The Smile Devil นายปีศาจตัวร้ายกับยัยตัวเเสบ
9.7
เขียนโดย winter
วันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 10.04 น.
21 #
7 วิจารณ์
27.96K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 15 มีนาคม พ.ศ. 2557 12.05 น. โดย เจ้าของนิยาย
15) Chapter 15 ความจริงของครอบครัว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความChapter XV
ความจริงของครอบครัว
ตึง!!
เสียงเหมือนอะไรบางอย่างดังขึ้นบริเวณห้องกินข้าว พอฉันยกหม้อออกจากเตาแล้วเดินออกจากครัวไปดูก็พบว่า นายเก็นกับนายเรียวกำลังงัดข้อกันเสียงดังโครมคราม เจ้าบ้าพวกนี้นี่บ้าพลังกันเสียจริง มันน่าจับลงแข่งมวยปล้ำซะให้เข็ด แต่คิดดูอีกทีจะมีซักกี่ชีวิตก็คงไม่มีใครเอาชนะเจ้าพวกนี้ได้หรอกมั้ง
ตึง!
หลังมือของนายเรียวถูกกดลงบนโต๊ะดังไปทั่วห้อง ถ้าเป็นฉันคงร้องโอยๆแน่ ก็นายเก็นนะสิกดซะแรงขนาดนั้นเจ้าเรียวแค่คนธรรมดาเองนะมีก็แค่เวทย์มนต์ล่ะมั้ง แต่นายเก็นเป็นลูกครึ่งปีศาจย่อมมีแรงมากกว่าอยู่แล้วแข่งกันไปก็มีแต่จะแพ้นายเก็นเอาเสียเปล่าๆ
“เล่นกันพอรึยัง ถ้ายังฉันจะไม่จัดโต๊ะและก็ ไม่ต้องกินกันทั้งคู่” คูณซากุกะดุทั้งสองคน และก็ได้ผล
“นามิจ๋า ทำอะไรกินเหรอหอมจัง” นายเก็นหันมาหาฉันแล้วหยอดเสียงหวานๆใส่ คงหิวแล้วสิท่า
“ของฉันเป็นแกงกระหรี่เนื้อวัว ส่วนของคุณซากุระเป็นซูชิ ไข่ม้วน ซุปปลาซาบะกับเต้าหู แล้วก็ปูผัดผงกระหรี่”
“อืม...น่ากินทั้งนั้นเลย โยเฉพาะแกงกระหรี่ของเธอน่ะ นามิ”
“ถ้านายบอกว่าหิวก็ช่วยคุณซากุระจัดโต๊ะเดี๋ยวนี้เลยนะ และก็ นายเรียวช่วยฉันยกของมาตั้งโต๊ะหน่อย”
“เรื่องอะไร กล้าดียังไงมาสั่งฉัน” หนอยแหนะ
“แล้วคุณชายจะกินไหมล่ะคะข้าวเย็นน่ะ งั้นนายสองคนจัดโต๊ะไปละกันฉันกับคุณซากุระจะยกมาเองก็ได้”
“จะบ้าเหรอฉันจัดโต๊ะไม่ค่อยเรียบร้อยนะเฟ้ยยัยบ๊อง ปกติยัยซากุระเป็นคนจัดตอนกินข้าวน่ะ”
“งั้นนายกับคุณซากุระไปยกของกินมาก็แล้วกัน เดี๋ยวฉันกับนายเก็นจะจัดโต๊ะเอง”
“ครับ....” นายเรียวพูดแล้วเดินเข้าไปในครัวกับคุณซากุระทันทีคงรำคาญฉันล่ะสิ ชิแบบนี้นี่เองผู้ชายก็อย่างได้แค่นี้แหละงานบ้านงานครัวทำไม่เป็นก็ไม่แปลกหรอกแต่...
นายเก็นนี่สิจัดการจัดโต๊ะอาหารอย่างรวดเร็วเหมือนพวก บริกรชายหรือ อืม...อะไรก็ช่างเหอะแต่นายนี่คล่องแคล่วดีแฮะเรื่องแบบนี้ นึกว่าจะทำเป็นแต่กวนประสาทฉันหาเรื่องเถียงกับฉันหรือกัดกับนายเรียวซะอีก นายดูเหมือนพ่อบ้านได้เหมือนกันนะถ้ามีผ้ากันเปื้อนลายน่ารักๆล่ะนะ ว่าแต่...เราคิดบ้าอะไรอยู่ล่ะเนี่ยยังไงอย่างนายก็ได้เป็นแค่พ่อบ้านปีศาจเท่านั้นแหละ แต่เอ๊ะ ฉันคิดได้ไงล่ะเนี่ย
“ทำไมล่ะฉันทำงานแบบนี้ได้มันแปลกนักเหรอ” นายเก็นพูดขึ้นระหว่างที่ฉันดูเขาอยู่
“ก็...นะ ฉันไม่คิดว่าคนอย่างนายจะทำเป็นนี่”
“ก็แม่ฉันไม่อยู่แล้วนี่ ฉันเลยอยู่สองคนแค่ฉันกับพ่อเท่านั้น งานพวกนี้ฉันเลยต้องหัดทำตั้งแต่เด็ก”
“อย่างนี้นี่เอง แล้วนายจะให้ฉันทำอาหารให้นายกินบ่อยๆทำไม”
“ก็เธอทำอร่อยนี่ ฉันก็เลยอยากกินฝีมือเธอ” -///-
“แล้วนายไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหม” ฉันถามอาการนายนี่ดูเผื่อยังเจ็บอะไรอยู่
“เป็นอะไรเหรอ” ยังมีหน้ามาถาม
“ก็นายบาดเจ็บซะขนาดนั้นนี่แล้วนายหายดีแล้วเหรอ” คงเพราะอยู่ใกล้ฉันนานๆล่ะสิถึงหายเร็ว
“ไม่เป็นไรแล้วล่ะฉันสบายดีแล้ว” นายนี่ยิ้มจนเห็นฟันขาวๆของเขาเลยแฮะหวังว่ามันไม่ยาวออกมาจนเกินไปนะถ้าเป็นอย่างนั้นฉันกรีดลั่นบ้านแน่ ก็มันน่ากลัวนี่
“อาหารเย็นเสร็จแล้วเหรอนามิ” เสียงพ่อของฉันที่เดินเข้ากับแม่ทักขึ้น
“ค่ะเสร็จแล้ว เดี๋ยวรอนายเรียวกับคุณซากุระยกมาก็กินกันได้เลยคะ”
“งั้นแม่ไปช่วยเพื่อนลูกยกมานะ”
“ไม่ต้องหรอกครับนายหญิง พวกเราจัดการเองได้ครับ” นายเรียวพูดขัดขึ้นและเดินมาพร้อมกับกับข้าวหลายอย่าง
“อ๋อ...งั้นเหรอขอบใจจ้า รบกวนด้วยนะ” แล้วแม่ก็นั่งลงตรงเก้าอี้ข้างๆพ่อฉัน(ว่าแต่พ่อนั่งตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะเนี่ย)
หลังจากจัดการวางอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อย ทุกคนก็ทานข้าวกันอย่างอร่อยโดยเฉพาะแกงยุ่งยากของฉันที่ทุกคนต้องบอกว่ามันอร่อยสุดโดยเฉพาะนายเก็นขอเติมเกือบห้าชามแล้วล่ะมั้งข้าวที่หุงไว้เกือบหมดแล้วสิเกรงใจไม่เป็นหรือไง คงอร่อยมากล่ะสินะ แต่ผิดกับนายเรียวที่เขี่ยโน้นเขี่ยนี่ในจานตัวเองออกแล้วกินเฉพาะเนื้อ แกงนี่ฉันใส่ผักน้อยแล้วนะนายนี่ยังเลือกกินอีกเหรอ
หลังจากทานอาหารเสร็จฉันและทุคนก็เปลี่ยนมานั่งที่ห้องรับแขกแทนแต่โซฟาไม่พอแฮะโต๊ะนายเรียวกับคุณซากุระเลยเอาเก้าอี้ในห้องกินข้าวมานั่ง แต่ว่านายเก็นดันมานั่งเบียดกับฉันบนโซฟาซะงั้น ที่ก็ตั้งกว้านะแต่ดันมานั่งเบียดกันอยู่ได้ ขาดความอบอุ่นหรือไงนะนาย
“แล้วเรย์ไปไหนแล้วล่ะไม่มากินด้วยกัน”
“คงกลัวยาพิษในอาหารมั้งครับคุณป้า” นายเก็นพูดกวนๆขึ้น
“ยาพิษอะไรกันจ๊ะเก็นคุง” แม่ฉันถามขึ้นซวยล่ะแม่ต้องยังไม่รู้แน่เลยว่าพวกบ้านี่ชอบวางยาพิษปีศาจในอาหาร
“ไม่มีอะไรหรอกครับแค่พูดไปเรื่อย” นายยังมีหน้ามาพูดว่าไปเรื่อยอีกเหรอเจ้าบ้า
“ใช่ยาพิษที่ใช้ฆ่าปีศาจหรือเปล่าค่ะคุณเซ็น” OoO
“อืม...น่าจะใช่ล่ะนะ ผมไม่เคยเห็นนานแล้วสิคุณยังจำได้อีกเหรอเนจัง” เอ่อคือแม่ฉันชื่อฮารุนะ เนโกะ(แมว)อะคะ
“อายุป่านนี้แล้ว ยังจะมาเรียกเนจังอีกเหรอ คุณก็...” แม่ฉันยิ้มแถมยังเขินแบบเด็กๆอีกแฮะ
“ก็น่ารักดีนะครับคุณป้า อย่าคิดว่าอายุมากแล้วจะไม่สวยนะครับ” นายเก็นแซวขึ้น แต่....
“แม่คะ อธิบายมาหน่อยสิคะว่าทำไมถึงรู้จักยาพิษฆ่าปีศาจด้วย”
“นี่แม่ยังไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้ลูกฟังอีกเหรอนามิ” พ่อฉันถามขึ้น
“ยังหรอกค่ะฉันกะว่าถึงเวลาเมื่อไหร่ค่อยเล่า แต่นี่ก็คงถึงเวลาแล้วสินะ”
“เวลาอะไรคะแม่”
“ความจริงของครอบครัวเราที่ลูกควรรู้เอาไว้” ฉันตอนนี้อยู่ในสภาพหยุดนิ่งแล้วมองแม่ตาไม่กระพริบเพื่อฟังแต่นายเก็นยังคงกินต่อไปเรื่อยๆแฮะ ขอให้ท้องแตกตายไปเลยล่ะกัน
“พ่อน่ะ ก่อนมาที่จะมาพบกับแม่พ่อเป็นนักล่ามาก่อนและปัจจุบันก็ยังเป็นอยู่ด้วย” อันนี้ไม่ต้องบอกก็รู้คะก็เล่นเชือดปีศาจต่อหน้าลูกสาวสุดสวยแบบนั้นไม่รู้ก็บ้าแล้ว
“เมื่อก่อนแม่ก็...ต้องตกอยู่ในสภาพเดียวกับลูกล่ะนะ โดนปีศาจไล่ตามแล้วก็ได้พ่อเนี่ยแหละคอยปกป้องแม่” แม่ก็ด้วยเหรอเนี่ย
“ตระกูลของแม่เท่าที่พ่อรู้มานะ พวกนี้เขาเป็นผู้สืบทอดเลือดบริสุทธิ์อย่างนี่มาตั้งแต่สมัยโบราณแล้วล่ะ แต่มันจะสืบทอดได้เฉพาะผู้หญิงในตระกูลเท่านั้น เลยไม่แปลกเลยที่จะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมาบ่อยๆแล้วก็...” อะไรค่ะคุณพ่อ
“ลูกสาวของตระกูลฮารุนะเกือบทุกคนมีสามีเป็นนักล่าปีศาจทั้งหมดนะสิ” OoO!!!
ควับ
ฉันกับนายเก็นหันควับพร้อมกันไปมองนายเรียวทันทีทันใดที่ได้ยินแม่ฉันพูด นายเรียวได้แต่ทำเสียงหัวเราะน้อยๆในลำคอเพื่อกวนประสาทพวกฉันเล่น
“หนูไม่มีทางชอบนายนี่ลงหรอกค่ะแม่”
“ผมก็ไม่ยอมให้ใครแย่งนามิสุดที่รักไปจากผมหรอก” นายเก็นพูด
“ฉันก็ไม่มีทางชอบยัยบ๊องแบบเธอหรอก แค่คิดก็ขนลุกแล้ว” ขนลุกเหรอนายนี่เป็นเก้งกวางหรือไง
“งั้นก็ดี/งั้นก็ดี/งั้นก็ดี” เสียงฉันกับนายเรียวและนายเก็นพูดขึ้นพร้อมกัน
“แต่ตระกูลอาโอกิเขาสู่ขอลูกไว้นานแล้วนะนามิ” พ่อพูดขึ้นมาแต่...
“อะไรนะ!!!/อะไรนะ!!! ” ฉันกับนายเก็นผสานเสียงพูดขึ้นพร้อมกัน
“อะไรนะคะแม่ ที่พ่อพูดมาจริงเหรอคะ”
“จริงจ๊ะ เรียวเขาเป็นคู่หมั้นลูกจ๊ะ” ไปหมั้นกับมันตอนไหนเนี่ย
“เรื่องจริง...เหรอครับ....”นายเก็นพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ
“ใช่...แต่ว่านะ” นายเรียวพูดขึ้น
“แต่ว่าอะไร” เสียงนายเก็นตอนนี้น่ากลัวมากแฮะ
“ฉันมีคนที่ชอบอยู่แล้ว และอีกอย่างฉันเกลียดยัยนี่เข้าไส้เลย น่ารังเกียดชะมัด” หนอยแหนะว่าฉันน่ารังเกียดงั้นเหรอ
“จริงอ๊ะ!!! นายพูดแล้วนะเรียวว่าเกลียดยัยนี่งั้นฉันก็มีลุ้นนะสิ” นายชักจะดีใจเกินหน้าเกินตาไปแล้วนะแต่พ่อแม่ฉันยังมองพวกเราและยิ้มให้กันอย่างมีสุขใจ
“ยังหรอกจ๊ะเก็นคุง เธอยังมีคู่แข่งอีกสองคนนะ” ยังมีใครอีกล่ะเนี่ย
“ใครอีกละคะแม่ พวกแม่ยกหนูให้ใครอีกล่ะบอกมาให้หมดเลยนะ” ฉันเหลือบเห็นนายเก็นทำหน้าเหวอด้วยล่ะ
“ก็มีเพื่อนสมัยเด็กของลูกที่ชื่อเทนโด โซจิโร่ กับลูกของเพื่อนพ่อที่ชื่อ ทาคุมะ อิทาสะ ล่ะนะถ้ารวมเรียวแล้วล่ะก็แค่สามคน” เป็นเรื่องแล้วสิฉัน และฉันก็รู้สึกถึงออร่าดำมืดแห่งความหดหู่จากนายเก็นด้วยล่ะ
“ไอ้เก็น ไม่ต้องเศร้าหรอกน่า ถึงฉันไม่เอายัยนี่ แต่ยังมีอีตั้งสองคนที่ต่อคิวฉันอยู่” แร็งนะไอ้บ้าเรียว
“หุบปากไปเลยนะเรียว ฉันน่ะไม่มีทางชอบคนที่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนหรอก ถ้าจะให้แต่งกับคนแปลกหน้าพวกนั้นแต่งกันนายเก็นไม่ง่ายกว่าเหรอ อ๊ะ” ฉันพูดอะไรออกไปล่ะเนี่ย!!! *////*!!!
หมับ
นายเก็นที่นั่งข้างๆฉันจับมือฉันขึ้นมากุมไว้แล้วยิ้มแบบหวานฉ่ำจนใจแทบละลายได้ถ้าเป็นคนอื่นล่ะนะ แต่นายไม่คิดจะเกรงใจพ่อกับแม่ฉันหน่อยเหรอ ท่านทั้งสองมองใหญ่เลย แต่ไม่ห้ามแฮะ กลับยิ้มกันซะงั้น
“จริงเหรอ” นายเก็นพูดขึ้น
“อะ....อะไร” ตายล่ะหว่าหน้าฉันร้อนผ่าวหมดแล้ว
“ที่เธอพูดเมื่อกี้จริงเหรอ”
“ถ้าพวกนั้นเขาหล่อกว่านาย เก่งกว่านายและเป็นสุภาพบุรุษกว่านายล่ะก็ ฉันก็จะรับเขาไว้พิจารณาก็ได้นะ”
“ว่า...ไง..นะ...” หึ หึ หึ ฉันพูดแหย่เขาเล่น
“รับรองได้เลยค่ะว่าพวกเขามีคุณสมบัติครบตามที่คุณนามิต้องการโดยเฉพาะเทนโดคุง” คุณซากุระพูดขึ้น
“ก็แหงสิก็เธอชอบหมอนั้นนี่ถึงได้เชียร์มันออกนอกหน้า ระวังไว้เหอะจะน้ำตาเช็ดหัว....”นายเรียวพูดแทรกขึ้นแต่พูดไม่ทันจบ
ตึง!!โครม!!!
เสียงกำปั้นของคุณซากุระซัดเขาตรงหน้าของนายเรียวจนทำให้หงายหลังดังโครมใหญ่ลงพื้น และที่สำคัญหน้าของคุณซากุระแดงมากๆเลยเมื่อมองหน้านายเก็นทำไมนะ
“เจ็บนะ!!!ยัยบ้าฉันแค่แซวเล่นเองนะ” สมนำหน้าแล้ว
“อย่าพูดแบบนี้อีกนะคะพี่ไม่งั้นเจอหนักกว่านี้อีก” น่ากลัวค่ะ และสะใจสุดๆไปเลยค่ะ
“ฟังต่อไหมจ๊ะเด็กๆ” พ่อฉันพูดขึ้นหลังจากเงียบไปนาน
“ค่ะฟังต่อค่ะ นี่! พวกนายเงียบๆกันหน่อยสิ”ฉันตวาดตัวยุ่งสามคนที่กัดกันอยู่
“และก็มีวิธีแค่สองวิธีเท่านั้นวิธีแรกลูกคงรู้อยู่แล้วนะ” พ่อฉันถามขึ้น
“ค่ะ แค่มีชีวิตรอดจนถึงหลังวันฮัลโลวีน พลังในเลือดก็จะค่อยๆหายไป” นายเรียวบอกไว้อะนะ
“นั้นเป็นวิธีที่ยุ่งยากหน่อยนะ เพราะลูกต้องซ้อนตัวจากพวกมัน” แล้วจะซ้อนยังไงล่ะ
“แล้วอีกวิธีล่ะคะ”ฉันถามขึ้นเผื่อมันจะง่ายกว่าวิธีที่ฉันรู้มาหน่อ
“เป็นวิธีที่ลูกได้ยินแล้วต้องไม่ทำแน่ แต่มันง่ายที่สุดแล้วล่ะ เจ็บตัวนิดหน่อยก็เรียบร้อยแล้ว”
ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอเป็นวิธีแบบไหนนะแล้วทำไมพ่อถึงบอกว่าฉันไม่มีทางทำแน่นะกรีดเลือดตัวเองงั้นเหรอ หรืออะไรกันนะ
“แล้วมันยังไงล่ะค่ะบอกมาเถอะค่ะหนูอยากจบเรื่องแบบนี้แล้วใช้ชีวิตปกติซะที”
“....” แม่ฉันเงียบไปแต่หน้าแดงๆนะคะมันเจ็บมากเลยสินะคะ
“เอ่อ....คือ”พ่อฉันก็อ้ำอึ้งอีกคน พูดมาเลยสิฉันกับนายเก็นรอฟังจนคัวโก่ง
“บอกมาสิคะ”
ความจริงของครอบครัว
ตึง!!
เสียงเหมือนอะไรบางอย่างดังขึ้นบริเวณห้องกินข้าว พอฉันยกหม้อออกจากเตาแล้วเดินออกจากครัวไปดูก็พบว่า นายเก็นกับนายเรียวกำลังงัดข้อกันเสียงดังโครมคราม เจ้าบ้าพวกนี้นี่บ้าพลังกันเสียจริง มันน่าจับลงแข่งมวยปล้ำซะให้เข็ด แต่คิดดูอีกทีจะมีซักกี่ชีวิตก็คงไม่มีใครเอาชนะเจ้าพวกนี้ได้หรอกมั้ง
ตึง!
หลังมือของนายเรียวถูกกดลงบนโต๊ะดังไปทั่วห้อง ถ้าเป็นฉันคงร้องโอยๆแน่ ก็นายเก็นนะสิกดซะแรงขนาดนั้นเจ้าเรียวแค่คนธรรมดาเองนะมีก็แค่เวทย์มนต์ล่ะมั้ง แต่นายเก็นเป็นลูกครึ่งปีศาจย่อมมีแรงมากกว่าอยู่แล้วแข่งกันไปก็มีแต่จะแพ้นายเก็นเอาเสียเปล่าๆ
“เล่นกันพอรึยัง ถ้ายังฉันจะไม่จัดโต๊ะและก็ ไม่ต้องกินกันทั้งคู่” คูณซากุกะดุทั้งสองคน และก็ได้ผล
“นามิจ๋า ทำอะไรกินเหรอหอมจัง” นายเก็นหันมาหาฉันแล้วหยอดเสียงหวานๆใส่ คงหิวแล้วสิท่า
“ของฉันเป็นแกงกระหรี่เนื้อวัว ส่วนของคุณซากุระเป็นซูชิ ไข่ม้วน ซุปปลาซาบะกับเต้าหู แล้วก็ปูผัดผงกระหรี่”
“อืม...น่ากินทั้งนั้นเลย โยเฉพาะแกงกระหรี่ของเธอน่ะ นามิ”
“ถ้านายบอกว่าหิวก็ช่วยคุณซากุระจัดโต๊ะเดี๋ยวนี้เลยนะ และก็ นายเรียวช่วยฉันยกของมาตั้งโต๊ะหน่อย”
“เรื่องอะไร กล้าดียังไงมาสั่งฉัน” หนอยแหนะ
“แล้วคุณชายจะกินไหมล่ะคะข้าวเย็นน่ะ งั้นนายสองคนจัดโต๊ะไปละกันฉันกับคุณซากุระจะยกมาเองก็ได้”
“จะบ้าเหรอฉันจัดโต๊ะไม่ค่อยเรียบร้อยนะเฟ้ยยัยบ๊อง ปกติยัยซากุระเป็นคนจัดตอนกินข้าวน่ะ”
“งั้นนายกับคุณซากุระไปยกของกินมาก็แล้วกัน เดี๋ยวฉันกับนายเก็นจะจัดโต๊ะเอง”
“ครับ....” นายเรียวพูดแล้วเดินเข้าไปในครัวกับคุณซากุระทันทีคงรำคาญฉันล่ะสิ ชิแบบนี้นี่เองผู้ชายก็อย่างได้แค่นี้แหละงานบ้านงานครัวทำไม่เป็นก็ไม่แปลกหรอกแต่...
นายเก็นนี่สิจัดการจัดโต๊ะอาหารอย่างรวดเร็วเหมือนพวก บริกรชายหรือ อืม...อะไรก็ช่างเหอะแต่นายนี่คล่องแคล่วดีแฮะเรื่องแบบนี้ นึกว่าจะทำเป็นแต่กวนประสาทฉันหาเรื่องเถียงกับฉันหรือกัดกับนายเรียวซะอีก นายดูเหมือนพ่อบ้านได้เหมือนกันนะถ้ามีผ้ากันเปื้อนลายน่ารักๆล่ะนะ ว่าแต่...เราคิดบ้าอะไรอยู่ล่ะเนี่ยยังไงอย่างนายก็ได้เป็นแค่พ่อบ้านปีศาจเท่านั้นแหละ แต่เอ๊ะ ฉันคิดได้ไงล่ะเนี่ย
“ทำไมล่ะฉันทำงานแบบนี้ได้มันแปลกนักเหรอ” นายเก็นพูดขึ้นระหว่างที่ฉันดูเขาอยู่
“ก็...นะ ฉันไม่คิดว่าคนอย่างนายจะทำเป็นนี่”
“ก็แม่ฉันไม่อยู่แล้วนี่ ฉันเลยอยู่สองคนแค่ฉันกับพ่อเท่านั้น งานพวกนี้ฉันเลยต้องหัดทำตั้งแต่เด็ก”
“อย่างนี้นี่เอง แล้วนายจะให้ฉันทำอาหารให้นายกินบ่อยๆทำไม”
“ก็เธอทำอร่อยนี่ ฉันก็เลยอยากกินฝีมือเธอ” -///-
“แล้วนายไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหม” ฉันถามอาการนายนี่ดูเผื่อยังเจ็บอะไรอยู่
“เป็นอะไรเหรอ” ยังมีหน้ามาถาม
“ก็นายบาดเจ็บซะขนาดนั้นนี่แล้วนายหายดีแล้วเหรอ” คงเพราะอยู่ใกล้ฉันนานๆล่ะสิถึงหายเร็ว
“ไม่เป็นไรแล้วล่ะฉันสบายดีแล้ว” นายนี่ยิ้มจนเห็นฟันขาวๆของเขาเลยแฮะหวังว่ามันไม่ยาวออกมาจนเกินไปนะถ้าเป็นอย่างนั้นฉันกรีดลั่นบ้านแน่ ก็มันน่ากลัวนี่
“อาหารเย็นเสร็จแล้วเหรอนามิ” เสียงพ่อของฉันที่เดินเข้ากับแม่ทักขึ้น
“ค่ะเสร็จแล้ว เดี๋ยวรอนายเรียวกับคุณซากุระยกมาก็กินกันได้เลยคะ”
“งั้นแม่ไปช่วยเพื่อนลูกยกมานะ”
“ไม่ต้องหรอกครับนายหญิง พวกเราจัดการเองได้ครับ” นายเรียวพูดขัดขึ้นและเดินมาพร้อมกับกับข้าวหลายอย่าง
“อ๋อ...งั้นเหรอขอบใจจ้า รบกวนด้วยนะ” แล้วแม่ก็นั่งลงตรงเก้าอี้ข้างๆพ่อฉัน(ว่าแต่พ่อนั่งตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะเนี่ย)
หลังจากจัดการวางอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อย ทุกคนก็ทานข้าวกันอย่างอร่อยโดยเฉพาะแกงยุ่งยากของฉันที่ทุกคนต้องบอกว่ามันอร่อยสุดโดยเฉพาะนายเก็นขอเติมเกือบห้าชามแล้วล่ะมั้งข้าวที่หุงไว้เกือบหมดแล้วสิเกรงใจไม่เป็นหรือไง คงอร่อยมากล่ะสินะ แต่ผิดกับนายเรียวที่เขี่ยโน้นเขี่ยนี่ในจานตัวเองออกแล้วกินเฉพาะเนื้อ แกงนี่ฉันใส่ผักน้อยแล้วนะนายนี่ยังเลือกกินอีกเหรอ
หลังจากทานอาหารเสร็จฉันและทุคนก็เปลี่ยนมานั่งที่ห้องรับแขกแทนแต่โซฟาไม่พอแฮะโต๊ะนายเรียวกับคุณซากุระเลยเอาเก้าอี้ในห้องกินข้าวมานั่ง แต่ว่านายเก็นดันมานั่งเบียดกับฉันบนโซฟาซะงั้น ที่ก็ตั้งกว้านะแต่ดันมานั่งเบียดกันอยู่ได้ ขาดความอบอุ่นหรือไงนะนาย
“แล้วเรย์ไปไหนแล้วล่ะไม่มากินด้วยกัน”
“คงกลัวยาพิษในอาหารมั้งครับคุณป้า” นายเก็นพูดกวนๆขึ้น
“ยาพิษอะไรกันจ๊ะเก็นคุง” แม่ฉันถามขึ้นซวยล่ะแม่ต้องยังไม่รู้แน่เลยว่าพวกบ้านี่ชอบวางยาพิษปีศาจในอาหาร
“ไม่มีอะไรหรอกครับแค่พูดไปเรื่อย” นายยังมีหน้ามาพูดว่าไปเรื่อยอีกเหรอเจ้าบ้า
“ใช่ยาพิษที่ใช้ฆ่าปีศาจหรือเปล่าค่ะคุณเซ็น” OoO
“อืม...น่าจะใช่ล่ะนะ ผมไม่เคยเห็นนานแล้วสิคุณยังจำได้อีกเหรอเนจัง” เอ่อคือแม่ฉันชื่อฮารุนะ เนโกะ(แมว)อะคะ
“อายุป่านนี้แล้ว ยังจะมาเรียกเนจังอีกเหรอ คุณก็...” แม่ฉันยิ้มแถมยังเขินแบบเด็กๆอีกแฮะ
“ก็น่ารักดีนะครับคุณป้า อย่าคิดว่าอายุมากแล้วจะไม่สวยนะครับ” นายเก็นแซวขึ้น แต่....
“แม่คะ อธิบายมาหน่อยสิคะว่าทำไมถึงรู้จักยาพิษฆ่าปีศาจด้วย”
“นี่แม่ยังไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้ลูกฟังอีกเหรอนามิ” พ่อฉันถามขึ้น
“ยังหรอกค่ะฉันกะว่าถึงเวลาเมื่อไหร่ค่อยเล่า แต่นี่ก็คงถึงเวลาแล้วสินะ”
“เวลาอะไรคะแม่”
“ความจริงของครอบครัวเราที่ลูกควรรู้เอาไว้” ฉันตอนนี้อยู่ในสภาพหยุดนิ่งแล้วมองแม่ตาไม่กระพริบเพื่อฟังแต่นายเก็นยังคงกินต่อไปเรื่อยๆแฮะ ขอให้ท้องแตกตายไปเลยล่ะกัน
“พ่อน่ะ ก่อนมาที่จะมาพบกับแม่พ่อเป็นนักล่ามาก่อนและปัจจุบันก็ยังเป็นอยู่ด้วย” อันนี้ไม่ต้องบอกก็รู้คะก็เล่นเชือดปีศาจต่อหน้าลูกสาวสุดสวยแบบนั้นไม่รู้ก็บ้าแล้ว
“เมื่อก่อนแม่ก็...ต้องตกอยู่ในสภาพเดียวกับลูกล่ะนะ โดนปีศาจไล่ตามแล้วก็ได้พ่อเนี่ยแหละคอยปกป้องแม่” แม่ก็ด้วยเหรอเนี่ย
“ตระกูลของแม่เท่าที่พ่อรู้มานะ พวกนี้เขาเป็นผู้สืบทอดเลือดบริสุทธิ์อย่างนี่มาตั้งแต่สมัยโบราณแล้วล่ะ แต่มันจะสืบทอดได้เฉพาะผู้หญิงในตระกูลเท่านั้น เลยไม่แปลกเลยที่จะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมาบ่อยๆแล้วก็...” อะไรค่ะคุณพ่อ
“ลูกสาวของตระกูลฮารุนะเกือบทุกคนมีสามีเป็นนักล่าปีศาจทั้งหมดนะสิ” OoO!!!
ควับ
ฉันกับนายเก็นหันควับพร้อมกันไปมองนายเรียวทันทีทันใดที่ได้ยินแม่ฉันพูด นายเรียวได้แต่ทำเสียงหัวเราะน้อยๆในลำคอเพื่อกวนประสาทพวกฉันเล่น
“หนูไม่มีทางชอบนายนี่ลงหรอกค่ะแม่”
“ผมก็ไม่ยอมให้ใครแย่งนามิสุดที่รักไปจากผมหรอก” นายเก็นพูด
“ฉันก็ไม่มีทางชอบยัยบ๊องแบบเธอหรอก แค่คิดก็ขนลุกแล้ว” ขนลุกเหรอนายนี่เป็นเก้งกวางหรือไง
“งั้นก็ดี/งั้นก็ดี/งั้นก็ดี” เสียงฉันกับนายเรียวและนายเก็นพูดขึ้นพร้อมกัน
“แต่ตระกูลอาโอกิเขาสู่ขอลูกไว้นานแล้วนะนามิ” พ่อพูดขึ้นมาแต่...
“อะไรนะ!!!/อะไรนะ!!! ” ฉันกับนายเก็นผสานเสียงพูดขึ้นพร้อมกัน
“อะไรนะคะแม่ ที่พ่อพูดมาจริงเหรอคะ”
“จริงจ๊ะ เรียวเขาเป็นคู่หมั้นลูกจ๊ะ” ไปหมั้นกับมันตอนไหนเนี่ย
“เรื่องจริง...เหรอครับ....”นายเก็นพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ
“ใช่...แต่ว่านะ” นายเรียวพูดขึ้น
“แต่ว่าอะไร” เสียงนายเก็นตอนนี้น่ากลัวมากแฮะ
“ฉันมีคนที่ชอบอยู่แล้ว และอีกอย่างฉันเกลียดยัยนี่เข้าไส้เลย น่ารังเกียดชะมัด” หนอยแหนะว่าฉันน่ารังเกียดงั้นเหรอ
“จริงอ๊ะ!!! นายพูดแล้วนะเรียวว่าเกลียดยัยนี่งั้นฉันก็มีลุ้นนะสิ” นายชักจะดีใจเกินหน้าเกินตาไปแล้วนะแต่พ่อแม่ฉันยังมองพวกเราและยิ้มให้กันอย่างมีสุขใจ
“ยังหรอกจ๊ะเก็นคุง เธอยังมีคู่แข่งอีกสองคนนะ” ยังมีใครอีกล่ะเนี่ย
“ใครอีกละคะแม่ พวกแม่ยกหนูให้ใครอีกล่ะบอกมาให้หมดเลยนะ” ฉันเหลือบเห็นนายเก็นทำหน้าเหวอด้วยล่ะ
“ก็มีเพื่อนสมัยเด็กของลูกที่ชื่อเทนโด โซจิโร่ กับลูกของเพื่อนพ่อที่ชื่อ ทาคุมะ อิทาสะ ล่ะนะถ้ารวมเรียวแล้วล่ะก็แค่สามคน” เป็นเรื่องแล้วสิฉัน และฉันก็รู้สึกถึงออร่าดำมืดแห่งความหดหู่จากนายเก็นด้วยล่ะ
“ไอ้เก็น ไม่ต้องเศร้าหรอกน่า ถึงฉันไม่เอายัยนี่ แต่ยังมีอีตั้งสองคนที่ต่อคิวฉันอยู่” แร็งนะไอ้บ้าเรียว
“หุบปากไปเลยนะเรียว ฉันน่ะไม่มีทางชอบคนที่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนหรอก ถ้าจะให้แต่งกับคนแปลกหน้าพวกนั้นแต่งกันนายเก็นไม่ง่ายกว่าเหรอ อ๊ะ” ฉันพูดอะไรออกไปล่ะเนี่ย!!! *////*!!!
หมับ
นายเก็นที่นั่งข้างๆฉันจับมือฉันขึ้นมากุมไว้แล้วยิ้มแบบหวานฉ่ำจนใจแทบละลายได้ถ้าเป็นคนอื่นล่ะนะ แต่นายไม่คิดจะเกรงใจพ่อกับแม่ฉันหน่อยเหรอ ท่านทั้งสองมองใหญ่เลย แต่ไม่ห้ามแฮะ กลับยิ้มกันซะงั้น
“จริงเหรอ” นายเก็นพูดขึ้น
“อะ....อะไร” ตายล่ะหว่าหน้าฉันร้อนผ่าวหมดแล้ว
“ที่เธอพูดเมื่อกี้จริงเหรอ”
“ถ้าพวกนั้นเขาหล่อกว่านาย เก่งกว่านายและเป็นสุภาพบุรุษกว่านายล่ะก็ ฉันก็จะรับเขาไว้พิจารณาก็ได้นะ”
“ว่า...ไง..นะ...” หึ หึ หึ ฉันพูดแหย่เขาเล่น
“รับรองได้เลยค่ะว่าพวกเขามีคุณสมบัติครบตามที่คุณนามิต้องการโดยเฉพาะเทนโดคุง” คุณซากุระพูดขึ้น
“ก็แหงสิก็เธอชอบหมอนั้นนี่ถึงได้เชียร์มันออกนอกหน้า ระวังไว้เหอะจะน้ำตาเช็ดหัว....”นายเรียวพูดแทรกขึ้นแต่พูดไม่ทันจบ
ตึง!!โครม!!!
เสียงกำปั้นของคุณซากุระซัดเขาตรงหน้าของนายเรียวจนทำให้หงายหลังดังโครมใหญ่ลงพื้น และที่สำคัญหน้าของคุณซากุระแดงมากๆเลยเมื่อมองหน้านายเก็นทำไมนะ
“เจ็บนะ!!!ยัยบ้าฉันแค่แซวเล่นเองนะ” สมนำหน้าแล้ว
“อย่าพูดแบบนี้อีกนะคะพี่ไม่งั้นเจอหนักกว่านี้อีก” น่ากลัวค่ะ และสะใจสุดๆไปเลยค่ะ
“ฟังต่อไหมจ๊ะเด็กๆ” พ่อฉันพูดขึ้นหลังจากเงียบไปนาน
“ค่ะฟังต่อค่ะ นี่! พวกนายเงียบๆกันหน่อยสิ”ฉันตวาดตัวยุ่งสามคนที่กัดกันอยู่
“และก็มีวิธีแค่สองวิธีเท่านั้นวิธีแรกลูกคงรู้อยู่แล้วนะ” พ่อฉันถามขึ้น
“ค่ะ แค่มีชีวิตรอดจนถึงหลังวันฮัลโลวีน พลังในเลือดก็จะค่อยๆหายไป” นายเรียวบอกไว้อะนะ
“นั้นเป็นวิธีที่ยุ่งยากหน่อยนะ เพราะลูกต้องซ้อนตัวจากพวกมัน” แล้วจะซ้อนยังไงล่ะ
“แล้วอีกวิธีล่ะคะ”ฉันถามขึ้นเผื่อมันจะง่ายกว่าวิธีที่ฉันรู้มาหน่อ
“เป็นวิธีที่ลูกได้ยินแล้วต้องไม่ทำแน่ แต่มันง่ายที่สุดแล้วล่ะ เจ็บตัวนิดหน่อยก็เรียบร้อยแล้ว”
ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอเป็นวิธีแบบไหนนะแล้วทำไมพ่อถึงบอกว่าฉันไม่มีทางทำแน่นะกรีดเลือดตัวเองงั้นเหรอ หรืออะไรกันนะ
“แล้วมันยังไงล่ะค่ะบอกมาเถอะค่ะหนูอยากจบเรื่องแบบนี้แล้วใช้ชีวิตปกติซะที”
“....” แม่ฉันเงียบไปแต่หน้าแดงๆนะคะมันเจ็บมากเลยสินะคะ
“เอ่อ....คือ”พ่อฉันก็อ้ำอึ้งอีกคน พูดมาเลยสิฉันกับนายเก็นรอฟังจนคัวโก่ง
“บอกมาสิคะ”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.6 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ