The Smile Devil นายปีศาจตัวร้ายกับยัยตัวเเสบ
เขียนโดย winter
วันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 10.04 น.
แก้ไขเมื่อ 15 มีนาคม พ.ศ. 2557 12.05 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) Chapter 5 ความจริงที่น่ากลัว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความChapter V
ความจริงที่น่ากลัว
บ้านหรูหลังแถวๆที่ฉันยืนอยู่นี่มันยังใหญ่ไม่พออีกเหรอ ท่าทางนายนี่จะรวยจริงๆแฮะ แต่ทำไมชอบแต่งตัวดูเรียบๆไม่เหมือแบบนักเรียนภายในโรงเรียนคนอื่นที่บ้านรวยๆนะ(ฉันคงติดหรูล่ะมั้งถึงคิดแต่แบบนี้) แต่ก็ช่างเขาไม่เกี่ยวกับเราซะหน่อย อีกอย่างฉันก็ยังติดหนี้บุญคุณเขาอยู่ด้วยสิ ไม่มาเยี่ยมก็เดี๋ยวหาว่าแร้งน้ำใจ
ฉันเดินมาหยุดตรงบ้านหลังสุดซอยและบ้านหลังนี้มีพื้นทีและอาณาบริเวณที่ดูแล้วมากกว่าหลังอื่นๆแถมตัวบ้านยังหลังใหญ่มากๆ คงใช่ล่ะมั้งเพราะมีหลังเดียวซะด้วยนะแถวๆนี้
ติ๊ง....ต่อง...
เสียงกริ่งของบ้านหลังใหญ่ที่คาดว่าคงเป็นบ้านนายเก็น แต่ไม่ยักกะมีใครมาเปิดให้นะกดเรียกนานแล้วนะ
“เฮ้!..ขอโทษนะคะ!..มีใครอยู่ไหม!...”
ฉันตะโกนเรียกหาคนภายในบ้าน แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากปลายทาง และลองโทรเข้าโทรศัพท์มือถือของเขาก็ไม่รับแถมปิดเครื่องหนีอีกจะเอาไงกันแน่อุตส่าห์มาเยี่ยมถึงบ้านเลยนะ เอางี้ละกัน ฉันตัดสินใจปีนข้ามรั้วบ้านหลังสุดหรูนั้นเขาไปร.ป.ภ.ค่ะอย่าพึ่งมาตรวงเอาตอนนี้นะ สภาพแบบนี้คงคิดว่าเราเป็นพวกย่องเบาได้เลยล่ะ เพราะไม่แน่ใจว่าจะใช่บ้านนายเก็นหรือเปล่าแถมไม่มีใครอนุญาตให้เข้าบ้านด้วยสิ โดนข้อหาบุกรุกแน่ๆถ้าโดนจับ
ฉันปีนเขามาจนได้สิ เพราะกำแพงไม่สูงเท่าไหร่ ภายในบริเวรบ้านเป็นสวนหย่อมมีดอกไม้สีสวย มีโรงเรือนกระจกด้วยสิคงปลูกพืชเมืองร้อนสินะ เพราะในเรือนกระจกค่อนข้างอบอุ่นเพราะมันเก็บความร้อนจากเเสงอาทิตย์ได้ บ้านหลังนี้ตัวบ้านค่อนข้างใหญ่เมือดูใกล้ๆ สูงราวๆสามชั้นได้ แถมกว้างกว่าที่คิดเอาไว้ ชั้นล่างติดกระจกทำให้เห็นภายในได้ชัดเจน มีทั้งตู้ปลา ตู้หนังสือ ห้องครัว ห้องนั่งเล่น น่าจะเป็นบ้านสไตล์ยุโรปนะสวยแบบนี้ ฉันให้คะแนนนายเพราะบ้านสวยซักสิบจากเต็มร้อยละกันนะ ฮุๆ
ฉันเดินสำรวจดูบ้านหลังใหญ่ไปเรื่อยๆจนถือวิสาสะแอบเข้าไปในตัวบ้าน ไม่เห็นมีใครอยู่เลยแฮะบ้านหลังใหญ่ขนาดนี้เขาไม่จ้างแม่บ้านหรือคนสวนหรือไงนะ และก็ขนาดฉันยังเขามาง่ายๆเลย ขโมยขึ้นทีไม่ยกไปเกลี้ยงเลยเหรอเนี่ย และฉันก็เดินสำรวจภายในไปเรื่อยๆ ฉันหันซ้ายหันขวา มองดูสิ่งของภายในบ้าน บนเพดานมีโคมไฟระย้าดูไฮโซ ยี้ห้อดังๆ ห้อยโตงเตงอยู่ หวังว่าไม่หล่นใส่หัวฉันนะ นายเก็นน่าจะอยู่ชั้นบนล่ะมั้ง ฉันเลยเดินขึ้นไปตามทางเดินจนถึงบันได แล้วค่อยเดินไปตามบันไดวนที่ดูหรูหราแบบฉบับของผู้ดี และเดินดูชั้นสองไปเรื่อยๆที่นี้หลายห้องจังเลยแฮะเปิดดูมันหมดทุกห้องล่ะกัน
ก๊อกๆ...
“มีใครอยู่ไหมคะ”
ฉันเคาะและพูดแบบนี้ไปเรื่อยๆทุกห้อง แต่ไม่มีเสียงตอบรับเลย ฉันเลยเปิดดูมันซะทุกห้องมันซะเลย ดูทีละห้อง ทีละห้อง ฉันเลยมาหยุดตรงห้องที่มีหนังสือเก่าๆและของโบราณมากมาย บ้านนายนี่คงจะชอบเก็บสะสมของเก่าล่ะมั้ง มีทั้งหอกของนักรบจีนโบราณ โล่ เครื่องประดับ จาน ชาม หม้อของเก่าๆแต่ดูสวยงามท่าทางจะแพงนะของพวกนี้ ฉันเดินสำรวจห้องนี้ไปเรื่อยๆและเจอกับ..ดาบนักรบโรมันโบราณที่ปักอยู่กับหิน คงไม่ใช่ดาบเอ็กคาริเบอร์นะฮึๆ ว่าแต่เราก็คิดไปทั่ว ของแบบนั้นมีแต่ในนิทานเท่านั้นแหละ ที่ว่าใครดึงออกมาได้จะได้รับพลังที่สยบมังกรและปีศาจชั้วร้ายได้ เพราะฟังเรื่องนี้จากพอฉันบ่อยจนฉันเพี้ยนไปแล้วล่ะมั้ง
ฉันยืนมองดาบนั้นอยู่นานพอสมควร ตามจริงก็อยากดึงออกมาเล่นอยู่หรอกนะแต่มันดันอยู่ในตู้โชว์กระจก ฉันเหลือบไปเห็นโต๊ะขนาดใหญ่ที่ดูแล้วน่าจะเป็นโต๊ะทำงานล่ะมั้งนะ เพราะมีเอกสารกองอยู่มากมายและ....เอ๊ะ กรอบรูป ฉันเลยหยิบขึ้นมาดู เป็นรูปถ่ายคู่ของชายหญิง ภาพของผู้ชายนั้นค้อนข่างเหมือนนายเก็นมากแต่มีผมสีดำใส่แว่นตาดูมีอายุนิดๆและผู้หญิงที่ยืนเคียงข้างนั้นก็ดูสวยมากๆ ผมสีน้ำตาลเหมือนนายเก็นดวงตาสีฟ้าแต่ดูแล้วเศร้าหมอง และแบ๊คกราวของรูปก็เป็น โบราณสถานที่ดูเก่าๆแต่ก็ทำให้เห็นถึงอารยะธรรมอะไรซักอย่างที่ดูสวยงาม และกรอบรูปอีกอันที่วางอยู่ข้างๆเป็นรูปของเด็กน่ารักมากๆคนหนึ่ง ผมสีน้ำตาล นัยน์ตาสีฟ้า ภาพนี้คงเป็นภาพนายเก็นตอนเด็กละสินะน่ารักกว่าตอนโตซะอีก แต่ภาพนี้แปลกแฮะเพราะภาพนายเก็นมีปีกสีเทาด้านหลังด้วย คงถ่ายตอนงานแฟนซีล่ะสิก็ดูน่ารักไปอีกแบบเหมือนกัน หวังว่านี่คงเป็นปีกปลอมนะ
ฉันออกจากห้องเก็บของโบราณนั้นแล้วเดินเคาะไปเรื่อยๆจนมาถึงห้องสุดท้ายตรงทางเดินถ้าห้องนี้ไม่มีใครอยู่อีกฉันต้องขอตัวกลับก่อนละนะ
ก๊อกๆ...
“มีใครอยู่ไหมคะ”
“ใคร???” มีเสียงตอบกลับด้วย แต่นี่เสียงนายเก็นนี่
“ฉันเอง นามิไง นายอยู่ในนั้นเหรอ”
“นามิเหรอ เธอมาทำไม” ว่าไงนะ
“อ้าวๆ ไหงพูดงี้ล่ะอุตส่าห์มาเยี่ยมนะด้วยความเป็นห่วงนะยะ”
“ฉันแค่ไม่สบาย พักผ่อนหน่อยเดี๋ยวก็หายกลับไปซะ” ชิกล้าไล้ฉันเหรอ
“เปิดประตูเดี๋ยวนี้เลยนะ!” ฉันพูดพร้อมๆกับบิดลูกบิดประตู
แกร็ก....
ประตูไม่ได้ล็อกแฮะ พอเปิดเขาไปข้างในก็พบว่าภายในห้องค่อนข้างมืด ไม่สิต้องบอกว่ามืดสุดๆ มืดจังทำไมไม่เปิดไฟหรือปิดผ้าม้านนะ
“นายอยู่ไหน มาพูดกันให้รู้เรื่องเดี๋ยวนี้นะ” ฉันพูดพร้อมคลำหาสวิทไฟ
“เธอเขามาทำไมออกไปนะ!”
“นายอยู่ไหน ออกมาเดี๋ยวนี้นะ กล้าไล้ฉันเหรอเดี๋ยวเห็นดีกัน”
“บอกให้กลับไปไง กลับไปซะ!!!”
“ไม่สมเฟ้ย!! ออกมาให้ฉันต่อยก่อนแล้ว ฉันจะกลับ”
“.........” เงียบไปแฮะกลัวโดนอัดละสิ
ฉันคลำหาสวิทไฟไปเรื่อยๆและจับโดนสิ่งของหลายๆอย่างในนั้นแต่ในนี้ให้ความรู้สึกว่าเหมือนฉันเดินเหยียบอะไรบ้างอย่างที่คล้ายขนนกนุ่มๆ และก็ เจอแล้วสวิทไฟ
“อ๊ะ..เจอแล้วสวิทไฟ”
“อย่าเปิดนะ!!!”
ไม่ทันซะแล้วล่ะ พอฉันเปิดไฟก็เป็นไปอย่างที่ฉันรู้สึก ฉันยืนอยู่ท่านกลางขนนกจริงๆด้วย เป็นขนนกสีเทาอ่อนๆ แล้วพอมองหานายเก็น ก็ต้อง
“กรี๊ดดดดด!!!!!”
ตกใจสุดขีด
ฉันร้องกรี๊ดลั่นเมื่อพบเก็นนอนอยู่บนเตียงในสภาพที่ดูซีดแบบสุดๆ แถมมีปีกสีเทาแผ่ปกคลุมตัวเขาไว้ดวงตาสีฟ้าเข้มกว่าที่เคยเห็น นี่ฉันไม่ได้ตาฝาดหรือฝันไปใช่ไหม
“ก็บอกแล้วไงให้เธอกลับไปไง!” เขาตวาดมาทำฉันสะดุ้ง
“นาย....ปีก....นายมันตัวอะไรน่ะ!”
“เอ่อ....คือ...”
เขาอ้ำอึ้งไม่ตอบ ฉันเลยถือโอกาสตอนเขาเผลอ ฉันเลยวิ่งออกจากห้องเขาแล้วลงบันไดไป แต่แปลกๆนะทำไมฉันมาอยู่ชั้นสองอีกล่ะแถมหน้าห้องเขาอีก
“ไม่ต้องหนีหรอก นามิ ฉันใช้เวทย์มนต์ทำให้ที่นี่เหมือนเขาวงกต ยังไงก็ออกไปไม่ได้หรอก”
“แล้วนายต้องการอะไร!”
“เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
“แต่ฉันไม่มี ปล่อยฉันออกไปจากที่นี่นะ!”
“เธอ..กลัวเหรอ เธอกลัวฉันเหรอ”
“ใครไม่กลัวก็บ้าแล้ว!”
ฉันหลับหูหลับตาวิ่งต่อไป แต่เขากลับมายืนอยู่ตรงหน้าทำให้ฉันผงะล้มทั้งยืน แต่เขาก็รวบตัวฉันไว้ได้ซะก่อน
“เก็น..อย่า...ทำอะไรฉันเลยนะฉันขอรองล่ะ”
“ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก แค่เธอฟังฉันก่อนนะ”
“กะ..ก็ได้แต่ปล่อยฉันก่อนนะ”
นายเก็นก็ปล่อยให้ฉันเป็นอิสระอีกครั้ง แต่ตอนนี้แหละ ฉันหันหลังวิ่งหนีจากเขาอีกครั้ง แต่เขาก็ปรากฏตัวตรงหน้าฉันอีกครั้งแต่คราวนี้ทำหน้าเหมือนคนเลือดเย็นซะด้วยสิ แย่ละนายนี่ฆ่าเราทิ้งจริงๆแน่ แต่ผิดคาด เขากลับมายิ้มอีกครั้งแล้วก็ ก้มลงประทับริมฝีปากสีชมพูของเขากับปากฉัน สองมือของเขากุมเอวและหลังฉันไว้หลวมๆเขาจูบฉันอยู่พักหนึ่งแล้วปล่อยฉันให้เป็นอิสระ แถมนี่จูบแรกของฉันนะเฟ้ยแต่ถึงยังไงฉันก็ยังกลัวปีกของเขาอยู่ดี แต่เขาจูบฉันทำไมนะ !*//////*
“ฟังฉันก่อนนะ”
ห้องรับแขก
เขาชงน้ำชามาให้ฉัน และนำมาเสริฟ และยังอ้ำอึ้งอยู่พักหนึ่ง แววตาเขาดูเศร้าแฮะหวังว่านายนี่จะไม่ทำร้ายเราแบบที่พูดไว้จริงๆอะนะ
“นี่มันเรื่องอะไรกันทำไมนายถึงได้...” ฉันอ้ำอึ้งก่อนพูดต่อ “มีปีกล่ะ”
“ก็อย่างที่เห็นเธอคิดว่า ฉันเป็นอะไรล่ะ” ไข้หวัดนกมั้ง ดูยังไงก็ไม่ใช่คนละกัน
“ปีศาจ” ฉันพูดลอยๆไป แต่นายนี่กลับยิ้มคงไม่ใช่มั้ง
“ถูกต้อง แต่ฉันเป็นแค่ครึ่งเดียว”
“ลูกครึ่งงั้นเหรอมันเป็นยังไงกัน”
“คือพ่อฉันเป็นมนุษย์ แต่....แม่ฉันเป็น..ปีศาจ ทำให้ฉันเป็นลูกครึ่งอย่างที่เห็น” สมันนี้มีปีศาจด้วยเหรอเนี่ย
“พ่อฉัน เป็นนักสำรวจอารยะธรรมโบราณ และเดินทางไปทั่วโลก และก็พบกับแม่ของฉันตอนนั้นแม่สูญเสียความทรงจำ พ่อฉันก็เกิดหลงรักเข้า เลยพากลับมาจากอารยะธรรมโบราณนั้น และไปอยู่ที่อเมริกา พ่อฉันเลยขอแม่ฉันแต่งงานแล้วก็....มีฉันนี่ไง” เขาพูดแล้วยิ้มเล็กน้อย
“ฉันจะเชื่อนายได้ยังไง” ฉันยังละแวงเขานิดๆ
“เรื่องจริงนะ ไม่เชื่อฉันหรือไง”
“ไม่รู้สิ”
“เชื่อไม่เชื่อเอาไว้ทีหลังละกัน ฟังต่อนะ หลังจากแม่ตั้งท้องฉัน แม่ก็ค่อยๆจำเรื่องราวได้ทีละหน่อย พ่อบอกว่าต่อฉันคลอดฉันก็มีปีกสีเทาติดมาด้วย ก็เลยรู้ว่าแม่ฉันเป็นปีศาจ พอดีฉันคลอดในป่า คนที่รู้ก็มีแต่พวกนักวิจัยกับนักสำรวจแบบพ่อเท่านั้นเลยปิดข่าวง่าย” ปิดข่าวเหรอหรือฆ่าปิดปากกัน ฉันกลัวนะ
“แล้วพ่อกับแม่นายละสบายดีไหม”
“พ่อฉันเดินทางสำรวจอารยะธรรมที่น่าจะเกี่ยวกับฉันต่อ ส่วนแม่...ท่านเสียตอนคลอดฉันได้แค่เดือนเดียวพ่อบอกว่างั้นนะ ว่าไงล่ะ นามิ”
“ว่าไง..อะไรของนาย” ฉันยังกลัวๆนายอยู่นะ
“เธอยังกลัวฉันอยู่อีกเหรอ”
“เปล่าๆ ใครว่าฉันกลัว”
“กลัวก็บอกมาเถอะ ฉันไม่โกรธเธอหรอก”
“ไม่โกรธจริงนะ..”
“อืม....”
“ใช่...ฉัน...กลัวนาย”T_T
“ก็แค่เนี่ย...” ไม่โกรธจริงแฮะ
เฮ้อ...ถ้าฉันเชื่อที่นายนี่บอกแต่แรกฉันคงไม่ต้องมารับรู้หรือ นั่งฟังเรื่องที่น่าเหลือเชื่อพวกนี้หรอก ว่าแต่นายนี่มาเข้าเรียนโรงเรียนเดียวกับเราเพราะอะไรกัน บังเอิญหรือตั้งใจ แต่เหตุผลอะไรก็ช่างเหอะรีบขอตัวกลับก่อนละกัน
“เอ่อ..นาย”
“จะกลับแล้วเหรออยู่คุยกันก่อนสิ”
“เอ่อ..”
พูดไม่ออกแฮะ นายนี่อ่านความคิดฉันได้จริงด้วยสิงั้นเขาก็รู้ทุกอย่างเลยสิว่าเราคิดอะไรแบบนี้มันขี้โกงชะมัด
“เธอทำอาหารเป็นไหม”
“อะไรน่ะ ทำอาหารเหรอ ก็เป็นนะสิ หรือว่านาย...” จะให้ฉันทำให้กินนะเหรอ
“ใช่...นะๆ ทำให้กินหน่อยสิ ไม่ได้กินอะไรมาเกือบอาทิตย์แล้ว หิวชะมัดเลย” เกือบอาทิตย์เลยเหรอ รอดมาได้ยังไง
“เอ่อ....ก็ได้ เสร็จแล้วฉันขอตัวกลับนะ”
“เดี๋ยวไปรอที่ห้องทานเขานะ”
สุดท้ายฉันก็ต้องทำอาหารให้นายนี่จนได้ แต่เอาเถอะอย่างน้อยเขาก็ไม่ทำอะไรฉันที่มารู้ความลับของเขา แต่ก็น่าแปลกนะทำไมตอนอยู่กับพวกฉันหรือในโรงเรียนถึงไม่เคยมีวี่แววว่าจะเห็นปีกเขาเลยแต่อยู่ๆ ปีกเขาถึงโผล่มาให้เห็นได้นะ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
แต่..มันก็ดีอยู่หรอกที่ของกินบ้านนี้มีเต็มตู้เลย ฉันไม่รู้ว่าจะทำอะไรให้เขาดี เลยทำข้าวผัดให้เขากินเพราะเป็นเมนูที่ทำง่ายที่สุดของฉัน หวังว่านายนั้นคงไม่หิวจนกินฉันแทนข้าวผัดนี่นะ นึกแล้วยังสยองไม่หาย
ฉันเอาข้าวผัดที่ทำเสร็จแล้วใส่จานและตกแต่งจานให้ดูน่ากินนิดๆ และทำความสะอาดครัวของเขาให้เรียบร้อย ว่าแต่เราทำไมเราต้องทำขนาดนี้นะ ปล่อยๆให้เขาตายๆไปซะก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ แต่ความเป็นคนของฉันก็ดันทำไม่ได้ แถมวันนั้นเขาก็เคยช่วยฉันจากวัยรุ่นพวกนั้นอีก งั้นก็ถือว่าตอบแทนบุญคุณเขาละกันนะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ