พ่ายรัก

-

เขียนโดย กวางตุ้ง

วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 19.59 น.

  9 ตอน
  1 วิจารณ์
  12.37K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556 22.44 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) พ่ายรัก7

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
      
            “ไม่จริงเธอบอกแค่ชื่อฬีรนันท์ ไม่ได้บอกนามสกุลรัตนเกียรติ ออกไปเลย คุณอย่ามา..”แล้วเธอก็รู้ว่าพลาด ศรัณย์หลอกให้เธอเผยออกมาจนได้ ผู้ชายคนนี้!!!
                กาแฟอึกสุดท้ายศรัณย์จัดการป้อนคืนแม่มดสาวจอมพยศ ที่เจอในคืนนั้น เขาไม่ได้คิดป้อนแบบเธอที่พอหมดก็ถอนปากออก แต่เขาแค่ให้เธอชิมกาแฟฝีมือเลขาตัวเอง แล้วเขาก็ชิมรสชาติกาแฟจากเรียวลิ้นและริมฝีปากเธอ เขาค่อยๆไล้เรียวลิ้นไปรอบๆโพรงปากนุ่ม แม้ว่าเธอจะพยายามทุบเขาเตะเขา เขาก็จัดการให้เธอเข้ามาอยู่ในตำแหน่งที่เขาต้องการ พลิกให้เธออยู่ที่ขอบโต๊ะ แล้วเขาใช้ตัวเองตรึงขาของเธอปิดกั้นการเตะ ใช้แขนตัวเองล็อคตัวเธอให้แนบกับเขาจนแขนเธอขยับไม่ได้ มืออีกข้างก็ตรึงท้ายทอยไว้ ปิดกั้นการทำร้ายร่างกายในทุกๆด้าน ศรัณย์ไล้ลิ้นของเขาเข้าไปพัวพันกับลิ้นของฬีรนันท์ ซึ่งจูบตอบกลับมาอย่างกล้าๆกลัวๆไล่ชิมกาแฟไปทั่วโพรงปากจนหมดสิ้นรสชาติขมๆของกาแฟดำ เหลือเพียงความหวานล้ำจากริมฝีปากของเธอโดยเฉพาะ เขาซอกซอนสำรวจตรวจตราไรฟัน แนวกราม จนมาดูดดึงที่ลิ้นอีกครั้ง จูบของเขามันทวีความค้องการ เร่าร้อน รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อรู้สึกว่าเธอกำลังจะขาดอากาศหายใจ เขาจึงละริมฝีปากออกมาไล้คราบกาแฟที่ยังเหลือที่มุมปาก ก่อนจะลามเลียมาที่ซอกคอ อดไม่ได้ที่จะฝากรอยไว้นิดๆให้ดูต่างหน้า เขาละมือจากท้ายทอยมาไล้ที่ด้านหน้าเธอ อ่าส์!ที่เขาเผลอมองซินะว่าของจริงหรือเสริมเติมแต่ง เดี๋ยวเขาจะพิสูจน์เอง กระดุมเสื้อเชิ้ตไม่กี่เม็ด แค่มือเดียวเขาก็จัดการมันเรียบร้อย ศรัณย์เห็นแล้วถึงกับกลืนน้ำลายแทบไม่ลง เนินที่โผล่พ้นออกมาจากขอบชั้นในที่ช่างเล็กจนน่าอึดอัด เขาจึงอาสาปลดออกให้แทน เผื่อมันจะสบายขึ้น เมื่อตะขอดีดผึง ออกจากกัน ความงามของสองเต้าก็ชูชัน ออกมาท้าทายสายตา เขาจึงผวาปากงับที่ยอดนั้นทันที ส่วนอีกข้างก็ไม่น้อยหน้า มือข้างที่ปลดตะขอก็ลูบไล้บีบคลึง จนยอดแข็งเป็นไต สู้มือเขา ซึ่งมือเขาก็คงไม่คิดยอมแพ้เช่นกัน ยอดผลเชอรี่หวานๆเหมือนมันอยู่ในปากเขาทั้งไร่ ให้รสชาติหวานซ่านใจ ดูดกินเท่าไรก็รู้สึกไม่พอซะจริง
                “พอแล้ว พอ หยุดได้แล้ว ขอร้อง ฬีขอเถอะ หยุดซักที ชลธีร์ ”  สิ่งที่ทำให้ศรัณย์หยุดไม่ใช่เสียงครวญครางหรือเสียงขอร้องของเธอ แต่เป็นชื่อชลธีร์ต่างหาก มันเป็นใคร สีหน้าเหมือนจะตาย ไม่ได้มีความสุขเลยสักนิดของเธอ มันเกิดอะไรขึ้น
                “ฬี หนูฬี หนูฬี ไม่มีอะไรแล้ว ไม่มีอะไรเกิดขึ้น หนูฬี”ศรัณย์เขย่าตัวเธอ ที่ตอนนี้น้ำตาไหลซึมออกมาอย่างน่าสงสาร พลางคิด เธอเป็นอะไร มีอะไรเกิดขึ้นจนกลายเป็นปมในใจที่ไม่มีใครรู้หรือเปล่า จากการกอดจูบลูบไล้เมื่อกี้ กลายเป็นกอดหลวมๆ จูบแผ่วๆอย่างปลอบโยน จนเธอเริ่มรู้สึกตัว
                “ปะ...ปล่อย ปล่อยได้แล้ว ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว”ฬีรนันท์พอรู้สึกตัวก็ขยับออกห่าง รีบหันหลังติดตะขอใส่กระดุมให้เรียบร้อยทันที
                “เชิญคุณศรัณย์กลับไปได้แล้วค่ะ หวังว่าเราจะไม่เจอกันอีก”เมื่อจัดการตัวเองเรียบร้อย ฬีรนันท์ก็ไล่เขาทันที แล้วรีบเดินหนีไปขังตัวเองในห้องน้ำภายในห้องทำงาน
                “ไม่หรอกหนูฬี เราได้เจอกันอีกแน่”ศรัณย์เข่นเขี้ยว อยู่หน้าประตูห้องน้ำ ก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องทำงานของเธอ ไม่ลืมที่จะคว้ากล่องขนมไปด้วย
                เมื่อเสียงประตูปิดลง ฬีรนันท์จึงก้าวออกมาจากห้องน้ำ ก่อนทิ้งตัวลงเก้าอี้ทำงานอย่างหมดแรง แผลที่เธอปล่อยไว้ไม่ยอมรักษาในวันนั้นเพราะเชื่อว่าวันเวลาจะเยียวยาให้หายเอง ในวันนี้โดนสะกิดออกมาจนเลือดไหลซึม เธอรู้แล้วว่าเวลาไม่ได้ช่วยรักษาแต่อย่างใด ซ้ำร้ายยังทำให้กลายเป็นแผลที่ลึกและรุนแรงจนยาก ว่าแผลนี้จะรักษาให้หายได้ไหม เธอจะสามารถหาหมอที่มีความสามารถมากพอที่จะรักษาแผลนี้หรือไม่ หรือเธอจะปล่อยมันไว้แบบนี้จนสิ้นลมหายใจ
                “บ้าจริงๆ เพราะนายคนเดียว มาทำให้ฉันนึกเรื่องแบบนั้นออกได้ยังไง ทั้งๆที่ฉันคิดว่าลืมมันไปได้แล้วแท้ๆ” ฬีรนันท์ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างคับแค้นใจ เหตุการณ์สุดท้ายก่อนที่เธอกับเขาจะจากกัน และกลายเป็นจากกันอย่างถาวร
                ย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีก่อน....
                ฬีรนันท์ยังคงมีความสัมพันธ์กับชลธีร์ อีกหลายครั้ง แม้ว่าใจของฬีรนันท์จะปฏิเสธ แต่ร่างกายกลับไม่เคยเชื่อฟัง เธอจึงเกลียดร่างกายที่ยินยอมของเธอค่อนข้างมาก อีกทั้งด้วยความเป็นพี่สาวคนโต เธอรู้สึกว่าเธอแบกรับความหวังของพ่อแม่ จึงมิอาจทำใจมีความสัมพันธ์กับเขาแม้ว่าจะรัก และเธอไม่อยากแต่งงานขณะที่น้องๆทั้ง2ยังเรียนไม่จบ ทั้งๆที่ชลธีร์ก็ขอเธอแต่งงานมาโดยตลอด จะโทษใครได้ในเมื่อทุกอย่างเธอทำตัวเอง ทั้งเรื่องที่เสียตัว เสียโอกาส หรือเสียใจก็ตาม วันสุดท้ายที่เจอกันจิตใจของเธอขัดขืนเขาอย่างรุนแรง ภาพของพ่อแม่ลอยเข้ามาเต็มหัว คำสอนสั่งการรักนวลสงวนตัวแว่วเข้าหู จิตใจที่กดดันของเธอบวกกับการที่เธอคิดมากจนไม่ได้นอน ทำให้เธอสิ้นสติทันที และเช้ามาก็พบว่าเขากลับเชียงรายซะแล้ว น้ำตาไหลออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ไหลเพราะไม่รู้จะจัดการกับตัวเองและจัดการกับใจอย่างไร แผนการวันหยุดที่วางไว้จึงล้มเหลว นั่นคงเป็นที่มา เพราะต่อมาอีกไม่นานเสียงโทรศัพท์ที่โทรมาหาผิดคนก็ดังขึ้นนั่นเอง จะด้วยสายโทรศัพท์รวนหรือฟ้าไม่อยากให้เธอโง่ เธอก็รู้ว่าเขาไม่ได้คบเธอคนเดียว เมื่อไม่สามารถเลือกได้ ก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่ต้องคบกัน เธอเกือบต้องไปพบจิตแพทย์เสียแล้ว ถ้าไม่มามุมานะทำงานอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง และเกิดผลงานจนเป็นที่ถูกใจของผู้บริหารระดับสูงหลายคน
                จิตใจของฬีรนันท์ล่องลอยไปไกล เธอกลัวตัวเอง เกลียดตัวเอง หลายๆครั้งแทบอยากไปพบจิตแพทย์อยู่แล้ว เห้อ สิ่งเดียวที่คงยังยึดเธอไว้ได้คงเป็นเรื่องงาน กับ ครอบครัวซินะ นี่จึงเป็นเหตุผลที่เธอค่อนข้างเฝ้ามองเรื่องความรักของกวินและน้องสาวเธอ ไม่อยากให้น้องพลาดแบบเธอ เธอรู้ว่าเรื่องบางเรื่องมันห้ามยาก แต่ขอทำให้ดีที่สุด เพื่ออย่างน้อยเกิดอะไรขึ้นก็ไม่เสียใจเพราะเธอถือว่าได้ทำดีที่สุดแล้ว
                “พอๆๆๆ ทำงานได้แล้ว เรื่องอดีตให้มันจบไป เรื่องปัจจุบันก็จะต้องไม่มีทางเกิดขึ้นอีก อนาคต ช่างมันก่อนละกัน เอาวันนี้ให้รอดก่อนดีกว่า” ฬีรนันท์ ปลุกปลอบใจตัวเอง พร้อมหยิบปากกาและเปิดแฟ้มเอกสาร เธออ่านไปได้สักพักก็รู้สึกหิว เพราะเมื่อกลางวันเธอทานไปได้นิดเดียว กำลังคิดว่าจะให้พี่อัญชุลีไปชงโอวัลตินมาให้ดี หรือว่า จะไปยืดเส้นยืดสายเดินไปเองดี ก็มีเสียงเคาะประตูดังซะก่อน
                “คุณฬีคะ ขออนุญาตนะคะ” อัญชุลี เดินเข้ามาพร้อมเค้กและชาร้อนๆในมือ
                “พี่ชุรู้ใจจัง รู้ได้ไงคะว่าฬีกำลังหิวเลย เค้กน่ากินดีจัง พี่ชุซื้อมาเหรอคะ” ฬีรนันท์ยิ้มกว้างเมื่อเห็นหน้าอัญชุลีพร้อมเค้กและชาในมือของอัญชุลี
                “ค่ะ กะเวลาแม่นจริงๆ ยังไงเดี๋ยวคุณฬีพักก่อนนะคะ  กินรองท้องไปก่อน อีกไม่กี่ชั่วโมงก็เลิกงานแล้วนะคะ” อัญชุลี นึกไปถึงเจ้าของเค้กตัวจริง
                “พี่ชุ พูดเหมือนรู้ว่าฬีต้องหิวเลยนะคะ แล้วพี่ชุไม่ทานด้วยกันเหรอคะ ชิ้นออกจะใหญ่ พี่ชุทานด้วยกันซิคะ” ฬีรันันท์เลิกคิ้ว สงสัยตะหงิดๆ แต่ความหิวมันก็บดบังทุกสิ่งอย่าง
                “คุณฬีทานเถอะค่ะ ของพี่อยู่ด้านนอกโน้นแล้ว พี่ว่าจะไปทานที่ห้องพักพนักงาน คุณฬีตามสบายเถอะค่ะ” อัญชุลี บอกก่อนจะเดินออกมาจากห้อง ขืนอยู่นานเดี๋ยวก็หลุดจนได้
                       ‘ผมฝากขนมไว้ให้ฬีด้วยนะครับคุณชุ ของคุณกล่องนึง อีกสักพักเธอคงหิว ค่อยเอาไปให้นะ                      ครับ รบกวนอย่าบอกนะว่าผมฝากมา ให้อ้างเป็นของคุณชุได้เลย ขอบคุณมากครับ ออ นี่นามบัตร                    ผม ถ้ามีอะไรที่เห็นท่าไม่ดีเกี่ยวกับฬี รบกวนคุณชุโทรบอกผมนิดนึงนะครับ’ เขาวางกล่องขนม                        พร้อมกับนามบัตร แล้วกำลังจะเดินจากไป แต่เขาชะงัก เพราะคำถามของเธอ
                    ‘ดิฉันรู้จักคุณ คุณศรัณย์  เกรียงไกรเดช เจ้าของเครืออสังหาริมทรัพย์ST แล้วยังจะโรงแรม                             รีสอร์ท นิตยสารชื่อดัง ไหนจะรถยนต์กับโลจิสติกส์อีก คุณต้องการอะไรจากคุณฬี กันแน่ ดิฉัน                       ขอร้องคุณฬีเป็นคนดี อย่าทำอะไรเธอเลย’
                    ‘แล้วคุณคิดว่าผมจะทำอะไร เจ้านายของคุณล่ะ คุณเลขา’เขายิ้มที่มุมปากก่อนเดินจากไป
                อัญชุลีไม่รู้หรอกว่าทั้ง2คนไปรู้จักกันได้อย่างไร แต่ก็ได้แต่หวังว่าศรัณย์คงไม่ใจร้ายนัก และฟ้าก็อย่าได้กลั่นแกล้งหนูฬีเลย จากสังเกตเมื่อกี้นี่ คราบน้ำตาที่หางตาของฬีรนันท์ ที่เธอเห็น มันทำให้เธอไม่อยากจะคิดต่อเอาซะเลย
                

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา