ะลืมไปหมดแล้ว เหลืออยู่เรื่องเดียว...ต้องให้บอกไหมว่าเรื่องไหน?” ร่างสูงเลิกคิ้วถาม
“ไม่ต้องหรอกน่า แต่เดวิลจะโกรธฉันเรื่องนั้นก็ไม่ได้หรอกนะ เพราะเดวิลบอกเองว่าจะฆ่าคนต้องมีหลักฐาน ฉันก็แค่หาหลักฐานมาให้เดวิล นี่ตกลงว่าฉันผิดงั้นเหรอ...” ร่างเล็กพยายามส่งสายตาออดอ้อนไปให้คนที่ยังคงจับจ้องมองดวงหน้าตนเองอยู่ ร่างสูงถอนหายใจออกมาหนักๆ แล้วกอดร่างเล็กไว้ด้วยแขนทั้งสอง กดใบหน้าลงที่ซอกคอของร่างเล็กแน่น
“จะไม่ให้โกรธได้ไง ทำแบบนี้มันอันตรายไม่รู้รึไง!”
“รู้...”
“รู้แล้วทำไมยังทำ!”
“ก็...”
“ช่างมันเหอะ” ร่างสูงตัดบทแค่นั้น แต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยร่างเล็กให้พ้นจากพันธนาการ “คราวหลังอย่าทำอีกก็แล้วกัน ไม่รู้รึไงว่าเป็นห่วง”
ร่างเล็กยิ้มกว้างกับตัวเอง แล้วดันตัวเองออกจากพันธนาการเสียเอง
“ไม่โกรธแล้วใช่ไหม...”
“โกรธ!”
“อ้าว! ก็ไหนเดวิลบอกว่าช่างมันเหอะไงล่ะ ก็แสดงว่าไม่โกรธแล้วนี่!”
“ช่างมันไม่ได้หมายความว่าหายโกรธ!”
“แล้วทำไงจะหาย” ร่างเล็กหน้าคว่ำเล็กน้อย ถอยออกห่างเท้าเอวถามเสียงแข็ง แต่เสียงแข็งได้ไม่เท่าไหร่ ก็ต้องหาทางเอาตัวรอดเมื่อเห็นสายตาไม่น่าไว้วางใจของคนตรงหน้า ถอยหลังแล้วเตรียมออกห่างจากร่างสูงให้มากที่สุด แต่ก็พลาดเมื่อร่างสูงคว้าตัวเอาไว้ให้ก่อน แล้วดันไปจนติดกับต้นไม้ใหญ่ใกล้ๆ ที่ตรงนั้น
“มีใครบอกไหมว่า เมื่อเจอเสือ...สิ่งสุดท้ายที่ควรทำคือวิ่งหนี...”
ร่างเล็กส่ายหน้าพัลวัน มาถามอะไรแบบนี้ล่ะ ไม่ใช่พวกนั่งดูสารคดีทั้งวันนี่จะได้รู้เรื่องอะไรพวกนี้ด้วย อีกอย่างตนไม่ใช่เสือจะไปรู้ใจเสือได้ยังไง
“_____เพราะถ้าวิ่ง มันจะยิ่งกระตุ้นให้เสือตะครุบเหยื่อเร็วขึ้น” เสียงดังอยู่ใกล้ๆ หูของร่างเล็กเท่านั้น ลมหายใจเป่ารดที่บริเวณซอกคอทำให้ร่างทั้งร่างสั่นสะท้าน แม้จะไม่เข้าใจสัญชาตญาณของเสือ แต่ร่างเล็กรู้จักสัญชาตญาณของเดวิลดี
เพราะเดวิล....
ไร้ความปราณีเหมือนกับชื่อนั่นล่ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ