ขอให้ได้รักนายตัวแสบ

4.8

วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 22.19 น.

  9 ตอน
  2 วิจารณ์
  13.19K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

3)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

กริ่งงงงง งงงง

เสียงนาฬิกาปลุกรุ่นโบราณของฉันดังขึ้นบอกถึงเวลาตื่นนอนตอนเช้า ฉันค่อยๆใช่มือกดปิดเสียงก่อนจะกลิ้นลงไปนอนกองกับพื้นห้อง

"ยัยวาวาตกเตียงอีกแล้วเหรอ"   เสียงงัวเงียของยัยการ์ตูนดังขึ้นเหนือหัวของฉัน ฉันหงายหน้ามองยัยการ์ตูนที่กำลังเกาหัวที่แสนจะฟูมเหมือนสิงโตของหล่อนอยู่ก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบเสื้อผ้าและผ้าคลุมอาบน้ำ

"เดี๋ยว!!"  ยัยการ์ตูนเรียกฉันก่อนที่ตัวฉันจะหายเข้าไปในห้องน้ำ

"มีอะไร"  ฉันถามกลับด้วยความรำคาญใจ

"เธอจะรีบไปไหนนี่พึ่งจะเจ็ดโมงเองนะ"  ยัยการ์ตูนพูดก่อนจะล้มตัวลงนอนอีกครั้ง

"ที่นี่เขามีการเคารพธงชาติตอนแปดโมงตรงตอนนี่ก็เจ็ดโมงแล้ว เรามีเวลาแต่งตัวแค่หนึ่งชั่วโมงเข้าใจไหม"  พอฉันพูดจบก็รีบเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำทันที

"เมืองไทยนี่ยุ่งยากที่สุดเลย!!!"  ยัยการ์ตูนตะโกนออกมาเสียงดัง ฉันที่อาบน้ำอยู่ก็เผลอเปิดประตูปาขันตักน้ำออกไป ด้วยความรำคาญ

"ยัยวาเธอทำอะไรเนี่ยเจ็บนะ"  ยัยการ์ตูนที่โดนขันน้ำปาใส่หัวก็บ่นใหญ่ ฉันที่ยืนอาบน้ำอยู่ก็เผลอถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจกับเพื่อนสนิท

ผ่านไปสามสิบนาที.....

"เสร็จยังการ์ตูน เราเหลือเวลาอีกไม่มากนะ"  ฉันยืนสะพายกระเป๋าเป้ก่อนจะมองนาฬิกาที่ข้อมือและไม่ลืมที่จะตะโกนเตือนเพื่อนรัก

"เสร็จแล้วๆ"   ยัยการ์ตูนพูดก่อนจะเดินสะพายกระเป๋าเป้สีชมพูหวานแหววออกมา สภาพที่เห็นก็เหมือนเดิมทุกวันยัยการ์ตูนเป็นสาวเปรี้ยวและเจ้าระเบียบมากทุกอย่างของหล่อนต้องเป๊ะกระโปรงต้องสั้นได้มาตราฐาน หน้าตาต้องแต่งให้สวยและเป๊ะเว่อร์ไม่มีลืมหรือเกินไป เป็นเพื่อนยัยนี่ก็ต้องมีความอดทนสูงอยู่เหมือนกัน

"เราต้องเดินไปนะ"  ฉันพูดก่อนจะเดินหันหลังออกไปนอกห้อง โดยไม่รอคำโอดคราญของยัยเพื่อนตัวแสบเลยซักนิด

 

ณ โรงเรียนเอกชนเซนแฮมปีเตอร์

"โอ๊ย!!! ขาฉัน"  พอมาถึงโรงเรียนยัยการ์ตูนก็รีบวิ่งหาที่นั่งโดยทันที โดยมีฉันวิ่งตามหลังมาติดๆ

"เดินแค่นี่ทำเป็นบ่น"  ฉันพูดก่อนจะวางกระเป๋าเป้ของยัยการ์ตูนลงบนเก้าอี้ตัวข้างๆ เพราะระหว่างทางยัยนี่บ่นว่าเดินไม่ไหวแล้ว แถมยังเดินช้าฉันเลยต้องยอมถือกระเป๋าให้จะได้ไม่มีปัญหา

"ก็มันไกลจริงๆนี่ ขากลับนั่งรถประจำทางได้ไหม"  ยัยการ์ตูนเกาะแขนฉันก่อนจะเขย่าไปมาตามต้นฉบับของการขอร้อง ฉันมองยัยการ์ตูนก่อนจะถอนหายใจอย่างช้าๆ เหนื่อยๆ

"ก็ได้ แต่เธอต้องทำงานเสริมนะ"  ฉันพูดก่อนจะยิ้มน้อยๆให้ยังการ์ตูน

"ทำไมต้องทำอ่ะ"  ยัยการ์ตูนพูดก่อนจะสะบัดแขนฉันออกและไปนั่งทำหน้าบูดอยู่คนเดียว

"เพราะถ้าเรานั่งรถประจำทางทุกวัน เงินเราก็จะลดลงแล้วแบบนั้นเราจะทำยังไงละ แม้แต่ของกินก็จะไม่ได้กินไม่อดตายกันหรือไง"  ฉันพูดก่อนจะหยิบเป้ของตัวเองขึ้นมาสะพานดังเดิมและลุกขึ้นเดินไปเฉยๆโดยไม่บอกยัยการ์ตูนที่นั่งทำหน้าบูดอยู่คนเดียว

"เฮ้ย!!! ยัยวาวารอด้วย"   พอยัยการ์ตูนเห็นฉันเดินออกไปก็รีบหยิบขอวิ่งตามฉันมาเรื่อยๆ

 

"ห้องเราอยู่ไหนนะ?"    ยัยการ์ตูนพูดก่อนจะมองกระดาษในมือตัวเองไปพลาง ฉันเดินตามยัยการ์ตูนตาก็มองหน้าห้องไปเรื่อยเพื่อหาห้องเรียนขอตนเอง

" นั้นไงห้องa-a"  ฉันชี้ไปที่ห้องเรียนของตัวเองอย่างดีใจ ยัยการ์ตูนหงายหน้ามองตามมือของฉันก่อนจะวิ่งนำหน้าฉันไปก่อนด้วยความดีใจ(จนเว่อร์) ฉันมองยัยการ์ตูนวิ่งไปก่อนจะส่ายหน้าเล็กน้อย ระหว่างที่ฉันกำลังจะเดินตามยัยการ์ตูนไปนั้นหางตาก็เผลอเหลือกไปเห็นชายคนหนึ่งกำลังวิ่งมาแบบไม่ดูทางและวิ่งมาแบบเร็วมาก พอเห็นดังนั้นก็ก็รีบตะโกนเตือนยัยการ์ตูนทันที

"การ์ตูนระวัง!!!"  แต่ไม่ทันที่ฉันจะพูดจบยัยการ์ตูนก็โดนชนเข้าอย่างแรง ฉันที่เห็นดังนั้นก็รีบวิ่งเข้าไปดูทันที

"เป็นอะไรมากไหมยัยการ์ตูน"  ฉันพูดก่อนจะพยุงยัยการ์ตูนให้ลุกขึ้น

"โอ๊ย! เจ็บอ่ะก้นกระแทกเต็มเลย"  ยัยการ์ตูนพูดก่อนจะสะบัดมือไปมาเพื่อปัดฝุ่นที่มือตัวเอง

"นี่นายวิ่งมาไม่ดูทางเลยหรือไง"  พอยัยการ์ตูนจัดการกับตัวเองเสร็จก็หันไปตะหวาดใส่ชายที่ชนหล่อนเมื่อตะกี้นี่

"โทษที ฉันไม่เห็นเธอยืนอยู่เลยเผลอประมาณไปหน่อย"  ชายคนนั้นพูดก่อนจะยิ้มให้ยัยการ์ตูนเล็กน้อย แต่รอยยิ้มนั้นเหมือนกวนๆยังไงไม่รู้

"นี่เหมือนฉันโดนด่าว่าเตี้ยเลยนะเนี่ย"  เอาละสิ ยัยนี่ไม่ชอบให้ใครมาดาว่าเตี้ยซะด้วยไม่งั้นมีเรื่องแน่

"ฉันไม่ได้พูดนะเธอพูดของเธอเอง"  หมอนี่ดูจากคำพูดแล้วศพไม่สวยแน่

"หนอยแก ฉันรู้จักแกไมห่ะ"  เอาละสิเริ่มขี้นแล้ว

"พูดอะไรของเธอนะฉันไม่เข้าใจเลย สำเนียงแปลกจัง"  หมอนี่เองก็กวนประสาทได้โล่เหมือนกัน

"ไอโง่มองไม่ออกหรือไงว่าฉันเป็นคนญี่ปุ่นนะ ถ้าพูดชัดก็บ้าแล้ว" 

"อ้าว ฉันนึกว่าเธอเป็นคนอีสานซะอีกพูดซะแปลกเชียว" 

"................."  เกิดความเงียบขึ้น ยัยการ์ตูนไม่ตอบโต้ เราสองคนมองหน้ากันก่อนจะหันไปมองไอบ้ากวนประสาทที่ยืนยิ้มอยู่กับที่

"อีสานเป็นคำด่าของคนไทยงั้นเหรอ"  ฉันถามออกไปอย่างงง

"นี่พวกเธอไม่รู้จักคำว่าอีสานหรือไง"  พวกเราสองคนต่างพยักหน้าพร้อมกัน

"ช่างมันๆ ฉันขี้เกียจอธิบาย จะเข้าเรียนแล้ว พวกเธอเรียนห้องอะไร" 

"ก็ห้องนี่แหละยะ"  ยัยการ์ตูนตอบออกไปอย่างจิกกัด

"งั้นก็ห้องเดียวกันอ่ะดิ โชคร้ายจัง" 

"หนอย ฉันขอสาปแช่งนายต้องโชคร้ายไม่ตลอดชีวิต"  ยัยการ์ตูนพูดก่อนจะเปิดประตูเข้าห้องเรียนไป ฉันที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่เงียบก็เดินไปประจันหน้ากับชายที่ไม่รู้จัก

"ขอโทษแทนเพื่อนฉันด้วย ที่ยัยนั้นพูดแรงไปหน่อย"  ฉันพูดก่อนจะยืนรอคำพูดของเขาต่อ

"ไม่เป็นไร" ชายคนนั้นตอบกลับก่อนจะยิ้มกว้างให้ฉัน ฉันเองก็ยิ้มกลับเช่นกัน

"เธอชื่ออะไรเหรอ" 

"วาวา"  ฉันตอบก่อนจะเปิดประตูเดินเข้าไปในห้องเรียนหน้าตาเฉย

"นี่! ฉันชื่อพูนะต่อไปนี่เรามาเป็นเพื่อนกันนะ"  พูพูดไล่หลังฉันมาก่อนจะเดินตามฉันมาอย่างติดๆ

"อืม"  ฉันตอบรับสั้นๆก่อนจะเดินเข้าไปนั่งข้างๆยัยการ์ตูนที่ทำหน้าบูดอยู่

"เธอด้วย ไหนๆก็อยู่ห้องเดียวกันแล้วมาเป็นเพื่อนกัน"  พูพูดด้วยท่าทีไม่เต็มใจมากนัก ยัยการ์ตูนที่ได้ยินดังนั้นก็หงายหน้าขึ้นมามองหน้าพูอย่างเครียดแค้น

"ถ้าไม่เต็มใจก็ไม่ต้องพูด!" ยัยการ์ตูนตะหวาดพูกลับก่อนจะฟุบหน้าลงกับโต๊ะ

"ยัยเตี้ย" พูพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินต่อไปนั่งข้างหลังพวกเรา

"ไอบ้าหน้าเห่ยเอ่ย"  ยัยการ์ตูนพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆแต่พอฟังชัดได้ความ ฉันที่นั่งอยู่ข้างๆก็อดที่จะขำไม่ได้ ที่เจอคนที่สามารถมาสยบนางพญาจอมหยิ่งอย่างการ์ตูนได้ ฉันนับถือนายจริงๆเลยพู

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
3.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา