ObserveR “คุณมึงครับ มาเลียกูซิ!”
9.3
เขียนโดย nooonaa
วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 16.21 น.
36 ตอน
55 วิจารณ์
68.98K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 25 มกราคม พ.ศ. 2557 23.32 น. โดย เจ้าของนิยาย
10) "คุณมึงครับ มาเลียกูซิ!" 10 : ข้างหลังหรือข้างหน้า
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความBy nooonaa
"คุณมึงครับ มาเลียกูซิ!" 10 : ข้างหลังหรือข้างหน้า
+ผงฝุ่น+
เอาไงดีๆ ตอนนี้ผมควรจะเอาไงดี
ฟู่...เครียดขึ้นหัวเลยวะ
ผมเดินวนเวียนอยู่หน้าห้องมันแต่ก็ไม่กล้าที่จะเคาะประตูห้อง มันรู้สึกแปลกๆยังไงไม่รู้ พอคิดว่าผมต้องนอนกับมันในห้องนั้น
อ่า...ใจผมเต้นจนจะไม่ไหวอยู่แล้ว
เอาอย่างนี้ดีกว่าผงฝุ่น ง่ายๆเลย มึงลงไปนอนที่โซฟาไป
เออ ความคิดดีวะ ไปๆ
พอคิดได้ผมก็รีบวิ่งตุบตับๆลงไปนอนกลิ้งบนโซฟาตัวนุ่มในห้องนั่งเล่นมัน ดีนะที่ชิงอาบน้ำก่อน ไม่งั้นเครียดหนักเลยกู
"ไอ้ฝุ่น มึงอาบน้ำหรือว่ามึงขัดห้องน้ำวะ นานสัด"
ดูมันดิ พอดีด้วยหน่อยก็หยาบใส่กูจังนะ
"กูอาบเสร็จแล้ว" ผมเลยตะโกนบอกมันที่อยู่ชั้นบนไปก่อนจะดึงหมอนอิงอีกอันมากอด
อ่า...โซฟาตัวนี้กว้างจัง นอนสบายมากๆด้วย
"อาบเสร็จแล้วทำไมไม่เข้ามานอนในห้องวะ"
เออ...คือว่า
ไม่รู้จะตอบยังไงวะ มันรู้สึกแปลกๆยังไงไม่รู้ ผมเลยไม่ตอบแต่หยิบเอาหมอนอิงปิดหน้าไว้
ไม่รู้อะไรทั้งนั้นแหละ!
"หรือว่ามึง...กลัวกูทำอะไรมึงรึไง"
เห้ย!!
อยู่ๆเสียงทุ้มก็มากระซิบที่ข้างหูจนผมสะดุ้งตัวหนี แต่มือใหญ่กลับกดหน้าอกผมให้จมเบาะก่อนยื่นหน้ามาซะใกล้
"จะทำอะไรวะ" ก็ดูมึงทำแต่ละอย่างดิ ชอบทำเกินจริงอยู่เรื่อย แล้วอย่างนี้จะไม่ให้กูระแวงได้ไง จากทาสอยู่ดีๆก็มาทำให้ใจสั่น สั่นจนไม่เข้าใจตัวเองอยู่แล้ว
"มึงมันชอบขัดใจกู บอกอะไรไม่เคยฟัง อยากจะหือกับกูมากรึไง"
เอื้อก
แล้วทำไมตาคมคู่นั้นถึงเอาแต่จ้องที่ปากผม
"คือว่า...กูไม่ได้คิดจะหือมึงนะ กูแค่เกรงใจ เดี๋ยวจะนอนเบียดมึงป่าวๆ" ผมพูดอ่อมแอ่มพร้อมกับเบี่ยงหน้าหนีไปด้านข้าง แต่นิ้วเรียวกลับเกี่ยวหน้าผมให้กลับมาจนจมูกผมสัมผัสกับจมูกมันเบาๆ
ตึกตักๆ
หัวใจผมเต้นเร็วและแรงอีกแล้ว
"มึงนี่มัน..." แต่แล้วอีกคนก็พูดทิ้งคำไว้แค่นั้นเมื่อผมละสายตาจากมันไม่ได้ มันค่อยๆเคลื่อนใบหน้าหล่อลงมาช้าๆจนทุกอย่างหยุดนิ่ง
นิ่ม...นั่นคือสิ่งที่ผมกำลังคิดตอนนี้
ผมลืมตาโผลงอย่างตกใจก่อนมันจะค่อยๆบดคลึงริมฝีปากลงมาแนบชิดมากขึ้นจนจมูกโด่งคลอเคลียที่แก้มผมเบาๆ มันเล่นเอาผมเคลิ้มจนยอมโอนอ่อนไม่แม้แต่จะขัดขืน ทุกอย่างมันหยุดนิ่งพร้อมกับลิ้นเรียวนั้นกำลังจะสอดเข้ามา
"อื้ม...." ถึงจะตกใจแต่มันก็สามารถทำให้ยอมเปิดปากรับให้มันเข้ามาเชยชม ยิ่งอีกคนค่อยๆประคองหน้าผมเหมือนหวงแหนก็ยิ่งทำให้ผมต้องการมันมากขึ้นจนต้องจิกเบาะแน่น
"อ่า...."
รู้สึกดีอย่างที่ไม่เคยเป็น
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ใบหน้าคมถึงจะยอมถอนริมฝีปากออก ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมองจนผมเห็นดวงตาสวยที่เคยเอาแต่มองผมมีเลศนัย แต่ตอนนี้มันกลับดูหวานช่ำจนน่าใจหาย ยิ่งอีกคนเกี่ยวแก้มผมช้าๆแล้วค่อยกดจูบลงมาอีกครั้งเหมือนโหยหา ผมเลยต้องจิกไหล่หนาเพื่อระงับอารมณ์อะไรบางอย่างที่เข้ามาแทรกแทนความเขินอาย
เราสองคนแลกความหวานอยู่อย่างนั้นจนผมรู้สึกว่าร่างกายตัวเองเบาหวิวเหมือนลอยในอากาศได้ก่อนอีกคนจะค่อยๆปล่อยร่างผมให้ออกห่างจนรู้สึกว่าตัวเองถูกพาขึ้นมาบนห้อง และกำลังนอนแผ่หลาอยู่บนเตียงกว้าง
นี่มันกำลังจะเกิดอะไรขึ้น...ทำไมเราสองคนถึงได้มาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้
แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้ทันตั้งตัวอีกคนก็ตรงเข้าไล้ริมฝีปากที่ซอกคอ มันทั้งเลียทั้งขบจนผมรู้สึกเสียวแปลกๆ แล้วตอนนี้หัวใจมันก็เริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะอีกแล้ว
"อ๊ะ...." มันรู้สึกหวาบที่ท้องน้อยจนลามไปถึงช่วงล่างเมื่อมือหนากำลังลูบไล้ที่ต้นขาก่อนจะค่อยๆลูบจนขึ้นมาถึงสะโพก มันบีบเค้นอย่างช้าๆแต่เน้นทุกจังหวะพร้อมกับลิ้นร้อนกำลังเคลื่อนตัวไปเลียสิ่งที่อยาก
ไฝของผม
"อ๊าาาาาา..."
"อืม...." สองเสียงประสานเสียงเครือทันทีที่มันลงลิ้นอย่างโหยหา มันทั้งขบทั้งเลียทั้งดึงจนผมเผลอกดหัวทุยให้เข้าหาไปอีก แล้วดูเหมือนอีกคนจะชอบมากซะด้วย
แต่ผมละ...ถ้าผมควบคุมตัวเองไม่ได้แบบนี้ต่อไป คงมีอะไรเกินเลยไปมากกว่านี้แน่
"อ๊า...."
ตะต้องหยุด...หยุดเดี๋ยวนี้
"อ๊า..." อยู่ๆตัวผมก็แข็งทื่อเมื่อมือหยาบเลื้อยเข้าไปในใต้เสื้อก่อนมันจะสะกิดสองสามทีแล้วเปลี่ยนเป็นขยี้ เสียงผมนี่หายไปทันทีจนเริ่มหายใจไม่ออกก่อนร่างหนาจะค่อยแหวกขาผมออกกว้างแล้วเอาตัวเองเข้ามากั้นไว้
"อะ จะ จะทำอะไร...ยะ หยุดเถอะ" มันเหมือนลำคอผมแหบพร่าจนกลายเป็นสิ่งกระตุ้นให้อีกคนเค้นยอดอกผมแรงขึ้นก่อนมันจะเกี่ยวชุดบอลที่ผมใส่ร่นขึ้นไปกองเหนือยอดอก เพียงเท่านั้นผมก็สั่นสะท้านทั้งตัวเมื่อเรียวลิ้นเข้ามาครอบงำก่อนจะขบเม้นจนเริ่มบวมเบล่ง
"อะ อ่า...."
ไม่ไหว...ผมไม่ไหว ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ หยุด หยุดสักที
อึก
งิ้งๆ
งิ้งๆ
เสียงอะไรมาดังข้างหูของผมตอนนี้
งิ้งๆ
แผล่บ
ชัดเลย
"ตัวเล็ก!" ผมสะดุ้งตื่นสุดตัวเมื่อมีลิ้นฉ่ำมาเลียเข้าที่แก้ม มันเหนียวจนแทบวิ่งไปล้างไม่ทัน แต่เพียงแค่ผมลุกออกจากเตียง ก็รู้สึกถึงความเย็นวิ่งเข้าปะทะที่ตัวทันที
ทำไมรู้สึกแปลกๆ
ผมเหล่มองตัวเองที่กระจกบานใหญ่ก็แทบช็อค ทำไมผมถึงเหลือแค่บ๊อกเซอร์ แล้วตรงหน้าอกและลำคอถึงมีรอยแรงเต็มไปหมด ยิ่งตรงหัวนมผมนั่นอีก มันรู้สึกเจ็บและแดงเป็นพิเศษ...เหมือนกับว่ามันช้ำ
สรุปแล้ว...เมื่อคืนมันคือความจริงงั้นหรอ
บ้า...นี่ผมกับมันทำอะไรลงไป ให้ตายเถอะ แบบนี้ผมจะมองหน้ามันติดได้ยังไงเนี่ย
ต้องไปจากที่นี่! ต้องไปโดยเร็วที่สุด!
พอคิดได้แบบนั้นผมก็คว้าเสื้อผ้าเมื่อวานมาใส่ก่อนจะวิ่งออกจากห้องมันอย่างไว แต่ยังไม่ทันที่ผมจะก้าวพ้นประตูบ้าน เสียงครางงิ้งๆก็ดังอยู่ข้างหลังจนผมต้องหยุดวิ่งแล้วหันกลับไปมอง ตัวเล็กนั่นเอง มันมองผมตาละห้อยจนน่าสงสารก่อนจะจะหมอบมองผมอยู่ตรงหน้า
เหมือนกับอยากขอร้องไม่ให้ผมไป
แต่พี่ขอโทษนะตัวเล็ก...พี่เขินที่จะอยู่จริงๆ
"เดี๋ยวพี่จะมาหานะ...ถ้ามีโอกาส" ผมเดินไปลูบหัวใหญ่นั้นอย่างเบามือก่อนหางตาผมจะเห็นอีกคนยืนอยู่ในห้องครัว ผมเลยรีบลุกขึ้นแล้วถอยหลังอย่างระแวงก่อนจะหลบตาคนข้างหน้า
ผมไม่กล้าสู้หน้ามัน...จริงๆ ถึงแม้มันจะหยุดไม่ทำอะไรต่อ แต่มันก็มากพอที่ผมจะรับไม่ได้
"ถ้ามีโอกาสงั้นหรอ..." อย่ามาพูดกับกูตอนนี้เลยไอ้เฮียร์ กูกำลังสับสนอยู่ กูกำลังงงว่าตอนนี้มันกำลังเกิดอะไรขึ้นกับหัวใจกู
"กูกลับบ้านก่อนนะ" ผมเอ่ยปากลาแต่ไม่ยอมมองหน้ามันสักนิดก่อนจะรีบเดินหนีออกจากบ้านมัน แต่เสียงสุดท้ายที่ตะโกนตามหลังมา มันเล่นเอาผมแทบหยุดหายใจ
"กูยังคงยืนอยู่ข้างหลังมึงเหมือนทุกครั้ง ถ้าพร้อมก็หันหลังมา ก็มาหากูละกัน"
อึก
มันจุกอยู่ที่คอ...เหมือนกับมันยืนรออยู่ข้างหลังตรงนั้นต้องนานแล้ว
ไอ้บ้าเอ้ย...มึงพูดเหมือนมึงคิดอะไรกับกูอย่างนั้นแหละ แต่ไม่มีทางซะหรอก ยังไงกูก็ไม่หันหลังแน่
ดังนั้นตอนนี้...ผมควรจะมีใครสักคนที่มาทำให้ผมเดินไปข้างหน้า
ไม่ใช่หลงทางแบบนี้
"ว่าอะไรนะ!"
"จะตกใจอะไรวะ! กูแค่บอกว่าอยากมีแฟน ทำอย่างกับโลกจะแตก!" ผมผลักหัวไอ้แซมไปทีด้วยความหมั่นไส้ กับไอ้แค่บอกว่าจะมีแฟน ต้องทำเหมือนเรื่องมันใหญ่โตมโหราฬขนาดหนัก ผมละเกลียดไอ้แอคติ้งโอเว่อร์ของมันจริงๆ
"ก็โลกแตกสิวะ มึงจะลองคบกับเฮียจริงหรอ"
ดูปากมัน น่าพาไปทัวร์นรกมะ
"ไม่ใช่เว้ย! กูคิดว่ากูจะหาผู้หญิงสักคนมาเป็นแฟน เอาแบบน่ารักๆอะ" ผมนอนคิดเรื่องนี้ทั้งวันเลยนะครับ คิดหาทางออกไอ้เรื่องที่ค้างคาใจนั่น แต่มันก็มีทางเดียวที่ผมจะเดินหน้าต่อไป ก็คือว่าผม...สมควรคบกับผู้หญิงได้แล้ว
บางทีที่ผมหวั่นไหวไปกับมันคงเป็นเพราะผมยังไม่เคยมีแฟน พอมีคนมาทำเรื่องแปลกประหลาดแบบนั้นเลยทำให้ผมสับสน แต่ถ้าผมเรียนรู้ที่จะคบหาดูใจกับผู้หญิง...ปัญหานี้ก็จะไม่เกิดอีก
"มึงคิดดีแล้วหรอวะ แล้วอาเฮียมึงอะ"
"มึงพูดงี้หมายความว่าไง พูดเหมือนมันเป็นแฟนกูที่กูต้องแคร์" มันก็แค่เพื่อนร่วมห้องเท่านั้น จะไปใส่ใจทำไม
"มึงคิดดีแล้วหรอวะ กูไม่อยากให้มึงมานั่งเสียใจทีหลังนะ"
ไอ้นี่! ตัวขัดทัพจริงวะ
"จะช่วยไม่ช่วย!" อย่าให้กูเดือด เดี๋ยวจับโยนลงตึกเลยสัด!
"เออๆ ทำไมต้องดุด้วยวะ งั้นกูมีคนหนึ่ง แนวที่มึงชอบเลย ตัวเล็กน่ารักน่าปกป้อง น้องสีน้ำ"
น้องสีน้ำ...แม่เจ้า แค่ชื่อกูก็อย่างเห็นหน้าแล้วครับ
"น้องเป็นใครวะ" เริ่มอยากจะรู้จักแล้ววะ
"น้องสีน้ำเด็กในชมรมกู อยู่มอสี่ห้องเจ็ด เล่นไวโอลีน คนนี้น่ะลูกคุณหนูตัวจริง มึงก็เป็นคนสุภาพ น้องน่าจะชอบมึง"
ห้องเจ็ดก็เด็กศิลป์ภาษาสิวะ แล้วเป็นลูกคุณหนูด้วย แบบนี้ผมจะจีบติดป่าวเนี่ย
"พากูไปหาน้องตอนนี้ได้ป่าว"
"เออๆ มึงนี่รีบจริง" พอมันยอมตกลงจะพาผมไปผมก็รีบเช็คสภาพหน้าตาตัวเองทันที ส่วนไอ้แซมก็รีบวิ่งไปหาผัวมันบอกจะไปชมรม พอมันกลับมาก็พาผมไปที่ชมรมดนตรีทันที
ตื่นเต้นวะ...น้องเขาจะชอบผมมั้ยนะ
พอมาถึงชมรมที่ดังระงมไปด้วยเสียงดนตรีหลากชนิดก็เล่นเอาประสาทแทบเสีย พวกเขาไม่บรรเลงให้เป็นเพลงเดียวกัน แต่กลับต่างคนต่างซ้อมจนน่ารำคาญ ไอ้แซมเลยชะเง้อมองหาน้องสีน้ำให้ เพราะมันรู้ว่าผมไม่ชอบที่เสียงดังๆก่อนมันจะพามาที่สวนหลังห้องซ้อมดนตรี แล้วที่นั่นเองที่ผมเห็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กน่ารักจิ้มลิ้มกำลังเล่นไวโอลีนท่ามกลางสวนดอกไม้
แม่.ง...อย่างกับการ์ตูนอนิเมชั่น
ร่างบางกำลังหลับตาพริ้มสีไวโอลีนของตัวเองไปโดยไม่ใส่ใจใครทั้งนั้น แต่มันมีเสน่ห์มากเถอะ เพราะแค่ผมเห็นด้านข้างก็ทำเอาผมเดินต่อไปไม่ได้แล้ว
"นั่นไงน้องสีน้ำ...ที่เหลือจัดการเองนะมึง"
พรึบ!
"เหี้.ย! หายไปไวจังวะ!" พอมันพูดเสร็จมันก็หายไปอย่างกับนินจาเลยครับ ทิ้งให้ผมยืนมองน้องเขาอยู่คนเดียว แล้วทีนี้ผมควรจะทำอะไรต่อไปล่ะ แค่ผู้หญิงธรรมดาผมยังไม่เคยคุยด้วยเลย
อ่า...อยากชะมัด
เอาวะ...มันต้องลอง
ผมค่อยๆเดินเข้าไปหาร่างบางที่ยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ก่อนจะมองน้องเขาเล่นต่อ และเหมือนกับน้องเขาเองก็ยังไม่รู้ตัวว่าผมมายืนอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว เพราะใบหน้าน่ารักนั้นดูมีความสุขเหลือเกินที่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก
ผมค่อยๆหลับตาลงเพื่อฟังเพลงที่น้องเขาบรรเลงต่อ มันช่างสื่อถึงอารมณ์ของเพลงได้ดีจริงๆ ยิ่งเสียงสูงที่น้องเล่นมันยิ่งบาดลึกเขาไปในหัวใจ จนผมเผลอกำที่หน้าอกอย่างห้ามไม่อยู่
"อะ!" แต่แล้วเสียงเพลงก็หยุดลงทันทีพร้อมกับคำอุทานที่เรียกสติผม ผมเลยลืมตามองหน้าน้องตอบก่อนที่เราสองคนจะสบตากันอย่างไม่ได้ตั้งใจ
อ่า...น่าทะนุถนอมจัง
ยิ่งมองใบหน้าจิ้มลิ้มนั้นก็เริ่มแดงก่อนน้องจะเอียงหนีอย่างเขินอาย มือเล็กเริ่มสั่นแล้วรนรานเหมือนทำอะไรไม่ถูกจนน้องรีบหยิบกล่องใส่ไวโอลีนและทำท่าจะเดินหนีผม แต่ผมจะให้น้องไปตอนนี้ไม่ได้ ผมต้องรั้งน้องไว้
"น้องสีน้ำครับ...อย่าเพิ่งไป" ผมเผลอคว้าลำแขนเล็กให้น้องหยุดเดินหนีแต่มันกลับแรงไปทำให้ร่างบางปลิวมากระแทกอกผมอย่างจัง ผมเลยรีบรวบเอวน้องไว้ไม่ให้ล้มก่อนใบหน้าเราสองคนจะอยู่ห่างแค่คืบ แล้วตอนนั้นเอง...ที่ทุกอย่างจะหยุดนิ่ง
แต่ทำไมกัน...ทำไมผมไม่รู้สึกตื่นเต้นเหมือนกับตอนนั้น ตอนที่หน้าผมกับไอ้เฮียร์อยู่ชิดกัน
ทำไมกัน
"พะพี่คะ...ปล่อยหนูเถอะคะ"
เออ...
"ขอโทษครับ พี่ไม่ได้ตั้งใจ" ผมรีบปล่อยมือน้องออกก่อนจะเกาท้ายทอยแก้เขิน แต่น้องกลับขำคิกคักก่อนจะอมยิ้มมาให้
"ไม่เป็นไรค่ะ งั้นสีน้ำขอตัวนะคะ" เธอยิ้มอย่างเขินอายก่อนจะเดินจากไป แต่ปากผมนี่สิ มันหนักเอาการ จะพูดก็ไม่ยอมพูด
เอาไงดีวะ
"เออ...ว่าแต่พี่มีอะไรพูดกับหนูมั้ยคะ" แต่แล้วเธอก็หันมาถามเหมือนเพิ่งจะนึกได้ ก่อนจะเดินกลับมาหาผม
"คือ...เออ...." จะพูดยังไงดี เขินวะ
"อะไรคะ..." ใบหน้าน่ารักเอียงถามผมเหมือนกับแมวแสนขี้อ้อน แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงไม่ชอบแมวเอาซะเลย เพราะผมรู้สึกว่าหมามันอ้อนน่ารักมากกว่า
เอ๊ะ! แล้วทำไมผมต้องคิดถึงไอ้เฮียร์ด้วยเนี่ย!!
"เออ...พี่ขะ ขอ บะ..." ทำไมพูดไม่ออกวะ แค่ขอเบอร์เอง
"คะ?"
"ผงฝุ่น!!!"
อึก!
ผมหันขวับไปทางต้นเสียงเรียกชื่อผมก่อนจะเห็นใบหน้าทะมึนของใครบางคนกำลังจ้องเหมือนอยากจะฆ่าผมให้ตาย
"มาหากูเดี๋ยวนี้!"
++++++++++++++++++++++++++++++131215
ผงฝุ่นคิดอะไรพิเรนนะ เดี๋ยวให้เฮียร์จับปล้ำซะนี่ 5555
"คุณมึงครับ มาเลียกูซิ!" 10 : ข้างหลังหรือข้างหน้า
+ผงฝุ่น+
เอาไงดีๆ ตอนนี้ผมควรจะเอาไงดี
ฟู่...เครียดขึ้นหัวเลยวะ
ผมเดินวนเวียนอยู่หน้าห้องมันแต่ก็ไม่กล้าที่จะเคาะประตูห้อง มันรู้สึกแปลกๆยังไงไม่รู้ พอคิดว่าผมต้องนอนกับมันในห้องนั้น
อ่า...ใจผมเต้นจนจะไม่ไหวอยู่แล้ว
เอาอย่างนี้ดีกว่าผงฝุ่น ง่ายๆเลย มึงลงไปนอนที่โซฟาไป
เออ ความคิดดีวะ ไปๆ
พอคิดได้ผมก็รีบวิ่งตุบตับๆลงไปนอนกลิ้งบนโซฟาตัวนุ่มในห้องนั่งเล่นมัน ดีนะที่ชิงอาบน้ำก่อน ไม่งั้นเครียดหนักเลยกู
"ไอ้ฝุ่น มึงอาบน้ำหรือว่ามึงขัดห้องน้ำวะ นานสัด"
ดูมันดิ พอดีด้วยหน่อยก็หยาบใส่กูจังนะ
"กูอาบเสร็จแล้ว" ผมเลยตะโกนบอกมันที่อยู่ชั้นบนไปก่อนจะดึงหมอนอิงอีกอันมากอด
อ่า...โซฟาตัวนี้กว้างจัง นอนสบายมากๆด้วย
"อาบเสร็จแล้วทำไมไม่เข้ามานอนในห้องวะ"
เออ...คือว่า
ไม่รู้จะตอบยังไงวะ มันรู้สึกแปลกๆยังไงไม่รู้ ผมเลยไม่ตอบแต่หยิบเอาหมอนอิงปิดหน้าไว้
ไม่รู้อะไรทั้งนั้นแหละ!
"หรือว่ามึง...กลัวกูทำอะไรมึงรึไง"
เห้ย!!
อยู่ๆเสียงทุ้มก็มากระซิบที่ข้างหูจนผมสะดุ้งตัวหนี แต่มือใหญ่กลับกดหน้าอกผมให้จมเบาะก่อนยื่นหน้ามาซะใกล้
"จะทำอะไรวะ" ก็ดูมึงทำแต่ละอย่างดิ ชอบทำเกินจริงอยู่เรื่อย แล้วอย่างนี้จะไม่ให้กูระแวงได้ไง จากทาสอยู่ดีๆก็มาทำให้ใจสั่น สั่นจนไม่เข้าใจตัวเองอยู่แล้ว
"มึงมันชอบขัดใจกู บอกอะไรไม่เคยฟัง อยากจะหือกับกูมากรึไง"
เอื้อก
แล้วทำไมตาคมคู่นั้นถึงเอาแต่จ้องที่ปากผม
"คือว่า...กูไม่ได้คิดจะหือมึงนะ กูแค่เกรงใจ เดี๋ยวจะนอนเบียดมึงป่าวๆ" ผมพูดอ่อมแอ่มพร้อมกับเบี่ยงหน้าหนีไปด้านข้าง แต่นิ้วเรียวกลับเกี่ยวหน้าผมให้กลับมาจนจมูกผมสัมผัสกับจมูกมันเบาๆ
ตึกตักๆ
หัวใจผมเต้นเร็วและแรงอีกแล้ว
"มึงนี่มัน..." แต่แล้วอีกคนก็พูดทิ้งคำไว้แค่นั้นเมื่อผมละสายตาจากมันไม่ได้ มันค่อยๆเคลื่อนใบหน้าหล่อลงมาช้าๆจนทุกอย่างหยุดนิ่ง
นิ่ม...นั่นคือสิ่งที่ผมกำลังคิดตอนนี้
ผมลืมตาโผลงอย่างตกใจก่อนมันจะค่อยๆบดคลึงริมฝีปากลงมาแนบชิดมากขึ้นจนจมูกโด่งคลอเคลียที่แก้มผมเบาๆ มันเล่นเอาผมเคลิ้มจนยอมโอนอ่อนไม่แม้แต่จะขัดขืน ทุกอย่างมันหยุดนิ่งพร้อมกับลิ้นเรียวนั้นกำลังจะสอดเข้ามา
"อื้ม...." ถึงจะตกใจแต่มันก็สามารถทำให้ยอมเปิดปากรับให้มันเข้ามาเชยชม ยิ่งอีกคนค่อยๆประคองหน้าผมเหมือนหวงแหนก็ยิ่งทำให้ผมต้องการมันมากขึ้นจนต้องจิกเบาะแน่น
"อ่า...."
รู้สึกดีอย่างที่ไม่เคยเป็น
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ใบหน้าคมถึงจะยอมถอนริมฝีปากออก ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมองจนผมเห็นดวงตาสวยที่เคยเอาแต่มองผมมีเลศนัย แต่ตอนนี้มันกลับดูหวานช่ำจนน่าใจหาย ยิ่งอีกคนเกี่ยวแก้มผมช้าๆแล้วค่อยกดจูบลงมาอีกครั้งเหมือนโหยหา ผมเลยต้องจิกไหล่หนาเพื่อระงับอารมณ์อะไรบางอย่างที่เข้ามาแทรกแทนความเขินอาย
เราสองคนแลกความหวานอยู่อย่างนั้นจนผมรู้สึกว่าร่างกายตัวเองเบาหวิวเหมือนลอยในอากาศได้ก่อนอีกคนจะค่อยๆปล่อยร่างผมให้ออกห่างจนรู้สึกว่าตัวเองถูกพาขึ้นมาบนห้อง และกำลังนอนแผ่หลาอยู่บนเตียงกว้าง
นี่มันกำลังจะเกิดอะไรขึ้น...ทำไมเราสองคนถึงได้มาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้
แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้ทันตั้งตัวอีกคนก็ตรงเข้าไล้ริมฝีปากที่ซอกคอ มันทั้งเลียทั้งขบจนผมรู้สึกเสียวแปลกๆ แล้วตอนนี้หัวใจมันก็เริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะอีกแล้ว
"อ๊ะ...." มันรู้สึกหวาบที่ท้องน้อยจนลามไปถึงช่วงล่างเมื่อมือหนากำลังลูบไล้ที่ต้นขาก่อนจะค่อยๆลูบจนขึ้นมาถึงสะโพก มันบีบเค้นอย่างช้าๆแต่เน้นทุกจังหวะพร้อมกับลิ้นร้อนกำลังเคลื่อนตัวไปเลียสิ่งที่อยาก
ไฝของผม
"อ๊าาาาาา..."
"อืม...." สองเสียงประสานเสียงเครือทันทีที่มันลงลิ้นอย่างโหยหา มันทั้งขบทั้งเลียทั้งดึงจนผมเผลอกดหัวทุยให้เข้าหาไปอีก แล้วดูเหมือนอีกคนจะชอบมากซะด้วย
แต่ผมละ...ถ้าผมควบคุมตัวเองไม่ได้แบบนี้ต่อไป คงมีอะไรเกินเลยไปมากกว่านี้แน่
"อ๊า...."
ตะต้องหยุด...หยุดเดี๋ยวนี้
"อ๊า..." อยู่ๆตัวผมก็แข็งทื่อเมื่อมือหยาบเลื้อยเข้าไปในใต้เสื้อก่อนมันจะสะกิดสองสามทีแล้วเปลี่ยนเป็นขยี้ เสียงผมนี่หายไปทันทีจนเริ่มหายใจไม่ออกก่อนร่างหนาจะค่อยแหวกขาผมออกกว้างแล้วเอาตัวเองเข้ามากั้นไว้
"อะ จะ จะทำอะไร...ยะ หยุดเถอะ" มันเหมือนลำคอผมแหบพร่าจนกลายเป็นสิ่งกระตุ้นให้อีกคนเค้นยอดอกผมแรงขึ้นก่อนมันจะเกี่ยวชุดบอลที่ผมใส่ร่นขึ้นไปกองเหนือยอดอก เพียงเท่านั้นผมก็สั่นสะท้านทั้งตัวเมื่อเรียวลิ้นเข้ามาครอบงำก่อนจะขบเม้นจนเริ่มบวมเบล่ง
"อะ อ่า...."
ไม่ไหว...ผมไม่ไหว ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ หยุด หยุดสักที
อึก
งิ้งๆ
งิ้งๆ
เสียงอะไรมาดังข้างหูของผมตอนนี้
งิ้งๆ
แผล่บ
ชัดเลย
"ตัวเล็ก!" ผมสะดุ้งตื่นสุดตัวเมื่อมีลิ้นฉ่ำมาเลียเข้าที่แก้ม มันเหนียวจนแทบวิ่งไปล้างไม่ทัน แต่เพียงแค่ผมลุกออกจากเตียง ก็รู้สึกถึงความเย็นวิ่งเข้าปะทะที่ตัวทันที
ทำไมรู้สึกแปลกๆ
ผมเหล่มองตัวเองที่กระจกบานใหญ่ก็แทบช็อค ทำไมผมถึงเหลือแค่บ๊อกเซอร์ แล้วตรงหน้าอกและลำคอถึงมีรอยแรงเต็มไปหมด ยิ่งตรงหัวนมผมนั่นอีก มันรู้สึกเจ็บและแดงเป็นพิเศษ...เหมือนกับว่ามันช้ำ
สรุปแล้ว...เมื่อคืนมันคือความจริงงั้นหรอ
บ้า...นี่ผมกับมันทำอะไรลงไป ให้ตายเถอะ แบบนี้ผมจะมองหน้ามันติดได้ยังไงเนี่ย
ต้องไปจากที่นี่! ต้องไปโดยเร็วที่สุด!
พอคิดได้แบบนั้นผมก็คว้าเสื้อผ้าเมื่อวานมาใส่ก่อนจะวิ่งออกจากห้องมันอย่างไว แต่ยังไม่ทันที่ผมจะก้าวพ้นประตูบ้าน เสียงครางงิ้งๆก็ดังอยู่ข้างหลังจนผมต้องหยุดวิ่งแล้วหันกลับไปมอง ตัวเล็กนั่นเอง มันมองผมตาละห้อยจนน่าสงสารก่อนจะจะหมอบมองผมอยู่ตรงหน้า
เหมือนกับอยากขอร้องไม่ให้ผมไป
แต่พี่ขอโทษนะตัวเล็ก...พี่เขินที่จะอยู่จริงๆ
"เดี๋ยวพี่จะมาหานะ...ถ้ามีโอกาส" ผมเดินไปลูบหัวใหญ่นั้นอย่างเบามือก่อนหางตาผมจะเห็นอีกคนยืนอยู่ในห้องครัว ผมเลยรีบลุกขึ้นแล้วถอยหลังอย่างระแวงก่อนจะหลบตาคนข้างหน้า
ผมไม่กล้าสู้หน้ามัน...จริงๆ ถึงแม้มันจะหยุดไม่ทำอะไรต่อ แต่มันก็มากพอที่ผมจะรับไม่ได้
"ถ้ามีโอกาสงั้นหรอ..." อย่ามาพูดกับกูตอนนี้เลยไอ้เฮียร์ กูกำลังสับสนอยู่ กูกำลังงงว่าตอนนี้มันกำลังเกิดอะไรขึ้นกับหัวใจกู
"กูกลับบ้านก่อนนะ" ผมเอ่ยปากลาแต่ไม่ยอมมองหน้ามันสักนิดก่อนจะรีบเดินหนีออกจากบ้านมัน แต่เสียงสุดท้ายที่ตะโกนตามหลังมา มันเล่นเอาผมแทบหยุดหายใจ
"กูยังคงยืนอยู่ข้างหลังมึงเหมือนทุกครั้ง ถ้าพร้อมก็หันหลังมา ก็มาหากูละกัน"
อึก
มันจุกอยู่ที่คอ...เหมือนกับมันยืนรออยู่ข้างหลังตรงนั้นต้องนานแล้ว
ไอ้บ้าเอ้ย...มึงพูดเหมือนมึงคิดอะไรกับกูอย่างนั้นแหละ แต่ไม่มีทางซะหรอก ยังไงกูก็ไม่หันหลังแน่
ดังนั้นตอนนี้...ผมควรจะมีใครสักคนที่มาทำให้ผมเดินไปข้างหน้า
ไม่ใช่หลงทางแบบนี้
"ว่าอะไรนะ!"
"จะตกใจอะไรวะ! กูแค่บอกว่าอยากมีแฟน ทำอย่างกับโลกจะแตก!" ผมผลักหัวไอ้แซมไปทีด้วยความหมั่นไส้ กับไอ้แค่บอกว่าจะมีแฟน ต้องทำเหมือนเรื่องมันใหญ่โตมโหราฬขนาดหนัก ผมละเกลียดไอ้แอคติ้งโอเว่อร์ของมันจริงๆ
"ก็โลกแตกสิวะ มึงจะลองคบกับเฮียจริงหรอ"
ดูปากมัน น่าพาไปทัวร์นรกมะ
"ไม่ใช่เว้ย! กูคิดว่ากูจะหาผู้หญิงสักคนมาเป็นแฟน เอาแบบน่ารักๆอะ" ผมนอนคิดเรื่องนี้ทั้งวันเลยนะครับ คิดหาทางออกไอ้เรื่องที่ค้างคาใจนั่น แต่มันก็มีทางเดียวที่ผมจะเดินหน้าต่อไป ก็คือว่าผม...สมควรคบกับผู้หญิงได้แล้ว
บางทีที่ผมหวั่นไหวไปกับมันคงเป็นเพราะผมยังไม่เคยมีแฟน พอมีคนมาทำเรื่องแปลกประหลาดแบบนั้นเลยทำให้ผมสับสน แต่ถ้าผมเรียนรู้ที่จะคบหาดูใจกับผู้หญิง...ปัญหานี้ก็จะไม่เกิดอีก
"มึงคิดดีแล้วหรอวะ แล้วอาเฮียมึงอะ"
"มึงพูดงี้หมายความว่าไง พูดเหมือนมันเป็นแฟนกูที่กูต้องแคร์" มันก็แค่เพื่อนร่วมห้องเท่านั้น จะไปใส่ใจทำไม
"มึงคิดดีแล้วหรอวะ กูไม่อยากให้มึงมานั่งเสียใจทีหลังนะ"
ไอ้นี่! ตัวขัดทัพจริงวะ
"จะช่วยไม่ช่วย!" อย่าให้กูเดือด เดี๋ยวจับโยนลงตึกเลยสัด!
"เออๆ ทำไมต้องดุด้วยวะ งั้นกูมีคนหนึ่ง แนวที่มึงชอบเลย ตัวเล็กน่ารักน่าปกป้อง น้องสีน้ำ"
น้องสีน้ำ...แม่เจ้า แค่ชื่อกูก็อย่างเห็นหน้าแล้วครับ
"น้องเป็นใครวะ" เริ่มอยากจะรู้จักแล้ววะ
"น้องสีน้ำเด็กในชมรมกู อยู่มอสี่ห้องเจ็ด เล่นไวโอลีน คนนี้น่ะลูกคุณหนูตัวจริง มึงก็เป็นคนสุภาพ น้องน่าจะชอบมึง"
ห้องเจ็ดก็เด็กศิลป์ภาษาสิวะ แล้วเป็นลูกคุณหนูด้วย แบบนี้ผมจะจีบติดป่าวเนี่ย
"พากูไปหาน้องตอนนี้ได้ป่าว"
"เออๆ มึงนี่รีบจริง" พอมันยอมตกลงจะพาผมไปผมก็รีบเช็คสภาพหน้าตาตัวเองทันที ส่วนไอ้แซมก็รีบวิ่งไปหาผัวมันบอกจะไปชมรม พอมันกลับมาก็พาผมไปที่ชมรมดนตรีทันที
ตื่นเต้นวะ...น้องเขาจะชอบผมมั้ยนะ
พอมาถึงชมรมที่ดังระงมไปด้วยเสียงดนตรีหลากชนิดก็เล่นเอาประสาทแทบเสีย พวกเขาไม่บรรเลงให้เป็นเพลงเดียวกัน แต่กลับต่างคนต่างซ้อมจนน่ารำคาญ ไอ้แซมเลยชะเง้อมองหาน้องสีน้ำให้ เพราะมันรู้ว่าผมไม่ชอบที่เสียงดังๆก่อนมันจะพามาที่สวนหลังห้องซ้อมดนตรี แล้วที่นั่นเองที่ผมเห็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กน่ารักจิ้มลิ้มกำลังเล่นไวโอลีนท่ามกลางสวนดอกไม้
แม่.ง...อย่างกับการ์ตูนอนิเมชั่น
ร่างบางกำลังหลับตาพริ้มสีไวโอลีนของตัวเองไปโดยไม่ใส่ใจใครทั้งนั้น แต่มันมีเสน่ห์มากเถอะ เพราะแค่ผมเห็นด้านข้างก็ทำเอาผมเดินต่อไปไม่ได้แล้ว
"นั่นไงน้องสีน้ำ...ที่เหลือจัดการเองนะมึง"
พรึบ!
"เหี้.ย! หายไปไวจังวะ!" พอมันพูดเสร็จมันก็หายไปอย่างกับนินจาเลยครับ ทิ้งให้ผมยืนมองน้องเขาอยู่คนเดียว แล้วทีนี้ผมควรจะทำอะไรต่อไปล่ะ แค่ผู้หญิงธรรมดาผมยังไม่เคยคุยด้วยเลย
อ่า...อยากชะมัด
เอาวะ...มันต้องลอง
ผมค่อยๆเดินเข้าไปหาร่างบางที่ยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ก่อนจะมองน้องเขาเล่นต่อ และเหมือนกับน้องเขาเองก็ยังไม่รู้ตัวว่าผมมายืนอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว เพราะใบหน้าน่ารักนั้นดูมีความสุขเหลือเกินที่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก
ผมค่อยๆหลับตาลงเพื่อฟังเพลงที่น้องเขาบรรเลงต่อ มันช่างสื่อถึงอารมณ์ของเพลงได้ดีจริงๆ ยิ่งเสียงสูงที่น้องเล่นมันยิ่งบาดลึกเขาไปในหัวใจ จนผมเผลอกำที่หน้าอกอย่างห้ามไม่อยู่
"อะ!" แต่แล้วเสียงเพลงก็หยุดลงทันทีพร้อมกับคำอุทานที่เรียกสติผม ผมเลยลืมตามองหน้าน้องตอบก่อนที่เราสองคนจะสบตากันอย่างไม่ได้ตั้งใจ
อ่า...น่าทะนุถนอมจัง
ยิ่งมองใบหน้าจิ้มลิ้มนั้นก็เริ่มแดงก่อนน้องจะเอียงหนีอย่างเขินอาย มือเล็กเริ่มสั่นแล้วรนรานเหมือนทำอะไรไม่ถูกจนน้องรีบหยิบกล่องใส่ไวโอลีนและทำท่าจะเดินหนีผม แต่ผมจะให้น้องไปตอนนี้ไม่ได้ ผมต้องรั้งน้องไว้
"น้องสีน้ำครับ...อย่าเพิ่งไป" ผมเผลอคว้าลำแขนเล็กให้น้องหยุดเดินหนีแต่มันกลับแรงไปทำให้ร่างบางปลิวมากระแทกอกผมอย่างจัง ผมเลยรีบรวบเอวน้องไว้ไม่ให้ล้มก่อนใบหน้าเราสองคนจะอยู่ห่างแค่คืบ แล้วตอนนั้นเอง...ที่ทุกอย่างจะหยุดนิ่ง
แต่ทำไมกัน...ทำไมผมไม่รู้สึกตื่นเต้นเหมือนกับตอนนั้น ตอนที่หน้าผมกับไอ้เฮียร์อยู่ชิดกัน
ทำไมกัน
"พะพี่คะ...ปล่อยหนูเถอะคะ"
เออ...
"ขอโทษครับ พี่ไม่ได้ตั้งใจ" ผมรีบปล่อยมือน้องออกก่อนจะเกาท้ายทอยแก้เขิน แต่น้องกลับขำคิกคักก่อนจะอมยิ้มมาให้
"ไม่เป็นไรค่ะ งั้นสีน้ำขอตัวนะคะ" เธอยิ้มอย่างเขินอายก่อนจะเดินจากไป แต่ปากผมนี่สิ มันหนักเอาการ จะพูดก็ไม่ยอมพูด
เอาไงดีวะ
"เออ...ว่าแต่พี่มีอะไรพูดกับหนูมั้ยคะ" แต่แล้วเธอก็หันมาถามเหมือนเพิ่งจะนึกได้ ก่อนจะเดินกลับมาหาผม
"คือ...เออ...." จะพูดยังไงดี เขินวะ
"อะไรคะ..." ใบหน้าน่ารักเอียงถามผมเหมือนกับแมวแสนขี้อ้อน แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงไม่ชอบแมวเอาซะเลย เพราะผมรู้สึกว่าหมามันอ้อนน่ารักมากกว่า
เอ๊ะ! แล้วทำไมผมต้องคิดถึงไอ้เฮียร์ด้วยเนี่ย!!
"เออ...พี่ขะ ขอ บะ..." ทำไมพูดไม่ออกวะ แค่ขอเบอร์เอง
"คะ?"
"ผงฝุ่น!!!"
อึก!
ผมหันขวับไปทางต้นเสียงเรียกชื่อผมก่อนจะเห็นใบหน้าทะมึนของใครบางคนกำลังจ้องเหมือนอยากจะฆ่าผมให้ตาย
"มาหากูเดี๋ยวนี้!"
++++++++++++++++++++++++++++++131215
ผงฝุ่นคิดอะไรพิเรนนะ เดี๋ยวให้เฮียร์จับปล้ำซะนี่ 5555
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ