THE SUN เพราะว่ารัก กูถึงต้องร้าย!!! (Yaoi'Boys love )

9.7

เขียนโดย Musun

วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 15.55 น.

  9 ตอน
  3 วิจารณ์
  36.39K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 14.25 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

9) THE SUN : 9.........(มาฆีย์ & x ปุ้น )

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

THE SUN : 9.........(มาฆีย์ & x ปุ้น )

 

          ร่างสูงของหนุ่มลูกเสี้ยวผู้มีชื่อเสียงในวงการนักแข่งนั่งหลับตาอย่างอ่อนล้าอยู่บนโซฟาเบดตัวใหญ่ในห้องพักนักแข่ง ตลอดหลายวันที่ผ่านมาร่างสูงอดหลับอดนอนเพื่อตามหาตัวเพื่อนรักคนสำคัญแต่จนถึงวันนี้ก็ยังหาไม่เจอจนร่างสูงใหญ่เริ่มอ่อนล้าเนื่องจากไม่ค่อยได้พักผ่อน และวันนี้หลังจากที่ขับรถวนหาซอลไปจนทั่วกรุงเทพร่างสูงก็พาร่างกายอันอ่อนล้ากับมาที่สนามแข่งเพื่อรอการแข่งรถที่จะเกิดขึ้นในคืนนี้

ยังหาไม่เจออีกเหรอวะ “ เสียงเข้มที่เคยขี้เล่นของเพ้นท์ถามขึ้นเมื่อร่างสูงเดินมานั่งลงข้างๆกับเพื่อนรักพลางถามถึงความคืบหน้า

 

ไม่มีวี่แววเลยวะ “ มาฆีย์ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงแหบแห้งเนื่องจากร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอมาหลายวัน และมันก็สะสมจนทำให้ร่างสูงแทบจะทรงตัวไม่ไหว ทั้งแข่งรถ ทั้งตามหาคนมันทำให้มาฆีย์รู้สึกเหนื่อยเป็นอย่างมาก

 

แม่งจะเล่นอะไรของพวกมันวะ ถ้าซอลเป็นอะไรขึ้นมากูเอาพวกแม่งตายแน่ “ นัยตาสีน้ำตาลอ่อนของหนุ่มเพ้นท์วาวโรจน์ทั้งกลัวทั้งเป็นห่วง หลายวันที่ผ่านมามันทำเอาเขาแทบบ้าเหมือนกัน

 

ไม่ต้องให้ถึงมือมึงหรอก กูนี่แหละจะฆ่ามันเองถ้ามันบังอาจแตะต้องซอล” ร่างสูงที่นั่งหลับตาอยู่เปิดเปลือกตาขึ้นเผยให้เห็นนัยตาสีรัตติกาลที่ดูลึกลับน่าค้นหา และตอนนี้มันเต็มไปด้วยความดุดันและแข็งก้าว

 

เฮ้อ ว่าแต่มึงจะบอกกูได้หรือยังว่าพวกมันทำแบบนี้ทำไม “ เพ้นท์ถอนหายใจเบาๆกับอารมณ์ของเพื่อนรักของตนเป็นอันรู้ดีอยู่แล้วว่ามาฆีย์เป็นคนที่มีอารมณ์เหนือการคาดเดามาก เพื่อนรักของเขานั้นสามารถทำอะไรๆที่คนอื่นๆไม่คิดว่าจะมีคนกล้าทำได้ นัยตาสีน้ำตาลอ่อนมองเพื่อนรักอย่างรอคำตอบ

 

มึงจำเกรซได้มั้ย “ ร่างสูงถามเกริ่น

 

เด็กเก่ามึงน่ะเหรอ “ เพ้นพูดตอบอย่างนึกได้

 

อืม คนนั้นแหละ “มาฆีย์พยักหน้าตอบรับ ทำให้คิ้วเข้มๆของคนเป็นเพื่อนอย่างเพ้นท์ขมวดขึ้นอย่างสงสัย

 

แล้วเกรซมาเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ “ ไม่ต้องรอช้าเพ้นท์ถามกลับไปอย่างอยากรู้ทันที

 

เมื่อไม่กี่เดือนที่แล้ว กูพึ่งได้รู้ว่าเกรซเป็นน้องสาวคนเดียวของพี่กราฟ “ มาฆีย์พูดบอกด้วยน้ำเสียงเรื่อยๆอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อนอะไร แต่แววตากับเต็มไปด้วยความกังวลจนเพ้นท์จับสังเกตได้

 

หรรษาอีกแล้วชีวิต “ เพ้นท์หัวเราะฝืดๆในลำคอก่อนจะพูดออกมาประชดชีวิต

 

หึ มีหรรษากว่านั้นอีก มึงรู้ใช่มั้ยว่าหลังจากที่เกรซเลิกกับกูไป เธอทำใจไม่ได้จนเกือบฆ่าตัวตาย” ร่างสูงเล่าต่อโดยที่มุมปากยกยิ้มเยาะๆตัวเอง

 

เออรู้ เป็นความคิดที่โบราณมากอกหักแล้วฆ่าตัวตาย" มาถึงตรงนี้เพ้นท์ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ว่าเพื่อนรักจะมาระลึกความหลังให้เขาฟังทำไม

 

หึ กูก็ว่างั้น “ มาฆีย์ตอบรับด้วยแววตาหม่นๆ

 

" แล้วไงต่อวะ มันเกี่ยวไรกับเกรซกับพี่กราฟในเมื่อคนที่พาซอลไปคือไอ้ซันเด็กในทีมพี่กราฟ “ เพ้นท์จับสังเกตเพื่อนรักได้แต่ก็ยังอยากรู้อยู่ดีจึงพยายามทำเป็นไม่สนใจ

 

เกี่ยวดิ เกี่ยวมากเลยล่ะ ในเมื่อซันมันเป็นลูกบุญธรรมของครอบครัวพี่กราฟ!!! “

 

          ความจริงที่พึ่งได้รู้ทำเอาเพ้นท์ถึงกับอึ้งไปเลยที่เดียว ถ้าเป็นแบบนี้เขาเดาได้เลยว่าที่เรื่องเป็นแบบนี้เพราะฝ่ายนั้นต้องการแก้แค้นให้เกรซที่เป็นน้องสาวแน่ๆ พอรู้ความจริงมันก็ทำให้เพ้นท์เคลียดขึ้นอีกเป็นเท่าตัวเพราะ แค่ซันพาตัวซอลไปน่ะไม่เท่าไหร่หรอก แต่ถ้าซันต้องการแก้แค้นให้เกรซนั้นหมายความว่าพวกมันจะต้องทำทุกอย่างให้มาฆีย์ทุรนทุราย และที่มันเลือกจะทำกับซอลเพราะมันรู้ว่าซอลสำคัญกับมาฆีย์มากแค่ไหน

 

เหอะๆ ตลกร้ายเกินไปแล้ว “ เพ้นท์หัวเราะฝืดๆกับโชคชะตาที่เล่นตลก

 

หึ ตลกจนกูกลัวเลยละ....”

 

          ร่างสูงของเพ้นได้แต่มองเพื่อนรักด้วยความเป็นห่วง เพราะเท่าที่คบกันมามันทำให้เพ้นท์รู้ว่าถ้าเป็นเรื่องของซอลมาฆีย์จะเคลียดเสมอไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร และตอนนี้เพื่อนรักของเขาคงกำลังโทษตัวเองที่ทำให้คนสำคัญต้องมาตกอยู่ในอันตรายแบบนี้

.

.

.

 

23: 23 ณ สนามแข่ง XYZ

 

          ร่างบางในชุดนักศึกษาชายออกวิ่งอย่างสุดกำลังเพื่อที่จะหนีให้พ้นจากการเป็นของเล่นให้กับคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่ชายแท้ๆของเขา ร่างบางวิ่งตรงไปยังอีกฝากหนึ่งของสนามซึ่งเปรียบได้ว่าเป็นสถานที่ต้องห้ามที่คนนอกไม่สามารถเข้าไปได้ แต่ถ้าเขาเข้าไปหลบในนั้นได้นั้นย่อมหมายความว่าเขาจะรอดจากการถูกพี่ชายแท้ๆนำไปเป็นของพนันในการแข่งรถคืนนี้

 

อีกนิดเดียวเท่านั้นปุ้น แฮ่กๆๆ “ ร่างบางพูดให้กำลังใจตัวเองสองเท้ายังคงวิ่งไม่ยอมหยุด

 

          และในที่สุดร่างบางก็พาตัวเองมาจนถึงเป้าหมายได้อย่างปลอดภัย ปุ้นรับพาตัวเองหลบไปยังหลังรถยนต์สุดหรุคันหนึ่งที่จอดอยู่บริเวณจุดพักรถเพื่อรอลงแข่งขัน และตอนนี้มีคนกลุ่มหนึ่งกำลังเดินตรงมาทางรถคันนี้ และถ้าพวกนั้นมาเจอเข้ากับปุ้นมันจะต้องเป็นเรื่องแน่ๆ

 

เอาไงดีๆๆ “ ปุ้นพยายามคิดหาทางออกให้ตัวเอง

 

          แล้วเหมือนสวรรค์เป็นใจเมื่อนัยตากลมโตหันไปเจอเข้ากับฝากระโปร่งท้ายรถ ร่างบางไม่รอช้าเอื้อมมือไปเปิดมันออกทันที และก็เหมือนสวรรค์กำลังเข้าข้างเมื่อมันเปิดออกได้อย่างง่ายดาย ปุ้นรีบพาร่างเล็กๆของตัวเองเข้าไปหลบอยู่ในนั้นโดยแงมฝาประโปร่งไว้นิดๆเพื่อให้หายใจได้

 

          โดยที่ร่างบางไม่คิดเลยว่าเมื่อขึ้นมาอยู่บนรถคันนี้แล้วชีวิตของเขาจะเปลี่ยนไปตลอดกาล.....

.

.

.

.

 

เห้ย ฆีย์ถึงเวลาแล้ว “ ดิสโก้ผู้ชายมาดขรึมเดินเข้ามาบอกร่างสูงที่นั่งพักสายตาอยู่ในห้องพักนักแข่ง พลางเหลือบตาไปมองเพื่อนรักอีกคนที่นั่งต่อโลโก้อยู่บนพื้นหน้าโซฟาอย่างไม่สนใจสิ่งรอบข้างสักนิด

 

อืม กูแข่งรอบเดียวนะ “ร่างสูงยันตัวลุกขึ้นจากโซฟาเบดตัวใหญ่ก่อนจะใช้เท้าสะกิดเพื่อนอีกคนให้ออกไปข้างนอกพร้อมกัน

 

มึงจะเรียกกูดีๆไม่ได้เหรอวะ “เพ้นท์บ่นออกมาเบาๆแต่ก็ยอมเดินตามเพื่อนรักทั้งสองออกไปอยู่ดี

 

               ถึงที่นี้จะเป็นสนามแข่งที่ถูกกฎหมาย แต่บรรยายกาศก็ยังคงความดิบเถื่อนไม่แพ้สนามแข่งที่อื่นๆสักนิด นัยตาสีรัตติกาลกวาดมองไปรอบๆเพื่อปรับสายตาให้คุ้นเคยกับแสงจ้าๆของไฟสปอร์ตไรท์ที่สองอยู่ มาฆีย์ได้ชื่อว่าเป็นมือหนึ่งของสนามนี้ และเขามักจะลงแข่งแค่คืนละหนึ่งครั้งเท่านั้น และปรกติก็มักจะลงในรอบสุดท้ายที่มีแต่ตัวเจ๋งๆลงกัน แต่วันนี้ที่ร่างสูงเลือกที่จะแข่งรอบแรกเพราะมีนักแข่งหน้าใหม่มาท้าทายอำนาจมืดของเขาและเขาก็พร้อมจะจัดให้แบบไม่บ่ายเบี่ยง

 

นั้นน่ะคู่แข่งมึงคืนนี้” ดิสโก้พูดพลางพยักหน้าส่งๆไปยังอีกฝากหนึ่งของสนามที่มีนักแข่งอีกกลุ่มยืนเกาะกลุ่มกันอยู่ และจากที่ร่างสูงมองบรรยากาศตรงนั้นมันดูปั่นป่วนแปลกๆ

 

อืม ส่งคนไปเก็บของพนันได้แล้ว “ ร่างสูงพยักหน้ารับก่อนจะพูดบอกเพื่อนตัวเอง วูบหนึ่งมาฆีย์รู้สึกว่ามีสายตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองเขาอยู่ทำให้ร่างสูงต้องหันไปมอง แต่ก็ยังไม่พบอะไรอยู่ดี

 

ไหวแน่นะ “ภูมิเดินเข้ามาถามเพื่อนรักอีกคนโดยมีพ้อยท์ที่ยืนมองอยู่ห่างๆด้วยความเป็นห่วง เพราะทุกคนรู้ดีว่ามาฆีย์เคลียดแค่ไหนตั้งแต่ที่ซอลถูกพาตัวไป

 

อืม ไหว “ร่างสูงยังคนรับคำนิ่งๆเหมือนเดิม

 

งั้นมึงไปประจำที่ได้แล้ว “

 

          มาฆีย์พยักหน้ารับคำเพื่อนรักก่อนจะเดินตรงไปยัง จาร์กัว สีดำสุดหรูที่จะใช้ในการแข่งขันในวันนี้ โดยตลอดเวลาร่างสูงรับรู้ได้ว่ามีคนกำลังจ้องมองเขาอยู่ แต่เมื่อมองหาโดยรอบแล้วก็ยังไม่พบใครอยู่ดี

 

          เมื่อมาฆีย์และคู่แข่งเข้าประจำตำแหน่งคนขับแล้ว เพียงไม่กี่นาทีต่อมาเสียงปืนก็ดังขึ้นเป็นสัญญาณว่าการแข่งขันเริ่มขึ้นแล้วรถยนต์คันหรูทั้งสองพุ่งทะย้านออกไปจากจุดเริ่มต้นอย่างรวดเร็ว โดยที่ตอนนี้มาฆีย์ยังคงตามหลังคู่แข่งอยู่ และการแข่งรอบนี้ก็ถือเป็นรอบพิเศษเพราะจะแข่งกันแค่สามรอบ ทั้งที่ปรกติต้องขับวนถึงสิบรอบ แต่เพราะอำนาจมืดในมือมันทำให้มาฆีย์สามารถเปลี่ยนทุกอย่างได้ตามที่ใจคิด

 

          การแข่งในวันนี้ถือว่าเป็นการแข่งที่สบายๆสำหรับร่างสูง เพราะเขาไม่ได้เอาจริงเอาจังอะไรมากแถมยังขับเหมือนกับว่ากำลังขับรถเล่น หลายครั้งที่ร่างสูงเหยียบคันเร่งเหมือนจะแซงแต่ก็ผ่อนไม่แซงทำแบบนั้นอยู่หลายรอบจนเพื่อนๆที่ยืนดูอยู่ริมสนามถึงกับหลุดยิ้มร้ายๆออกมา แต่การกระทำนั้นกับสร้างความหงุดหงิดให้กับคู่แข่งเป็นอย่างมาก

 

หึ ถึงเวลาดูของจริงแล้วไอ้หนู “ ร่างสูงพูดอย่างอารมณ์ดี

 

          ตลอดสองรอบที่แข่งมามาฆีย์เป็นผู้ตามมาโดยตลอด แต่พอเข้าถึงรอบที่สามจาร์กัวคันหรูที่มีผู้ขับที่หน้าตาหล่อเหลาป่านเทพบุตรพุ่งทะย้านออกไปอย่างรวดเร็วและมันก็เร็วพอที่แจะแซงคู่แข่งได้อย่างง่ายดาย มาฆีย์มองกระจกหลังอย่างสะใจพร้อมหักพวงมาลัยเข้าโค้งไปด้วย

 

พลัก!!!!!

 

          เสียงของการกระแทกที่ดังขึ้นด้านหลังรถทำให้คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย แต่ก็ยังนิ่งอยู่ก่อน เมื่อถึงโค้งสุดท้ายร่างสูงก็หักเข้าโค้งอย่างแรงอีกรอบ

 

พลัก!!!!!

          และเสียงเดิมๆก็ยังคงอยู่มันจึงทำให้ร่างสูงยกยิ้มร้ายกาจขึ้นมาทันใด มาฆีย์เหยีบคันเร่งนำพาตัวเองเข้าสู่เส้นชัยอย่างสวยงามโดยทิ้งห่างคู่แข่งมากพอตัว

 

เจ๋งมากมึง วันนี้ไปฉะ หะ เห้ย ทำไรวะฆีย์ “

 

          ร่างสูงไม่สนใจคำทักท้วงของเพื่อนหลงจากที่เปิดประตูลงจากรถได้ก็ก้าวขายาวๆเดินตรงไปยังกระโปร่งท้ายรถทันที และไม่รอช้าที่จะเปิดมันออกเพราะเขาแน่ใจแล้วว่ามีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในรถของเขา!!!

 

ปึง!!

 

หะ เห้ย!!! “

 

          ทันทีที่ร่างสูงเปิดกระโปร่างท้ายรถขึ้น คนที่หลบซ้อนตัวอยู่ในนั้นก็อุทานออกมาอย่างตกใจ โดยที่เจ้าของรถร่างสูงยืนจ้องมองร่างบางหน้าตามอมแมมที่นอนขดตัวอยู่ท้ายรถเขาอย่างสงสัย

 

มึงเป็นใคร “ เสียงเข้มเอ่ยตาม พร้อมนัยตาสีรัตติกาลที่จ้องมองร่างบางอย่างกดดัน

 

อะ เอ่อ คือ ผะ ผม คือ “ ร่างบางเริ่มรนรานทำอะไรไม่ถูกเมื่อโดนกดดันจากสายตาของร่างสูงที่จ้องมองมายังตนอย่างต้องการคำตอบ

 

กูถามว่าเป็นเป็นใคร!!!” เมื่อไม่ได้คำตอบที่ต้องการร่างสูงก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นมาอีกรอบ พลางจ้องเขม่นไปยังร่างบาง

ผะ ผม คุณช่วยผมด้วย ช่วยผมด้วย!!! “ ร่างบางที่กำลังจะเอ่ยปากตอบตะเกียดตะกายออกมาจากท้ายรถแล้ววิ่งไปหลบหลังร่างสูงอย่างหวาดกลัวเมื่อเห็นว่าพี่ชายของเขาและกลุ่มเพื่อนกำลังเดินตรงมาทางนี้

 

เห้ย!!อะไรของมึงวะ!! “มาฆีย์ที่หงุดหงิดเป็นทุนเดิมอยู่แล้วยิ่งอารมณ์เสียขึ้นไปอีกเมื่อร่างบางวิ่งมาหลบหลังตนแถมจับเกาะแขนร่างสูงไว้แน่น

 

ช่วยผมด้วยเถอะนะ ช่วยผมด้วย “ น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและแววตาตื่นๆนั้นก็ทำให้ร่างสูงต้องมองไปตามทางที่สายตาคู่นั้นของร่างบางกำลังโฟกัสอยู่

 

          พอเห็นสิ่งที่ทำในร่างบางของผู้ชายตรงหน้านี้หวาดกลัวแล้วร่างสูงก็ได้แต่ยิ้มเยาะกับโชคชะตาที่ชอบกลั่นแกล้งคนที่กำลังจนมุมแบบนี้ และมันก็ทำให้ร่างสู.ได้รู้ว่าไม่ใช่แค่เขาหรอกที่โดยโชคชะตากลั่นแกล้ง

 

รู้สึกว่าจะไม่ใช่เรื่องของกู “ มาฆีย์พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆพร้อมกับแกะมือที่เกาะแขนตัวเองอยู่ออกไปอย่างไม่ใยดีก่อนจะทำท่าว่าจะเดินออกไปจากตรงหนั้น

 

มะ ไม่ ช่วยผมด้วย ขอร้องล่ะ ช่วยผมทีนะ ฮะ ฮึก “ ความหวาดกลัวที่เกาะกุมอยู่ในใจทำให้ร่างบางของปุ่นผวาตามร่างสูงที่กำลังจะเดินหนีไป มือบางรั้งแขนแกร่งไว้อีกครั้ง ปุ้นรู้สึกได้ว่าถ้าผู้ชายคนนี้ยอมช่วยตน ปุ้นจะรอดจากคืนนี้ไปได้แน่

 

กูกับมึงรู้จักกันเหรอ ทำไมกูต้องช่วยมึง “ ร่างสูงพูดออกมาอย่างไม่ใยดี และไม่หันกับมามองปุ้นเลยสักนิด

 

ขอร้องเถอะนะครับ ช่วยผมที ฮะ ฮึก ไม่งั้นพี่ฝุ่นต้องขายผมให้เพื่อนเขาแน่ “ ร่างบางอ้อนวอนเจือเสียงสะอื้น มันเป็นความจริงที่ว่าพี่ชายของเขานั้นต้องการจะขายเข้าเพื่อแลกกับเงิน

 

โทษทีนะ พอดีกูไม่ใจดีขนาดนั้น ปล่อย!!” มาฆีย์พูดพลางสะบัดแขนเพื่อจะให้หลุดจากการเกาะกุมของร่างบาง แต่ปุ้นก็ยังไม่ยอมปล่อยเพราะตอนนี้พวกพี่ชายกับกลุ่มเพื่อนใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว

 

ฮะ ฮึก ฮึก ผะ ผมสัญญา ถ้าคุณช่วย ผมจะ จะ “ ร่างบางพูดไปสะอื้นไป ตอนนี้ปุ้นยอมรับว่าเขากลัวมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

 

          เสียงสะอื้นของร่างบางทำให้คนอื่นๆบริเวณนั้นได้แต่ยืนมองด้วยความสงสาร แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เนื่องจากคนที่ร่างบางอยากให้ช่วยนั้นคือมาฆีย์ ไม่ใช่พวกเขา

 

จะอะไรละ “ ร่างสู.หันมามองคที่เกาะแขนตนอยู่แล้วเอ่ยถามอย่างอยากรู้

 

ผะ ผมจะยอมคุณทุกอย่าง คะ แค่ช่วยผม “ ปุ้นพูดออกไปในที่สุด

 

หึ น่าสนใจ.....” ร่างบางกำลังจะเผยยิ้มออกมาแต่แล้วก็ต้องหุบลงเมื่อร่างสูงพูดต่อ

 

...แต่กูไม่สนใจวะ “ มาฆีย์สบัดมือจนหลุดแล้วเดินต่อเข้าไปยังห้องพักนักแข่งเป็นเวลาเดียวที่กลุ่มพี่ชายของปุ้นเดินมาถึงพอดีแล้วดึงร่างของปุ้นออกไป แต่แล้วขายาวๆที่กำลังก้าวเดินก็ต้องชะงักเมื่อเสียงสะอื้นร้องไห้ด้วยความหวาดกลัวของคนที่เขาพึ่งปฏิเสษไปดังขึ้นมาซะก่อน

 

ฮะ ฮึก ฮือออ ไม่นะ!!! ชะ ช่วยผมด้วย!!!! ฮือออ!!”

 

          ร่างบางของปุ้นดิ้นรนเอาตัวรอดออกจากแขนแกร่งของพี่ชายที่กำลังล็อคตัวร่างบางอยู่ ตอนนี้ปุ้นยอมทำทุกอย่างแล้วขอแค่รอดออกไปจากนาทีนรกนี้ อะไรก็ยอมทั้งนั้น

 

มึงหลุดแหกปากสักทีไอ้ปุ้น!!! กูเสียเวลากับมึงมามากแล้วนะ อยู่นิ่งๆไม่งั้นมึงเจ็บตัวแน่!!!”

 

ปล่อยผม!!! ฮึก ปล่อยยย!!” ร่างบางดิ้นรนหาทางรอดให้ตัวเอง เป็นภาพที่น่าสงสารยิ่งนักสำหรับคนที่กำลังมองดูอยู่

 

กูบอกให้มึงเงียบ!! อยากลองดีใช่มั้ยห้ะ!!!”

 

เพียะ!!!

 

          ฝ่ามือหนักๆของผู้เป็นพี่ตบลงที่ใบหน้าที่นองไปด้วยน้ำตาของปั้นอย่างแรงจนร่างบางเลือดกลบปาก และวินาทีนั้นมันทำให้มาฆีย์ตัดสิ้นใจอะไรบางอย่าง อย่างช่วยไม่ได้

 

หยุด!” เสียงเข้มเอ่ยออกมาเมื่อเห็นว่าร่างบางกำลังจะโดนตบอีกรอบ ก่อนจะเดินเข้าไปหากลุ่มคนที่ยืนจับล็อคตัวร่างบางไว้

 

มึงมีปัญหาอะไรวะ “ ฝุ่นพี่ชายของปั้นถามขึ้น

 

กูขอซื้อตัวน้องมึง “ มาฆียพูดตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่ทำให้แววตาที่หิวกระหายเงินของพี่ชายปุ้นวาววับขึ้นมาอย่างน่าสมเพชในสายตามาฆีย์

 

ห้าแสน สำหรับค่าตัวน้องชายกู “และฝุ่นก็ไม่รอช้าที่จะต่อรองราคาทันที

 

ได้ เดี๋ยวกูให้เด็กเอาไปให้ “ ใบหน้าของร่างสูงยังคงเรียบนิ่งและไม่สื่ออารมณ์ใดๆเหมือนน้ำเสียง

 

กูจะแน่ใจได้ไงว่ามึงจะไม่ตุกติก “ พี่ชายของปุ้นถามอย่างไว้เชิง

 

กูชื่อ มาฆีย์ “

 

     เพียงแค่ชื่อนั้นหลุดออกมาทำให้ฝุ่นถึงกับกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆเพราะทุกคนต่างรู้ดีว่า ผู้ชายที่ชื่อมาฆีย์นั้นโหดร้ายเพียงใด และเป็นผู้ชายที่ไม่น่าต่อกรด้วยที่สุดแล้ว

 

อะ เออ อย่าตุกติกนะมึง เฮ้ย ปล่อยไอ้ปุ้นได้แล้ว” ประโยคแรกฝุ่นพูดกับมาฆีย์แต่ประโยคต่อมาหันไปพูดกับคนของตัวเองก่อนจะถอยออกไปยังถิ่นเดิมของตัวเอง

 

          มาฆีย์ยืนมองร่างบางที่นั่งคลุกดินคลุกฝุ่นอยู่ตรงหน้าด้วยแววตาเฉยชา ที่เขาตัดสินใจช่วเพียงเพราะว่า คนตรงหน้าเขานี้มีช่วยหนึ่งที่เหมือนซอลคนสำคัญของเขาเท่านั้นเอง....

 

ลุกขึ้นแล้วตามกูไปที่รถ “ ร่างสูงบอกเสียงนิ่งก่อนจะเดินนำร่างบางออกไปยังปอร์เช่ 911 สุดหรูของตัวเอง โดยไม่หันมามองร่างบางอีก

          ปุ้นเองเมื่อทำอะไรไม่ได้จึงได้แต่พยุงตัวขึ้นแล้วเดินตามมาฆีย์ไปอย่างช้าๆเพราะมีอาการเจ็บที่ขาจากการดิ้นรนเมื่อครู่ ปุ้นคิดว่าอย่างน้อยการที่ตัวเองได้ไปอยู่กับคนที่ช่วยตัวเองไว้มันคงจะดีกว่าถูกนำไปขายในกับคนใจชั่ว เพราะจากที่ปุ้นดูแล้วมาฆีย์น่าจะเป็นคนดีอยู่ไม่น้อยไม่งั้นเขาคงไม่ช่วยปุ้นหรอก

          โดยที่ปุ้นไม่รู้เลยว่า ตัวเองกำลังจะเดินเข้าสู่แทนประหารของซาตานตัวร้าย.....

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา