ObserveR “คุณมึงครับ มาเลียกูซิ!”

9.3

เขียนโดย nooonaa

วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 16.21 น.

  36 ตอน
  55 วิจารณ์
  68.90K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 25 มกราคม พ.ศ. 2557 23.32 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

11) "คุณมึงครับ มารักกูซิ!" 11 : เสี่ยง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

By nooonaa

 

 

"คุณมึงครับ มารักกูซิ!" 11 : เสี่ยง

 

+ผงฝุ่น+

 

"ผงฝุ่น!!!"

อึก!

ผมหันขวับไปทางต้นเสียงเรียกชื่อผมก่อนจะเห็นใบหน้าทะมึนของใครบางคนกำลังจ้องเหมือนอยากจะฆ่าผมให้ตาย

"มาหากูเดี๋ยวนี้!"

ไอ้เหี้.ย! มึงรู้ได้ไงว่าอยู่นี่วะ!

หน้าผมเสียไปแล้วครับ แถมใจมันยังสั่นแปลกๆเหมือนคนที่กำลังถูกจับได้ว่าทำผิด แต่ผมไม่ได้อะไรผิดนะ แล้วทำไมผมถึงกลัวมันโกรธขนาดนั้น

"ผงฝุ่น มึง ไม่ ได้ ยิน ที่ กู พูด รึ ไง มาหากูเดี๋ยวนี้!" แล้วเสียงนั้นก็ถามผมซะเขียวปั๊ด ก่อนมันจะขึ้นสูงเหมือนคนพูดชักทนไม่ไหว แต่ผมก็ยังคงทำแค่มองร่างสูงตรงหน้าที่คิ้วขมวดจนแทบจะชนกันพร้อมกับไหล่ที่ไหวเหมือนเหนื่อยหอบอะไรสักอย่างเท่านั้น

มันวิ่งตามหาผมงั้นหรอ

"มีอะไรรึป่าวคะ" น้องสีน้ำถามผมอย่างเป็นห่วงเมื่อเธอเห็นสถานการณ์ที่น่ากลัวนี้ ผมเลยหันไปยิ้มให้เธอเล็กน้อยก่อนจะรีบบอกให้เธอไปจากตรงนี้

"เดี๋ยวพี่มาหาเธอใหม่นะ แต่ตอนนี้รีบไปซะ" ผมรีบดันหลังเธอให้เดินไปแต่ร่างบางกลับดูเป็นห่วงผมนัก แต่ผมกลับรู้สึกขัดใจชะมัด

"แต่..."

ไอ้เหี้.ย! รีบๆไปสิวะ กูเองจะได้รีบวิ่งเหมือนกันเว้ย มึงคิดว่ามันทำหน้าอย่างกับจะฆ่าคนแบบนั้นคือมันกำลังจะแจกลูกโป่งมึงอยู่รึไง กูคนหนึ่งละที่คิดว่ามันคือระเบิด ระเบิดที่กำลังจะบึ้มหัวกูแล้วเนี่ย

"รีบๆไปนะ" แต่ผมก็ยังคงทำเป็นใจเย็นก่อนจะดันหลังเธออีกครั้ง ร่างบางเลยยิ้มลาผมแล้วรีบเดินจากไป คราวนี้ก็ตาผมบ้างล่ะ ผมหันไปมองมันที่ยืนอยู่ห่างออกไปนับประมาณเกือบยี่สิบก้าว ซึ่งตอนนี้หลักการทางฟิสิกส์ที่ผมเคยคิดว่าเรียนมันไปทำไมให้รกหัว แต่ตอนนี้มันกำลังช่วยให้สมองผมประมวลหาทางรอดจากคนตรงหน้าได้

กูได้ใช้วิชามหาบรรลัยยากนี้สักทีเว้ย

สมมติว่า...ถ้ากูวิ่งด้วยอัตราเร็วคงที่ กูคงจะไม่รอด ดังนั้นต้องออกออกตัวอย่างแรงแล้ววิ่งหน้าตั้งเลยเว้ย!

ไอ้ฝุ่น! ฟิสิกส์ของมึงตรงไหนวะ!

ผมท่าจะบ้า คิดงุ้งงิ้งอยู่คนเดียวอยู่นั่นแหละ ทำให้ไม่ทันได้ระวังตัวจนตอนนี้ร่างสูงใหญ่เดินมาอยู่ตรงหน้าผมแล้ว

แย่แน่! มัจจุราชชัดๆเลยมึงเนี่ยไอ้เฮียร์

แล้วเมื่อกลิ่นตัวที่มันยังคงติดที่ปลายจมูกผมมันกลับมาอีกครั้ง ใจผมก็เริ่มเต้นหนักก่อนนิ้วเรียวยาวจะเกี่ยวคางผมให้เงยขึ้นไปหา แต่พอผมเงยขึ้นไปมอง มันเล่นเอาใจผมตกไปอยู่ที่ตาตุ่มทันที

"เมื่อกี้มึงทำอะไร" สะ เสียงเขียว...จังวะ

"ทำอะไร...กูทำอะไร ไม่ได้ทำอะไรนี่ กูแค่มายืนรับลม ถามไรวะ จู้จี้วะ ไปๆ กูปวดอึและ" แล้วผมก็ตีมึนพูดรัวจนตัวเองยังงง ว่าทำไมผมต้องแก้ตัวและโกหกมันด้วย ทั้งๆที่ผมจะทำอะไรมันก็เป็นสิทธิ์ของผม

แต่พอผมทำท่าจะเดินหนี มือใหญ่ก็คว้าต้นแขนผมไว้ได้ทันก่อนจะลากผมจนแทบจะไถลไปกับพื้น แรงมหาศาลนั้นสามารถทำให้ผมมาอยู่ในห้องล็อกเกอร์ของชมรมฟุตบอลได้อย่างง่ายได้ ก่อนมันจะไล่เด็กในชมรมให้ออกไปให้หมด

"ออกไปให้หมด! เดี๋ยวนี้!"

เห้ยๆ พวกมึงจะไปไหน อย่าทิ้งกูไว้คนเดียวดิ แล้วมึงคิดจะทำไรวะ ไอ้ห่.า อย่าทำให้กูเสียวสิวะ

"มึง! ออกไปแล้วล็อกประตูด้วย" มันชี้คนสุดท้ายก็กำลังจะก้าวข้ามผ่านพ้นประตูจนเขาสะดุ้งโหยง ไอ้คนนั้นก็รีบรับคำแล้วรีบทำตามทันที จนตอนนี้เหลือแค่ผมกับมันเพียงคนสอง

ไม่ต้องใช้แม่หมอมาตรวจดวงชะตา ผมก็ตรัสรู้ได้เองว่า...คงไม่รอด

ไอ้เหี้.ยเฮียร์! มึงจะจ้องกูให้ขี้แตกเลยปะ!

"มีไรวะ ทำไมต้องทำอารมณ์เสียขนาดนั้นด้วย" ผมถามออกไปทันทีที่ร่างสูงเดินมาเท้ามือกับล็อกเกอร์ที่ผมพิงอยู่ เลยเหมือนกับแขนทั้งสองข้างกำลังกันไม่ให้ผมหนีได้ ก่อนที่ใบหน้าหล่อเลวนั้นจะก้มลงมาซะชิด แต่ผมก็ยังคงทำตัวไม่รู้เรื่องว่ามันโกรธอะไร จนตาคมดูขุ่นมากขึ้น มันเลยก้มหน้าร้องซี๊ดเหมือนกำลังระงับอารมณ์อยู่

นี่กูผิดอ่อ แค่กูไม่ยอมรับว่าทำอะไรผิดเท่านั้นเองอะ

"มึงนี่มัน..." มันกัดฟันลากเสียงยาวจนขนผมลุกเกลียว ก่อนมัดหนักจะชกล็อกเกอร์ที่อยู่ด้านข้างเสียงดังปึก ผมเองก็อึ้งค้างสนิท ไม่มีแม้แต่ขยับ

เออ...โกรธหนักเลยใช่มะ

"....." ผมเลยเลือกที่จะทำเป็นเงียบ เอาแต่จ้องตาคมที่มองหน้าผมอยู่ก่อน แต่พอมองไปมองมา นัยน์ขุ่นคู่นั้นกลับดูเหมือนสับสนก่อนที่มันจะทึ้งหัวตัวเองอย่างกับบ้า พร้อมกับด่าตัวเองอย่างไม่เข้าใจ

"ไอ้บ้าเอ้ย! มึงจะยอมมันอีกแล้วนะ!!"

ยอมอะไร มึงยอมอะไร

ผมมองมันที่กำลังเท้าแขนซบหน้าตัวเองกับพนังด้านข้างอย่างงงๆ ก่อนที่ตาคมจะตวัดกลับมามองผมอีกครั้ง

"เพราะมึงคนเดียวเลยไอ้ฝุ่น เพราะไฝเม็ดเดียวของมึงด้วย! มึงกำลังทำให้กูบ้า!" อยู่ๆมันก็ตะคอกใส่ผมเสียงดังก่อนเดินกลับมาหาผมใหม่ แต่คราวนี้มันไม่ใช่แค่มองผมแบบเดิม มันคว้าเอาต้นคอผมให้เหงนขึ้นแล้วกดริมฝีปากร้อนเข้าหาผมทันที

!!

"อื่อ!" จูบ! มันจูบผมอีกแล้ว! ทำไมมันต้องมาจูบผม ทั้งๆที่ผู้ชายด้วยกันมันไม่สมควรจะทำ

ผมเลยพยายามผลักไหล่มันออกเมื่อมันพยายามจะสอดลิ้นเข้ามา แถมยังโหมตัวกดร่างผมแทบจมหายไปกับตู้ ก่อนมืออีกข้างจะสอดรัดเอวผมแล้วยกขึ้นเล็กน้อยจนตอนนี้ใบหน้าผมกับอยู่เสมอกันแค่เพียงมันใช้แรงนิดเดียว

นี่ผมสู้อะไรมันไม่ได้เลยใช่มั้ย ถึงยอมให้มันทำแบบนี้ แล้วก็ยอมเปิดรับลิ้นหวานนั้นให้เข้ามาเชยชมอีก ถึงแม้ร่างกายจะต่อต้าน แต่ใจมันกลับรู้สึกดีที่มันทำ

สรุปแล้วผมกำลังต้องการอะไรจากชีวิต ต้องการจะเดินไปข้างหน้าหรือข้างหลัง แต่ยังไม่ทันที่ผมจะหาสรุป มือที่เคยดันมันออกก่อนหน้านั้นมันกำลังเอื้มไปกอดคอแกร่งแล้วกดหัวทุยให้เข้าหามากขึ้น

หวาน...นี่คือความรู้สึกเดียวที่ผมมีตอนนี้

"อื้ม..." ยิ่งอีกคนโถมอารมณ์ใส่ผมก็ยิ่งหายใจไม่ทันจนต้องดันอีกคนออก แต่ไม่ว่าจะพยายามร้องเท่าไหร่อีกคนก็ไม่สน เอาแต่ควานหาลิ้นเล็กอย่างโหยหา จนวินาทีสุดท้ายมันถึงจะยอมปล่อยให้ผมเป็นอิสระ

"อืม..."

"แฮ่กๆ" ผมรีบโกยอากาศเข้าปอดพร้อมกับขาที่อ่อนปวกเปียก แขนแกร่งเลยช่วยพยุงผมไว้แล้วดันให้ซบลงบนอกอุ่น ผมเลยทำได้แค่กำเสื้อนักเรียนมันแน่นก่อนอีกคนจะกดจมูกลงมาที่ซอกคอผมหลายๆครั้ง

อ่า...แทบขาดใจ

ปังๆ

"ไอ้เฮียร์ๆๆ เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะเว้ย!" แต่แล้วเสียงเรียกอีกคนก็ดังลั่นห้องพร้อมกับประตูชมรมที่สั่นสะท้านเพราะแรงตบ ผมเลยรีบผละออกจากมันอย่างตกใจก่อนจะทรุดลงกับพื้นเมื่อไม่มีที่ยึด มือผมรีบกำคอเสื้อตัวเองไว้แน่นเมื่อรู้สึกถึงความเปียกชื้นที่ซอกคอ มันคงทิ้งรอยไว้อีกแน่

ปังๆๆ

"ได้ยินกูมั้ยวะ! กูบอกให้เปิด! มึงกำลังทำเหี้.ยไรเนี่ย!" เสียงตะโกนเรียกยังคงไม่หยุดเมื่อเจ้าของชื่อยังคงเอาแต่มองผมไม่ขยับไปไหน ผมเลยรีบติดกระดุมคอเสื้อที่หลุดออกจนถึงเม็ดบนสุด จนตอนนี้สภาพผมเหมือนข้าหลวงสมัยร.5 ชัดๆ

แก๊ก!

แต่ดูเหมือนคนมาจะไม่รอให้ใครมาเปิดให้อีกต่อไป มันไขกุญแจเข้ามาก่อนจะมองหน้าผมกับไอ้เฮียร์สลับไปสลับมาอย่างอึ้งๆ ผมเลยยันตัวเองลุกขึ้นก่อนจะหลบตากลมหวานที่ฉายแววสงสัย

"มีไรไอ้เจมส์" เสียงทุ้มที่ดูแหบเล็กน้อยถามก่อนจะเอาร่างสูงใหญ่ของตัวเองมาบังตัวผมจนมิด ไอ้เจมส์เองก็ดูท่าจะอยากรู้เกินไปมันเลยคอยแต่จะชะเง้อมามองผม แต่ก็โดนมือใหญ่จับหัวเล็กให้กลับมาอยู่ที่เดิม

"กูถามว่ามึงมีอะไรกับกู" เสียงมันเริ่มเขียวขึ้นอีกแล้ว

"แล้วมึงกำลังทำไรอยู่วะสัด ทำแบบนี้เดี๋ยวมึงก็เจอดีหรอก"

"อะไรของมึงวะ" มันพูดกำกวมมากเถอะ แต่มันก็ไม่ยอมตอบ กลับเดินมาคว้าแขนผมให้ลุกขึ้นแล้วลากออกมาจากห้องชมรมนั้น แต่ก็ถูกอีกคนขวางไว้ทัน

"มึงจะพามันไปไหน"

"พาไปที่ไหนก็ได้ที่ไม่มีมึง ไอ้เฮียร์...กูขอร้องเถอะวะ มึงเลิกเกมส์บ้าๆนี่ซะ ก่อนคนที่จะเสียใจจะไม่ใช่แค่มัน" ไอ้คำว่ามันนี่ดูแปลกชอบกล เพราะสายตาไอ้เจมส์มันหันมามองผมซะเต็มตา

นี่อย่าบอกว่ามันคนนั้นคือผมงั้นหรอ แล้วที่บอกว่าเกมส์มันคืออะไร

"เรื่องนี้มึงไม่เข้าใจหรอกไอ้เจมส์"

"มึงนั่นแหละที่ไม่เข้าใจ ถอนตัวออกมาซะไอ้เฮียร์...กูขอเตือน มึงไม่รู้หรอกว่าตอนนี้ตัวเองกำลังเล่นอยู่กับใคร กูรู้ว่ามึงไม่กลัว แต่กูว่าคราวนี้มึงควรจะกลัวได้แล้ว" นี่มันพูดเรื่องอะไรกัน แล้วทำไมถึงมีผมเข้าไปร่วมด้วย สรุปแล้วเรื่องทั้งหมดมันคืออะไร

แต่ผมก็ยังไม่ทันถามอะไร ไอ้เจมส์ก็ลากผมออกมาจากตรงนั้นก่อนจะพาไปที่สระว่ายน้ำของโรงเรียน พอปลอดคนมันถึงจะยอมปล่อยผมก่อนตัวเองจะวิ่งตะโกนอย่างกับคนบ้ารอบสระน้ำอยู่หลายรอบ ผมมองที่มันทำแล้วรู้สึกขนลุกชะมัด ไอ้เจมส์มันบ้าใช่มั้ยเนี่ย

"โอ๊ย! กูจะไม่ไหวแล้วเว้ย...ทำไมต้องเป็นกูวะ!!! กูเกลียดมึง! ไอ้เหี้.ย!!"

มันเอาแต่ตะโกนประโยคนั้นเกือบร้อยรอบก่อนร่างเพรียวจะทรุดลงกับพื้นเหมือนจะหมดแรง แผ่นอกบางดูหอบเหนื่อยพร้อมกับมีเหงื่อไหลออกมาเต็มหน้าใสไปหมด ผมเลยเดินไปหามันก่อนจะล้มตัวลงนั่นข้างๆ

"ที่พวกมึงพูดกัน....หมายความว่าไงวะ" อะไรคือเกมส์ที่พวกมึงพูดถึง แล้วอะไรคือสิ่งที่ควรจะกลัว

"......." แต่มันไม่ยอมตอบกลับเอาแต่หายใจเข้าปอดอย่างแรง ผมเลยนั่งรออยู่ตรงนั้นเพื่อรอมันพร้อมแล้วจะถามอีกครั้ง แต่กลับกลายเป็นมันเองที่เอ่ยพูดผมแทน

"มึงน่ะ ออกมาให้ห่างๆจากไอ้เฮียร์ซะ กูขอเตือน"

"อะไรนะ!" ทำไมต้องมาเตือนกู ก็ในเมื่อคนที่เข้ามาเป็นมัน ไม่ใช่ผมสักหน่อย

"เรื่องนี้มันซับซ้อน มึงตามพวกมันไม่ทันหรอก" พวกมันนี่หมายถึงใคร หรือมันจะเป็นพวกเพื่อนๆแก๊งอันตพาลของพวกมึง แล้วกูไปยุ่งเกี่ยวกับพวกมันตอนไหนวะ

"หมายความว่าไงวะ ทำไมถึงไม่พูดออกมาให้มันเคลียร์ไปเลย" จะมาพูดคำเหลือคำให้กูเครียดทำไม แล้วที่มึงบอกแบบนั้นออกมา แสดงว่ามึงกำลังจะช่วยกูอย่างนั้นใช่มั้ย

"ไอ้ฝุ่น เรื่องนี้มันเลยเถิดมากแล้วเถอะ กูพูดไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรสักนิด มีอยู่ทางเดียว...อย่าเผลอไปรักไอ้เฮียร์ ไม่งั้น...ทุกคนซวยแน่"

เผลอรัก!

"กูไม่ได้รักมันนะ!" ให้ตายเถอะ! ผมจะไปรักมันได้ไง มันเอาแต่แกล้งผม แล้วผมจะไปรักคนเลวๆอย่างมันได้ยังไงกัน

"กูเชื่อตายแหละ! แล้วที่คอมึงนั่นคือมดทั้งรังกัดรึไง"

มึงรู้!!

ผมแทบจะตะครุบคอตัวเองไม่ทันก่อนที่หน้าผมจะเริ่มร้อนผ่าว แต่มันกลับยืนยันอะไรบางอย่างให้คนข้างๆมั่นใจ ก่อนเสียงหึในลำคอจะดังออกมาอย่างต่อเนื่อง

"หึๆ หึ หลงใบหน้าเทพบุตรมันไปแล้วใช่มั้ยละ มันก็แน่อยู่แล้ว...ก็มันเล่มทุ้มทั้งตัวขนาดนั้น"

อะไรกันวะ กูชักปวดหัวกับคำพูดกำกวมของมึงแล้วนะเว้ย!

"พวกมึงเล่นอะไรกัน ทำไมถึงมาเกี่ยวกับกู"

"มึงถามเหมือนกูจะตอบเนอะสัด สมองโง่ๆของมึงแบบนี้ไง ถึงต้องหลงมาอยู่ในเกมส์นี้ เอาง่ายๆนะไอ้เตี้ย มึงต้องอยู่ห่างจากไอ้เฮียร์ไว้ ก่อนที่มันหรือกูจะเหลือแค่ชื่อ"

"......." ผมพูดอะไรไม่ออกแล้วครับ มันไม่รู้จะทำอะไรต่อ เพราะผมยังงงกับเรื่องที่มันพูด แต่พออีกคนพูดเสร็จมันก็ลุกขึ้นยืนก่อนจะบอกผมอีกเรื่อง

"ต่อไปนี้มึงต้องกลับบ้านกับกู กินข้าวเที่ยงกับกู มีอะไรก็ต้องบอกกู แม้แต่มึงตดมึงก็ต้องบอก กู เข้าใจมั้ยไอ้เตี้ย"

โหไอ้สัด มึงไม่ไปขี้พร้อมกูเลยละ พูดซะกูรู้สึกว่าชีวิตนี้ต้องมีมึงทุกวินาที แต่ขอโทษทีเถอะ ทำไมกูต้องเชื่อมึงด้วยวะ

"กูไม่ทำ มึงก็อยู่ส่วนของมึงไปสิ กูไม่ไปยุ่งกับเพื่อนมึงแน่ ถ้าเพื่อนมึงไม่มายุ่งกับกูก่อน" คราวนี้ผมเท้าเอวรอเถียงมันกลับเลยครับ ให้ตายยังไงก็ไม่ยอมหรอก คนที่ทำให้เรื่องนี้วุ่นคือไอ้บ้านั่นต่างหาก

"ไอ้นี่โง่ชิบหาย ถ้ากูหยุดเพื่อนกูได้แล้วกูจะมาสั่งมึงมั้ย สมองมึงน่ะหัดคิดบ้างสิวะ อย่าเอาไว้หลงไอ้เฮียร์อย่างเดียว"

จึก!

แม่งแทงใจดำจี๊ดเลยวะ ฟังแล้วขึ้นเลยสัด แล้วที่สำคัญ กูไม่ได้หลงมันเว้ย กูหนีมันไปไกนไม่พ้นต่างหาก แล้วที่มึงพูดแบบนั้นมันเหมือนกับว่าไอ้เฮียร์ไม่มีวันเลิกยุ่งกับผมแน่ๆใช่มั้ย ให้ตายสิ...หน้าผมร้อนอีกแล้ว

ฟู่

"กูไม่ได้หลงมันสักหน่อย"

"อ้อหรือจ๊ะ กูคงเชื่อมึงเนอะ ยืนนิ่งให้มันฟัดจนคอแทบหัก ไปพูดกับควาย ควายยังด่ามึงกลับเลยเถอะ"

"งั้นมึงก็เป็นควายอะดิ ก็มึงด่ากูกลับอะ"

"ไอ้สัดเตี้ย!! วอนหาตีนนะมึง!!" ใบหน้าน่ารักของมันนี่หงิกไปเลยครับ สมน้ำหน้า ด่าแต่ผม เจอกูย้อนซะบ้าง เจ็บทั้งทรวงมั้ยล่ะมึง

ผมเลยทำเป็นยิ้มแหะๆใส่มันเมื่อมันทำท่าจะเตะก้านคอผม มันเลยทำได้ผลักอกผมอย่างหมั่นไส้ก่อนจะเดินออกจากสระน้ำ

ผมเดินตามมันไปจนถึงห้องเรียนที่อาจารย์ก็สอนเกือบจะหมดคาบ แต่เดินตามไอ้เจมส์ก็ไม่ต้องกลัวหรอกครับ เข้าวินาทีสุดท้ายอาจารย์ก็ไม่ว่า แต่พอผมเดินมาถึงที่นั่งของตนเองก็รู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนขึ้นมาดื้อๆ เมื่อมีสายตาคมของคนที่นั่งข้างหลังกำลังจ้องผมเหมือนกำลังไม่ถูกใจ แต่ผมก็ยังคงทำเป็นไม่รู้สึกก่อนจะตั้งใจเรียนกับวิชาตรงหน้า ถึงแม้มันจะเอาแต่จ้องมองผมตลอดเวลาก็เถอะ

ถึงจะทำเป็นไม่รู้สึก...แต่ก็อดกลัวไม่ได้

กลัวมันจะโกรธยังไงก็ไม่รู้

ผมนั่งเรียนจนหมดคาบช่วงเช้าก็รีบเก็บของทุกอย่างเข้าใต้โต๊ะ ก่อนที่คนนั่งข้างหลังจะลุกเดินมาหาผม ผมเห็นแบบนั้นหัวใจมันก็เต้นระรัวเหมือนจะทะลุออกมานอกอก ไม่รู้จะทำหน้ายังไงต่อหน้ามัน แต่ยังไม่ทันที่ร่างสูงจะได้เอ่ยปากพูดอะไรกับผม ไอ้ตัวบงการชีวิตก็รีบวิ่งแจ้นจากอีกฝั่งของห้องมากั้นระหว่างผมกับมัน

"ไอ้เตี้ย! กินเตี๋ยวกัน" ว่าเสร็จมันก็ดึงแขนผมให้ลุกตามทันที โดยไม่ถามผมสักคำว่าอยากไปด้วยมั้ย แล้วก็ปล่อยให้เพื่อนมันยืนมองผมอยู่ข้างหลัง แต่พอผมหันกลับไปมองใบหน้าหล่อนั่นก็แทบจะลืมหายใจ เพราะใบหน้านั้นดูโกรธและไม่ถูกใจอย่างเห็นได้ชัด

กูไม่ผิดนะเว้ย เพื่อนมึงมันวุ่นวายเองนะ

แล้วมันก็เป็นแบบนี้ตลอดทั้งวัน พอร่างสูงทำท่าจะเดินมาหาผมมันก็รีบมาเป็นไม้กันหมา จนอีกคนทำได้แค่มองและจิ๊ปากอย่างขัดใจ ทำให้ตอนนี้ทุกคนในห้องเริ่มมองผมแปลกๆ เพราะไอ้เจมส์คนที่คอยจะกัดหัวผมทุกครั้งกลับกลายมาเป็นเพื่อนผมซะงั้น ยิ่งไอ้เป๋ากับไอ้แซมนี่แล้วใหญ่ มันนั่งหน้าเหวอมองไอ้เจมส์กับผมสลับไปสลับมาก่อนจะหันไปมองไอ้อันตพาลหลังห้อง พอหันไปมองเสร็จ มันก็กลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อกทันที

ที่จริงมึงไม่ต้องทำแบบนั้นก็ได้นะไอ้แซม กูเองก็รู้ว่ามันเริ่มไม่ปลอดภัยเหมือนกัน ไม่รู้เมื่อไหร่ไอ้เฮียร์จะอาละวาดก็ไม่รู้

"จารย์มา!" แต่แล้วเสียงเพื่อนที่เพิ่งวิ่งเข้ามาในห้องนั้นร้องบอกถึงอาจารย์ที่จะเข้ามาสอนในคาบต่อไปมาถึง พวกผมก็แตกหือวิ่งกลับเข้าที่ ก่อนหัวหน้าห้องที่เดินตามท่านมาจะค่อยๆเดินแจกแผ่นกระดาษเอสี่มาให้คนละแผ่น พอผมได้รับก็จัดการอ่านมันจนจับใจความได้

"เสาร์อาทิตย์นี้จะมีทัศนศึกษาประจำปี คราวนี้เราจะไปที่เขาใหญ่ มีรีสอร์ตท่ามกลางป่าเขา แต่ครั้งนี้เราจะมีพี่ๆมหาลัยมาจัดติวข้อสอบสำหรับเตรียมสอบเข้ามหาลัยให้ด้วย ทำให้มีการค้างสามวันสองคืน โดยรถจะออกเดินทางในตอนเช้าวันศุกร์เวลาตีสี่ แล้วจะเดินทางกลับในบ่ายวันอาทิตย์ ถ้าใครไปไม่ได้ก็เขียนใบลามานะ ส่วนที่ใครจะไปก็ให้ผู้ปกครองเซ็นต์รับรองด้วย"

ผมฟังอาจารย์ที่ปรึกษาของห้องพร่ำพรรณนาอยู่นานก่อนจะถอนหายใจออกเฮือกใหญ่ จะอะไรซะอีกล่ะ ก็เพราะไม่ว่ายังไงผมก็คงไม่ได้ไป ถึงจะบอกเหตุผลให้ตายพี่ถ่านก็ไม่ยอมหรอก ผมเลยพับกระดาษแผ่นนั้นแล้วใส่กระเป๋าพร้อมกับความเซ็ง

เห้อ...ทำไมผมต้องเป็นคนที่มีโรคติดตัวแบบนี้นะ

จึกๆ

แต่แล้วก็มีอะไรบางอย่างมาทิ่มอยู่ข้างหลังผม ทำให้ผมหันกลับไปมองอย่างลืมตัว แล้วนั่นก็ทำให้ผมเพิ่งรู้ว่าเจ้าของโต๊ะข้างหลังมันเขยิบโต๊ะมาติดกับเก้าอี้ผม ทำให้ผมกับมันห่างกันแค่นิดเดียว ผมเลยหันหน้ากลับเมื่อรู้สึกว่ามันจะร้อนอีกครั้งก่อนจะมีอะไรบางอย่างถูกโยนข้ามหัวผมมา ผมมองเศษกระดาษที่ถูกขยำซะเละก่อนจะคลี่มันออกดู

'จะไปมั้ย'

ถามผมงั้นหรอ ว่าผมจะไปรึป่าว แล้วคำตอบของผมมันเกี่ยวอะไรกับมัน ถ้าผมไม่ไปแล้วมันจะไม่ไป หรือว่าถ้าผมไปมันจะได้ไม่ไป ตกลงมันถามเพราะอะไร

ผมเลยเก็บเศษกระดาษนั้นเข้าใต้โต๊ะก่อนจะหันกลับมาสนใจสิ่งที่อาจารย์สอนต่อ แต่มันก็ยังคงโยนก้อนกระดาษมาให้ผมอีก เห็นอย่างนั้นผมก็รีบแกะมันออกอ่าน

'ถ้ามึงไปกูจะได้ไป'

ตึกตักๆ

ไอ้เหี้.ย!! มึงทำแบบนี้ทำไมวะ อย่ามาทำให้กูสับสนได้มั้ยไอ้บ้า!

แล้วผมก็รู้สึกโหวงที่หัวใจจนต้องกำเสื้อที่อกแน่น มันเหมือนจะหายใจไม่ทันยังไงไม่รู้ ผมเลยต้องรีบเงยหน้าขึ้นเพื่อให้อากาศเข้าสู่ปอดได้ง่ายกว่าเดิม

ทำไมมันถึงมีอิทธิพลกับผมถึงขนาดนี้

ผมว่า...ผมคงทำตามคำเตือนของไอ้เจมส์ต่อไปไม่ได้แล้วล่ะ เพราะไม่ว่าจะทำยังไง ผมก็ยังคงทำตัวห่างจากมันไม่ได้

เพียงแค่เห็นหน้ามันบึ้ง ผมก็กลัวมันจะโกรธ

เพียงแค่มันถาม ผมก็อยากคุยกับมันทั้งวัน

สงสัยผมคงจะชินกับการเป็นทาสมันแล้ว...มั้ง

ผมเลยหันไปบอกมันพร้อมกับรอยยิ้มที่กลั้นไม่อยู่ ก่อนใบหน้าบึ้งตึงของคนด้านหลังจะค่อยๆคลายความโหดลงอย่างเห็นได้ชัด

"กูจะพยายามไปให้ได้ละกันนะ"

"อืม"

นั่นสินะ ยังไงผมก็คงต้องให้มันมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตผมต่อ เพราะแค่ไม่กี่ชั่วโมงที่มันไม่มากวน มันก็ทำให้ผมกังวลแต่เรื่องมันทั้งวัน

สงสัยคงต้องกล้าจะเสี่ยงที่จะเล่นเกมส์ของพวกมันซะแล้ว

 


+++++++++++++++++++++++++++++++
131223


น่ารักฟุดๆอะ

คือแบบว่า มีเรื่องอยากจะถาม รีดเดออยากอ่านคู่พี่ถ่านกับเจมส์เป็นเรื่องแยกมั้ย หรือเอาเป็นตอนพิเศษพอ แต่ถ้าไรท์จะแต่ง(ไม่ว่าจะแยกหรือจะพิเศษ). ก็จะต้องรอให้เรื่องนี้ดำเนินไปเกือบครึ่งก่อนนะคะ เดี๋ยวมันตีกันอะ 555 รอก่อนนะ ช่วงนี้ใกล้สอบ ไม่มีเวลาอะ ช้านิสนะ55 จุบๆ

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา