wonderful secret มหัศจรรย์รักลับ
8.0
เขียนโดย กัสเบล
วันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 18.57 น.
7 บท
4 วิจารณ์
12.17K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 19.25 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) ยัยขี้เหร่ !!
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ 2
ยัยขี้เหร่ !!
‘ เพล้ง’
เสียงกระถางต้นไม้ใบที่ 3 ของวันตกผ่านฉันไปตั้งแต่เช้ามี ไวกิ้ง ยืนทำหน้าเหวออยู่ข้างๆฉัน
เพราะวันนี้ยัยเค้กหยุดปต่างจังหวัดกับพ่อ แม่ เลยส่งไอ้ไวมาอยู่เป็นเพื่อนฉันแทน โดยมีฉันที่ยืนทำหน้าซีดเผือดพร้อมจะเป็นลมได้ทุกเมื่อ
“นี่ใบที่ 3 แล้วน้ะหยงตั้งแต่เช้าหน่ะฉันว่าไม่บังเอิญแล้วหล่ะ”
ไวกิ้งพูดพร้อมมองขึ้นไปบนระเบียงที่มีกระถางต้นไม้ตั้งอยู่เป็นบางห้องอย่างสงสัยก็จะจับข้อมือฉันออกแรงดึงให้เดินตาม
“ไปไหนไวกิ้ง “
ฉันยื้อตัวเองไม่เดินตามก่อนถามก่อนที่อีตานี่มันจะจับลากฉันเข้าไปในห้องปกครองซะก่อน
“ ไปหาอาจาร์ยสงคราม หรือไม่ก็ฝ่ายปกครองคนไหนก็ได้ แกไม่ปลอดภัยเลยน้ะหยง”
“ไม่เอาอ้ะ ! ฉันไม่อยากเป็นเรื่องไปซื้อข้าวแล้วไปกินที่ห้องพยาบาลเหอะน้ะน้ะน้ะ”
ฉันว่าก็ที่จะออกแรงลากอีตาไวกิ้งไปที่โรงอาหารก่อนที่คนจะมากไปกว่านี้
เวลาเที่ยงตรง ... นักเรียนของปัญญาเลิศจะเกรี้ยวกราดมากกว่าทุกเวลาอ้ะน้ะ เพราะโรงอาหารนี่
คนโคตะระเยอะเลย
“ซ่า”
เอาหล่ะไม่ต้องไปโรงอาหารแล้ว .... ฉันมองน้าโสโครกสีดำที่ถูกเทลงมาจากหน้าต่างชั้นบนอาคารที่หยดติ๋งๆ ลงมาแทบจะร้องไห้ซะให้ได้
“ เอ้ยหยง”
ไวกิ้งที่เดินเคียงข้างฉันมาอุทานอย่างตกใจ แต่มันไม่เปียกซักหยดนี่มันจงใจชัดๆ
“ ไวกิ้ง” T^T
ฉันเบ่ะปากจะร้องไห้ก่อนที่ไอ้ไวจะถอดสูทสีดำที่มันรักนักหนาให้ฉันคลุมเพราะว่าวันนี้ฉันดันอุตริถอดสูทไว้บนห้องและใส่แต่เชิตสีขาวลงมากินข้าวหน่ะสิ่ เสื้อเชิตสีขาวบางๆ จะสู้อะไรกับน้ำถูพื้นสีดำได้ หล่ะ
“ โอ๊ย ทำไงว้ะเนี่ยไปไปไปเปลี่ยนชุดที่ห้องกรรมการนักเรียนไป”
พูดจบอีตาไวกิ้งก็เปลี่ยนเป้าหมายจากการเข้าโรงอาหารพาฉันเดินอ้อมตึกไปด้านหลังฝ่ายปกครองซึ่งเป็นที่สิงสถิตของกรรมการนักเรียนแทน
‘ชีวิตฉันมันเกิดอะไรขึ้น’ T^T\
“ พี่ฟ่างครับพี่พอจะมีชุดที่ทิ้งไว้ในตู้ซักตัวไหม พอดีเพื่อนผมมันไปเล่นน้ำถูพื้นมาแฮ่ๆ “
ไวกิ้งเดินเข้าไปในห้องกรรมการนักเรียนพร้อมกับคุยกับพี่ผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งแต่งหน้าอยู่ที่โซฟา
“ มีจ้ะ เอน้องคนนี้น่าจะใส่ได้น้ะเดี๊ยวพี่หยิบให้”
พูดจบพี่ ‘ ฟ่าง ‘ ที่ไวกิ้งเรียกก็เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า หยิบผ้าขนหนูและชุดนักเรียนชุดใหม่มาและดุนหลังฉันให้เข้าห้องน้ำไป
“ฝากไว้ก่อนน้ะ ใครมันเสร่อเทน้าถูพื้นลงมาว้ะ”
เสียงไวกิ้งสบถดังลั่น ฉันอยู่ในห้องน้ายังแอบตกใจเลย แกห่วงฉัน หรือ เสียดายสูทแกจะเปื้อนหล่ะ T^T โด่ววว
“หยง อาบน้าเสร็จยังไปพบอาจาร์ยสงครามด้วย”
เสียงทุบเอ่อใช่คำนี้แหละ ประตูแทบหลุด ไวกิ้งเอ้ย -..- เสียงทุบประตูดังลั่นหลังจากฉันติดกระดุมเม็ดสุดท้ายเสร็จเรียบร้อยพอดี
“ เดี๊ยวก็ได้ไว มาจ้ะ หยงเดี๊ยวพี่ทำผมทำหน้าให้ใหม่น้ะนั่งๆ”
พี่ข้าวฟ่างโบกมือไล่ไวกิ้งก่อนที่จะจับฉันนั่งลงเอาไดร์มาเป่าๆผมให้แห้งทำนู่นทำนี่ไปเรื่อย
“ อาจารย์เรียกฉันพบทำไมไวกิ้ง”
“ มีคนไปรายงานเรื่องเมื่อกี้แล้ว อาจาร์ยกำลังให้คนไปตามตัวไอ้พวกเสร่อนั่นอยู่”
เอ่อน้ะ พวกเสร่อนั่น *-* ก็คงเป็นคนที่เทน้ำลงมาจากหน้าต่างนั่นแหละ
“ ทำให้เรื่องใหญ่โตไปได้”
“ใหญ่ตรงไหนหยง นั่นแค่น้ำถูพื้นถ้าวันอื่นฉันไม่เดินกับแก แกคงโดนดักตบไปแล้วหล่ะ ฮึ่ย”
“ โอเคไวกิ้งฉันยอมแก แต่ไม่ต้องบอกแม่ฉันน้ะได้ไหม “
“ได้ฉันจะไม่บอกแม่แก”
หลังจากพักรบกับไวกิ้งเรียบร้อยฉันก็ถูกลากพาเดินไปนั่งจุ่มตากแอร์เย็นเฉียบที่ห้องปกครองอยู่คนเดียว โดยที่ไวกิ้งไปเขียนใบอนุญาตลาเรียน
ให้ฉันเพื่อส่งอาจาร์ยประจำวิชาที่เหลืออีกเกือบ 5 คาบของฉัน-..-
“ปภาวรินทร์”
“ คะอาจารย์”
เสียงอาจารย์สงครามเรียกชื่อฉันจากด้านหลังทำให้ฉันหันไปมองทันที ปล่อยให้หนูนั่งแง่วอยู่คนเดียวน้ะคะอาจารย์ !
“ นั่งก่อนสิ่ ไหนเล่าซิ่เกิดอะไรขึ้น”
อาจารย์สงครามเรียกฉันเข้าไปนั่งในฉากสีขาวหม่นที่ปกติเขาก็นั่งทำงานอยู่พร้อมกับร่างสูงของไวกิ้งที่ตามมานั่งข้างๆฉัน
“ หนูไม่ทราบค่ะอาจารย์ว่าเกิดอะไรขึ้นจู่ๆก็มีเหตุการ์ณเกิดขึ้นกับหนู เมื่อเช้าตอน เดินเข้าโรงเรียน ผ่านตึก 1 ที่ไม่น่าจะมีคนกระถางต้นไม้ก็ร่วงใส่หนูโชคดีที่หนูเดินมากับ วิมุฒิค่ะ”
วิมุฒิก็คือ อีตาไวกิ้งที่พยักหน้าสมทบก่อนทำหน้าใช้ความคิดอย่างหนักและเสริมคำพูดของฉันขึ้นมา
“ถ้าผมไม่ดึงยัยนี่ออกมาหัวแบะไปแล้วครับอาจารย์ แต่ตึก 1 เป็นห้องผู้อำนวยการกับฝ่ายวิชาการ ส่วนด้านบนเป็นหอประชุมนะครับ”
“ใช่ ประเด็นนี้เราน่าจะดูจากกล้องวงจรปิดได้แล้วไงต่อเล่าซิ่”
“ เมื่อตอนเปลี่ยนอาคารเรียนค่ะตึก 6 ฝั่งสนามตระกร้อกระถางต้นไม้ก็หล่นลงมาอีกรอบ รอบนี้เฉียดไหล่หนูไปนิดเดียวเอง “
“ แล้วตอน เมื่อกี้ ตรง ตึก2 กระถางต้นไม้ก็หล่น ลงมา อีก พอเดินจะเข้าโรงอาหารคราวนี้ทั้งถังน้ำและน้ำถูพื้นค่ะอาจารย์”
“ ดีมาก ปภาวรินทร์ เอาหล่ะ แล้วเธอมีเรื่องอะไรหรือเปล่ากับคนพวกนั้น”
“ ไม่ค่ะอาจาร์ย หนูไม่ทราบ”
“ ดูนี่”
ว่าแล้วไอแพดของอาจารย์สงครามก็เลื่อนมาอยู่ตรงหน้าฉัน
‘ลือสนั่น ปั้นหยง ! ยัยขี้เหล่อ่อยพี่แม็กซั่ม’
และตามด้วยาพเมื่อวานที่พี่แม็กซั่มหยุดคุยกับฉัน 4 – 5 ชอต และตามด้วยคอมเมนต์ นับร้อย
‘ยัยขี้เหร่ อย่าบังอาจ’
‘ยัยเตี้ย’
‘นังขี้เหร่ แกไม่คู่ควร’ และบลาๆอีกมากมาย
“เอ่อ..”
ฉันได้แต่อึ้งกิมกี่กับรูปภาพบนเว็บบอร์ดของโรงเรียนลักษณะมุมการถ่ายนี้น่าจะถ่ายจากอีกฟาก
ถนนนึงจากป้ายรถเมล์ที่ฉันยืนอยู่
“ เลื่อนไปดูต่อสิ่ “
“ ค่ะ “
สิ้นเสียงบัญชาจากอาจารย์สงครามทำให้ฉันจำใจต้องเลื่อนหน้าจอเพื่อลงไปดูภาพด้านล่างต่อ
‘อ่อยอีกแล้ว ซ้อนรถกรรมการนักเรียนคิดว่าสวยป้ะ’
และรูปที่เมื่อวานฉันซ้อนรถไวกิ้ง เห้ยย ! ฉันซ้อนรถมันมาหลายปีแล้วจ้ะ อีหนู ฉันเลือกที่จะไม่เลื่อนลงดูคอมเมนต์ใต้ภาพต่อเพราะทำใจไม่ได้ เลยส่งยิ้มแหยๆให้อาจารย์สงครามแทน
“ คือ....”
“ โอเคอาจาร์ยเข้าใจ ไวกิ้งเราก็มีส่วนทำให้ปภาวรินทร์เจ็บตัวเหมือนกันงั้นช่วงนี้อาจาร์ยจะให้นายผลัดกับภาคินมาดูแลเขาจนกว่าเรื่องจะซาแล้วกันนะ”
“ ผมไม่มีปัญหาครับปกติผมก็อยู่กับเขาอยู่แล้ว แล้วอีกคนหล่ะครับใคร”
เหมือนรอคอยคำตอบห้องทั้งห้องเงียบกริบได้ยินแต่เสียงเครื่องปรับอากาศที่ส่งเสียงออกมา ฉันและไวกิ้งจ้องหน้าอาจารย์สงครามแทบจะไม่กระพริบตาเลยทีเดียว
“แม็กซ์ !! “
กร๊าซซซซซ ฟ้าสาปปป !! ถามฉันซักคำไหม ว่าฉันต้องการหรือเปล่า
“ คืออาจาร์ยคะหนูขอแค่วิมุฒิก็พอค่ะหนูเกรงใจพี่เขา “
ฉันส่งสายตาอ้อนวอนเล็กๆ ยิ่งฉันอยู่กับพี่เขาคราวหน้าไม่เจอน้ำกรดเลยเรอะสู้เป็นข่าวกับอีตาไวกิ้งซะจะปลอดภัยกว่าอีก
“ วิมุฒิเป็นกรรมการนักเรียนมีธุระต้องไปจัดการบ่อยให้ภาคินมาสลับเวรบ้างก็ดี เอาหล่ะเดี๊ยวอาจาร์ยจะเรียกภาคินมาพบอีกรอบเรา 2 คนไปกินข้าวเถอะยังไม่ได้กินไม่ใช่เหรอ”
“ค่ะ / ครับ”
ฉันจำใจต้องระเห็จออกมานอกห้องอาจาร์ยสงคราม และ ได้แต่เดินทำหน้าเซ็งโลกเท่าน้านนน
อาจารย์ไม่เข้าใจปั้นหยงคนนี้เล้ย !!
“ หยงเสื้อสูทกับกระเป๋านักเรียนแก ฉันเอามาให้แล้ว”
ไวกิ้งยืนเสื้อสูทที่พับอย่าสวยงาม ? กับกระเป๋าแฟบๆ ส่งมาให้ฉัน
“ ไม่ขึ้นเรียนแล้วหรอไว เหลืออีกตั้ง 2 คาบ”
“ ไม่หล่ะ ไปออกไปหาข้าวกินกันเดี๊ยวฉันส่งแกกลับบ้านเลย”
“ ออกได้หรอ นี่ ม. ต้นยังไม่เลิกเลย “
ฉันหันไปถามพร้อมกับยกนาฬิกาขึ้นมอง 2 โมงครึ่ง
“ ดูซะก่อนนี่ใคร “
ไวกิ้งชี้ไปที่ต้นแขนเขาที่มีปลอกแขนสีทองของกรรมการนักเรียนติดอยู่ยิ้มๆก่อนจะเดินนำฉันออกไป
ณ ที่เดิม ซอยหมาบิน ..
“ ไปไหนต่อไหมไวกิ้ง”
ฉันถามไวกิ้งขณะที่กำลังจ่ายเงินหลังจากพากันมาฟาดหอยทอดเป็นอาหารเที่ยงและเย็น
“ อื้มมม บ่ายสองครึ่ง ไปห้างกันป้ะ”
“ ไปแน่ถ้าแกเลี้ยงไอติมฉัน “
“ก็ได้ๆ “
และเสียงหัวเราะของฉันกับไวกิ้งก็ดังไปตลอดทางจนถึงห้าง “บิ๊กเอ”ห้างใหญ่ยักษ์แถบโรงเรียนปัญญาเลิศที่หลังเลิกเรียนจะมีเด็กๆมาเดินเล่นกันมากมาย โดยมีสายตาของเด็กปัญญาเลิศหลายๆคนมองมาด้วยความไม่หวังดี อีตาไวกิ้งนี่ก็อยู่ในขอบข่ายที่เรียกว่าหล่ออ้ะน้ะ แต่เมื่อก่อนฉันเดินกับมันไม่ให้จะเป็นไรเลย
“ ไวกิ้งที่แกชวนฉันมาเดินห้างเพราะว่าวันนี้เวรแกตรวจห้างหรือเปล่า ? ”
ฉันถามขณะที่อีตาไวกิ้งพาฉันเดินเกือบทุกชั้นและจดบันทึกเป็นระยะๆ
“ ถ้าตอบว่าใช่ล่ะ “
“โถ่ !! ไอ้ไวเพื่อนแกยังหลอกได้ลงคอ”
“หน่า หยวนๆ เดี๊ยวเลี้ยงไอติมน้ะหยง ไปไป ชั้นโรงหนังชั้นสุดท้ายแล้ว”
“ เออ”
ฉันกระแทกเสียงใส่มันก่อนจะเดินจูงมืดกันเดินขึ้นบันไดเลื่อนไป
“ อ้าวกรรมการนักเรียนโดดงานชวนแฟนมาเที่ยวห้างหรอ”
ศัตรูเก่าศัตรูแก่ของฉันเองแหละ เจ้ากรรมนายเวรของแท้เลยวุ้ย
“ พี่แม็กซ์ พี่บาส พี่ๆ หวัดดีค่ะ”
ฉันยกมือไหว้ทุกคนที่เดินมากลุ่มใหญ่กับพวกพี่แม็กซ์และพี่บาสโดยมีร้อยยิ้มใจละลายที่ทุกคนส่งมาให้
“ ผมมีเวรตรวจห้างน่ะ เลยพาหยงมาด้วย”
“ แล้วทำหน้าที่กรรมการนักเรียนโดยที่ไม่ทิ้งแฟน”
“เอ่อ..”
ฉันกับไวกิ้งได้แต่อ้าอึ้งกับตำแหน่งใหม่ที่พี่บาสแกยัดเยียดให้จนพี่แม็กซ์ต้องตัดบทเอง
“เอาหล่ะงั้นฉันไปก่อนแล้วกัน”
“ ครับ”
กลุ่มใหญ่ๆของพี่แม็กซ์เดินไปแล้วแต่ทำไมใจฉันมันเคว้งแบบนี้น้ะ สายตาเย็นชากับท่าทีไม่สนใจของเขามันไม่เหมือนเดิมเอาซะเลย เมือ่วานพี่เขายังทักทายชนิดสนิทสนมกับฉันอยู่เลย
“ ไปหยงฉันสรุปรายงานเสร็จแล้วไปกินไอติมกัน”
“ไม่อ้ะไวกลับบ้านเหอะ ฉันเหนื่อยแล้ว”
ยัยขี้เหร่ !!
‘ เพล้ง’
เสียงกระถางต้นไม้ใบที่ 3 ของวันตกผ่านฉันไปตั้งแต่เช้ามี ไวกิ้ง ยืนทำหน้าเหวออยู่ข้างๆฉัน
เพราะวันนี้ยัยเค้กหยุดปต่างจังหวัดกับพ่อ แม่ เลยส่งไอ้ไวมาอยู่เป็นเพื่อนฉันแทน โดยมีฉันที่ยืนทำหน้าซีดเผือดพร้อมจะเป็นลมได้ทุกเมื่อ
“นี่ใบที่ 3 แล้วน้ะหยงตั้งแต่เช้าหน่ะฉันว่าไม่บังเอิญแล้วหล่ะ”
ไวกิ้งพูดพร้อมมองขึ้นไปบนระเบียงที่มีกระถางต้นไม้ตั้งอยู่เป็นบางห้องอย่างสงสัยก็จะจับข้อมือฉันออกแรงดึงให้เดินตาม
“ไปไหนไวกิ้ง “
ฉันยื้อตัวเองไม่เดินตามก่อนถามก่อนที่อีตานี่มันจะจับลากฉันเข้าไปในห้องปกครองซะก่อน
“ ไปหาอาจาร์ยสงคราม หรือไม่ก็ฝ่ายปกครองคนไหนก็ได้ แกไม่ปลอดภัยเลยน้ะหยง”
“ไม่เอาอ้ะ ! ฉันไม่อยากเป็นเรื่องไปซื้อข้าวแล้วไปกินที่ห้องพยาบาลเหอะน้ะน้ะน้ะ”
ฉันว่าก็ที่จะออกแรงลากอีตาไวกิ้งไปที่โรงอาหารก่อนที่คนจะมากไปกว่านี้
เวลาเที่ยงตรง ... นักเรียนของปัญญาเลิศจะเกรี้ยวกราดมากกว่าทุกเวลาอ้ะน้ะ เพราะโรงอาหารนี่
คนโคตะระเยอะเลย
“ซ่า”
เอาหล่ะไม่ต้องไปโรงอาหารแล้ว .... ฉันมองน้าโสโครกสีดำที่ถูกเทลงมาจากหน้าต่างชั้นบนอาคารที่หยดติ๋งๆ ลงมาแทบจะร้องไห้ซะให้ได้
“ เอ้ยหยง”
ไวกิ้งที่เดินเคียงข้างฉันมาอุทานอย่างตกใจ แต่มันไม่เปียกซักหยดนี่มันจงใจชัดๆ
“ ไวกิ้ง” T^T
ฉันเบ่ะปากจะร้องไห้ก่อนที่ไอ้ไวจะถอดสูทสีดำที่มันรักนักหนาให้ฉันคลุมเพราะว่าวันนี้ฉันดันอุตริถอดสูทไว้บนห้องและใส่แต่เชิตสีขาวลงมากินข้าวหน่ะสิ่ เสื้อเชิตสีขาวบางๆ จะสู้อะไรกับน้ำถูพื้นสีดำได้ หล่ะ
“ โอ๊ย ทำไงว้ะเนี่ยไปไปไปเปลี่ยนชุดที่ห้องกรรมการนักเรียนไป”
พูดจบอีตาไวกิ้งก็เปลี่ยนเป้าหมายจากการเข้าโรงอาหารพาฉันเดินอ้อมตึกไปด้านหลังฝ่ายปกครองซึ่งเป็นที่สิงสถิตของกรรมการนักเรียนแทน
‘ชีวิตฉันมันเกิดอะไรขึ้น’ T^T\
“ พี่ฟ่างครับพี่พอจะมีชุดที่ทิ้งไว้ในตู้ซักตัวไหม พอดีเพื่อนผมมันไปเล่นน้ำถูพื้นมาแฮ่ๆ “
ไวกิ้งเดินเข้าไปในห้องกรรมการนักเรียนพร้อมกับคุยกับพี่ผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งแต่งหน้าอยู่ที่โซฟา
“ มีจ้ะ เอน้องคนนี้น่าจะใส่ได้น้ะเดี๊ยวพี่หยิบให้”
พูดจบพี่ ‘ ฟ่าง ‘ ที่ไวกิ้งเรียกก็เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า หยิบผ้าขนหนูและชุดนักเรียนชุดใหม่มาและดุนหลังฉันให้เข้าห้องน้ำไป
“ฝากไว้ก่อนน้ะ ใครมันเสร่อเทน้าถูพื้นลงมาว้ะ”
เสียงไวกิ้งสบถดังลั่น ฉันอยู่ในห้องน้ายังแอบตกใจเลย แกห่วงฉัน หรือ เสียดายสูทแกจะเปื้อนหล่ะ T^T โด่ววว
“หยง อาบน้าเสร็จยังไปพบอาจาร์ยสงครามด้วย”
เสียงทุบเอ่อใช่คำนี้แหละ ประตูแทบหลุด ไวกิ้งเอ้ย -..- เสียงทุบประตูดังลั่นหลังจากฉันติดกระดุมเม็ดสุดท้ายเสร็จเรียบร้อยพอดี
“ เดี๊ยวก็ได้ไว มาจ้ะ หยงเดี๊ยวพี่ทำผมทำหน้าให้ใหม่น้ะนั่งๆ”
พี่ข้าวฟ่างโบกมือไล่ไวกิ้งก่อนที่จะจับฉันนั่งลงเอาไดร์มาเป่าๆผมให้แห้งทำนู่นทำนี่ไปเรื่อย
“ อาจารย์เรียกฉันพบทำไมไวกิ้ง”
“ มีคนไปรายงานเรื่องเมื่อกี้แล้ว อาจาร์ยกำลังให้คนไปตามตัวไอ้พวกเสร่อนั่นอยู่”
เอ่อน้ะ พวกเสร่อนั่น *-* ก็คงเป็นคนที่เทน้ำลงมาจากหน้าต่างนั่นแหละ
“ ทำให้เรื่องใหญ่โตไปได้”
“ใหญ่ตรงไหนหยง นั่นแค่น้ำถูพื้นถ้าวันอื่นฉันไม่เดินกับแก แกคงโดนดักตบไปแล้วหล่ะ ฮึ่ย”
“ โอเคไวกิ้งฉันยอมแก แต่ไม่ต้องบอกแม่ฉันน้ะได้ไหม “
“ได้ฉันจะไม่บอกแม่แก”
หลังจากพักรบกับไวกิ้งเรียบร้อยฉันก็ถูกลากพาเดินไปนั่งจุ่มตากแอร์เย็นเฉียบที่ห้องปกครองอยู่คนเดียว โดยที่ไวกิ้งไปเขียนใบอนุญาตลาเรียน
ให้ฉันเพื่อส่งอาจาร์ยประจำวิชาที่เหลืออีกเกือบ 5 คาบของฉัน-..-
“ปภาวรินทร์”
“ คะอาจารย์”
เสียงอาจารย์สงครามเรียกชื่อฉันจากด้านหลังทำให้ฉันหันไปมองทันที ปล่อยให้หนูนั่งแง่วอยู่คนเดียวน้ะคะอาจารย์ !
“ นั่งก่อนสิ่ ไหนเล่าซิ่เกิดอะไรขึ้น”
อาจารย์สงครามเรียกฉันเข้าไปนั่งในฉากสีขาวหม่นที่ปกติเขาก็นั่งทำงานอยู่พร้อมกับร่างสูงของไวกิ้งที่ตามมานั่งข้างๆฉัน
“ หนูไม่ทราบค่ะอาจารย์ว่าเกิดอะไรขึ้นจู่ๆก็มีเหตุการ์ณเกิดขึ้นกับหนู เมื่อเช้าตอน เดินเข้าโรงเรียน ผ่านตึก 1 ที่ไม่น่าจะมีคนกระถางต้นไม้ก็ร่วงใส่หนูโชคดีที่หนูเดินมากับ วิมุฒิค่ะ”
วิมุฒิก็คือ อีตาไวกิ้งที่พยักหน้าสมทบก่อนทำหน้าใช้ความคิดอย่างหนักและเสริมคำพูดของฉันขึ้นมา
“ถ้าผมไม่ดึงยัยนี่ออกมาหัวแบะไปแล้วครับอาจารย์ แต่ตึก 1 เป็นห้องผู้อำนวยการกับฝ่ายวิชาการ ส่วนด้านบนเป็นหอประชุมนะครับ”
“ใช่ ประเด็นนี้เราน่าจะดูจากกล้องวงจรปิดได้แล้วไงต่อเล่าซิ่”
“ เมื่อตอนเปลี่ยนอาคารเรียนค่ะตึก 6 ฝั่งสนามตระกร้อกระถางต้นไม้ก็หล่นลงมาอีกรอบ รอบนี้เฉียดไหล่หนูไปนิดเดียวเอง “
“ แล้วตอน เมื่อกี้ ตรง ตึก2 กระถางต้นไม้ก็หล่น ลงมา อีก พอเดินจะเข้าโรงอาหารคราวนี้ทั้งถังน้ำและน้ำถูพื้นค่ะอาจารย์”
“ ดีมาก ปภาวรินทร์ เอาหล่ะ แล้วเธอมีเรื่องอะไรหรือเปล่ากับคนพวกนั้น”
“ ไม่ค่ะอาจาร์ย หนูไม่ทราบ”
“ ดูนี่”
ว่าแล้วไอแพดของอาจารย์สงครามก็เลื่อนมาอยู่ตรงหน้าฉัน
‘ลือสนั่น ปั้นหยง ! ยัยขี้เหล่อ่อยพี่แม็กซั่ม’
และตามด้วยาพเมื่อวานที่พี่แม็กซั่มหยุดคุยกับฉัน 4 – 5 ชอต และตามด้วยคอมเมนต์ นับร้อย
‘ยัยขี้เหร่ อย่าบังอาจ’
‘ยัยเตี้ย’
‘นังขี้เหร่ แกไม่คู่ควร’ และบลาๆอีกมากมาย
“เอ่อ..”
ฉันได้แต่อึ้งกิมกี่กับรูปภาพบนเว็บบอร์ดของโรงเรียนลักษณะมุมการถ่ายนี้น่าจะถ่ายจากอีกฟาก
ถนนนึงจากป้ายรถเมล์ที่ฉันยืนอยู่
“ เลื่อนไปดูต่อสิ่ “
“ ค่ะ “
สิ้นเสียงบัญชาจากอาจารย์สงครามทำให้ฉันจำใจต้องเลื่อนหน้าจอเพื่อลงไปดูภาพด้านล่างต่อ
‘อ่อยอีกแล้ว ซ้อนรถกรรมการนักเรียนคิดว่าสวยป้ะ’
และรูปที่เมื่อวานฉันซ้อนรถไวกิ้ง เห้ยย ! ฉันซ้อนรถมันมาหลายปีแล้วจ้ะ อีหนู ฉันเลือกที่จะไม่เลื่อนลงดูคอมเมนต์ใต้ภาพต่อเพราะทำใจไม่ได้ เลยส่งยิ้มแหยๆให้อาจารย์สงครามแทน
“ คือ....”
“ โอเคอาจาร์ยเข้าใจ ไวกิ้งเราก็มีส่วนทำให้ปภาวรินทร์เจ็บตัวเหมือนกันงั้นช่วงนี้อาจาร์ยจะให้นายผลัดกับภาคินมาดูแลเขาจนกว่าเรื่องจะซาแล้วกันนะ”
“ ผมไม่มีปัญหาครับปกติผมก็อยู่กับเขาอยู่แล้ว แล้วอีกคนหล่ะครับใคร”
เหมือนรอคอยคำตอบห้องทั้งห้องเงียบกริบได้ยินแต่เสียงเครื่องปรับอากาศที่ส่งเสียงออกมา ฉันและไวกิ้งจ้องหน้าอาจารย์สงครามแทบจะไม่กระพริบตาเลยทีเดียว
“แม็กซ์ !! “
กร๊าซซซซซ ฟ้าสาปปป !! ถามฉันซักคำไหม ว่าฉันต้องการหรือเปล่า
“ คืออาจาร์ยคะหนูขอแค่วิมุฒิก็พอค่ะหนูเกรงใจพี่เขา “
ฉันส่งสายตาอ้อนวอนเล็กๆ ยิ่งฉันอยู่กับพี่เขาคราวหน้าไม่เจอน้ำกรดเลยเรอะสู้เป็นข่าวกับอีตาไวกิ้งซะจะปลอดภัยกว่าอีก
“ วิมุฒิเป็นกรรมการนักเรียนมีธุระต้องไปจัดการบ่อยให้ภาคินมาสลับเวรบ้างก็ดี เอาหล่ะเดี๊ยวอาจาร์ยจะเรียกภาคินมาพบอีกรอบเรา 2 คนไปกินข้าวเถอะยังไม่ได้กินไม่ใช่เหรอ”
“ค่ะ / ครับ”
ฉันจำใจต้องระเห็จออกมานอกห้องอาจาร์ยสงคราม และ ได้แต่เดินทำหน้าเซ็งโลกเท่าน้านนน
อาจารย์ไม่เข้าใจปั้นหยงคนนี้เล้ย !!
“ หยงเสื้อสูทกับกระเป๋านักเรียนแก ฉันเอามาให้แล้ว”
ไวกิ้งยืนเสื้อสูทที่พับอย่าสวยงาม ? กับกระเป๋าแฟบๆ ส่งมาให้ฉัน
“ ไม่ขึ้นเรียนแล้วหรอไว เหลืออีกตั้ง 2 คาบ”
“ ไม่หล่ะ ไปออกไปหาข้าวกินกันเดี๊ยวฉันส่งแกกลับบ้านเลย”
“ ออกได้หรอ นี่ ม. ต้นยังไม่เลิกเลย “
ฉันหันไปถามพร้อมกับยกนาฬิกาขึ้นมอง 2 โมงครึ่ง
“ ดูซะก่อนนี่ใคร “
ไวกิ้งชี้ไปที่ต้นแขนเขาที่มีปลอกแขนสีทองของกรรมการนักเรียนติดอยู่ยิ้มๆก่อนจะเดินนำฉันออกไป
ณ ที่เดิม ซอยหมาบิน ..
“ ไปไหนต่อไหมไวกิ้ง”
ฉันถามไวกิ้งขณะที่กำลังจ่ายเงินหลังจากพากันมาฟาดหอยทอดเป็นอาหารเที่ยงและเย็น
“ อื้มมม บ่ายสองครึ่ง ไปห้างกันป้ะ”
“ ไปแน่ถ้าแกเลี้ยงไอติมฉัน “
“ก็ได้ๆ “
และเสียงหัวเราะของฉันกับไวกิ้งก็ดังไปตลอดทางจนถึงห้าง “บิ๊กเอ”ห้างใหญ่ยักษ์แถบโรงเรียนปัญญาเลิศที่หลังเลิกเรียนจะมีเด็กๆมาเดินเล่นกันมากมาย โดยมีสายตาของเด็กปัญญาเลิศหลายๆคนมองมาด้วยความไม่หวังดี อีตาไวกิ้งนี่ก็อยู่ในขอบข่ายที่เรียกว่าหล่ออ้ะน้ะ แต่เมื่อก่อนฉันเดินกับมันไม่ให้จะเป็นไรเลย
“ ไวกิ้งที่แกชวนฉันมาเดินห้างเพราะว่าวันนี้เวรแกตรวจห้างหรือเปล่า ? ”
ฉันถามขณะที่อีตาไวกิ้งพาฉันเดินเกือบทุกชั้นและจดบันทึกเป็นระยะๆ
“ ถ้าตอบว่าใช่ล่ะ “
“โถ่ !! ไอ้ไวเพื่อนแกยังหลอกได้ลงคอ”
“หน่า หยวนๆ เดี๊ยวเลี้ยงไอติมน้ะหยง ไปไป ชั้นโรงหนังชั้นสุดท้ายแล้ว”
“ เออ”
ฉันกระแทกเสียงใส่มันก่อนจะเดินจูงมืดกันเดินขึ้นบันไดเลื่อนไป
“ อ้าวกรรมการนักเรียนโดดงานชวนแฟนมาเที่ยวห้างหรอ”
ศัตรูเก่าศัตรูแก่ของฉันเองแหละ เจ้ากรรมนายเวรของแท้เลยวุ้ย
“ พี่แม็กซ์ พี่บาส พี่ๆ หวัดดีค่ะ”
ฉันยกมือไหว้ทุกคนที่เดินมากลุ่มใหญ่กับพวกพี่แม็กซ์และพี่บาสโดยมีร้อยยิ้มใจละลายที่ทุกคนส่งมาให้
“ ผมมีเวรตรวจห้างน่ะ เลยพาหยงมาด้วย”
“ แล้วทำหน้าที่กรรมการนักเรียนโดยที่ไม่ทิ้งแฟน”
“เอ่อ..”
ฉันกับไวกิ้งได้แต่อ้าอึ้งกับตำแหน่งใหม่ที่พี่บาสแกยัดเยียดให้จนพี่แม็กซ์ต้องตัดบทเอง
“เอาหล่ะงั้นฉันไปก่อนแล้วกัน”
“ ครับ”
กลุ่มใหญ่ๆของพี่แม็กซ์เดินไปแล้วแต่ทำไมใจฉันมันเคว้งแบบนี้น้ะ สายตาเย็นชากับท่าทีไม่สนใจของเขามันไม่เหมือนเดิมเอาซะเลย เมือ่วานพี่เขายังทักทายชนิดสนิทสนมกับฉันอยู่เลย
“ ไปหยงฉันสรุปรายงานเสร็จแล้วไปกินไอติมกัน”
“ไม่อ้ะไวกลับบ้านเหอะ ฉันเหนื่อยแล้ว”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ