Chronicles Of Legend. ปฐมบทแห่งตำนาน
7.3
เขียนโดย LanzaDeLuZ
วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 19.07 น.
67 chapter
7 วิจารณ์
64.17K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 19.20 น. โดย เจ้าของนิยาย
37) ...เหล่าจอมเวทย์ แห่งปราสาทขาว...(1)...(100%)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ================================================
" ...เป็นเวลากว่าหลายศตวรรษแล้ว ที่ทวีปเกียร์...ซึ่งยืนหยัดอยู่บนเวทีโลก เป็นทวีปที่ทุกประเทศเท่าที่เรารู้จักต่างก็ยอมรับในฐานะ ผู้ชี้นำโลก ซึ่งตำแหน่งที่เราได้มานี้...ฉันเชื่อว่าเราไม่ได้ได้มาเพราะโชคช่วย......แต่เป็นเพราะ ความเชื่อ ...ในอดีตกาลนานมาแล้วเหล่าบรรพบุรุษของเรา....บรรพบุรุษของเราเชื่อว่าสิ่งที่เกิดติดตัวพวกเราทั้งหมดในที่นี้มา...ไม่ใช่ คำสาป ...แต่มันคือ ของขวัญ เป็นสิ่งที่เทพมารดาซิลวาเรียร่าประทานให้แก่พวกเรา เพื่อเป็นกำลังให้แก่ทวีปนี้.....หากมีใครซักคนถามฉันว่าทวีปเกียร์ของพวกเรารอดพ้นจากยุคมืดของการล่าอาณานิคมมาได้ยังไง?...ฉันจะตอบด้วยความมั่นใจเลยว่า...สิ่งนั้นไม่ใช่เทคโนโลยีที่ทันสมัยของนักวิทยาศาสตร์... ไม่ใช่เหล่านักปราชญ์ที่ปากคาบคัมภีร์...ไม่ใช่แสนยานุภาพของกองทัพใดๆ...แต่เกิดจากเลือดเนื้อของพวกเรา...เหล่าผู้ใช้พลังจิต และ ผู้ใช้เวทย์มนตร์ทั้งสิ้น !!! ----- "
...คำพูดปลุกใจที่สร้างเสียงโห่ร้องให้ดังกระหึ่มไปทั่วได้ของเชรีน่า เมโอ คริสตัล ที่ยืนอยู่กลางลานเวทีกว้างในขณะนี้ กลับดูเหมือนแทบไม่เข้าหูชายหนุ่มผู้มีศักดิ์เป็นน้องชาย(หรือถ้าให้พูดตรงๆ คือลูกชายแท้ๆ)ของผู้พูดได้เลย....ท่ามกลางเสียงโห่ร้องที่ดังปานท้องฟ้าถล่มดินทลายของนักศึกษาจากทั้งสองสถาบัน...ใบหน้าของเรย์ลาลีนกลับนิ่งสนิทราวหินปักหลุ่มศพ...ดวงตาภายใต้คอนแท็คเลนส์บัดนี้เหม่อลอยด้วยเรื่องที่กำลังสร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้เขาเป็นอันดับหนึ่งในตอนนี้...
...ย้อนกลับไปเมื่อกลางดึกของคืนก่อน...
" น ...นี่มัน ...นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย ?!! "
" ก็เห็นอยู่เต็มสองตาว่าเป็นประกาศจับ...ถามอะไรโง่ๆ "
" ร ...เรื่องนั้นรู้แล้ว ผมแค่สบถเฉยๆ ! " เรย์ลาลีนบ่นพลางกระพริบตาถี่ๆ ก่อนจะลงมือขยี้ตาอย่างเอาเป็นเอาตาย โดยหวังว่ามันจะเป็นเพราฤทธิ์แอลกอฮอล์หรืออะไรก็ได้ที่ทำให้เขาตาฝาด...แต่จนแล้วจนรอด ไอ้คำว่าประกาศจับ (WANTED) กับรูปครึ่งตัวของเขาสมัยอยู่ในกองทัพก็ยังคงเด่นหราไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ดี
" ฮ่ะๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ...เข้าใจแล้ว! นี่แกล้งอำกันเล่นใช่ไหมเนี่ย? ...โหย...อำซะเนียนเลย...ขอตินิดนึงว่ามุกนี้พี่เล่นแรงไปหน่อยนึงนะ "
เชรีน่าถอนหายใจเฮือกก่อนจะจับหัวของน้องชายหัวแก้วหัวแหวนของเธอให้เงยขึ้นแล้วยื่นหน้าเข้ามาให้ดูชัดๆ
" เอ้า! ลองมองหน้าฉันชัดๆ ซิ...แล้วบอกหน่อยว่าหน้าฉันตอนนี้เหมือนกำลังอำแกเล่นเอามันไหม? ...จริงอยู่ว่าฉันอาจจะชอบเล่นอะไรแผลงๆ แต่กับเรื่องของนายน่ะฉันขอบอกเลยว่าฉันจริงจังทุกเรื่อง! "
เรย์ลาลีนทำหน้าเลิกลั่กๆ ก่อนจะหัวเราะออกมาอีกครั้งราวกับเสียสติ
" ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ เข้าใจแล้วเฟ้ย!! ฝันร้ายสินะ! ตอนนี้ฉันคงกำลังหลับเป็นตายอยู่ นี่เป็นแค่ฝันร้ายเรื่องนึงเท่านั้นสินะ! ...เอ...หมู่นี้ชักฝันร้ายแบบนี้ถี่ขึ้นทุกทีแล้วแฮะ...สงสัยพรุ่งนี้คงจะต้องไปให้จิตแพทย์ตรวจอาการซักหน่อยแล้ว "
" อืม...สงสัยจะช๊อคจริงแฮะ...สมองถึงขั้นปฎิเสธความจริงด้วยการหลอกตัวเองว่าฝันไป...อืมๆๆๆ...เคสนี้น่าสนใจ...อยากจะรู้อยู่เหมือนกันว่าต้องโดนช๊อตด้วยไฟฟ้าแรงสูงซักกี่ที สมองถึงจะยอมรับความจริง " เชรีน่าพูดพึมพำพลางพยายามเดินหาไม้เท้าเวทย์ด้ามเก่งของเธอ ซึ่งนั่นทำให้ชายหนุ่มต้องรีบกระชากจิตสำนึกตัวเองกลับสู่ความจริงอันโหดร้ายโดยเร็วไว
" ข...เข้าใจแล้วๆ แต่ขอดูให้ชัดๆ อีกทีเถอะว่านี่เป็นเอกสารของทางการเซลโลลอร์จริงๆ แน่เหรอ " เขารีบพูดแก้ตัวพลางเพ่งมองประกาศจับของเขาชัดๆ อีกครั้ง
" ...ครั่งที่ปิดผนึกมาเป็นครั่งชั้นสูง...ตราประทับของทางการเซลโลลอร์ก็ชัดเจนและไม่อาจเลียนแบบได้...กระดาษลินินก็มีทั้งลายน้ำและตราของราชวงศ์นีโอ คอบร้า ที่หัวกระดาษ... ถึงจะไม่อยากพูดเลย แต่ว่าคงต้องขอแสดงความยินดีด้วยนะเรย์ฯ...ตอนนี้นายได้กลายเป็นผู้ร้ายหนีคดีที่มีค่าหัวสูงที่สุดในประวัตศาสตร์ไปเรียบร้อยแล้ว "
เรย์ลาลีนพยายามไม่สนใจคำประชดประชันที่แฝงมาในน้ำเสียงของผู้เป็นพี่สาวของเขาพลางลูบลายน้ำบนประกาศจับของเขาอย่างครุ่นคิด...เขารู้ดีว่าตอนนี้โวยวายไปก็ไม่มีประโยชน์ ทางเดียวที่เขาทำได้ตอนนี้คือทำใจให้เย็นและวิเคราะห์ไปทีละเปลาะเท่านั้น
" แต่ว่า...พี่กำลังจะบอกผมว่าราโชฯ กับเซฯ ซึ่งเป็นพี่น้องของผม...คนที่มเชื่อใจที่สุดได้ทรยศความไว้เนื้อเชื่อใจของผมด้วยการบอกความจริง และราชาคาริออสผู้เป็นพ่อบุญธรรมที่เลี้ยงผมมาตั้งแต่แบเบาะ ออกหมายจับโดยไม่สนเป็นตายกับผมงั้นเหรอ?...จะหาว่าเข้าข้างก็ได้นะ แต่ผมก็ยังไม่อยากจะเชื่ออยู่ดีว่าเรื่องแบบนี้มันจะเป็นไปได้ "
หญิงสาวมองหน้าน้องชายตัวเองนิ่งอย่างชั่งใจ ก่อนที่ในที่สุดเธอจะถอนหายใจเฮือก
" ฉันว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับราชาคาริออส...และพี่น้องของนายก็คงจะไม่ได้ทรยงทรยศอะไรนายด้วย "
" ??? "
" สายข่าวที่เชื่อถือได้ของฉันในเซลโลลอร์บอกฉันว่าหลังจากงานศพของนายไม่กี่วัน ราชาคาริออสก็ล้มป่วยจนไม่สามารถออกว่าราชการได้...องค์หญิงมิลิรินในฐานะมกุฎราชกุมารีจึงขึ้นเป็นผู้สำเร็จราชการแทน...อีทีนี้เรื่องก็เกิดเลย...เพราะเพียงวันแรก องค์หญิงมิลิรินก็ใช้อำนาจที่มีอย่างล้นเหลือของเธอสั่งปลดคณะที่ปรึกษากษัตริย์ทุกคนไม่ว่าหัวหงอกหัวดำ...ที่หนักสุดก็เห็นจะเป็นพี่น้องของนาย เพราะเจ้าคนที่มีรอยสักบนหน้าผาก...เอ่อ...มันชื่ออะไรนะ? "
" เซเรย์ลีน "
" เออ...นั่นแหละๆ ...เจ้าเซเรย์ๆ อะไรนี่โดนปลดจากทุกตำแหน่งในกองทัพ แถมยังถูกประกาศให้เป็นบุคคลที่ทางการต้องการตัว ถึงจะยังไม่มีค่าหัวอลังการงานสร้างแบบนายก็เถอะ...ส่วนไอ้หงอกหัวเถิกนั่น...เอ่อ... "
" ...ราโชลีน "
" เจ้านั่นยิ่งแล้วใหญ่ เพราะถ้าสายของฉันรายงานมาไม่ผิด ราโชลีนอะไรนี่คงจะโดนมิลิรินอุ้มหายไปแล้ว...แถมยังไม่รู้อีกต่างหากว่าตอนนี้เจ้าหนุ่มนั่นเป็นตายร้ายดียังไงบ้าง "
ทันทีที่เชรีน่าพูดจบ เรย์ลาลีนรีบวาดมือในอากาศเป็นรูปวงรีอย่างรวดเร็วเพื่อเตรียมสร้างกระจกเวทย์ แต่ก่อนที่จะได้ทันร่ายเวทย์มนตร์เพื่อสร้างกระจกเวทย์ มือของเขาก็ถูกหยุดด้วยมือเรียวบองของเชรีน่า
" คิดจะทำอะไรของนาย?! " เธอถามด้วยน้ำเสียงกร้าวๆ
" ไม่เห็นต้องถามเลย...ผมก็กำลังพยายามจะติดต่อกับราโชลีนน่ะสิ! "
" ฉันไม่อนุญาต "
" จะบ้าเหรอ! ผมต้องการจะรู้ให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปว่าราโชฯ มันมีชีวิตอยู่...หรือมันตายไปแล้วอย่างที่พี่ว่า!! "
" แล้วไง!...แกไม่ฟังเลยเหรอว่าราโชลีนโดนอุ้มไปโดยมิลิริน...ถ้าแกติดต่อไปแล้วรู้ว่าราโชลีนยังมีชีวิตอยู่แล้วแกจะช่วยอะไรมันผ่านทางกระเวทย์ได้งั้นเหรอ? เจ้าเด็กโง่!! อย่างเลวสุดนายก็ทำได้เพียงทำให้ยัยมิลิรินรู้แน่ว่านายยังมีชีวิตอยู่! "
เรย์ลาลีนกัดฟันกรอด...ถึงจะไม่อยากแต่เขาก็ต้องยอมรับว่าสิ่งที่เชรีน่าห้ามมันมีเหตุผล เพราะถ้าเรื่องที่ราโชลีนโดนอุ้มไปเป็นเรื่องจริง ต่อให้เขาติดต่อไปและรู้ว่าพี่ชายของเขายังมีชีวิตอยู่ ลำพังเขาก็ช่วยอะไรราโชลีนไม่ได้...แต่ถึงกระนั้นชายหนุ่มก็ยังคงต้องระบายอารมณ์ด้วยการชกเปรี้ยงเข้าที่กำแพงจนกำแพงไม้ถึงกับแตกเป็นสองเสี่ยง กองเอกสารที่ตั้งอยู่รอบๆ ถล่มลงมากองเกลื่อน
" โธ่โว้ยยย !!! " เรื่องนี้เขาไม่อาจทำใจเย็นได้จริงๆ เพราะเขาไม่อาจเข้าใจได้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่เซลโลลอร์ และต่อให้เขาเข้าใจเขาก็ไม่มีทางเชื่อเลยว่ามิลิรินที่เรียบร้อยราวกับผ้าพับไว้จะโหดเหี้ยมอำมหิตถึงขนาดออกหมายจับโดยไม่สนเป็นตายเขาได้
เชรีน่ารอคอยอย่างใจเย็นจนเห็นว่าเรย์ลาลีนมีท่าทีสงบลงแล้ว จึงยื่นแก้วเงินบรรจุน้ำเย็นฉ่ำมาให้เพื่อให้ชายหนุ่มใจเย็นลงยิ่งขึ้น ก่อนเธอจะเอ่ยถามเบาๆ
" เอาล่ะ...เรย์ฯ...ต่อไปนี้ขอให้ตอบคำถามฉันมาตรงๆ...อย่าโกหกฉัน...นาย กับมิลิริน เป็นอะไรกันแน่ ? "
เรย์ลาลีนเหม่อมองไปโดยปราศจากความหมาย ก่อนจะดื่มน้ำที่พี่สาวของเขาส่งให้เข้าไปอึกใหญ่
" พี่ก็น่าจะรู้คำตอบของคำถามนี้ดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? "
" ฉันไม่ได้ให้แกตอบคำถามฉันด้วยการถามคำถามกลับ...บอกฉันมาตามตรง...แกเป็นอะไรกับยัยผู้หญิงบ้าเลือดที่พยายามสร้างกลียุคที่เซลโลลอร์คนนั้นกันแน่?! " น้ำเสียงที่เริ่มกร้าวขึ้นอีกครั้งของเชรีน่าทำให้เรย์ลาลีนต้องถอนหายใจเฮือกอีกครั้ง
" ความสัมพันธ์ของผมกับรินฯ ...ผมหมายถึงองค์หญิงมิลิริน...ความสัมพันธ์ของผมกับเธอค่อนข้างซับซ้อน "
" อย่าห่วงเลย...พวกเรามีเวลา...ทั้งชีวิต "
ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ กับคำประชดประชันของผู้เป็นพี่สาว เขาดื่มน้ำเข้าไปอีกอึกใหญ่ก่อนจะเริ่มต้นลำดับความสัมพันธ์ระหว่างเขากับอดีตหญิงคนรักผู้สูงศักดิ์อย่างมิลิรินตั้งแต่เริ่มโดยไม่ปิดบังอำพราง ซึ่งก็ใช้เวลาพักใหญ่กว่าเขาจะเล่าจบ...ซึ่งตลอดเวลาที่เขาเล่า เชรีน่าก็ทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดีด้วยการนั่งฟังเงียบๆ ก่อนที่เธอจะถอนหายใจเฮือกยาวเหยียดเมื่อน้องชายของเธอเล่าจบ
" ...อืม...สรุปก็คือ...แกมันใจตุ๊ดทิ้งมิลิรินอย่างหน้าด้านๆ ด้วยการหลอกเธอว่าแกตาย แล้วก็ทิ้งงานทิ้งการที่เซลโลลอร์มาอยู่กับฉัน...สินะ... " คำสรุปของเชรีน่าทำเอาเรย์ลาลีนที่กำลังดื่มน้ำอีกรอบถึงกับสำลักน้ำพุ่งออกจมูก
" ค...แค่กๆ...พูดอะไรไร้ความรับผิดชอบยังงี้ฟะครับคุณพี่!! เท่าที่ผมจำได้ พี่เองไม่ใช่เหรอที่นำความยุ่งเหยิงมาสู่ชีวิตผมแบบนี้น่ะ!! "
" เฮ้อ...เขาถึงได้ว่ามีลูกกวนตัวมีผัวกวนใจ...แกนี่น้าาาา...จริงๆ เลย...เอาล่ะ...ฉันจะอธิบายให้ฟังสั้นๆ นะ...ประกาศจับนี้จะจะว่อนไปทั่วสหภาพดราโกนิก้าและทวีปเกียร์ภายใน 2-3 วันนี้...แต่ฉันใช้เส้นสายของตระกูลที่พอมีอยู่ชลอไม่ให้ประกาศจับนี้มาถึงวัลคาไนท์ซึ่งหมายถึงที่นี่ได้ประมาณ 1 อาทิตย์ ซึ่งหมายความว่าจบงานประเพณีระหว่าง 2 สถาบันพอดี...เรย์ฯ...ฉันอยากให้นายตามฉันกลับไปที่คริสตัลฟอร์ซ...ที่นั่นฉันสามารถปกป้องนายได้เต็มที่ และเราก็ไม่มีนโยบายส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับเซลโลลอร์ด้วย...ส่วนเรื่องพี่น้องของนายฉันจะพยายามให้สายของฉันช่วยเหลือเต็มที่ ถ้าโชคดีพอพวกนั้นก็คงจะรอด...ไว้พอเรื่องนี้เริ่มซาๆ ลงฉันจะหาตำแหน่งอาจารย์ที่มหาลัยหมื่นเวทย์ให้นายเสียบ...ตกลงตามนี้นะ "
เรย์ลาลีนถอนหายใจเฮือก...เรื่องนี้มันใหญ่เกินกว่าที่เขาจะสามารถตัดสินใจอะไรโดยพลการได้อีก...อีกทั้งเชรีน่าก็ยังใจดีพอจะให้เขาอยู่ที่ต่อได้อีกตัง 1 อาทิตย์ทั้งๆ ที่เธอจะลากเขากลับไปที่คริสตัลฟอร์ซเลยก็ยังได้...ทำให้เขาไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปฎิเสธข้อเสนอของผู้เป็นพี่สาว...แต่เรื่องที่ยังคงคาใจเขามากที่สุดคือ...เกิดอะไรขึ้นกับมิลิรินกันแน่...มิลิรินที่เขารู้จักไม่ใช่คนที่จะทำอะไรหุนหันพลันแล่นแบบนี้ มันทำให้เขาเกิดอาการลังเลที่จะตัดสินใจเป็นอย่างมาก
ดูเหมือนเชรีน่าจะล่วงรู้ว่าชายหนุ่มกำลังคิดอะไรอยู่ ถึงจะพูดล้อเล่นไปเรื่อยแต่เธอก็รู้สึกผิดไม่น้อยที่พรากเรย์ลาลีนมาจากสิ่งที่เขาเป็น...แต่เธอก็มีเหตุผลที่เสียเรย์ลาลีนไปไม่ได้เช่นกัน หญิงสาวถอนหายใจเล็กน้อยอย่างชั่งใจก่อนจะเริ่มต้นพูดเบาๆ
" ...เรย์ฯ...ตลอดเวลาที่นายมาอยู่กับฉัน...นายไม่เคยถามฉันเลยว่าฉันต้องลักพาตัวนายมาทำไม...นายอยากรู้ไหมว่าที่ฉันทำไปทั้งหมดเป็นเพราะอะไร? "
" ...อ...เอ่อ...ไม่ใช่ว่าพี่นึกอยากทำก็ทำหรอกเหรอ? " ชายหนุ่มตอบไปอย่างห้ามปากไม่ทันก่อนจะโดนพี่สาวสุดสวยของเขาฟาดเปรี้ยงเข้าด้วยม้วนคัมภีร์ม้วนหนาปึ้กจนลงไปกองกับพื้น
" เรย์ฯ...มีเรื่องบางอย่างที่นายต้องรู้เกี่ยวกับตระกูลเมโอ คริสตัลของฉัน....ตระกูลของพวกเรา...ตระกูลเมโอ คริสตัลถือเป็นตระกูลผู้ใช้เวทย์มนตร์ที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยบันทึกมาในประวัติศาสตร์โดยมีฉันเป็นรุ่นที่ 21 เพียงคนเดียว... "
" เรื่องนี้พี่บอกผมแล้วตั้งแต่พวกเราอยู่ที่คริสตัลฟอร์ซ...มีอะไรพิเศษงั้นเหรอครับ? "
" ...ฉันเป็นหมัน... "
" !!! "
" เข้าใจแล้วสินะ...ว่าทำไมฉันถึงต้องหักดิบพาตัวนายมาจากเซลโลลอร์ทันทีที่ฉันรู้แน่ชัดว่านายคือสายเลือดเมโอ คริสตัล...เพราะนายคือความหวังเดียวของฉันที่จะดำรงสายเลือดอันเก่าแก่กว่าหลายร้อยปีของพวกเราให้สืบต่อไป...นี่เป็นเหตุผลที่ฉันเสียนายไปไม่ได้...เรย์ฯ...ได้โปรด...เราจะไม่เถียงกันเรื่องนี้...นายต้องกลับไปกับฉัน ตกลงไหม? "
คำเฉลยของเชรีน่าทำให้เรย์ลาลีนเข้าใจความสำคัญของตนที่มีต่อตระกูลและจุดประสงค์ของพี่สาวของเขาอย่างชัดแจ้ง...ความลังเลทั้งหมดที่มีถูกคำพูดของเธอทำให้มลายหายไปสิ้น...เขาสบตาหญิงสาวที่อาจจะรักเขาที่สุดในโลกใบนี้นิ่ง ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ
" ตกลงครับ "
...........................................................
" เรย์...เรย์...นี่ ได้ยินฉันรึเปล่าเนี่ย? เฮ้! " เสียงหวานใสของเฮเลน วอลคาโน หญิงสาวผมสีแดงเพลิงผู้ดำรงตำแหน่งเจ้าปราการไฟเอ่ยปลุกเรย์ลาลีนให้ตื่นขึ้นจากภวัังค์ เมื่อหันไปมองรอบๆ ก็พบว่ามีนักศึกษาหลายคนหันมามองเขาด้วยสายตาแปลกๆ เพราะเขาเป็นคนเดียวในที่แห่งนี้ที่ไม่มีท่าทีจะโห่ร้องอย่างบ้าคลี่งกับสุนทรพจน์ปลุกใจของเชรีน่าเลย
" อ...เอ่อ...โทษทีเฮเลน...ผมคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่น่ะ "
เฮเลนจ้องเขาด้วยแววตาเคลือบแคลงสงสัยเต็มที่ อันแสดงให้เห็นว่าเธอไม่ได้เชื่อคำแก้ตัวของเรย์ลาลีนเลยแม้แต่ซักครึ่งคำ
" ...ไม่นับที่นายปล่อยให้ฉันรออยู่ข้างนอกจนตะวันเกือบขึ้น...ตั้งแต่ที่นายกลับจากที่นั่น นายดูเคร่งเครียดลงจนเห็นได้ชัด...ทำให้ฉันอดสงสัยไม่ได้ว่าพี่เชรีน่าคุยอะไรกับนายกันแน่? " เธอถามขึ้นโดยลดเสียงลงจนสามารถได้ยินเฉพาะ 2 คนเท่านั้น
" ...อีกไม่นานหรอก...เฮเลน...อีกไม่นานเกินรอเธอก็จะรู้ความจริงเองว่าทำไมฉันต้องเคร่งเครียดแบบนี้... " เขาตัดบทพลางอ้าปากหาวเบาๆ เพราะยังไม่ได้นอนมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว จึงกะว่าเมื่อจบพิธีเปิดนี้คงจะไปหาที่เงียบๆ งีบหลับฟื้นพลังซักพัก
แม้จะยังไม่ได้คำตอบที่พอใจ แต่เฮเลนก็ยอมพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ก่อนที่เธอจะกึ่งลากกึ่งจูงชายหนุ่มพร้อมกับพยักเพยิดใส่นาเดียและพริสซิลล่าช่วยกันพยายามแหวกฝูงชนออกไป
" ปะ...ได้เวลาแล้ว พวกเราไปกันเถอะ...โดยเฉพาะนาย เรย์...งานนี้ฉันว่านายไม่ควรไปสายนะ "
" ไป?...เอ่อ...เดี๋ยวๆ อย่าพึ่งๆ พวกเธอกำลังจะพาฉันไปไหนเนี่ย? " แม้จะยอมเดินตามพวกหญิงสาวมาโดยดี แต่เรย์ลาลีนก็อดถามขึ้นอย่างงงๆ ไม่ได้
" อ้าว...ถามอะไรแปลกๆ ก็ไปรวมกันที่สถานที่เก็บตัวของผู้ประลองน่ะสิ...พวกเรายังต้องวางแผนเกี่ยวกับการประลองอีกเยอะนะ...รีบไปเร็วเข้า เดี๋ยวก็สายกันพอดี "
" อ่าฮะ...แล้วไง?...เรื่องนี้มันเกี่ยวกับผมตรงไหนงั้นเหรอ? "
เฮเลนหันไปมองหน้านาเดียกับพริสซิลล่าอย่างงงๆ ก่อนที่นาเดียจะเป็นคนตอบแทนว่า
" อะไรของนาย?...ก็นายเป็นหนึ่งในผู้ประลองไม่ใช่เหรอ? ถามอะไรแปลกๆ...เอ้า! รีบไปกันได้แล้ว "
" อ้อ...เข้าใจล่ะ...ฮ...เฮ้ยยย !!! ว่าไงนะ?!! " เรย์ลาลีนร้องเสียงหลงทันทีที่นึกถึงสิ่งผิดปกติในประโยคขึ้นได้ ทำเอา 3 สาวหันไปมองหน้ากันเองอีกครั้ง ก่อนที่เฮเลนจะเอากำปั้นทุบฝ่ามืออีกข้างอย่างนึกอะไรขึ้นได้ เธอถึงกับถอนหายใจเฮือก
" โนอาห์ วูล์ฟแฟนธ่อม "
.........................................................
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.6 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ