Housemaid! "ผมนี่แหละแม่บ้าน"
9.4
เขียนโดย nooonaa
วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 16.38 น.
17 ตอน
14 วิจารณ์
31.61K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 25 มกราคม พ.ศ. 2557 23.29 น. โดย เจ้าของนิยาย
14) Housemaid! 12 : โชคดีในความโชคร้าย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความby nooonaa
Housemaid! 12 : โชคดีในความโชคร้าย
~คุณเธอ~
"คุณเธอ...ร้องไห้ทำไม ไอ้กวางมึงว่าอะไรน้องวะ"
ทำไมผมถึงร้องไห้ล่ะ ทำไมน้ำตาผมถึงไหล...
"กูแค่พูดความจริง"
"ไอ้กวาง น้องเค้าเป็นผู้หญิงนะ จะมาฟังคำพูดขวานผ่าซากของมึงได้ยังไง"
"พอเถอะ! มึงอยากทำอะไรก็ทำไอ้เหี้.ยกวาง!!" มันเหลืออดแล้วจริงๆ ผมด่ามันก่อนจะรีบปาดน้ำตาทิ้ง ผมจะให้ใครเห็นน้ำตาไม่ได้
"คุณเธอ..." ทุกคนประสานเสียงอย่างตกใจที่ผมสบถด่าได้หยสบคายขนาดนั้น แต่จะให้ผมมานั่งทนไอ้บ้านี่หรอ มึงเป็นคนผิดนะ แล้วยังจะมาทำแบบนี้กับผมได้ยังไง
"ผมขอโทษนะครับพี่ทิวพี่ฟินย์ ผมไม่น่ามาอารมณ์เสียกับความจริงของผม ยังไงผมขอตัวก่อนนะครับ" ผมยกมือไหว้พี่ๆทั้งสองคนก่อนจะรีบเดินหนีออกมา
"ผมหรอ คุณเธอ...ทำไมใช้แทนตัวเองว่าผมล่ะ"
"ฟินย์ มึงช่วยไปส่งคุณเธอที่บ้านหน่อย"
"ไม่ต้อง! ยังไงมึงก็เกลียดกูอยู่แล้วนิ ก็ไม่ต้องมาสนใจกูอีก มึงมันเลวที่สุดไอ้กวาง"
"มึงเลือกเอง.." มึงพูดมันออกมาได้ไร้ความรู้สึกมาก สีหน้ามึงที่เรียบเฉยนั้นมันเป็นการตอกย้ำใช่มั้ยว่ามึงพูดจริง
ความผิดกูงั้นสิ ตกลงมันเป็นความผิดกูใช่มั้ย!
"งั้นมึงก็ไม่ต้องมายุ่งกับกูอีก!!" ผมจะกลับญี่ปุ่นแล้ว ไม่อยู่ให้เสียความรู้สึกหรอก
"กูบอกแล้วไงว่ามึงก็แค่คนใช้ อย่าสำคัญตัวผิด"
อีกแล้ว...คำนี้อีกแล้ว
นี่ผมไม่สำคัญเลยงั้นสิ
"อืม...กูเข้าใจทุกอย่างแล้ว" คราวนี้ผมคงหมดหนทางแล้วจริงๆ ผมคงไม่มีหน้าจะมาเป็นคนใช้บ้านมันอีก มันคงจะเกลียดผมมาก
ผมเดินออกมาจากห้องเสื้อนั้นอย่างคนล่องลอย ผมไม่เคยคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น แล้วทีนี้ผมจะทำยังไงดีล่ะ ผมคงต้องหาทางกลับบ้านมันก่อนแล้วค่อยเอาพาสบอร์ตกลับญี่ปุ่น ยังดีที่ตอนนี้มีเงินติดตัวอยู่ไม่งั้นผมคงจะแย่อีกแน่ ว่าแต่ผมต้องขึ้นรถที่ไหนเนี่ย ใจก็ไม่อยากขึ้นแท็กซี่หรอกนะแต่มันก็คงจำเป็นต้องขึ้นแล้วล่ะ จะมาชักช้าแบบนี้ไม่ได้ ยิ่งได้กลับญี่ปุ่นเร็วมากขึ้นเท่าไหร่ผมก็จะยิ่งหายอารมณ์เสียและหายเสียความรู้สึกมากเท่านั้น แต่ผมลืมอะไรไปรึป่าว ผมลืมไปเยี่ยมแม่เลย เป้าหมายของผมคือมาหาแม่นี่
ขอโทษครับแม่ ขอโทษที่ลืมแม่นะครับ
ผมรีบโบกแท็กซี่แล้วกลับบ้านทันที ผมรีบจัดแจงเก็บของซึ่งก็มีแค่เงินสามพันกับพาสปอร์ตเท่านั้นเอง ชีวิตรันทดจริงวะ
"คุณเธอทำอะไรน่ะ"
"คุณแม่บ้าน!" ผมสะดุ้งเฮือกทันทีที่เราสองคนจ๊ะเอ๋กัน ตาคุณแม่บ้านมองผมไปมาที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดแรกที่ผมมาบ้านนี้ก่อนจะหยุดที่มือของผม ผมเลยรีบเก็บพาสปอร์ตเข้ากระเป๋าหลังทันที
"ทำไมแต่งชุดนี้"
"คือว่าหนู..." ผมสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนที่น้ำตามันพาลจะไหลลงมาอีกรอบแล้วตอบคุณแม่บ้านอีกครั้ง "หนูต้องไปจากที่นี่แล้วค่ะ คุณหนูไม่ต้องการให้คุณเธออยู่ที่นี่ คุณเธอคงต้องไปหาที่อยู่อื่น"
"ทำไมเป็นแบบนั้นไปได้ล่ะ คุณแม่บ้านก็ยังเห็นเธอดีๆกันอยู่เลย" มันเป็นแค่ภาพลวงตานะสิ มันก็ทำแบบนี้กับผมให้รู้สึกตายใจว่ามันดีกับผม แต่สุดท้ายผมมันก็แค่สำคัญตัวผิด
"ช่างมันเถอะค่ะคุณแม่บ้าน คุณเธอต้องขอบคุณคุณแม่บ้านมากๆเลยนะคะที่ดูแลหนูเหมือนลูกคนหนึ่ง มันอบอุ่นมากๆเลยค่ะ หนูจะไม่ลืมบุญคุณนี้เลย" ผมสัญญาครับ ผมจะกลับมาตอบแทนคุณแม่บ้านแน่นอน
"แล้วจะไปอยู่ไหนล่ะ"
"คงไปหางานทำก่อนน่ะคะ" ขอโทษที่ต้องโกหกครับ ผมคงจะไม่อยู่ที่นี่ต่อไปแล้ว
"แล้วจะไปพักอยู่ที่ไหน"
"คุณเธอมีเงินติดตัวอยู่นิดหน่อยคงจะพอค่าเช่าห้องถูกๆมั้งคะ"
"เห้อ...นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย ทำไมต้องมาเจอเรื่องร้ายๆตลอดเลยหะคุณเธอ งั้นเอานี่ไป คุณแม่บ้านให้เงินเดือนสำหรับเดือนนี้ไปทำทุนสะนะ " มือเล็กหยิบเงินออกมาจากซองสีขาวก่อนจะนับมันให้ผม ผมมองมันแล้วแทบน้ำตาไหล ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่เสมอจริงๆสินะ
"นี่เก้าพันบาท เก็บไว้ล่ะ" ผมรับมันมาก่อนจะเข้าสวมกอดร่างบางนั้น ถ้าการมาไทยครั้งนี้ของผมไม่มีคุณแม่บ้านคนนี้ผมคงจะไม่สบายแบบนี้
"ขอบคุณคุณแม่บ้านมากๆเลยนะคะ หนูขอบคุณจริงๆ" ขอบคุณที่ใจดีกับผมมาตลอด
"อย่าร้องไห้สิคุณเธอ เอ้อ! จริงสิ คุณแม่บ้านมีหลานเปิดร้านขายดอกไม้อยู่ในเมือง คุณเธอไปทำงานกับมันก็ได้ เดี๋ยวคุณแม่บ้านจะฝากให้"
"จริงหรอคะ" ผมไม่ได้หูฝาดไปใช่มั้ย
"เดี๋ยวจะจดแผนที่ให้แล้วไปตามนี้เลยนะ ค่าจ้างอาจจะไม่ได้เยอะแต่มันก็พอจะให้หนูมีที่นอนจะได้ไม่ต้องเสียเงินมาก"
"ขอบคุณมากๆเลยนะคะคุณแม่บ้าน" ผมยังไม่ต้องกลับญี่ปุ่นแล้วใช่มั้ย
แม่ครับ...ผมไม่ผิดสัญญาแล้วนะ ผมยังมีโอกาสไปเยี่ยมแม่แล้วนะครับ
ไม่นานนักคุณแม่บ้านก็ยื่นแผ่นกระดาษมาให้ผมก่อนจะพูดออกมา
"ไปตามนี้นะ นั่งแท็กซี่ไปก็ได้จะได้ไม่ลำบาก เดี๋ยวคุณแม่บ้านจะโทรบอกหลานให้"
"ค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ"
"บุญรักษานะลูก" มือนิ่มลูบหัวผมไปมาก่อนผมจะลาคุณแม่บ้านอีกครั้ง ใจผมหายวูบเลยครับพอจะต้องไปจริงๆ แต่มันก็ต้องดีกว่าที่จะอยู่ที่นี่ ไปตายเอาดาบหน้าดีกว่าให้มันมาดูถูกผม
ชาตินี้อย่ามาได้เจอกันอีกเลย
ไอ้กวาง
ผมนั่งรถออกมาร่วมชั่วโมงได้ก็ไม่มีทีท่าว่าจะถึง รถก็ติดเกินไป แต่พอรถเลยไฟแดงมาได้หน่อยมันก็จอดเข้าที่หน้าร้านดอกไม้ร้านสวย ตัวร้านตกแต่งด้วยสีขาวเขียววินเทจได้น่ารักมากๆเลยครับ คงจะเป็นที่นี่แน่ ผมหวังว่ามันจะช่วยผมให้อยู่รอดปลอดภัยภายในสามเดือนนี้ได้นะ ขอแค่นั้นจริงๆ
กุ๊งกิ๊งๆ
เสียงกระดิ่งตรงประตูเมื่อผมเปิดมันออกดังเบาๆไปทั่วร้านสวย ก่อนจะมีเสียงทักทายอย่างใจดี
"ยินดีต้อนรับครับ มีดอกทิวลิปมาใหม่ด้วยนะครับ สนใจบอกได้เลย"
แม่ครับ...แค่ลูกค้าคนหนึ่งเขายังพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นขนาดนี้เลย แล้วถ้าเป็นผมเขาจะใจดีกับผมมั้ย
"ผมชื่อคุณเธอครับ ฝากตัวด้วย"
ตอนนี้ผมเหลือคุณคนเดียวแล้ว ช่วยดีกับผมด้วยนะครับ
เจ้านายคนใหม่...
+++++++++++++++++++++++++++++++++++
130618
Housemaid! 12 : โชคดีในความโชคร้าย
~คุณเธอ~
"คุณเธอ...ร้องไห้ทำไม ไอ้กวางมึงว่าอะไรน้องวะ"
ทำไมผมถึงร้องไห้ล่ะ ทำไมน้ำตาผมถึงไหล...
"กูแค่พูดความจริง"
"ไอ้กวาง น้องเค้าเป็นผู้หญิงนะ จะมาฟังคำพูดขวานผ่าซากของมึงได้ยังไง"
"พอเถอะ! มึงอยากทำอะไรก็ทำไอ้เหี้.ยกวาง!!" มันเหลืออดแล้วจริงๆ ผมด่ามันก่อนจะรีบปาดน้ำตาทิ้ง ผมจะให้ใครเห็นน้ำตาไม่ได้
"คุณเธอ..." ทุกคนประสานเสียงอย่างตกใจที่ผมสบถด่าได้หยสบคายขนาดนั้น แต่จะให้ผมมานั่งทนไอ้บ้านี่หรอ มึงเป็นคนผิดนะ แล้วยังจะมาทำแบบนี้กับผมได้ยังไง
"ผมขอโทษนะครับพี่ทิวพี่ฟินย์ ผมไม่น่ามาอารมณ์เสียกับความจริงของผม ยังไงผมขอตัวก่อนนะครับ" ผมยกมือไหว้พี่ๆทั้งสองคนก่อนจะรีบเดินหนีออกมา
"ผมหรอ คุณเธอ...ทำไมใช้แทนตัวเองว่าผมล่ะ"
"ฟินย์ มึงช่วยไปส่งคุณเธอที่บ้านหน่อย"
"ไม่ต้อง! ยังไงมึงก็เกลียดกูอยู่แล้วนิ ก็ไม่ต้องมาสนใจกูอีก มึงมันเลวที่สุดไอ้กวาง"
"มึงเลือกเอง.." มึงพูดมันออกมาได้ไร้ความรู้สึกมาก สีหน้ามึงที่เรียบเฉยนั้นมันเป็นการตอกย้ำใช่มั้ยว่ามึงพูดจริง
ความผิดกูงั้นสิ ตกลงมันเป็นความผิดกูใช่มั้ย!
"งั้นมึงก็ไม่ต้องมายุ่งกับกูอีก!!" ผมจะกลับญี่ปุ่นแล้ว ไม่อยู่ให้เสียความรู้สึกหรอก
"กูบอกแล้วไงว่ามึงก็แค่คนใช้ อย่าสำคัญตัวผิด"
อีกแล้ว...คำนี้อีกแล้ว
นี่ผมไม่สำคัญเลยงั้นสิ
"อืม...กูเข้าใจทุกอย่างแล้ว" คราวนี้ผมคงหมดหนทางแล้วจริงๆ ผมคงไม่มีหน้าจะมาเป็นคนใช้บ้านมันอีก มันคงจะเกลียดผมมาก
ผมเดินออกมาจากห้องเสื้อนั้นอย่างคนล่องลอย ผมไม่เคยคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น แล้วทีนี้ผมจะทำยังไงดีล่ะ ผมคงต้องหาทางกลับบ้านมันก่อนแล้วค่อยเอาพาสบอร์ตกลับญี่ปุ่น ยังดีที่ตอนนี้มีเงินติดตัวอยู่ไม่งั้นผมคงจะแย่อีกแน่ ว่าแต่ผมต้องขึ้นรถที่ไหนเนี่ย ใจก็ไม่อยากขึ้นแท็กซี่หรอกนะแต่มันก็คงจำเป็นต้องขึ้นแล้วล่ะ จะมาชักช้าแบบนี้ไม่ได้ ยิ่งได้กลับญี่ปุ่นเร็วมากขึ้นเท่าไหร่ผมก็จะยิ่งหายอารมณ์เสียและหายเสียความรู้สึกมากเท่านั้น แต่ผมลืมอะไรไปรึป่าว ผมลืมไปเยี่ยมแม่เลย เป้าหมายของผมคือมาหาแม่นี่
ขอโทษครับแม่ ขอโทษที่ลืมแม่นะครับ
ผมรีบโบกแท็กซี่แล้วกลับบ้านทันที ผมรีบจัดแจงเก็บของซึ่งก็มีแค่เงินสามพันกับพาสปอร์ตเท่านั้นเอง ชีวิตรันทดจริงวะ
"คุณเธอทำอะไรน่ะ"
"คุณแม่บ้าน!" ผมสะดุ้งเฮือกทันทีที่เราสองคนจ๊ะเอ๋กัน ตาคุณแม่บ้านมองผมไปมาที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดแรกที่ผมมาบ้านนี้ก่อนจะหยุดที่มือของผม ผมเลยรีบเก็บพาสปอร์ตเข้ากระเป๋าหลังทันที
"ทำไมแต่งชุดนี้"
"คือว่าหนู..." ผมสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนที่น้ำตามันพาลจะไหลลงมาอีกรอบแล้วตอบคุณแม่บ้านอีกครั้ง "หนูต้องไปจากที่นี่แล้วค่ะ คุณหนูไม่ต้องการให้คุณเธออยู่ที่นี่ คุณเธอคงต้องไปหาที่อยู่อื่น"
"ทำไมเป็นแบบนั้นไปได้ล่ะ คุณแม่บ้านก็ยังเห็นเธอดีๆกันอยู่เลย" มันเป็นแค่ภาพลวงตานะสิ มันก็ทำแบบนี้กับผมให้รู้สึกตายใจว่ามันดีกับผม แต่สุดท้ายผมมันก็แค่สำคัญตัวผิด
"ช่างมันเถอะค่ะคุณแม่บ้าน คุณเธอต้องขอบคุณคุณแม่บ้านมากๆเลยนะคะที่ดูแลหนูเหมือนลูกคนหนึ่ง มันอบอุ่นมากๆเลยค่ะ หนูจะไม่ลืมบุญคุณนี้เลย" ผมสัญญาครับ ผมจะกลับมาตอบแทนคุณแม่บ้านแน่นอน
"แล้วจะไปอยู่ไหนล่ะ"
"คงไปหางานทำก่อนน่ะคะ" ขอโทษที่ต้องโกหกครับ ผมคงจะไม่อยู่ที่นี่ต่อไปแล้ว
"แล้วจะไปพักอยู่ที่ไหน"
"คุณเธอมีเงินติดตัวอยู่นิดหน่อยคงจะพอค่าเช่าห้องถูกๆมั้งคะ"
"เห้อ...นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย ทำไมต้องมาเจอเรื่องร้ายๆตลอดเลยหะคุณเธอ งั้นเอานี่ไป คุณแม่บ้านให้เงินเดือนสำหรับเดือนนี้ไปทำทุนสะนะ " มือเล็กหยิบเงินออกมาจากซองสีขาวก่อนจะนับมันให้ผม ผมมองมันแล้วแทบน้ำตาไหล ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่เสมอจริงๆสินะ
"นี่เก้าพันบาท เก็บไว้ล่ะ" ผมรับมันมาก่อนจะเข้าสวมกอดร่างบางนั้น ถ้าการมาไทยครั้งนี้ของผมไม่มีคุณแม่บ้านคนนี้ผมคงจะไม่สบายแบบนี้
"ขอบคุณคุณแม่บ้านมากๆเลยนะคะ หนูขอบคุณจริงๆ" ขอบคุณที่ใจดีกับผมมาตลอด
"อย่าร้องไห้สิคุณเธอ เอ้อ! จริงสิ คุณแม่บ้านมีหลานเปิดร้านขายดอกไม้อยู่ในเมือง คุณเธอไปทำงานกับมันก็ได้ เดี๋ยวคุณแม่บ้านจะฝากให้"
"จริงหรอคะ" ผมไม่ได้หูฝาดไปใช่มั้ย
"เดี๋ยวจะจดแผนที่ให้แล้วไปตามนี้เลยนะ ค่าจ้างอาจจะไม่ได้เยอะแต่มันก็พอจะให้หนูมีที่นอนจะได้ไม่ต้องเสียเงินมาก"
"ขอบคุณมากๆเลยนะคะคุณแม่บ้าน" ผมยังไม่ต้องกลับญี่ปุ่นแล้วใช่มั้ย
แม่ครับ...ผมไม่ผิดสัญญาแล้วนะ ผมยังมีโอกาสไปเยี่ยมแม่แล้วนะครับ
ไม่นานนักคุณแม่บ้านก็ยื่นแผ่นกระดาษมาให้ผมก่อนจะพูดออกมา
"ไปตามนี้นะ นั่งแท็กซี่ไปก็ได้จะได้ไม่ลำบาก เดี๋ยวคุณแม่บ้านจะโทรบอกหลานให้"
"ค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ"
"บุญรักษานะลูก" มือนิ่มลูบหัวผมไปมาก่อนผมจะลาคุณแม่บ้านอีกครั้ง ใจผมหายวูบเลยครับพอจะต้องไปจริงๆ แต่มันก็ต้องดีกว่าที่จะอยู่ที่นี่ ไปตายเอาดาบหน้าดีกว่าให้มันมาดูถูกผม
ชาตินี้อย่ามาได้เจอกันอีกเลย
ไอ้กวาง
ผมนั่งรถออกมาร่วมชั่วโมงได้ก็ไม่มีทีท่าว่าจะถึง รถก็ติดเกินไป แต่พอรถเลยไฟแดงมาได้หน่อยมันก็จอดเข้าที่หน้าร้านดอกไม้ร้านสวย ตัวร้านตกแต่งด้วยสีขาวเขียววินเทจได้น่ารักมากๆเลยครับ คงจะเป็นที่นี่แน่ ผมหวังว่ามันจะช่วยผมให้อยู่รอดปลอดภัยภายในสามเดือนนี้ได้นะ ขอแค่นั้นจริงๆ
กุ๊งกิ๊งๆ
เสียงกระดิ่งตรงประตูเมื่อผมเปิดมันออกดังเบาๆไปทั่วร้านสวย ก่อนจะมีเสียงทักทายอย่างใจดี
"ยินดีต้อนรับครับ มีดอกทิวลิปมาใหม่ด้วยนะครับ สนใจบอกได้เลย"
แม่ครับ...แค่ลูกค้าคนหนึ่งเขายังพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นขนาดนี้เลย แล้วถ้าเป็นผมเขาจะใจดีกับผมมั้ย
"ผมชื่อคุณเธอครับ ฝากตัวด้วย"
ตอนนี้ผมเหลือคุณคนเดียวแล้ว ช่วยดีกับผมด้วยนะครับ
เจ้านายคนใหม่...
+++++++++++++++++++++++++++++++++++
130618
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.1 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.6 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ