สามใจหนึ่งฝัน
8.2
เขียนโดย api3api
วันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 23.52 น.
27 ตอน
2 วิจารณ์
27.12K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 09.10 น. โดย เจ้าของนิยาย
10) ตอนพิเศษ ศึก20ทมิฬ(ตอนต้น)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความในหมู่บ้านป่าซึ่งอยู่ติดกับอุทธยานแห่งชาติผู้คนต่างคึกคักเนื่องจากมีหมอคนใหม่จากกรุงเทพมาประจำที่อนามัยชนบทแห่งนี้ ทำใมถึงคึกคักน่ะเหรอ จะอะไรซะอีกก็เพราะหมอทั้งสาวและสวยน่ะสิ
ชุติพร หรือ ตุ๊ก หมอสาววัยยี่สิบสองในชุดกาวน์สีขาวสวมทับเสื้อแขนสั้นกลัดกระดุมดูสุภาพ กระโปรงสั้นเลยเข่าดูโฉบเฉี่ยวเข้ากับผมสั้นซอยของเธอซึ่งแปลกตาคนในหมู่บ้านไม่น้อยกำลังทำแผลให้หนุ่มอุทธยานอย่างเบามือ
"หนึ่งแผล สองแผล วันนี้ก็ปาไปสามแล้ว หมอสงสัยนะว่าคุณนี่เป็นแม่เหล็กดึงดูดของมีคมรึเปล่า พยัค"
ชายหนุ่มเบ้ปากนิ่งให้หมอสาวเย็บแผลโดยไม่บ่นสักนิด
"เสร็จแล้วจ้ะ ไปรับยาได้แล้ว"
"โอ้ย"
ชายหนุ่มสะดุ้งเบาๆเนื่องจากชุติพรตบเบาๆไกล้แผล เขาลุกแล้วเอาเสื้อเจ้าหน้าที่มาใส่แบบลวกๆ เขาเดินออกมาที่ประตู
"เอ้อเดี๋ยวก่อน"
ชายหนุ่มหยุดหันมองมาที่หมอคนสวยซึ่งตอนนี้ยืนยิ้มน่ารัก
"ถ้ามาหาหมอบ่อยอย่างนี้ ต่อไปจะเหมาว่ามาจีบหมอนะ"
ชายหนุ่มเบ้ปากรีบเดินออกจากห้องหมอสาวหัวเราะคิกๆเมื่อเห็นดังนั้น
----------------------------
"เฮ้ยเป็นไงบ้างวะ หมอกรุงเทพ พยัค"
ไสวทักเพื่อนที่พึ่งเดินลงจากอนามัยด้วยหน้าบึ้งตึง
"ก็ธรรมดา มีหู มีปาก กูว่ากินข้าวเหมือนเรานี่แหละ"
"อะไรวะ เราก็อุตสาห์ถามดีๆ เออนี่ ได้ยินเขาพูดกันนะว่า ที่แกมาบ่อยๆนี่เพราะมาจีบหมอ"
"เขาน่ะใคร" ชายหนุ่มหันขวับด้วยความอารมเสียแต่ต้องสะดุดเพราะเจ็บแผล
ไสวหัวเราะชอบใจเขากอดคอเพื่อนอย่างสนิทสนม
"ทุกคนน่ะแหละ ข้าว่ามันคงถึงหูหมอแล้ว"
ทั้งสองเดินตามทางเพื่อกลับอุทธยานเวลาเดียวกันกับรถหนังกลางแปลงผ่านมาพอดี
"พ่อแม่พี่น้องทุกท่านคืนนี้ท่านจะได้พบกับ ภาพยนต์คุณภาพเรื่อง ใหญ่ฟัดโลก นำแสดงโดย เฉินหลวง หวงตี๋ และ อู้ม่งต่ะ ขอเชิญที่ท้องนาผู้ใหญ่มาครับผม"
รถประกาศออกทางลำโพงโทรโข่งผ่านสองหนุ่มไป ไสวมองด้วยความตื่นเต้น
"อยากไปว่ะ แต่ไม่มีสาวไปด้วย จะไปกับเอ็ง เอ็งก็มีหมอไปด้วยอยู่แล้ว ชิ"
ไสวพูดไปส่ายหัวไป ไม่ช้าไสวก็โดนพยัคเตะก้นเต็มแรง
"ขืนเอ็งพูดอีกข้าโกรธนะโว้ย เพื่อนเลว"
ไสวหัวเราะเสัยงดัง "ไอ้นี่มีเขินเว้ย"พยัคถอนหายใจเพราะรู้นิสัยขี้เล่นของเพื่อนดี
ยังไม่ถึงอุทธยานดีก็มีวิทยุ วอ เข้ามาที่วิทยุของพยัค
"ไสว วิ่ง เกิดเรื่องแล้ว"
-----------------------------------------------
กลางดึกคืนนั้นหน่วยลาดตะเวนพร้อมอาวุธครบมือสิบคนเข้าป่าอย่างรวดเร็วเนื่องจากได้มีรายงานว่าพบศพช้างป่าเพศผู้ถูกฆ่าเอางา
พยัคนำทีมลัดเลาะป่าอย่างคล่องแคล่วจนมาถึงที่ที่หนึ่งเขาก็เห็นความผิดปกติ เขาจึงส่งสัญญานให้ทุกคนหยุด พยัคแหวกพุ่มไม้กอหญ้าออกและตรงไปทางนั้น เมื่อถึงที่หมายเข่าของเขาก็แทบทรุด
ซากช้างป่า สิบเชือก นอนตายกันเกลื่อนทั้งหมดมีทั้งเพศผู้และเพศเมีย งาของเพศผู้นั้นโดนตัดออกไป
พยัคน้ำกัดฟันกรอดสะเทือนใจอย่างมาก หน่วยลาดตะเวนจึงรีบเข้าไปตรวจหาหลักฐาน
ไอ้เป็ด ผู้ชำนาญด้านพันธุ์ไม้เขาล้วงเข้าไปใต้งวงช้างเจอของบางอย่าง
"หัวหน้าพยัค มาดูนี่"
พริบตาเดี๋ยวที่ทุกคนหันไป ซากช้างเชือกนั้นก็เกิดระเบิดอย่างรุนแรง แรงระเบิดฉีกร่างของเป็ดแทบไม่เหลือซาก ส่วนคนอื่นๆบริเวณไกล้เคียงกระเด็นคนละทิศทาง พยัคลุกขึ้นได้จะวิ่งเข้าไปจุดรัเบิดไสวกระโดดคว้าตัวไว้
"เฮ้ยใจเย็นๆสิวะ อาจจะมีระเบิดลูกอื่นฝังไว้อีก พยัคเราทำอะไรไม่ได้้แล้ว"
พยัคอ่อนลงเขาแกะมือของไสวออกบอกว่าไม่เป็นไร เขาจึงเดินเข้าไปอย่างระวัง และเก็บของบางอย่างเข้ากระเป๋า
คืนนั้นหน่วยลาดตะเวนบาดเจ็บได้เลือดได้แผลกันทุกคนเมื่อกลับมาถึงอุทธยานหมอชุติพรก็เตรียมตัวรออยู่แล้ว
พยัคให้ลูกน้องรักษาตัวก่อนเมื่อเขาสำรวจตัวเองดีๆก็เห็นว่าแผลสะเก็ดระเบิดมีอยู่หลายแผล
หมอชุติพรเมื่อรักษาให้คนอื่นเรียบร้อยแล้วก็รีบมาฉุดแขนพยัคเข้าห้องพยาบาล
"ทางอุทธยานเรียกฉันมา ถอดเสื้อออกฉันจะทำแผล"
พยัคถอดเสื้อด้วยอาการเหม่อ ปล่อยให้หมอเย็บแผล
"หมอทำใมเงียบนักล่ะ พูดอย่างเคยสิได้ใหม"
ชุติพรเห็นพยัคอยู่ในอาการเศร้าเธอก็รู้สึกเศร้าตามไปด้วย
"เธอเป็นแม่เหล็กจริงๆด้วยล่ะพยัค"
พยัคสะอื้นเขาไม่อายเลยที่จะแสดงความอ่อนแอต่อหน้าหญิงสาว
"หมอไปกับผมใหม ไปดูหนังกับผมใหม"
หมอสาวยิ้มและพยักหน้าในใจตอนนี้เธอไม่อยากเห็นคนคนนี้เศร้าเลย เธอกุมมือชายหนุ่มไว้แน่น
++++++++++++++++++++++
หนังกลางแปลง ชาวบ้านให้ความสนใจมารับชมกันเป็นจำนวนมาก ชุติพรนั่งชิดพยัคที่นั่งมองเหม่อไปทางจอหนังที่กำลังฉาย
<อาเต้อส่งกระสุนมาเร็ว><ปังปังปัง>
หนังดำเนินไปด้วยความเข้มข้น จนมาถึงฉากระเบิดชุติพรก็เห็นพยัคน้ำตาไหลพรากออกมา
"กลับกันเถอะพยัค"
ชายหนุ่มพยัคหน้า ทั้งสองเดินตามลำห้วยิด้วยแสงจันกระจ่างฟ้าจึงทำให้ดูสว่าง ชุติพรจึงจูงมือพยัคไปนั่งริมห้วย
"คืนนี้พระจันทร์สวย มองสิ"
พยัคนั่งลงเขามองไปบนฟ้าสายตาดูเคว้งคว้าง
"ลูกน้องผมตายต่อหน้าผม ร่างเขาทีฉีกออกมันติดตาผมไม่หาย ผมผิดเอง"
ชายหนุ่มน้ำตาไหลออกมาอีกครั้งหมอสาวส่ายหน้า
แล้วโอบกอดชายหนุ่มจากด้านหลัง
"เชื่อเรานะ พยัคไม่ผิด พยัคไม่ต้องแบกรับมันไว้คนเดียว"
พยัคร้องให้ออกมาอย่างไม่อายโดยมีสาวสวยคอยปลอบอยู่ข้างกาย
"เราจะอยู่ข้างนาย ตลอดไป ไม่ต้องกลัวนะ"
คืนนี้แสงจันทร์กระจ่างฟ้าเปรียบเสมือนว่าเป็นพยานให้ทั้งสองคน คืนนี้พยัคเลือกที่จะให้อ้อมกอดอันอบอุ่นของหญิงสาวปลอบประโลม
----------------------------
ชุติพร หรือ ตุ๊ก หมอสาววัยยี่สิบสองในชุดกาวน์สีขาวสวมทับเสื้อแขนสั้นกลัดกระดุมดูสุภาพ กระโปรงสั้นเลยเข่าดูโฉบเฉี่ยวเข้ากับผมสั้นซอยของเธอซึ่งแปลกตาคนในหมู่บ้านไม่น้อยกำลังทำแผลให้หนุ่มอุทธยานอย่างเบามือ
"หนึ่งแผล สองแผล วันนี้ก็ปาไปสามแล้ว หมอสงสัยนะว่าคุณนี่เป็นแม่เหล็กดึงดูดของมีคมรึเปล่า พยัค"
ชายหนุ่มเบ้ปากนิ่งให้หมอสาวเย็บแผลโดยไม่บ่นสักนิด
"เสร็จแล้วจ้ะ ไปรับยาได้แล้ว"
"โอ้ย"
ชายหนุ่มสะดุ้งเบาๆเนื่องจากชุติพรตบเบาๆไกล้แผล เขาลุกแล้วเอาเสื้อเจ้าหน้าที่มาใส่แบบลวกๆ เขาเดินออกมาที่ประตู
"เอ้อเดี๋ยวก่อน"
ชายหนุ่มหยุดหันมองมาที่หมอคนสวยซึ่งตอนนี้ยืนยิ้มน่ารัก
"ถ้ามาหาหมอบ่อยอย่างนี้ ต่อไปจะเหมาว่ามาจีบหมอนะ"
ชายหนุ่มเบ้ปากรีบเดินออกจากห้องหมอสาวหัวเราะคิกๆเมื่อเห็นดังนั้น
----------------------------
"เฮ้ยเป็นไงบ้างวะ หมอกรุงเทพ พยัค"
ไสวทักเพื่อนที่พึ่งเดินลงจากอนามัยด้วยหน้าบึ้งตึง
"ก็ธรรมดา มีหู มีปาก กูว่ากินข้าวเหมือนเรานี่แหละ"
"อะไรวะ เราก็อุตสาห์ถามดีๆ เออนี่ ได้ยินเขาพูดกันนะว่า ที่แกมาบ่อยๆนี่เพราะมาจีบหมอ"
"เขาน่ะใคร" ชายหนุ่มหันขวับด้วยความอารมเสียแต่ต้องสะดุดเพราะเจ็บแผล
ไสวหัวเราะชอบใจเขากอดคอเพื่อนอย่างสนิทสนม
"ทุกคนน่ะแหละ ข้าว่ามันคงถึงหูหมอแล้ว"
ทั้งสองเดินตามทางเพื่อกลับอุทธยานเวลาเดียวกันกับรถหนังกลางแปลงผ่านมาพอดี
"พ่อแม่พี่น้องทุกท่านคืนนี้ท่านจะได้พบกับ ภาพยนต์คุณภาพเรื่อง ใหญ่ฟัดโลก นำแสดงโดย เฉินหลวง หวงตี๋ และ อู้ม่งต่ะ ขอเชิญที่ท้องนาผู้ใหญ่มาครับผม"
รถประกาศออกทางลำโพงโทรโข่งผ่านสองหนุ่มไป ไสวมองด้วยความตื่นเต้น
"อยากไปว่ะ แต่ไม่มีสาวไปด้วย จะไปกับเอ็ง เอ็งก็มีหมอไปด้วยอยู่แล้ว ชิ"
ไสวพูดไปส่ายหัวไป ไม่ช้าไสวก็โดนพยัคเตะก้นเต็มแรง
"ขืนเอ็งพูดอีกข้าโกรธนะโว้ย เพื่อนเลว"
ไสวหัวเราะเสัยงดัง "ไอ้นี่มีเขินเว้ย"พยัคถอนหายใจเพราะรู้นิสัยขี้เล่นของเพื่อนดี
ยังไม่ถึงอุทธยานดีก็มีวิทยุ วอ เข้ามาที่วิทยุของพยัค
"ไสว วิ่ง เกิดเรื่องแล้ว"
-----------------------------------------------
กลางดึกคืนนั้นหน่วยลาดตะเวนพร้อมอาวุธครบมือสิบคนเข้าป่าอย่างรวดเร็วเนื่องจากได้มีรายงานว่าพบศพช้างป่าเพศผู้ถูกฆ่าเอางา
พยัคนำทีมลัดเลาะป่าอย่างคล่องแคล่วจนมาถึงที่ที่หนึ่งเขาก็เห็นความผิดปกติ เขาจึงส่งสัญญานให้ทุกคนหยุด พยัคแหวกพุ่มไม้กอหญ้าออกและตรงไปทางนั้น เมื่อถึงที่หมายเข่าของเขาก็แทบทรุด
ซากช้างป่า สิบเชือก นอนตายกันเกลื่อนทั้งหมดมีทั้งเพศผู้และเพศเมีย งาของเพศผู้นั้นโดนตัดออกไป
พยัคน้ำกัดฟันกรอดสะเทือนใจอย่างมาก หน่วยลาดตะเวนจึงรีบเข้าไปตรวจหาหลักฐาน
ไอ้เป็ด ผู้ชำนาญด้านพันธุ์ไม้เขาล้วงเข้าไปใต้งวงช้างเจอของบางอย่าง
"หัวหน้าพยัค มาดูนี่"
พริบตาเดี๋ยวที่ทุกคนหันไป ซากช้างเชือกนั้นก็เกิดระเบิดอย่างรุนแรง แรงระเบิดฉีกร่างของเป็ดแทบไม่เหลือซาก ส่วนคนอื่นๆบริเวณไกล้เคียงกระเด็นคนละทิศทาง พยัคลุกขึ้นได้จะวิ่งเข้าไปจุดรัเบิดไสวกระโดดคว้าตัวไว้
"เฮ้ยใจเย็นๆสิวะ อาจจะมีระเบิดลูกอื่นฝังไว้อีก พยัคเราทำอะไรไม่ได้้แล้ว"
พยัคอ่อนลงเขาแกะมือของไสวออกบอกว่าไม่เป็นไร เขาจึงเดินเข้าไปอย่างระวัง และเก็บของบางอย่างเข้ากระเป๋า
คืนนั้นหน่วยลาดตะเวนบาดเจ็บได้เลือดได้แผลกันทุกคนเมื่อกลับมาถึงอุทธยานหมอชุติพรก็เตรียมตัวรออยู่แล้ว
พยัคให้ลูกน้องรักษาตัวก่อนเมื่อเขาสำรวจตัวเองดีๆก็เห็นว่าแผลสะเก็ดระเบิดมีอยู่หลายแผล
หมอชุติพรเมื่อรักษาให้คนอื่นเรียบร้อยแล้วก็รีบมาฉุดแขนพยัคเข้าห้องพยาบาล
"ทางอุทธยานเรียกฉันมา ถอดเสื้อออกฉันจะทำแผล"
พยัคถอดเสื้อด้วยอาการเหม่อ ปล่อยให้หมอเย็บแผล
"หมอทำใมเงียบนักล่ะ พูดอย่างเคยสิได้ใหม"
ชุติพรเห็นพยัคอยู่ในอาการเศร้าเธอก็รู้สึกเศร้าตามไปด้วย
"เธอเป็นแม่เหล็กจริงๆด้วยล่ะพยัค"
พยัคสะอื้นเขาไม่อายเลยที่จะแสดงความอ่อนแอต่อหน้าหญิงสาว
"หมอไปกับผมใหม ไปดูหนังกับผมใหม"
หมอสาวยิ้มและพยักหน้าในใจตอนนี้เธอไม่อยากเห็นคนคนนี้เศร้าเลย เธอกุมมือชายหนุ่มไว้แน่น
++++++++++++++++++++++
หนังกลางแปลง ชาวบ้านให้ความสนใจมารับชมกันเป็นจำนวนมาก ชุติพรนั่งชิดพยัคที่นั่งมองเหม่อไปทางจอหนังที่กำลังฉาย
<อาเต้อส่งกระสุนมาเร็ว><ปังปังปัง>
หนังดำเนินไปด้วยความเข้มข้น จนมาถึงฉากระเบิดชุติพรก็เห็นพยัคน้ำตาไหลพรากออกมา
"กลับกันเถอะพยัค"
ชายหนุ่มพยัคหน้า ทั้งสองเดินตามลำห้วยิด้วยแสงจันกระจ่างฟ้าจึงทำให้ดูสว่าง ชุติพรจึงจูงมือพยัคไปนั่งริมห้วย
"คืนนี้พระจันทร์สวย มองสิ"
พยัคนั่งลงเขามองไปบนฟ้าสายตาดูเคว้งคว้าง
"ลูกน้องผมตายต่อหน้าผม ร่างเขาทีฉีกออกมันติดตาผมไม่หาย ผมผิดเอง"
ชายหนุ่มน้ำตาไหลออกมาอีกครั้งหมอสาวส่ายหน้า
แล้วโอบกอดชายหนุ่มจากด้านหลัง
"เชื่อเรานะ พยัคไม่ผิด พยัคไม่ต้องแบกรับมันไว้คนเดียว"
พยัคร้องให้ออกมาอย่างไม่อายโดยมีสาวสวยคอยปลอบอยู่ข้างกาย
"เราจะอยู่ข้างนาย ตลอดไป ไม่ต้องกลัวนะ"
คืนนี้แสงจันทร์กระจ่างฟ้าเปรียบเสมือนว่าเป็นพยานให้ทั้งสองคน คืนนี้พยัคเลือกที่จะให้อ้อมกอดอันอบอุ่นของหญิงสาวปลอบประโลม
----------------------------
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ