Forent School ละลายหัวใจเจ้าชายเย็นชา (NC+)
8.7
เขียนโดย รักคนโสด
วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 เวลา 17.37 น.
14 session
103 วิจารณ์
468.34K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 12.52 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) Forent School *4*
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ “เฮ้ย! โซนิค!”
ทีเซอร์ตะโกนเรียกเพื่อนของตนเมื่อเห็นเขาเดินเข้าห้องมา แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นรอยแดงๆ ที่คอของโซนิค ซึ่งมันเยอะมากเกินกว่าที่จะเป็นรอยมดหรือแมลงกัด
“มีอะไร” โซนิคเดินมานั่งที่ของตนเองและเอ่ยถามทีเซอร์เสียงเรียบ
“พอดี...ยัยรุ่งอรุณฝากถามว่า จันทราแก้วน่ะทำไมยังไม่กลับห้องอีก”
“เห็นบอกว่าง่วงเลยขอนอนที่ห้อง”
“แกแน่ใจนะ”
“อย่างแกเนี่ยนะจะยอมให้ใครนอนในห้องแค่ยอมให้เข้าห้องก็ไม่อยากจะเชื่อแล้ว นี้ให้นอนบนเตียง...มันต้องมีอะไรแน่ๆ เลย”
เอริคพูดเสริมพลางจ้องที่รอยบนคอของโซนิคไม่วางตา
“เอาเป็นว่า ยัยนั่นอยู่ห้องฉัน ปลอดภัยดี และพวกแกก็ไม่ต้องถามซ้ำซากอีกแล้วด้วย ฉันรำคาญ”
“แกแน่ใจนะว่าปลอดภัยน่ะ”
นี่ไม่ใช่เสียงของเอริคหรือทีเซอร์ แต่เป็นเสียงของตะวันค่ำพร้อมกับปรากฏร่างของพวกเขาสี่คนพี่น้องที่เดินเข้าในห้อง
“เออ”
โซนิคตอบกลับไปสั้นๆ ห้วนๆ และหันไปมองนอกหน้าต่างซึ่งหากมองจากตรงที่เขานั่งอยู่นั้นก็จะมองเห็นหอพักของเขาพอดี ดูเหมือนว่าในใจของเขาตอนนี้จะคิดถึงแต่เธอคนเดียวซะแล้ว
‘ฉันเป็นบ้าอะไรวะ แค่เซ็กซ์ครั้งเดียวทำเอาเพ้อถึงยัยนั่นขนาดนี้เลยเหรอ บ้าชะมัด’ เขาส่ายหัวเบาๆ คล้ายจะไล่ความรู้สึกแปลกๆ นี่ออกไป แต่ก็ทำได้ยากเสียเหลือเกินยัยเด็กนั่นทำอะไรกับเขากันนะ ในหัวเขาถึงได้มีแต่ภาพของยัยนั่นเต็มไปหมดแบบนี้
“เอาน่าพวกนายก็ไปนั่งที่เถอะ เดี๋ยวอาจารย์คงจะมาแล้วล่ะ”
ทีเซอร์พูดขึ้นเพื่อทำลายบรรยากาศมาคุที่เกิดขึ้นในตอนนี้ พอจะดูออกว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่นัก เพราะคนอย่างโซนิคไม่เคยสนใจผู้หญิงซะด้วยสิ คิดๆ ไปก็ปวดหัวเป็นบ้า แล้วไอ้เพื่อนไร้ต่อมอารมณ์นั่นก็ไม่ยอมบอกอะไรเขาเลยสักนิดเดียวแล้วเขาจะรู้อะไรได้ล่ะ ถ้ามันไม่ยากให้รู้นะ
“โซนิค รอยที่คอแกไปได้มาจากไหนวะ” พอทั้งสี่พี่น้องนั่งที่เรียบร้อยแล้ว เอริคก็หันมาถามโซนิค
“ไม่ต้องบอกว่ามดหรือแมลงอะไรกัดนะเว้ย เพราะนี่มันเยอะเกินกว่าที่จะเป็นรอยของสัตว์พวกนั้น”
“ไปทำอะไรกับใครมาวะ แถมปล่อยให้ทิ้งหลักฐานไว้อีก”
“พวกแกไม่ต้องรู้หรอก”
...ตอนเย็น...
“อื้อ~”
ร่างบางบนเตียงครางออกมาเบาๆ ก่อนที่เปลือกตาทั้งสองข้างจะค่อยๆ เปิดขึ้น
“ที่นี่มัน...โอ๊ย!”
เมื่อขยับตัวขึ้นนั่งความเจ็บก็แล่นเข้าเล่นงานเธอทันที เธอค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งและก้มลงดูตัวเองที่อยู่ในสภาพเปลือยทั้งตัว เมื่อนึกย้อนไปเธอก็รู้สึกอายขึ้นมาทัน ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นมันจะเป็นเพราะไอ้น้ำยานั่นก็จริงแต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะจำไม่ได้ เธอจำได้ทุกอย่าง โดยเฉพาะสัมผัสของเขา เธอจำได้ทุกสัมผัส ทุกการกระทำของเขาเธอจำได้ทั้งหมด...น่าอายชะมัด!!!
“ไง ตื่นแล้วเหรอ” ร่างสูงของโซนิคเดินเปิดประตูห้องเข้ามานั่งข้างๆ จันทราแก้วบนเตียงจนเธอต้องขยับหนี เมื่อเห็นรอยบนคอเขาใบหน้าหวานก็ขึ้นสีทันที
“เมื่อคืน...”
“ก็อย่างที่เธอคิด อย่างที่เธอเข้าใจ...”
“...”
“แล้วก็...อย่างที่เธอเห็น”
เขาชี้ไปที่รอยบนคอตัวเองและบนผ้าปูเตียงซึ่งมีรอยเลือดของหญิงสาวปรากฏอยู่ ทำเอาเธอก้มหน้างุดด้วยความอาย
‘เสียไปแล้วจริงๆ สินะ เสียให้กับผู้ชายที่เพิ่งรู้จักกันไม่ถึงวันเนี่ยนะ’
(บันทึกพิเศษ: จันทราแก้ว)
ใจง่ายจริงๆ ไอ้จันทรา แค่ไอ้ฤทธิ์ยาบ้าๆนั่นแกก็ต้านไม่ไหวจนทำเรื่องงามหน้าแบบนั้นลงไปงั้นเหรอ น่าสมเพชว่ะ!!!
“ด่าตัวเองทำไมเธอน่ะ”
“อะไรของนายวะ?”
ฉันเงยหน้ามองไอ้เจ้าชายนั่นที่มันได้ทุกอย่างของฉันไปหมดแล้ว ฮึ่ย! เกลียดตัวเองจริงๆ ทำไมอ่อนแออย่างนี้ว่ะ!
“เลิกด่าตัวเองสักทีได้มั้ยฮะ!”
“อย่ามาขึ้นเสียงนะเว้ย! แล้วนายรู้ได้ไงว่าฉันด่าตัวเอง อย่ามามั่ว!”
“ฉันได้ยินเสียงความคิดเธอว่ากำลังด่าตัวเองอยู่! หรือจะเถียงล่ะ”
“0_0”
ฉันลืมไปได้ยังไงเนี่ยว่าไอ้หมอนี่มันเป็นปีศาจ แถมยังเป็นปีศาจสายพันธุ์บริสุทธิ์อีกต่างหาก นี่สินะพลังของหมอนี่น่ะ หึ! สะดวกดีเป็นบ้าอย่างรู้อะไรในความคิด ในใจใครคงรู้ได้หมด...เจ๋งชะมัด
“เออ ฉันด่าตัวเองอยู่! พอใจยัง!”
ฉันสะบัดหน้าหนีอย่างแรง ชิ! ไม่อยากเห็นหน้าหมอนี่เลยจริงๆ ว่ะ
“เอ้า! นี่”
พอเงียบไปได้สักพักหนึ่งหมอนี่ก็เอาชุดนักเรียนรวมถึงของใช้ส่วนตัวของฉันมาโยนไว้ข้างๆ ฉัน แต่เดี๋ยวนะ จำได้ว่าฉันฉีกไปซะไม่เหลือเค้าโครงเดิมแล้วนี่นา หรือว่าหมอนี่ไปเอามาจากห้องของฉันงั้นเหรอ
“อย่างที่เธอคิดนั่นแหละ”
“ไอ้บ้า! นายมีสิทธิ์อะไรถึงเข้าห้องฉันไปเอาของส่วนตัวของฉันแบบนี้ฮะ!”
“จะให้บรรยายเลยมั้ยล่ะ ว่าฉันมีสิทธิ์อะไร...เริ่มจากก้าวแรกที่เธอเหยียบเข้ามาในห้องนี้เลยดีมั้ย”
“อะ...ไอ้บ้า!!!”
“เอาล่ะ ฉันไม่อยากจะทะเลาะกับเธอตอนนี้หรอกนะ ไปใส่เสื้อผ้าซะ! จะได้กลับห้อง พี่เธอเป็นห่วงกันหมดแล้ว”
เออ! จริงด้วยอ่ะ ลืมไปเลย! ฉันรีบคว้าเสื้อผ้าทั้งหมดมาและหันไปบอกหมอนั่นที่ยืนทำหน้าไร้อารมณ์อยู่ข้างๆ เตียง
“นายอ่ะ! หันหลังไปดิวะ จะยืนดูเอาอะไรเนี่ย”
“อายหรือไง”
“ยังจะมีหน้ามาถามอีก! หันไป!”
“เมื่อคืนยิ่งกว่ามองอีก ฉันก็ไม่เห็นว่าเธอจะว่าอะไร ซ้ำยังเรียกร้องไม่หยุด เมื่อคืนฉันไม่ได้นอนทั้งคืนเพราะเธอไม่ยอมปล่อยฉันเอง แล้วตอนนี้จะมาอายอะไรล่ะ”
“ไอ้บ้า!!! หันหลังไป!”
“หึ...”
เขาหัวเราะเบาๆ ก่อนจะยอมหันหลังให้โดยดี หัวเราะงั้นเหรอ? ไอ้หมอนี่เนี่ยนะ ผีเข้าปล่าววะ เออช่างเหอะ! รีบไปใส่เสื้อผ้าดีกว่า
พอเดินออกมาจากห้องน้ำฉันก็เห็นไอ้ไร้อารมณ์นั่นนั่งอยู่บนเตียงแถมในมือยังถือขวดยาของฉันไว้อีก เฮ้ย! เดี๋ยวนะวันนี้ฉันยังไม่ได้กินยาเลยนี่ ทำไมถึงไม่ทรมาณล่ะ ปกติมันทรมาณจนอยากฆ่าตัวตายเลยเลย แล้วนี่อะไรวะ แปลก
“เป็นอะไร”
“ปล่าว...แค่สงสัยอะไรนิดหน่อย”
“ฉันก็สงสัยเหมือนกัน”
“เรื่อง?”
“นี่ยาอะไร”
“ไม่รู้ พ่อบอกให้กิน ก็กินอ่ะ กินแล้วไม่ทรมาณ”
“เธอ...เป็นโรคอะไร”
“ไม่รู้ พ่อไม่ได้บอกอะไรเลย บอกแค่ให้กินยาอย่างเดียว”
“งั้นเหรอ...งั้นฉันขอเม็ดนึงล่ะกัน”
“จะเอาไปทำไม”
“เอาไปตรวจดูว่ามันคือยาอะไร”
“ฉันเคยเอาไปตรวจมาแล้ว ไม่มีใครรู้จัก ว่ามันคืออะไร”
“อืม~”
แล้วเขาก็ยื่นมาให้ฉัน ฉันจึงเอื้อมมือไปรับแต่ว่า เขากลับคว้าข้อมือฉันไว้และดึงเข้าหาตัวอย่างแรงจนฉันล้มลงไปนอนทับบนตัวของเขา
“ทำอะไรของนายน่ะ ปล่อยนะ”
“มาหวงตัวอะไรตอนนี้ ช้าไปแล้วมั้ง”
“ไอ้บ้า! ปล่อยนะเว้ย!”
“อยู่เฉยๆ”
เขาพูดก่อนจะช้อนคางฉันให้เงยขึ้น รับสัมผัสของเขาซึ่งประทับลงมาพอดี ก่อนจะพลิกตัวมาคร่อมเหนือร่างฉันแทน สัมผัสของเขาที่ทวีความหนักหน่วงร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำเอาฉันแทบคุมสติไม่อยู่ ให้ตายสิ ไอ้บ้าเอ๊ย!
“แล้วจะไปหาที่ห้อง” เขากระซิบที่ข้างหูฉันเบาๆ หลังจากที่ถอนริมฝีปากออกไปแล้ว
“ไม่ให้เข้า!”
“จะเข้าเธอจะทำไม” ไอ้เจ้าชายปีศาจหน้าด้านพูดพลางดึงฉันให้นั่งคร่อมลงบนตักของเขา บ้าเอ๊ย! แบบนี้มันแกล้งกันชัดๆ ฉันพยายามเบี่ยงตัวออกจากเขา แต่เขากลับใช้ท่อนแขนแข็งแกร่งนั่นกอดรัดเอวฉันไว้แน่น ฮึ่ย! แบบนี้จะขยับตัวได้ยังไงกันเล่า!
“ฉันไม่มีวันเปิดประตูต้อนรับนายหรอก ไม่มีทางเว้ย!!!”
“ไม่ให้ทางประตูจะเข้าทางหน้าต่าง”
“โรคจิต!”
“ฉันกลายเป็นแบบนี้ตั้งแต่เกิดเรื่องเมื่อคืนนั่นแหละ!”
“ไปหื่นกับคนอื่นไป!”
“หึ! กับใครก็คงไม่ถูกใจเท่าเธอหรอก เห็นห้าวๆ แบบนี้ใครจะคิด ว่า...จะทั้งเซ็กซ์ ทั้งเอ็กซ์ ซะขนาดนี้ ลีลาก็เร่าร้อนสุดๆ”
“ไอ้บ้า!!! ทุเรศ!!!”
อ๊ากกก!!! อยากจะกรี๊ดให้โลกถล่ม! ไอ้เจ้าชายนี้เวลาต่อหน้าคนอื่นล่ะพูดนับคำได้ แต่ไง๋กับฉัน มันถึงได้ทั้งพูด ทั้งหื่น ทั้งเอาเปรียบแบบนี้ล่ะเนี่ย ไม่เข้าใจเว้ยยย!!!
“หึ! จะให้ไปส่งมั้ย”
“ไม่จำเป็น ไปเองได้เว้ย!”
“ตามใจแล้วกัน”
โซนิคดันฉันให้ลงจากตัวเขาแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป ฉันจึงรีบออกจากห้องหมอนั่นแล้ววิ่งไปห้องตัวเอง อ๊ากกก!!! จะบ้าตาย!
(จบบันทึกพิเศษ)
หลังจากออกจากห้องของโซนิคแล้วจันทราก็ตรงไปที่ห้องของตนเองทันที
“จันทรา!” รุ่งอรุณที่เห็นน้องสาวเปิดประตูเข้ามาเรียกชื่อน้องสาวเสียงดังและวิ่งไปจับตัวจันทราหมุนไปมา ราวกับตรวจตราว่าเป็นอะไรหรือปล่าว
“แกไปอยู่ไหนมาวะ ไอ้จันทรา” ตะวันค่ำพูดขึ้นพลางเดินมาหาจันทราแก้วพร้อมกับแรมนภาและรุ่งทิวา
“จันทราก็อยู่ห้องของไอ้เจ้าชายไร้อารมณ์นั่นน่ะแหละ”
“แล้วทำไมวันนี้ จันทราไม่ไปเรียน” แรมนภา
“นอนอยู่...ที่นั่นแหละ พอดีใช้พลังเขียนวงเวทย์เยอะไปหน่อย เลยหลับข้ามคืนข้ามวันน่ะ”
“แล้วรอยนั่นล่ะ...จันทราแก้ว” รุ่งทิวาเอ่ยเสียงเข้ม และเปิดคอเสื้อทำให้เห็นรอยมาร์กที่โซนิคทิ้งไว้ชัดขึ้น และมากขึ้น
“เอ่อ...คือ...”
“ไอ้เจ้าชายนั่นใช่มั้ยจันทรา!”
“คือว่า...”
“ใช่มั้ย!”
“อืม...ขอโทษนะพี่ๆ จันทราพยายามต่อต้านแล้ว...แต่ไม่ไหวจริงๆ”
จันทราแก้วซบหน้าลงกับอกของตะวันค่ำที่ยืนอยู่ตรงหน้า กำเสื้อพี่ชายตนเองแน่น ทั้งสี่ตนมองหน้ากันก่อนจะเข้ามากอดกันไว้ทั้งห้าคน
“ไม่เป็นไรนะจันทรา ไม่เป็นไร”
“เสียแล้วเสียไปนะ เรามาเริ่มกันใหม่นะ น้องพี่”
แรมนภากับรุ่งอรุณปลอบน้องสาวตนเองเบาๆ ช่วยกันลูบหัวลูบหลังเพื่อให้น้องสาวตนเองสงบลง
“ให้จันทราไปพักผ่อนเถอะ”
“อืม ไปจันทรา”
ตะวันค่ำประคองร่างของจันทราแก้วให้ไปนอนบนเตียง จัดการห่มผ้าให้และพากันออกจากห้องไป
ทีเซอร์ตะโกนเรียกเพื่อนของตนเมื่อเห็นเขาเดินเข้าห้องมา แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นรอยแดงๆ ที่คอของโซนิค ซึ่งมันเยอะมากเกินกว่าที่จะเป็นรอยมดหรือแมลงกัด
“มีอะไร” โซนิคเดินมานั่งที่ของตนเองและเอ่ยถามทีเซอร์เสียงเรียบ
“พอดี...ยัยรุ่งอรุณฝากถามว่า จันทราแก้วน่ะทำไมยังไม่กลับห้องอีก”
“เห็นบอกว่าง่วงเลยขอนอนที่ห้อง”
“แกแน่ใจนะ”
“อย่างแกเนี่ยนะจะยอมให้ใครนอนในห้องแค่ยอมให้เข้าห้องก็ไม่อยากจะเชื่อแล้ว นี้ให้นอนบนเตียง...มันต้องมีอะไรแน่ๆ เลย”
เอริคพูดเสริมพลางจ้องที่รอยบนคอของโซนิคไม่วางตา
“เอาเป็นว่า ยัยนั่นอยู่ห้องฉัน ปลอดภัยดี และพวกแกก็ไม่ต้องถามซ้ำซากอีกแล้วด้วย ฉันรำคาญ”
“แกแน่ใจนะว่าปลอดภัยน่ะ”
นี่ไม่ใช่เสียงของเอริคหรือทีเซอร์ แต่เป็นเสียงของตะวันค่ำพร้อมกับปรากฏร่างของพวกเขาสี่คนพี่น้องที่เดินเข้าในห้อง
“เออ”
โซนิคตอบกลับไปสั้นๆ ห้วนๆ และหันไปมองนอกหน้าต่างซึ่งหากมองจากตรงที่เขานั่งอยู่นั้นก็จะมองเห็นหอพักของเขาพอดี ดูเหมือนว่าในใจของเขาตอนนี้จะคิดถึงแต่เธอคนเดียวซะแล้ว
‘ฉันเป็นบ้าอะไรวะ แค่เซ็กซ์ครั้งเดียวทำเอาเพ้อถึงยัยนั่นขนาดนี้เลยเหรอ บ้าชะมัด’ เขาส่ายหัวเบาๆ คล้ายจะไล่ความรู้สึกแปลกๆ นี่ออกไป แต่ก็ทำได้ยากเสียเหลือเกินยัยเด็กนั่นทำอะไรกับเขากันนะ ในหัวเขาถึงได้มีแต่ภาพของยัยนั่นเต็มไปหมดแบบนี้
“เอาน่าพวกนายก็ไปนั่งที่เถอะ เดี๋ยวอาจารย์คงจะมาแล้วล่ะ”
ทีเซอร์พูดขึ้นเพื่อทำลายบรรยากาศมาคุที่เกิดขึ้นในตอนนี้ พอจะดูออกว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่นัก เพราะคนอย่างโซนิคไม่เคยสนใจผู้หญิงซะด้วยสิ คิดๆ ไปก็ปวดหัวเป็นบ้า แล้วไอ้เพื่อนไร้ต่อมอารมณ์นั่นก็ไม่ยอมบอกอะไรเขาเลยสักนิดเดียวแล้วเขาจะรู้อะไรได้ล่ะ ถ้ามันไม่ยากให้รู้นะ
“โซนิค รอยที่คอแกไปได้มาจากไหนวะ” พอทั้งสี่พี่น้องนั่งที่เรียบร้อยแล้ว เอริคก็หันมาถามโซนิค
“ไม่ต้องบอกว่ามดหรือแมลงอะไรกัดนะเว้ย เพราะนี่มันเยอะเกินกว่าที่จะเป็นรอยของสัตว์พวกนั้น”
“ไปทำอะไรกับใครมาวะ แถมปล่อยให้ทิ้งหลักฐานไว้อีก”
“พวกแกไม่ต้องรู้หรอก”
...ตอนเย็น...
“อื้อ~”
ร่างบางบนเตียงครางออกมาเบาๆ ก่อนที่เปลือกตาทั้งสองข้างจะค่อยๆ เปิดขึ้น
“ที่นี่มัน...โอ๊ย!”
เมื่อขยับตัวขึ้นนั่งความเจ็บก็แล่นเข้าเล่นงานเธอทันที เธอค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งและก้มลงดูตัวเองที่อยู่ในสภาพเปลือยทั้งตัว เมื่อนึกย้อนไปเธอก็รู้สึกอายขึ้นมาทัน ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นมันจะเป็นเพราะไอ้น้ำยานั่นก็จริงแต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะจำไม่ได้ เธอจำได้ทุกอย่าง โดยเฉพาะสัมผัสของเขา เธอจำได้ทุกสัมผัส ทุกการกระทำของเขาเธอจำได้ทั้งหมด...น่าอายชะมัด!!!
“ไง ตื่นแล้วเหรอ” ร่างสูงของโซนิคเดินเปิดประตูห้องเข้ามานั่งข้างๆ จันทราแก้วบนเตียงจนเธอต้องขยับหนี เมื่อเห็นรอยบนคอเขาใบหน้าหวานก็ขึ้นสีทันที
“เมื่อคืน...”
“ก็อย่างที่เธอคิด อย่างที่เธอเข้าใจ...”
“...”
“แล้วก็...อย่างที่เธอเห็น”
เขาชี้ไปที่รอยบนคอตัวเองและบนผ้าปูเตียงซึ่งมีรอยเลือดของหญิงสาวปรากฏอยู่ ทำเอาเธอก้มหน้างุดด้วยความอาย
‘เสียไปแล้วจริงๆ สินะ เสียให้กับผู้ชายที่เพิ่งรู้จักกันไม่ถึงวันเนี่ยนะ’
(บันทึกพิเศษ: จันทราแก้ว)
ใจง่ายจริงๆ ไอ้จันทรา แค่ไอ้ฤทธิ์ยาบ้าๆนั่นแกก็ต้านไม่ไหวจนทำเรื่องงามหน้าแบบนั้นลงไปงั้นเหรอ น่าสมเพชว่ะ!!!
“ด่าตัวเองทำไมเธอน่ะ”
“อะไรของนายวะ?”
ฉันเงยหน้ามองไอ้เจ้าชายนั่นที่มันได้ทุกอย่างของฉันไปหมดแล้ว ฮึ่ย! เกลียดตัวเองจริงๆ ทำไมอ่อนแออย่างนี้ว่ะ!
“เลิกด่าตัวเองสักทีได้มั้ยฮะ!”
“อย่ามาขึ้นเสียงนะเว้ย! แล้วนายรู้ได้ไงว่าฉันด่าตัวเอง อย่ามามั่ว!”
“ฉันได้ยินเสียงความคิดเธอว่ากำลังด่าตัวเองอยู่! หรือจะเถียงล่ะ”
“0_0”
ฉันลืมไปได้ยังไงเนี่ยว่าไอ้หมอนี่มันเป็นปีศาจ แถมยังเป็นปีศาจสายพันธุ์บริสุทธิ์อีกต่างหาก นี่สินะพลังของหมอนี่น่ะ หึ! สะดวกดีเป็นบ้าอย่างรู้อะไรในความคิด ในใจใครคงรู้ได้หมด...เจ๋งชะมัด
“เออ ฉันด่าตัวเองอยู่! พอใจยัง!”
ฉันสะบัดหน้าหนีอย่างแรง ชิ! ไม่อยากเห็นหน้าหมอนี่เลยจริงๆ ว่ะ
“เอ้า! นี่”
พอเงียบไปได้สักพักหนึ่งหมอนี่ก็เอาชุดนักเรียนรวมถึงของใช้ส่วนตัวของฉันมาโยนไว้ข้างๆ ฉัน แต่เดี๋ยวนะ จำได้ว่าฉันฉีกไปซะไม่เหลือเค้าโครงเดิมแล้วนี่นา หรือว่าหมอนี่ไปเอามาจากห้องของฉันงั้นเหรอ
“อย่างที่เธอคิดนั่นแหละ”
“ไอ้บ้า! นายมีสิทธิ์อะไรถึงเข้าห้องฉันไปเอาของส่วนตัวของฉันแบบนี้ฮะ!”
“จะให้บรรยายเลยมั้ยล่ะ ว่าฉันมีสิทธิ์อะไร...เริ่มจากก้าวแรกที่เธอเหยียบเข้ามาในห้องนี้เลยดีมั้ย”
“อะ...ไอ้บ้า!!!”
“เอาล่ะ ฉันไม่อยากจะทะเลาะกับเธอตอนนี้หรอกนะ ไปใส่เสื้อผ้าซะ! จะได้กลับห้อง พี่เธอเป็นห่วงกันหมดแล้ว”
เออ! จริงด้วยอ่ะ ลืมไปเลย! ฉันรีบคว้าเสื้อผ้าทั้งหมดมาและหันไปบอกหมอนั่นที่ยืนทำหน้าไร้อารมณ์อยู่ข้างๆ เตียง
“นายอ่ะ! หันหลังไปดิวะ จะยืนดูเอาอะไรเนี่ย”
“อายหรือไง”
“ยังจะมีหน้ามาถามอีก! หันไป!”
“เมื่อคืนยิ่งกว่ามองอีก ฉันก็ไม่เห็นว่าเธอจะว่าอะไร ซ้ำยังเรียกร้องไม่หยุด เมื่อคืนฉันไม่ได้นอนทั้งคืนเพราะเธอไม่ยอมปล่อยฉันเอง แล้วตอนนี้จะมาอายอะไรล่ะ”
“ไอ้บ้า!!! หันหลังไป!”
“หึ...”
เขาหัวเราะเบาๆ ก่อนจะยอมหันหลังให้โดยดี หัวเราะงั้นเหรอ? ไอ้หมอนี่เนี่ยนะ ผีเข้าปล่าววะ เออช่างเหอะ! รีบไปใส่เสื้อผ้าดีกว่า
พอเดินออกมาจากห้องน้ำฉันก็เห็นไอ้ไร้อารมณ์นั่นนั่งอยู่บนเตียงแถมในมือยังถือขวดยาของฉันไว้อีก เฮ้ย! เดี๋ยวนะวันนี้ฉันยังไม่ได้กินยาเลยนี่ ทำไมถึงไม่ทรมาณล่ะ ปกติมันทรมาณจนอยากฆ่าตัวตายเลยเลย แล้วนี่อะไรวะ แปลก
“เป็นอะไร”
“ปล่าว...แค่สงสัยอะไรนิดหน่อย”
“ฉันก็สงสัยเหมือนกัน”
“เรื่อง?”
“นี่ยาอะไร”
“ไม่รู้ พ่อบอกให้กิน ก็กินอ่ะ กินแล้วไม่ทรมาณ”
“เธอ...เป็นโรคอะไร”
“ไม่รู้ พ่อไม่ได้บอกอะไรเลย บอกแค่ให้กินยาอย่างเดียว”
“งั้นเหรอ...งั้นฉันขอเม็ดนึงล่ะกัน”
“จะเอาไปทำไม”
“เอาไปตรวจดูว่ามันคือยาอะไร”
“ฉันเคยเอาไปตรวจมาแล้ว ไม่มีใครรู้จัก ว่ามันคืออะไร”
“อืม~”
แล้วเขาก็ยื่นมาให้ฉัน ฉันจึงเอื้อมมือไปรับแต่ว่า เขากลับคว้าข้อมือฉันไว้และดึงเข้าหาตัวอย่างแรงจนฉันล้มลงไปนอนทับบนตัวของเขา
“ทำอะไรของนายน่ะ ปล่อยนะ”
“มาหวงตัวอะไรตอนนี้ ช้าไปแล้วมั้ง”
“ไอ้บ้า! ปล่อยนะเว้ย!”
“อยู่เฉยๆ”
เขาพูดก่อนจะช้อนคางฉันให้เงยขึ้น รับสัมผัสของเขาซึ่งประทับลงมาพอดี ก่อนจะพลิกตัวมาคร่อมเหนือร่างฉันแทน สัมผัสของเขาที่ทวีความหนักหน่วงร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำเอาฉันแทบคุมสติไม่อยู่ ให้ตายสิ ไอ้บ้าเอ๊ย!
“แล้วจะไปหาที่ห้อง” เขากระซิบที่ข้างหูฉันเบาๆ หลังจากที่ถอนริมฝีปากออกไปแล้ว
“ไม่ให้เข้า!”
“จะเข้าเธอจะทำไม” ไอ้เจ้าชายปีศาจหน้าด้านพูดพลางดึงฉันให้นั่งคร่อมลงบนตักของเขา บ้าเอ๊ย! แบบนี้มันแกล้งกันชัดๆ ฉันพยายามเบี่ยงตัวออกจากเขา แต่เขากลับใช้ท่อนแขนแข็งแกร่งนั่นกอดรัดเอวฉันไว้แน่น ฮึ่ย! แบบนี้จะขยับตัวได้ยังไงกันเล่า!
“ฉันไม่มีวันเปิดประตูต้อนรับนายหรอก ไม่มีทางเว้ย!!!”
“ไม่ให้ทางประตูจะเข้าทางหน้าต่าง”
“โรคจิต!”
“ฉันกลายเป็นแบบนี้ตั้งแต่เกิดเรื่องเมื่อคืนนั่นแหละ!”
“ไปหื่นกับคนอื่นไป!”
“หึ! กับใครก็คงไม่ถูกใจเท่าเธอหรอก เห็นห้าวๆ แบบนี้ใครจะคิด ว่า...จะทั้งเซ็กซ์ ทั้งเอ็กซ์ ซะขนาดนี้ ลีลาก็เร่าร้อนสุดๆ”
“ไอ้บ้า!!! ทุเรศ!!!”
อ๊ากกก!!! อยากจะกรี๊ดให้โลกถล่ม! ไอ้เจ้าชายนี้เวลาต่อหน้าคนอื่นล่ะพูดนับคำได้ แต่ไง๋กับฉัน มันถึงได้ทั้งพูด ทั้งหื่น ทั้งเอาเปรียบแบบนี้ล่ะเนี่ย ไม่เข้าใจเว้ยยย!!!
“หึ! จะให้ไปส่งมั้ย”
“ไม่จำเป็น ไปเองได้เว้ย!”
“ตามใจแล้วกัน”
โซนิคดันฉันให้ลงจากตัวเขาแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป ฉันจึงรีบออกจากห้องหมอนั่นแล้ววิ่งไปห้องตัวเอง อ๊ากกก!!! จะบ้าตาย!
(จบบันทึกพิเศษ)
หลังจากออกจากห้องของโซนิคแล้วจันทราก็ตรงไปที่ห้องของตนเองทันที
“จันทรา!” รุ่งอรุณที่เห็นน้องสาวเปิดประตูเข้ามาเรียกชื่อน้องสาวเสียงดังและวิ่งไปจับตัวจันทราหมุนไปมา ราวกับตรวจตราว่าเป็นอะไรหรือปล่าว
“แกไปอยู่ไหนมาวะ ไอ้จันทรา” ตะวันค่ำพูดขึ้นพลางเดินมาหาจันทราแก้วพร้อมกับแรมนภาและรุ่งทิวา
“จันทราก็อยู่ห้องของไอ้เจ้าชายไร้อารมณ์นั่นน่ะแหละ”
“แล้วทำไมวันนี้ จันทราไม่ไปเรียน” แรมนภา
“นอนอยู่...ที่นั่นแหละ พอดีใช้พลังเขียนวงเวทย์เยอะไปหน่อย เลยหลับข้ามคืนข้ามวันน่ะ”
“แล้วรอยนั่นล่ะ...จันทราแก้ว” รุ่งทิวาเอ่ยเสียงเข้ม และเปิดคอเสื้อทำให้เห็นรอยมาร์กที่โซนิคทิ้งไว้ชัดขึ้น และมากขึ้น
“เอ่อ...คือ...”
“ไอ้เจ้าชายนั่นใช่มั้ยจันทรา!”
“คือว่า...”
“ใช่มั้ย!”
“อืม...ขอโทษนะพี่ๆ จันทราพยายามต่อต้านแล้ว...แต่ไม่ไหวจริงๆ”
จันทราแก้วซบหน้าลงกับอกของตะวันค่ำที่ยืนอยู่ตรงหน้า กำเสื้อพี่ชายตนเองแน่น ทั้งสี่ตนมองหน้ากันก่อนจะเข้ามากอดกันไว้ทั้งห้าคน
“ไม่เป็นไรนะจันทรา ไม่เป็นไร”
“เสียแล้วเสียไปนะ เรามาเริ่มกันใหม่นะ น้องพี่”
แรมนภากับรุ่งอรุณปลอบน้องสาวตนเองเบาๆ ช่วยกันลูบหัวลูบหลังเพื่อให้น้องสาวตนเองสงบลง
“ให้จันทราไปพักผ่อนเถอะ”
“อืม ไปจันทรา”
ตะวันค่ำประคองร่างของจันทราแก้วให้ไปนอนบนเตียง จัดการห่มผ้าให้และพากันออกจากห้องไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ