[Fic Fairy Tail] ปาฎิหาริย์รัก
8.6
เขียนโดย ouy28
วันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 14.54 น.
32 ตอน
3 วิจารณ์
65.30K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 20.00 น. โดย เจ้าของนิยาย
27) 27 เจอกันครั้งแรก 'มังกรไฟ'
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ27
เจอกันครั้งแรก
'มังกรไฟ'
"ทำไมนัตสึมันได้มังกรง่ายกว่าฉันฟร้ะ" เขาต้องเจ็บตัว ถึงจะได้ฟรอชมาเป็นคู่หูนะ แต่นัตสึมันแค่ให้อาหารกับเล่านิทานให้ เจ้ามังกรแฮปปี้ก็เลือกเป็นนายซะงั้น
"ฉันจะไปรู้หรอ" นัตสึโวยขึ้น "งั้นต่อไปก็ให้เอลซ่าเล่าสิ ได้เป็นนายหลังฉันไม่กี้วันเองนี่"
"จะเอางั้นหรอ ก็ได้อยู่น่ะ แต่ขอกินข้าวก่อนแล้วกัน นี่มันจะสามโมงเช้าแล้วน่ะ ยังไม่ได้กินอะไรเลย" เอลซ่าพูดไปท้องร้องไปด้วย
"นั้นสิน่ะ จะว่าไปก็ใช่ งั้นไปกินข้าวกันเถอะ ฉันเตรียมไว้แล้ว" ลูซี่พูดขึ้นแล้วเดินนำไปห้องครัว "กับข้าวเย็นหมดแล้วอะ งั้นฉันอุ่นก่อนน่ะ"
"เดี๋ยวฉันช่วยน่ะ" เกรย์เดินตามเข้าไปในครัว "จะให้ฉันอุ่นอันไหนให้ล่ะ" เกรย์มองอาหารบนโต๊ะแล้วลายตา มันมีอยู่สิบกว่าอย่าง ทำให้เกรย์ไม่รู้ว่าจะอุ่นอันไหนก่อนดี
"งั้นนายเอาไปอุ่นสักสี่จานน่ะ เนื้อย่างสองจานนี่ไม่ต้องอุ่นหรอก เดี๋ยวมันจะสุกแล้วฟรอชกับแฮปปี้จะไม่กิน ส่วนที่เหลือฉันอุ่นเอง"
"ได้" เกรย์มองอาหารสี่ที่ตนต้องเอาไปอุ่น ส่วนที่เหลืออีกห้าจานลูซี่เป็นคนเอาไปอุ่น
เกรย์อุ่นอาหารที่ลูซี่ให้อุ่นเสร็จหมดแล้ว แต่ลูซี่ยังไม่เสร็จเลย แค่อุ่นอาหารทำไม่นานนักน่ะ เกรย์ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ จนรู้ว่าลูซี่กำลังปรุงรสให้กับอาหารจานสุดท้ายอยู่ สงสัยรสชาติมันจะเปลี่ยนมั้งถ้าอุ่นใหม่มั้ง?
"อร่อยยัง" เกรย์กระซิบที่ข้างหูของลูซี่ ทำให้ลูซี่ตกใจ กะจะถอยหนี แต่ดังสะดุดขาเกรย์จนทำให้ล้มลงไปทั้งคู่
ตอนนี้เกรย์กำลังนอนคร่อมลูซี่อยู่ ลมหายใจสัมผัสถึงกันและกัน ทำให้ลูซี่ที่หลับตาอยู่รู้สึกขึ้นลมหายใจอุ่นๆ กำลังรดใบหน้าอยู่ ลูซี่ลืมตาขึ้น แล้วพบว่าใบหน้าของตัวเองและของเกรย์อยู่ใกล้กันมากแค่ไหน ลูซี่หน้าแดงขึ้นมาทันที เกรย์ที่ตอนนี้กำลังคร่อมลูซี่อยู่ สบตากับลูซี่ ยกมือขึ้นมาแล้วเกลี่ยผมของลูซี่ที่ปกหน้าออก ใบหน้าของทั้งสองเลื่อนเข้าหากัน โดยไม่ต้องนัดหมาย แต่แล้ว ลูซี่ก็ได้กลิ่นแปลกๆ
"เกรย์ นายได้กลิ่นเหมือนฉันไหม"
"กลิ่น? อือ หอมดี เธอใช้น้ำหอมกลิ่นอะไรเนี่ย" เกรย์ที่ตอนนี้กำลังหลงอยู่ในบทรักเมื่อครู่ตอบลูซี่ไป จนโดนลูซี่เขกกะโหลกหนึ่งที จึงได้สติกลับมา
"ใช่ที่ไหนกันเล่า กลิ่นนี้มันเหมือนกับกลิ่น..." เกรย์ที่หลุดจากบนรักเมื่อครู่ แล้วก็ได้กลิ่นแปลกๆ เหมือนลูซี่ จากนั้นก็พูดพร้อมกับลูซี่ว่า "ผัดในกระทะ" ว่าเสร็จก็รีบลุกขึ้นดู ตอนนี้สิ่งที่อยู่ในกระทะ ได้กลายเป็นขี้เถ้าไปแล้ว
"เฮ้อออ งั้นก็กินที่เหลือก็แล้วกัน ส่วนนี้ฉันจะเอาไปล้างเอง"
"ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันล้างเอง เธอไปตามคนอื่นๆ เถอะ" พูดเสร็จก็หยิบกระทะแล้วเอาไปล้าง
"อือ เข้าใจแล้ว"
อาหารถูจัดวางไว้อย่างเรียบง่าย ตอนนี้ทุกคนเข้ามานั่งตรงจุดของตัวเองแล้ว แฮปปี้และฟรอชที่เพิ่งมาใหม่ มีที่นั่งเหลืออยู่ที่เดียว ทำให้เกรย์ต้องจับฟรอชนั่งตัก ส่วนแฮปปี้นั้นนั่งข้างนัตสึ ทั้งหมดลงมือกินอาหารมื้อเช้า(ตอนสาย)กัน แฮปปี้เป็นพวกกินจุ ส่วนฟรอชนั้น กินจุยกกำลังสอง เพราะเหตุนั้นทำให้เนื้อย่างที่เตรียมไว้ตัวล่ะสองชิ้น(ชิ้นนึงหนักประมาณยี่สิบกิโล)หายไปในชั่วพลิบตาเดียว(แค่ของฟรอชอย่างเดียวน่ะที่หมด ส่วนแฮปปี้ยังเหลืออีกก้อนนึง)และนั้นทำให้อาหารจานอื่นๆ ที่อยู่บนโต๊ะ ถูกมังกรหนึ่งตัวเอาไปกิน นั้นทำให้อาหารบนโต๊ะเหลืออยู่แปดจาน ทุกคนมองหน้ากัน สบตากันสักพักก็ ทุกคนก็หยิบจานที่ใกล้ตัวที่สุดมาเป็นของตัวเอง เนื่องจากบนโต๊ะอาหารมีอาหารอยู่แค่แปดจาน ทำให้ต้องมีหนึ่งคนที่หยิบไม่ทัน คนคนนั้นก็คือลูซี่(ป.ล. บนโต๊ะมี เกรย์ ลูซี่ นัตสึ เอลซ่า เจราล เวนดี้ ฟอล์ส ชูการ์บอยและมิเลียน่า ส่วนซิลเวอร์ออกไปไหนไม่รู้ ตั้งแต่เช้า)
ลูซี่ตกใจเป็นไก่ตาแตก เพิ่งเคยเห็นอาหารหายไปในเวลา ศูนย์จุดศูนย์หนึ่งวินาทีนี้เป็นครั้งแรก เกรย์ที่อยู่ใกล้ๆ เห็นเลยเอาจานที่ตนหยิบได้ยกให้ลูซี่ แล้วหันมาแย่งอาหารกับฟรอช จนโดนฟรอชกัดที่นิ้วเพราะนึกว่าเป็นเนื้อย่าง พอฟรอชตั้งสติได้ก็หันไปมองป๊ะป๋าของมันแล้วทำตาปริบๆ แบบสำนึกผิด แล้วยกจานที่เหลืออาหารอยู่หนึ่งในสามส่วนให้เกรย์ แต่เกรย์ปฏิเสธเพราะกลัวฟรอชจะไม่อิ่ม
แต่ฟรอชคิดว่าป๊ะป๋าโกธรมันจนไม่ยอมกินอาหารที่มันให้ เลยปล่อยโฮออกมา ทำให้เกรย์ต้องปลอบยกใหญ่ เพราะถ้าปล่อยไว้นาน ฟรอชอาจหิวอีก นั้นไม่ดีแน่ เพราะในตู้เก็บความเย็นไม่มีอะไรเหลือเลย
หลังจากที่ปลอบจนฟรอชเลิกร้องไห้(เพราะฟรอชบอกให้กินอาหารที่มันแบ่งให้ก่อน ถึงจะไม่ร้อง)ทุกคนก็พาตัวเองมาอยู่กันในห้องนั่งเล่นอีกครั้ง(มีแค่เกรย์ นัตสึ เอลซ่า ลูซี่ เวนดี้ แฮปปี้และฟ็ฟรอชที่อยู่ตั้งแต่แรก และก็เพิ่มเจราวมาอีกคน)เมื่อมาถึงเอลซ่าก็เริ่มบรรยายเรื่องราวของตน
"เอาล่ะ ฉันจะเล่าบ้างล่ะน่ะ เรื่องมันเริ่มจากที่นัตสึได้มังกรน้ำเป็นคู่หู (เนื่องจากเป็นสัตว์พาหนะของนักเวน สิ่งไม่ใช่อัศวิน จึงเรียกอีกชื่อว่าคู่หู) แล้วพวกฉันก็เลยไม่ไต้องทำงานพิเศษ เพื่อหาคาเรียนอีก ก็เลยไม่มีอะไรให้ทำในช่วงที่ต้องทำงาน แต่ไม่ได้ทำ ก็เลยว่างมาก จนได้ไปเจอกับ..."
มหาลัยแฟรี่เทล
ที่หอพักรวมของ(แผนกนักเวทย์ใน)มหาลัยแฟรี่เทล เนื่องจากที่หอพักของมหาวัยแฟรี่เทลยังไม่มีหอหญิง ทำให้ผู้หญิงต้องนอนในหอชาย และดูเหมือนทางมหาลัยแฟรี่เทลเองจะไม่สร้างหอหญิงขึ้นด้วยในแผนกนักเวทย์ เพราะมีผู้หญิงอยู่ไม่ถึงห้าสิบคน(ทั้งที่แผนกอัศวิน และนักรบสวมเกราะมี)และเพราะที่หอพักของแผนกนักเวทย์นั้นเป็นหอรวม ทำให้ทุกคนสามารถเข้าออกที่นี่ได้อย่างอิสระ และก็เป็นสาเหตุของเรื่อง
หลังจากที่ได้เข้ามาเรียนที่มหาลัยแฟรี่เทลแห่งนี้ได้เพียงหกเดือนวีระกรรมของเอลซ่าพร้อมกับชื่อเสียง ฉายาที่ทุกคนกล่าวขานว่า 'นักเวทย์สวมเกราะ' วีระกรรมของเธอนั้นโด่งดังในแผนกนักเวทย์และแผนกนักรบสวมเกราะ เพราะเอลซ่าสามารถใช้เวทมนต์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันได้ อย่างเช่น เวทย์เรียกไฟ น้ำ แสง และเอลซ่ายังสามารถควบคุมหุ่นรบได้เป็นอย่างดี แต่ด้วยฐานะที่ไม่สู้ดีของเอลซ่า ทำให้เธอเลือกเรียนแผนกนักเวทย์(ก็แผนกนักรบสวมเกราะมันใช่เงินมาก เพราะต้องซื้อเกราะหรือหุ่นรบเกราะกลและอุปกรณ์สำหรับเก็บบำรุงรักษาเกราะอีก)
เอลซ่าถือเป็นขวัญใจของนักเวทย์ทั้งชายและหญิง เพราะแผนกนักเวทย์นั้นมักจะโดนแผนกนัรบสวมเกราะหาเรื่อง และถูกแผนกอัศวินดูหมิ่นเหยียดหยาม แต่เพราะเอลซ่าเป็นคนเข้ากับคนอื่นง่าย ทำให้มีเพื่อนทั้งในแผนกนักเวทย์ นักรบสวมเกราะและอัศวิน แต่ส่วนมากจะเป็นแผนกอัศวินมากกว่า เพราะเธอเคยช่วยสู้กับอัศวินดาวน้ำเงิน ส่วนทางนักรบสวมเกราะนั้น ก็มีเพียงบางกลุ่มที่พอจะคุยกับเอลซ่าได้
แต่ส่วนที่ไม่คิดจะคุยกับเอลซ่านั้น ก็จะได้เจอไม้ตายของเอลซ่า เช่น ในตอนเย็นไปหาเรื่องเอลซ่า พอถึงตอนเช้าก็จะพบว่า หุ่นรบของตนไม่สมประกอบ ปีกหายบ้าง อุปกรณ์ควบคุมหุ่นหายบ้าง เก้าอี้ที่ใช่นั่งควบคุมหายบ้าง แม้แต่แบตรเตอร์รี่ก็ยังไม่เว้ย จนตอนนี้เอลซ่าสามารถสร้างหุ่นรบของตัวเองได้แล้ว ถึงรูปร่างจะดูแปลกประหลายไป...เยอะก็ตาม
"เอลซ่า!"
ทางด้านหลังของเอลซ่านั้นคืออัศวินดาวฟ้าสองคน คนหนึ่งมีสัตว์พาหนะ ส่วนอีกคนไม่มี และดูเหมือนคนที่ไม่มีสัตว์พาหนะนั้น กำลังเกลี้ยกล่อมไม่ให้เพื่อนอัศวินหาเรื่องเอลซ่า แต่ดูเหมือนจะไม่สำเร็จ
"เฮ้อ ช่างนายแล้วกัน งั้นฉันไปเตรียมห้องพยาบาลให้น่ะ" เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมาจากปากเพื่อน ทำให้คนรอบข้างหลุดหัวเราะออกมา อัศวินที่ถูกหัวเราะเยาะหันไปถลึงตาใส่เพื่อนด้วยความโมโห
"ฉันมอร์ฟราน อัศวินดาวฟ้า ขอท้าประรองกับเธอ"
"ฉันเอลซ่า นักเวนทย์ (บวกนักรบด้วย) ขอรับคำท้า" พูดเสร็จเอลซ่าก็ชูไม้กายาสิทธิ์ออกมา แล้วร่ายเวทย์ จากนั้นก็ปรากฎหลุมดำขนาดเท่าตัวคน เอลซ่าก้มลงไปหยิบอะไรสักอย่างออกมา ทำให้โอกาสอันดีงามนี่ตกเป็นของมอร์ฟราน มอร์ฟรานยกดาบในมือขึ้นแล้วตรงไปหาเอลซ่า แต่ถูกเอลซ่าถีบออกไป แต่ก็ยังคงทิ้งรอยแผลเอาไว้ที่ไหลซ้ายของเอลซ่า
เมื่อเอลซ่าหยิบของที่ต้องการเสร็จก็เอามันออกมาจากหลุมดำ แล้วหลุมดำนั้นก็หายไป สิ่งที่อยู่บนมือของเอลซ่า คือชุดเกราะสีเงินวาว เอลซ่าใส่ชุดเกราะนั้นในเวลาไม่ถึงสามสิบนาที เมื่อใส่ชุดเกราะเสร็จก็เริ่งสู้อย่างจริงจัง และที่นักเวทย์ถูกเหยียดหยามนั้นเพราะ นักเวทย์ชอบเล่นที่เผลอ แต่ตอนนี้กลับกันเสียแล้ว เพราะมอร์ฟรานมักหาช่องโหว่และให้สัตว์พาหนะโจมตี แต่เอลซ่าก็หลบได้ ถึงเป็นอย่างนั้นก็ยังได้รับบาดแผลอยู่ดี
เวลาผ่านไปไม่นานก็รู้ผล เอลซ่ายืนด้วยท่าทางที่นิ่งสงบ ส่วนชุดที่ใส่เมื่อครู่นั้นหายไปแล้ว
"ฉะ...ฉันยอมล้ว ฉันยอมแพ้แล้ว" อัศวินมอร์ฟราน กำลังนังคุกเข่าอยู่ตรงหน้าของเอลซ่า เอลซ่ายอมรับ และยกมือขึ้น หวังจะตบไหล ไม่ให้อีกฝ่ายคิดมาก
"เจ้านาย!" มังกรไฟที่ตอนนี้ยืนอยู่ข้างกายของอัศวินมอร์ฟราน ร้องเรียกเจ้านายของมัน แต่กลับมองมาทางเอลซ่า เอลซ่าคิดว่ามันคงนึกว่าเธอจะทำร้ายเจ้านายของมันอีก เลยบอกไปว่า
"ฉันไม่ทำอะไรเจ้านายของเจ้าแล้ว" เอลซ่าตอบด้วยรอยยิ้ม แล้วเอามือลูบหัวของมังกร นั่นทำให้คนรอบข้างอึ้ง เพราะมังกรที่มีเจ้านายแล้ว มันจะไม่ยอมให้ใครแตะต้องมันเด็ดขาด ชับพลันนั้นก็คิดได้
"กฏของอัศวินมังกร ข้อที่ยี่สิบแปด หากอัศวินที่มีสัตว์พาหนะยอมแพ้ให้กับคนที่ไม่มีสัตว์พาหนะ จะทำให้มังกรของอัศวินที่แพ้เลือกนายใหม่ได้ หรือว่า"
ยังไม่ทันขาดคำ เอลซ่าก็ล้มลงกับพื้น แต่มีมังกรไฟรองรับร่างของเอลซ่า และพาเธอกลับไปยังแผนกนักเวทย์ ตอนนี้ทุกอย่างนั่งเงียบสงบ ทุกคนต่างพากันมองไปทางที่มังกรบินออกไป ไม่มีใครสนใจอัศซินที่นอนอยู่ด้านล้างเลย
"อาร์เนฟ รีบพาฉันไม่ห้องพยาบาลเร็ว"
อาร์เนฟได้ยินเพื่อนเรียกจะหันมาช่วยเพื่อน และพาไปห้องพยาบาลปากก็บอกไปว่า "ก็ฉันบอกแล้ว ว่าอย่า นายไม่เชื่อเองนี่ เป็นไง เสียทั้งหน้าทั้งตัว แล้วก็ยังเสียมังกรอีก ฉันไม่รู้จะสมเพชหรือเห็นใจนายดี"
จากนั้นทั้งสองก็เดินไปที่ห้องพยาบาล
เช้าวันต่อมา
เอลซ่าตื่นขึ้นและพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ที่ห้องพักของตัวเอง ข้างกายมีชายยรูปร่างสูง ดูเหมือนจะสูงกว่าเธอนิดหน่ยนอนกอดแขนของเธออยู่
เมื่อมังกรรู้สึกตัวและลืมตาขึ้นก็เห็นเอลซ่ากำลังจ้องตัวเองจึงพูดออกปว่า "เจ้านาย หน้าข้ามีอะไรติดอยู่หรอ"
"จะ...เจ้านาย?"
"ก็เมื่อวาน เจ้านายชนะเจ้านายคนเก่าได้ ข้าเลยได้ท่านมาเป็นเจ้านายใหม่ไง"
เจ้านายใหม่... นี่ฉันทำอะไรลงป้ายยย ไม่ได้การละ ต้องรีบเอาไปคืนให้ไอ้หมอนั้นซะแล้ว
"เจ้านาย ท่านคืนข้าให้กับเจ้านายคนเก่าไม่ได้ เพราะข้าไม่ยินยอม"
"รู้แล้วๆ ไม่คืนก็ไม่คืน"
...แต่ยังไงก็ให้เพื่อนร่วมห้องรู้ไมได้
เจอกันครั้งแรก
'มังกรไฟ'
"ทำไมนัตสึมันได้มังกรง่ายกว่าฉันฟร้ะ" เขาต้องเจ็บตัว ถึงจะได้ฟรอชมาเป็นคู่หูนะ แต่นัตสึมันแค่ให้อาหารกับเล่านิทานให้ เจ้ามังกรแฮปปี้ก็เลือกเป็นนายซะงั้น
"ฉันจะไปรู้หรอ" นัตสึโวยขึ้น "งั้นต่อไปก็ให้เอลซ่าเล่าสิ ได้เป็นนายหลังฉันไม่กี้วันเองนี่"
"จะเอางั้นหรอ ก็ได้อยู่น่ะ แต่ขอกินข้าวก่อนแล้วกัน นี่มันจะสามโมงเช้าแล้วน่ะ ยังไม่ได้กินอะไรเลย" เอลซ่าพูดไปท้องร้องไปด้วย
"นั้นสิน่ะ จะว่าไปก็ใช่ งั้นไปกินข้าวกันเถอะ ฉันเตรียมไว้แล้ว" ลูซี่พูดขึ้นแล้วเดินนำไปห้องครัว "กับข้าวเย็นหมดแล้วอะ งั้นฉันอุ่นก่อนน่ะ"
"เดี๋ยวฉันช่วยน่ะ" เกรย์เดินตามเข้าไปในครัว "จะให้ฉันอุ่นอันไหนให้ล่ะ" เกรย์มองอาหารบนโต๊ะแล้วลายตา มันมีอยู่สิบกว่าอย่าง ทำให้เกรย์ไม่รู้ว่าจะอุ่นอันไหนก่อนดี
"งั้นนายเอาไปอุ่นสักสี่จานน่ะ เนื้อย่างสองจานนี่ไม่ต้องอุ่นหรอก เดี๋ยวมันจะสุกแล้วฟรอชกับแฮปปี้จะไม่กิน ส่วนที่เหลือฉันอุ่นเอง"
"ได้" เกรย์มองอาหารสี่ที่ตนต้องเอาไปอุ่น ส่วนที่เหลืออีกห้าจานลูซี่เป็นคนเอาไปอุ่น
เกรย์อุ่นอาหารที่ลูซี่ให้อุ่นเสร็จหมดแล้ว แต่ลูซี่ยังไม่เสร็จเลย แค่อุ่นอาหารทำไม่นานนักน่ะ เกรย์ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ จนรู้ว่าลูซี่กำลังปรุงรสให้กับอาหารจานสุดท้ายอยู่ สงสัยรสชาติมันจะเปลี่ยนมั้งถ้าอุ่นใหม่มั้ง?
"อร่อยยัง" เกรย์กระซิบที่ข้างหูของลูซี่ ทำให้ลูซี่ตกใจ กะจะถอยหนี แต่ดังสะดุดขาเกรย์จนทำให้ล้มลงไปทั้งคู่
ตอนนี้เกรย์กำลังนอนคร่อมลูซี่อยู่ ลมหายใจสัมผัสถึงกันและกัน ทำให้ลูซี่ที่หลับตาอยู่รู้สึกขึ้นลมหายใจอุ่นๆ กำลังรดใบหน้าอยู่ ลูซี่ลืมตาขึ้น แล้วพบว่าใบหน้าของตัวเองและของเกรย์อยู่ใกล้กันมากแค่ไหน ลูซี่หน้าแดงขึ้นมาทันที เกรย์ที่ตอนนี้กำลังคร่อมลูซี่อยู่ สบตากับลูซี่ ยกมือขึ้นมาแล้วเกลี่ยผมของลูซี่ที่ปกหน้าออก ใบหน้าของทั้งสองเลื่อนเข้าหากัน โดยไม่ต้องนัดหมาย แต่แล้ว ลูซี่ก็ได้กลิ่นแปลกๆ
"เกรย์ นายได้กลิ่นเหมือนฉันไหม"
"กลิ่น? อือ หอมดี เธอใช้น้ำหอมกลิ่นอะไรเนี่ย" เกรย์ที่ตอนนี้กำลังหลงอยู่ในบทรักเมื่อครู่ตอบลูซี่ไป จนโดนลูซี่เขกกะโหลกหนึ่งที จึงได้สติกลับมา
"ใช่ที่ไหนกันเล่า กลิ่นนี้มันเหมือนกับกลิ่น..." เกรย์ที่หลุดจากบนรักเมื่อครู่ แล้วก็ได้กลิ่นแปลกๆ เหมือนลูซี่ จากนั้นก็พูดพร้อมกับลูซี่ว่า "ผัดในกระทะ" ว่าเสร็จก็รีบลุกขึ้นดู ตอนนี้สิ่งที่อยู่ในกระทะ ได้กลายเป็นขี้เถ้าไปแล้ว
"เฮ้อออ งั้นก็กินที่เหลือก็แล้วกัน ส่วนนี้ฉันจะเอาไปล้างเอง"
"ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันล้างเอง เธอไปตามคนอื่นๆ เถอะ" พูดเสร็จก็หยิบกระทะแล้วเอาไปล้าง
"อือ เข้าใจแล้ว"
อาหารถูจัดวางไว้อย่างเรียบง่าย ตอนนี้ทุกคนเข้ามานั่งตรงจุดของตัวเองแล้ว แฮปปี้และฟรอชที่เพิ่งมาใหม่ มีที่นั่งเหลืออยู่ที่เดียว ทำให้เกรย์ต้องจับฟรอชนั่งตัก ส่วนแฮปปี้นั้นนั่งข้างนัตสึ ทั้งหมดลงมือกินอาหารมื้อเช้า(ตอนสาย)กัน แฮปปี้เป็นพวกกินจุ ส่วนฟรอชนั้น กินจุยกกำลังสอง เพราะเหตุนั้นทำให้เนื้อย่างที่เตรียมไว้ตัวล่ะสองชิ้น(ชิ้นนึงหนักประมาณยี่สิบกิโล)หายไปในชั่วพลิบตาเดียว(แค่ของฟรอชอย่างเดียวน่ะที่หมด ส่วนแฮปปี้ยังเหลืออีกก้อนนึง)และนั้นทำให้อาหารจานอื่นๆ ที่อยู่บนโต๊ะ ถูกมังกรหนึ่งตัวเอาไปกิน นั้นทำให้อาหารบนโต๊ะเหลืออยู่แปดจาน ทุกคนมองหน้ากัน สบตากันสักพักก็ ทุกคนก็หยิบจานที่ใกล้ตัวที่สุดมาเป็นของตัวเอง เนื่องจากบนโต๊ะอาหารมีอาหารอยู่แค่แปดจาน ทำให้ต้องมีหนึ่งคนที่หยิบไม่ทัน คนคนนั้นก็คือลูซี่(ป.ล. บนโต๊ะมี เกรย์ ลูซี่ นัตสึ เอลซ่า เจราล เวนดี้ ฟอล์ส ชูการ์บอยและมิเลียน่า ส่วนซิลเวอร์ออกไปไหนไม่รู้ ตั้งแต่เช้า)
ลูซี่ตกใจเป็นไก่ตาแตก เพิ่งเคยเห็นอาหารหายไปในเวลา ศูนย์จุดศูนย์หนึ่งวินาทีนี้เป็นครั้งแรก เกรย์ที่อยู่ใกล้ๆ เห็นเลยเอาจานที่ตนหยิบได้ยกให้ลูซี่ แล้วหันมาแย่งอาหารกับฟรอช จนโดนฟรอชกัดที่นิ้วเพราะนึกว่าเป็นเนื้อย่าง พอฟรอชตั้งสติได้ก็หันไปมองป๊ะป๋าของมันแล้วทำตาปริบๆ แบบสำนึกผิด แล้วยกจานที่เหลืออาหารอยู่หนึ่งในสามส่วนให้เกรย์ แต่เกรย์ปฏิเสธเพราะกลัวฟรอชจะไม่อิ่ม
แต่ฟรอชคิดว่าป๊ะป๋าโกธรมันจนไม่ยอมกินอาหารที่มันให้ เลยปล่อยโฮออกมา ทำให้เกรย์ต้องปลอบยกใหญ่ เพราะถ้าปล่อยไว้นาน ฟรอชอาจหิวอีก นั้นไม่ดีแน่ เพราะในตู้เก็บความเย็นไม่มีอะไรเหลือเลย
หลังจากที่ปลอบจนฟรอชเลิกร้องไห้(เพราะฟรอชบอกให้กินอาหารที่มันแบ่งให้ก่อน ถึงจะไม่ร้อง)ทุกคนก็พาตัวเองมาอยู่กันในห้องนั่งเล่นอีกครั้ง(มีแค่เกรย์ นัตสึ เอลซ่า ลูซี่ เวนดี้ แฮปปี้และฟ็ฟรอชที่อยู่ตั้งแต่แรก และก็เพิ่มเจราวมาอีกคน)เมื่อมาถึงเอลซ่าก็เริ่มบรรยายเรื่องราวของตน
"เอาล่ะ ฉันจะเล่าบ้างล่ะน่ะ เรื่องมันเริ่มจากที่นัตสึได้มังกรน้ำเป็นคู่หู (เนื่องจากเป็นสัตว์พาหนะของนักเวน สิ่งไม่ใช่อัศวิน จึงเรียกอีกชื่อว่าคู่หู) แล้วพวกฉันก็เลยไม่ไต้องทำงานพิเศษ เพื่อหาคาเรียนอีก ก็เลยไม่มีอะไรให้ทำในช่วงที่ต้องทำงาน แต่ไม่ได้ทำ ก็เลยว่างมาก จนได้ไปเจอกับ..."
มหาลัยแฟรี่เทล
ที่หอพักรวมของ(แผนกนักเวทย์ใน)มหาลัยแฟรี่เทล เนื่องจากที่หอพักของมหาวัยแฟรี่เทลยังไม่มีหอหญิง ทำให้ผู้หญิงต้องนอนในหอชาย และดูเหมือนทางมหาลัยแฟรี่เทลเองจะไม่สร้างหอหญิงขึ้นด้วยในแผนกนักเวทย์ เพราะมีผู้หญิงอยู่ไม่ถึงห้าสิบคน(ทั้งที่แผนกอัศวิน และนักรบสวมเกราะมี)และเพราะที่หอพักของแผนกนักเวทย์นั้นเป็นหอรวม ทำให้ทุกคนสามารถเข้าออกที่นี่ได้อย่างอิสระ และก็เป็นสาเหตุของเรื่อง
หลังจากที่ได้เข้ามาเรียนที่มหาลัยแฟรี่เทลแห่งนี้ได้เพียงหกเดือนวีระกรรมของเอลซ่าพร้อมกับชื่อเสียง ฉายาที่ทุกคนกล่าวขานว่า 'นักเวทย์สวมเกราะ' วีระกรรมของเธอนั้นโด่งดังในแผนกนักเวทย์และแผนกนักรบสวมเกราะ เพราะเอลซ่าสามารถใช้เวทมนต์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันได้ อย่างเช่น เวทย์เรียกไฟ น้ำ แสง และเอลซ่ายังสามารถควบคุมหุ่นรบได้เป็นอย่างดี แต่ด้วยฐานะที่ไม่สู้ดีของเอลซ่า ทำให้เธอเลือกเรียนแผนกนักเวทย์(ก็แผนกนักรบสวมเกราะมันใช่เงินมาก เพราะต้องซื้อเกราะหรือหุ่นรบเกราะกลและอุปกรณ์สำหรับเก็บบำรุงรักษาเกราะอีก)
เอลซ่าถือเป็นขวัญใจของนักเวทย์ทั้งชายและหญิง เพราะแผนกนักเวทย์นั้นมักจะโดนแผนกนัรบสวมเกราะหาเรื่อง และถูกแผนกอัศวินดูหมิ่นเหยียดหยาม แต่เพราะเอลซ่าเป็นคนเข้ากับคนอื่นง่าย ทำให้มีเพื่อนทั้งในแผนกนักเวทย์ นักรบสวมเกราะและอัศวิน แต่ส่วนมากจะเป็นแผนกอัศวินมากกว่า เพราะเธอเคยช่วยสู้กับอัศวินดาวน้ำเงิน ส่วนทางนักรบสวมเกราะนั้น ก็มีเพียงบางกลุ่มที่พอจะคุยกับเอลซ่าได้
แต่ส่วนที่ไม่คิดจะคุยกับเอลซ่านั้น ก็จะได้เจอไม้ตายของเอลซ่า เช่น ในตอนเย็นไปหาเรื่องเอลซ่า พอถึงตอนเช้าก็จะพบว่า หุ่นรบของตนไม่สมประกอบ ปีกหายบ้าง อุปกรณ์ควบคุมหุ่นหายบ้าง เก้าอี้ที่ใช่นั่งควบคุมหายบ้าง แม้แต่แบตรเตอร์รี่ก็ยังไม่เว้ย จนตอนนี้เอลซ่าสามารถสร้างหุ่นรบของตัวเองได้แล้ว ถึงรูปร่างจะดูแปลกประหลายไป...เยอะก็ตาม
"เอลซ่า!"
ทางด้านหลังของเอลซ่านั้นคืออัศวินดาวฟ้าสองคน คนหนึ่งมีสัตว์พาหนะ ส่วนอีกคนไม่มี และดูเหมือนคนที่ไม่มีสัตว์พาหนะนั้น กำลังเกลี้ยกล่อมไม่ให้เพื่อนอัศวินหาเรื่องเอลซ่า แต่ดูเหมือนจะไม่สำเร็จ
"เฮ้อ ช่างนายแล้วกัน งั้นฉันไปเตรียมห้องพยาบาลให้น่ะ" เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมาจากปากเพื่อน ทำให้คนรอบข้างหลุดหัวเราะออกมา อัศวินที่ถูกหัวเราะเยาะหันไปถลึงตาใส่เพื่อนด้วยความโมโห
"ฉันมอร์ฟราน อัศวินดาวฟ้า ขอท้าประรองกับเธอ"
"ฉันเอลซ่า นักเวนทย์ (บวกนักรบด้วย) ขอรับคำท้า" พูดเสร็จเอลซ่าก็ชูไม้กายาสิทธิ์ออกมา แล้วร่ายเวทย์ จากนั้นก็ปรากฎหลุมดำขนาดเท่าตัวคน เอลซ่าก้มลงไปหยิบอะไรสักอย่างออกมา ทำให้โอกาสอันดีงามนี่ตกเป็นของมอร์ฟราน มอร์ฟรานยกดาบในมือขึ้นแล้วตรงไปหาเอลซ่า แต่ถูกเอลซ่าถีบออกไป แต่ก็ยังคงทิ้งรอยแผลเอาไว้ที่ไหลซ้ายของเอลซ่า
เมื่อเอลซ่าหยิบของที่ต้องการเสร็จก็เอามันออกมาจากหลุมดำ แล้วหลุมดำนั้นก็หายไป สิ่งที่อยู่บนมือของเอลซ่า คือชุดเกราะสีเงินวาว เอลซ่าใส่ชุดเกราะนั้นในเวลาไม่ถึงสามสิบนาที เมื่อใส่ชุดเกราะเสร็จก็เริ่งสู้อย่างจริงจัง และที่นักเวทย์ถูกเหยียดหยามนั้นเพราะ นักเวทย์ชอบเล่นที่เผลอ แต่ตอนนี้กลับกันเสียแล้ว เพราะมอร์ฟรานมักหาช่องโหว่และให้สัตว์พาหนะโจมตี แต่เอลซ่าก็หลบได้ ถึงเป็นอย่างนั้นก็ยังได้รับบาดแผลอยู่ดี
เวลาผ่านไปไม่นานก็รู้ผล เอลซ่ายืนด้วยท่าทางที่นิ่งสงบ ส่วนชุดที่ใส่เมื่อครู่นั้นหายไปแล้ว
"ฉะ...ฉันยอมล้ว ฉันยอมแพ้แล้ว" อัศวินมอร์ฟราน กำลังนังคุกเข่าอยู่ตรงหน้าของเอลซ่า เอลซ่ายอมรับ และยกมือขึ้น หวังจะตบไหล ไม่ให้อีกฝ่ายคิดมาก
"เจ้านาย!" มังกรไฟที่ตอนนี้ยืนอยู่ข้างกายของอัศวินมอร์ฟราน ร้องเรียกเจ้านายของมัน แต่กลับมองมาทางเอลซ่า เอลซ่าคิดว่ามันคงนึกว่าเธอจะทำร้ายเจ้านายของมันอีก เลยบอกไปว่า
"ฉันไม่ทำอะไรเจ้านายของเจ้าแล้ว" เอลซ่าตอบด้วยรอยยิ้ม แล้วเอามือลูบหัวของมังกร นั่นทำให้คนรอบข้างอึ้ง เพราะมังกรที่มีเจ้านายแล้ว มันจะไม่ยอมให้ใครแตะต้องมันเด็ดขาด ชับพลันนั้นก็คิดได้
"กฏของอัศวินมังกร ข้อที่ยี่สิบแปด หากอัศวินที่มีสัตว์พาหนะยอมแพ้ให้กับคนที่ไม่มีสัตว์พาหนะ จะทำให้มังกรของอัศวินที่แพ้เลือกนายใหม่ได้ หรือว่า"
ยังไม่ทันขาดคำ เอลซ่าก็ล้มลงกับพื้น แต่มีมังกรไฟรองรับร่างของเอลซ่า และพาเธอกลับไปยังแผนกนักเวทย์ ตอนนี้ทุกอย่างนั่งเงียบสงบ ทุกคนต่างพากันมองไปทางที่มังกรบินออกไป ไม่มีใครสนใจอัศซินที่นอนอยู่ด้านล้างเลย
"อาร์เนฟ รีบพาฉันไม่ห้องพยาบาลเร็ว"
อาร์เนฟได้ยินเพื่อนเรียกจะหันมาช่วยเพื่อน และพาไปห้องพยาบาลปากก็บอกไปว่า "ก็ฉันบอกแล้ว ว่าอย่า นายไม่เชื่อเองนี่ เป็นไง เสียทั้งหน้าทั้งตัว แล้วก็ยังเสียมังกรอีก ฉันไม่รู้จะสมเพชหรือเห็นใจนายดี"
จากนั้นทั้งสองก็เดินไปที่ห้องพยาบาล
เช้าวันต่อมา
เอลซ่าตื่นขึ้นและพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ที่ห้องพักของตัวเอง ข้างกายมีชายยรูปร่างสูง ดูเหมือนจะสูงกว่าเธอนิดหน่ยนอนกอดแขนของเธออยู่
เมื่อมังกรรู้สึกตัวและลืมตาขึ้นก็เห็นเอลซ่ากำลังจ้องตัวเองจึงพูดออกปว่า "เจ้านาย หน้าข้ามีอะไรติดอยู่หรอ"
"จะ...เจ้านาย?"
"ก็เมื่อวาน เจ้านายชนะเจ้านายคนเก่าได้ ข้าเลยได้ท่านมาเป็นเจ้านายใหม่ไง"
เจ้านายใหม่... นี่ฉันทำอะไรลงป้ายยย ไม่ได้การละ ต้องรีบเอาไปคืนให้ไอ้หมอนั้นซะแล้ว
"เจ้านาย ท่านคืนข้าให้กับเจ้านายคนเก่าไม่ได้ เพราะข้าไม่ยินยอม"
"รู้แล้วๆ ไม่คืนก็ไม่คืน"
...แต่ยังไงก็ให้เพื่อนร่วมห้องรู้ไมได้
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ