Angelics War นาย...อยากจะทำแบบนี้จริงๆเหรอ
8.5
เขียนโดย CyCloEclipse
วันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 เวลา 11.20 น.
32 ตอน
5 วิจารณ์
37.07K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 22 กันยายน พ.ศ. 2556 12.09 น. โดย เจ้าของนิยาย
8) เทศกาลชมดอกไม้ (ฮานามิ)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ เคยมีคนเขาว่าไว้... ว่าคนเราถ้าไปขลุกอยู่กับอะไรนานๆ ร่างกายจะมีกลิ่นของสิ่งๆนั้นติดอยู่เช่นถ้าเราไปทำสวน เราก็จะมีกลิ่นดินกับใบไม้ ถ้าเราทำงานในร้านอาหาร เราก็จะมีกลิ่นของอาหารติดตามตัวและเสื้อผ้าคงจะสงสัยว่าผมเอาเรื่องที่ไม่ได้เกี่ยวข้องและไม่เป็นจริงนี้มีกล่าวตรงนี้ทำไม เพราะว่าสิ่งที่ผมกล่าวไปเมื่อครู่นั้นเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อ8ปีก่อนหน้านี้ มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่กล้าแม้แต่จะเข้าไปผูกมิตรกับใคร ไม่แม้แต่จะเอ่ยปากพูดกับใครแม้แต่เพื่อนบ้านของตน ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเหตุให้เธอถูกเด็กคนอื่นๆแกล้งเป็นประจำและนี่ก็เป็นอีกครั้งหนึ่ง..."ไง ยัยลูกชาวประมง วันนี้มีกลิ่นคาวติดมาเหมือนเดิมเลยนะ""ดมแล้วรู้สึกคลื่นไส้ว่ะ!"กลุ่มคนที่กำลังพูดอยู่นี้เป็นกลุ่มเด็กผู้ชายแถวบ้านที่วันๆเอาแต่ล้อเด็กผู้หญิงที่นั่งร้องไห้อยู่กลางวงเพียงคนเดียว เพียงแค่ฉันเป็นลูกหลานชาวประมงเท่านั้นเอง ในนั้นมีคนหนึ่งทำท่าทางวิ่งออกไปอ้วกที่ถังขยะ แต่ฉันรู้ว่าจริงๆแล้วไม่มีอะไรออกมาหรอกแต่เหมือนเพื่อนๆของเด็กคนนั้นจะดูเป็นเดือดเป็นร้อนกับเหตุการณ์อันไม่เป็นจริงของเขาเอาเสียมากๆ ก็นะ... คนมันมีเพื่อนก็ย่อมเป็นห่วงเพื่อนเป็นเรื่องธรรมดา"เฮ้ย! ดูสิเธอทำเพื่อนฉันอ้วกหมดเลย" เด็กคนนีงในกลุ่มนั้นหันมาโวยใส่ฉัน ก่อนจะจิกผมฉันเดินไปหาเด็กคนที่แกล้งทำเป็นอ้วกออกมา"ขอโทษลูกพี่ฉันซะ!! เร็วสิฟะ!!" เขาดึงผมฉันจนเจ็บไปหมด ก่อนที่จะกดฉันลงไปคุกเข่ากับพื้น พอดีพื้นตรงนั้นเป็นลูกรังเลยทำให้เข่าของฉันถลอกเป็นแผลเลือดซึมออกมานิดๆ"ขอโทษฉันสิ ยัยนี่!"ทันทีที่เด็กที่เหมือนกับเป็นหัวโจกคนที่เดินออกไปแกล้งอ้วกขึ้นเสียงใส่ฉัน ทุกคนในกลุ่มนั้นเข้ามากระชากผมฉันจนเจ็บไปหมด ทั้งๆที่ฉันไม่ได้ผิดอะไรเลยสักนิด... แต่เพราะความเจ็บปวดนั้นทำให้ฉันต้องยอมพูดคำๆนั้นออกมา..."ขอโทษ...""เบาจัง ไม่ได้ยินเลย..." ฉันรู้ว่าเขามีเจตนาแกล้งฉัน เจ้าเด็กนั่นช่างกวนประสาทของฉันซะจริง "พูดให้มันดังๆหน่อยเซ่!!" "ขอโทษค่ะ..!!"ทุกๆวันฉันต้องถูกเด็กพวกนี้รังแกเป็นประจำ ผู้ใหญ่ทุกคนต่างก็อยากมาห้าม แต่อาจจะเป็นเพราะเคยเห็นเรื่องเหล่านี้ผ่านตามาเยอะ พวกนั้นเลยไม่คิดจะเข้ามาช่วยแล้วปล่อยให้ภาพเหล่านั้นผ่านตาพวกเขาไปแต่แล้วก็มีใครคนหนึ่งในจำนวนนั้นเดินฝ่าม่านประชาเข้ามา... สายตาของเขาจริงจังมาก"ให้มันน้อยๆหน่อย... พวกแก!!"เด็กชายคนหนึ่งเข้ามายืนอยู่ข้างหลังฉันพร้อมกับตะเบ็งเสียงใส่เด็กพวกนั้น ทำให้กลุ่มเด็กที่กำลังรังแกฉันอยู่หันไปมองเขาเป็นตาเดียวกัน..."แกเป็นใครวะ!!""ฉันจะเป็นใครก็ช่าง แต่ที่ผู้ชายตั้งสี่คนมารุมรังแกผู้หญิงคนเดียวนี่มันทุเรศตาเป็นบ้าเลยว่ะ!"ทีนี้กลุ่มเด็กพวกนั้นต่างก็พากันยืนล้อมเด็กชายคนนั้นเอาไว้ พวกเขาแสดงท่าทีเหมือนกับจะบุกเข้าไปอัดเขาได้ทุกเมื่อ หากแต่เด็กผู้ชายที่ถูกล้อมกลับไม่มีท่าทีตอบสนองอะไรเลย..."อ๋อ... แกเจ๋งว่างั้น! อย่าบังอาจทำตัวเป็นฮีโร่ไปหน่อยเลย"เมื่อเด็กพวกนั้นพูดจบก้มีเด็กในหลุ่มนั้นสองคนเข้ามาล็อกแขนทั้งสองข้างของเด็กคนที่เข้ามาช่วยฉันเอาไว้ไม่ให้ขยับได้ ก่อนที่เด็กชายที่เหมือนกับเป็นหัวโจกจะเป็นฝ่ายปล่อยหมัดเข้าที่ท้องของเขาก่อน ซึ่งมันก็ไม่ได้ทำให้เด็กชายที่เข้ามาสอดระหว่างการละเล่นแสนสนุกของเด็กสมัยนั้นล้มลงไปขดตัวกับพื้นแม้แต่น้อย"น่าเสียดายนะ..! เรื่องหนักกว่านี้ฉันก็เคยเจอมาแล้วฟ่ะ!!"ว่าแล้วเด็กผู้ชายที่ถูกล็อกแขนไว้ก็เงื้อขาเตะเข้าที่จุดตายของคนที่จะเข้ามาทำร้ายเขาอย่างแรงจนล้มลงไปทำให้ลิงที่พื้นทันที ทีนี้กลุ่มเด็กอีกสามคนก็เข้ามาประสานเท้าใส่เขาทันที ในขณะที่ฉันได้แต่ยืนดูอยู่เฉยๆด้วยอาการอึ้งและแล้ว... เด็กคนนั้นคนเดียวก็สามารถเอาชนะการรุมสามได้ในสภาพสะบักสะบอม"ฝากไว้ก่อนเถอะเอ็ง!!!"หัวโจกตะโกนใส่เขาอย่างโกรธแค้นก่อนจะรีบหนีไป ฉันจึงรีบเดินไปจะขอบคุณเขา แต่แล้วสิ่งที่ฉันไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น... "อู๊ยส์!!"อีกครึ่งชั่วโมงต่อมา ฉันก็พาเด็กชายที่ช่วยฉันจากการถูกรังแกมาให้คนรู้จักของฉันช่วยรักษาแผลให้ ซึ่งเขาล้มลงหมดสติทันทีที่กลุ่มเด็กพวกนั้นลับสายตาไป"ให้ตายสิน้า..!! ทำตัวเป็นฮีโร่ผู้เก่งกาจ สุดท้ายกลับโดนหนักสุดเลยนะ คิดว่าตัวเองเป็นเบ็นเคย์หรือไง"คนรู้จักของฉันช่วยกันรักษาแผลให้เขาที่ท่าเรือประมงที่เป็นย่านอาศัยของฉันซึ่งห่างออกไปประมาณสามโกดัง ถ้าดูจากรอยแผลเก่าๆบนตัวของเด็กคนนั้นแล้ว ดูท่าทางเขาจะไม่ค่อยห่วงตัวเองสักเท่าไหร่..."ดูสิ! แผลเต็มตัวไปหมด คิดว่าทำแบบนี้ไปแล้วตัวเองจะเป็นอย่างพวกอุลตร้าแมนหรือไงนะ..."ในที่สุดเด็กคนนั้นก็ได้สติกลับมาหลังจากหมดสติไปกว่าชั้วโมง แน่นอนว่าหากเขายังไม่ฟื้นก็คงต้องเอาตัวไปทิ้งน้ำแล้วล่ะมั้ง...!"ที่นี่มัน...""ท่าเรือหาปลา ที่พักของเด็กคนนี้เองล่ะ!"หลังจากที่คนรู้จักของฉันแนะนำสถานที่ที่เขาฟื้นขึ้นมาเสร็จแล้ว เด็กคนนั้นก็หันมามองที่ฉันด้วยสายตาที่ไม่คุ้นเคย ทำให้ฉันต้องถอยไปหลบหลังคุณน้าที่ให้ที่พักฉันอย่างไม่กล้าสู้หน้า..."เอาเป็นว่าขอบใจนะ ที่ช่วยเด็กคนนี้เอาไว้น่ะ"เมื่อเวลาผ่านไปเด็กคนนั้นก็เริ่มเปิดวงสนทนากับทุกคนที่อยู่ที่นั่นอย่างสนุกสนาน จนเมื่อฉันเห็นทุกคนคุยกับเด็กคนนั้นอย่างสบายอารมณ์แล้ว ฉันชักจะอิจฉาหมอนั่นซะแล้วสิ"นั่นสินะ ไหนๆเธอก็มาที่นี่แล้ว... ทำไมเธอไม่ไปหาอะไรเล่นกับเด็กคนนั้นล่ะ!""คุณน้าคะ!!" นี่ฉันออกอาการอายมากไปหรือเปล่า"คือปกติเด็กคนนี้จะไม่ค่อยพูดจากับใคร ปกติเธอก็มักจะหลบมุมแอบดูทุกคนสนุกกัน แต่เธอก็ไม่เคยเข้าไปเล่นกับใครเลย"ฉันเห็นคุณน้ากระซิบอะไรบางอย่างกับเขา เขาจึงหันมามองฉันด้วยสายตาแปลกๆ"ช่วยทำให้เด็กคนนี้มีความสุขด้วยนะ..."หลังจากนั้นเขาก็พยายามชวนฉันเล่นอะไรต่อมิอะไรสารพัด แต่เพราะฉันเป็นคนขี้อายและขี้กลัว ฉันจึงได้แต่นั่งเงียบอยู่ตลอด... เมื่อเห็นว่าฉันไม่ยอมคุยด้วยหรือเล่นด้วยเลยแม้แต่นิดเดียว เด็กคนนั้นจึงพาฉันไปคุยกันที่ท่าจอดเรือที่ว่างเปล่าเพราะทุกคนออกไปหาปลาหมดเหลือแต่พวกผู้หญิงที่จะมีหน้าที่ก็เฉพาะตอนขอดเกล็ดปลาที่ไม่สามารถขอดได้ทั้งหมดตอนอยู่บนเรือเท่านั้นเอง"ปกติเธอไม่ค่อยกล้าเข้าหาใครสินะ ถึงได้ไม่ค่อยมีเพื่อนซักเท่าไหร่แบบนี้""....""แล้วปกติเวลาว่างเธอชอบทำอะไรงั้นเหรอ""....""แถวบ้านฉันมีเด็กผู้หญิงสองคนที่อยากได้เพื่อนใหม่มาก เธอสนใจไหม""...." 'แย่ละสิ! ฉันไม่กล้าจะพูดโต้ตอบกับเขาเลย... แบบนี้เขาคงเกลียดฉันแน่ๆ!!'ฉันได้แต่คิดในแง่ร้ายตลอดเวลา ทั้งที่มีโอกาสได้หาเพื่อนแล้วแท้ๆ แบบนี้เขาได้เกลียดฉันแล้วเดินออกไปอย่างไม่สนใจใยดีแน่ๆแต่แทนที่เด็กคนนั้นจะสร้างเสียงเหมือนกับกำลังลุกเดินออกไป ฉันกลับได้ยินคำพูดแบบอื่นออกมาแทน..."เอาล่ะ! ในเมื่อเธอชอบความเงียบ เรามาเล่นเกมใบ้กันดีกว่า ใครพูดก่อนแพ้นะ!!"ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะพูดออกมาแบบนั้น ตามปกติเวลาเป็นอย่างนี้ ทุกคนจะเดินออกไปเล่นกับคนอื่นแล้วแต่เขาไม่... ท่าทางเขาจะสนใจและให้ความสำคัญกับคนอื่นๆมากเลยล่ะ"เอ่อ... คือว่า-""เธอพูดออกมาแล้ว เธอแพ้แล้ว!!" เขาหัวเราะอย่างชอบใจ เสียงของเขาช่างมีชีวิตชีวาเหลือเกิน..."คือ... ฉันมีเรื่องอยากคุยด้วยน่ะ...""หือ..." เด็กคนนั้นเอียงหูมาอย่างอยากรู้อยากเห็น เหมือนเขาจะสนใจมากทีเดียว"นายคิดว่า... อย่างฉันน่ะจะมีเพื่อนได้ไหม..."เขาหันไปใช้ความคิดอยู่นาน มันทำให้ฉันเริ่มใจไม่ดี"ฉันคิดว่าน่าจะ..." เขาหันกลับมาหาฉัน ใบหน้าของเขาเหมือนกับจะหัวเราะออกมา "ไม่ได้หรอก!""อย่างนั้นเอง---"ก่อนที่ฉันจะพูดอะไรออกมาอีก เขาก็ชิงสิทธิ์พูดซะก่อนทำให้ฉันเริ่มหงุดหงิดที่เขาไม่ยอมรอให้ฉันพูดให้จบแม้เพียงคำว่า"เหรอ" เท่านั้นเอง..."แต่ว่านะ ตามจริงเธอน่ะก็มีเสน่ห์อยู่พอสมควรนะ เธอน่ะหาเพื่อนได้ง่ายๆอยู่แล้วล่ะ มั่นใจในตัวเองหน่อยสิ!""แต่ฉันไม่มั่นใจเลย ถ้าเป็นนายก็คงหาเพื่อนได้ง่ายๆ แต่กับฉันสิ..."เมื่อได้ยินฉันพูดอย่างนี้...สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป จากที่เคยยิ้มก็กลายเป็นสีหน้าที่กดดันฉันจนพูดอะไรไม่ออก"คนที่ไม่มั่นใจในตัวเองน่ะ... ไม่มีค่าพอที่จะให้พยายามทำอะไรหรอก!!"คำพูดของเขาบาดลึกเข้าไปในใจของฉัน จริงสินะ... ถ้าเราไม่มั่นใจในตัวเอง ไม่ว่าจะลองสักกี่ครั้งก็ไม่มีทางทำได้หรอก"งั้นเหรอ... ขอบ-""แต่ต่อให้เรื่องมันกลายเป็นเลวร้ายแบบสุดๆอย่างนั้นจริงๆ ฉันจะเป็นเพื่อนกับเธอตลอดไปเอง!!"ล้อเล่นกันใช่ไหม! ในที่สุด... ในที่สุดเราก็มีเพื่อนแล้ว... เพื่อนคนแรกของฉัน!!!และวันนี้ในอีก8ปีต่อมา... ฉันก็ได้มีโอกาสได้พบกับเด็กคนนั้นอีกครั้งในร่างของเด็กม.ต้น คราวนี้ฉันจะไม่ปล่อยให้หลุดมือไปอีกแล้ว!!"เธอคิดดีแล้วเหรอ... เรื่องเจ้าหมอนั่นน่ะ""ฉันคิดดีแล้วล่ะ..." เหมือนกับมีอะไรดลใจฉันให้พูดออกมาอย่างนี้ ซึ่งฉันรู้ดีว่าไม่มีอะไรมากไปกว่าความรู้สึกในใจของฉันเอง..."แต่หมอนั่นเป็นเพื่อนคนแรกของเธอไม่ใช่เหรอ ถ้าเขาตอบปฏิเสธขึ้นมา ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเธอก็จะไม่เหลือแล้วนะ...""ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย..."ฉันหันไปยังเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังหยอกล้อกับกลุ่มเด็กสาวอย่างร่าเริง นายนี่ยิ่งโตยิ่งมีเพื่อนมากขึ้นนะ แล้วฉันล่ะ... ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายยังจำฉันได้อยู่หรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ... ฉันยังจำทุกคำพูดของนายได้ทุกประโยค!! "ก็ฉันน่ะชอบ โคริคาวะ ฮิซาชิ น่ะสิ!!"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ