พ่ายรัก
เขียนโดย กวางตุ้ง
วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 19.59 น.
แก้ไขเมื่อ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556 22.44 น. โดย เจ้าของนิยาย
8) พ่ายรัก 8
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความนับตั้งแต่วันนั้นในห้องทำงาน ฬีรนันท์ก็ไม่เคยเจอเขาอีกเลย เธอคิดว่าเกือบลืมไปได้แล้วด้วยซ้ำ ถ้าไม่บังเอิญอ่านหนังสือพิมพ์ แล้วไปเจอคอลัมภ์ซุบซิบไฮโซเข้า นักธุรกิจชื่อดัง ตัวย่อ ศ ร พาคู่ควงคนล่าสุดดินเนอร์หรูบนยอดตึก นักข่าวพากันแซวว่า เขาไม่สามารถทานอาหารกับผู้หญิงคนไหนได้เกิน3 ครั้ง หรือเพราะเขาโดนคำสาปกันนะ ฬีรนันท์เบะปาก เธอเกลียดผู้ชายแบบเขาที่มั่วไม่เลือก แค้นที่มาทำให้เธอนึกถึงอดีต และนอนไม่หลับมาหลายคืนบวกกับโหมงานหนัก ผลสุดท้ายเลยต้องล้มป่วย จนหยุดงานมานอนซมอยู่ที่ห้อง ยัยรักก็กลับบ้านยังไม่กลับมา ดูแลตัวเองสินะ เธอกะจะหาอะไรรองท้องก่อนกินยาอีกรอบ แต่ปรากฎว่าทุกอย่างหมด ในตู้เย็นไม่มีกระทั่งน้ำเปล่า เธอไม่อยากเสี่ยงกินยากับนม เครื่องกรองน้ำก็เจ๊งมาหลายวันยังไม่ได้ติดต่อบริษัท อะไรจะซวยกว่านี้อีกไหมเนี่ย
"สรุปวันนี้ฉันต้องออกจากห้องจริงๆใช่ไหมเนี่ย ไม่ป่วยตายก็อดตาย เอาวะ"ฬีรนันท์ตัดสินใจไปซุปเปอร์ใกล้ๆคอนโด จริงๆเธอซื้อร้านค้าใต้คอนโด ชั่วคราวก็ได้ แต่คิดอีกทีไหนๆก็ต้องออกแล้วจัดการทีเดียวให้มันเสร็จเลยดีกว่า โดยเธอคงลืมว่าร่างกายเธอเพิ่งฟื้นไข้ได้แปบเดียว
ฬีรนันท์ขับรถออกมาซุปเปอร์ที่อยู่ห่างจากคอนโดไม่ถึงโล เธอเดินเข็นรถเข็นซื้อของทั้งจำเป็นทั้งไม่จำเป็น เป็นเสบียงกักตุน เหมือนจะไม่ออกมาอีกเป็นปี แต่ผ่านไปได้สักพักเธอเริ่มรู้แล้วว่าร่างกายกำลังเตือน พิษไข้เริ่มกลับ ทั้งแอร์เย็นๆ ข้าวยังไม่ตกถึงท้อง ยายังไม่ได้กิน ทำให้อาการไข้เริ่มกลับมา เธอจึงรีบเข็นรถไปที่แคชเชียร์เพื่อจ่ายเงิน จะได้รีบกลับ แต่เธอเข็นรถมาได้แค่ถึงรถยนต์ของเธอเท่านั้น เอาของใส่ท้ายรถยังไม่ทันได้ เธอก็ล่วงลงกับพื้น นอนนิ่งไปเสียแล้ว ดีที่ รปภ เดินตรวจการอยู่พอดี ทำให้มีคนพบเธอเป็นลมนั่นเอง และจะเพราะโชคชะตา หรือเคราะห์มาเยือนสำหรับเธอก็ไม่รู้ ศรัณย์ดันเดินผ่านพอดี เพราะแม่ของเขาอยากได้ผลไม้ เขากำลังจะขับผ่าน เลยแวะเข้ามาจนมาเจอเหตุนี้เข้า
"มีอะไรหรือเปล่าครับ" ศรัณย์ยังไม่ได้เห็นหน้าผู้หญิงที่รปภ โอบอยู่ ถามขึ้น เพราะตรงนั้นไม่ค่อยมีคน และ รปภ กำลังวอตามคน และให้เรียกรถพยาบาล
"เธอน่าจะเป็นลมนะครับ ผมเห็นเธอโงนเงน แต่รับไม่ทัน ไม่แน่ใจว่าตอนล้มหัวฟาดอะไรหรือเปล่า แต่น่าจะไม่เพราะกระเป๋าของเธออยู่ใต้ศรีษะพอดี" รปภ ชี้แจงกับชายหนุ่มหน้าตาดีตรงหน้า
"ครับ งั้นเดี๋ยวผมช่วยครับ กว่ารถพยาบาลจะมา เดี๋ยวผมพาไปส่งเองดีกว่าไหมครับ" ศรัณย์ เดินอ้อมมาอีกด้าน จึงได้เห็นว่าเป็นฬีรนันท์ แม่มดตัวแสบที่เขาพยายามจะลืม
"นู๋ฬี นู๋ฬี" แค่เห็นว่าเป็นใคร ศรัณย์ก็ตกใจอย่างมาก เขาแตะตัวของเธอ แล้วสะดุ้ง เมื่อพบว่ามันร้อนมาก เขากลัวเธอจะช็อคกับความร้อนขนาดนี้ไปซะก่อน เขาต้องพาเธอไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้
"ช่วยไปเปิดประตูรถให้ผมหน่อย เดี๋ยวผมพาเธอไปโรงพยาบาลเอง กว่ารถโรงพยาบาลจะมาถึงเธอได้ช็อคตายก่อนแน่ นู๋ฬีเป็นคนรักของผม เปิดประตูรถเร็วๆเข้า เดี๋ยวผมอุ้มเธอเอง" อะไรไม่รู้ทำให้ศรัณย์หลุดปากไปแบบนั้น เมื่อเห็นสายตาไม่แน่ใจของรปภ แต่ด้วยบุคลิก การแต่งกาย เครื่องประดับ และรถยนต์ของเขา อีกทั้งการเรียกชื่อท่าทางตกใจของผู้ชายคนนี้ น่าจะเป็นคนรักของเธอจริงๆนั่นแหละ เมื่อคิดได้ รปภ จึงรีบไปเปิดประตูรถที่จอดอยู่ไม่ไกลให้กับเขา
ศรัณย์รีบขับรถออกจากซุปเปอร์ตรงไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด และโชคดีที่เพื่อนของเขาเป็นแพทย์อยู่ที่โรงพยาบาลนี้พอดี
"ไอ่หมอ แกเข้าเวรอยู่หรือเปล่า เออดี เข้าก็ดีแล้ว ฉันกำลังไปโรงพยาบาล เลี้ยวซ้ายหน้าก็ถึงแล้ว แกมาดูคนเจ็บหน่อย ตัวร้อนยังกับไฟลุก แถมไปหมดสติที่ห้างอีก ไม่รู้ว่าเป็นลมหรือช็อค แกเตรียมคนไว้นะ ฉันกำลังถึง" ศรัณย์พูดเสร็จก็โยนโทรศัพท์ทันที ใจเขากำลังรู้สึกเป็นห่วงคนข้างๆ ทำไมตัวร้อนได้ขนาดนี้ แล้วตัวร้อนขนาดนี้ยังจะออกมาข้างนอก เป็นน้องเป็นนุ่งจะตีให้เข็ด เกิดเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง
โชคดีที่พอเข้าจอดในที่ฉุกเฉิน ทั้งไอ่หมอเพื่อนเขา ทั้งพยาบาล บุรุษพยาบาล ก็มายืนรอเตรียมพร้อม เขาจึงอุ้มเธอมานอนบนเตียงที่เตรียมไว้ แล้วเธอก็ถูกเข็นหายเข้าไปในห้องนั่นเอง ตอนแรกเขาจะเข้าไปด้วย แต่ดันโดนไอ่เพื่อนหมอยันไว้ข้างนอก และบอกให้ไปลงประวัติคนไข้ โชคดีที่เขาคว้ากระเป๋าเธอโยนติดรถมาด้วย ข้างในน่าจะมีเอกสารบ้างแหละน่า กรอกประวัติเสร็จเขาก็มานั่งรออยู่หน้าห้อง ระหว่างนั้นเขาก็หาข้อมูลของเธอไปด้วย นู๋ฬี ฬีรนันท์
เขารออยู่ข้างนอกสักพัก ไอ่หมอก็ออกมา ท่าทางของมันนี่วอนบาทาโดยแท้
"ไปพาเด็กที่ไหนมาวะ ระวังข้อหาพรากผู้เยาว์นะเว้ย" หมอสังเกตุสีหน้าศรัณย์ก็รู้ว่าเป็นห่วง แต่เขายังอยากกวน แล้วก็ได้ผล
"เด็กบ้านแกดิ เขาอายุ28 ละเหอะ แล้วเขาเป็นไงบ้าง ปลอดภัยหรือยัง แล้วข้าเข้าไปได้ไหมวะ" ศรัณย์ถามเพื่อน แต่ตาก็จ้องแต่ประตู
"28 จริงดิ นึกว่า20 ต้นๆหน้าตาไม่น่าถึง"หมอยังไม่อยากจะเชื่อ
"เด่ว แล้วแกไปสังเกตุอะไรหน้าตาเขามาก รักษาเขาไม่ใช่เหรอไง เกี่ยวอะไรกับหน้าตา"ศรัณย์หันมามองเพื่อนเขม่ง อย่างไม่พอใจ ถ้ามันคิดแบบนั้นได้แปลว่ามันมองหน้าฬีรนันท์ ได้สักพักเลยล่ะ
"ไอ่นี่ คิดอะไร ข้าก็มองเฉยๆ น้องเขาน่าจะเป็นไข้หวัดธรรมดาแหละ น่าจะพักผ่อนไม่พอ ไม่ได้ทานข้าวทานยา แล้วแกบอกไปหมดสติที่ห้าง ก็คงเพราะโดนแอร์เย็นๆ เด่วน้ำเกลือหมดถุง ตื่นมาก็กลับไปพักผ่อนที่บ้านก็ได้แล้ว เด่วย้ายไปห้องพิเศษจะได้เข้าไปง่ายหน่อย กลับไปก็เช็ดตัวก็พอ กินยาให้ตรงเวลา กินให้หมดถุงตามที่สั่งแล้วพักผ่อนเยอะๆไม่กี่วันก็หายแล้วล่ะ ว่าแต่เขาพักอยู่กับใครละ " หมอชี้แจงให้ศรัณย์ฟัง แล้วลองเชิงถาม แต่เพื่อนเขาดันเงียบ เพราะก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน คนที่น่าจะรู้ดีคือนายกลาง ต้องถามมัน
"เออ ขอบใจแก งั้นเด่วข้าไปรอที่ห้องพิเศษเลยล่ะกัน มีธุระต้องคุยกะไอ่กลางนิดหน่อย แล้วแกไม่มีคนไข้รักษาแล้วเหรอไง มานั่งอู้อยู่ได้" ศรัณย์รวบรัดตัดบท จบ แล้วเดินถือโทรศัพท์กดเบอร์โทรออกแล้วเดินออกไป ปล่อยให้เพื่อนนั่งเกาหัวแกรกๆ งงๆ สรุปนี่คือเขาผิดเหรอเนี่ย
ศรัณย์นั่งมองคนป่วยบนเตียงด้วยความรู้สึกหลากหลาย จากที่ฟังมาจากกวิน น้องสาวของเธอ รักษณา อ่านหนังสือเตรียมสอบอยู่ที่บ้านมาหลายวันแล้ว นั่นหมายความว่าเธออยู่คนเดียว และคงดูแลตัวเองแบบขอไปที ถึงได้มีอาการแบบนี้ จริงๆมองผ่านๆผู้หญิงอย่างเธอไม่น่าจะป่วยเป็นด้วยซ้ำ เขาไม่รู้ว่าแม่มดก็ป่วยได้เหมือนกัน หลังจากที่วางสายจากกวิน เขาโทรเข้าบริษัทที่เธอทำงานอยู่ และได้คุยกับเลขาของเธอ จนรู้ว่าเธอหยุดงานมา2 วันแล้ว ทำไมความรู้สึกเขาถึงบอกว่า ผู้หญิงคนนี้ควรมีใครสักคนมาปกป้องดูแล ทำไมถึงได้รู้สึกว่าภายในของเธอคนนี้ไม่ใช่อย่างที่เธอแสดงออก เขาอยากรู้ว่าจริงๆแล้วเธอเป็นยังไงกันแน่ เพราะมองดูตอนนี้แล้ว ภาพของฬีรนันท์ในชุดของโรงพยาบาล ผ้าห่มสีขาวสะอาด และเส้นผมดำที่แผ่กระจายเต็มหมอน ใบหน้ายามหลับแม้ซีดเซียวแต่ก็ให้ความรู้สึกน่าทะนุถนอมเหมือนนางฟ้าน้อยๆมากกว่ายามลืมตา ที่เหมือนเธอจะกลายร่างทันที เสียอยู่อย่างเดียวคิ้วที่แทบจะผูกกันเป็นโบว์ได้ อยากรู้จริงๆในหัวเธอคิดอะไรนักหนา แม้ในยามหลับ หรือล้มป่วยเช่นนี้ ศรัณย์อดไม่ได้ที่จะเอามือไปนวดระหว่างคิ้วของเธอเพื่อให้คลายความกังวลออกไปสักพัก และพร้อมกับการเปิดเปลือกตาของเธอ
"ฉันมาอยู่นี่ได้ยังไง" ฬีรนันท์พึมพำกับตัวเอง พลางคิดย้อนไปก่อนหน้านี้ ใช่เธอไม่สบาย เธอมาซื้อของ กำลังจะเอาของมาเก็บที่รถ แล้วทุกอย่างก็ดับ เหมือนการดึงปลั๊กทีวีออก ฬีรนันท์พยายามครุ่นคิด แต่ก็ปากหนัก ไม่ยอมถามบุคคลคนเดียวในห้อง และโชคดีที่หมอและพยาบาลก็เข้ามา เธอจึงเลี่ยงที่จะพูดคุยกับคุณหมอมากกว่า
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ