My friend รักฉันเรียกว่าแก

9.3

เขียนโดย kafairSoulmate

วันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 เวลา 15.52 น.

  4 ตอน
  0 วิจารณ์
  7,987 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2556 16.15 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) เด็กใหม่วี้ดวิ๊ว

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
จิวเวลรี่มาโรงเรียนแต่เช้าในชุดพละ เพราะเธอยังไม่ได้เสื้อสูทที่เพิ่งสั่งตัดไปเมื่อวาน
และกำลังเห่อที่มาเรียนเป็นวันแรก เธอเข้าโรงเรียนมาเจอบาลองนั่งอยู่กับเพื่อนใหม่
ที่ม้าหินอ่อนข้างโรงอาหาร ใกล้ๆสวนออกกำลังกาย กลางโรงเรียน
“จิว เรียนสาขาอะไรล่ะ คอมฯป๊ะ”
บาลองถาม
“ป่าว เรียนท่องเที่ยวอ่ะ นี่เรียนคอมฯกันหมดเลยหรอ”
“ใช่ดิ”
สาวหมวยผิวขาวตอบพร้อมพูดคุยอย่างเป็นกันเอง เธอมีชื่อว่า เบต้า
***
เสียงเพลงประจำโรงเรียนดังขึ้น เพื่อให้นักเรียนทุกคนทราบว่าถึงเวลาเข้าแถวแล้ว
จิวเวลรี่เดินตามบาลองกับเบต้าไปเข้าแถว
บาลองหันหลังมามองอย่างแปลกใจ ที่จิวเวลรี่ยังไม่ไปเข้าแถวที่ห้องตัวเอง
“อยู่ด้วยไม่ได้หรอ ไม่รู้จักใครเลยนะ”
จิวเวลรี่ทำเสียงออดอ้อน พร้อมจะเข้าแถวกับบาลองให้ได้
“เดี๋ยวอาจารย์เช็คว่าจิวมาสายนะ”
เบต้าบอก
จิวเวลรี่จึงไปเข้าแถวที่ห้องตัวเอง ซึ่งทางโรงเรียนจัดให้นักเรียนเข้าแถวแบบแถวตอนลึก
โดยผู้ชายเข้าแถวต่อจากผู้หญิงจิวเวลรี่ไปเข้าแถวหลังสุด
จึงได้ยืนหน้าผู้ชาย แล้วทำกิจกรรม ร้องเพลงชาติ ไหว้พระ กล่าวคำปฏิญาณ เมื่อทำกิจกรรมเส็จร
อาจารย์ก็มาให้โอวาท
“เอลญ่า คนที่แกชอบอ่ะเรียนอยู่ห้องเดียวกันด้วยนิ”
เน็คกี้ผู้หญิงที่มีจิตใจเป็นผู้ชายแซวเพื่อนร่วมห้อง เอลญ่ายิ้มแล้วมองไปที่ผู้ชายคนนั้น ซึ่งยืนอยู่ข้างหลังจิวเวลรี่
จิวเวลรี่หันหน้าไปมอง พายไข่มองกลับ
“มีอะไรหรอ?”
พายไข่ถามเพราะจิวเวลรี่จ้องเขม็ง
“เปล่าอ่ะ แหะๆ”
จิวเวลรี่ยิ้มแหยงๆ แล้วหันกลับมาทางเสาธงเหมือนเดิม ภายในใจเริ่มปั่นป่วน
“โหมองแค่แปปเดียวหวั่นๆเลยอ่ะ คนอะไรว้าตาหวานชะมัด ช่างเหอะก็แค่เพื่อนร่วมห้อง”
ทั้งๆที่คิดว่าแค่เพื่อนร่วมห้องแต่ก็แทบจะหุบยิ้มไม่อยู่
นักเรียนสาขาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเรียนวิชาคอมฯ เป็นวิชาแรก อาจารย์เมลก็ให้นักเรียนแนะนำตัว
หนุ่มน้อยหน้าหล่อผิวขาวลุกขึ้นพูดอย่างกวนๆ
“พายไข่ครับ”
นั่นแหละคือจุดเริ่มต้น ที่ทำให้จิวเวลรี่รู้จักกับผู้ชายที่ชื่อพายไข่
ด้วยความที่จิวเวลรี่กินอะไรๆในเวลา09.00น.ทุกวัน เพราะว่านอนตื่นสายมาตลอด
พอมาวันนี้ท้องว่าง จิวเวลรี่เลยขออาจารย์เมล ไปเข้าห้องน้ำเพื่อไปแอบกินขนมเบเกอรี่ต่างๆ
***
พอกลับเข้าห้องมา จิวเวลรี่แก้มป่องเพราะขนมเต็มปาก
อาจารย์ผู้หญิงที่สอนวิชามารยาท ชื่ออาจารย์เบญจมาเข้ามาดูแลนักเรียนสาขาท่องเที่ยวในคาบเรียนที่สอง
ของวิชาคอมพิวเตอร์ แทนอาจารย์เมลที่ไปทำธุระนอกโรงเรียน
พลางอาจารย์เบญจมาถามชื่อจิวเวลรี่ ที่เพิ่งจะเข้าห้อง
“นู๋ชื่ออะไรคะ”
“พีชญารินค่ะ”
พูดแทบไม่ได้เพราะขนมเต็มปาก
“เต็มปากเลย ทำลายหลักฐานซะมั่ง”
เอลญ่าแซว จิวเวลรี่มานั่งประจำที่ คอมฯเครื่องเดิมซึ่งอยู่ข้างๆเอลญ่า
ซักพักเอลญ่าจะไปเข้าห้องน้ำ จิวเวลรี่เลยขอไปด้วย เอลญ่ามองหน้าแล้วกระซิบถาม
“จิวนี่ออกไปนี่ จะไปกินขนมในห้องน้ำอ่ะนะ”
จิวเวลรี่พยักหน้า
“อู--*”
เอลญ่าตกใจเล็กน้อย แล้วทั้งสองก็เดินออกจากห้องคอมฯที่อยู่ชั้นล่างสุดของตึกอิฐแดง
เด็กช่างบางคนไม่มีชั่วโมงเรียนก็มานั่งเล่นที่ม้าหินอ่อน ข้างบันใดซึ่งอยู่หน้าห้องคอมฯ
ที่นักเรียนสาขาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเรียนอยู่ เอลญ่าเป็นคนน่ารัก รุ่นพี่เลยแซวและขอเบอร์ตั้งหลายคน
พอทั้งสองคนกลับเข้าห้องเรียนในวิชาคอมฯ หลังจากที่อาจารย์เบญจมาแนะแนวไปแล้ว
พวกเด็กช่างหน้าแก่ๆ ที่นั่งเล่นที่ม้าหินอ่อนข้างบันใดเมื่อซักครู่ เข้ามานั่งในห้องคอมฯอย่างไม่เกรงใจอาจารย์
จิวเวลรี่รู้สึกรำคาญเลยเปลี่ยนไปนั่งข้างๆเน๊คกี้ ส่วนคนที่นั่งทางขวามือของเธอนั้น คือชลธาร
ซึ่งทางบ้านค่อนข้างมีฐานะ และเรียนจบมหาวิทยาลัยปีสองมาแล้ว
แต่กลับมาเรียนใหม่เพราะอยากได้เกรดเฉลี่ยดีๆ กำลังทำการจัดโปรแกรมคอมพิวเตอร์อย่างชำนาญ
จิวเวลรี่ถาม
“เฮีย เครื่องนี้เล่นได้ป่ะ”
จิวเวลรี่ชี้ไปเครื่องถัดไปที่อยู่ข้างๆชลธาร
“ไม่รู้ดิกำลังนี่อยู่”
สายตาชลธารจดจ่ออยู่หน้าจอ
“อ๋อ”
จิวเวลรี่พูดอย่างกับเข้าใจ แต่จริงๆกลับไม่รู้เรื่องอะไร โดยเฉพาะวิชาคอมพิวเตอร์
แล้วชลธารก็ไปนั่งข้างๆโฟล์คซองผู้ชายสุดเท่ส์ดูเซอร์นิดๆ ที่ถัดมาก็เป็นนายพายไข่
อาจารย์เมลกลับเข้ามาสอนตามปรกติ หลังจากไปทำธุระเส็จรแล้ว
ให้นักเรียนบอกความหมายของ ฮาร์ดแวร์ ซอฟเวิด จิวเวลรี่เลยตามไปนั่งลอกชลธาร พอลอกชลธารเส็จร
จิวเวลรี่กำลังจะลุกไปนั่งที่เดิม พายไข่เดินมานั่งข้างๆจิวเวลรี่พร้อมพูด
“นั่งด้วยเด่ะ”
“เฮ้ยได้ดิ”
ตอนแรกจิวเวลรี่จะลุก ก็เลยแกล้งขยับเก้าอี้ให้ใกล้ๆคอมฯ ทั้งๆที่ตอบไปอย่างมีไมตรี แต่ในใจกลับบอกว่า
“มาเร็วๆดิที่รัก อร้าย”
ด้วยความเขินปนกับความรู้สึกแปลกๆเมื่อตอนเข้าแถวจิวเวลรี่จึงพูดไปว่า
“พายไปนั่งกับเอลญ่าก็ได้”
“อ๋อเอลญ่าหรอ”
พายไข่พูดแล้วทำหน้าประมาณว่าหรอ เออฉันรู้แล้วอะไรทำนองนั้น
จิวเวลรี่ตรวจดูคำตอบในกระดาษอีกครั้ง พร้อมบ่นพึมพำในใจ
“แล้วเราก็ลอกวิชาคอมฯมาจากอาเฮียจนได้แหละน่า ฮะ!ลอกแล้วยังลอกผิดอีก!!”
จิวเวลรี่พูดขึ้นลอยๆ
“เฮ้ย ใครมีลิขวิดยืมหน่อยเด่ะ”
ซักพักเปรู หนุ่มตี๋ตัวอ้วนก็เอาลิขวิดมาให้จิวเวลรี่ แต่จิวเวลรี่ได้ลิขวิดจากเอลญ่าเรียบร้อยแล้ว
เลยพูดกระแทกไปว่า
“ช้าไปแล้วไออ้วน”
เปรูถึงกับโห่เลย พอจิวเวลรี่เอากระดาษคำตอบของชลธารมาลอกในโจทย์ข้ออื่นๆเส็จร กลับพูดจาอวดดี
“เฮ้อ ไม่อยากลอกหรอก เอาคืนไป”
พร้อมแอบยื่นกระดาษคืนให้ชลธาร
“ลอกเส็จรแล้ว หืมส์ทำเป็น”
ชลธารพูดเสียงดังขึ้นมาหน่อย ทำเอาจิวเวลรี่หัวเราะแหะๆ
****
ตอนเที่ยง จิวเวลรี่อยุ่กับกลุ่มเพื่อน เพิร์ล จุ๊บ แอ้ม เบต้า แครอท และเน๊คกี้
ในขณะที่ทุกคนกำลังแต่งตัวหรือพูดคุยตามประสาเด็กผู้หญิง ที่โต๊ะหินอ่อนใต้ตึกอิฐแดง
จิวเวลรี่ไปสะดุดตากับรุ่นพี่คนหนึ่ง ตัวขาวๆตากลมโต น่ารักอย่างกับเด็กเกาหลี
แต่พันผ้าไว้ที่มือเหมือนได้รับบาดเจ็บจากอะไรมา กำลังเล่นกับเพื่อนที่สวนออกกำลังกาย
“โหยน่ารักค๊ตเลยอ่า แต่เอ๊ะ! ทำไมพันผ้าไว้ที่มือล่ะ? สงสัยตีกับชายอื่นแย่งเรา อิๆ ว้ายหลงตัวเองชะมัดยาด”
จิวเวลรี่คิดในใจอยู่คนเดียว สายตาก็จ้องมองไปยังสวนออกกำลังกายข้างโรงอาหาร
จนเพื่อนๆในกลุ่มหันไปมองตาม รุ่นพี่คนนั้นเล่นกับเพื่อน เหมือนโดนเพื่อนหักข้อมือ
ผู้หญิงที่เป็นเพื่อนในกลุ่มพี่หน้าเกาหลี ตะโกนด้วยความตกใจ
“มือๆ มือมันอ่ะ เล่นอะไรแรงๆ”
รุ่นพี่หน้าเกาหลีโดนแกล้งอีกครั้ง โดยการโดนหักข้อมือข้างที่พันผ้าเอาไว้ จนรุ่นพี่คนนั้นทำสีหน้าเจ็บปวด
“โอ้ยๆ”
เสียงร้องดังขึ้น แต่ไม่ใช่เสียงร้องของรุ่นพี่หน้าเกาหลีคนนั้น
แต่เป็นเสียงร้องของจิวเวลรี่ ที่ทำหน้าเจ็บปวดแทนสุดฤทธิ์ แครอทแซว
“โหไอนี่ เจ็บแทนเลยโว้ย”
แครอทพูดเสียงดังจนกลุ่มรุ่นพี่หน้าเกาหลีหันมามองแวบหนึ่งแล้วกลับไปเล่นตามเดิม เ
พื่อนๆในกลุ่มหัวเราะคึกคัก
“โห่ คนยิ่งเจ็บๆแผลนะไม่น่าเล่นแรงขนาดนั้นเลยอ่ะ”
จิวเวลรี่พูดแก้เขิน แล้วก็รู้สึกเป็นห่วง
***
   ภาคบ่าย จิวเวลรี่เข้าเรียนเหมือนเคย มองไปยังโต๊ะที่พายไข่นั่งอยู่เมื่อคาบที่แล้ว โต๊ะว่างเปล่า
ชลธารเข้ามาตบบ่า
“ไอพายมันโดดเรียน”
“วันแรกก็โดดแล้วหรอ แย่จริงๆเลยนายคนนี้
” จิวเวลรี่พูดจบก็หยิบหนังสือวิชาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ออกมาเตรียมเรียนในคาบ
----------
   เสียงออดดังขึ้นเป็นเวลาเลิกเรียน แต่ประตูโรงเรียนยังไม่เปิด
รอให้นักเรียนทุกชั้นปีฟังอาจารย์อบรมก่อนกลับบ้าน
ห้องไหนที่ไม่มีชั่วโมงเรียนก็ลงมานั่งรอที่ใต้อาคาร จิวเวลรี่เดินลงมาจากตึกอิฐแดง กำลังจะเดินไปที่ห้องธุรการ
เห็นเด็กช่างกลุ่มใหญ่นั่นออกันหน้าห้องธุรการ เลยถอยหลังเดินกลับมายืนเก้ๆกังๆข้างบันได
“ทำไงดีว้า ผู้ชายเยอะไม่กล้าไปเลยอ่ะ”
(ตามจริงต้องวิ่งเข้าใส่นะ / กาแฟโซลเมต)
ชินเดินถือเอกสารผ่านหน้าจิวเวลรี่
“เฮ้ย! พี่ชินที่บ้านอยู่ตรงข้ามเรานิ พี่ชิน”
จิวเวลรี่กวักมือเรียก ชินเดินมาหา
“มีอะไร”
“พี่ชินพาจิวไปห้องธุรการหน่อยดิ ผู้ชายเยอะอ่ะจิวไม่กล้าไป”
 ชินไม่พูดอะไร เดินนำหน้าจิวเวลรี่ตรงไปยังห้องธุรการ
เดินเร็วซะจนจิวเวลรี่แทบจะวิ่ง ตามเหมือนเป็ดน้อยวิ่งตามแม่เป็ด
พร้อมกระเป๋าเป้แบบผูกที่มีตราสัญลักษณ์ของโรงเรียน
ส่วนมากมีแต่เด็กใหม่เท่านั้นที่สะพาย เพราะเด็กเก่าถือกระเป๋าแฟชั่นหรือพกแต่ปากกามาเรียน
แถมยังมัดผมแกละ ผมที่เพิ่งไปต่อมาเมื่อวาน เพราะไม่อยากให้ใครเข้าใจผิดคิดว่าเป็นทอมอีก
จิวเวลรี่ทำใจเดินผ่านเด็กช่างกลุ่มใหญ่โดยไม่อยากได้ยิน ว่าจะโดนแขวะหรือจะโดนแซวอะไร
หนึ่งในกลุ่มนั้นพูดกับเพื่อนอีกคนว่า
“เฮ้ยเด็กไอชินว่ะ
” “เด็กบ้าบออะไร เค้าเห็นกันมาตั้งแต่ตัวเท่าฝาหอย ไม่มีทางคิดเป็นอย่างอื่นหรอกย่ะ”
จิวเวลรี่คิดในใจ พอถึงห้องธุรการชินหยุดรออยู่หน้าประตู
“เข้าไปดิเดี๋ยวพี่รออยู่ข้างนอก”
“อ่ะๆ ได้ดิ”
จิวเวลรีเออออแล้วเข้าไปสอบถามอาจารย์ เรื่องทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ พอสอบถามอาจารย์เส็จร
จิวเวลรี่เดินออกมา มองหาชิน กลับไม่เห็นใครแล้ว
“เอ๊า! หายไปไหนแล้วอ่ะ”
จิวเวลรี่ยืนเกาหัวแกรกๆ เห็นเพื่อนสนิทชินสองคนเลยถาม
“ไอชินอ่ะ”
“มันเดินไปทางนู้น”
เพื่อนของชินชี้ไปทางตึกอิเล็กฯ จิวเวลรี่เดินหาจนเก้อ พอประตูโรงเรียนเปิด เห็นชินยืนอยู่หน้าโรงเรียน
เหมือนมองหาอะไรอยู่ซักอย่าง
“แม๋ๆ มองหาน้องสาวด้วยความห่วงใยนะเนี่ย”
จิวเวลรี่คิดในใจ แอบยิ้มเล็กๆ แล้วเดินตรงไปหาชิน
พอชินเห็นจิวเวลรี่เดินมาหาเขาก็รีบข้ามถนนไปรอรถเมล์ ที่ป้ายรถเมล์ฝั่งตรงข้าม
จิวเวลรี่รีบวิ่งตามคนที่จะข้ามถนน เพราะเธอข้ามถนนไม่เป็น
ตรงป้ายรถเมล์มีเซเว่นและร้านขายของชำอยู่ติดกัน
ชินนั่งลงที่เก้าอี้ไม้ในร้านขายของชำ พร้อมหยิบไฟแช็กมาจุดบุหรี่
จิวเวลรี่อึ้งเล็กน้อย เพราะเพิ่งเคยเห็นชินดูดบุหรี่ในชุดนักศึกษา
เธอยืนรอไม่กล้าเข้าไปนั่งในร้านเพราะไม่ได้ซื้อของอะไร
ชินพ่นควันไปทางจิวเวลรี่ จิวเวลรี่เอามือปัดๆ
“กลับสายอะไร”
ชินถาม
“534”
จิวลรี่ตอบพร้อมไอเล็กน้อย เนื่องจากสำลักควันบุหรี่
ชินเดินไปหาเพื่อนที่ยืนอยู่หน้าเซเว่น พร้อมหันมาพูดกับเธออีกครั้ง
“กลับด้วยกันก็ได้ แต่เดี๋ยวจะไปเดอะมอล ไปเอาใบฝึกงาน”
จิวเวลรี่พยักหน้าให้แล้วก็นั่งลงตรงเก้าอี้ที่ชินนั่งเมื่อซักครู่ พอชินเดินไปไหนจิวเวลรี่ก็เดินตาม
เพราะกลัวชินหนีกลับบ้านก่อน ชินไปทักทายเพื่อนๆก่อนกลับตามปรกติ จิวเวลรี่เดินตามจนเพื่อนชินถาม
“เนี่นน้องมึงหรอชิน”
“เออ”
ชินตอบห้วนๆ เพื่อนชินคนเดิมถามจิวเวลรี่
“เนี่ยขึ้นรถสายอะไร”
“ไม่รู้อ่ะถามมันดิ”
จิวเวลรี่มองหน้าชิน เพื่อนชินแอบกระซิบถาม
“เฮ้ยมึงได้รึเปล่าห้าร้อย”
“ได้ดิ”
เมื่อจิวเวลรี่ได้ยินก็อดที่จะแอบแขวะในใจไม่ได้
“โห่ยังมีหน้าเอามาพูดอีก บอกให้แบ่งคนละสองร้อยห้าสิบก็ไม่เชื่อ อีกอย่างจิวมาสมัครเอง
พี่ชินก็แค่แนะนำเฉยๆพอโรงเรียนให้ห้าร้อยแล้วไม่ยอมมาแบ่งให้จิว จำไว้เลย”
เพื่อนชินกระซิบกระซาบเส็จรก็มาคุยกับจิวเวลรี่ต่อ
“ไอชินหน้าตาบ้านนอกชิบหาย น้องสาวหน้าอย่างกะลูกครึ่งเลย”
ชินเมินหน้าหนี
“บ้านอยู่ไหนอ่ะ”
“ตรงข้ามมันเลย”
จิวเวลรี่ตอบ แล้วบาลองก็มายืนรอรถเมล์พอดี แถมกลับสาย534เหมือนกัน
จิวเวลรี่จึงไปยืนรอรถเมล์กับบาลอง พอถึงบ้านจิวเวลรี่ลงก่อน แล้วชินก็นั่งรถต่อ ไปเอาใบฝึกงานที่เดอะมอล
 
***
  วันต่อมา ชินและจิวเวลรี่ลงจากรถเมล์แล้วเดินขึ้นสะพานลอย จิวเวลรี่ถาม
“เออชิน พี่คนที่เขาพันมือ ที่หน้าเกาหลีขาวๆอ่ะ เขาชื่ออะไรหรอแล้วรู้จักป่ะ”
ชินเงียบไปซักครู่ก่อนจะตอบ
“รู้จักดิ อ๋อไอนั่นน่ะหรอ”
จากนั้นก็ไม่พูดอะไรอีก ปล่อยให้จิวเวลรี่งงงวยกับคำตอบของชิน
“ถาม ยังตอบไม่ตรงคำถามเลยนะ แล้วจะรู้มะว่าพี่หน้าเกาหลีเค้าชื่ออะไร”
 
จิวเวลรี่เดินไปบ่นชินที่รีบเดินนำหน้าไปเหมือนไม่อยากตอบคำถามอะไรอีก

 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา