Chronicles Of Legend. ปฐมบทแห่งตำนาน

7.3

เขียนโดย LanzaDeLuZ

วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 19.07 น.

  67 chapter
  7 วิจารณ์
  65.21K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 19.20 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

38) ...Challenger...(2)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

================================================

 

 

            " ...เอ่อ...คือ...ฟังนะ เรย์...ก่อนที่ฉันจะอธิบายอะไรให้นายฟัง...นายควรจะรับรู้ก่อนว่า ฉันในเวลานั้นอยู่ในสภาวะที่ไม่ปรกติ ในที่นี้หมายถึง...เอ่อ...เพราะความผิดของนายนั่นแหละ!...ที่พอตื่นมาก็รีบให้ฉันตามนายไปที่อาคารกลาง จำได้ไหม?! ในภาวะเช่นนั้นมันก็โทษไม่ได้ที่ฉันจะลืมบอกอะไรซักอย่างสองอย่างกับนาย เพราะงั้นเรื่องนี้ถ้าจะโทษกันจริงๆ ก็ต้องโทษตัวนายเองนั่นแหละ!! "  โนอาห์ วูล์ฟแฟนธ่อมอธิบายรัวเร็วจนลิ้นฟันกันพลางค่อยๆ ก้าวถอยหลังไปทีละก้าวในขณะที่เรย์ลาลีนกำลังทำหน้ายักษ์บีบหมัดเสียงดังกร๊อบๆ พร้อมกับย่างสามขุมเข้าใส่โนอาห์ทีละก้าวๆ เช่นกัน

 

            "  คุณนาเดีย...ช่วยจดคำพูดของไอ้หมอนี่ไว้ให้ครบทุกคำเลยนะครับ เพราะผมจำได้ว่าในกรณีฉุกเฉิน คำพูดสุดท้ายของคนตายถือเป็นพินัยกรรมได้เช่นกัน...ส่วนแก...โนอาห์...ถ้าแกพูดตำสั่งเสียจบแล้วก็หลับตาลงให้สนิท แล้วก็นึกถึงพ่อแก้วแม่แก้วไว้นะ... "

 

            " เฟ้ย!!  อย่าเล่นอะไรบ้าๆ นะเฟ้ย!! ไอ้พลังที่แกประจุมากับหมัดนั่นมันมากพอจะป่นหินให้กลายเป็นทรายได้เลยนะ! โอเคๆ! ฉันยอมรับว่าฉันลืมบอกนายจริงๆ เรื่องที่นายต้องกลายเป็น 1 ใน Challengers หรือผู้ประลองที่ถูกคัดเลือก...แต่ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่ถึงฉันบอกนายมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรอยู่ดีนะ นายจำตอนที่นายโดดเรียนวิชาภาษาศาสตร์ได้ไหม?? "

 

              เรย์ลาลีนขมวดคิิ้วเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะพยักหน้าเบาๆ เมื่อนึกถึงวันที่เขาถล่มเกาะเล็กๆ ระบายอารมย์ ก่อนจะกลับไปนอนหลับเป็นตายที่ห้อง...ถึงแม้เขาจะยังไม่ได้ลดจิตคุกคามที่มีต่อโนอาห์เลยก็ตาม

 

            " อ่าฮะ...นายควรจะทราบว่าในแต่ละปี เราจะคัดเลือก Challengers ใหม่ด้วยการโหวตลงคะแนนเสียง โดยใช้ผลป๊อปปูล่าโหวตจากนักศึกษามีอันดับในสภาสูงผู้มีอำนาจคัดกรองเหล่านักศึกษาทั้งหมด 100 คนจากทั้ง 4 ปราการ...ซึ่งหากทางสภาสูงดีดชื่อใครออกมาซักคน ฉันหรือแม้แต่ยัยเฮเลนที่เป็นถึงเจ้าปราการก็ไม่สามารถออกเสียงคัดค้านได้...อยากเดาผลไหมว่าใครเป็นม้ามืดที่นำโด่งมาในการคัดเลือกครั้งนี้? "

 

            " ...คุณเรย์ รัชเชอร์?...ใช่ไหมคะ? "  ก่อนที่เรย์ลาลีนจะได้ทันตอบหรือชกหน้าโนอาห์ หญิงสาวผมเงินสั้นดวงตาสีม่วงอ่อนที่เครื่องแบบบ่งบอกว่าอยู่ชั้นสูงกว่าพวกเขา 1 ปีเอ่ยทักเรย์ลาลีนเบาๆ ด้วยน้ำเสียงเคารพยำเกรงและแฝงแววตื่นเต้นไว้แทบไม่มิด

 

           " อ...เอ่อ... "  เรย์ลาลีนหันไปมองสามสาวปราการไฟที่อยู่ด้านหลังด้วยแววตาขอความช่วยเหลือเต็มที่ จนเฮเลนต้องออกหน้าด้วยการค้อมหัวทักทายหญิงสาวผมเงินพร้อมกับเอ่ยทักเบาๆ

 

            " ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ...รุ่นพี่คลาเดีย "

 

              ถึงจะทักด้วยมารยาทเต็มที่ แต่หญิงสาวที่ชื่อคลาเดียกลับไม่สนใจมารยาทนั้นเลย เพราะเธอทำเหมือนกับมองไม่เห็นเฮเลนพร้อมกับก้มๆ เงยๆ สำรวจเรย์ลาลีนราวกับกำลังจ้องมองบางสิ่งที่พิเศษสุดๆ ก่อนจะพูดขึ้นโดยทำเหมือนกับเฮเลนเป็นสุญญากาศว่า

 

            " พริสฯ นาเดีย...บอกฉันมานะว่าพวกเธอใช้เส้นสายอะไรจับผู้ชายคนนี้ไปไว้ที่ปราการไฟ? ทั้งๆ ที่พลังสายธาตุลมของเขาแก่กล้าจนเห็นได้ชัดขนาดนี้ ...ถ้าเขาอยู่ปราการลมล่ะก็เขาอาจจะได้เป็นเจ้าปราการลมคนใหม่โดยที่ยังไม่ต้องสู้กับแลนซ์ด้วยซ้ำ "

 

              พริสซิลล่าและนาเดียหันไปมองหน้ากันด้วยสีหน้าปุเลี่ยนๆ ก่อนจะเสหัวเราะเบาๆ ในขณะที่แลนซ์ เซอร์เบร่อนซึ่งเดินตามหญิงสาวนามคลาเดียมาถอนหายใจเฮือก

 

            " ยังไม่หายเคืองสินะครับ? "

 

            " เคืองเคิงอะไรกันล่ะจ๊ะ...แลนซ์นี่ล่ะก็ พูดอะไรไม่เข้าเรื่องเลยเด็กคนนี้...่เดี๋ยวแม่ก็เชือดทิ้งซะหรอก! "  คลาเดียหันไปตอบด้วยน่้ำเสียงหวานใส...ถ้าหากไม่นับประโยคขู่ฆ่าพร้อมสายตากินเลือดกินเนื้อในตอนท้ายล่ะก็นะ

 

            " ...อ...เอ่อ...พริสซิลล่า "  เรย์ลาลีนที่หาจังหวะชิ่งออกมาได้กระซิบถามพริสซิลล่าเบาๆ เป็นเชิงให้อธิบายสถานการณ์ที ในขณะที่พริสซิลล่ากำลังปิดปากหัวเราะเบาๆ อยู่ ราวกับว่าเธอรู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว

 

            " รุ่นพี่คลาเดียน่ะ เป็นอดีตเจ้าปราการลมคนก่อน ก่อนที่แลนซ์จะเข้ารับตำแหน่ง...เมื่อ 3 ปีก่อนเธอมีเรื่องกับเฮเลน...และใช้วิธีการตัดสินถูกผิดด้วยการท้าประลองโดยมีตำแหน่งเจ้าปราการเป็นเดิมพัน...และก็อย่างที่นายรู้ เฮเลนที่ครอบครองราชศาสตราเอ็กโซดัสไม่มีวันพ่ายแพ้ผู้ใช้ธาตุสายลม...เพราะงั้นถึงรุ่นพี่คลาเดียจะเป็นผู้ใช้พลังจิตธาตุสายลมในระดับอัจฉริยะคนนึง แต่ผลการประลองก็ออกมาอย่างที่แทบไม่ต้องเดา "

 

            " ...รุ่นพี่คลาเดียอะไรนี่คงจะแพ้อย่างแน่นอน? "  

 

            " ไม่ใช่แค่แพ้...แต่แพ้อย่างหลุดลุ่ยเลยต่างหากล่ะ...เฮเลนในตอนนั้นก็ไม่ได้ต่างจากตอนนี้มากนักหรอก คือออมมือให้ใครไม่เป็น...เฮเลนเป็นฝ่ายยำคลาเดียข้างเดียวอยู่เกือบ 10 นาทีจนรองผอ.ซานดร้าเข้ามายุติการประลอง...หลังผลการประลองออกมาเป็นเอกฉันท์ คลาเดียลาออกจากตำแหน่งเจ้าปราการ เปิดโอกาสให้แลนซ์ขึ้นเป็นเจ้าปราการคนใหม่...และก็นับได้ 3 ปีแล้วที่คลาเดียพยายามคิดว่าเฮเลนเป็นธาตุอากาศ...เมื่ออีกฝ่ายไม่มีตัวตน ก็ไม่มีเรื่องกันไง "  นาเดียเป็นคนพูดต่อจนจบประโยค ในขณะที่เรย์ลาลีนเลิกคิ้วบางๆ

 

            " 10 นาที? "  เรย์ลาลีนไม่ติดใจสงสัยเรื่องที่หญิงสาวที่ชื่อว่าคลาเดียแพ้ แต่ที่เขาติดใจคือที่นาเดียบอกว่าการประลองใช้เวลาถึง 10 นาที เพราะในความคิดของเขา คงไม่มีผู้ใช้สายลมคนไหนยืนอยู่ต่อหน้าเฮเลนกับดาบของเธอได้เกิน 3 นาทีแน่

 

            " ใช่...อย่างที่นายคิดนั่นแหละ...จนถึงปัจจุบัน คลาเดียก็ยังเป็นคนเดียวในเกาะนี้ที่ยืนสู้กับเฮเลนและเอ็กโซดัสได้ถึง 10 นาทีโดยที่เฮเลนไม่สามารถน็อคเธอลงได้อย่างเด็ดขาด...เมื่อแลนซ์ลาออกจากตำแหน่งเจ้าปราการซึ่งต้นเหตุมาจากนาย คลาเดียจึงเป็นผู้ที่เหมาะสมที่สุดที่จะมารับตำแหน่งรักษาการเจ้าปราการแทนจนกว่าจะมีการคัดเลือกเจ้าปราการลมคนใหม่อย่างเป็นทางการ "  คำตอบของนาเดียสร้างทั้งความประหลาดใจและความนับถือหญิงสาวผู้นี้ให้แก่เรย์ลาลีนไม่น้อย ที่เขาทราบได้แน่ๆ คือ หญิงสาวตรงหน้าเขานี้คงจะมีพรสวรรค์ในธาตุสายลมมากกว่าแลนซืไม่ใช่น้อยๆ แน่

 

            " ...ฉันพูดจริงๆ นะ เรย์...ฉันไม่เคยพบใครที่มีธาตุสายลมไหลเวียนอยู่เท่านายมาก่อนเลย...ตอนนี้ฉันไม่แปลกใจเลยที่นายทั้งชนะแลนซ์และเป็นครูของเขา...นายต้องเป็นครูที่ดีแน่ และนายต้องเป็นเจ้าปราการลมที่ดีกว่า ถ้าหากนายย้ายมาอยู่ปราการลมของฉัน "  คลาเดียแหวกเข้ามากุมมือชายหนุ่มไว้อย่างตื่นเต้น จนเรย์ลาลีนถึงกับต้องถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว

 

            " ต้องขอโทษที่ทำให้ผิดหวังนะคะรุ่นพี่คลาเดีย แต่เรย์คงไม่คิดจะย้ายปราการหรือรับตำแหน่งใดๆ เขาเป็นคนของปราการไฟ ...และคนของปราการไฟหนึ่งราตรี ก็จะเป็นคนของปราการไฟไปชั่วชีวิต... "  เฮเลนเป็นฝ่ายเข้ามาพูดแทนเรียบๆ พลางแกะมือของเรย์ลาลีนออกมา เพราะเธอรู้ดีว่าสิ่งสุดท้ายที่ชายหนุ่มที่มีฐานะเป็นจอมเวทย์ผู้แฝงตัวอยู่ในสถาบันผู้ใช้พลังจิตต้องการ...คือการเป็นผู้ที่มีตำแหน่งสูงที่สุด 1 ใน 4 คนบนเกาะนี้

 

            " ...แหมๆๆ แลนซ์ นายได้ยินอะไรแว่วๆ ไหม...สำหรับฉันแล้ว มันยังกะลมตดพัดอยู่ข้างหูอย่างงั้นแหละ "

 

            " ขอทีเถอะน่า พี่คลาเดีย นี่ก็ผ่านมาตั้ง 3 ปีแล้วนะ...เลิกเล่นอะไรเป็นเด็กๆ แบบนี้ซะทีเถอะ ให้ตายสิ "  แลนซ์อดเอ่ยขัดขึ้นเบาๆ ไม่ได้ เพราะเขารู้สึกว่ามันเหมือนเด็กโกรธกันไม่มีผิด

 

            " หา!!! พูดใหม่อีกทีซิ!!! "

 

            " เข้าใจแล้วครับ...ผมไม่ได้ยินอะไรทั้งสิ้นครับ "  แลนซ์ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่รอมร่อแล้ว

 

            " ดีมากจ๊ะ นายก็คงเหมือนฉันสินะ เรย์ ไม่ได้ยินคำปฎิเสธอันไร้เยื่อใยอะไรทั้งสิ้น สินะๆ "

 

            " ...อ...เอ่อ... "

 

            " ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ตูข้าถวายบังคมลาเลยนะ "  โนอาห์เอ่ยขึ้นเบาๆ พลางเตรียมชิ่งจริงๆ ตามที่พูดไว้ แต่เรย์ลาลีนรีบคว้าคอไว้พลางทำหน้ายักษ์ใส่ทันที

 

            " แกน่ะ รอฉันอยู่ตรงนี้นิ่งๆ เลยเฟ้ย !! "      

 

 

 

 

.........................................................

 

 

 

 

              ...ย้อนกลับไปเมื่อหลายวันก่อน ก่อนที่จะมีประกาศจับของเรย์ลาลีนว่อนทั่วทวีป...

 

              ...เพียงไม่กี่นาทีหลังจากที่เซเรย์ลีนบอกกับตัวเองว่าตนจะขอใช้ทางเลือกที่ 3 มันหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยสำหรับทางการเซลโลลอร์ที่ต้องประกาศกฎอัยการศึกทันที เพราะพวกเขาไม่อาจคิดฝันได้เลยว่าผู้ที่เป็นอดีตหัวหน้าทหารรักษาพระองค์อย่างเซเรย์ลีน นีโอ คอบร้า คนนี้ จะฝ่ากองทหารที่ถูกฝึกมาอย่างดีถึง 2 กองร้อยจากเกือบๆ ชานเมืองเข้ามาถึงหน้ากำแพงเขตพระราชฐานชั้นนอกได้ โดยอาศัยเพียงพละกำลังของตัวเองคนเดียว...

 

              ...สภาพของเซเรย์ลีนตอนนี้ แทบจะต่างจากเซเรย์ลีนผู้มีอารมณ์ขันและขี้เล่นอยู่เป็นนิจอย่างสิ้นเชิง แขนที่อุดมไปด้วยมัดกล้ามทั้งสองบัดนี้มีรงควัตถุที่มีลักษณะคล้ายกับเกล็ดอสรพิษสีเขียวเข้มค่อยๆ ลามขึ้นมาจากปลายนิ้วที่มีลักษณะเหมือนกรงเล็บสีดำสนิท จนลามเกือบมาถึงไหล่อยู่แล้ว ลายปานดำที่มีลักษณะเป็นรอยสักที่พาดผ่านหน้าผาก บัดนี้ลายปานดำนั้นเลื้อยลามลงมาถึงลำคอ ดวงตาที่บัดนี้เป็นสีเหลืองราวกับบุศราคัมน้ำเอกที่มีรูม่านตาสีดำสนิทขวางเรียวคล้ายดวงตางูส่งกระแสเจ็บปวดเจียนจะขาดใจทุกครั้งที่เขาใช้พลังออกไป สีหน้านิ่วขมวดจนไม่เป็นทรงราวกับเขากำลังควบคุมอะไรบางอย่างในกายไม่ให้มันปะทุออกมา!...

 

            " ซ..เซ...เซเรย์ลีน ได้ยินฉันไหม?! ฉันบอกให้พอได้แล้ว!! ฉันเคยสั่งห้ามนายไม่ให้ใช้ พลัง นี้แล้ว นายไม่มีทางควบคุมมันได้ !  นายกำลังจะฆ่าทุกคนบนเซลโลลอร์นี้นะ!! "  ราโชลีนที่ต้องวิ่งเหยาะๆ เพื่อตามผู้เป็นน้องชายคนเล็กให้ทันตะโกนเรียกอย่างกระหืบกระหอบพลางจับเข้าที่บ่าของเซเรย์ลีน แต่บ่าของชายหนุ่มมันร้อนราวกับไฟจนเขาต้องหดมือกลับ

 

            " ห...หนวกหูน่า !...ราโชฯ ฉันคุมมันได้ !! เชื่อฉันเซ่ ! ถึงแกจะพูดยังไงก็ตาม ฉันก็จะบุกเข้าไปเพื่อเข้าพบท่านพ่อบุญธรรมให้ได้ ต่อให้ต้องกระทืบเหล่าทหารที่ฉันฝึกมาเองกับมืออีกซักกี่กองร้อยก็ตาม!! "

 

            " ป...ปัดโธ่! เซฯ แกทำแบบนี้มันก็ไม่ต่างจากกำลังฆ่าตัวตายเลยนะ ต่อให้เก่งกล้าแค่ไหน คนๆ เดียวก็ไม่สามารถสู้กับทหารรักษาพระองค์ทั้งหมดได้หรอก!! อีกอย่าง พวกเรากำลังบุกรุกเข้าสู่เขตพระราชฐานโดยไม่ได้รับพระราชานุญาต พวกเรากำลังก่อกบฎนะ!!  "

 

            " ต่างกันตรงไหนวะ ตอนนี้ฉันก็ถูกถอดจากตำแหน่งทางการทหารและเด้งเข้าบัญชีดำเพื่อเตรียมออกหมายเรียกตัวอยู่แล้ว ส่วนแกก็ถูกขังลืมอยู่ในคุกขี้ไก่นั่นโดยไม่มีแม้กระทั่งบันทึกนักโทษด้วยซ้ำ...จะตายตอนนี้หรือค่อยๆ แห้งตายในคุก สำหรับฉันมันก็ไม่ต่างกันซักเท่าไหร่หรอก! "  เซเรย์ลีนหันมาเถียง ก่อนจะหันไปมองกองทหารที่กำลังตั้งแนวป้องกันหน้ากำแพง โดยมีชายวัยหนุ่มที่ศรีษะเริ่มจะเถิกขึ้น ในชุดขุนนางฝ่ายทหารชั้นสูงคนหนึ่งยืนสั่งการอยู่บนกำแพงพระราชฐานพร้อมทำตาปริบๆ 

 

            " แกเห็นอย่างที่ฉันเห็นไหมวะ? ราโชฯ "

 

            " ห...ให้ตาย...นั่นคงไม่ใช่ คาร์ลอส ไวเปอร์ แห่งราชสกุลไวเปอเรี่ยน หรอกนะ...ไอ้หมอนี่มันเป็นความอัปยศของกองทัพเซลโลลอร์ชัดๆ ถ้าตอนนั้นเรย์ฯ ไม่ดึงดันขอย้ายตัวเองไปประจำการแทนหมอนี่ที่เกาะทองคำ เรามีหวังเสียเกาะให้ซีแบทเทิ่ลไปนานแล้ว! จำได้ว่าฉันเด้งหมอนี้เข้ากรุไปแล้วนี่ ไหงมาเสนอหน้าอยู่นี่ได้ฟะ? "  

 

            " ไม่ใช่เฟ้ย! ที่ฉันให้ดูน่ะ คือชุดที่ไอ้หมอนั่นใส่อยู่ต่างหากเล่า! "  

 

               คำพูดของเซเรย์ลีนทำให้ราโชลีนต้องหันกลับไปเพ่งมองอีกรอบ ก่อนที่เขาจะตระหนักได้ว่าเซเรย์ลีนตั้งใจจะบอกอะไรกับเขา 

 

            " เฮ้ย!! นั่นมันชุดเต็มยศของตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด...นั่นมันชุดของตูไม่ใช่รึไง?? "  ชายหนุ่มสบถลั่นอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง ในขณะที่เซเรย์ลีนได้แต่ยิ้มเครียดๆ

 

            " นี่เป็นหลักฐานอีกประการนึงที่กำลังสนับสนุนว่าน้องสาวคนสวยของเราได้เสียสติไปแล้วจริงๆ! "  เซเรย์ลีนที่บัดนี้มีร่างครึ่งนึงกลายเป็นอสูรกายพันธ์ุมีเกล็ดกัดฟันกรอด...ทั้งๆ ที่เขาเคยสามารถบอกกับทุกคนได้ว่าเขาเป็นคนที่รู้จักกับมิลิรินดี แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกว่าเขาไม่สามารถเดาอะไรน้องสาวต่างสายเลือดผู้มีอำนาจล้นฟ้าผู้นี้ได้เลย

 

            " ท่านราโชลีน ! ท่านเซเรย์ลีน !  ในนามของผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้รับราชโองการโดยตรงจากองค์มกุฎราชกุมารี !! ผมขอให้ท่านทั้งสองยอมมอบตัวเสียโดยทันที ท่านกำลังทำผิดมณเฑียรบาลร้ายแรงด้วยข้อหาก่อกบฎ และเป็นภัยต่อความมั่นคงของราชอาณาจักร ... เราให้เวลาท่าน 5 วินาทีเพื่อตัดสินใจ มิเช่นนั้นเราจำต้องใช้กำลังอย่างเด็ดขาดเพื่อจัดการกับท่าน !!! "  ชายหนุ่มในชุดเต็มยศที่เคยเป็นของราโชลีนตะโกนผ่านเครื่องขยายเสียงจากบนกำแพงด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด แต่ยังคงไม่อาจปิดกระแสของความเกรงกลัวที่เจออย่างจางๆ มาในน้ำเสียงได้...คงเป็นเพราะเขารู้ดีว่าชายหนุ่มทั้งสองที่อยู่ด้านล่างนั่นเป็นตัวอันตรายอันดับต้นๆ ที่ไม่ควรไปข้องแวะด้วยอย่างยิ่งก็ได้

 

            " ...ฟังมันพูดเด้ "  เซเรย์ลีนหันกลับมามองราโชลีนเหมือนจะฟ้อง ในขณะที่ราโชลีนกัดฟันกรอด...คำพูดอันโอหังของชายหนุ่มบนกำแพงทำเอาเขาลืมเรื่องที่เขาพยายามจะห้ามปรามเซเรย์ลีนไปซะหมด

 

            " ...ใช้กำลังอย่างเด็ดขาดเพื่อ จัดการ ...หมายความว่ามันไม่มีคำว่า จับเป็น อยู่ในหัวเลยงั้นสินะ? จะเป็นเพราะนี่เป็นความคิดส่วนตัวของมันเองหรือเป็นเพราะคำสั่งโดยตรงจากมิลิรินก็แล้วแต่...ผลลัพธ์ก็ไม่ดีต่อเราทั้งคู่แน่ๆ ...เรื่องบ้าๆ นี่ชักบ้ามากขึ้นเรื่อยๆ แล้วสิ "

 

            " เอาไงต่อ...ราโชฯ "  คำถามของเซเรย์ลีนที่ดูจะเป็นเซเรย์ลีนคนเดิมมากขึ้นซึ่งเป็นผลจากการได้พักหายใจบ้างทำเอาราโชลีนถึงกับคิ้วกระตุก

 

            " แกหักดิบก่อกบฎด้วยตัวเองเพียงลำพัง บุกฝ่ากองทหาร 2 กองร้อยจากชานเมืองมาถึงกำแพงราชฐานโดยไม่ฟังคำทัดทานที่ฉันกรอกหูแกเป็นร้อยครั้ง มีทหารที่บาดเจ็บสาหัส หรือแม้กระทั่งตายฟรีเพราะแก...ถึงตอนนี้แกดันพึ่งมาถามฉันว่า เอาไงต่อ ...เนี่ยนะ? "  น้ำเสียงแดกดันของราโชลีนที่ใช้ได้ผลกับทุกคนกลับทำได้แค่เพียงทำให้เซเรย์ลีนหัวเราะขำๆ เท่านั้น

 

            " ช่าย...ฉันรู้...แต่ที่ฉันพึ่งมาถามแกตอนนี้ก็เพราะว่าฉันเชื่อว่าแกในตอนนี้คงจะมีความคิดตรงกับฉันแน่ๆ ...ใช่มะ? "

 

              คำถามของผู้เป็น้องชายทำเอาราโชลีนหัวเราะหึๆ อย่างถูกใจ

 

            " หึๆ สงสัยฉันต้องจัดลำดับความฉลาดในหมู่พวกเรา 3 คนใหม่ซะแล้ว...เฮ้อ...ทำไมน้า เราถึงต้องมาตามล้างตามเช็ดไอ้สิ่งที่เรย์ฯ มันทิ้งไว้ด้วยนะ "

 

            " พูดไปก็เท่านั้นแหละน่า...เอ้า! เอาไงต่อล่ะ ไอ้คุณพี่?? "

 

            " ไม่เห็นต้องถามเลย... "  ดวงตาของราโชลีนฉายแววอย่างแรงกล้าไปที่ยอดปราสาทซึ่งอยู่ในเขตพระราชฐานชั้นในซึ่งมองเห็นอยู่ลิบๆ นั่นก่อนจะพูดต่อเรียบๆ  

 

            " ไปเข้าเฝ้าท่านพ่อบุญธรรมกับท่านหญิงมิลิรินของพวกเรากันเถอะ !! "

 

 

 

................................................

 

 

 

              …สถาบันผู้ใช้พลังจิต…ปัจจุบัน…

 

            " เข้าใจล่ะ…นายกำลังจะบอกว่า เพราะการลงมติของสภาสูง ซึ่งถือเป็นเด็ดขาด… ต่อให้ฉันปฎิเสธหรือบ่นไปก็เท่านั้น…เพราะตอนนี้ชื่อของฉันถูกใส่ลงไปในรายชื่อของ Challengers แล้ว…งั้นสินะ? "  เรย์ลาลีนพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้ความรู้สึกกับโนอาห์เมื่อเขาได้ฟังการบรรยายสรุปสาเหตุที่เขาต้องตกกระไดพลอยโจนลงไปเป็นผู้ประลองบ้าๆ แบบนี้…จริงอยู่ที่ตอนแรกเขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแต่เขาก็เป็นผู้ใหญ่พอจะไม่ตีโพยตีพายหรือกระทืบโนอาห์ตามที่เขาพูดไว้ ถึงมันจะน่าโดนกระทืบจริงๆ ค่าที่ไม่บอกกล่าวตั้งแต่เนิ่นๆ ก็ตาม

 

            " ก็ฉันถึงได้บอกว่าให้นายใจเย็นๆ และฟังฉันอธิบายก่อน "

 

            " หุบปากซะ โนอาห์ ก่อนที่ฉันจะห้ามใจไม่ให้ชกนายไม่ได้ "  ชายหนุ่มตัดบทเบาๆ พลางกุมขมับ

 

            " ไรว้า ยังไม่หายโกรธอีกเหรอ? ฉันก็บอกไปแล้วว่าฉันช่วยอะไรนายไม่ได้… นายเสือกทำตัวซะเด่นโพดๆ แทนที่จะเก็บเนื้อเก็บตัวแบบฉัน …แค่เป็นจอมเวทย์ที่แฝงตัวอยู่ในหมู่ผู้ใช้พลังจิตก็พอทนอยู่แล้ว นี่ดันผ่าไปโค่นแลนซ์ที่นายไม่ควรไปยุ่งด้วยอีก …ถ้าฉันไม่ได้บังเอิญรู้จักนายมาก่อนฉันคงจะคิดว่านายเป็นพวกอยากเด่นอยากดังแหงๆ เลย "  โนอาห์อดบ่นไม่ได้…เขาสามารถแฝงตัวอยู่บนเกาะแห่งนี้ได้นานถึง 2 ปีโดยไม่มีใครรู้ว่าเขาคือใคร แต่ชายหนุ่มตรงหน้าเขามาที่นี่ได้เพียงเดือนกว่า แต่กลับกลายเป็นคนที่ดังที่สุดบนเกาะ แถมยังทำให้ตัวเอง (บางทีอาจจะรวมถึงเขาด้วย) ตกอยู่ในฐานะเสี่ยงตายอีกนับไม่ถ้วน….ช่างเป็นคนที่ใช้ชีวิตได้เปลืองเปล่าซะเหลือเกิน

 

            " เข้าใจคำว่า สถานการณ์มันพาไปไหม?  โทษฉันไม่ได้นี่หว่าที่ปัญหาทุกอย่างมันวิ่งเข้ามาชนฉันแบบนี้ "  เรย์ลาลีนได้แต่บ่นอุบ

 

            " แหม่…ฟังที่นายพูดเข้าสิ…เป็นประโยคที่น่าเอาไปพิมพ์บนหมวกหรือเสื้อยืดออกขายซะจริง…เฮ้อ…ไปพวกเราไปกันเถอะ…ป่านนี้สาวๆ พวกนั้นคงจะสงสัยแล้วล่ะว่าทำไมเราสองคนหายไปนานนัก แล้วฉันก็ไม่อยากให้ข่าวลือเรื่องที่ฉันกับนายเป็น…เอ่อ…นั่นแหละ…ฉันไม่ค่อยอยากให้ข่าวลือเรื่องนี้ฟุ้งขึ้นมาอีก…เดี๋ยวพวกสาวๆ ที่ฉันคั่วอยู่จะลี้ฉันไปหมด...แอ๊ก!! "  โนอาห์บ่นดังๆ ก่อนจะโดนชายหนุ่มที่มีข่าวลือคู่กับเขาชกเข้าด้วยน้ำหนักกึ่งจริงกึ่งเล่นเขาให้ข้อหากวนโอ๊ยไม่ดูเวล่ำเวลา

 

              ในเมื่อเปล่าประโยชน์ที่จะหลีกหนี เรย์ลาลีนก็ฉลาดพอที่จะรู้ว่าสิ่งเดียวที่เขาสามารถจะทำได้ในตอนนี้คือเผชิญหน้ากับมัน  ภายใน 1 ชั่วโมงครึ่งนี้เขาจำต้องรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับการประลองหรือผู้ประลองงี่เง่าที่ทุกคนเรียกว่า Challengers นี้ ซึ่งต้องขอบคุณพรสวรรค์บางอย่างในตัวเขาที่ทำให้เขาย่อยข้อมูลได้ไวพอจะเข้าใจว่าการประลองนี้มี Challengers ฝ่ายละ 5 คน เป็นการประลองแบบ 1 ต่อ 1 โดยสิ่งที่เขาต้องทำก็เป็นเพียงแค่การคว่ำ Challenger อีกฝั่งที่เป็นนักเรียนเวทย์ให้ได้ (โดยที่เขาต้องไม่ทำให้ความลับที่ว่าเขาเป็นจอมเวทย์แตกด้วย) ภายใต้กฎกติกาที่พวกสาวๆ พยายามยัดใส่กะโหลกน้อยๆ ของเขา 

 

            " สรุปสั้นๆ การประลองนี้จะมีเหล่าผู้ใช้พลังจิตเขตแดนระดับขั้นเทพเป็นผู้ดูแล โดยมีเงื่อนไขเขตแดนว่าจะย้าย Challenger ฝ่ายที่เกจพลังหมดก่อนออกมาโดยที่ไม่ทำให้ผู้ประลองไม่ว่าฝ่ายใดเสียเลือดเสียเนื้อ...โอ้...นึกว่าจะมีอีเว้นท์เลือดนองท้องช้างมากกว่านี้ซะอีก... "  เรย์ลาลีนอดพูดเบาๆ ไม่ได้...เขาเริ่มสบายใจขึ้นเมื่อได้รู้ว่าความลับเขาคงจะไม่แตกง่ายๆ ด้วยเรื่องที่ถูกป้องกันมาอย่างดีแบบนี้แน่...เพราะแค่ค่าหัว 50 ล้านดรากัสที่แขวนคอเขาอยู่ในตอนนี้ก็หนักหนาสาหัสพออยู่แล้ว

 

            " ก็นะ...ส่วน Challengers ฝ่ายผู้ใช้พลังจิตของพวกเราทั้ง 5 คนส่วนใหญ่เธอก็น่าจะรู้จักแล้ว...นอกจากฉันกับเธอแล้วก็มีแลนซ์ กับนาซีเรีย วารีเรี่ยน ซึ่งเป็นเจ้าปราการน้ำอีกคน "  คลาเดียเอ่ยแนะนำด้วยน้ำเสียงอารมณ์รื่นเริงสุดๆ แต่เท่าที่ชายหนุ่มฟัง เขานับยังไงก็นับได้แค่ 4 คน

 

            " ...เอ่อ...คือ มันขาดไปอีกคนนึงนะครับ พี่คลาเดีย "  แลนซ์เอ่ยเบาๆ ด้านหลังแล้วก็ต้องเงียบกริบทันทีที่เห็นสายตาฆาตกรโรคจิตของผู้เป็นรุ่นพี่ในปราการ

 

            " ...แค่นี้นายก็น่าจะเดาได้แล้วนะว่า Challenger อีกคนที่เหลือน่ะเป็นใคร "  พริสซิลล่ากระซิบข้างหูเขาเบาๆ ซึ่งถึงเธอไม่บอกชายหนุ่มก็น่าจะเดาได้แล้วว่าคนที่คลาเดียจงใจข้ามไปเป็นใคร

 

            " นั่นสินะ...งานที่เป็นหน้าเป็นตาของสถาบันแบบนี้จะขาดผู้ใช้ราชศาสตราคนเก่งอย่างเฮเลน วอลคาโนได้ยังไงเนอะ? "

 

            " ไม่ต้องมาประชดกันเลย "  เฮเลนแหวเบาๆ ...ดูเธอจะชินชากับการมองไม่เห็นหัวของรุ่นพี่บางคนแถวนี้เสียแล้ว

 

            " พูดก็พูดเถอะนะ...จากรายชื่อแล้วเนี่ย...มันจะไม่โกงไปหน่อยเหรอ? ...ถึงฉันจะไม่เคยเห็นว่านาซีเรียที่เป็นเจ้าปราการอะไรเนี่ยเก่งแค่ไหน แต่รายชื่ออีก 3 คนที่เหลือนี่มัน... "  ชายหนุ่มได้แต่เอ่ยเบาๆ ...เฮเลนน่ะไม่ต้องพูดถึง ส่วนแลนซ์กับคลาเดียนี่ก็มีระดับเกินกว่าเหล่านักเรียนทั่วไปไม่ใช่น้อยๆ ...บอกได้คำเดียวว่ารายชื่อแบบนี้มันโกงกันเห็นๆ เลย

 

              คำพูดของชายหนุ่มทำเอาสาวๆ หันไปมองหน้ากันเองก่อนจะหัวเราะกันอย่างแกนๆ ในขณะที่โนอาห์ซึ่งไม่รู้ว่ามันเข้ามาอยู่ในที่นี้โดยไม่มีหน้าที่อะไรเลยได้ยังไงถึงกับถอนหายใจเฮือกพร้อมกับโอบไหล่และตบหนักๆ

 

            " เอาล่ะ...เรย์...นี่เป็นคำถามมูลค่า 1 หมื่นดรากัส ...คำถามมีอยู่ว่า ตลอดเวลา 7 ปีที่จัดงานแกคิดว่าระหว่างฝ่ายสถาบันผู้ใช้พลังจิตกับมหาลัยหมื่นเวทย์ ระหว่างสถาบันทั้งสองนี้ ใครเป็นผู้ชนะการประลองที่จัดขึ้นนี้มากกว่ากัน?? "  โนอาห์กระซิบถามเบาๆ

 

            " หือ? "  

 

            " เฮ้อ...แหกรูหูฟังให้ดีๆ นะ...ตลอด 7 ปีในประวัติศาสตร์ของการประลองที่ผ่านมา...สถาบันผู้ใช้พลังจิตของพวกเราไม่เคยได้รับชัยชนะเลยแม้แต่หนเดียว "

 

            " !!! "

 

            " พึงสังวรณ์ไว้เถอะนะ เรย์เอ๋ย...ชุมเสือแดนสิงห์ น่ะ ไม่ได้อยู่แต่ในสถาบันนี้ที่เดียวหรอก...ถึงไม่อยากจะพูดก็เถอะ แต่ถ้าจะวัดกันจริงๆ พวกเราทั้งหมดไม่ใช่คู่มือของมหาลัยหมื่นเวทย์ภายใต้การนำของท่านเชรีน่า เมโอ คริสตัลเลยแม้แต่น้อย !! "

 

              เรย์ลาลีนเบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ...มันยากที่จะเชื่อจริงๆ ว่าทั้งแลนซ์และเฮเลน(รวมถึงคลาเดียที่เขาพึ่งรู้จัก) จะพ่ายแพ้แก่ผู้ที่ยังถูกเรียกว่า นักเรียน ของมหาลัยหมื่นเวทย์แบบนี้

 

            " ...ชุมเสือแดนสิงห์...งั้นเหรอ? "  ชายหนุ่มได้แต่ทวนคำเบาๆ ...ในตอนนี้ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน...การเข้าร่วมประลองโดยไม่ให้ความลับเรื่องที่เขาเป็นจอมเวทย์แตก อาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อย่างที่เขาคาดคิดเสียแล้วก็ได้...

 

 

 

.........................................................

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา