ห่างรักไม่ห่างร้าย จากยัยตัวร้ายถึงนายตัวแสบ
-
เขียนโดย ยัยเด็กแสบ
วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 เวลา 21.23 น.
5 บท
1 วิจารณ์
8,179 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 21.45 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) @ยัยวายร้ายปะทะนายตัวแสบ@
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ปัง! ปัง!
“ตื่นได้แล้วยัยอีฟ!!!”เสียงตะโกนดังทะลุประตูเข้ามาในโสตประสาทการรับฟังของฉันจังๆ ทำเอาฉันสะดุ้งหันหวับไปมองที่นาฬิกาดิจิตอล 12:45น. “ชิบหายแล้ว”ฉันสถบออกมาแล้วรีบวิ่งลงไปข้างล่างกระโจนเข้าไปในครัว “ทำไมพี่ไม่ปลุกหนู!!!!”ฉันตะคอกใส่พี่อีฟเฟ่เสียงแข็งปนโกรธ “เอา! วันนี้แกมีนัดเร๊อะ ทำไมแกไม่บอกพี่ล่วงหน้าว่ะO_O”พี่ทำหน้าเหวอแล้วน้ำเสียงก็ดูตกใจ มือที่กำลังหยิบแซนวิสเอามาทาบไว้ที่หน้าอก “นัดบ้านัดบออะไรกัน!!! วันนี้มีเรียนไม่ใช้เหรอไง-*-”ฉันเท้าสะเอวทำหน้าอึนๆ ไว้พี่ชายสุดรักของตัวเองเวลาพี่เขาโหดก็น่ากลัวนะ แต่เวลาพี่เขาทำตัวน่าโมโหก็ตลกไปอีกแบบ “วันนี้วันเสาร์นะอีฟ แกได้ดูปฏิทินก่อนจะมาอาละวาดกับฉันหรือป่าวห๊ะ!”พี่ชายเท้าสะเอวแล้วมองหน้าฉันตาขวาง ฉันรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูวันที่ 16 มีนาคม 2556 เพล้ง! “อุ๊ย!ๆ เดินไปที่โต๊ะกินข้าวระวังเหยียบเศษกระจกนะ”พี่อีฟเฟ่พูดเยาะเย้ยแล้วหันไปทำข้าวเช้าต่อ ฉันก้มหน้างุดเดินไปที่โต๊ะกินข้าว แล้วทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้อย่างแรง “เอาๆ เดียวเก้าอี้หักนะ”พี่อีฟเฟ่พูดติดตลก ก่อนวางจานอาหารเช้าที่ส่งกลิ่นหอมชุย “เช็ดน้ำลายหน่อยยัยอีฟ เดียวหนุ่มๆ มาเห็นภาพนี้เข้าจะตกใจคิดว่ามีหมาบ้ามานั่งน้ำลายยืด”พี่อีฟเฟ่กัดฉันเบาๆ ฉันสะบัดหน้าให้พี่สุดเลิฟแล้วลงมือเขมือกเอ๊ย! รับประทานอาหารเช้าทันที หลังจากที่กินข้าวเสร็จแล้วฉันก็กะว่าวันนี้จะไปวิ่งเล่นที่สวนสาธารณะซะหน่อย ไหนๆ วันนี้ก็อุตสาห์ตื่นเช้าแล้วนี้น่า ถึงแม้จะตื่นเช้าเวลานี้ทุกวันก็เถอะ=_= ช่างเถอะ!ๆ วันนี้ก็แค่อยากวิ่งเท่านั้นแหละน่าไม่มีอะไรพิเศษ ไม่ได้วิ่งมาหลายอาทิตย์แล้ว อยากยืดเส้นยืดสายบ้าง จะเป็นอะไรไป>0<(ใครเขาว่าอะไรกัน=นักเขียน) “จะไปอ่อยเหยื่อเหรอจ๊ะอีฟ”เสียงแหลมๆ ดังออกมาจากบ้านข้างๆ อ้อ!พอเดาออกแล้วว่าใครยัย ‘เจนซี่’ อยู่แล้วล่ะคนที่ชอบเสียดสีฉันก็เห็นมีแต่ยัยนั้น “แหม!...ฉันว่าคนที่อ่อยเหยื่อน่าจะเป็นเธอมากกว่านะคุณเจนซี่”ฉันพูดอย่างเหยีดหยามมองยัยเจนซี่ด้วยสายตากดต่ำ กอดอกและเชิดหน้าขึ้น “ยัยปลากระดี่”เจนซี่ด่ากลับ 2 มือก็กอดอกเหมือนกัน “ยัยปลาร้า” “ยัยปลาเน่า” “ยัยปลา’แรด’” “กรี้ดดดดดยัยอีฟ”ยัยเจนซี่ดิ้นกระแดวๆ เป็นปลากระดี่ขาดน้ำก่อนจะออกจะบ้านแล้วมายืนจังก้าอยู่หน้าบ้านของฉัน “แน่จริงออกมาตบกันเลยสิย่ะ”ยัยเจนซี่ตะโกนบอก “ฉันไม่อยากตบกับ ‘ แรด’ ด้วยเรื่องไร้สาระที่เธอเถียงฉันไม่ขึ้นหรอกนะยัยแรด”ฉันบอกอย่างเอือมระอาก่อนจะจูงจักรยานคู่ใจผ่านหน้ายัยเจนซี่ที่ตอนนี้กำลังดิ้นกระแดวๆ กับคำว่า ‘แรด’ “หนอย! ยัยอีฟฝากไว้ก่อนเถอะ”ยัยเจนซี่ตะโกนไล่หลัง “ฉันไม่รับฝากย่ะ แบร์:P”ฉันพูดจบก็ปั่นจักรยานมุ่งหน้าไปที่สวนสาธารณะใจกลางหมู่บ้านทันที ในระหว่างทางที่ฉันปั่นนั้นฉันก็คิดถึงเรื่องพนันที่ยัยมิงมิงท้ามาแล้วฉันก็ตอบตกลง อืม…รู้สึกว่าของวางเดิมพันครั้งนี้คือไวน์ 3000 ปี ส่วนของฉันคือเบอร์ของพี่อีฟเฟ่ แล้วเรื่องที่เราพนันกันล่ะ พอคิดถึงตรงนี้ฉันก็ถึงกับช็อกเพราะเรื่องที่เราพนันกันนั้น การทำให้หนุ่มคาสโนว่าสุดฮอตแห่งโรงเรียน ริเซ็นซาว่า มาบอกรักฉันแล้วไอ้หนุ่มคาสโนว่าสุดฮอตนั้นก็ดันเป็น จาสเซ่ O[]O อย่าบอกนะว่าฉันตอบรับคำพนันโดยไม่คิดอะไรเลย จะยกเลิกเรื่องพนันตอนนี้จะสายไปหรือเปล่านะ น่าจะไม่ทันแล้วแฮะ! แล้วทำไมต้องเป็นหมอนั้นด้วยเนี้ยยยยย เมื่อมาถึงสวนสาธารณะแล้วฉันก็จูงรถจักรยานคู่ใจไปไว้ใต้ต้นไม้ ทักทายกับพี่ยามซะหน่อยเพื่อให้พี่แกเฝ้ารถไว้ให้ ออกสตาร์หน้าร้านขายขนมโดยเริ่มจากวิ่งเบาๆ ตลอดทางที่วิ่งมานั้นก็จะเจอกับแต่ละกลุ่ม มีกลุ่มอาม่า อาก๊ง กลุ่มแอโรบิก กลุ่มโยคะ กลุ่มเด็กสาวๆ ที่มากรี้ดกร๊าดผู้ชายแล้วก็อีกสารพัดกลุ่ม ฉันวิ่งไปเรื่อยๆ สูดกลิ่นธรรมชาติจนมาถึงร้านโปรด ร้านหวานเย็น กรุ๊งกริ๊ง กรุ๊งกริ๊ง “เอา…อีฟไม่ได้เห็นหน้ามาหลายอาทิตย์ หายไปไหนมา”เสียงหวานๆดังขึ้น เมื่อเห็นลูกค้าอย่างฉันเข้าร้าน “โธ่!...หนูก็ขี้เกียจวิ่งเป็นเหมือนกันนะค่ะพี่หวาน-3-”ฉันพูดไปทำปากจู๋ไปพลาง พี่หวานสายหน้าอย่างเอือมระอา “ยัยตัวแสบจะดื่มอะไรดีล่ะหืม!?”พี่หวานเท้าคางกับเคาเตอร์แล้วมองหน้าฉันอย่างเอ็นดู “ชาเย็นก็แล้วกันค่ะ><”ฉันตอบเสียงใส พี่หวานหัวเราะเบาๆ ก่อนจะไปทำน้ำที่ฉันสั่งให้ทันที พี่หวานเป็นเจ้าของร้านหวานเย็น พี่เขาเป็นคนนิสัยดี อัธยาศัยดี แล้วก็ฉันกับพี่เขาคุยกันถูกคอด้วยล่ะ>U< พี่หวานมีผมเป็นลอนด์ล้อมกรอบโครงหน้ารูปหัวใจ คิ้วเรียวเข้มสีน้ำตา ขนตาเป็นแพงอนสวยล้อมกรอบดวงตาสีน้ำตาลอ่อนกลมโต จมูกโด่งนิดๆ ริมฝีปากบางเล็กสชมพู คอเล็กระหง ไหล่ไล่ระดับอย่างสวยงาม แล้วมือที่กำลังยื่นแก้วชาเย็นนั้นก็เรียวเล็ก แขนก็เล็ก… “เอ้า!...เหม่อซะล่ะ”พี่หวานพูดยิ้มๆ แล้ววางแก้วชาเย็นไว้ที่เคาเตอร์ตรงหน้าฉัน ฉันสะดุ้งเล็กน้อย แล้วรีบดูดชาเย็นอย่างกระหายและคิดถึงรสชาติของมัน “ค่อยๆ ดื่มไม่ต้องรีบ เดียวสำลักซะหรอก”พี่หวานปรามเสียงหวาน แล้วไม่ทันไรฉันก็ไอออกมา พี่หวานหัวเราะเบาๆ แต่ฉันนี้สิแก้มแดงนิดๆ แล้วมั้ง_/////_ กรุ๊งกริ๊ง กรุ๊งกริ๊ง “พี่หวานอ่ะ=/////=”ฉันพูดเสียงอ่อยแล้วหยิบเงินยื่นให้พี่หวาน พี่หวานส่ายหน้าแล้วบอกว่า “พี่เลี้ยง^^”พี่หวานยิ้มบางๆแล้วเดินไปต้อนรับแขกที่เข้ามาในร้าน สงสัยวันนี้อารมณ์ดี ฉันก็นั่งดูดเพลินไป “สวัสดีจาสเซ่”เสียงของพี่หวานลอยมากระทบหูของฉันเดียวนะ…จาสเซ่เหรอO[]o “สวัสดีครับพี่หวาน วันนี้ผมเอาคาปูชิโน่ร้อนนะครับ”เสียงทุ้มแนวเซ็กซี่ดังขึ้นไม่ไกลจากตัวฉัน แย่ล่ะ “จ๊ะ รอสักครู่”พี่หวานพูดจบก็หันหลังให้กับเคาเตอร์บาร์ ฉันก้มหน้าก้มตาดื่มชาเย็นอย่างรวดเร็ว แล้วลุกขึ้นทันที “พี่หวานหนูไปก่อนนะค่ะ ลืมไปเลยว่าวันนี้มีนัด”ฉันพูดรัวแล้วหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กสีขาวสะอาดออกจากโต๊ะเคาเตอร์บาร์ “จะไปแล้วเหรออีฟ”พี่หวานพูดเสียงดังทำเอาฉันสะดุ้ง จะเอ่ย!ชื่อฉันทำไมเนี้ย=[]= “ค่ะ”ฉันตอบเสียงเรียบ ก่อนจะเดินไปทางประตู แต่ๆ ฉันเหมือนได้ยินเสียงหมาเห่านะ “พี่หวาน พี่รีบเอาสเปรย์มาดับกลิ่นเหม็นๆ ของเชื้อโรคเร็วเดียวร้านพี่จะมีแต่เชื้อโรคนะ”หมาตัวนั้นชื่อจาสเซ่นั้นเอง=0= “จริงเหรอจาส…พี่ว่าพี่ไม่ได้กลิ่นอะไรเลยนะ”พี่หวานพูดเสียงสงสัย ทำท่าจมูกฟุดฟิด “อีฟ…ได้กลิ่นอะไรบ้างมั้ย?”พี่หวานถามฉันเสียงใส ฉันทำสมาธิแล้วกอดอก เชิดหน้าขึ้นทำจมูกฟุดฟิด “หนูได้กลิ่นนะพี่หวาน”ฉันบอกเสียงใส กรีดตามองไปรอบร้านแล้วสายตาก็หยุดที่หมาเน่าจาสเซ่ “กลิ่นหมาเน่าเพศผู้ ขึ้นอืด”ฉันยิ้มออกมาราวกับนางมารร้ายในละครน้ำเน่า “กลิ่นหมาเน่า? ขึ้นอืด? พี่ก็ไม่เห็นจะมีซากหมาตายอยู่ในบริเวณนี้เลยนี้”พี่หวานพูดอย่างใสซื่อ ฉันหัวเราะเบาๆ แล้วกรีดกรายเดินไปบริเวณเคาเตอร์บาร์ “โอ้วว! ลืมไปหมาเน่าตัวนั้นมันยังไม่ตายหรอกนะพี่หวาน”ฉันหยุดเดินห่างจากหมาเน่าจาสเซ่ไม่กี่ก้าว “แล้วมันอยู่ไหนล่ะ อีฟ…รีบบอกมาเร็วถ้ามันยังไม่ตายก็ยังเอาไปรักษาได้นะo[]o”พี่หวานพูดอย่างร้อนรน “มันรักษาไม่หายหรอกพี่หวาน มันอยู่ที่สันดานของมันแล้วล่ะ”ฉันพูดเสียงเรียบกรีดตากลมโตของฉันไปที่จาสเซ่ ดูเหมือนเจ้าตัวจะรู้แล้วล่ะว่าฉันหมายถึงใคร “มันอยู่ตรงหน้าพี่แล้วไงหมาเน่าตัวนั้นน่ะ นั่งหน้าเสล่อจิบคาปูชิโน่อยู่ตรงหน้าพี่น่ะ”ฉันพูดเสร็จก็ยิ้มร้ายออกมา “หมายถึงจาสเซ่น่ะเหรอ?” “ค่ะ…พี่หวานหนูหมายถึงคนนี้”พูดจบก็ชี้นิ้วไปที่หัวของหมาเน่าจาสเซ่ “อีฟไปว่าจาสเซ่ทำไม!!”พี่หวานดุเสียงดัง “ก็พี่ถามว่าหนูได้กลิ่นอะไรมั้ย หนูก็บอกตามความจริงว่าหนูได้กลิ่น ‘หมาเน่าเพศผู้ ขึ้นอืด’ งั้นหนูไปก่อนล่ะกัน หนูจะวิ่งให้เสร็จจะได้ไปตามนัดของ ‘หนุ่มหล่อ’”ฉันพูดเสร็จก็เดินกรีดกรายออกจากร้านทันที แหม!...ฉันนี้ช่างเปรียบเทียบ [จาสเซ่] ยัยเชื้อโรคนั้นกล้าดียังไงมาว่าผมเป็นหมาเน่ากันนะ อย่างงี้ผมยอมไม่ได้ มาหาว่าผมเป็นหมาเน่าเหรอ แถมขึ้นอืดด้วย “จะไปไหนน่ะจาส”พี่หวานทักขึ้นขณะที่ผมกำลังจะออกจากร้านไป “จะตามไปเอาคืนครับพี่หวาน” ผมพูดอย่างหัวเสีย พี่หวานหัวเราะเบาๆ “จะไปเอาคืนทำไมฮึ!...ชอบอีฟเหรอจ๊ะ”พี่หวานพูดเสียงเจ้าเลห์ซึ้งแตกต่างกับภาพลักษณ์ที่โชว์ต่อหน้ายัยเชื้อโรคนั้นลิบลับ “ผมไม่ได้ชอบยัยนั้นหรอกน่า…ยัยนั้นก็แค่เชื้อโรค”ผมพูดเสียงฟึดฟัด เพราะยัยนั้นเดินไปไกลแล้ว ทำไมต้องมาจุ้นจ้านด้วยนะ-*- “พี่เป็นพี่สาวเรานะจาส...อย่ามาทำเหมือนว่าพี่ไม่ใช้พี่เราสิ”พี่หวานพูดอย่างงอนๆ ถ้าตอนเวลาทั่วไปผมคงหยอกล้อแต่ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์+เวลา หรอกนะ “ผมไม่มีทางชอบยัยนั้นหรอกนะ!!! ผมไปล่ะแล้ววันนี้ผมไม่กลับมากินข้าวเย็นล่ะ”ผมพูดจบก็รีบวิ่งออกไปทันที โดยไม่ทันดูรอยยิ้มเจ้าเลห์ของพี่สาวสุดสวย น่ารัก และซุนซน ชิ! อารมณ์เสียซะมัด ทำไมฉันต้องมาเจอหน้าหมอนั้นวันนี้ด้วยนะ วันนี้อยากจะเที่ยวให้ลืม แล้วแท้ๆ “ยัยเชื้อโรค!!!”เหมือนได้ยินเสียงหมาเห่าแฮะ=0= “ยัยเชื้อโรค ฉันเรียกเธอไม่ได้ยินเหรอไงฮะ!!!!!”ความดังระดับเสียงดูถ้ามันคงใช้ขา 4 ขาวิ่งมาใกล้ถึงแล้วมั้ง งั้นฉันวิ่งดีกว่า เมื่อคิดได้ดังนั้นฉันจึงออกตัววิ่งโดยใช้สเต็ปเบาๆ ผ่อนคลาย ธรรมชาติ… “อีฟฟี้!!!”เสียงเรียกชื่อฉันจากหมาเน่า ฉันหยุดวิ่งแล้วหันไปมองเจ้าของเสียงที่ตอนนี้ร่างโชกไปด้วยเหงื่อ แล้วมาหยุดวิ่งตรงหน้าฉันหายใจหอบ “เรียกฉันเหรอ”ฉันถามพลางทำหน้าใส่ซื่อ “แล้วจะให้เรียกใครฮ่ะ!!! แฮกๆ แล้วอีกอย่างฉันเรียกเธอก่อนหน้านี้ทำไมไม่หันมาฮ่ะ!!! แฮกๆ จะเล่นตัวเหรอไงกันฮ่ะ!!! แฮกๆ”ทุกครั้งที่หมาเน่าตะคอกใส่ฉัน หมอนี้ก็มักจะหอบหายใจแฮกๆ คล้ายหมาเข้าไปทุกที “ฉันนึกว่านายเรียกเชื้อโรคเลยไม่ได้สนใจ”ฉันตอบแบบกวนๆ แล้วยักไหล่อย่างไม่สนใจ “แล้วนายเรียกฉันทำไมอ่ะ!”ฉันเปิดประเด็น “เธอด่าฉันต่อหน้าพี่หวานว่าหมาเน่า-*-”จาสเซ่ยืดตัวขึ้นสูง “ไม่ใช้หมาเน่าธรรมดานะ หมาเน่าเพศผู้ ขึ้นอืด”บอกอย่างกวนประสาท “เธอด่าฉันอีกแล้วนะ!!!”ขึ้นเสียงอย่างไม่พอใจ “ก็นายพูดไม่ครบ:P”กวนตีนไม่เลิก “หนอยย! ยัย…ยัย”หาคำด่าไม่ถูก “หาคำด่าไม่ถูกเหรอจ๊ะ:D”กวนส้นตีนเข้าไป “ยัยเชื้อโรค!!!!” “ไม่สะเทือนเลยนายนรก:p” “ยัยปลากระดี่!!!” “เวลานายด่า นายคล้ายตุ๊ดเลยนะ(- -)” อย่ามาทำหน้าอึนนะเว้ย!!!!!!” “” “=*=” “ด่าต่อสิ” “ยัยหน้าด้าน” “ขอบคุณ” “โธ่!เว้ย!!!!=O=*”จาสเซ่สถบเสร็จก็เดินหนีไปทันที ทิ้งไว้แต่ฉันที่หัวเราะอย่างสะใจ ไม่มีอะไรวิเศษไปเท่ากับการกวนประสาทคนแล้วชนะหรอกนะ^.< “ไม่ด่าต่อแล้วเหรอออออ”ฉันตะโกนถามเสียงดังยานๆ แสดงถึงความเกรียนของฉันอย่างเต็มที่ “ฝากไว้ก่อนเถอะยัยเชื้อโรค!!!!!!”นายจาสเซ่ตะโกนเสร็จก็ออกตัววิ่งไปที่รถทันที นั้นยิ่งเพิ่มความสะใจและเสียงหัวเราะของฉันเข้าไปอีก วิ่งหางจุกตูดเลยยย อุวะฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ(นี้ไม่ใช้นางเอกของตู//แดดิ้น) ฉันเช็ดเหงื่อด้วยผ้าขนหนูสีขาวสะอาดตาและออกวิ่งต่อทันที ถ้ามองจากมุมภายนอกแล้วมองลึกเข้ามาในแววตาของฉัน มันจะเหมือนกับฉันสะใจและสนุกกับการได้กวนประสาทคน ได้แสดงความเกรียนหลุดโลก และได้ทำให้คนๆ นั้นหัวเสีย อารมณ์บ่จอยและไม่สามารถด่าฉันชนะได้ และถ้าคนที่สนิทกับฉันมากๆ แล้วรู้ว่าฉันกับคนๆนั้นเคยเป็นแฟนกันมาก่อนคงคิดว่าฉันลืมไปได้แล้วหรือฉันไม่ได้สนใจ พิศวาส รักใคร่ คนๆ นั้นมาแต่ไหนแต่ไร แต้ถ้าลองมองมุมภายในแล้วมองลึกเข้ามาในแววตาของฉัน มันไม่ใช้อย่างที่กล่าวมาข้างต้นเลยฉันไม่ได้สะใจแต่ฉันกับเสียใจทว่าฉันต้องปิดบังความรู้สึกแบบนั้นไว้เพื่อไม่ให้ใครต้องคิดมาก ฉันไม่เคยรู้สึกสนุกเลย ฉันไม่อยากเจอหน้าคนๆ นั้นด้วยซ่ำ ฉันอยากเลือนหายไปจากโลกใบนี้จัง…
No3:เวลานายด่า นายคล้ายตุ๊ดเลยนะ(- -)
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
“ตื่นได้แล้วยัยอีฟ!!!”เสียงตะโกนดังทะลุประตูเข้ามาในโสตประสาทการรับฟังของฉันจังๆ ทำเอาฉันสะดุ้งหันหวับไปมองที่นาฬิกาดิจิตอล 12:45น. “ชิบหายแล้ว”ฉันสถบออกมาแล้วรีบวิ่งลงไปข้างล่างกระโจนเข้าไปในครัว “ทำไมพี่ไม่ปลุกหนู!!!!”ฉันตะคอกใส่พี่อีฟเฟ่เสียงแข็งปนโกรธ “เอา! วันนี้แกมีนัดเร๊อะ ทำไมแกไม่บอกพี่ล่วงหน้าว่ะO_O”พี่ทำหน้าเหวอแล้วน้ำเสียงก็ดูตกใจ มือที่กำลังหยิบแซนวิสเอามาทาบไว้ที่หน้าอก “นัดบ้านัดบออะไรกัน!!! วันนี้มีเรียนไม่ใช้เหรอไง-*-”ฉันเท้าสะเอวทำหน้าอึนๆ ไว้พี่ชายสุดรักของตัวเองเวลาพี่เขาโหดก็น่ากลัวนะ แต่เวลาพี่เขาทำตัวน่าโมโหก็ตลกไปอีกแบบ “วันนี้วันเสาร์นะอีฟ แกได้ดูปฏิทินก่อนจะมาอาละวาดกับฉันหรือป่าวห๊ะ!”พี่ชายเท้าสะเอวแล้วมองหน้าฉันตาขวาง ฉันรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูวันที่ 16 มีนาคม 2556 เพล้ง! “อุ๊ย!ๆ เดินไปที่โต๊ะกินข้าวระวังเหยียบเศษกระจกนะ”พี่อีฟเฟ่พูดเยาะเย้ยแล้วหันไปทำข้าวเช้าต่อ ฉันก้มหน้างุดเดินไปที่โต๊ะกินข้าว แล้วทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้อย่างแรง “เอาๆ เดียวเก้าอี้หักนะ”พี่อีฟเฟ่พูดติดตลก ก่อนวางจานอาหารเช้าที่ส่งกลิ่นหอมชุย “เช็ดน้ำลายหน่อยยัยอีฟ เดียวหนุ่มๆ มาเห็นภาพนี้เข้าจะตกใจคิดว่ามีหมาบ้ามานั่งน้ำลายยืด”พี่อีฟเฟ่กัดฉันเบาๆ ฉันสะบัดหน้าให้พี่สุดเลิฟแล้วลงมือเขมือกเอ๊ย! รับประทานอาหารเช้าทันที หลังจากที่กินข้าวเสร็จแล้วฉันก็กะว่าวันนี้จะไปวิ่งเล่นที่สวนสาธารณะซะหน่อย ไหนๆ วันนี้ก็อุตสาห์ตื่นเช้าแล้วนี้น่า ถึงแม้จะตื่นเช้าเวลานี้ทุกวันก็เถอะ=_= ช่างเถอะ!ๆ วันนี้ก็แค่อยากวิ่งเท่านั้นแหละน่าไม่มีอะไรพิเศษ ไม่ได้วิ่งมาหลายอาทิตย์แล้ว อยากยืดเส้นยืดสายบ้าง จะเป็นอะไรไป>0<(ใครเขาว่าอะไรกัน=นักเขียน) “จะไปอ่อยเหยื่อเหรอจ๊ะอีฟ”เสียงแหลมๆ ดังออกมาจากบ้านข้างๆ อ้อ!พอเดาออกแล้วว่าใครยัย ‘เจนซี่’ อยู่แล้วล่ะคนที่ชอบเสียดสีฉันก็เห็นมีแต่ยัยนั้น “แหม!...ฉันว่าคนที่อ่อยเหยื่อน่าจะเป็นเธอมากกว่านะคุณเจนซี่”ฉันพูดอย่างเหยีดหยามมองยัยเจนซี่ด้วยสายตากดต่ำ กอดอกและเชิดหน้าขึ้น “ยัยปลากระดี่”เจนซี่ด่ากลับ 2 มือก็กอดอกเหมือนกัน “ยัยปลาร้า” “ยัยปลาเน่า” “ยัยปลา’แรด’” “กรี้ดดดดดยัยอีฟ”ยัยเจนซี่ดิ้นกระแดวๆ เป็นปลากระดี่ขาดน้ำก่อนจะออกจะบ้านแล้วมายืนจังก้าอยู่หน้าบ้านของฉัน “แน่จริงออกมาตบกันเลยสิย่ะ”ยัยเจนซี่ตะโกนบอก “ฉันไม่อยากตบกับ ‘ แรด’ ด้วยเรื่องไร้สาระที่เธอเถียงฉันไม่ขึ้นหรอกนะยัยแรด”ฉันบอกอย่างเอือมระอาก่อนจะจูงจักรยานคู่ใจผ่านหน้ายัยเจนซี่ที่ตอนนี้กำลังดิ้นกระแดวๆ กับคำว่า ‘แรด’ “หนอย! ยัยอีฟฝากไว้ก่อนเถอะ”ยัยเจนซี่ตะโกนไล่หลัง “ฉันไม่รับฝากย่ะ แบร์:P”ฉันพูดจบก็ปั่นจักรยานมุ่งหน้าไปที่สวนสาธารณะใจกลางหมู่บ้านทันที ในระหว่างทางที่ฉันปั่นนั้นฉันก็คิดถึงเรื่องพนันที่ยัยมิงมิงท้ามาแล้วฉันก็ตอบตกลง อืม…รู้สึกว่าของวางเดิมพันครั้งนี้คือไวน์ 3000 ปี ส่วนของฉันคือเบอร์ของพี่อีฟเฟ่ แล้วเรื่องที่เราพนันกันล่ะ พอคิดถึงตรงนี้ฉันก็ถึงกับช็อกเพราะเรื่องที่เราพนันกันนั้น การทำให้หนุ่มคาสโนว่าสุดฮอตแห่งโรงเรียน ริเซ็นซาว่า มาบอกรักฉันแล้วไอ้หนุ่มคาสโนว่าสุดฮอตนั้นก็ดันเป็น จาสเซ่ O[]O อย่าบอกนะว่าฉันตอบรับคำพนันโดยไม่คิดอะไรเลย จะยกเลิกเรื่องพนันตอนนี้จะสายไปหรือเปล่านะ น่าจะไม่ทันแล้วแฮะ! แล้วทำไมต้องเป็นหมอนั้นด้วยเนี้ยยยยย เมื่อมาถึงสวนสาธารณะแล้วฉันก็จูงรถจักรยานคู่ใจไปไว้ใต้ต้นไม้ ทักทายกับพี่ยามซะหน่อยเพื่อให้พี่แกเฝ้ารถไว้ให้ ออกสตาร์หน้าร้านขายขนมโดยเริ่มจากวิ่งเบาๆ ตลอดทางที่วิ่งมานั้นก็จะเจอกับแต่ละกลุ่ม มีกลุ่มอาม่า อาก๊ง กลุ่มแอโรบิก กลุ่มโยคะ กลุ่มเด็กสาวๆ ที่มากรี้ดกร๊าดผู้ชายแล้วก็อีกสารพัดกลุ่ม ฉันวิ่งไปเรื่อยๆ สูดกลิ่นธรรมชาติจนมาถึงร้านโปรด ร้านหวานเย็น กรุ๊งกริ๊ง กรุ๊งกริ๊ง “เอา…อีฟไม่ได้เห็นหน้ามาหลายอาทิตย์ หายไปไหนมา”เสียงหวานๆดังขึ้น เมื่อเห็นลูกค้าอย่างฉันเข้าร้าน “โธ่!...หนูก็ขี้เกียจวิ่งเป็นเหมือนกันนะค่ะพี่หวาน-3-”ฉันพูดไปทำปากจู๋ไปพลาง พี่หวานสายหน้าอย่างเอือมระอา “ยัยตัวแสบจะดื่มอะไรดีล่ะหืม!?”พี่หวานเท้าคางกับเคาเตอร์แล้วมองหน้าฉันอย่างเอ็นดู “ชาเย็นก็แล้วกันค่ะ><”ฉันตอบเสียงใส พี่หวานหัวเราะเบาๆ ก่อนจะไปทำน้ำที่ฉันสั่งให้ทันที พี่หวานเป็นเจ้าของร้านหวานเย็น พี่เขาเป็นคนนิสัยดี อัธยาศัยดี แล้วก็ฉันกับพี่เขาคุยกันถูกคอด้วยล่ะ>U< พี่หวานมีผมเป็นลอนด์ล้อมกรอบโครงหน้ารูปหัวใจ คิ้วเรียวเข้มสีน้ำตา ขนตาเป็นแพงอนสวยล้อมกรอบดวงตาสีน้ำตาลอ่อนกลมโต จมูกโด่งนิดๆ ริมฝีปากบางเล็กสชมพู คอเล็กระหง ไหล่ไล่ระดับอย่างสวยงาม แล้วมือที่กำลังยื่นแก้วชาเย็นนั้นก็เรียวเล็ก แขนก็เล็ก… “เอ้า!...เหม่อซะล่ะ”พี่หวานพูดยิ้มๆ แล้ววางแก้วชาเย็นไว้ที่เคาเตอร์ตรงหน้าฉัน ฉันสะดุ้งเล็กน้อย แล้วรีบดูดชาเย็นอย่างกระหายและคิดถึงรสชาติของมัน “ค่อยๆ ดื่มไม่ต้องรีบ เดียวสำลักซะหรอก”พี่หวานปรามเสียงหวาน แล้วไม่ทันไรฉันก็ไอออกมา พี่หวานหัวเราะเบาๆ แต่ฉันนี้สิแก้มแดงนิดๆ แล้วมั้ง_/////_ กรุ๊งกริ๊ง กรุ๊งกริ๊ง “พี่หวานอ่ะ=/////=”ฉันพูดเสียงอ่อยแล้วหยิบเงินยื่นให้พี่หวาน พี่หวานส่ายหน้าแล้วบอกว่า “พี่เลี้ยง^^”พี่หวานยิ้มบางๆแล้วเดินไปต้อนรับแขกที่เข้ามาในร้าน สงสัยวันนี้อารมณ์ดี ฉันก็นั่งดูดเพลินไป “สวัสดีจาสเซ่”เสียงของพี่หวานลอยมากระทบหูของฉันเดียวนะ…จาสเซ่เหรอO[]o “สวัสดีครับพี่หวาน วันนี้ผมเอาคาปูชิโน่ร้อนนะครับ”เสียงทุ้มแนวเซ็กซี่ดังขึ้นไม่ไกลจากตัวฉัน แย่ล่ะ “จ๊ะ รอสักครู่”พี่หวานพูดจบก็หันหลังให้กับเคาเตอร์บาร์ ฉันก้มหน้าก้มตาดื่มชาเย็นอย่างรวดเร็ว แล้วลุกขึ้นทันที “พี่หวานหนูไปก่อนนะค่ะ ลืมไปเลยว่าวันนี้มีนัด”ฉันพูดรัวแล้วหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กสีขาวสะอาดออกจากโต๊ะเคาเตอร์บาร์ “จะไปแล้วเหรออีฟ”พี่หวานพูดเสียงดังทำเอาฉันสะดุ้ง จะเอ่ย!ชื่อฉันทำไมเนี้ย=[]= “ค่ะ”ฉันตอบเสียงเรียบ ก่อนจะเดินไปทางประตู แต่ๆ ฉันเหมือนได้ยินเสียงหมาเห่านะ “พี่หวาน พี่รีบเอาสเปรย์มาดับกลิ่นเหม็นๆ ของเชื้อโรคเร็วเดียวร้านพี่จะมีแต่เชื้อโรคนะ”หมาตัวนั้นชื่อจาสเซ่นั้นเอง=0= “จริงเหรอจาส…พี่ว่าพี่ไม่ได้กลิ่นอะไรเลยนะ”พี่หวานพูดเสียงสงสัย ทำท่าจมูกฟุดฟิด “อีฟ…ได้กลิ่นอะไรบ้างมั้ย?”พี่หวานถามฉันเสียงใส ฉันทำสมาธิแล้วกอดอก เชิดหน้าขึ้นทำจมูกฟุดฟิด “หนูได้กลิ่นนะพี่หวาน”ฉันบอกเสียงใส กรีดตามองไปรอบร้านแล้วสายตาก็หยุดที่หมาเน่าจาสเซ่ “กลิ่นหมาเน่าเพศผู้ ขึ้นอืด”ฉันยิ้มออกมาราวกับนางมารร้ายในละครน้ำเน่า “กลิ่นหมาเน่า? ขึ้นอืด? พี่ก็ไม่เห็นจะมีซากหมาตายอยู่ในบริเวณนี้เลยนี้”พี่หวานพูดอย่างใสซื่อ ฉันหัวเราะเบาๆ แล้วกรีดกรายเดินไปบริเวณเคาเตอร์บาร์ “โอ้วว! ลืมไปหมาเน่าตัวนั้นมันยังไม่ตายหรอกนะพี่หวาน”ฉันหยุดเดินห่างจากหมาเน่าจาสเซ่ไม่กี่ก้าว “แล้วมันอยู่ไหนล่ะ อีฟ…รีบบอกมาเร็วถ้ามันยังไม่ตายก็ยังเอาไปรักษาได้นะo[]o”พี่หวานพูดอย่างร้อนรน “มันรักษาไม่หายหรอกพี่หวาน มันอยู่ที่สันดานของมันแล้วล่ะ”ฉันพูดเสียงเรียบกรีดตากลมโตของฉันไปที่จาสเซ่ ดูเหมือนเจ้าตัวจะรู้แล้วล่ะว่าฉันหมายถึงใคร “มันอยู่ตรงหน้าพี่แล้วไงหมาเน่าตัวนั้นน่ะ นั่งหน้าเสล่อจิบคาปูชิโน่อยู่ตรงหน้าพี่น่ะ”ฉันพูดเสร็จก็ยิ้มร้ายออกมา “หมายถึงจาสเซ่น่ะเหรอ?” “ค่ะ…พี่หวานหนูหมายถึงคนนี้”พูดจบก็ชี้นิ้วไปที่หัวของหมาเน่าจาสเซ่ “อีฟไปว่าจาสเซ่ทำไม!!”พี่หวานดุเสียงดัง “ก็พี่ถามว่าหนูได้กลิ่นอะไรมั้ย หนูก็บอกตามความจริงว่าหนูได้กลิ่น ‘หมาเน่าเพศผู้ ขึ้นอืด’ งั้นหนูไปก่อนล่ะกัน หนูจะวิ่งให้เสร็จจะได้ไปตามนัดของ ‘หนุ่มหล่อ’”ฉันพูดเสร็จก็เดินกรีดกรายออกจากร้านทันที แหม!...ฉันนี้ช่างเปรียบเทียบ [จาสเซ่] ยัยเชื้อโรคนั้นกล้าดียังไงมาว่าผมเป็นหมาเน่ากันนะ อย่างงี้ผมยอมไม่ได้ มาหาว่าผมเป็นหมาเน่าเหรอ แถมขึ้นอืดด้วย “จะไปไหนน่ะจาส”พี่หวานทักขึ้นขณะที่ผมกำลังจะออกจากร้านไป “จะตามไปเอาคืนครับพี่หวาน” ผมพูดอย่างหัวเสีย พี่หวานหัวเราะเบาๆ “จะไปเอาคืนทำไมฮึ!...ชอบอีฟเหรอจ๊ะ”พี่หวานพูดเสียงเจ้าเลห์ซึ้งแตกต่างกับภาพลักษณ์ที่โชว์ต่อหน้ายัยเชื้อโรคนั้นลิบลับ “ผมไม่ได้ชอบยัยนั้นหรอกน่า…ยัยนั้นก็แค่เชื้อโรค”ผมพูดเสียงฟึดฟัด เพราะยัยนั้นเดินไปไกลแล้ว ทำไมต้องมาจุ้นจ้านด้วยนะ-*- “พี่เป็นพี่สาวเรานะจาส...อย่ามาทำเหมือนว่าพี่ไม่ใช้พี่เราสิ”พี่หวานพูดอย่างงอนๆ ถ้าตอนเวลาทั่วไปผมคงหยอกล้อแต่ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์+เวลา หรอกนะ “ผมไม่มีทางชอบยัยนั้นหรอกนะ!!! ผมไปล่ะแล้ววันนี้ผมไม่กลับมากินข้าวเย็นล่ะ”ผมพูดจบก็รีบวิ่งออกไปทันที โดยไม่ทันดูรอยยิ้มเจ้าเลห์ของพี่สาวสุดสวย น่ารัก และซุนซน ชิ! อารมณ์เสียซะมัด ทำไมฉันต้องมาเจอหน้าหมอนั้นวันนี้ด้วยนะ วันนี้อยากจะเที่ยวให้ลืม แล้วแท้ๆ “ยัยเชื้อโรค!!!”เหมือนได้ยินเสียงหมาเห่าแฮะ=0= “ยัยเชื้อโรค ฉันเรียกเธอไม่ได้ยินเหรอไงฮะ!!!!!”ความดังระดับเสียงดูถ้ามันคงใช้ขา 4 ขาวิ่งมาใกล้ถึงแล้วมั้ง งั้นฉันวิ่งดีกว่า เมื่อคิดได้ดังนั้นฉันจึงออกตัววิ่งโดยใช้สเต็ปเบาๆ ผ่อนคลาย ธรรมชาติ… “อีฟฟี้!!!”เสียงเรียกชื่อฉันจากหมาเน่า ฉันหยุดวิ่งแล้วหันไปมองเจ้าของเสียงที่ตอนนี้ร่างโชกไปด้วยเหงื่อ แล้วมาหยุดวิ่งตรงหน้าฉันหายใจหอบ “เรียกฉันเหรอ”ฉันถามพลางทำหน้าใส่ซื่อ “แล้วจะให้เรียกใครฮ่ะ!!! แฮกๆ แล้วอีกอย่างฉันเรียกเธอก่อนหน้านี้ทำไมไม่หันมาฮ่ะ!!! แฮกๆ จะเล่นตัวเหรอไงกันฮ่ะ!!! แฮกๆ”ทุกครั้งที่หมาเน่าตะคอกใส่ฉัน หมอนี้ก็มักจะหอบหายใจแฮกๆ คล้ายหมาเข้าไปทุกที “ฉันนึกว่านายเรียกเชื้อโรคเลยไม่ได้สนใจ”ฉันตอบแบบกวนๆ แล้วยักไหล่อย่างไม่สนใจ “แล้วนายเรียกฉันทำไมอ่ะ!”ฉันเปิดประเด็น “เธอด่าฉันต่อหน้าพี่หวานว่าหมาเน่า-*-”จาสเซ่ยืดตัวขึ้นสูง “ไม่ใช้หมาเน่าธรรมดานะ หมาเน่าเพศผู้ ขึ้นอืด”บอกอย่างกวนประสาท “เธอด่าฉันอีกแล้วนะ!!!”ขึ้นเสียงอย่างไม่พอใจ “ก็นายพูดไม่ครบ:P”กวนตีนไม่เลิก “หนอยย! ยัย…ยัย”หาคำด่าไม่ถูก “หาคำด่าไม่ถูกเหรอจ๊ะ:D”กวนส้นตีนเข้าไป “ยัยเชื้อโรค!!!!” “ไม่สะเทือนเลยนายนรก:p” “ยัยปลากระดี่!!!” “เวลานายด่า นายคล้ายตุ๊ดเลยนะ(- -)” อย่ามาทำหน้าอึนนะเว้ย!!!!!!” “” “=*=” “ด่าต่อสิ” “ยัยหน้าด้าน” “ขอบคุณ” “โธ่!เว้ย!!!!=O=*”จาสเซ่สถบเสร็จก็เดินหนีไปทันที ทิ้งไว้แต่ฉันที่หัวเราะอย่างสะใจ ไม่มีอะไรวิเศษไปเท่ากับการกวนประสาทคนแล้วชนะหรอกนะ^.< “ไม่ด่าต่อแล้วเหรอออออ”ฉันตะโกนถามเสียงดังยานๆ แสดงถึงความเกรียนของฉันอย่างเต็มที่ “ฝากไว้ก่อนเถอะยัยเชื้อโรค!!!!!!”นายจาสเซ่ตะโกนเสร็จก็ออกตัววิ่งไปที่รถทันที นั้นยิ่งเพิ่มความสะใจและเสียงหัวเราะของฉันเข้าไปอีก วิ่งหางจุกตูดเลยยย อุวะฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ(นี้ไม่ใช้นางเอกของตู//แดดิ้น) ฉันเช็ดเหงื่อด้วยผ้าขนหนูสีขาวสะอาดตาและออกวิ่งต่อทันที ถ้ามองจากมุมภายนอกแล้วมองลึกเข้ามาในแววตาของฉัน มันจะเหมือนกับฉันสะใจและสนุกกับการได้กวนประสาทคน ได้แสดงความเกรียนหลุดโลก และได้ทำให้คนๆ นั้นหัวเสีย อารมณ์บ่จอยและไม่สามารถด่าฉันชนะได้ และถ้าคนที่สนิทกับฉันมากๆ แล้วรู้ว่าฉันกับคนๆนั้นเคยเป็นแฟนกันมาก่อนคงคิดว่าฉันลืมไปได้แล้วหรือฉันไม่ได้สนใจ พิศวาส รักใคร่ คนๆ นั้นมาแต่ไหนแต่ไร แต้ถ้าลองมองมุมภายในแล้วมองลึกเข้ามาในแววตาของฉัน มันไม่ใช้อย่างที่กล่าวมาข้างต้นเลยฉันไม่ได้สะใจแต่ฉันกับเสียใจทว่าฉันต้องปิดบังความรู้สึกแบบนั้นไว้เพื่อไม่ให้ใครต้องคิดมาก ฉันไม่เคยรู้สึกสนุกเลย ฉันไม่อยากเจอหน้าคนๆ นั้นด้วยซ่ำ ฉันอยากเลือนหายไปจากโลกใบนี้จัง…
No3:เวลานายด่า นายคล้ายตุ๊ดเลยนะ(- -)
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ