พ่ายรัก

-

เขียนโดย กวางตุ้ง

วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 19.59 น.

  9 ตอน
  1 วิจารณ์
  12.60K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556 22.44 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) พ่ายรัก6

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

“คุณฬีคะ มีคนมาขอพบค่ะ”อัญชุลี เลขาหน้าห้องส่งเสียงมาทางอินเตอร์คอม

“ใครค่ะพี่ชุ” ฬีรนันท์ขมวดคิ้ว เธอนัดใครไว้หรือเปล่า ในตารางนัดวันนี้เธอไม่มีนัดนี่นา

“เขาบอกว่าชื่อกวินค่ะ”

“งั้นเชิญเขาเข้ามาได้เลยค่ะ” มาเวลาดีจริงๆเกือบเที่ยง แล้ววันนี้ฉันจะได้ไปกินข้าวไหมเนี่ย

“เดี๋ยวพี่ชุไปพักเลยก็ได้นะคะ คุณกวินเดี๋ยวฬีดูแลเอง”เมื่อเลขาเธอเปิดประตูให้กวินเข้ามา ฬีรนันท์จึงรีบบอกก่อนไม่เช่นนั้น พี่ชุจะไม่ได้ออกไปทานข้าวแน่ๆ

“ นั่งก่อนสิ เข้าเรื่องเลยดีกว่า มีเรื่องอะไรเกี่ยวกับรักษณา น้องสาวฉัน” เมื่อกวินเข้ามาในห้อง ฬีรนันท์ก็เปิดประเด็นเข้าเรื่องทันที

“เอ่อ ไหนๆมันก็จะเที่ยงแล้วพี่ฬี ไปนั่งคุยกันที่ร้านเถอะครับ จะได้ทานข้าวไปด้วย” กวินเหมือนจะหมดความมั่นใจทุกครั้งที่พูดคุยกับฬีรนันท์ โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องรักษณา มีความรู้สึกเหมือนเข้าไปขโมยลูกเสือที่ฬีรนันท์ดูแลอยู่ยังไงยังงั้น

“นายนี่มันโย้กโย้เหลือเกินนะ ไม่เข้าเรื่องซะที มันคอขาดบาดตายหรือไง ถึงพูดไม่ได้เลยเนี่ย”

“เปล่าครับพี่ แต่มันใกล้เที่ยงแล้ว ถ้าเริ่มคุยเดี๋ยวมันก็จะยาว ทั้งพี่ทั้งผมต้องมาทำงานต่อช่วงบ่าย ผมคิดว่าเอาช่วงเวลาพักเที่ยงก็ดีนะครับ”

“งั้นนั่งรอไปก่อน อีก5นาทีค่อยไป”ฬีรนันท์ไม่คิดจะออกไปตอนนี้ เที่ยงพอดี พนักงานต่างพากันออกไปหาอะไรทาน เธอไม่อยากเป็นหัวข้อสนทนาของมื้อกลางวันมื้อนี้

“เชิญค่ะ” ด้วยเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้น คิดว่าคงเป็นพี่อัญชุลี เลขาเธอนั่นแหละ

“เห็นเลขายังอยู่หน้าห้อง เลยคิดว่าคนในห้องยังอยู่ เที่ยงแล้วไปหาอะไรทานได้แล้วครับคุณฬี” เสกสรร ผู้เป็นหลานชายของประธานบริษัท ถือวิสาสะเปิดเข้ามาเองเลย

“สวัสดีค่ะ คุณเสกสรร ต้องขอประทานโทษจริงๆนะคะ พอดีเที่ยงนี้ดิฉันมีนัดแล้วสิคะ” ช่างโชคดีจริงๆที่นายกวินมาถูกจังหวะมาก

“เหรอครับ ผมอุตส่าห์ตรงมาหาคุณฬีก่อนเลยนะเนี่ย น่าเสียดายจัง ไว้ครั้งหน้าผมคงต้องนัดล่วงหน้าก่อนแล้วละสิครับ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” เสกสรร ผิดหวังจริงๆ เขาไม่คิดว่าฬีรนันท์จะปฏิเสธเขา แต่วันนี้คงต้องถอยก่อน

“ค่ะคุณเสกสรร”ฬีรนันท์ยิ้มน้อยๆส่งให้ เมื่อประตูปิดลงลมหายใจเฮือกใหญ่ก็ถูกระบายออก

“ผมว่าไปกันเถอะครับ ป่านนี้พนักงานเข้าคงลงกันไปหมดแล้วล่ะ” กวินลุกขึ้นยืนจากที่นั่ง เมื่อกี้เขาเห็นแววตาหมอนั่นมันแทบจะฆ่าเขาเลยนะนั่น

“อืม ขอร้านที่ไม่ไกลนะ ฉันไม่อยากเข้างานสาย”ฬีรนันท์ปิดคอม แล้วคว้ากระเป๋าก่อนเดินนำออกไป

 

เมื่อมาถึงที่ร้านอาหาร ซึ่งห่างมาจากออฟฟิศไม่เท่าไร อาจจะลำบากเพราะต้องไปกลับรถสักหน่อย แต่ตอนกลับมันสะดวกดี

“จองไว้ล่วงหน้าเลยเหรอ แม่นถึงขนาดว่าฉันจะมาแน่ๆว่างั้น” เมื่อกวินเดินนำฬีรนันท์มาที่โต๊ะก็พบว่ามีอาหารที่ถูกสั่งไว้เรียบร้อย

“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ พอดีญาติผมเขามาด้วยนะครับ ก็คงเป็นเขาที่สั่งไว้ก่อน”

“ออ อืม แล้วไง” อะไรนักหนา อย่าบอกนะว่าจะคุยเรื่องหมั้นจริงๆ ถึงขนาดพาญาติมมาด้วยเนี่ย

“พี่ฬีนั่งก่อนดีกว่า” ฬีรนันท์นั่งลงตามที่กวินบอก

“เอ้า พี่รัณมาพอดี พี่รัณครับ นี่พี่ฬีพี่สาวรักที่เล่าให้ฟังครับ”

“ศรัณย์ เกรียงไกรเดช ยินดีที่ได้รู้จักครับ” ศรัณย์ยื่นมือทักทายตามแบบสากล

“สวัสดีค่ะ ฬีรนันท์ รัตนเกียรติ ค่ะ” แต่เธอกลับยกมือไหว้แบบไทยแท้ เธอไม่ได้คิดอะไร แต่เป็นคนไทยด้วยกัน ทำไมต้องจับมือ ถ้าติดต่อต่างชาติก็ว่าไปอย่าง แล้วชื่อ ฬีรนันท์ ก็ไปสะดุดหูเขาเข้าจนได้

“เอ่อ ขอโทษนะครับ ผมขอถามอะไรแปลกๆสักหน่อย คือเมื่อวันศุกร์คุณฬีได้ไปผับที่ไหนมาหรือเปล่าครับ”ศรัณย์ จับสังเกต เขาไม่แน่ใจว่าใช่ฬีรนันท์คนเดียวกันหรือเปล่า แล้วก็ได้เห็นตาสวยเบิกกว้างอยู่ชั่วแวบเดียว ถ้าไม่สังเกตอยู่ก่อนแล้วไม่มีทางเห็นแน่ๆ

“ก็ไม่นี่คะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”ฬีรนันท์กลบเกลื่อนทำเหมือนมันไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“อ๋อ ถ้าไม่ได้ไปไหน งั้นผมคงจำผิดคน สงสัยที่ผมเจอคงเป็นแม่มด หายตัวไปเร็วมาก”ศรัณย์ยิ้ม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“มีอะไรหรือเปล่าครับพี่รัณ พี่ฬี” กวิน อยากจะยกมือเกาหัวซะจริง ถ้ามันจะไม่ทำให้เสียบุคลิก

“ว่าแต่นายกลาง อุตส่าห์พามาทานข้าวนี่ มีเรื่องอะไรจะพูดได้หรือยัง” เมื่อศรัณย์ทำเหมือนไม่มีอะไร ก็ช่างมันเถอะ

“คืองี้นะ พี่ฬี คือผม....”

“อยากหมั้นกับรัก ใช่ไหม” เมื่อกวินไม่พูด เธอก็ต่อให้จบสะเอง

“เห้ย รู้ได้ไงนะพี่ รักบอกพี่เหรอ”กวิน ตกใจที่ฬีรนันท์รู้เรื่อง เขาไม่คิดว่ารักษณาจะบอกให้พ่สาวรู้เรื่องนี้ด้วยซ้ำ

“ใครจะบอกมันไม่สำคัญหรอก จริงไหมล่ะ”

“ครับ ผมอยากหมั้นกับรักษณาครับ ผมอยากขออนุญาตพี่ก่อน แล้วค่อยบอกกับคุณพ่อคุณแม่ให้ทราบครับ”

“ทำไมถึงอยากหมั้นล่ะ พี่ไม่รู้หรอกนะว่าการเที่ยวในคืนนั้นมันเกิดอะไรขึ้น แต่รู้ไว้นะคนเราถ้ารักกันไม่จำเป็นต้องมีอะไรมาผูกมัดก็ยังคงรักกัน เชื่อใจกัน แล้วไม่กลัวเหรอว่าถ้าหมั้นกันตอนนี้ถ้าเกิดไปกันไม่ได้ มันจะลำบากมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นกลางมีคนใหม่หรือรักมีคนใหม่ มันจะยิ่งลำบากถ้านายหมั้นไปแล้วนะ”

“ผมไม่มีทางมีคนใหม่แน่นอน ใจจริงผมอยากแต่งเลยด้วยซ้ำ” กวิน มั่นใจในตัวเอง หลายปีที่ผ่านมา เขาไม่มองใครไม่สนใจใคร สวยกว่า เขาก็เจอมาเยอะ น่ารักกว่าก็มี แต่มันไม่ใช่รักษณา ต้องเป็นรักษณาคนเดียวเท่านั้น ใจเขาคิดแบบนี้ เพราะงั้น ถึงกลัวว่าถ้ารักษณาเจอคนที่ดีกว่าเขา แล้วจะเป็นยังไง เขาคงทำใจไม่ได้แน่นอน

“ก็ไม่ลองพิสูจน์ใจกันดูล่ะ ถ้านายมั่นใจในตัวเองขนาดนั้น ก็เหลือยัยรัก คิดว่ายัยรักเป็นยังไงละ ถึงได้รอนายเรียนโท อยู่คนละซีกโลกได้ขนาดนี้ เหลืออีกปีเดียว ทำไมถึงทนรอไม่ได้ล่ะ ในสายตานายรักเหลวไหลมากเลยเหรอ ก็ถ้าแค่นี้ยังไม่ไหว แยกกันตรงนี้ดีกว่าไหม ดีกว่ามาเสียเวลา ผู้ชายนะไม่เท่าไรหรอกนะ แต่ผู้หญิงนะถ้าเขาคิดว่าเจอคนที่ใช่ ต่อให้มีอีกคนดีมากมายแค่ไหนเข้ามาเพียบพร้อมมากแค่ไหน เขาก็ไม่สนใจหรอก อันนี้คือกรณีผู้หญิงที่ค่อนข้างดีนะ และฉันก็ค่อนข้างมั่นใจในน้องของฉัน” ฬีรนันท์จบประโยคที่พูดมาเหยียดยาว หรือแปลสั้นๆคือ ยังไม่อนุญาตให้หมั้นนั่นละ เธอยกน้ำขึ้นจิบ ก็พบกับสายตาที่ไม่ค่อยจะน่าเชื่อถูกส่งมาจากคนข้างๆนายกวิน

“ได้คำตอบแล้วใช่มะ” เธอมองดูเวลาที่ข้อมือ ใกล้จะได้เวลาเข้างานแล้วด้วย จริงๆถ้าเธอจะเข้าสายนิดหน่อยมันก็ไม่มีปัญหาหรอก เพียงแต่เธอไม่ชอบพฤติกรรมแบบนั้น

“สรุปสั้น คุณยังไม่ให้นายกลางหมั้นกับน้องคุณตอนนี้ แต่รอให้เรียนจบก่อนใช่ไหมครับคุณฬีรนันท์” ศรัณย์สรุปสั้นๆได้ใจความทวนให้เธอฟัง

“ฉันอยากให้น้องฉันโตกว่านี้ ตอนนี้แกยังเด็กมาก ยังเรียนไม่จบ งานยังไม่ได้ทำ ยังเลี้ยงตัวเองไม่ได้ ฉันไม่ต้องการให้น้องของฉันเป็นนกที่อยู่ในรังตลอดเวลา บินไม่เป็น เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นคนที่ลำบากที่สุดคือน้องของฉัน เพราะฉะนั้นฉันอยากให้น้องของฉันบินให้ได้ และบินให้แข็งก่อนที่จะลงหลักปักฐาน คุณคงพอเข้าใจนะคุณศรัณย์” ฬีรนันท์ หันไปสบตาจ้องมองสายตาท้าทายนั้นอย่างไม่เกรงกลัว

“ผมจะถามพี่ฬีอีกครั้ง ในวันที่รักเรียนจบ ในวันนี้มันอาจจะเร็วไปจริงๆก็ได้ แต่พี่คงไม่ห้ามใช่ไหมถ้านกตัวนั้นจะมีคนดูแลเพิ่มขึ้นอีกคน นอกจากพ่อแม่และพี่ๆของเขา”

“พ่อแม่และพี่ๆของนกตัวนั้นไม่ได้ห้ามถ้าจะมีคนดูแลเพิ่ม แต่ก็ต้องตามทางของมัน ไม่ใช่ดูแลในทางลัด นายกวิน รักษณาไม่ใช่ของเล่น อย่าแม้แต่จะคิด ไม่เช่นนั้น..”เธอหยุดคำพูดแค่นั้น แต่สายตาที่สื่อออกมา ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับรักษณา เขา ตายแน่นอน

‘ถูกใจ’  อยู่ๆคำนี้ก็ลอยเข้ามาในหัวของศรัณย์  สวย ดุ พยศ ถูกใจเขาจริง นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้ออกล่า ผู้หญิงคนนี้กระตุ้นสัญชาตการล่าของเขาจริงๆ อยากรู้ว่าบนเตียงเขาจะร้อนแรงแค่ไหนถ้ามีเธออยู่ด้วย

“แล้ว ไม่ทานข้าวกันแล้วเหรอไง มันจะบ่ายโมงแล้วนะ ทั้งนายทั้งคุณฬี ต้องไปทำงานต่อนี่” ศรัณย์ ขัดขึ้นมา เขารู้สึกไม่ชอบขึ้นมาเฉยๆที่เห็นกวินกับฬีรนันท์จ้องหน้ากันขนาดนั้น

“โห้ ทำเหมือนตัวเองไม่ต้องทำเลยเนอะ พี่รัณ ออ ลืมไปคุณเจ้าของ”

“ตลกแล้วแก เดี๋ยวเถอะ”ศรัณย์ตบเข้าให้ แล้วบทสนทนาก็ลื่นไหลไปเรื่อยๆ โดยมีศรัณย์และกวินเป็นผู้ผูกขาดซะส่วนใหญ่ น้อยนักที่ฬีรนันท์จะตอบ นอกจากคำถามที่เจาะจง ซึ่งเธอก็เลี่ยงไม่ค่อยอยากตอบ และเริ่มไม่ชอบสายตาของศรัณย์ มันเหมือนสายตารู้ดี เท่าทัน และเหนือเธอทุกอย่าง ไม่รู้ว่ารู้สึกระแวงไปเองหรือเปล่าที่เขามองริมฝีปากเธอเหมือนอยากกินแทนกับข้าวที่เขาตักเข้าปาก มันชวนให้เธอนึกถึงคืนที่เธอปฏิเสธว่าไม่ได้ไปไหน คืนที่เธอเล่นพิเรนทร์อย่างที่ไม่เคยทำ

“คิดมากไปเองมั้ง” ฬีรนันท์พึมพำออกมาเบาๆ

“ได้ๆเดี๋ยวผมรีบไป คุณรับหน้าไปก่อนนะ ไม่เกิน30นาที จะทำอะไรยังไงก็ได้ จนกว่าผมจะไปถึง” กวิน วางสายทันที

“ขอโทษนะครับพี่ฬี เดี๋ยวให้พี่รัณไปส่งนะครับ มีเรื่องที่โรงแรมนิดหน่อย ผมต้องเข้าไปดูก่อน” กวินเตรียมลุกไปทันที

“ฉันติดรถนายไปลงข้างหน้า ยังไงก็ทางผ่านอยู่แล้วนี่” ฬีรนันท์ จิบน้ำและคว้ากระเป๋าทันที แต่เมื่อต้องเดินผ่านศรัณย์ก็โดนเขาคว้าข้อมือไว้เช่นกัน

“เอ๊ะ...”สายตาเขียวปั๊ด ส่งมาให้

“นายไปเหอะ จัดการไม่ได้ก็โทรมา เดี๋ยวพี่ไปส่งให้ไม่ต้องห่วง”

“ฉันติดรถนายกลางไป ไม่เสียเวลามากมายหรอก แล้วมันก็ใกล้เวลาทำงานฉันแล้วด้วย”เธอพยายามสะบัดมือให้หลุด แต่ความที่มือเขาหนักหรือกำแรงไม่ทราบ ทำให้ยิ่งพยายามสะบัดแรงบีบก็ยิ่งมาก จนเขาปล่อยนั่นแหละ จึงเห็นรอยช้ำเป็นปื้นบนข้อมือขาวๆของเธอ

“คุณยังทานไม่อิ่ม จะรีบไปกับมันทำไม แล้วดูซิสะบัดจนช้ำขนาดนี้ ” ศรัณย์จุ๊ปากอย่างไม่พอใจ เขาไม่ชอบคนที่ขัดคำสั่ง เพราะจะเผลอทำร้ายอย่างไม่ตั้งใจ ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยมีใครขัดคำสั่งเขาหรอก ยิ่งผู้หญิงด้วยแล้ว ยิ่งไม่มีทาง รู้สึกยัยแม่มดนี่จะเป็นคนแรก

ฬีรนันท์ไม่ได้พูดว่าอะไรอีก นอนจากสายตาลุกวาวด้วยความโกรธที่แสดงออกมา เมื่อศรัณย์เห็นว่าเธอคงไม่กินแล้ว จึงเรียกเก็บเงินทันที แต่ก่อนที่จะออกจากร้านสายตาของเขาเห็นขนมเค้กน่ากิน เขาจึงสั่งให้พนักงานใส่กล่องให้เขา 2กล่อง ฬีรนันท์จึงเดินผ่านเขาไป เธอตั้งใจจะไปแท็กซี่เอง แต่ข้อศอกก็โดนคว้าไว้ซะก่อน เมื่อคิดเงินเรียบร้อยก็โดนดึงให้เดินไปด้วยกัน

“อ้าว รัณคะมาทานข้าวถึงนี่เลยหรอ คนล่าสุดเหรอคะคนนี้” สายตาที่มองเธอหัวจรดเท้าอย่างดูถูกเหยียดหยาม

“ฉันว่าคุณคงมาจากอากาศที่ร้อนเกินไป ฉันดับมันให้”ฬีรนันท์หยิบแก้วน้ำที่บริกรกำลังเดินผ่านราดน้ำเย็นเจี๊ยบลงบนหัวของผู้หญิงคนนั้น

“กรี๊ด..............”

“ขอบใจนะน้อง น้ำเปล่าแก้วเดียวคงไม่คิดเงินพี่หรอกเนอะ ปล่อย”ด้วยจังหวะที่เผลอตัวกับเสียงกรี๊ด เธอจึงหลุดจากการจับของเขา เธอรีบเดินลิ่วๆไปทันที ด้วยรองเท้าส้นสูงเจ้ากรรม ทำให้เธอวิ่งไปไม่ได้อย่างที่ใจอยากทำ จนสุดท้ายเขาก็มาทันล็อคตัวเธอ และพาเดินขึ้นรถทันที

“คุณนี่มันแสบจริงๆนะ” ศรัณย์แม้จะว่าอย่างนั้น แต่ก็หลุดหัวเราะออกมา เออเนอะผู้หญิงคนนี้มีหลากหลายอารมณ์ให้ไม่เบื่อจริงๆ

“จะบ้าเหรอคุณศรัณย์ ฉันราดน้ำแฟนคุณนะ คุณต้องโมโหฉัน แล้วไปดูแลแฟนคุณสิ ทิ้งเธอมาได้ยังไง” แผนที่คิดไว้ ผิดพลาดไปหมด บ้าจริง

“ผมรับปากนายกวินว่าจะไปส่งคุณ ต้องไปส่งสิ กี้เขาดูแลตัวเองได้ ไม่จำเป็นที่ผมต้องอยู่หรอก” ศรัณย์ ออกรถอย่างไม่สนใจ ขับมานิดเดียวก็ถึงหน้าบริษัท แต่เขาไม่ยอมให้เธอลง กับขับเข้าตึกหน้าตาเฉย

“นี่คุณ ฉันลงตรงนี้ได้ คุณจะขับไปไหน” แล้วเธอก็ได้คำตอบเมื่อเขามาจอดสำหรับจอดรถลูกค้าติดต่องาน

“เอ้า ลง ซิคุณ มันได้เวลางานแล้วนะ” เห็นเธอทำหน้างง เขาจึงคว้ากล่องขนมและเดินนำเธอไปก่อน

“เดี๋ยวๆแล้วคุณจะไปไหน” ฬีรนันท์รีบตามลงมาจากรถทันที

“ไปส่งคุณที่ห้องทำงานไง เร็วๆซิคุณ” ศรัณย์เร่งที่เธอเดินช้า

“ขอโทษครับ รอด้วยครับ” ศรัณย์รีบบอกเมื่อเห็นลิฟท์กำลังกดปิด แต่คนที่เดินตามเขามาก้มหน้าก้มตาสุดริด หมอนี่กำลังสร้างงานให้เธอ เวลานี่เป็นช่วงเวลาที่พนักงานกำลังทยอยเข้าทำงาน

“ฬีครับ ชั้นอะไรครับ” ลิฟท์ขยับขึ้นไปเรื่อยๆแต่คนข้างๆยังก้มหน้าก้มตา เขาเลยอยากแกล้งอีกสักหน่อย แล้วก็ได้สายตาอาฆาตมาเป็นของฝาก เธอเอื้อมมือไปกดชั้น25 ชั้นที่เธอทำงานอยู่

“วันนี้ผมมารับไม่ได้นะครับหนูฬี อย่างอนผมเลยนะครับ ผมติดประชุมจริงๆครับ”ศรัณย์แกล้งออดอ้อนฬีรนันท์ แม้จะทำเหมือนว่าพูดกันแค่2สองคน แต่ลิฟท์ตัวแค่นี้ ทุกคนก็ได้ยินอย่างชัดเจน ต่างอมยิ้มกับความน่ารัก มีบางคนที่รู้จักฬีรนันท์อยู่แล้ว แต่ถึงบางคนที่ไม่รู้ก็คงจะรู้จักกันหมดในวันนี้ละ

“ทำไมคุณพูดแบบนั้น ฉันไปบอกให้คุณมารับตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วมีสิทธิ์อะไรมาเรียกฉันว่าหนูฬี” ฬีรนันท์ต่อว่าทันทีเมื่ออยู่กันเพียง2คนในลิฟท์

“โห่คุณ ผมแค่แหย่คุณเล่นเอง ไม่เห็นต้องโมโหขนาดนั้นเลยนี่”

“แล้วคุณคิดว่าคนอื่นเขาจะคิดยังไง” เมื่อลิฟท์ถึงชั้น25 ทั้ง2ก็ก้าวออกมาจากลิฟท์พร้อมกัน

“คุณกลับไปได้แล้ว ฉันถึงห้องทำงานแล้ว หมดเรื่องของคุณแล้ว เชิญ” ฬีรนันท์ไล่ทันทีอย่างไม่ไว้หน้า

“ผมอุตส่าห์มาส่งคุณไม่คิดจะมีน้ำใจเลี้ยงกาแฟผมซักแก้วเหรอไง” ศรัณย์รู้สึกสนุกที่ได้เห็นหน้าของเธอที่เปลี่ยนสีพอๆกับสัญญาณไฟ เขารู้เธอโกรธจริง โมโหจริง แต่เขาเชื่อมือตัวเอง แค่นี้ปราบได้

“พี่ชุคะ ฬีขอกาแฟดำแก้วนึงค่ะ” เลขาเธอตกใจเมื่อเห็นผู้ชายอีกคนเดินตามเจ้านายสาวเข้าห้องทำงาน ก็ก่อนเที่ยงไม่ใช่คนนี้นี่นา

“ผมขอยาทาแก้ช้ำด้วยนะครับ พอจะหาได้ไหมครับ” ก่อนเดินเข้าห้องทำงาน ศรัณย์ก็ขอของที่ให้ความรู้สึกแปลกๆในความคิดของอัญชุลี

“ได้ค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะเอาไปให้นะคะ”

“ขออนุญาตค่ะ” อัญชุลี รีบวางถ้วยกาแฟกับหลอดยาลงตรงหน้าชายหนุ่มในฝันของสาวๆ ทำไมเธอจะไม่รู้จัก ศรัณย์ เกรียงไกรเดช เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจรถยนต์ ขนส่งทางทะเล ST หรือสายธาร ก็คือธุรกิจของครอบครัวที่มีศรัณย์เป็นผู้กุมบังเหียนใหญ่ ยังไม่รวมในธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท และ สื่อสิ่งพิมพ์ เพราะSTก็มีชื่ออยู่ในนั้น แต่แปลกใจ มารู้จักกับคุณฬีของเธอได้อย่างไร เพราะโพรไฟล์ในเรื่องรูปร่างหน้าตา ทรัพย์สมบัติดีเพียงใด จำนวนผู้หญิงของเขาก็มีมากเท่านั้น และยิ่งเขายังโสดไม่มีเป็นตัวเป็นตนทำให้ผู้หญิงที่หมายปรองแย่งชิงเขาก็ยิ่งมาก

“ดื่มซะ แล้วกลับไปได้แล้ว หวังว่าเราจะไม่เจอกันอีก”ฬีรนันท์ไล่ทันที เมื่อลับสายตาของเลขาเธอ

“คำก็ไล่ สองคำก็ไล่นะหนูฬี”เขาจิบกาแฟเขาไปอึกหนึ่ง จะด้วยความบังเอิญหรืออะไรก็ตาม กาแฟดำเป็นกาแฟที่เขามันดื่มเป็นประจำ ชอบมันที่สุดแล้ว เขาคว้าทั้งแก้วกาแฟและหลอดยาเดินเข้าไปหาฬีรนันท์ทันที

“จะทำอะไร”ฬีรนันท์ลุกออกจากเก้าอี้ทันที เมื่อเห็นเขาเดินเข้ามาใกล้

“เอามือมานี่ จะทายาให้ เดี๋ยวก็ปวดหรอก นี่เริ่มจะปวดแล้วละซิ ผมเห็นลูบออกบ่อย” เขากดเธอให้นั่งลงบนเก้าอี้

                “ไม่ต้อง ฉันทาเองได้” ฬีรนันท์ไม่ยอมให้เขาช่วย คว้าหลอดยามาและทาเอง

                “มีคนเคยบอกไหมว่าคุณเป็นผู้หญิงที่ดื้อมาก รั้นที่สุด เถียงก็เก่ง”

                “แล้วมีคนเคยบอกคุณไหมล่ะ ว่าคุณมันบ้าอำนาจ เผด็จการ ดีแต่สั่ง” ฬีรนันท์ตอกกลับอย่างไม่ไว้หน้า

                “ฉันทาเสร็จแล้ว คุณไปกินกาแฟของคุณให้หมดแล้วกลับไปได้แล้ว”ฬีรนันท์รับทาอย่างลวกๆเผื่อให้เขารีบๆไป

                “ทาอย่างงี้แล้วมันจะหายไหม มานี่”เขาคว้าทั้งมือเธอและหลอดยา ไปจัดการเอง ไม่รู้ว่าอุปทานไปเองหรือเปล่า ที่เหมือนความร้อนจากตัวยาและมือเขามันไม่ได้หยุดแค่ข้อมือ แต่มันกำลังวิ่งไปทั่วร่างกายเธอ

                “เป็นไง ดีขึ้นบ้างไหม” เขานวดจนตัวยาซึมเข้าผิวไป จึงได้ปล่อยมือเธอให้ลองขยับดู เขาอิงสะโพกที่โต๊ะทำงานเธอพลางจิบกาแฟที่ตอนนี้ไม่หลงเหลือความร้อนแล้ว

                “ที่ผมถามคุณว่าคืนก่อนคุณได้ไปเที่ยวไหนมาไหม รู้ไหมทำไม” เขาจิบกาแฟไปพลาง ชวนเธอคุยไปพลาง

                “ฉันจะไปรู้ไหม มันเรื่องของคุณไม่เกี่ยวกับฉัน”

                “ผมไปเที่ยวผับหนึ่งมา เจอแม่มดสาวสวยคนหนึ่ง ออนเดอะร็อค5แก้วไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกอะไร แถมก่อนกลับเธอยังใจดีเลี้ยงเหล้าผม พิเศษสุดๆตรงที่เธอป้อนผมเองด้วยริมฝีปากของเธอ” สายตาของศรัณย์หยุดนิ่งที่ริมฝีปากที่เผยอค้างของฬีรนันท์

                “แล้วมาบอกฉันทำไม” ฬีรนันท์พยายามทำเหมือนไม่จำเป็นที่เธอต้องสนใจ ไม่ใช่เรื่องของเธอ ไม่ใช่เธอ

                “เธอบอกชื่อก่อนกลับไงล่ะ ว่าฬีรนันท์ รัตนเกียรติ” ศรัณย์ยิ้มที่มุมปากก่อนดื่มกาแฟอึกสุดท้ายเข้าไป

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา