Fic B2ST Big Mama [JunSeung ft.Lee Joon] [Rate 20]

10.0

เขียนโดย เช้าตรู่

วันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2557 เวลา 10.44 น.

  20 chapter
  5 วิจารณ์
  40.13K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 มกราคม พ.ศ. 2557 11.03 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

17) Big Mama Chapter 16

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

Chapter 16

 

“รุ่นเก้าครับ จะต้องกลับดีทรอยซ์จริงๆ น่ะเหรอครับ รุ่นเก้าก็ทราบดีว่าตอนนี้แอนดรูว์มันกลับมาแล้ว ถ้ารุ่นเก้าไม่อยู่ที่นี่ เรื่องจะยิ่งแย่นะครับ” ดูจุนพูดขึ้นหลังจากที่เจ้านายอีกคนบอกว่าจำเป็นจะต้องกลับดีทรอยซ์ให้เร็วที่สุด เพราะสาขาที่นั่นเกิดปัญหาขึ้น

 

“ที่นี่มีรุ่นแปดและนายดูอยู่แล้ว ที่สำคัญก็ยังมีอีจุนอยู่ทั้งคน ทำไมฉันจะต้องห่วง แต่ที่นั่นไม่มีใครเลย หรือว่านายจะไปดีทรอยซ์แทนฉันกันล่ะ” เจ้านายเงยหน้าขึ้นพูดกับดูจุนที่ยืนก้มหน้าเล็กน้อยอยู่ตรงหน้า ประโยคคำถามที่แถมท้ายหลังมาทำให้ดูจุนเงยหน้าขึ้นสบสายตากับเจ้านายแล้วส่ายหน้าปฏิเสธทันที

 

“ผมดูแลสาขาที่นั่นไม่ไหวหรอกครับรุ่นเก้า”

 

“เพราะฉะนั้นนายถึงต้องอยู่ที่นี่ ดูแลรุ่นสิบอยู่ห่างๆ และทำให้รุ่นสิบเปิดใจให้รุ่นแปดให้ได้”

 

“ให้ผมดูแลกิจการที่นี่ผมทำได้ครับรุ่นเก้า แต่ถ้าจะให้ผมทำให้นายแม่เปิดใจให้รุ่นแปด...ผมคิดว่าผมทำไม่ได้ และไม่มีใครทำได้นอกจากรุ่นแปดเอง”

 

“งั้นก็รีบบอกความจริงทั้งหมดกับรุ่นสิบซะ! ความจริงที่นายเก็บไว้ที่แม้กระทั่งฉันนายก็ยังไม่บอกให้รู้ รีบๆ บอกมันให้รุ่นสิบรู้ก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายเกินไป!”

 

“ผมรับปากกับนายท่านเอาไว้แล้วว่ายังไงผมจะไม่มีวันบอกกับนายแม่ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม”

 

“ท่านพ่อทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร!”

 

“ผมไม่ทราบครับ” อีกครั้งที่ดูจุนก้มหน้าพูดกับเจ้านายอีกคน

 

แจจุงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะเรียกให้ฮาราไปช่วยจัดกระเป๋าทั้งของตัวเองและของยุนโฮ เพื่อจะได้รีบบินกลับอเมริกาให้ทันไฟล์ทบินคืนนี้

 

“พรุ่งนี้จะมีของล็อตใหญ่เข้ามา ยังไงก็ไปเตรียมตัวทำงานใหญ่พรุ่งนี้ได้แล้ว...อ้อ..แล้วก็ไม่จำเป็นวันนี้ก็ไม่ต้องไปที่บ้านตระกูลยงนะ เก็บแรงไว้ทำงาน เข้าใจไหม”

 

“เข้าใจครับรุ่นเก้า”

 

 

 

“ใครโทรมาน่ะรัน!” พอก้าวพ้นบันไดขั้นสุดท้าย ก็รีบถามขึ้นทันที เพราะเห็นว่าร่างบางกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ ยังไม่ทันได้คำตอบอะไรจากปากของร่างบาง มือใหญ่ก็แย่งเอาโทรศัพท์มือถือไปแนบที่หูเสียก่อนแล้ว

 

“ใคร!” ถามเสียงเข้มและแน่นอนว่าอยากได้คำตอบ ถ้าไม่ได้คำตอบตอนที่กำลังอารมณ์ดีล่ะก็ ปลายสายจะต้องเดือดร้อนเป็นแน่ เพราะจุนฮยองไม่ชอบให้ใครโทรหาฮยอนซึงนอกจากคนที่รู้จักกันเท่านั้น

 

“_____ไอเอง...แอนดรูว์ไงล่ะ มิสเตอร์ยงจำไอได้ไหม” เสียงปลายสายตอบกลับมา น้ำเสียงแสนยียวนนั้นทำให้อารมณ์เสียขึ้นมาจริงๆ ดวงตาคมจับจ้องไปที่ดวงหน้าหวานที่ส่งสายตาตอบกลับมาว่าตนไม่รู้เรื่องอะไรเลยแล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าผู้ชายในสายนั้นได้เบอร์มาได้ยังไง

 

“คนชื่อแอนดรูว์มีเป็นล้าน กูจะรู้ได้ยังไงว่าแอนดรูว์ไหน” ตอบกลับไปทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเป็นแอนดรูว์คนนั้นแน่ๆ

 

“ไอรู้ ว่ายูรู้ว่าเป็นแอนดรูว์ไหน ไอคงไม่จำเป็นต้องย้ำนามสกุลของไอหรอก...ใช่ไหม?”

 

“มึงมีธุระอะไรกับรัน!”

 

“ไอไม่ได้มีธุระไรกับนายแม่หรอก เพียงแค่อยากโทรหา ก็แค่นั้น...นี่ไอไม่มีสิทธิ์โทรหานายแม่อย่างนั้นเหรอ”

 

“มึงรู้ดีว่ามึงมีสิทธิ์หรือไม่มีสิทธิ์! คราวหน้าก็ไม่ต้องสะเออะโทรมาอีก!” พูดจบก็กดวางสายทันที ก่อนที่โทรศัพท์มือถือเครื่องนั้นจะลอยไปกระทบที่ผนังบ้าน

 

“จุนฮยอง! นั่นมันมือถือกูนะ!” ร่างบางแถบจะถลาเข้าไปหามือถือ เพราะในนั้นเต็มไปด้วยข้อมูลที่สำคัญหลายอย่าง

 

“รู้น่า!”

 

“รู้แล้วปามันใส่ผนังบ้านทำไม!” สะบัดมือตัวเองหลายครั้ง เพื่อจะเข้าไปดูมือถือของตัวเอง แต่ร่างหนากลับไม่ยอม ดึงร่างบางเข้ามาใกล้ ร้งเอวบางไว้แน่นจนร่างบางดิ้นรนไปไหนไม่ได้

 

“บอกกูมา! มึงให้เบอร์มันไปใช่ไหมรุ่นสิบ!”

 

“ถ้ากูบอกว่าไม่ใช่ มึงจะเชื่อรึไง!”

 

“ใช่ไง กูไม่เชื่อ ถ้ามึงไม่ได้ให้เบอร์โทรศัพท์มัน แล้วมันจะรู้เบอร์ของมึงมาจากไหน!”

 

“กูไม่รู้ กูไม่ได้ให้มันไป กูไม่ชอบขี้หน้าหมอนั่นแล้วจะอยากไปยุ่งด้วยทำไม อีกอย่าง! หมอนั่นตามล่ากูอยู่นะ กูไม่โง่ขนาดนั้นหรอกน่า!”

 

“บอกความจริงกูมาเดี๋ยวนี้ มึงคิดจะรวมหัวกับหมอนั่นแล้วหักหลังกูใช่ไหม!”

 

“ทำไมกูต้องทำแบบนั้นด้วย! แล้วหมอนั่นมันเกี่ยวข้องกับมึงตรงไหน เกี่ยวกันยังไง ทำไมมึงจะต้องโมโหทุกครั้งที่เจอกับแอนดรูว์ด้วย มันมีเรื่องอะไรที่กูยังไม่รู้งั้นเหรอ!”

 

“_____ไม่ใช่เรื่องของเด็ก!” จู่ๆ คนที่โมโหร้ายเมื่อครู่ก็เย็นลงได้ง่ายๆ แล้วยอมปล่อยให้ร่างบางเป็นอิสระ ทำท่าจะเดินหนีแต่ร่างบางกลับดึงชายเสื้อโค้ทไว้ก่อน

 

“กูไม่เด็กแล้วนะ มึงรู้อะไรมึงก็บอกกูสิ มึงปิดบังอะไรอยู่ มึงก็บอกกูมาสิ!”

 

“ไม่มีอะไรทั้งนั้นล่ะ กูจะไปทำงาน ถ้าจะไปด้วยก็ตามมา แต่ถ้าไม่ก็ขึ้นไปเก็บตัวอยู่บนห้อง!” สั่งโดยที่ไม่ยอมหันกลับมามองหน้าร่างบางเลย แกะมือเล็กออกจากชายเสื้อโค้ทของตัวเองแล้วก็เดินออกจากบ้านไป

 

ร่างบางฟึดฟัดอยู่สักพัก แต่ก็ยอมวิ่งตามร่างหนาออกไป ใครจะยอมขึ้นไปอยู่บนห้องกันเล่า ไม่ใช่นักโทษนะ ที่วันๆ ต้องถูกขังไว้แต่ในห้องน่ะ

 

 

ร่างหนารุดเข้าไปภายในโกดังทันทีที่ลูกน้องรายงานว่าจับผู้บุกรุกได้ และตอนนี้ก็กำลังถูกลูกน้องเค้นเอาความจริงอยู่ว่าใครส่งมา

 

“ทางนี้ครับนาย” ลูกน้องอีกคนเดินนำทางไปยังตัวต้นเหตุที่ทำให้ยง จุนฮยอง ต้องมาที่นี่ก่อนที่จะได้ไปเคลียร์เรื่องที่อาบ อบ นวด ซึ่งจะต้องเคลียร์เงินจำนวนมหาศาลเป็นส่วยให้กับตำรวจ  

 

“เสียเวลากูจริงๆ!” เดินตามไปอย่างเร่งรีบ แต่ก็ยังไม่วายบ่นออกมาตลอดทาง ทำให้คนที่เดินตามมาตลอด ต้องคอยห้ามว่าให้หยุดบ่นได้แล้ว แต่เหมือนว่าคำพูดของเมียอย่างไม่เป็นทางการอย่างน้องรันจะไม่เป็นผล

 

“รู้รึยังว่ามันเป็นใคร!” ถามขึ้นเมื่อเดินมาอยู่ต่อหน้าชายแปลกหน้าที่อายุยังน้อย คาดว่าอายุน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับฮยอนซึงนั่นแหละ

 

“มันไม่ยอมพูดอะไรเลยครับนาย”

 

“งั้นเดี๋ยวกูจัดการเอง” พูดจบก็นั่งลงที่เก้าอี้ที่ลูกน้องมาหาให้นั่ง เท้าศอกลงกับหน้าขาทั้งสอง จ้องหน้าเด็กหนุ่มคนนั้นอยู่สักพัก จึงได้เอ่ยถามขึ้น

 

“ใครส่งมึงมา”

 

“...........................” เด็กหนุ่มเงียบ และไม่แม้แต่จะมองหน้าร่างหนาด้วยซ้ำ

 

“กูถามว่าใครส่งมึงมา ถ้ามึงตอบ มึงจะแค่เจ็บตัวแล้วจะได้กลับไปหาเจ้านายมึง เพื่อคาบเอาข่าวจากกูไปบอกอย่างที่เจ้านายมึงต้องการ แต่ถ้ามึงไม่ตอบ.....” ร่างหนาหยุดไว้แค่นั้น และจุดซิก้าขึ้นสูบก่อน อัดควันเข้าไปจนเต็มปอดแล้วค่อยๆ พ่นออกมาอย่างใจเย็น ก่อนจะต่อคำพูดนั้นให้จบ

 

“แต่ถ้ามึงไม่ตอบ มึงก็จะกลายเป็นผีเฝ้าโกดังของกูอยู่ที่นี่...เอาล่ะ! เลือกมา!”

 

“ผมขอตัวเลือกที่มากกว่านี้” เด็กหนุ่มยอมเอ่ยปากพูดกับร่างหนาในที่สุด แต่เป็นประโยคที่แม้แต่ร่างบางก็ยังไม่สบอารมณ์ หากแต่ร่างหนากลับยังคงนิ่ง

 

“มึงอยากได้อะไรก็ว่ามา” ร่างหนายอมง่ายๆ จนร่างบางต้องดึงไหล่ให้ร่างหนาหันมาหาตัวเอง

 

“มึงไม่ต้องไปตามใจมันหรอกน่า! มานี่! เดี๋ยวกูจัดการเอง!” เห็นแล้วหงุดหงิดเลยตั้งใจว่าจัดการกับผู้ชายตรงหน้าเสียเอง แต่ร่างหนากลับไม่ยอม

 

“ไม่ได้...เราต้องเอาน้ำเย็นเข้าลูบก่อน ไม่อย่างนั้นมันจะไม่ยอมบอกอะไรกับเราเลย”

 

ร่างบางพ่นลมหายใจออกมาอย่างขัดใจ ไหวไหล่แล้วปล่อยให้ร่างหนาจัดการกับผู้ชายคนนั้นต่อ

 

“งั้นก็แล้วแต่มึงละกัน”

 

ร่างหนาหันกลับไปหาเด็กหนุ่มคนเดิมอีกครั้ง

 

“เอาล่ะ กูมีทางเลือกให้มึงเพิ่มมาอีกข้อนั่นคือหนึ่งบอกกูมาว่าใครเป็นคนส่งมึงมาแล้วมึงจะรอด สองมึงไม่ยอมบอกพร้อมๆกับที่มึงก็จะตาย และสามถ้ามึงยังยืนยันว่าจะไม่บอกกูก็จะทรมานมึงจนกว่ามึงจะบอก แล้วเมื่อมึงบอกแล้วกูก็จะฆ่ามึงอย่างที่กูอยากทำ เอาล่ะ...เลือกมา!”

 

“อีกข้อไม่มีรึไง”

 

“กูชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ!” ร่างบางสบถขึ้นแล้วแย่งเอาปืนในมือลูกน้องมาไว้กับตัวเอง ก่อนจะซัดเด็กหนุ่มคนนั้นด้วยด้ามปืน

 

“ข้อหนึ่งๆ ผมเลือกข้อหนึ่ง!” เด็กหนุ่มรีบเลือกทันที ยู่คอหลบจนคางแทบจะติดกับอกเมื่อร่างบางทำท่าจะซัดด้วยด้ามปืนอีกครั้ง

 

ร่างบางหันไปยกยิ้มให้ร่างหนาที่พยักหน้าส่งให้ช้าๆ แอบยกนิ้วหัวแม่มือให้บ่งบอกว่าทำได้ดีมาก

 

“เลือกได้แล้วใช่ไหม งั้นก็บอกมา”

 

“ผมคอแห้งจังเลย ขอน้ำสักแก้วได้ไหม”

 

เด็กหนุ่มยังลีลาไม่ยอมบอกอย่างที่ร่างหนาต้องการ เจ้าตัวถอนหายใจแล้วซัดเข้าที่ใบหน้าหล่อนั้นด้วยกำปั้นใหญ่ๆ ของตน

 

“กูบอกให้รีบๆพูดมา!”

 

“แอนดรูว์ครับ! คุณแอนดรูว์ส่งผมมาดูลาดเลาที่นี่ เขารู้มาว่าพรุ่งนี้คุณยงจะนัดส่งแม่พิมพ์แบงค์ที่นี่และนั่นคือเป้าหมายของเขาครับ...แม่พิมพ์แบงค์ดอลล่า...”

 

“เขาให้มึงเท่าไหร่” ร่างหนาชั่งใจอยู่สักพักก่อนจะถามบางสิ่งขึ้น

 

“เท่าไหร่คืออะไรครับ”

 

“เขาจ้างมึงมาเข้าถ้ำของกูน่ะเท่าไหร่!”

 

“ล้านเยนครับ” เด็กหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก

 

“งั้นกูให้มึงห้าล้านเยน แล้วเอานี่ไปให้ไอ้ฝรั่งเน่านั่น” พูดจบก็ยื่นมือไปขอกระดาษกับปากกากับลูกน้อง เขียนบางสิ่งลงไปแล้วยื่นให้เด็กหนุ่ม

 

“บอกมันตามนี้ เสร็จแล้วมึงกลับมาหากูที่นี่พรุ่งนี้ก่อนเที่ยง กูจะให้ค่าเหนื่อยมึงแล้วมึงก็หายไปจากญี่ปุ่นซะ ถ้ากูเห็นว่ามึงยังลอยหน้าลอยตาอยู่ในญี่ปุ่นอีกล่ะก็ มึงไม่ได้ตายดีแน่...เข้าใจไหม...?”

 

“เข้าใจครับ” เด็กหนุ่มตัวสั่นงันงกแล้วรีบวิ่งออกไปก่อนที่ร่างหนาจะเปลี่ยนใจ และคนตัวเล็กๆ ข้างๆ อาจจะซัดเขาด้วยด้ามปืนอีกครั้ง

 

พอเด็กหนุ่มพ้นสายตาไปแล้ว ร่างบางก็โวยวายขึ้นทันที

 

“มึงปล่อยมันง่ายเกินไปนะ! เงินห้าล้านนั่นก็มากเกินไปสำหรับสวะอย่างมัน!”

 

“คิดว่ามันจะได้สักแดงรึไง” ร่างหนาหันไปพูดกับร่างบางที่โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ให้

 

“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า กูไม่ปล่อยมันเอาไว้แน่ๆอยู่แล้ว”

 

“แต่เมื่อกี๊!”

 

“เอาน่า...เชื่อกูเถอะ”

 

“มึงมันไม่น่าเชื่อนี่!”

 

“มินจุน มึงตามไอ้ห่านั่นไป อย่าให้คลาดสายตา จับตาดูมันไว้ ถ้ามันตุกติกล่ะก็ เก็บมันซะ ปล่อยมันไว้มันก็จะกวนใจรันจังของกูเปล่าๆ” หันไปสั่งกับลูกน้องมือขวาของตัวเองเสียงเข้ม แล้วหันกลับไปหาร่างบางอีกครั้ง

 

“ได้ยินแบบนี้แล้วรู้สึกดีขึ้นรึยัง”

 

ร่างบางเสมองไปทางอื่น ไม่ยอมพูดอะไรแล้วเดินนำออกจากโกดังไปก่อน เดือดร้อนให้นายใหญ่อย่างคุณยงต้องรีบตามไปแล้วคว้ามือนุ่มนั้นมากุมไว้ แม้ว่าร่างบางจะถลึงตาห้ามเท่าไหร่ แต่กลับร่างหนากลับไม่สนใจ รู้ว่าลูกน้องมองกันเป็นตาเดียว แต่ก็ช่างเถอะน่า ก็อยากจะจับนี่

 

 

 

“ได้ข่าวว่าวันนี้นายท่านจะเข้ามาที่นี่แหละ”

 

“จริงน่ะเหรอ ฉันน่ะเคยได้ยินแต่คนอื่นพูดกันว่านายท่านหล่ออย่างนั้น เท่อย่างนี้ แถมยังมีเสน่ห์แบบสุดๆ ด้วยนะ แต่ยังไม่เคยเห็นตัวจริงเลยสักครั้ง”

 

เสียงสนทนาด้วยความตื่นเต้นลอดผ่านมาจากห้องแต่งตัวของสาวๆ ที่แต่งตัวเตรียมออกไปนั่งสวยๆ ในตู้กระจก ให้ลูกค้าเลือกไปใช้บริการดังไม่ขาดสาย ทำให้ร่างบางที่เดินผ่านไปพร้อมกับบอร์ดี้การ์ดคนใหม่ที่นายใหญ่เรียกกลับมาทำงานเหมือนเดิมแล้ว ต้องหยุดเดินแล้วถอยหลังกลับไปมองภายในห้องแต่งตัวของสาวๆ เหล่านั้น พิงกรอบประตูยืนฟังบทสนทนาต่อ

 

“นายแม่ครับ...ผมว่าอย่าเสียเวลาอยู่ตรงนี้เลยครับ นายแม่มีประชุมร่วมกับนายท่านที่ห้องประชุมอีก 10 นาทีจะเริ่มแล้วนะครับ” แทคยอนเอ่ยเตือนเมื่อเห็นอากัปกิริยาของเจ้านายอีกคน ที่ตอนนี้เหมือนไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าใดนัก

 

“เดี๋ยวก่อนสิแทค นายแม่อยากฟังสาวๆ พวกนี้เขาคุยกันอีกนิดนะ ท่าทางสนุก” หันไปพูดกับแทคยอนพร้อมทั้งส่งยิ้มหวานให้ แล้วถึงได้หันกลับไปตำแหน่งเดิม

 

 

“นี่! เห็นพวกลูกน้องที่นี่พูดกันว่า ถ้าใครที่เข้ามาใหม่แล้วดูแจ่มๆ น่ะนะ นายท่านก็จะเป็นคนเปิดเองเลยนะ ตอนนั้นฉันไปอยู่ไหนมา ทำไมถึงไม่เข้ามาทำงานที่นี่เร็วกว่านี้ นี่...เขาว่ากันว่านายท่านน่ะลีลาเด็ดสุดยอดเลยนะเธอ” หญิงสาวคนเดิมยังคงจีบปากจีบคอพูดแล้วก็ได้รับความสนอกสนใจจากเพื่อนร่วมอาชีพเป็นอย่างดี

 

“ฉันเข้ามาก็ไม่เห็นจะถูกนายท่านเปิดก่อนเลยนะ น่าเสียดาย...”

 

“นี่...เห็นว่าวันนี้จะมีเด็กใหม่เข้ามา ฉันได้ยินพวกลูกน้องคุยกันว่านางสุดยอดมาก ทั้งสวย ทั้งอวบ ทั้งขาวที่สำคัญอึ๋มมากอีกต่างหาก!”

 

“งั้นเหรอ...?” หลังจากทนฟังอยู่นาน ร่างบางก็เอ่ยขึ้นเสียงราบเรียบ ทำให้สาวๆ พวกนั้นหุบปากแล้วถอยร่นไปแทบจะติดผนังอีกด้านของห้อง

 

“....เอ่อ..คือ...”

 

“นายแม่ถามว่า...งั้นเหรอ...วันนี้จะมีเด็กใหม่เข้ามาจริงๆ เหรอ” ถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่ดวงตากลับฉายแววอย่างน่ากลัวจนสาวๆ ไม่กล้าจะพูดหรือตอบคำถามนั้น

 

“จริงค่ะ...แต่เห็นว่าจะเข้ามาหลังจากนายท่านประชุมเสร็จแล้ว ได้ยินว่า...นายท่านจะลงมาเช็คของเองด้วยค่ะ” หนึ่งในนั้นรีบตอบคำถามก่อนที่นายแม่จะอารมณ์เสีย

 

“ก็ดี!”

 

“ก็ดีอะไรเหรอคะนายแม่”

 

“นายแม่จะได้ไปนั่งดูตอนที่นายท่านเช็คของด้วยไง แบบนี้ก็ดีแล้ว สาวๆ รีบๆ แต่งตัวกันเถอะ เดี๋ยวต้องเริ่มงานกันแล้ว เอาไว้...ประชุมเสร็จนายแม่จะเข้าไปนั่งเล่นในตู้ด้วยนะ” ยิ้มหวานแต่ทำไมมันไม่หวานเอาเสียเลย แทคยอนขนลุกซู่ ไม่เพียงแค่แทคยอนเท่านั้นที่ขนลุกซู่ แต่สาวๆ ก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก

 

“นายแม่ครับ เอาจริงเหรอครับ”

 

“ทำไมล่ะ ทีพี่จุน...ยังเช็คของด้วยตัวเองได้เลย แล้วทำไมนายแม่จะเข้าไปนั่งเล่นในตู้กระจกให้แขกเลือกบ้างไม่ได้ จริงไหม...” ว่าแล้วร่างบางก็เดินนวยนาดขึ้นไปยังห้องประชุมทันที แทคยอนวิ่งตามไปทันที เล่นอะไรของเขาอีกเนี่ยนายแม่ นายแม่ก็รู้ว่านายท่านจะอารมณ์เสียและไม่ชอบใจแน่ๆ ถ้านายแม่ทำเล่นแบบนี้

 

....งานจะเข้าแทคยอนอีกไหมวะเนี่ย

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา