COFFEE HOT แผนรุก ซ่อนรัก! SM

8.2

เขียนโดย ช็อกโกเมล

วันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 17.46 น.

  3 ตอน
  3 วิจารณ์
  13.43K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 4 เมษายน พ.ศ. 2557 17.09 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ตอนที่2 COFFEE HOT : I LIKE YOU

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เมื่อผู้หญิงเลวๆ อย่างเธอถูกหมายหัวด้วยผู้ชายที่หื่นขึ้นสมองอย่าง 'ฮอล์ก้า' หนึ่งในแก๊ง SWEET DEVIL ที่ขึ้นชื่อเรื่องความดิบเถื่อนแต่ก็หล่อร้ายจนผู้หญิงหลายๆ คนต้องยอมพลีกายถวายชีวิต แล้วอย่างนี้เธอจะเอาตัวและหัวใจให้รอดพ้นจากวิกฤตินี้ได้อย่างไร  

ฝากเพจ

อัพเดทนิยายและเข้ามาพูดคุยกันได้ที่

https://www.facebook.com/NovelMAIL

 

เว็บลงนิยายอีกที่

http://my.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1042371

 

 

 

ตอนที่2

COFFEE HOTI LIKE YOU

 

You are like a flower in my heart

เธอเป็นเหมือนดอกไม้ในดวงใจของฉัน

A valuable rarity

เป็นเหมือนของล้ำค่าที่หายาก

And I just want to hold you

และฉันอยากจะโอบกอดเธอเอาไว้

For a long time

ตราบนานเท่านาน

 

           ฉันฟังฮอร์ก้าพร่ามเรื่องไร้สาระอยู่สักพัก พอหันมาอีกทีก็เห็นว่ายัยนมสดได้อันตรธานหายไปแล้ว บ้าเอ้ย! ฉันไม่เคยปล่อยให้ใครรอดไปได้เลยนะ แบบนี้ยัยนั้นต้องกลับมาเล่นงานฉันแหงๆ

 

          เพราะไอ้บ้านี้ตัวเดียวเลย หงุดหงิดจริง!

 

          “หายไปแล้วเห็นมั้ย”

 

         “เห็น เห็นด้วยว่าหายไปตอนไหน”

 

         “แล้วทำไมไม่เรียกฉัน”

 

            ฉันถามเสียงต่ำอย่างคนเริ่มจะหมดความอดทนเต็มที่ คืนนี้ดูเหมือนอะไรๆ จะไม่เป็นใจให้ฉันเลยสักอย่างให้ตายสิ สงสัยพรุ่งนี้คงต้องรีบตื่นไปทำบุญแต่เช้า ถ้าฉันได้ยินเสียงนาฬิกามันปลุกละก็นะ

           

            ก็อย่างว่า…ฉันมันคนขี้เซานะน่ะ

 

            เพราะเหตุนี้ ฉันก็เลยไปเข้าเรียนสายประจำ ได้เมเพอร์เนี้ยแหละที่แกล้งขานชื่อให้ ไม่อย่างนั้นฉันหมดสิทธิ์สอบแน่

 

           “ก็ผมยังพูดไม่จบ”

 

            “ก็พูดมาซะ ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทนกับนายในที่สุด”

 

            “ผมชอบคุณ เป็นแฟนกันนะ”

 

            ฉันมองหน้าเขานิ่งๆ เหมือนว่าเขาจะเล่นตลกอะไรกับฉันว่ามั้ย เมื่อกี้ยังบอกว่าฉันเป็นผู้หญิงเลวอยู่เลย แล้วนี่อะไร จะมาขอฉันคบอย่างนั้นเหรอ หรือนี่จะเป็นมุกจีบสาวแบบใหม่

 

            แต่นายพลาดอย่างแรงเลยละ ที่ทำให้เหยื่อของฉันหลุดรอดไปได้ ไม่อย่างนั้นฉันคงจะตอบตกลงนายเหมือนกับพวกผู้ชายที่ผ่านมาทุกๆ ราย และผลสุดท้ายนายก็จะโดนอัดถั่วดำอยู่ที่บาร์เกย์ พร้อมกับรูปช่วงเวลาแห่งความสุขสันที่ฉันจะเอาไปแปะประจานให้ทั่วสถาบันที่นายเรียนอยู่

 

            “เพี้ยนเหรอไง”

 

            หน้าตาก็ดี ไม่เข้าใจหรือไงว่าทำแบบนี้แล้วฉันจะไม่ชอบ

 

            แน่ะ! พูดแล้วยังจะส่งรอยยิ้มหล่อๆ มาให้อีก ฉันไม่เปลี่ยนใจหรอกย่ะ นายพลาดเอง ช่วยไม่ได้

 

           “พูดแล้วยังจะมายิ้มอีก กวนประสาท!”

 

           ฉันกลับหลังหันเดินไปที่ทางออกอย่างคนอารมณ์เสียและพร้อมจะระเบิดได้ทุกเมื่อ ฮอร์ก้า นายคือตัวซวยของคืนนี้จริงๆ

 

          “แล้วคุณจะเปลี่ยนใจ”

 

          ฉันได้ยินเสียงเขาพูดไล่หลังออกมา แต่ก็ทำเป็นไม่สนใจ พยายามเดินออกมาให้เร็วที่สุด เพราะอารมณ์นี้ฉันไม่อยากทำอะไรอีกแล้วนอกจากนอนและปล่อยให้สมองได้พักเพียงแค่นั้น

 

         และเป็นอีกวันที่ฉันตื่นสาย ก่อนจะรีบวิ่งออกจากอพาร์ทเม้นท์หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จอย่างทุลักทุเล และถือเป็นโชคของฉันที่มหาลัย’ อยู่ใกล้แค่หน้าปากซอยทำให้ฉันวิ่งไปทันคาบแรกในที่สุด

 

          “สายอีกตามเคย”

 

          เมเพอร์แขวะขึ้นมาเล็กๆ หลังจากที่ตูดฉันถึงเก้าอี้และเสียงหอบหายใจก็ดังขึ้นมาถี่ๆ ตามจังหวะการเต้นของหัวใจ

 

          พอนั่งเรียนไปได้สักพัก ฉันถึงเห็นว่าวันนี้ไอ้เฟรมไม่ได้มาเรียน แต่มันก็เป็นเรื่องปกติของมันละนะ ก็ไอ้หมอนั้นนะ มีพี่เปิดธุรกิจโรงแรมอย่างว่าอยู่ วันไหนพี่มันไม่อยู่ ก็มันนั้นและที่ต้องอยู่คุมแทน

 

          และที่ต้องคุม ก็เพราะมันเป็นโรงแรมที่เอาไว้ทำเรื่องบนเตียงเพียงอย่างเดียว พวกที่มีแฟนอยู่แล้วแต่แอบมีกิ๊กก็เลยชอบมาใช้บริการกันเป็นส่วนใหญ่ เพราะงั้นพวกบรรดาตัวจริงทั้งหลายก็เลยตามมาอาละวาด บ้างก็ฆ่ากันตายเพราะขาดสติยังคิดจนทางโรงแรมต้องออกมาห้ามปราม และนี้ คือที่มาของการอยู่คุมโรงแรมอย่างที่บอก

 

         ฟังแล้วน่ากลัวมั้ยละ

 

         “เดี๋ยวแกไปกินข้าวกันก่อนเลยนะ เดี๋ยวฉันตามไป”

 

         ฉันบอกกับเมเพอร์หลังจากที่อาจารย์เดินออกไปจากห้องเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่จะเดินขึ้นไปบนดาดฟ้าที่เก่าเวลาเดิม และใช้สายตาไล่พวกที่กำลังยืนสูบบุหรี่ออกไปอย่างถือสิทธิ์ เพราะฉันรู้ว่าไม่มีใครกล้าแหยมกับฉันอยู่แล้ว ถึงมีฉันก็ไม่กลัวหรอก

 

         ฉันหยิบบุหรี่ออกมาเตรียมที่จะจุดสูบ แต่กลับถูกปัดลงพื้นไปซะอย่างนั้น

 

         ฉันหันไปประจันหน้ากับคนที่ไม่คาดคิดว่าจะอยู่ที่นี้ด้วยแววตาแปลกใจ แต่ก็ไม่ทิ้งความถือตัวและหยิ่งผยองเอาไว้ให้รู้ได้ว่าฉันตกใจในการมาของเขา

 

          “บุหรี่มันไม่ดีกับตัวคุณหรอก เชื่อผมสิ”

 

          “ฮอรก้า”

 

          ฉันมองเขาตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าแล้วถึงรู้ว่าเขาเรียนอยู่ที่เดียวกับฉัน เพราะชุดและเข็มที่บ่งบอกสถาบันการศึกษาของเขา

 

          แต่ฉันแน่ใจว่าฉันไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อนอย่างแน่นอน หรือว่าจะเป็นเด็กที่เข้ามาใหม่ ก็ไม่น่าใช่ มหาลัย’ คงไม่รับคนเข้ามาตอนใกล้สอบแบบนี้หรอก

 

         “ครับ แปลกใจเหรอ ผมบอกแล้วว่าคุณจะต้องเปลี่ยนใจ”

 

         “กับอีแค่ฉันเห็นนายเรียนที่เดียวกันแค่นี้ คิดเหรอว่าฉันจะเปลี่ยนใจได้ง่ายๆ”

 

        นี่เขาคงตั้งความหวังเอาไว้สูงสินะ น่าเสียดายที่มันจะต้องพังลงมาไม่เป็นท่า คงไม่ได้ศึกษาฉันมาก่อนที่จะมาขอฉันคบละสิ ถึงได้ไม่รู้ว่าฉันเป็นคนยังไงกันแน่

 

          “ก็บอกแล้ว…ว่าคุณจะต้องเปลี่ยนใจ”

 

          พูดจบเขาก็พุ่งเข้าหาฉันอย่างแรง ด้วยการล็อคมือทั้งสองของฉันและกดให้มันแนบกับลำตัว จนไม่สามารถขยับเขยื้อนอะไรได้ก่อนที่เขาจะดันให้ฉันเดินไปชิดขอบกำแพงและจู่โจมฉันด้วยริมฝีปากแดงสดนั้นทันที

 

          ฉันพยายามดิ้นรนเอาตัวรอด เพราะถึงฉันจะเคยมีแฟนมาหลายคน แต่ฉันก็ไม่เคยถึงเนื้อถึงตัวกับใครเลยสักคน แล้วไม่ต้องให้บอกคงจะรู้กันใช่มั้ย ว่านี้คือจูบแรกของฉัน

 

         หลังจากพยายามดิ้นอยู่นาน ฉันก็สามารถหลุดพ้นจากพันธนาการของเขาในที่สุดและใช้มือดันเขาออกไปอย่างนึกรังเกรียจ แต่เขากลับรวบมือฉันไว้เพียงมือเดียวและกดมันไว้กับอกของฉัน ก่อนจะเคลื่อนริมฝีปากลงมาคลอเคลียอยู่ตรงซอกคอ เป็นจังหวะให้ฉันเบือนหน้าหนีไปอีกทางตามสัญชาตญาณบ่างอย่าง

 

          และมันทำให้ฉันเห็นว่า คนที่อยู่เบื้องล่างกำลังมองขึ้นมาก่อนที่จะหันไปซุบซิบนินทาต่างๆ นาๆ จนคนหน้าหนาอย่างฉันต้องถึงกับอายเป็นบ้างละว่ะงานนี้

 

          “ไอ้ทุเรศเอ้ย! ปล่อยฉันนะ”

 

          ตุ๊ป!

 

           ฉันกระทืบเท้าใส่เขาสุดแรง ตามด้วยการกระแทกหัวใส่หน้าผากขาวๆ ของเขาจนเขาต้องผงะถอยออก แต่พอฉันจะวิ่งหนีเขากลับเหวี่ยงฉันลงพื้นตามด้วมขึ้นคร่อมและล็อคแขนขาฉันไว้หมดอย่างคนรู้งาน จนฉันได้แต่ฟึดฟัดและโวยวายใส่อย่างคนทำอะไรไม่ได้

 

           เขาไล่ปลายจมูกจากกระดุมเม็ดล่างของฉันขึ้นมาทีละนิดๆ ก่อนที่จะมาหยุดพ่นลมหายใจใส่หน้าของฉันด้วยรอยยิ้มเจ้าเหล่ และสาบานได้ ถ้าฉันหลุดออกไปเมื่อไร นายตายแน่!

 

            “สกปรก เอาลมหายใจเหม็นๆ ของนายออกไปจากหน้าของฉันเดี๋ยวนี้นะ”

 

            “เหม็นเหรอ ก็รสชาติเดียวกับริมฝีปากที่คุณสัมผัส”

 

            “ยี้! ฉันไม่อยากฟัง ถุยๆ”

 

          ฉันหันไปถมน้ำลายอีกทางอย่างรังเกรียจ และไม่อยากให้เรื่องทั้งหมดเป็นความจริงเลย ฉันยังไม่เสียจูบแรกไปให้กับผู้ชายแบบนี้

 

            แต่เขากลับหันหน้าตามไปกดจูบฉันซะอย่างนั้น และมันรุนแรงมาก มากเสียจนฉันต้องข่มความเจ็บปวดเอาไว้ข้างในอย่างคนไม่ยอมแพ้

 

            “งะ! มันยังสกปรกอยู่มั้ย”

 

            ฉันไม่ตอบ แต่เลือกที่จะหันหน้าไปอีกทางเพราะไม่อยากเห็นหน้าของเขา ไม่อยากรับรู้ว่ามันคือเรื่องจริงที่อยู่ตรงหน้าของฉันแล้วจริงๆ

 

            เขาก้มลงไปคลอเคลียกับคอของฉันอีกครั้ง และสอดมือเข้ามาในเสื้ออย่างช้าๆ ก่อนที่มันจะกระทำการบางอย่าง จนฉันต้องดิ้นรนก่อนที่ทุกอย่างจะเลวร้ายไปมากกว่านี้ และฉันจะไม่ปล่อยให้มันเป็นแบบนั้นแน่

 

            นี่มันมหาลัย’ นะ เขาจะมาทำกับฉันแบบนี้ไม่ได้

 

            ไม่ใช่ว่าฉันเคารพสถานที่อะไรหรอกนะ แต่ฉันไม่ชอบเขา และฉันไม่ต้องการทำแบบนี้ไม่ว่าจะกับใครก็เถอะ

 

            แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ผล เพราะมือของเขาเลื้อยลงไปข้างล่างเรียบร้อยแล้ว และมันเจ็บปวดมาก ฉันได้แต่หลับตาปี้ไม่อยากเห็นว่าเขากำลังทำอะไรกับฉันบ้าง ถึงฉันจะเก็บอารมณ์ยังไงแต่วินาทีนี้น้ำตาของฉันมันไหลออกมาแล้วจริงๆ

 

            ฉันเจ็บ…

 

            ได้โปรดหยุดเขาที

 

            “พูดสิ ว่าจะเป็นแฟนกับผม”

 

          นี่เขาต้องการบีบบังคับฉันด้วยวิธีแบบนี้เหรอเนี้ย คิดว่าทำแบบนี้แล้วฉันจะรู้สึกดีๆ กับเขาหรือไง ตรงกันข้าม…ฉันจะรู้สึกเกลียดเขามากและจดจำในสิ่งที่เขาทำเอาไว้กับฉันมากเท่านั้น

 

          “และแน่นอนว่า…ถ้าคุณกลับคำละก็ คุณโดนมากกว่านี้แน่”

 

          เขาพูดทั้งๆ ที่ทำบางอย่างกับข้างล่างของฉัน จนฉันต้องยอมพูดออกไปในที่สุด

 

          “ฉะ ฉัน…ตกลงเป็นแฟนกับนาย พอใจหรือยัง ><”

 

          “พอใจแล้ว ^^”

 

          ฮอร์ก้ากดเปิดเครื่องบันทึกเสียง ที่ฉันถูกข่มขู่ให้ตอบตกลงเป็นแฟนกับเขาด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย ฉันมองหน้าเขาอย่างทึ่งๆ ไม่คิดเลยว่าเขาจะกล้าทำได้ถึงขนาดนี้ ฉันละอยากจะฆ่าเขาให้ตายคามือจริงๆ

 

         เขาลุกขึ้นยืนโชว์ความสูงที่มีมากจนเกินไป ก่อนที่จะยื่นมือมาฉุดให้ฉันที่ยังคงนอนอยู่กับพื้นด้วยใบหน้าเปื้อนคราบน้ำตาให้ลุกขึ้นไปกับเขา

 

         แต่ฉันกลับเลือกที่จะลุกขึ้นเอง ดีกว่ายื่นมือรับความช่วยเหลือจอมปลอมจากเขา

 

         “อะแฮ่ม!”

 

         ฮอร์ก้ากระแอมไอเบาๆ พลางโชว์เครื่องบันทึกเสียงข่มขู่ฉันในที

 

         “ฉันแค่จะลุกขึ้นเอง”

 

         ฉันบอกกับเขาด้วยน้ำเสียงลอดไรฟันอย่างคนที่ทำอะไรไม่ได้ และดูเหมือนว่าเขาจะชอบใจที่รู้ว่าฉันยอมจำนนกับเขาแล้ว ถึงได้ถือดีมาโอบเอวฉันแบบนี้

 

         ให้ตายเถอะ! กลับบ้านไปฉันต้องนั่งขัดขี้ไคลอยู่หลายจุดจนไม่เป็นอันทำอะไรแน่

 

         “หิวแล้ว”

 

         “แล้วมาบอกฉันทำไม?”

 

         ฮอร์ก้าเลิกคิ้วขึ้นอย่างเป็นต่อ ก่อนที่จะชูเครื่องบันทึกเสียงขึ้นมาขู่ฉันอีกครั้ง

 

         ไอ้บ้านี่นี้ ไม่มีอะไรจะทำแล้วจริงๆ สินะ ได้ทีขู่ได้ขู่ดี อย่าให้ถึงตาฉันบ้างละ แม่จะเอาคืนทั้งต้นทั้งดอกให้สาสมกับสิ่งที่นายทำเอาไว้กับฉันเลย ไอโรคจิตเอ้ย!

  

         “ฉันก็หิวเหมือนกัน งั้นเราลงไปกินข้าวกันดีกว่าเนอะ T T”

 

         “ครับที่รัก”

 

          พูดไปก็ดึงตัวฉันเข้าไปหอม ถามจริง ดูหน้ากันหรือยัง ว่ามันต้องการพูดแบบนั้นหรือเปล่า เฮ้ย…

 

          และแล้ว…ฉันก็ต้องเดินลงมากินข้าวกับไอโรคจิตฮอร์ก้าในที่สุด โดยที่มันก็เดินโอบเอวฉันลงมานั้นแหละ แล้วรู้ใช่มั้ย ว่ามันจะกลายเป็นจุดเด่นมากแค่ไหนที่คนอย่างฉันยอมให้ผู้ชายโอบเอวถึงเนื้อถึงตัวได้ขนาดนี้

 

          อยากจะกรี๊ด! แต่ติดว่ากรี๊ดไม่เป็น

 

          หมับ!

 

          ฉันหันไปมองตามแรงดึงจากด้านข้าง ก็เห็นว่าเป็นยัยเมเพอร์กับวินนิ่งที่ยืนหน้าเครียดบอกบุญไม่รับอยู่นั้นเอง

 

          “นี่มันอะไรกัน ทำไมแกมากับผู้ชาย แล้วทำไมคอแกถึงแดงแบบนี้”

 

          “หะ! คอแดงเหรอ”

 

          ฉันตวัดสายตาดุๆ ไปมองตัวก่อเหตุทันที แต่ไอบ้านี่ก็กลับยิ้มหน้าระรื่นเหมือนพอใจในผลงานยังไงอย่างงั้น ฉันจะบ้าตาย!!!

 

          “นายทำอะไรลงไป รู้ตัวบ้างมั้ย!”

 

          “รู้สิ ไม่รู้จะทำเหรอไง”

 

          มันช่างเป็นคำตอบที่ชวนให้เส้นสมองแตกตายเสียนี่กระไร

 

          “ก็เราเป็นแฟนกัน ไม่เห็นจะเป็นไรเลย”

 

          “แต่คนอื่นเขาจะคิดว่านายเจาะไข่แดงฉันแล้ว”

 

          “พูดเหมือนยังไม่เคยไปได้”

 

          ก็ยังไม่เคยนะสิเว้ย! แต่ไม่รู้แบบนี้ก็ดี จะได้ไม่เกิดอารมณ์ประมาณว่าอยากพิชิตเวอร์จิ้นของฉัน หรือว่าอยากเป็นคนแรกอะไร เพราะถ้าเกิดคิดอะไรทำนองนี้ขึ้นมา มันจะยุ่ง

 

          “ตกลงนี่มันอะไรอะแก”

 

          ยัยเมเพอร์ยังคงเซ้าซี้ถามไม่เลิก และฉันก็ไม่รู้ว่าควรจะบอกว่ายังไงดี เพราะถ้าขืนบอกความจริงออกไปตอนนี้ ชีวิตฉันคงจบเห่เพราะเครื่องบันทึกเสียงแน่ และที่ฉันกลัวไอเครื่องบันทึกเสียงบ้าบอคอแตกนั้นนะ ไม่ใช่เพราะว่าฉันตกลงเป็นแฟนกับฮอร์ก้าหรอกนะ แต่ฉันกลัวคนอื่นจะรู้เรื่องที่ฉันโดนฮอร์ก้าข่มขู่ให้ตอบตกลงเป็นแฟนด้วยวิธีไหนต่างหากละ

 

          และถ้าโกหกไปอย่างที่ฮอร์ก้าต้องการ ฉันรู้ว่าเมเพอร์ต้องไม่เชื่อแน่ เพราะยัยนี้ฉลาดพอที่จะรู้ว่าฉันเป็นคนยังไง

 

          “เอิ่ม…คือว่า”

 

          คือว่าไรดีว่ะ ยัยนี้ก็จ้องตาไม่กระพริบเพราะอยากรู้คำตอบตาเป็นมันเชียว ไอคนที่ซวยมันก็ฉัน ไม่ใช่ใครอื่นเลยเว้ย!

 

          “คือว่าอะไร! เอิ่มๆ อยู่นั้นแหละ”

 

          “คือว่าเราสองคนเป็นแฟนกันครับ ^^”

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา