รวมผลงานชุด วิวาห์ชำระแค้น
-
เขียนโดย ploythara
วันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 12.03 น.
13 ตอน
0 วิจารณ์
18.03K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2556 19.16 น. โดย เจ้าของนิยาย
12) บทที่ 11
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ11
เมื่อจินอ๋องไล่จูเก๋อเซี่ยงผิงแลหนันกงเลี่ยงออกจากจวนไปแล้ว เขาก็ถามหากงซุนเสวี่ยเหมยกับพ่อบ้านที่ยืนรออยู่หน้าประตู
“เสวียเสวี่ยเป็นอย่างไรบ้าง”
“พระชายารองสบายดีขอรับ เพียงแต่คิดถึงนายท่านมากเท่านั้น” พ่อบ้านตอบ
“นางอยู่ที่ใด” เขาถาม
“นางอยู่ที่เรือนหยกโปรยขอรับ”พ่อบ้านตอบ
กงซุนเสวี่ยเหมยนั้นหลังจากที่ได้กลับมาจวนอ๋องอีกครั้งนิสัยของนางก็เปลี่ยนจากคนร่าเริงเป็นคนเงียบขรึม ไม่ค่อยพูดคุยกับผู้ใดเอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้องของตน ไม่ได้ทานอันใดมาสองวันแล้วแต่วันนี้นางออกมาเดินเล่นในสวนหน้าเรือนหยกโปรยเป็นคราแรกโดยมีเสี่ยวเฟยสาวใช้คนสนิทดูแลอยู่ใกล้ๆ
“ถวายบังคมท่านอ๋องเพคะ” เสี่ยวเฟยที่เห็นเขาเดินมาหานายหญิงของตนกล่าวแล้วยอบกายทำความเคารพ
“เหตุใดนางจึงเหม่อลอยเช่นนั้นเล่า” เขาถาม
“พระชายารองคิดถึงนายท่านอยู่เพคะ ช่วงนี้นางมักเป็นเช่นนี้เสมอ” เสี่ยวเฟยทูลเบาๆ
“เสวียเสวี่ยข้ากลับมาแล้ว พี่จินหยวนอย่างไรเล่า”เขากล่าวพลางดึงมือคู่น้อยมากุมไว้
“ออกไปนะหนันกงเลี่ยงอย่ามายุ่งกับข้า ไป ไป ไป” นางกล่าวทั้งที่ยังก้มหน้าอยู่
“เสี่ยวเฟยไอ้เลวหนานกงเลี่ยงทำอันใดกับพระชายารองนางจึงเป็นเช่นนี้” เขาถาม
“คุณชายหนันกงพยายามจะขืนใจพระชายารองหลายครั้งหลายครา พระชายาเอกเห็นแต่นางเมินเฉยแถมยังสนับสนุนให้เขารังแกพระชายารอง หากพระชายารองมิมีไหวพริบนางคงต้องตกเป็นฮูหยินหนันกงไปแล้วเจ้าค่ะ ” เสี่ยวเฟยตอบ
“เช่นนั้นหรือ เสวียเสวี่ยของข้าเจ้าช่างน่าสงสารนัก” เขากล่าวแล้วดึงนางเข้ามาในอ้อมแขน กอดปลอบใจนาง
“ป…..”นางกำลังจะกล่าววจีแต่ถูกเขาเชยคางมนขึ้นให้มองหน้าเขา วจีพลันหายไปสิ่งที่มาแทนคือหยดน้ำจากนัยน์ตาดำขลับที่เอ่อล้นอยู่แต่แรก นางกอดเขาตอบ
“ในที่สุดท่านก็กลับมาแล้วพี่จินหยวน ข้าคิดถึงท่าน คิดถึงท่าน คิดถึงยิ่งนัก ” สองหนุ่มสาวตระกองกอดกันแน่น
จวนราชครูหนานหลี่
“เลี่ยงเอ๋อร์หายไปไหนพ่อบ้านเถา ข้าให้เขาไปเรียนหนังสือในวังไยจึงไม่เห็นเขา” หนันกงอวี๋ถาม
“คุณชายรอง…..” พ่อบ้านตอบอย่างอ้ำๆอึ้งๆ
“พิรี้พิไรอยู่ได้ข้าต้องรีบไปดูแลองค์หญิงหลันเอ๋อร์นะ พูดมาเร็ว” หนันกงอวี๋เริ่มมีโทสะ
“เอ่อ….นายน้อยขอรับคือคุณชายรองไปเป่ยมู่ได้สองสัปดาห์แล้ว มีข่าวลือว่าคุณชายรองกับพระชายาเอกของจินอ๋อง….” พ่อบ้านเถาหยุดไป
“เลี่ยงเอ๋อร์กับพระชายาเอกของจินอ๋องแห่งเป่ยมู่ทำอันใดกัน” หนันกงอวี๋ถาม
“เป็นชู้กันขอรับนายน้อย” พ่อบ้านเถากล่าว
“เจ็บใจนัก! บ้านมีให้อยู่ก็เที่ยวเตร็ดเตร่ไม่รู้จักเรียนหนังสือหนังหา ตั้งตัวเป็นอันทพาลก่อแต่ความวุ่ยวายไม่เว้นแต่ละวัน ก่อเรื่องที่นี่ยังมิพอยังไปก่อต่างแคว้นอีกจวนราชครูหนานหลี่ที่คนนับหน้าถือตาจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด” หนันกงอวี๋กล่าว
หลังจากที่ทราบว่าน้องชายจอมอันทพาลได้ก่อเรื่องใหญ่หลวงไว้หนันกงอวี๋ก็พยายามหาวิธีไกล่เกลี่ยเรื่องราวให้จบลงโดยเร็วเพราะการไกล่เกลี่ยปัญหาครั้งนี้สำคัญต่อชื่อเสียงของสกุลหนันกงที่สั่งสมมาหลายชั่วอายุคนแลแคว้นเป่ยมู่ อันที่จริงเขามิอยากให้ทั้งสองแคว้นเป็นศัตรูกัน หลายคราที่เขาโน้มน้าวกวงอวี้ฮ่องเต้ซึ่งเป็นพระบิดาบุญธรรมให้ยุติสงครามที่เป็นผลมาจากเรื่องราวในอดีตระหว่างอดีตจักรพรรดิของทั้งสองแคว้นแต่ก็รบเร้ามิเคยสำเร็จเลยสักครา
โรงเตี๊ยมหนึ่งในเมืองไผ่เขียว
เมื่อถูกไล่ออกจากจวนจินอ๋องแล้วจูเก๋อเซี่ยงผิงแลหนันกงเลี่ยงก็เข้าพักในโรงเตี๊ยมหมื่นทิวาผู้คนที่เห็นพวกเขาทั้งแลทารกน้อยเพศชายที่เป็นพยานรักต่างก็ตำหนิติเตียนเป็นการใหญ่ จูเก๋อเซี่ยงผิงคุณหนูผู้มิเคยลำบากมาตลอดชีวิตโอดครวญเป็นการใหญ่เพราะนางต้องทำทุกทุกอย่างเองโดยมิมีผู้ใดช่วย หนันกงเลี่ยงเอาแต่เมามายมิสนใจนางแลบุตรชาย
“หนันกงเลี่ยงท่านควรจะช่วยข้าดูแลลูกบ้างนะ มิใช่เอาแต่เมามาย” นางตำหนิสามี
“ข้ามิต้องการมัน ข้ามิได้รักเจ้าสตรีที่ข้ารักเพียงนางเดียวคือกงซุนเสวี่ยเหมยเจ้าจงจำใส่ใจไว้เถิด” เขากล่าวอย่างมิไยดีนาง
“พูดไปเถิดข้าฟังเจ้าพูดมาหลายร้อยหนแล้ว ข้าคือภรรยาเพียงคนเดียวของเจ้าจะมิยอมให้เจ้าคะนึงหาหญิงอื่นเช่นนี้อีก” นางกล่าว
“เจ้าน่ะหรือนังหญิงแพศยาที่เป็นฮูหยินข้าสำคัญตัวผิดไปแล้วล่ะ” เขากล่าว
“ใช่ข้านี่แหละฮูหยินรองสกุลหนันกง”นางกล่าว
ทั้งสองเถียงกันอีกคราจนกระทั่งทารกร้องขึ้น นางจึงหันไปสนใจลูกแทนการทะเลาะกับสามี เมื่อเขาเห็นเช่นนั้นความโกรธที่ถูกตำหนิก็คลายลง จึงเดินเข้าไปหานางแลทารกน้อยที่ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘บุตร’ ของตน
“ให้ข้าอุ้มเขาบ้างสิ” เขากล่าว
“นี่เป็นบุตรของข้ามิใช่ท่าน ท่านไปไกลๆเลยนะอยากไปหานางก็เชิญไปเลย พรุ่งนี้ข้าจะกลับบ้านที่เป่ยหลี่แล้ว แผนการทุกอย่างแลเรื่องทุกเรื่องระหว่างเราข้าขอให้จบลงเพียงเท่านี้ ต่อไปเรามิเกี่ยวข้องกันอีกข้ามิใช่ฮูหยินรองสกุลหนานกงหรือพระชายาเอกทั้งนั้น ข้าขอเป็นเพียงแม่ธรรมดาๆที่รักลูกคนหนึ่งก็พอ อ้อ! ชาตินี้ท่านอย่าได้หวังจะเห็นหน้าข้าแลลูกอีกเพราะบ้านข้าไม่ต้อนรับท่านคุณชายรองหนันกง” นางกล่าวอย่างจริงจัง
“อย่ากล่าวอันใดจริงจังขนาดนั้นสิ ยังไงเราก็เป็นสามีภรรยากันแล้ว ข้าขอโทษที่ทำให้เจ้าเจ็บช้ำแสนสาหัสผิงเอ๋อร์” เขากล่าวพลางดึงนางแลลูกเข้ามาในอ้อมแขน
“โปรดปล่อยข้าด้วยเถิดคุณชายรองหนันกง แล้วอย่าเรียกนามข้าเช่นนั้นอีก ‘ผิงเอ๋อร์’ เป็นนามที่คนรักแลครอบครัวของข้าเรียกได้เท่านั้น” นางกล่าวแล้วพยายามดิ้นให้หลุดจากแขนแกร่ง
หนันกงเลี่ยงถึงกับผงะไปหลังจากได้ยินประโยคสุดท้ายของนางที่ว่า “โปรดปล่อยข้าด้วยเถิดคุณชายรองหนันกง แล้วอย่าเรียกนามข้าเช่นนั้นอีก ‘ผิงเอ๋อร์’ เป็นนามที่คนรักแลครอบครัวของข้าเรียกได้เท่านั้น” นางจึงหลุดจากแขนแกร่งได้อย่างง่ายดาย จากนั้นนางก็เตรียมเก็บสัมภาระเพื่อกลับเป่ยหลี่ เขายังคงตะลึงงันกับวาจาแลการกระทำของนางที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ในใจตอนนี้เจ็บปวดยิ่งกว่ายามที่ถูกกงซุนเสวี่ยเหมยปฎิเสธเสียอีก
ยามโหย่ว
หนันกงเลี่ยงเห็นนางลงมาทานอาหารเย็นด้านล่างเหมือนทุกวันแต่วันนี้นางกลับนั่งเพียงผู้เดียวมิได้มองมายังที่นั่งประจำข้างๆกายเขาแม้เพียงนิด นางทานไปเรื่อยๆอย่างสบายอารมณ์นัยน์ตากลมโตมองไปบนเวทีซึ่งบัดนี้กำลังมีการแสดงอยู่เมื่อทานเสร็จนางก็หายตัวไปเร็วราวกับลมพัด
“อาเยิ่น พรุ่งนี้เจ้าคอยติดตามผิงเอ๋อร์ไปอย่าให้นางรู้ตัว” เขาสั่งลูกสมุน
“ขอรับ” สิงเยิ่นรับคำ
“แยกย้ายกันไปพักผ่อนได้แล้ว” เขาสั่ง
วันรุ่งขึ้น ยามเหม่า
จูเก๋อเซี่ยงผิงออกเดินทางกับลูกน้อยโดยมีสิงเยิ่นติดตามนางทุกฝีก้าว หนานหลี่แลเป่ยหลี่อยู่ทางตะวันตกของเป่ยมู่ นางต้องผ่านเขาสูง ป่าทึบ ลำธารใส แลหมู่บ้านนับสิบแห่งแต่ก็ไม่ย่อท้อสักนิด สิงเยิ่นที่เป็นบุรุษเองยังยอมรับในความใจกล้าของนาง ทุกเรื่องของนางตั้งแต่เริ่มเดินทาง หยุดพัก ป่วยไข้ เลี้ยงลูก ตรากตรำทำงานที่น้อยครั้งในชีวิตคุณหนูเอาแต่ใจเช่นนางจะทำได้ล้วนผ่านการเรียบเรียงเป็นตัวอักษรในจดหมายที่สิงเยิ่นเขียนรายงานให้นายของตน
“อาเยิ่นออกมาเถิดอย่าหลบข้าอีกเลย ใช่ว่าข้าจะมิทราบว่านายเจ้าให้ตามมา” นางเรียกบุรุษที่แอบซุ่มอยู่ใตด้ต้นไม้
“เอ่อ….คุณหนูจูเก๋อ มิใช่สิพี่ผิง พี่เลี่ยงให้ข้าตามท่านมาจริงๆนั่นแหละขอรับ พี่เลี่ยงอยากให้ท่านกลับไปหนานหลี่กับเขา” สิงเยิ่นกล่าว
“ไปบอกนายเจ้าว่าข้ามิใช่คนของเขา อย่ามาสั่งการข้า” นางกล่าวแล้วทำงานที่ทำค้างไว้ต่อ
เมื่อจินอ๋องไล่จูเก๋อเซี่ยงผิงแลหนันกงเลี่ยงออกจากจวนไปแล้ว เขาก็ถามหากงซุนเสวี่ยเหมยกับพ่อบ้านที่ยืนรออยู่หน้าประตู
“เสวียเสวี่ยเป็นอย่างไรบ้าง”
“พระชายารองสบายดีขอรับ เพียงแต่คิดถึงนายท่านมากเท่านั้น” พ่อบ้านตอบ
“นางอยู่ที่ใด” เขาถาม
“นางอยู่ที่เรือนหยกโปรยขอรับ”พ่อบ้านตอบ
กงซุนเสวี่ยเหมยนั้นหลังจากที่ได้กลับมาจวนอ๋องอีกครั้งนิสัยของนางก็เปลี่ยนจากคนร่าเริงเป็นคนเงียบขรึม ไม่ค่อยพูดคุยกับผู้ใดเอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้องของตน ไม่ได้ทานอันใดมาสองวันแล้วแต่วันนี้นางออกมาเดินเล่นในสวนหน้าเรือนหยกโปรยเป็นคราแรกโดยมีเสี่ยวเฟยสาวใช้คนสนิทดูแลอยู่ใกล้ๆ
“ถวายบังคมท่านอ๋องเพคะ” เสี่ยวเฟยที่เห็นเขาเดินมาหานายหญิงของตนกล่าวแล้วยอบกายทำความเคารพ
“เหตุใดนางจึงเหม่อลอยเช่นนั้นเล่า” เขาถาม
“พระชายารองคิดถึงนายท่านอยู่เพคะ ช่วงนี้นางมักเป็นเช่นนี้เสมอ” เสี่ยวเฟยทูลเบาๆ
“เสวียเสวี่ยข้ากลับมาแล้ว พี่จินหยวนอย่างไรเล่า”เขากล่าวพลางดึงมือคู่น้อยมากุมไว้
“ออกไปนะหนันกงเลี่ยงอย่ามายุ่งกับข้า ไป ไป ไป” นางกล่าวทั้งที่ยังก้มหน้าอยู่
“เสี่ยวเฟยไอ้เลวหนานกงเลี่ยงทำอันใดกับพระชายารองนางจึงเป็นเช่นนี้” เขาถาม
“คุณชายหนันกงพยายามจะขืนใจพระชายารองหลายครั้งหลายครา พระชายาเอกเห็นแต่นางเมินเฉยแถมยังสนับสนุนให้เขารังแกพระชายารอง หากพระชายารองมิมีไหวพริบนางคงต้องตกเป็นฮูหยินหนันกงไปแล้วเจ้าค่ะ ” เสี่ยวเฟยตอบ
“เช่นนั้นหรือ เสวียเสวี่ยของข้าเจ้าช่างน่าสงสารนัก” เขากล่าวแล้วดึงนางเข้ามาในอ้อมแขน กอดปลอบใจนาง
“ป…..”นางกำลังจะกล่าววจีแต่ถูกเขาเชยคางมนขึ้นให้มองหน้าเขา วจีพลันหายไปสิ่งที่มาแทนคือหยดน้ำจากนัยน์ตาดำขลับที่เอ่อล้นอยู่แต่แรก นางกอดเขาตอบ
“ในที่สุดท่านก็กลับมาแล้วพี่จินหยวน ข้าคิดถึงท่าน คิดถึงท่าน คิดถึงยิ่งนัก ” สองหนุ่มสาวตระกองกอดกันแน่น
จวนราชครูหนานหลี่
“เลี่ยงเอ๋อร์หายไปไหนพ่อบ้านเถา ข้าให้เขาไปเรียนหนังสือในวังไยจึงไม่เห็นเขา” หนันกงอวี๋ถาม
“คุณชายรอง…..” พ่อบ้านตอบอย่างอ้ำๆอึ้งๆ
“พิรี้พิไรอยู่ได้ข้าต้องรีบไปดูแลองค์หญิงหลันเอ๋อร์นะ พูดมาเร็ว” หนันกงอวี๋เริ่มมีโทสะ
“เอ่อ….นายน้อยขอรับคือคุณชายรองไปเป่ยมู่ได้สองสัปดาห์แล้ว มีข่าวลือว่าคุณชายรองกับพระชายาเอกของจินอ๋อง….” พ่อบ้านเถาหยุดไป
“เลี่ยงเอ๋อร์กับพระชายาเอกของจินอ๋องแห่งเป่ยมู่ทำอันใดกัน” หนันกงอวี๋ถาม
“เป็นชู้กันขอรับนายน้อย” พ่อบ้านเถากล่าว
“เจ็บใจนัก! บ้านมีให้อยู่ก็เที่ยวเตร็ดเตร่ไม่รู้จักเรียนหนังสือหนังหา ตั้งตัวเป็นอันทพาลก่อแต่ความวุ่ยวายไม่เว้นแต่ละวัน ก่อเรื่องที่นี่ยังมิพอยังไปก่อต่างแคว้นอีกจวนราชครูหนานหลี่ที่คนนับหน้าถือตาจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด” หนันกงอวี๋กล่าว
หลังจากที่ทราบว่าน้องชายจอมอันทพาลได้ก่อเรื่องใหญ่หลวงไว้หนันกงอวี๋ก็พยายามหาวิธีไกล่เกลี่ยเรื่องราวให้จบลงโดยเร็วเพราะการไกล่เกลี่ยปัญหาครั้งนี้สำคัญต่อชื่อเสียงของสกุลหนันกงที่สั่งสมมาหลายชั่วอายุคนแลแคว้นเป่ยมู่ อันที่จริงเขามิอยากให้ทั้งสองแคว้นเป็นศัตรูกัน หลายคราที่เขาโน้มน้าวกวงอวี้ฮ่องเต้ซึ่งเป็นพระบิดาบุญธรรมให้ยุติสงครามที่เป็นผลมาจากเรื่องราวในอดีตระหว่างอดีตจักรพรรดิของทั้งสองแคว้นแต่ก็รบเร้ามิเคยสำเร็จเลยสักครา
โรงเตี๊ยมหนึ่งในเมืองไผ่เขียว
เมื่อถูกไล่ออกจากจวนจินอ๋องแล้วจูเก๋อเซี่ยงผิงแลหนันกงเลี่ยงก็เข้าพักในโรงเตี๊ยมหมื่นทิวาผู้คนที่เห็นพวกเขาทั้งแลทารกน้อยเพศชายที่เป็นพยานรักต่างก็ตำหนิติเตียนเป็นการใหญ่ จูเก๋อเซี่ยงผิงคุณหนูผู้มิเคยลำบากมาตลอดชีวิตโอดครวญเป็นการใหญ่เพราะนางต้องทำทุกทุกอย่างเองโดยมิมีผู้ใดช่วย หนันกงเลี่ยงเอาแต่เมามายมิสนใจนางแลบุตรชาย
“หนันกงเลี่ยงท่านควรจะช่วยข้าดูแลลูกบ้างนะ มิใช่เอาแต่เมามาย” นางตำหนิสามี
“ข้ามิต้องการมัน ข้ามิได้รักเจ้าสตรีที่ข้ารักเพียงนางเดียวคือกงซุนเสวี่ยเหมยเจ้าจงจำใส่ใจไว้เถิด” เขากล่าวอย่างมิไยดีนาง
“พูดไปเถิดข้าฟังเจ้าพูดมาหลายร้อยหนแล้ว ข้าคือภรรยาเพียงคนเดียวของเจ้าจะมิยอมให้เจ้าคะนึงหาหญิงอื่นเช่นนี้อีก” นางกล่าว
“เจ้าน่ะหรือนังหญิงแพศยาที่เป็นฮูหยินข้าสำคัญตัวผิดไปแล้วล่ะ” เขากล่าว
“ใช่ข้านี่แหละฮูหยินรองสกุลหนันกง”นางกล่าว
ทั้งสองเถียงกันอีกคราจนกระทั่งทารกร้องขึ้น นางจึงหันไปสนใจลูกแทนการทะเลาะกับสามี เมื่อเขาเห็นเช่นนั้นความโกรธที่ถูกตำหนิก็คลายลง จึงเดินเข้าไปหานางแลทารกน้อยที่ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘บุตร’ ของตน
“ให้ข้าอุ้มเขาบ้างสิ” เขากล่าว
“นี่เป็นบุตรของข้ามิใช่ท่าน ท่านไปไกลๆเลยนะอยากไปหานางก็เชิญไปเลย พรุ่งนี้ข้าจะกลับบ้านที่เป่ยหลี่แล้ว แผนการทุกอย่างแลเรื่องทุกเรื่องระหว่างเราข้าขอให้จบลงเพียงเท่านี้ ต่อไปเรามิเกี่ยวข้องกันอีกข้ามิใช่ฮูหยินรองสกุลหนานกงหรือพระชายาเอกทั้งนั้น ข้าขอเป็นเพียงแม่ธรรมดาๆที่รักลูกคนหนึ่งก็พอ อ้อ! ชาตินี้ท่านอย่าได้หวังจะเห็นหน้าข้าแลลูกอีกเพราะบ้านข้าไม่ต้อนรับท่านคุณชายรองหนันกง” นางกล่าวอย่างจริงจัง
“อย่ากล่าวอันใดจริงจังขนาดนั้นสิ ยังไงเราก็เป็นสามีภรรยากันแล้ว ข้าขอโทษที่ทำให้เจ้าเจ็บช้ำแสนสาหัสผิงเอ๋อร์” เขากล่าวพลางดึงนางแลลูกเข้ามาในอ้อมแขน
“โปรดปล่อยข้าด้วยเถิดคุณชายรองหนันกง แล้วอย่าเรียกนามข้าเช่นนั้นอีก ‘ผิงเอ๋อร์’ เป็นนามที่คนรักแลครอบครัวของข้าเรียกได้เท่านั้น” นางกล่าวแล้วพยายามดิ้นให้หลุดจากแขนแกร่ง
หนันกงเลี่ยงถึงกับผงะไปหลังจากได้ยินประโยคสุดท้ายของนางที่ว่า “โปรดปล่อยข้าด้วยเถิดคุณชายรองหนันกง แล้วอย่าเรียกนามข้าเช่นนั้นอีก ‘ผิงเอ๋อร์’ เป็นนามที่คนรักแลครอบครัวของข้าเรียกได้เท่านั้น” นางจึงหลุดจากแขนแกร่งได้อย่างง่ายดาย จากนั้นนางก็เตรียมเก็บสัมภาระเพื่อกลับเป่ยหลี่ เขายังคงตะลึงงันกับวาจาแลการกระทำของนางที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ในใจตอนนี้เจ็บปวดยิ่งกว่ายามที่ถูกกงซุนเสวี่ยเหมยปฎิเสธเสียอีก
ยามโหย่ว
หนันกงเลี่ยงเห็นนางลงมาทานอาหารเย็นด้านล่างเหมือนทุกวันแต่วันนี้นางกลับนั่งเพียงผู้เดียวมิได้มองมายังที่นั่งประจำข้างๆกายเขาแม้เพียงนิด นางทานไปเรื่อยๆอย่างสบายอารมณ์นัยน์ตากลมโตมองไปบนเวทีซึ่งบัดนี้กำลังมีการแสดงอยู่เมื่อทานเสร็จนางก็หายตัวไปเร็วราวกับลมพัด
“อาเยิ่น พรุ่งนี้เจ้าคอยติดตามผิงเอ๋อร์ไปอย่าให้นางรู้ตัว” เขาสั่งลูกสมุน
“ขอรับ” สิงเยิ่นรับคำ
“แยกย้ายกันไปพักผ่อนได้แล้ว” เขาสั่ง
วันรุ่งขึ้น ยามเหม่า
จูเก๋อเซี่ยงผิงออกเดินทางกับลูกน้อยโดยมีสิงเยิ่นติดตามนางทุกฝีก้าว หนานหลี่แลเป่ยหลี่อยู่ทางตะวันตกของเป่ยมู่ นางต้องผ่านเขาสูง ป่าทึบ ลำธารใส แลหมู่บ้านนับสิบแห่งแต่ก็ไม่ย่อท้อสักนิด สิงเยิ่นที่เป็นบุรุษเองยังยอมรับในความใจกล้าของนาง ทุกเรื่องของนางตั้งแต่เริ่มเดินทาง หยุดพัก ป่วยไข้ เลี้ยงลูก ตรากตรำทำงานที่น้อยครั้งในชีวิตคุณหนูเอาแต่ใจเช่นนางจะทำได้ล้วนผ่านการเรียบเรียงเป็นตัวอักษรในจดหมายที่สิงเยิ่นเขียนรายงานให้นายของตน
“อาเยิ่นออกมาเถิดอย่าหลบข้าอีกเลย ใช่ว่าข้าจะมิทราบว่านายเจ้าให้ตามมา” นางเรียกบุรุษที่แอบซุ่มอยู่ใตด้ต้นไม้
“เอ่อ….คุณหนูจูเก๋อ มิใช่สิพี่ผิง พี่เลี่ยงให้ข้าตามท่านมาจริงๆนั่นแหละขอรับ พี่เลี่ยงอยากให้ท่านกลับไปหนานหลี่กับเขา” สิงเยิ่นกล่าว
“ไปบอกนายเจ้าว่าข้ามิใช่คนของเขา อย่ามาสั่งการข้า” นางกล่าวแล้วทำงานที่ทำค้างไว้ต่อ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ