The Smile Devil นายปีศาจตัวร้ายกับยัยตัวเเสบ
9.7
เขียนโดย winter
วันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 10.04 น.
21 #
7 วิจารณ์
27.93K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 15 มีนาคม พ.ศ. 2557 12.05 น. โดย เจ้าของนิยาย
16) Chapter 16 ตำนานที่ไม่มีใครเคยรู้
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความChapter XVI
ตำนานที่ไม่มีใครเคยรู้
“ทำลายพรหมจรรย์เธอซะ” เสียงนี้ไม่ใช่เสียงพ่อหรือแม่ฉันนะแต่มันเป็นเสียงนายเรียว
“อะ....อะไรนะ*/////*” พูดจริงหรือเปล่าเนี่ย
“จริงเหรอเรียว” นายเก็นพูดขึ้น
จากนั้นหูฉันก็ไม่รับรู้เสียงรอบข่างที่เขาพูดคุยอีก นี่มันวิธีบ้าบออะไรกันล่ะเนี่ย รับประกันได้เลยว่าฉันไม่มีทางทำแบบนั้นแน่ ไม่มีวิธีที่ดีกว่าเอาความสาวของฉันไปสังเวยให้กับคนอื่นแล้วเหรอนี่ อยากจะร้องไห้เป็นภาษาอิตาลีจริงๆเลยแต่ไม่รู้ว่าร้องแบบไหนเดี๋ยวถามพ่อก่อนละกัน ฉันเหลือบไปมองนายเก็นนิดๆแล้วก็ต้องหันควับกลับทันที นายนี่มองฉันตาเยิ้มหยดย้อยเลย นี่นายคิดว่าฉันจะเลือกวิธีนี้เหรอไม่มีทางหรอกน่า
“ไม่สนใจวิธีนี้หน่อยเหรอนามิจัง” ไอ้บ้าเก็น *///*
“ไม่ต้องมามองเลยให้ตายก็ไม่ทำแบนั้นเด็ดขาด หรือว่านาย....”
“เปล่าๆไม่ได้คิดแบบนั้นซะหน่อย ฉันแค่ถามความเห็นเท่านั้นเอง”
“น่าเสียดายนะ ถ้านายยอมทำภารกิจนี้แทนฉันล่ะก็นายน่าจะเป็นฝ่ายดีใจมากเลยไม่ใช่เหรอ” นายเรียวพูดขึ้น
“นายว่ายังไงนะ!!!ภารกิจอะไรของนาย”
“คือ...พอดีพ่อให้เรียวเขามา....เอ่อ.....” พ่อฉันพ่อส่งนายนี่มาปกป้องฉันแล้วให้มาทำอะไรอีกล่ะ หรือว่า!!!
“พ่อเธอส่งฉันมาจัดการกับพรหมจรรย์เธอยังไงล่ะ หึ หึ หึ” นายเรียวพูดขึ้น O////O!!!
“ว่าไงนะ!!! นี่พ่อคะไม่โผล่หน้ามาให้หนูกับแม่เห็นหน้าตั้งเกือบสิบปีหนูไม่ว่าอะไรนะ แต่พ่อทำลายความคิดและความห่วงใยของหนูโดยส่งไอ้ตัวปากโฮ่งๆนี่มาเป็นสามีหนูเหรอค่ะ พ่อทำได้ยังไงเนี่ย!!!” ฉันฉุนสุดๆ
“ใจเย็นๆลูก ถ้าลูกไม่อยากทำแบบนั้นพ่อก็จะไม่ห้ามหรอก”
“เมื่อกี้เธอว่าใครปากโฮ่งๆกัน อยากโดนเชือดหรือไง” นายเรียวจ้องเขม่นมาที่ฉันทันที
“นามิจ๋า อย่าคิดมากเลยนะ เธอมีฉันอยู่ทั้งคนนะฉันไม่ปล่อยให้ไอ้เรียวมันทำบัดสีบัดเถลิงกับเธอหรอก” นายเก็นพูด
“หุบปากนายไปเลยนะเก็น ฉันรู้นะว่านายคิดยังไงอยู่อย่ามาพูดให้ดูดีไปหน่อยเลยน่า นายน่ะทำอะไรกับฉันไว้ฉันยังไม่ลืมนะ”
“ใจเย็นก่อนลูกพ่อขอโทษละกัน พ่อแค่หวังดีกับลูกเท่านั้นเอง”
“ค่ะขอบคุณความหวังดีนั้นมากเลยนะคะแต่ไม่เป็นไรหรอกคะ” ใจเย็นๆฉันยังใจเย็นไม่งั้นโดดงับหัวพ่อไม่แล้ว แฮ่..
“ว่าแต่เก็นคุงเขาทำอะไรลูกเหรอ” ตายล่ะหว่าโมโหจนหลุดปากเสียได้ถ้าบอกพ่อฉันว่าโดนนายนี่จูบหลายครั้งก็ มีหวังนายเก็นโดนพ่อฉันจับเชือดแบบตัวเมื่อตอนบ่ายแน่ๆ
“เปล่าคะไม่มีอะไร เล่าต่อเถอะคะ”
“งั้นเหรอ อืม...งั้นขอเล่าต่อล่ะนะบ้านเราน่ะนับถือศาสนาคริสต์สินะ”
“ค่ะ”
“แต่ศาสนาเราจริงๆคือศาสนาคริสต์ลัทธิอามากุสะ”
“อะไรนะคะ ลัทธิอามากุสะเหรอไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย” เกิดมาพึ่งเคยได้ยิน
“ศาสนาคริสต์ลัทธิอามากุสะ เป็นลัทธิที่หลอมรวมความเชื่อของทุกศาสนาเข้าด้วยกัน คำสอนต่างๆและมีทั้งทักษะการต่อสู้และเวทย์มนต์เพื่อที่จะใช้ปกป้องมนุษย์จากปีศาจร้ายมาตั้งแต่อดีตกาล”
“มิน่าล่ะคะ ทำไมพ่อถึงสอนแต่วิชาป้องกันตัวให้หนู”
“แล้วลูกยังสงสัยอะไรอีกไหมล่ะจะได้ตอบคำถามให้ครบตามที่ลูกอยากรู้อีก”
“อืม...พ่อแล้วต่อจากนี้จะทำยังไงต่อล่ะคะ”
“พ่อคิดว่าเราน่าจะทำตัวเป็นปกติไปก่อนล่ะกัน ถ้าหากปีศาจพวกนั้นยังจู่โจมลูกขึ้นเรื่อยๆล่ะก็เราค่อยหาที่หลบซ่อนตัวกัน” มองสถานการณ์และคาดเดาล่วงหน้าไม่เป็นหรือยังไงน่ะพ่อ
“แล้วที่โรงเรียนล่ะคะ”
“ลูกก็ไปเรียนตามปกติสิ” ปกติอีกแล้ว
“แล้วพ่อคิดว่ารับมือพวกมันไหวไหมคะ เห็นนายเรียวบอกว่าพวกมันเก่งมากหนูกลัวว่าจะ...”
“ไม่รู้สิ”
“ซะงั้น”
“ แต่ว่า...พ่อยังมีลูกน้องมือดีอีกเกือบสิบคนเห็นว่าพวกนั้นจะมาช่วยเป็นกำลังสนับสนุนให้เรา เห็นบอกว่าจะมาอาทิตย์หน้า” อาทิตย์หน้าเหรอ แล้วก็ถัดไปอีกอาทิตย์ก็จะถึงวันฮัลโลวีนแล้วนี่น่า
“ พวกนั้นเก่งไหมครับ” นายเก็นถามขึ้น
“เก่งสิ แต่น้อยกว่าฉันนะ” นายเรียวพูดแทรกแย่งพ่อฉันตอบแต่ดันตอบกวนซะได้เดี๋ยวก็มีเรื่องกันอีกหรอก
“ใครถาม?” จ้องกันใหญ่เลยอย่ากัดกันในบ้านฉันนะ!!!
“พอเถอะคะทั้งคู่” คุณซากุระพูดปารมไว้ทัน “คุณท่านคะแล้ว...” เธอหน้าแดงนิดๆ “คุณเทนโดคุงมาไหมคะ” แล้วเธอก็หลบสายตาจากพ่อและนายเก็น ทำไมล่ะ
“มาสิเขาต้องมาอยู่แล้วคู่หมั้นเขาอยู่นี่ทั้งคนนี่” พ่อตอบคุณซากุระ
แต่พอสังเกตแววตาเธอดูแล้วทำไมดูเศร้าจังถึงเธอจะยิ้มก็เหอะนะ เพราะผู้หญิงด้วยกันหรอกนะถึงดูออก หลังจากที่พ่อฉันพูดว่า คู่หมั้นออกมา คุณซากุระก็เศร้าขึ้นมาทันที เขาคงชอบนายเทนโดอะไรนั้นมากสินะถึงเป็นแบบนั้นได้
“พ่อคะ แล้วพลังของเลือดหนูมีผลแบบไหนต่อปีศาจบ้างล่ะคะ”
“ตามที่รู้มา เลือดของหนูมันมีทั้งประโยชน์และโทษนะ ถึงจะไม่แน่ชัดเจนก็ตามว่าให้โทษยังไง” มันชัดมากเลยนะคะสำหรับคนที่มีมันอยู่ในตัว
“แล้วทำไมผมถึงไม่ได้รับอิทธิพลจากเลือดของนามิล่ะครับ”
“อะไรนะ/อะไรนะ/อะไรนะ/อะไรนะ/อะไรนะ” ทุกคนในนั้นต่างพากันผสานเสียงพูดขึ้นพร้อมกัน
“นี่แกไม่ได้รับอิทธิพลจากเลือดยัยนี่เลยงั้นเหรอ?” นายเรียวถามขึ้น
“อืมก็จริงนะสิ”
“โกหกหรือเปล่านายเก็น” เหลือเชื่อมาก
“พูดจริงฉันไม่เคยโกหกเธอเลยนะ”
“เป็นไปได้ยากมากเลยนะคะที่ปีศาจอย่างคุณไม่ได้รับพลังจากเลือดคุณนามิเลย” คุณซากุระถามต่อ
“ก็มันไม่รู้สึกถึงพลังอะไรจากภายนอกที่มาจากนามิเลยนี่”
“ว่าแต่ เก็นคุงเป็นปีศาจงั้นเหรอ?”อันนี่แม่ฉันถาม
“คะ...ครับแม่ผมเป็น” เอาแล้วไงเป็นเรื่องเข้าแล้วสิแม่ฉันยังไม่รู้เรื่องเลยว่านายนี่เป็นตัวอะไร
“แล้วแม่เธอสบายดีไหม” พ่อฉันถาม
“สบายดีครับ ท่านไปสบายนานแล้วล่ะครับหลังคลอดผมแค่เดือนเดียวเอง ภาระเลยตกเป็นของพ่อผมคนเดียว” จากเมื่อครู่นายเก็นตอบด้วยสีหน้าที่ดีแต่พอพูดจบนายเก็นก็ทำหน้าเศร้าทันที
“เสียใจด้วยนะเก็นแต่ว่าเธอเป็นปีศาจแท้ๆทำไมไม่เกิดอาการกระหายเลือดเลยแสดงว่าเธอคงมีความเป็นมนุษย์มากกว่าปีศาจนะสินะ และก็เธอน่าจะเป็นลูกครึ่งสินะ”
“แล้วคุณรู้ได้ยังไงล่ะครับว่าผมเป็นแค่ครึ่งเดียว” นายเก็นย้อนถาม
“เพราะพ่อเธอเป็นมนุษย์ไม่ใช่เหรอ”
“ครับ นั้นสินะ จะว่าไปพ่อผมอยู่ส่วนไหนของโลกกันน้า....ไม่ติดต่อมาหลายเดือนแล้ว”
“น่าเป็นห่วงอยู่เหมือกันนะ เพราะฉันได้ข่าวมาว่าปีศาจพวกที่หลับใหลอยู่เริ่มคืนชีพขึ้นมาทำร้ายมนุษย์ ยิ่งแถวๆอเมริกากลางและยุโรปตอนเหนือล่ะก็ยิ่งเยอะมากๆเลย บางหมู่บ้านที่เคยไปสำรวจมา ปีศาจพวกนั้นกลายร่างเป็นมนุษย์และอาศัยอยู่ในหมู่บ้านนั้นๆแล้วโจมตีมนุษย์ที่หลงเข้าไปด้วยล่ะ”
“แล้วพ่อไม่เป็นอะไรเหรอค่ะ” ฉันถามดู
“พวกมันสร้างรอยขีดข่วนให้พ่อไม่ได้หรอก พ่อน่ะเก่งจะตาย ฮะ ฮะ ฮ่า” ชอบชมตัวเองเหมือนใครแถวๆนี้ชะมัด
“น่าสงสารพวกชาวบ้านพวกนั้นจัง”
“ทำใจเถอะนามิ ยังไงๆถ้าปีศาจยังไม่หมดไปจากโลก ยังไงก็ต้องมีการสูญเสียอยู่แล้วเป็นเรื่องธรรมดา แต่หน้าที่ของพ่อหรือชาวอามากุสะทุกคนก็แค่ ทำได้เพียงปกป้องมนุษย์จากปีศาจในมุมมืดเท่านั้นแหละ” หน้าที่ของพ่อฉันยิ่งใหญ่จริงๆ
“อีกไม่กี่วันแล้วนะที่เธอจะหลุดพ้นจากเรื่องยุ่งๆนี่” นายเก็นพูดขึ้นฉันทำได้แต่ยิ้มรับเทานั้น
“อืม....จริงสิแล้วพี่นานะล่ะคะ พี่ก็สืบเชื้อสายจากตระกูลแม่นี่คะ ทำไมพี่ถึงสบายๆชิวๆไม่เป็นเดือดเป็นร้อนเหมือนหนูเลยล่ะคะ” ฉันถามพ่อ แต่
“พี่เธอน่ะเหรอ ฉันว่าพี่เธอคงทำพิธีชำระล้างไปเรียบร้อยแล้วล่ะมั้ง รู้สึกว่าพี่เธอจะคบหาอยู่กับผู้ชายในบริษัทของเขาด้วยสิ เท่าที่ฉันสืบมา” นายเรียวดันตอบแทน
“หมายความว่าไง แล้วเมื่อกี้ใครถามนาย” พี่ทำพิธีนั้นแล้วเหรอ ยัยพี่บ้าเอาตัวรอดคนเดียวเลยนะ
“อยากตายก่อนฮัลโลวีนสินะ กวนโอ๊ยชะมัด” นายเรียวขู่หลังหยอดคำกวนๆไป
“เป็นไปได้สูงที่พี่สาวเธอจะทำพิธีบ้าๆนั้นไปแล้ว” นายเก็นพูดขึ้น นี่นายคิดว่าพี่ฉันเป็นคนยังไงล่ะเนี่ย
“แล้วถ้าสถานการณ์มันขับขันมากแล้วเราจะรับมือยังไงล่ะ” แม่ฉันถามขึ้น นั้นสิจะทำยังไง
“จำเกาะร้างที่ฉันพาเธอไปเที่ยวตอนวันเกิดของนานะอายุห้าขวบได้ไหมเนโกะ” ตอนพี่ฉันห้าขวบฉันยังไม่เกิดเลย
“ค่ะ จำได้ทำไมเหรอคะ”
“ไม่มีอะไรหรอก แค่จบเรื่องเราไปเที่ยวด้วยกันอีกนะ”
“ถ้ามันจบน่ะคะ”
พอพูดทิ้งท้ายจบ แม่และพ่อก็เดินออกจากห้องรับแขกไปถึงพวกท่านจะทำหน้าไม่ค่อยจะทุกข์ร้อนอะไรกันนักแต่ฉันก็พอรู้สึกได้ว่าพวกท่านยังห่วงใยฉันอยู่มาก ที่ไม่ทำหน้าเศร้ากับข่าวร้ายหรืออะไรก็ตามที่ฉันประสบพบเจออยู่ในตอนนี้ให้ฉันสบายใจสินะคะ แต่....ถ้าคิดในอีกแง่มุมหนึ่งแล้วที่พวกท่านไม่ค่อยทุกข์ร้อนเพราะพวกท่านไม่อยากให้ฉันลำบากใจไม่สบายใจหรือว่า...ไม่รู้สึกทุกข์ร้อนเรื่องฉันกันแน่นะ
“นี่เรียว...พอจะรู้บ้างไหม ทำไมตระกูลฉันถึงได้เจอเรื่องแบบนี้กันทั้งตระกูล”จู่ๆฉันก็พูดแทรกการสนทนา(การกัดกันซะมากกว่าของทั้งสามคน)ของนายเก็น เรียว และคุณซากุระ
“.....” เงียบ
“ไหงเงียบล่ะ”
“ก็ฉันนึกว่าเธอจะรู้แล้วซะอีก ว่าทำไมถึงเกิดเรื่องยุ่งยากน่ารำคราญกับตัวเธอ”
“ถ้าฉันรู้ฉันไม่ถามนายหรอก”
“งั้นก็ฉันจะเล่าให้ฟังละกัน”
“เล่าสิ”
นายเก็นคราวนี้มาแปลกแฮะทำไมยอมเล่าหรือตอบคำถามอะไรแบบนี้ง่ายๆซะได้น่าประหลาดใจสุดๆเลยแฮะเท่าที่เคยคุยกับนายนี่มา
“เคยได้ยินเรื่องเล่าไหม ว่าก่อนที่พระอิมานูเอลจะเกิดน่ะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง” ใครฟะ อิมานูเอล
“....???” เงียบคะไม่รู้
“เธอนับถือศาสนาอะไรฟะเนี่ย ชื่อศาสดาตัวเองแท้ๆดันไม่รู้จักเธอมันโง่หรือไม่ฉลาดกันแน่ฟะเนี่ย” เฮ้อ....ฉันมันโง่
“อย่าว่าที่รักของฉันว่าโง่สิ เธอแค่ไอคิวไม่ถึงร้อยเท่านั้นเอง..” เอาเขาไป ซ้ำเติมกันเข้าไป หนักกว่าโดนด่าว่าโง่ซะอีก
“ในบางตำนานน่ะนะ ก่อนที่พระบุตรของพระเจ้าจะมาจุติหรือบังเกิดอะไรนั้นน่ะพระเจ้าทรงทำอะไรบ้างล่ะ”
“อืม....ก็เท่าที่ฉันรู้ พระองค์ทรงให้ทูตสวรรค์มาหาพระแม่มารีย์ แล้วก็เธอก็ตั้งครรภ์ของพระเยซู” เท่าที่รู้ล่ะนะ
“ถูกต้อง มีสมองเหมือนกันนี่” สรุปฉันตอบได้หรือไม่ได้ก็โดดด่าว่าโง่งั้นเหรอน่าฆ่าเสียจริงนะนายเรียว
“แล้วไงต่อฉันจริงจังนะ”
“เธอคิดว่าทูตสวรรค์ที่พระเจ้าส่งลงมาเลือกสรรน่ะเขาจะเลือกแค่พระแม่มารีย์งั้นเหรอ” หมายความว่าไงกัน
“พระเจ้าไม่ได้เป็นคนเลือกเองหรอกเหรอ” นายเก็นพูดแทรกขึ้น
“ไม่รู้ มันก็แค่เรื่องเล่าของสำนักฉันเท่านั้น และก็นะ...”
“อะไรล่ะเล่ามาสิ” นายนี่อย่าหยุดให้ฉันอยากรู้สิ
“จะดีเหรอ....” ไอ้...!!!!
“คนที่ได้รับสืบทอดเลือดบริสุทธิ์แบบเธอน่ะไม่ได้มีแค่เธอคนเดียวนะ”
“ว่าไงนะไม่ได้มีแค่ฉันงั้นเหรอ....”
“ประเด็นจริงๆน่ะ มันไม่ได้เกี่ยวกับวันฮัลโลวีนสักเท่าไหร่หรอกนะ แต่วันนั้นมันแค่บังเอิญว่าประตูนรกมันเปิดนะสิ และก็เธอสังเกตหน่อยไหมว่าพระจันทร์ที่ส่องสว่างตอนมืดน่ะมันแปลกๆไป”
“ไม่ได้สังเกตย๊ะ นายยังไม่ได้ตอบเลยนะว่าที่บอกว่าไม่ได้มีแค่ฉันมันแปลว่าอะไร”
“เธอถามตอนไหนมิทราบกัน ยัยงั่ง” หนอยๆ ไอ้บ้า คำก็โง่สองคำก็งั้นนะฉันไม่ฉลาดเองที่คุยกับแบบนาย
“ตอนไหนก็ช่างบอกมา!”
“คนที่ได้รับสืบทอดเลือดแบบคุณมีทั้งหมด หนึ่งร้อยคน” คุณซากุระที่นั่งเงียบอยู่นานพูดขึ้น
“ร้อยคนเลยเหรอ งั้นทำไมมันเยอะขนาดนั้นเลยล่ะแล้วเขาเป็นยังไงบ้างล่ะพวกนายคุมครองเขาแล้วใช่ไหม”
“ถามมากจริง พวกเขาน่ะ...”
“ตายหมดแล้วล่ะ” นายเก็นพูดขึ้นบ้างแต่...
“นายว่ายังไงนะ!!!”
“พวกเขาตายหมดแล้วใช่ไหม” นายเก็นไม่ตอบแต่หันไปถามนายเรียว
“ถูกต้อง พวกเขาตายหมดแล้วล่ะ การล่าเลือดบริสุทธิ์น่ะ มันได้เริ่มมานานแล้ว ที่ฉันบอกตอนที่เจอกันที่โรงยิมไง สาวพรหมจรรย์คนไหนอายุครบสิบแปดเมื่อไหร่ล่ะก็ ถูกมันไล่ขย้ำทันที”
“แล้วทำไมที่สวนสนุกพวกมันมาโจมตีพวกฉันทำไมกัน”
“คงเป็นพวกโง่ๆล่ะมั้ง กินเธอไปมันช่วยอะไรไม่ได้หรอก แต่ก็เพิ่มพลังได้นิดหน่อยอยู่เหมือนกันนะ พวกมันคงอยากได้แค่พลังกับความหอมหวานของเลือดเนื้อเธอล่ะมั้ง”
“งั้นเหรอ แต่มันทำให้คนที่นั้นต้องมาตายเพราะฉันนะนายอย่าพูดเหมือนไม่ใช่เรื่องของนายสิมันต้องช่วยกันแก้ปัญหาสิ” นายเรียวยังคงทำหน้าไม่รู้สึกรู้ร้อนอะไร
“ช่วยไม่ได้นี่ก็เธอดันเหลือเป็นคนสุดท้ายนี่ ถึงบอกว่าพันปีมีครั้งแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าในหนึ่งพันปีจะมีแค่เธอนะรวมยายเธอ รวมแม่เธอ และเธอเข้าไป ตระกูลเธอก็มีคนสืบทอดเลือดนี่ ในพันปีนี้รวมเป็นสามคนในชั่วอายุของตระกูลฉันแล้วล่ะนะ แต่ละรุ่นของตระกูลเธอน่ะ นักล่าอย่างพวกเราๆตายไปไม่ใช่น้อยๆเลย ตายแค่สิบยี่สิบคนแค่นั้นยังน้อยไป”
“นายไม่เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเลยเหรอ”
“ฉันกับซากุระถูกฝึกมาให้เลือดเย็นอะนะ ไม่เสียใจกับอะไรง่ายๆ ไม่ใจอ่อนกับใครง่ายๆ และรักใครง่ายๆ” นายเรียวพูดขึ้นอย่างเรียบเฉย
“เหรอ....” นายเก็นพูด
“นายพูดแบบนั้นหมายความว่าไง” นายเรียวเริ่มหันมากัดกับนายเก็นซะแล้ว
“เมื่อกี้ฉันจำได้นะนะว่านายไม่ได้ชอบยัยนี่เพราะมีคนที่ชอบอยู่แล้ว” อืม...นั้นดิ เมื่อกี้ได้ยินแบบนั้นนี่
“เออ....คือ....” O///O
“ไหนบอกว่าไม่รักใครง่ายๆไง” ฉันพูดขึ้นหลังจากเห็นหน้านายเรียวเริ่มแดง นายนี่ชอบคนอื่นนอกจากตัวเองเป็นด้วยเหรอเนี่ย อิมพอสสิเบิล
“นั้นสิๆ ใครเหรอไอ้ตาขวาง” อะไรของนายเนี่ยเก็น?
“ไม่เกี่ยวกับแก่ไอ้ตาตั้ง” ตาตั้งเหรอ เจ้าพวกนี้ช่างสรรหาคำด่ากันเสียจริงนะ
“แล้วคุณซากุระพอรู้ไหมว่านายเรียวชอบใครอยู่” ฉันหันถามคุณซากุระดูแต่ทำให้นายเรียวหันขวับมาทำตาขวางใส่ทันที
“ยัย ซา กุ ระ” นายเรียวพูดเน้นทีละคำเพื่อขู่คุณซากุระแต่เธอยังคงยิ้มและดูไม่กลัวนายเรียวตาขวาง
“เมื่อกี้ พี่พูดเรื่องสวนตัวของฉันนะคะ ถ้าฉันพูดบ้างเราหายกัน” แต่คุณเธอซัดพี่ตัวเองลงไปกองเลยนี่ ยังไม่หายกันอีกเหรอเนี่ยแค้นฝังหุ่นรึไงกัน
“แต่คุณเธอซัดหน้าฉันจนลงไปกองกับพื้นเลยนี่ ยังไม่หายกันอีกเหรอเนี่ยแค้นฝังหุ่นรึไงกันแม่คุณ”นายก๊อปคำพูดของฉันมารึไงกันเนี่ย
“เรื่องนั้นมันก็เรื่องนั้น เรื่องนี้มันก็เรื่องนี้ ไม่เกี่ยวกันคะพี่” คุณซากุระยิ้มและหันมาคุยกับฉัน
“ใครคะ บอกมาหน่อยสิ” ฉันเอียงหูเข้าไปฟัง แต่นายเรียวพยายามขัดขวาง แถมยังอายหน้าแดงด้วย หึ หึ หึ มีเรื่องล้อนายนี่แล้วสิ
“อย่านะยัยน้องบ้า!!!” นายเรียวพยายามเข้ามาขัดขวางการให้ข้อมูลแต่นายเก็นล็อกตัวเอาไว้ ถึงจะดูเก่งแค่ไหนแต่ก็สู้แรงปีศาจแบบนายเก็นไม่ได้หรอก
“คนที่คุณฉันพี่แอบชอบคือ...” คือ *-*!!!!!
“อย่านะ!!!” ไม่สนเฟ้ยนายเรียว แต่จู่ๆก็มีเสียงเปิดประตูแล้วเดินเข้ามา และมีเสียงพูดทักพวกเราขึ้น
“มาอยู่ที่นี่กันนี่เองหาซะทั่วเลยนะพวกนาย”
ตำนานที่ไม่มีใครเคยรู้
“ทำลายพรหมจรรย์เธอซะ” เสียงนี้ไม่ใช่เสียงพ่อหรือแม่ฉันนะแต่มันเป็นเสียงนายเรียว
“อะ....อะไรนะ*/////*” พูดจริงหรือเปล่าเนี่ย
“จริงเหรอเรียว” นายเก็นพูดขึ้น
จากนั้นหูฉันก็ไม่รับรู้เสียงรอบข่างที่เขาพูดคุยอีก นี่มันวิธีบ้าบออะไรกันล่ะเนี่ย รับประกันได้เลยว่าฉันไม่มีทางทำแบบนั้นแน่ ไม่มีวิธีที่ดีกว่าเอาความสาวของฉันไปสังเวยให้กับคนอื่นแล้วเหรอนี่ อยากจะร้องไห้เป็นภาษาอิตาลีจริงๆเลยแต่ไม่รู้ว่าร้องแบบไหนเดี๋ยวถามพ่อก่อนละกัน ฉันเหลือบไปมองนายเก็นนิดๆแล้วก็ต้องหันควับกลับทันที นายนี่มองฉันตาเยิ้มหยดย้อยเลย นี่นายคิดว่าฉันจะเลือกวิธีนี้เหรอไม่มีทางหรอกน่า
“ไม่สนใจวิธีนี้หน่อยเหรอนามิจัง” ไอ้บ้าเก็น *///*
“ไม่ต้องมามองเลยให้ตายก็ไม่ทำแบนั้นเด็ดขาด หรือว่านาย....”
“เปล่าๆไม่ได้คิดแบบนั้นซะหน่อย ฉันแค่ถามความเห็นเท่านั้นเอง”
“น่าเสียดายนะ ถ้านายยอมทำภารกิจนี้แทนฉันล่ะก็นายน่าจะเป็นฝ่ายดีใจมากเลยไม่ใช่เหรอ” นายเรียวพูดขึ้น
“นายว่ายังไงนะ!!!ภารกิจอะไรของนาย”
“คือ...พอดีพ่อให้เรียวเขามา....เอ่อ.....” พ่อฉันพ่อส่งนายนี่มาปกป้องฉันแล้วให้มาทำอะไรอีกล่ะ หรือว่า!!!
“พ่อเธอส่งฉันมาจัดการกับพรหมจรรย์เธอยังไงล่ะ หึ หึ หึ” นายเรียวพูดขึ้น O////O!!!
“ว่าไงนะ!!! นี่พ่อคะไม่โผล่หน้ามาให้หนูกับแม่เห็นหน้าตั้งเกือบสิบปีหนูไม่ว่าอะไรนะ แต่พ่อทำลายความคิดและความห่วงใยของหนูโดยส่งไอ้ตัวปากโฮ่งๆนี่มาเป็นสามีหนูเหรอค่ะ พ่อทำได้ยังไงเนี่ย!!!” ฉันฉุนสุดๆ
“ใจเย็นๆลูก ถ้าลูกไม่อยากทำแบบนั้นพ่อก็จะไม่ห้ามหรอก”
“เมื่อกี้เธอว่าใครปากโฮ่งๆกัน อยากโดนเชือดหรือไง” นายเรียวจ้องเขม่นมาที่ฉันทันที
“นามิจ๋า อย่าคิดมากเลยนะ เธอมีฉันอยู่ทั้งคนนะฉันไม่ปล่อยให้ไอ้เรียวมันทำบัดสีบัดเถลิงกับเธอหรอก” นายเก็นพูด
“หุบปากนายไปเลยนะเก็น ฉันรู้นะว่านายคิดยังไงอยู่อย่ามาพูดให้ดูดีไปหน่อยเลยน่า นายน่ะทำอะไรกับฉันไว้ฉันยังไม่ลืมนะ”
“ใจเย็นก่อนลูกพ่อขอโทษละกัน พ่อแค่หวังดีกับลูกเท่านั้นเอง”
“ค่ะขอบคุณความหวังดีนั้นมากเลยนะคะแต่ไม่เป็นไรหรอกคะ” ใจเย็นๆฉันยังใจเย็นไม่งั้นโดดงับหัวพ่อไม่แล้ว แฮ่..
“ว่าแต่เก็นคุงเขาทำอะไรลูกเหรอ” ตายล่ะหว่าโมโหจนหลุดปากเสียได้ถ้าบอกพ่อฉันว่าโดนนายนี่จูบหลายครั้งก็ มีหวังนายเก็นโดนพ่อฉันจับเชือดแบบตัวเมื่อตอนบ่ายแน่ๆ
“เปล่าคะไม่มีอะไร เล่าต่อเถอะคะ”
“งั้นเหรอ อืม...งั้นขอเล่าต่อล่ะนะบ้านเราน่ะนับถือศาสนาคริสต์สินะ”
“ค่ะ”
“แต่ศาสนาเราจริงๆคือศาสนาคริสต์ลัทธิอามากุสะ”
“อะไรนะคะ ลัทธิอามากุสะเหรอไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย” เกิดมาพึ่งเคยได้ยิน
“ศาสนาคริสต์ลัทธิอามากุสะ เป็นลัทธิที่หลอมรวมความเชื่อของทุกศาสนาเข้าด้วยกัน คำสอนต่างๆและมีทั้งทักษะการต่อสู้และเวทย์มนต์เพื่อที่จะใช้ปกป้องมนุษย์จากปีศาจร้ายมาตั้งแต่อดีตกาล”
“มิน่าล่ะคะ ทำไมพ่อถึงสอนแต่วิชาป้องกันตัวให้หนู”
“แล้วลูกยังสงสัยอะไรอีกไหมล่ะจะได้ตอบคำถามให้ครบตามที่ลูกอยากรู้อีก”
“อืม...พ่อแล้วต่อจากนี้จะทำยังไงต่อล่ะคะ”
“พ่อคิดว่าเราน่าจะทำตัวเป็นปกติไปก่อนล่ะกัน ถ้าหากปีศาจพวกนั้นยังจู่โจมลูกขึ้นเรื่อยๆล่ะก็เราค่อยหาที่หลบซ่อนตัวกัน” มองสถานการณ์และคาดเดาล่วงหน้าไม่เป็นหรือยังไงน่ะพ่อ
“แล้วที่โรงเรียนล่ะคะ”
“ลูกก็ไปเรียนตามปกติสิ” ปกติอีกแล้ว
“แล้วพ่อคิดว่ารับมือพวกมันไหวไหมคะ เห็นนายเรียวบอกว่าพวกมันเก่งมากหนูกลัวว่าจะ...”
“ไม่รู้สิ”
“ซะงั้น”
“ แต่ว่า...พ่อยังมีลูกน้องมือดีอีกเกือบสิบคนเห็นว่าพวกนั้นจะมาช่วยเป็นกำลังสนับสนุนให้เรา เห็นบอกว่าจะมาอาทิตย์หน้า” อาทิตย์หน้าเหรอ แล้วก็ถัดไปอีกอาทิตย์ก็จะถึงวันฮัลโลวีนแล้วนี่น่า
“ พวกนั้นเก่งไหมครับ” นายเก็นถามขึ้น
“เก่งสิ แต่น้อยกว่าฉันนะ” นายเรียวพูดแทรกแย่งพ่อฉันตอบแต่ดันตอบกวนซะได้เดี๋ยวก็มีเรื่องกันอีกหรอก
“ใครถาม?” จ้องกันใหญ่เลยอย่ากัดกันในบ้านฉันนะ!!!
“พอเถอะคะทั้งคู่” คุณซากุระพูดปารมไว้ทัน “คุณท่านคะแล้ว...” เธอหน้าแดงนิดๆ “คุณเทนโดคุงมาไหมคะ” แล้วเธอก็หลบสายตาจากพ่อและนายเก็น ทำไมล่ะ
“มาสิเขาต้องมาอยู่แล้วคู่หมั้นเขาอยู่นี่ทั้งคนนี่” พ่อตอบคุณซากุระ
แต่พอสังเกตแววตาเธอดูแล้วทำไมดูเศร้าจังถึงเธอจะยิ้มก็เหอะนะ เพราะผู้หญิงด้วยกันหรอกนะถึงดูออก หลังจากที่พ่อฉันพูดว่า คู่หมั้นออกมา คุณซากุระก็เศร้าขึ้นมาทันที เขาคงชอบนายเทนโดอะไรนั้นมากสินะถึงเป็นแบบนั้นได้
“พ่อคะ แล้วพลังของเลือดหนูมีผลแบบไหนต่อปีศาจบ้างล่ะคะ”
“ตามที่รู้มา เลือดของหนูมันมีทั้งประโยชน์และโทษนะ ถึงจะไม่แน่ชัดเจนก็ตามว่าให้โทษยังไง” มันชัดมากเลยนะคะสำหรับคนที่มีมันอยู่ในตัว
“แล้วทำไมผมถึงไม่ได้รับอิทธิพลจากเลือดของนามิล่ะครับ”
“อะไรนะ/อะไรนะ/อะไรนะ/อะไรนะ/อะไรนะ” ทุกคนในนั้นต่างพากันผสานเสียงพูดขึ้นพร้อมกัน
“นี่แกไม่ได้รับอิทธิพลจากเลือดยัยนี่เลยงั้นเหรอ?” นายเรียวถามขึ้น
“อืมก็จริงนะสิ”
“โกหกหรือเปล่านายเก็น” เหลือเชื่อมาก
“พูดจริงฉันไม่เคยโกหกเธอเลยนะ”
“เป็นไปได้ยากมากเลยนะคะที่ปีศาจอย่างคุณไม่ได้รับพลังจากเลือดคุณนามิเลย” คุณซากุระถามต่อ
“ก็มันไม่รู้สึกถึงพลังอะไรจากภายนอกที่มาจากนามิเลยนี่”
“ว่าแต่ เก็นคุงเป็นปีศาจงั้นเหรอ?”อันนี่แม่ฉันถาม
“คะ...ครับแม่ผมเป็น” เอาแล้วไงเป็นเรื่องเข้าแล้วสิแม่ฉันยังไม่รู้เรื่องเลยว่านายนี่เป็นตัวอะไร
“แล้วแม่เธอสบายดีไหม” พ่อฉันถาม
“สบายดีครับ ท่านไปสบายนานแล้วล่ะครับหลังคลอดผมแค่เดือนเดียวเอง ภาระเลยตกเป็นของพ่อผมคนเดียว” จากเมื่อครู่นายเก็นตอบด้วยสีหน้าที่ดีแต่พอพูดจบนายเก็นก็ทำหน้าเศร้าทันที
“เสียใจด้วยนะเก็นแต่ว่าเธอเป็นปีศาจแท้ๆทำไมไม่เกิดอาการกระหายเลือดเลยแสดงว่าเธอคงมีความเป็นมนุษย์มากกว่าปีศาจนะสินะ และก็เธอน่าจะเป็นลูกครึ่งสินะ”
“แล้วคุณรู้ได้ยังไงล่ะครับว่าผมเป็นแค่ครึ่งเดียว” นายเก็นย้อนถาม
“เพราะพ่อเธอเป็นมนุษย์ไม่ใช่เหรอ”
“ครับ นั้นสินะ จะว่าไปพ่อผมอยู่ส่วนไหนของโลกกันน้า....ไม่ติดต่อมาหลายเดือนแล้ว”
“น่าเป็นห่วงอยู่เหมือกันนะ เพราะฉันได้ข่าวมาว่าปีศาจพวกที่หลับใหลอยู่เริ่มคืนชีพขึ้นมาทำร้ายมนุษย์ ยิ่งแถวๆอเมริกากลางและยุโรปตอนเหนือล่ะก็ยิ่งเยอะมากๆเลย บางหมู่บ้านที่เคยไปสำรวจมา ปีศาจพวกนั้นกลายร่างเป็นมนุษย์และอาศัยอยู่ในหมู่บ้านนั้นๆแล้วโจมตีมนุษย์ที่หลงเข้าไปด้วยล่ะ”
“แล้วพ่อไม่เป็นอะไรเหรอค่ะ” ฉันถามดู
“พวกมันสร้างรอยขีดข่วนให้พ่อไม่ได้หรอก พ่อน่ะเก่งจะตาย ฮะ ฮะ ฮ่า” ชอบชมตัวเองเหมือนใครแถวๆนี้ชะมัด
“น่าสงสารพวกชาวบ้านพวกนั้นจัง”
“ทำใจเถอะนามิ ยังไงๆถ้าปีศาจยังไม่หมดไปจากโลก ยังไงก็ต้องมีการสูญเสียอยู่แล้วเป็นเรื่องธรรมดา แต่หน้าที่ของพ่อหรือชาวอามากุสะทุกคนก็แค่ ทำได้เพียงปกป้องมนุษย์จากปีศาจในมุมมืดเท่านั้นแหละ” หน้าที่ของพ่อฉันยิ่งใหญ่จริงๆ
“อีกไม่กี่วันแล้วนะที่เธอจะหลุดพ้นจากเรื่องยุ่งๆนี่” นายเก็นพูดขึ้นฉันทำได้แต่ยิ้มรับเทานั้น
“อืม....จริงสิแล้วพี่นานะล่ะคะ พี่ก็สืบเชื้อสายจากตระกูลแม่นี่คะ ทำไมพี่ถึงสบายๆชิวๆไม่เป็นเดือดเป็นร้อนเหมือนหนูเลยล่ะคะ” ฉันถามพ่อ แต่
“พี่เธอน่ะเหรอ ฉันว่าพี่เธอคงทำพิธีชำระล้างไปเรียบร้อยแล้วล่ะมั้ง รู้สึกว่าพี่เธอจะคบหาอยู่กับผู้ชายในบริษัทของเขาด้วยสิ เท่าที่ฉันสืบมา” นายเรียวดันตอบแทน
“หมายความว่าไง แล้วเมื่อกี้ใครถามนาย” พี่ทำพิธีนั้นแล้วเหรอ ยัยพี่บ้าเอาตัวรอดคนเดียวเลยนะ
“อยากตายก่อนฮัลโลวีนสินะ กวนโอ๊ยชะมัด” นายเรียวขู่หลังหยอดคำกวนๆไป
“เป็นไปได้สูงที่พี่สาวเธอจะทำพิธีบ้าๆนั้นไปแล้ว” นายเก็นพูดขึ้น นี่นายคิดว่าพี่ฉันเป็นคนยังไงล่ะเนี่ย
“แล้วถ้าสถานการณ์มันขับขันมากแล้วเราจะรับมือยังไงล่ะ” แม่ฉันถามขึ้น นั้นสิจะทำยังไง
“จำเกาะร้างที่ฉันพาเธอไปเที่ยวตอนวันเกิดของนานะอายุห้าขวบได้ไหมเนโกะ” ตอนพี่ฉันห้าขวบฉันยังไม่เกิดเลย
“ค่ะ จำได้ทำไมเหรอคะ”
“ไม่มีอะไรหรอก แค่จบเรื่องเราไปเที่ยวด้วยกันอีกนะ”
“ถ้ามันจบน่ะคะ”
พอพูดทิ้งท้ายจบ แม่และพ่อก็เดินออกจากห้องรับแขกไปถึงพวกท่านจะทำหน้าไม่ค่อยจะทุกข์ร้อนอะไรกันนักแต่ฉันก็พอรู้สึกได้ว่าพวกท่านยังห่วงใยฉันอยู่มาก ที่ไม่ทำหน้าเศร้ากับข่าวร้ายหรืออะไรก็ตามที่ฉันประสบพบเจออยู่ในตอนนี้ให้ฉันสบายใจสินะคะ แต่....ถ้าคิดในอีกแง่มุมหนึ่งแล้วที่พวกท่านไม่ค่อยทุกข์ร้อนเพราะพวกท่านไม่อยากให้ฉันลำบากใจไม่สบายใจหรือว่า...ไม่รู้สึกทุกข์ร้อนเรื่องฉันกันแน่นะ
“นี่เรียว...พอจะรู้บ้างไหม ทำไมตระกูลฉันถึงได้เจอเรื่องแบบนี้กันทั้งตระกูล”จู่ๆฉันก็พูดแทรกการสนทนา(การกัดกันซะมากกว่าของทั้งสามคน)ของนายเก็น เรียว และคุณซากุระ
“.....” เงียบ
“ไหงเงียบล่ะ”
“ก็ฉันนึกว่าเธอจะรู้แล้วซะอีก ว่าทำไมถึงเกิดเรื่องยุ่งยากน่ารำคราญกับตัวเธอ”
“ถ้าฉันรู้ฉันไม่ถามนายหรอก”
“งั้นก็ฉันจะเล่าให้ฟังละกัน”
“เล่าสิ”
นายเก็นคราวนี้มาแปลกแฮะทำไมยอมเล่าหรือตอบคำถามอะไรแบบนี้ง่ายๆซะได้น่าประหลาดใจสุดๆเลยแฮะเท่าที่เคยคุยกับนายนี่มา
“เคยได้ยินเรื่องเล่าไหม ว่าก่อนที่พระอิมานูเอลจะเกิดน่ะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง” ใครฟะ อิมานูเอล
“....???” เงียบคะไม่รู้
“เธอนับถือศาสนาอะไรฟะเนี่ย ชื่อศาสดาตัวเองแท้ๆดันไม่รู้จักเธอมันโง่หรือไม่ฉลาดกันแน่ฟะเนี่ย” เฮ้อ....ฉันมันโง่
“อย่าว่าที่รักของฉันว่าโง่สิ เธอแค่ไอคิวไม่ถึงร้อยเท่านั้นเอง..” เอาเขาไป ซ้ำเติมกันเข้าไป หนักกว่าโดนด่าว่าโง่ซะอีก
“ในบางตำนานน่ะนะ ก่อนที่พระบุตรของพระเจ้าจะมาจุติหรือบังเกิดอะไรนั้นน่ะพระเจ้าทรงทำอะไรบ้างล่ะ”
“อืม....ก็เท่าที่ฉันรู้ พระองค์ทรงให้ทูตสวรรค์มาหาพระแม่มารีย์ แล้วก็เธอก็ตั้งครรภ์ของพระเยซู” เท่าที่รู้ล่ะนะ
“ถูกต้อง มีสมองเหมือนกันนี่” สรุปฉันตอบได้หรือไม่ได้ก็โดดด่าว่าโง่งั้นเหรอน่าฆ่าเสียจริงนะนายเรียว
“แล้วไงต่อฉันจริงจังนะ”
“เธอคิดว่าทูตสวรรค์ที่พระเจ้าส่งลงมาเลือกสรรน่ะเขาจะเลือกแค่พระแม่มารีย์งั้นเหรอ” หมายความว่าไงกัน
“พระเจ้าไม่ได้เป็นคนเลือกเองหรอกเหรอ” นายเก็นพูดแทรกขึ้น
“ไม่รู้ มันก็แค่เรื่องเล่าของสำนักฉันเท่านั้น และก็นะ...”
“อะไรล่ะเล่ามาสิ” นายนี่อย่าหยุดให้ฉันอยากรู้สิ
“จะดีเหรอ....” ไอ้...!!!!
“คนที่ได้รับสืบทอดเลือดบริสุทธิ์แบบเธอน่ะไม่ได้มีแค่เธอคนเดียวนะ”
“ว่าไงนะไม่ได้มีแค่ฉันงั้นเหรอ....”
“ประเด็นจริงๆน่ะ มันไม่ได้เกี่ยวกับวันฮัลโลวีนสักเท่าไหร่หรอกนะ แต่วันนั้นมันแค่บังเอิญว่าประตูนรกมันเปิดนะสิ และก็เธอสังเกตหน่อยไหมว่าพระจันทร์ที่ส่องสว่างตอนมืดน่ะมันแปลกๆไป”
“ไม่ได้สังเกตย๊ะ นายยังไม่ได้ตอบเลยนะว่าที่บอกว่าไม่ได้มีแค่ฉันมันแปลว่าอะไร”
“เธอถามตอนไหนมิทราบกัน ยัยงั่ง” หนอยๆ ไอ้บ้า คำก็โง่สองคำก็งั้นนะฉันไม่ฉลาดเองที่คุยกับแบบนาย
“ตอนไหนก็ช่างบอกมา!”
“คนที่ได้รับสืบทอดเลือดแบบคุณมีทั้งหมด หนึ่งร้อยคน” คุณซากุระที่นั่งเงียบอยู่นานพูดขึ้น
“ร้อยคนเลยเหรอ งั้นทำไมมันเยอะขนาดนั้นเลยล่ะแล้วเขาเป็นยังไงบ้างล่ะพวกนายคุมครองเขาแล้วใช่ไหม”
“ถามมากจริง พวกเขาน่ะ...”
“ตายหมดแล้วล่ะ” นายเก็นพูดขึ้นบ้างแต่...
“นายว่ายังไงนะ!!!”
“พวกเขาตายหมดแล้วใช่ไหม” นายเก็นไม่ตอบแต่หันไปถามนายเรียว
“ถูกต้อง พวกเขาตายหมดแล้วล่ะ การล่าเลือดบริสุทธิ์น่ะ มันได้เริ่มมานานแล้ว ที่ฉันบอกตอนที่เจอกันที่โรงยิมไง สาวพรหมจรรย์คนไหนอายุครบสิบแปดเมื่อไหร่ล่ะก็ ถูกมันไล่ขย้ำทันที”
“แล้วทำไมที่สวนสนุกพวกมันมาโจมตีพวกฉันทำไมกัน”
“คงเป็นพวกโง่ๆล่ะมั้ง กินเธอไปมันช่วยอะไรไม่ได้หรอก แต่ก็เพิ่มพลังได้นิดหน่อยอยู่เหมือนกันนะ พวกมันคงอยากได้แค่พลังกับความหอมหวานของเลือดเนื้อเธอล่ะมั้ง”
“งั้นเหรอ แต่มันทำให้คนที่นั้นต้องมาตายเพราะฉันนะนายอย่าพูดเหมือนไม่ใช่เรื่องของนายสิมันต้องช่วยกันแก้ปัญหาสิ” นายเรียวยังคงทำหน้าไม่รู้สึกรู้ร้อนอะไร
“ช่วยไม่ได้นี่ก็เธอดันเหลือเป็นคนสุดท้ายนี่ ถึงบอกว่าพันปีมีครั้งแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าในหนึ่งพันปีจะมีแค่เธอนะรวมยายเธอ รวมแม่เธอ และเธอเข้าไป ตระกูลเธอก็มีคนสืบทอดเลือดนี่ ในพันปีนี้รวมเป็นสามคนในชั่วอายุของตระกูลฉันแล้วล่ะนะ แต่ละรุ่นของตระกูลเธอน่ะ นักล่าอย่างพวกเราๆตายไปไม่ใช่น้อยๆเลย ตายแค่สิบยี่สิบคนแค่นั้นยังน้อยไป”
“นายไม่เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเลยเหรอ”
“ฉันกับซากุระถูกฝึกมาให้เลือดเย็นอะนะ ไม่เสียใจกับอะไรง่ายๆ ไม่ใจอ่อนกับใครง่ายๆ และรักใครง่ายๆ” นายเรียวพูดขึ้นอย่างเรียบเฉย
“เหรอ....” นายเก็นพูด
“นายพูดแบบนั้นหมายความว่าไง” นายเรียวเริ่มหันมากัดกับนายเก็นซะแล้ว
“เมื่อกี้ฉันจำได้นะนะว่านายไม่ได้ชอบยัยนี่เพราะมีคนที่ชอบอยู่แล้ว” อืม...นั้นดิ เมื่อกี้ได้ยินแบบนั้นนี่
“เออ....คือ....” O///O
“ไหนบอกว่าไม่รักใครง่ายๆไง” ฉันพูดขึ้นหลังจากเห็นหน้านายเรียวเริ่มแดง นายนี่ชอบคนอื่นนอกจากตัวเองเป็นด้วยเหรอเนี่ย อิมพอสสิเบิล
“นั้นสิๆ ใครเหรอไอ้ตาขวาง” อะไรของนายเนี่ยเก็น?
“ไม่เกี่ยวกับแก่ไอ้ตาตั้ง” ตาตั้งเหรอ เจ้าพวกนี้ช่างสรรหาคำด่ากันเสียจริงนะ
“แล้วคุณซากุระพอรู้ไหมว่านายเรียวชอบใครอยู่” ฉันหันถามคุณซากุระดูแต่ทำให้นายเรียวหันขวับมาทำตาขวางใส่ทันที
“ยัย ซา กุ ระ” นายเรียวพูดเน้นทีละคำเพื่อขู่คุณซากุระแต่เธอยังคงยิ้มและดูไม่กลัวนายเรียวตาขวาง
“เมื่อกี้ พี่พูดเรื่องสวนตัวของฉันนะคะ ถ้าฉันพูดบ้างเราหายกัน” แต่คุณเธอซัดพี่ตัวเองลงไปกองเลยนี่ ยังไม่หายกันอีกเหรอเนี่ยแค้นฝังหุ่นรึไงกัน
“แต่คุณเธอซัดหน้าฉันจนลงไปกองกับพื้นเลยนี่ ยังไม่หายกันอีกเหรอเนี่ยแค้นฝังหุ่นรึไงกันแม่คุณ”นายก๊อปคำพูดของฉันมารึไงกันเนี่ย
“เรื่องนั้นมันก็เรื่องนั้น เรื่องนี้มันก็เรื่องนี้ ไม่เกี่ยวกันคะพี่” คุณซากุระยิ้มและหันมาคุยกับฉัน
“ใครคะ บอกมาหน่อยสิ” ฉันเอียงหูเข้าไปฟัง แต่นายเรียวพยายามขัดขวาง แถมยังอายหน้าแดงด้วย หึ หึ หึ มีเรื่องล้อนายนี่แล้วสิ
“อย่านะยัยน้องบ้า!!!” นายเรียวพยายามเข้ามาขัดขวางการให้ข้อมูลแต่นายเก็นล็อกตัวเอาไว้ ถึงจะดูเก่งแค่ไหนแต่ก็สู้แรงปีศาจแบบนายเก็นไม่ได้หรอก
“คนที่คุณฉันพี่แอบชอบคือ...” คือ *-*!!!!!
“อย่านะ!!!” ไม่สนเฟ้ยนายเรียว แต่จู่ๆก็มีเสียงเปิดประตูแล้วเดินเข้ามา และมีเสียงพูดทักพวกเราขึ้น
“มาอยู่ที่นี่กันนี่เองหาซะทั่วเลยนะพวกนาย”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.6 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ