พ่ายรัก

-

เขียนโดย กวางตุ้ง

วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 19.59 น.

  9 ตอน
  1 วิจารณ์
  12.36K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556 22.44 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) พ่ายรัก3

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

    

               “ ไงหวะ รัณ หวานไหมวะ” เสียงหนึ่งเอ่ยทัก เมื่อเพื่อนเดินกลับมานั่งโต๊ะ

                “หวานหวะ ทั้งเหล้า ทั้งคน” ศรัณย์ เกรียงไกรเดช ตอบเพื่อน ใครจะตอบความจริงละ ว่าได้ลิ้มรสแค่รสชาติเหล้า เท่านั้น

                “หวานแล้วทำไมปล่อยไปวะ ข้าว่าน่ากลัวมากกว่าหวะ ออนเดอะร็อคไป5แก้วไม่มีเอียงหรือเซใดๆ แถมเก่งกล้าถึงขนาดมาคนเดียว เป็นเมียขาใหญ่แถวนี้หรือเปล่า ระวังเหอะเอ็ง” รู้ว่าเพื่อนเตือนด้วยความหวังดี เขาไม่กลัวเรื่องพรรค์นั้นหรอก ถ้ากลัวคงก้าวมาจุดนี้ไม่ได้ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัว ธุรกิจรถยนต์ และขนส่งทางทะเลของเขาเอง ซึ่งสร้างมันขึ้นมาจากความชอบส่วนตัว ยังไม่นับรวมธุรกิจโรงแรมที่พักและสื่อสิ่งพิมพ์ ที่ลูกพี่ลูกน้องเขาดูแล ซึ่งก็มีเขาอยู่เบื้องหลังคุมบังเหียนทั้งสิ้น

                “เอ้าเห้ย เหม่อไปไหนหวะ” ชาติชายซึ่งเป็นทั้งเพื่อนสนิทและเลขาส่วนตัว ตบดังป๊าบที่ไหล่ ในเวลางานสำหรับชาติชาย ศรัณย์คือเจ้านายที่เคารพยิ่งพร้อมทำงานถวายหัว ส่วนนอกเวลางานศรัณย์ก็คือเพื่อนตายที่พร้อมถวายชีวิต

                “ ไปห้องน้ำก่อนหวะ เดี๋ยวมา”ศรัณย์ตบป๊าบเข้าที่ไหล่เพื่อน จนเอียง มือหนักฉิบเป๋ง

                “น่าเสียดายจริงๆ” ศรัณย์พึมพำเบาๆ พลางคิด ถ้าเจอกันอีกครั้ง เขาอยากป้อนเธอบ้าง แต่มันคงไม่ใช่เหล้าหรอกนะ

                และขณะที่ฬีรนันท์กลับคอนโดไปและล้มตัวลงนอนทั้งสภาพจัดเต็มนั้น ด้านของรัทธชัยก็กำลังกลุ้มกับภัครมนต์ จะว่าเป็นเพื่อนของน้องสาวหรือเพื่อนบ้านที่เพิ่งจำได้ เขาไม่รู้จะเป็นแบบไหน แต่เขาไม่พอใจกับภาพตรงหน้า ก่อนหน้านี้2สาวรักษณา และภัครมนต์ออกมาขยับแข้งขา แต่กวินรู้สึกว่าหายไปนานจึงลุกไปที่ฟลอร์เต้น หลังจากนั้นก็ดึงรักษณาออกมา แล้วทั้งคู่ก็มาเงียบใส่กัน เขานึกขึ้นได้ว่าภัครมนต์ไม่ได้มาด้วยจึงมาดู แล้วภาพตรงหน้าก็ทำให้เขาไม่พอใจแบบไม่เข้าใจตัวเอง เขาหวงรักษณาซึ่งเป็นน้องสาวและอาจหวงภัครมนต์ที่เป็นทั้งเพื่อนน้องสาวและเพื่อนบ้าน ก็ได้ ภัครมนต์ตรงหน้าเขา สวยเซ็กซี่ ยิ่งใบหน้ายิ้มแย้มกระจ่างใส ท่ามกลางพวกผู้ชายที่ล้อมรอบเธอ แต่สายตาของไอ้พวกนั้นมันน่าโมโห สายตาที่บ่งบอกถึงความหื่นกระหาย โอ้โลมเธอผ่านทางสายตา

                “แตงโม พอแล้ว ไปกลับได้แล้ว ยัยรักรออยู่ที่โต๊ะ”รัทธชัยแหวกวงล้อมเข้ามาคว้าข้อมือภัครมนต์ตั้งท่าจะดึงออกไป

                “ฉันยังสนุกอยู่ คุณอยากกลับก็ไปก่อน เดี๋ยวฉันกลับเอง” ภัครมนต์สะบัดมือ แต่สายตาก็ไม่ยอมสบเช่นเดิม

                “จะกลับยังไง มาด้วยกันจะกลับเองได้ยังไง เดี๋ยวพ่อเธอรู้ก็มาว่าฉันได้นะสิ” รัทธชัยเอาคุณก้องเกียรติ พ่อของเธอมาอ้าง

                “มันเรื่องของฉัน อีกอย่าง พ่อฉันไม่อยู่บ้าน ไม่ต้องกลัวใครมาว่าคุณได้หรอก ปล่อย” จังหวะสุดท้ายเธอสะบัดมืออย่างแรง ข้อมือเธอจึงหลุดจนได้

                “เอาละครับ ช่วงเวลาต่อไปขอเอาใจคนมีคู่นิดนึงนะครับ เราขอเปลี่ยนฟลอร์ขาแดนซ์ เป็นฟลอร์คู่รักสักครู่นะครับ ใครมีคู่เชิญควงแขนกันมาได้เลยนะครับ แล้วเราจะมีการสุ่มจับ1คู่เพื่อรับรางวัลจากทางร้านเราด้วย เชิญหวานกันได้เต็มที่เลยครับ

                “อยากเต้นนักใช่ไหม” รัทธชัยคว้าเอวคอดของภัครมนต์เข้ามาหาตัว ด้วยความไม่ทันระวังตัวเธอจึงกระแทกตัวเขา รวมทั้งหน้าอกเธอด้วย เธอตกใจจนหน้าแดงยกมือดันอกเขาออก แต่ก็ไม่ได้ไกลมากเพราะมือเขาอยู่ที่เอวเธอ เธอเผลอตวัดสายตาวาววับมองเขา แต่ก็ไม่ชัดนัก เพราะทางร้านปิดไฟในส่วนฟลอร์จนหมด เหลือเพียงแสงสลัว จากรอบๆร้านเท่านั้น

                “เต้นดีๆนะครับ ถ้าแตงโมทำอะไรที่มากกว่าการเต้นกับพี่เรียวเฉยๆ พี่ไม่รับรองความปลอดภัยนะครับ” รัทธชัยขู่นิ่งๆ แม้จะเหมือนขู่ แต่เธอรู้มันไม่ใช่ ไม่อย่างนั้นวันนั้นเขาคงไม่ทิ้งเธอให้อยู่บนต้นไม้ต้นนั้นเนิ่นนานจนไม่รู้ว่าผ่านไปกี่ชั่วโมง เธอเคลื่อนไหวร่างกายไปตามจังหวะเขา ไม่ได้พยายามทำอะไรอีก รัทธชัยเผลอสูดกลิ่นหอมเข้าปอดอย่างชื่นใจ ต่างคนต่างความคิดที่ล่องลอยไปคนละทาง

                ด้านกวิน เขาก็ดึงตัวรักษณาออกมาเต้นรำด้วยจนได้ แม้ต้องกระซิบข้างๆหูว่า ถ้าไม่มาเขาจะจูบเธอที่โต๊ะเดี๋ยวนั้นเลย กวินไม่ได้ห่วงสายตาของเพื่อนเขา เพราะต่างพาสาวโต๊ะใกล้เคียงออกไปที่ฟลอร์เรียบร้อยแล้ว รักษณาแม้จะไม่ชอบใจเพียงใด แต่ก็ยอมลุกตามคำขู่ของเขา

                “ทำไมชอบทำให้พี่หึงนักนะเราเนี่ย” กวินกอดร่างเล็กของคนตรงหน้า ขณะที่เท้าก็ขยับไปเรื่อยๆตามดนตรี เขาแทบกระทืบไอ้ผู้ชายที่มันแอบจับผมของรักษณาจากด้านหลัง ถึงต้องรีบพารักษณาออกมาเมื่อสักครู่นี้

                “รักไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย รักก็แค่เต้นกับแตงโมเฉยๆเอง” รักษณาอธิบาย เธอแค่ออกมาเต้นเฉยๆ

                “พี่รู้ว่ารักไม่รู้ตัว ว่าตัวเองน่ารักน่าใคร่ ยิ่งท่าทางธรรมชาติแบบเนี่ย มันกลายเป็นความยั่วยวนให้ผู้ชายหลงใหลได้อย่างที่รักไม่ต้องทำอะไรเลย รู้ตัวบ้างไหม” กวินไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกออกมาอย่างไร ที่มาหลงรักเด็กสาวที่มีพี่สาวแสนหวงน้อง แถมพี่ชายที่แม้จะเป็นเพื่อนเขาแต่ก็แสดงอาการหวงมาเป็ระยะ เขาจะทนไหวไหมเนี่ย รักษณานับวันก็ยิ่งสวย น่ารักไปทุกที เขาอยากตีตราจอง เป็นเจ้าของเธอซะเดี๋ยวนี้ อยากน้อยก็เป็นการประกาศว่าผู้หญิงคนนี้มีเจ้าของแล้ว

                “รัก หมั้นกับพี่ได้ไหมคะ” กวินกระซิบข้างหูคนตรงหน้า  อยากน้อยแหวนหมั้นที่นิ้วนางข้างซ้ายอาจช่วนกันผู้ชายได้จำนวนหนึ่ง เขาเคยให้แหวนเธอวงหนึ่ง จริงๆมันก็คือแหวนรุ่นที่พวกเขาจัดทำกันขึ้นมา  และเขาเพิ่งให้เธอไปตอนที่เธอตอบตกลงที่จะคบเขาเป็นคนพิเศษ หลังจากที่เขากลับมาขอคำตอบเมื่อเวลาผ่านไป1ปี

                “หมั้น เลยเหรอคะ แต่รักยังเรียนไม่จบเลยนะคะ อีกปีเดียวเอง ไว้รอถึงตอนนั้น พี่กลางค่อยตัดสินใจอีกทีดีไหมคะ” รักษณาตกใจ เธอไม่ได้รังเกียจเขา แต่มันเร็วเกินไป เรียนก็ยังไม่จบ เพิ่งฝึกงานเสร็จด้วยซ้ำ อย่างน้อยก็เหลือเรียนอีกปีเต็มๆ

                “จริงๆพี่อยากแต่งเลยมากกว่า แต่คุณพ่อ คุณแม่ โดยเฉพาะพี่ฬีไม่มีทางยอมเด็ดขาด” กวินเอาจมูกตัวเองเขี่ยจมูกคนตัวเล็กอย่างหมันเขี้ยว

                “งั้นพี่กลางก็ลองคุยกับพี่ฬีดูก่อนไหมคะ ว่าอนุญาตไหม”รักษณามั่นใจ ว่าไม่มีทาง เพราะกว่าฬีรนันท์จะยอมให้กวินขึ้นไปทานข้าวด้วยกันบนคอนโดได้ ก็เมื่อเธอคบกับกวินไปเกือบจะได้ปี และเป็นการคบกันที่อยู่คนประเทศ คนละทวีป ได้คุยกันก็ผ่านออนไลน์ไม่ถึงชั่วโมงต่อวัน และเมื่อกวินเรียนจบกลับมา น้อยมากที่จะได้เจอกันตามลำพัง ด้วยภาระงานของเขา ช่วงเวลาที่เธอฝึกงาน เธอมีโอกาสเจอกวินเพียงช่วงพักกลางวันที่เขามาพาไปกินข้าว และตอนเย็นที่ไปส่งเธอกลับห้องพัก แค่ไปส่งแต่ไม่มีโอกาสขึ้นไป  และพี่สาวเธอก็เปิดโอกาสให้กวินได้ขึ้นคอนโดไปทานข้าวด้วยกันหลังจากที่ฬีรนันท์เคยไปทานข้าวกัน3คนบ่อยครั้ง จนแน่ใจว่า กวินค่อนข้างจริงใจและให้เกียรติพอสมควร และแน่นอนว่าอยู่ในห้องของพี่เธอได้ไม่เกิน3ทุ่ม รักษณาแอบขำเหตุผลพี่สาวที่เคยถามว่าทำไมอนุญาตให้ขึ้นมา ‘พี่เบื่อออกไปทานข้าวข้างนอกนะ นานๆโอกาสพิเศษ พอได้ แต่บ่อยๆมันน่าเบื่อ’

                รักษณามาสะดุดความคิดของเธอต่อพี่สาวเมื่ออ้อมแขนของกวินรัดแน่นขึ้น

                “รักษณา พี่ว่าเรามาตกลงกันหน่อยดีไหม”

                “อะไรคะ” เธองง กวินไม่ค่อยจะเรียกชื่อจริง เธอจึงไม่แน่ใจว่าเขาเป็นอะไร

                “ถ้ารักทำให้พี่หึง แบบกลางฟลอร์เมื่อกี้นี้อีก ไม่ว่ารักจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ พี่จะลงโทษเธอ” กวินยิ้มเจ้าเล่ห์ แต่รักษณาไม่มีโอกาสเห็นเลย

                “พี่กลางเอาเปรียบ ถ้าตั้งใจก็พอรับได้ แต่ถ้าไม่ตั้งใจก็แปลว่าไม่ได้เจตนา พี่กลางจะมาลงโทษรักได้ไง” รักษณาโอดครวญ เธอไม่แน่ใจบทลงโทษเขาคืออะไร แต่คงไม่เจ็บตัวหรอก ก็กวินรักเธอนี่นา

                “งั้นเอาเป็นถ้าไม่ตั้งใจ จะลดโทษให้กึ่งนึง เวลารักจะทำอะไรได้ระวังตัวไง พี่เป็นห่วงเรานะ สมมติถ้าวันนี้พี่ไม่มาด้วย รักคิดไหม ว่ามันจะเป็นแบบไหน” พูดจาแลดูดี มีเหตุผล

                “ขอโทษค่ะพี่กลาง รักไม่ทันคิด ตกลงค่ะ รักยอมให้พี่กลางลงโทษถ้ารักทำตัวไม่ดี” ยิ้มกระจ่างใส จนแลเห็นฟันขาวเรียงตัว ทำให้กวินแอบยิ้มที่มุมปาก

                “เริ่มวันนี้นะ”

                “ค่ะ” เธอลืมตัวตอบรับผลคือ ปากของเธอรับสัมผัสอุ่นๆ ความรู้สึกเธอคือริมฝีปากของอีกคน เธอกำลังจะร้อง แต่กลายเป็นเปิดริมฝีปากรับปลายลิ้นร้อนของกวินที่คอยหาจังหวะอยู่ มือนึงของกวินอยู่ที่เอวคอยพยุงน้ำหนัก แต่อีกข้างอยู่ที่ท้ายทอยคอยบังคับทิศทางให้เป็นไปตามความต้องการของเขา ปลายลิ้นสอดไล้ลิ้นของรักษณาที่ถดถอยหนี อย่างตื่นกลัว เขาจึงเปลี่ยนวิธีไม่เร่งเร้าแต่ไล้ไปตามแนวฟัน สำรวจฟันทุกซี่ยิ่งกว่าทันตแพทย์ ลิ้มรสค็อกเทลที่รักษณาดื่มเข้าไป ช่างให้รสชาติหอมหวานชวนมึนเมา ยิ่งกว่าเหล้าที่เขาดื่มเข้าไปซะอีก เขาลองหยั่งเชิงพาลิ้นตัวเองไปแตะลิ้นของรักษณาเชิงบังเอิญ ซึ่งเธอก็เผลอแตะทักทายกลับมาอย่างเผลอไผล เขาได้โอกาสจึงสอดตะหวัดไล้ ยิ่งดูดดึง เขาก็ยิ่งร้อน ร่างเธอก็ยิ่งละลาย เขาจูบเธอดั่งจะสูดลมหายใจของเธอออกมาจนหมดปอด กวินรู้สึกตัวก็ต่อเมื่อรักษณากำลังขาดอากาศอากาศหายใจ ปลายเล็บกรีดอกเขาอย่างไม่ตั้งใจ เขารู้สึกร้าวรานกายมากกว่าจะเจ็บ จึงปล่อยเธอให้หายใจเอาอากาศเข้าปอด

                “เอาละครับ หมดเวลาสำหรับคู่รักแล้วนะครับ และเราได้ผู้โชคดีแล้วด้วย ขอเชิญคู่ที่แสงไฟของเราส่องไปขึ้นมาบนเวทีด้วยครับ” คู่ที่ได้รับก็คือคู่ที่อยู่ข้างๆกวินและรักษณา โชคดีแค่ไหนแล้วที่ไม่ใช่คู่เขา เพราะเขาไม่ยอมพารักษณาขึ้นเวทีเด็ดขาด ก็ตอนนี้หน้าเธอแดงก่ำอย่างกับผลเชอรี่เขาเห็นชัดเจนเพราะแสงไฟของคู่ข้างๆสะท้อนมา ปากบวมเจ่อนิดๆแลดูเซ็กซี่ที่สุด ดีนะที่รักษณาให้ลิปกลอสสีชมพูอ่อน ซึ่งมันก็เลือนๆจากการดื่มเครื่องดื่มบ้างแล้ว

                “โทษสถานเบานะครับรัก ไปเถอะครับ กลับบ้านกันเถอะ อยู่นานๆกว่านี้พี่คงลงโทษสถานเบาไม่ไหวแน่ๆ” กวินโอบเอวรักษณา มาที่โต๊ะ ก็มาเจอทุกคนพร้อมที่โต๊ะแล้ว

                “ข้าขอโทษพวกเอ็งนะเว้ยที่ต้องกลับแล้ว ไอ้หนึ่ง ไอ้เอก ไอ้ซัน” รัทธชัยบอกกับเพื่อนอีก3คน เมื่อเห็นกวินพารักษณากลับมาที่โต๊ะ

                “ไว้เรานัดกันใหม่นะเว้ย ขอโทษทีหวะ” กวินบอกอย่างขอโทษ เพราะมันยังหัวค่ำมาก สำหรับนักเที่ยวราตรีอย่างพวกเขา

                “เออ ได้ อย่าคิดมาก พวกข้าเข้าใจ” พร้อมพงศ์บอก เข้าใจว่า2สาวคงอยากกลับ จริงๆแล้วไม่ใช่เลย 2หนุ่ม นี่แหละไม่ไหวแล้ว ถ้าอยู่นานกว่านี้คงหลุดอาการออกมามากกว่านี้แน่

                “คราวหน้า แก2คนเจ้ามือนะ” เอกฤทธิ์ มิวายเกทับ

                “เออ ได้ ข้าไม่มีปัญหา ไว้นัดใหม่” กวินตีมือกับเพื่อนอย่างรู้ใจ

                “ว่างๆไปที่บ้านข้าก็ได้นะ แกหายกันไปนาน พ่อกับแม่ข้าคิดถึง” รัทธชัย บอกกับผองเพื่อนที่แต่ก่อนไปกินข้าวฝีมือแม่เขาบ่อยๆ

                “ฝากบอกคุณนายกานดาเลยเอ็ง ไม่นานเดี๋ยวพวกข้าจะยกขบวนไปฝากท้อง” สิทธา ตอบกลับ ก็มีแต่3คนนี้ชอบยั่วแม่เขา โดยเฉพาะคำเรียกคุณนายกานดา ก็มีแต่3คนนี้นี่แหละ ชอบเรียกจนแม่เขาแกล้งหงุดหงิด ถึงได้หยุดกัน แม่เขาบอกเหมือนมีลูกชายตัวแสบเพิ่มอีก3คน

                “เออ ขับรถกลับกันดีๆละ ไอ้กลางขับดีๆนะเว้ย” พร้อมพงศ์ บอกเพื่อนกึ่งไล่ เสียเวลาม้อหญิงที่เขาพาไปเต้นรำด้วย

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา