เผลอรัก...จับใจ
10.0
เขียนโดย soso_sung
วันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 14.15 น.
20 chapter
0 วิจารณ์
24.80K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 25 เมษายน พ.ศ. 2556 20.49 น. โดย เจ้าของนิยาย
10)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่10
หลังจากที่ฉันออกจากกลุ่มนั้นได้ฉันก็ตามยูมิแต่ก็คลาดกันไปแค่นิดเดียวเอง เพราะไอ้พวกนั้นแท้ๆเลยที่ทำให้ฉันคลาดกับยูมิ แล้วที่ทำให้ฉันเซ็งสุดๆอีกก็คือฉันทำโทรศัพท์หาย นั้นมันยังเป็นปัญหาไม่พอเพราะมาถึงตอนเช้าคนที่ฉันไม่อยากจะเจอก็มาหาฉันที่บ้านพร้อมกับอาละวาดยกใหญ่เอาซะเพื่อนข้างบ้านออกมาดูกันเต็มไปหมด
“เธอบอกมาว่าเมื่อคืนเธอไปไหน” คาร์ลถามเสียงดุดัน
“ฉันก็อยู่บ้าน” ฉันพยายามหลบสายตาของเขาที่จ้องเขม็ง
“อย่าโกหก” เสียงเรียบของเขาทำให้ฉันไม่กล้าที่จะมองหน้าเขา
“ฉันไม่...”
“แล้วไอ้ผู้ชายที่ไหนมันรับโทรศัพท์ หา!!!” ฉันยังไม่ทันได้พูดอะไรออกมา คาร์ลก็ตะวาทใส่ฉัน ทำให้ไอ้เจ้าตูบข้างบ้านถึงกับเหาไม่หยุด
“ฉัน...”
“ถ้าเธอคิดที่จะโกหกฉัน เธอเตรียมตัวตายได้เลย”
“ฉัน...” ฉันถึงกับพูดไม่ออก ถ้าบอกความจริงกับเขาไปฉันก็ต้องตายอยู่ดี
“ฉัน...อะไร”
“ฉันไม่มีอะไรจะพูด” ฉันตอบพลางหันไปสบตาเขาอย่างแน่วแน่
“เธอแน่ใจ”
“ใช่ ฉันไม่มีอะไรจะพูด” ถ้าเขาจะเชื่อคนอื่นมากกว่าฉันนั้นก็เรื่องของเขา ฉันไม่สามรถจะทำให้เขาเชื่อฉันได้หรอกนอกจากเขาจะเชื่อเอง
“เธอมันใจง่าย เห็นผู้ชายเป็นไม่ได้...เพี้ย!!!” ไม่ทันที่เขาจะว่าจบฝ่ามือเล็กๆของฉันก็ปะทะเข้าที่ใบหน้าของเข้า
“คุณไม่มีสิทธิ์มาว่าฉันแบบนี้ ฉันจะคบใครคุยกับใครมันก็เรื่องของฉัน คุณไม่มีสิทธิ์!” ฉันตะโกนใส่หน้าเขาเสร็จก็เดินออกจากบ้านทันที
“เธอจะไปไหนไม่ได้เรายังพูดไม่จบ” แต่ก่อนที่ฉันจะออกจากบ้านก็ถูกคาร์ลคว้าแขนไว้
“ปล่อยฉัน” ฉันถูกเขาดึงเข้าไปกอด
“ผมไม่มีทางปล่อยคุณ” เขาพูดเสียงเบาแล้วกอดฉันแน่นเหมือนกลัวว่าฉันจะหายไปจากเขา
“ผมขอโทษที่ไม่เชื่อใจคุณ แชะ แชะแชะ” จู่ๆก็มีแสงคล้ายแสงแฟลชปะทะเข้าที่หน้า
“เกิดอะไรขึ้นนะ” ฉันกำลังจะมองหาต้นตอแต่ก็ถูกคาร์ลคว้าตัวไว้ก่อน
“รีบเข้าบ้านอย่าหันไปมอง” เขาพาฉันเข้าบ้านทันทีแล้วคว้าโทรศัพท์โทรออกหาใครสักคน
“มีนักข่าวอยู่หน้าบ้าน อืม จัดการให้เรียบร้อยด้วย” เขาสั่งการกับใครสักคนแล้วมองมาที่ฉัน
“เธอคงอยู่ที่นี้ไม่ได้แล้วละ เพราะถ้าพวกนั้นรู้ว่าเธออยู่นี้ เธอคงลำบาก” เขาพูดเสียงเครียด
“ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น” ฉันพูดด้วยด้วยเสียงเกรียวกราด “ที่นี้เป็นบ้านของฉัน” ถึงแม้จะไม่ใช่บ้านที่ฉันเกิดมาก็ตาม
“ก็แค่ชั่วคราว ไปเก็บเสื้อผ้าเธอซะ” คาร์ลไม่สนใจที่ฉันพูด เขาเดินเข้าไปในห้องนอนของฉันแล้วหยิบกระเป๋าเพื่อมาใส่เสื้อผ้า
“ฉันบอกแล้วว่าฉันจะไม่ไปไหน” ฉันเข้าไปแย่งเสื้อผ้าออกจากมือของเขา
“ฉันพยายามปกป้องเธอ” เขาหันมาตะโกนใส่ฉัน
“จากอะไร จากพวกนักข่าวอย่างนั้นหรอ” เสียงของฉันก็ไม่ต่างไปจากเขา
“ไม่ มากกว่านั้น” เขาตอบเสียงค่อยแทบจะไม่ได้ยินแล้วคว้าเสื้อผ้าที่ฉันถืออยู่
“นายอยู่ห่างจากฉันนั้นเป็นสิ่งที่ดีกว่า” ฉันพูดเสียงเย็นชาใส่เขา และนั้นก็ทำให้เขาหยุดการกระทำแล้วหันมามองหน้าฉันอย่างเจ็บปวดแต่ก็เพียงเสี้ยววินาที สีหน้าของเขาก็กลับมาเป็นปกติ
“ผมจะไม่อยู่ห่างจากคุณ” สายตาของเขาบอกตามอย่างที่พูด
“นายครับ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว นักข่าวมากันเต็มเลยครับ” ลูกน้องของคาร์ลวิ่งพรวดเข้ามาบอกข่าวให้กับเจ้านาย
“ที่นี้มีทางออกที่ไหนอีกหรือเปล่า” คาร์ลหันมาถามฉันด้วยเสียงร้อนรน
“ไม่มีค่ะ” ฉันรู้สึกสถานการณ์ที่ตึงเครียด
“ถ้าพวกนั้นมันรู้...”
“พวกไหน” นี้เขามีศัตรูที่ไหนอีกละเนี่ย
“ชั่งเถอะ เธอทำตามที่ฉันบอกแล้วเธอจะปลอดภัย” ว่าแล้วคาร์ลก็หันไปสั่งการลูกน้องแล้วมองมาที่ฉัน
“เธอจะต้องฟังแค่ฉันเข้าใจไม”
“อืม”
“งั้นเราไปกันเลย” คาร์ลเดินเข้ามากอดฉันแล้วเอาเสื้อคลุมมาคลุมหัวฉันแล้วเดินออกจากบ้าน พอออกมาข้างนอกก็ต้องเจอกับแสงแฟลชและคำถามมากมายดังระงมไปทั่ว
“เธอเป็นใครครับ” นักข่าวคนหนึ่งยิงคำถามใส่ทันทีที่คาร์ลพาฉันออกจากบ้าน
“ผมจะไม่ตอบคำถามใดๆทั้งนั้น” เขาตอบแล้วพยายามที่จะเบียดออกไปโดยมีบอร์ดีการ์ดของเขาพยายามกันนักข่าว
“แล้วข่าวดีจะมีเมื่อไรค่ะ” แต่นักข่าวก็ยังที่ยิงคำถามในสิ่งที่พวกเขาต้องการ
“คุณคาร์ลค่ะ ช่วยตอบดิฉันด้วยค่ะ” และไม่นายฉันก็ถูกส่งขึ้นรถที่รออยู่ก่อนแล้ว แต่ฉันก็ยังไม่สามารถเปิดเสื้อคลุมออกได้เพราะแสงแฟลชจากกล้องนั้นสาดเข้ามาไม่ยั้ง
“ผมจะไม่ตอบอะไรพวกคุณทั้งนั้น ขอตัวนะครับ” เขาตอบนักข่าวเสร็จก็เข้ามานั่งในรถ แล้วรถก็เคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างเร็ว
“ผมขอโทษที่ทำให้คุณลำบาก” คาร์ลพูดพลางถอดเสื้อคลุมออกแต่แทนที่จะเป็นไขไข่ผู้หญิงที่เขากอดตลอดกลับเป็นผู้หญิงที่ไหนไม่รู้นั่งอยู่ในรถเขา
“ฉันเอาออกได้หรือยัง” เมื่อฉันรู้สึกถึงรถที่เคลื่อนไหวแล้วแต่ก็ไม่มีเสียงอะไรเลย ฉันเลยถามเขาอย่างหงุดหงิด
“อยากเอาออกก็เอาออกสิ” น้ำเสียงขี้เล่นดังขึ้นข้างหูฉันเหมือนว่าเขากำลังสนุกกับอะไรบ้างอยู่
“คุณ...” นี้ไม่ใช่คาร์ล ฉันมาอยู่ที่นี้ได้ยังไง
“จำกันได้ไมสาวน้อย” นี้มันไอ้ขี้เมานิ
“นายพาฉันมาที่นี้ได้ยังไง” ก็คาร์ลกอดฉันอยู่ตลอด แล้วทำไมฉันถึงมาอยู่กับหมอนี้ได้ละ
“ความลับ” เขาตอบยิ้มๆแล้วก็ผิวปากอย่างสบายอารมณ์
“ปล่อยฉันลงนะ ฉันจะกลับไปหาคาร์ล” ฉันรู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่
“เธอจะไม่เป็นอันตรายหรอก เมื่ออยู่กับฉัน แต่ถ้าเธอเล่นตุกติกก็ไม่แน่” เขาหันมาตอบยิ้มๆแต่สายตาของเขานั้นดูแข็งกราวแต่ก็เพียงแวบเดียวเท่านั้น
“ฉันไม่สน ปล่อยฉันลงนะ” ฉันหันไปเปิดประตูแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะมันเป็นระบบล็อคจากรีโมทเท่านั้น
“นั้นเธอจะทำอะไรนะ” เมื่อเปิดประตูไม่ได้ฉันก็หันไปเล่นงานคนขับรถทันที ทำให้คนขับรถไม่สามารถบังคับพวกมาลัยได้เลยส่งผมให้รถสะเปะสะปะไปมา เสียงแตรจากรถที่ตามหลังมาดังทั่วทั้งถนนบ้างก็มีเสียงเหมือนรถชนกัน
“หยุดนะ” ไอ้ขี้เมาพยายามดึงฉันออกจากคนขับรถของเขา
“ฉันไม่หยุดจนกว่านายจะปล่อยฉันไป” ฉันพยายามขัดขืนไม่ให้เขาหยุดการกระทำของฉันได้
“ถ้าเธอไม่หยุดฉันยิงเธอแน่” ไม่เพียงขู่เท่านั้น ฉันรับรู้อะไรบางอย่างจี้อยู่ที่หลัง และฉันคิดว่ามันคือปืน
“ปล่อยคนขับรถ” เขาสั่งเสียงเรียบ
“ถ้าเป็นเด็กดี นั่งอยู่เฉยๆเธอก็ไม่ต้องเจ็บตัวหรอก” แล้วเขาก็บล็อกหลังฉันจนสลบไป
“เธอเป็นใคร มาอยู่บนรถฉันได้ยังไง” คาร์ลถามเสียงเกรียวกราด
“ใจเย็นๆสิค่ะที่รัก อิอิ” ผู้หญิงตรงหน้าไม่เพียงแต่ไม่ตอบกลับขยับเขามาเพื่อที่จะยั่วยวนเขา
“ถอยออกไปก่อนที่เธอจะเจ็บตัว” เขาพยายามปัดป้องเพื่อไม่ให้เธอถูกตัวเขา แต่มันก็ไม่ได้ผมเลยเมื่อผู้หญิงคนนั้นเอาแต่ถอดเสื้อเขา
“ผมเตือนคุณแล้วนะ” เขาเริ่มหมดความอดทนกับผู้หญิงตรงหน้า
“งั้นก็ถอดเลยสิค่ะ” เธอหยุดที่จะถอดเสื้อของคาร์ลแต่หันไปถอดเสื้อของตัวเองแทน
“ผมบอกให้หยุดไงเล่า” เขาไม่อยากทำร้ายผู้หญิงเลยจริงๆ แต่เมื่อเกิดเหตุจำเป็นแบบนี้เขาก็ไม่รู้จะทำยังไง
“ฉันไม่หยุด คุณจะทำไมค่ะ” เธอยิ้มหวานหยดย้อยแล้วถอดเสื้อที่ตอนนี้เนื้อตัวเธอนั้นเปลือยเปล่าไม่มีอะไรอยู่เลย
“โธ่เว้ย!” เขาสถบออกมาแล้วก็ซัดหน้าผู้หญิงตรงหน้าเพียงหมัดเดียว เธอก็สลบคาอกเขา
“ผมเตือนคุณแล้วนะ” เขามองผู้หญิงด้วยสายตารังเกียจแล้วผลักเธอให้ไปอยู่อีกฟาก
“เดลล์แกอยู่ไหน” คาร์ลโทรหาเพื่อนทันที
“มีเรื่องให้ช่วย อืม เจอกัน”
“ไปที่” เขาหันไปสั่งลุงขับรถทันทีและเพียงไม่นานเขาก็ไปถึงสถานที่นัดทันที
“เกิดอะไรขึ้นว่ะ” เดลล์ถามด้วยน้ำเสียงงัวเงีย
“ขายไข่โดนลักพาตัว แล้วยัยนี้ก็พยายามจะปล้ำฉัน” คาร์ลหันไปมองเดลล์ที่เริ่มจะตื่นตัวขึ้นแล้วเมื่อเห็นสาวสวยสลบอยู่ตรงหน้า
“เลือดเธอออก” เดลล์หันไปถามคาร์ลด้วยความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
“นิดหน่อย อย่างที่บอกเธอพยายามปล้ำฉัน” คาร์ลไม่แยแสกับสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป
“แล้วได้เรื่องอะไรหรือยัง” เดลล์ถาม
“ยัง ลูกน้องของฉันกำลังตามหา”
“ต้องการห้ฉันช่วยตามหาว่างั้น”
“ใช่ แล้วนี้ก็คือของตอบแทน” คาร์ลชี้นิ้วไปที่หญิงสาวที่นอนสลบไม่รู้เรื่อง “ฉันขอเตื่อนให้นายเช็คดูก่อนว่าเธอมีโรคอะไรหรือเปล่า” คาร์ลเตือนด้วยความหวังดี
“เรื่องนั้นฉันรู้แล้วน่า” เดลล์พูดเสร็จก็อุ้มสาวสวยเข้าห้องไปทันที “ไม่ต้องห่วง อีกครึ่งชั่วโมง นายรู้ข้อมูลแน่” เดลล์หันมาบอกคาร์ลที่ตอนนี้หน้าเครียดยิ่งกว่าเจอหุ้นตกซะอีก
“ขอให้มันจริงเถอะ” ยัยบ้าเอ่ย ตอนนี้เธอเป็นยังไงบ้างนะ
หลังจากที่ฉันออกจากกลุ่มนั้นได้ฉันก็ตามยูมิแต่ก็คลาดกันไปแค่นิดเดียวเอง เพราะไอ้พวกนั้นแท้ๆเลยที่ทำให้ฉันคลาดกับยูมิ แล้วที่ทำให้ฉันเซ็งสุดๆอีกก็คือฉันทำโทรศัพท์หาย นั้นมันยังเป็นปัญหาไม่พอเพราะมาถึงตอนเช้าคนที่ฉันไม่อยากจะเจอก็มาหาฉันที่บ้านพร้อมกับอาละวาดยกใหญ่เอาซะเพื่อนข้างบ้านออกมาดูกันเต็มไปหมด
“เธอบอกมาว่าเมื่อคืนเธอไปไหน” คาร์ลถามเสียงดุดัน
“ฉันก็อยู่บ้าน” ฉันพยายามหลบสายตาของเขาที่จ้องเขม็ง
“อย่าโกหก” เสียงเรียบของเขาทำให้ฉันไม่กล้าที่จะมองหน้าเขา
“ฉันไม่...”
“แล้วไอ้ผู้ชายที่ไหนมันรับโทรศัพท์ หา!!!” ฉันยังไม่ทันได้พูดอะไรออกมา คาร์ลก็ตะวาทใส่ฉัน ทำให้ไอ้เจ้าตูบข้างบ้านถึงกับเหาไม่หยุด
“ฉัน...”
“ถ้าเธอคิดที่จะโกหกฉัน เธอเตรียมตัวตายได้เลย”
“ฉัน...” ฉันถึงกับพูดไม่ออก ถ้าบอกความจริงกับเขาไปฉันก็ต้องตายอยู่ดี
“ฉัน...อะไร”
“ฉันไม่มีอะไรจะพูด” ฉันตอบพลางหันไปสบตาเขาอย่างแน่วแน่
“เธอแน่ใจ”
“ใช่ ฉันไม่มีอะไรจะพูด” ถ้าเขาจะเชื่อคนอื่นมากกว่าฉันนั้นก็เรื่องของเขา ฉันไม่สามรถจะทำให้เขาเชื่อฉันได้หรอกนอกจากเขาจะเชื่อเอง
“เธอมันใจง่าย เห็นผู้ชายเป็นไม่ได้...เพี้ย!!!” ไม่ทันที่เขาจะว่าจบฝ่ามือเล็กๆของฉันก็ปะทะเข้าที่ใบหน้าของเข้า
“คุณไม่มีสิทธิ์มาว่าฉันแบบนี้ ฉันจะคบใครคุยกับใครมันก็เรื่องของฉัน คุณไม่มีสิทธิ์!” ฉันตะโกนใส่หน้าเขาเสร็จก็เดินออกจากบ้านทันที
“เธอจะไปไหนไม่ได้เรายังพูดไม่จบ” แต่ก่อนที่ฉันจะออกจากบ้านก็ถูกคาร์ลคว้าแขนไว้
“ปล่อยฉัน” ฉันถูกเขาดึงเข้าไปกอด
“ผมไม่มีทางปล่อยคุณ” เขาพูดเสียงเบาแล้วกอดฉันแน่นเหมือนกลัวว่าฉันจะหายไปจากเขา
“ผมขอโทษที่ไม่เชื่อใจคุณ แชะ แชะแชะ” จู่ๆก็มีแสงคล้ายแสงแฟลชปะทะเข้าที่หน้า
“เกิดอะไรขึ้นนะ” ฉันกำลังจะมองหาต้นตอแต่ก็ถูกคาร์ลคว้าตัวไว้ก่อน
“รีบเข้าบ้านอย่าหันไปมอง” เขาพาฉันเข้าบ้านทันทีแล้วคว้าโทรศัพท์โทรออกหาใครสักคน
“มีนักข่าวอยู่หน้าบ้าน อืม จัดการให้เรียบร้อยด้วย” เขาสั่งการกับใครสักคนแล้วมองมาที่ฉัน
“เธอคงอยู่ที่นี้ไม่ได้แล้วละ เพราะถ้าพวกนั้นรู้ว่าเธออยู่นี้ เธอคงลำบาก” เขาพูดเสียงเครียด
“ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น” ฉันพูดด้วยด้วยเสียงเกรียวกราด “ที่นี้เป็นบ้านของฉัน” ถึงแม้จะไม่ใช่บ้านที่ฉันเกิดมาก็ตาม
“ก็แค่ชั่วคราว ไปเก็บเสื้อผ้าเธอซะ” คาร์ลไม่สนใจที่ฉันพูด เขาเดินเข้าไปในห้องนอนของฉันแล้วหยิบกระเป๋าเพื่อมาใส่เสื้อผ้า
“ฉันบอกแล้วว่าฉันจะไม่ไปไหน” ฉันเข้าไปแย่งเสื้อผ้าออกจากมือของเขา
“ฉันพยายามปกป้องเธอ” เขาหันมาตะโกนใส่ฉัน
“จากอะไร จากพวกนักข่าวอย่างนั้นหรอ” เสียงของฉันก็ไม่ต่างไปจากเขา
“ไม่ มากกว่านั้น” เขาตอบเสียงค่อยแทบจะไม่ได้ยินแล้วคว้าเสื้อผ้าที่ฉันถืออยู่
“นายอยู่ห่างจากฉันนั้นเป็นสิ่งที่ดีกว่า” ฉันพูดเสียงเย็นชาใส่เขา และนั้นก็ทำให้เขาหยุดการกระทำแล้วหันมามองหน้าฉันอย่างเจ็บปวดแต่ก็เพียงเสี้ยววินาที สีหน้าของเขาก็กลับมาเป็นปกติ
“ผมจะไม่อยู่ห่างจากคุณ” สายตาของเขาบอกตามอย่างที่พูด
“นายครับ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว นักข่าวมากันเต็มเลยครับ” ลูกน้องของคาร์ลวิ่งพรวดเข้ามาบอกข่าวให้กับเจ้านาย
“ที่นี้มีทางออกที่ไหนอีกหรือเปล่า” คาร์ลหันมาถามฉันด้วยเสียงร้อนรน
“ไม่มีค่ะ” ฉันรู้สึกสถานการณ์ที่ตึงเครียด
“ถ้าพวกนั้นมันรู้...”
“พวกไหน” นี้เขามีศัตรูที่ไหนอีกละเนี่ย
“ชั่งเถอะ เธอทำตามที่ฉันบอกแล้วเธอจะปลอดภัย” ว่าแล้วคาร์ลก็หันไปสั่งการลูกน้องแล้วมองมาที่ฉัน
“เธอจะต้องฟังแค่ฉันเข้าใจไม”
“อืม”
“งั้นเราไปกันเลย” คาร์ลเดินเข้ามากอดฉันแล้วเอาเสื้อคลุมมาคลุมหัวฉันแล้วเดินออกจากบ้าน พอออกมาข้างนอกก็ต้องเจอกับแสงแฟลชและคำถามมากมายดังระงมไปทั่ว
“เธอเป็นใครครับ” นักข่าวคนหนึ่งยิงคำถามใส่ทันทีที่คาร์ลพาฉันออกจากบ้าน
“ผมจะไม่ตอบคำถามใดๆทั้งนั้น” เขาตอบแล้วพยายามที่จะเบียดออกไปโดยมีบอร์ดีการ์ดของเขาพยายามกันนักข่าว
“แล้วข่าวดีจะมีเมื่อไรค่ะ” แต่นักข่าวก็ยังที่ยิงคำถามในสิ่งที่พวกเขาต้องการ
“คุณคาร์ลค่ะ ช่วยตอบดิฉันด้วยค่ะ” และไม่นายฉันก็ถูกส่งขึ้นรถที่รออยู่ก่อนแล้ว แต่ฉันก็ยังไม่สามารถเปิดเสื้อคลุมออกได้เพราะแสงแฟลชจากกล้องนั้นสาดเข้ามาไม่ยั้ง
“ผมจะไม่ตอบอะไรพวกคุณทั้งนั้น ขอตัวนะครับ” เขาตอบนักข่าวเสร็จก็เข้ามานั่งในรถ แล้วรถก็เคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างเร็ว
“ผมขอโทษที่ทำให้คุณลำบาก” คาร์ลพูดพลางถอดเสื้อคลุมออกแต่แทนที่จะเป็นไขไข่ผู้หญิงที่เขากอดตลอดกลับเป็นผู้หญิงที่ไหนไม่รู้นั่งอยู่ในรถเขา
“ฉันเอาออกได้หรือยัง” เมื่อฉันรู้สึกถึงรถที่เคลื่อนไหวแล้วแต่ก็ไม่มีเสียงอะไรเลย ฉันเลยถามเขาอย่างหงุดหงิด
“อยากเอาออกก็เอาออกสิ” น้ำเสียงขี้เล่นดังขึ้นข้างหูฉันเหมือนว่าเขากำลังสนุกกับอะไรบ้างอยู่
“คุณ...” นี้ไม่ใช่คาร์ล ฉันมาอยู่ที่นี้ได้ยังไง
“จำกันได้ไมสาวน้อย” นี้มันไอ้ขี้เมานิ
“นายพาฉันมาที่นี้ได้ยังไง” ก็คาร์ลกอดฉันอยู่ตลอด แล้วทำไมฉันถึงมาอยู่กับหมอนี้ได้ละ
“ความลับ” เขาตอบยิ้มๆแล้วก็ผิวปากอย่างสบายอารมณ์
“ปล่อยฉันลงนะ ฉันจะกลับไปหาคาร์ล” ฉันรู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่
“เธอจะไม่เป็นอันตรายหรอก เมื่ออยู่กับฉัน แต่ถ้าเธอเล่นตุกติกก็ไม่แน่” เขาหันมาตอบยิ้มๆแต่สายตาของเขานั้นดูแข็งกราวแต่ก็เพียงแวบเดียวเท่านั้น
“ฉันไม่สน ปล่อยฉันลงนะ” ฉันหันไปเปิดประตูแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะมันเป็นระบบล็อคจากรีโมทเท่านั้น
“นั้นเธอจะทำอะไรนะ” เมื่อเปิดประตูไม่ได้ฉันก็หันไปเล่นงานคนขับรถทันที ทำให้คนขับรถไม่สามารถบังคับพวกมาลัยได้เลยส่งผมให้รถสะเปะสะปะไปมา เสียงแตรจากรถที่ตามหลังมาดังทั่วทั้งถนนบ้างก็มีเสียงเหมือนรถชนกัน
“หยุดนะ” ไอ้ขี้เมาพยายามดึงฉันออกจากคนขับรถของเขา
“ฉันไม่หยุดจนกว่านายจะปล่อยฉันไป” ฉันพยายามขัดขืนไม่ให้เขาหยุดการกระทำของฉันได้
“ถ้าเธอไม่หยุดฉันยิงเธอแน่” ไม่เพียงขู่เท่านั้น ฉันรับรู้อะไรบางอย่างจี้อยู่ที่หลัง และฉันคิดว่ามันคือปืน
“ปล่อยคนขับรถ” เขาสั่งเสียงเรียบ
“ถ้าเป็นเด็กดี นั่งอยู่เฉยๆเธอก็ไม่ต้องเจ็บตัวหรอก” แล้วเขาก็บล็อกหลังฉันจนสลบไป
“เธอเป็นใคร มาอยู่บนรถฉันได้ยังไง” คาร์ลถามเสียงเกรียวกราด
“ใจเย็นๆสิค่ะที่รัก อิอิ” ผู้หญิงตรงหน้าไม่เพียงแต่ไม่ตอบกลับขยับเขามาเพื่อที่จะยั่วยวนเขา
“ถอยออกไปก่อนที่เธอจะเจ็บตัว” เขาพยายามปัดป้องเพื่อไม่ให้เธอถูกตัวเขา แต่มันก็ไม่ได้ผมเลยเมื่อผู้หญิงคนนั้นเอาแต่ถอดเสื้อเขา
“ผมเตือนคุณแล้วนะ” เขาเริ่มหมดความอดทนกับผู้หญิงตรงหน้า
“งั้นก็ถอดเลยสิค่ะ” เธอหยุดที่จะถอดเสื้อของคาร์ลแต่หันไปถอดเสื้อของตัวเองแทน
“ผมบอกให้หยุดไงเล่า” เขาไม่อยากทำร้ายผู้หญิงเลยจริงๆ แต่เมื่อเกิดเหตุจำเป็นแบบนี้เขาก็ไม่รู้จะทำยังไง
“ฉันไม่หยุด คุณจะทำไมค่ะ” เธอยิ้มหวานหยดย้อยแล้วถอดเสื้อที่ตอนนี้เนื้อตัวเธอนั้นเปลือยเปล่าไม่มีอะไรอยู่เลย
“โธ่เว้ย!” เขาสถบออกมาแล้วก็ซัดหน้าผู้หญิงตรงหน้าเพียงหมัดเดียว เธอก็สลบคาอกเขา
“ผมเตือนคุณแล้วนะ” เขามองผู้หญิงด้วยสายตารังเกียจแล้วผลักเธอให้ไปอยู่อีกฟาก
“เดลล์แกอยู่ไหน” คาร์ลโทรหาเพื่อนทันที
“มีเรื่องให้ช่วย อืม เจอกัน”
“ไปที่” เขาหันไปสั่งลุงขับรถทันทีและเพียงไม่นานเขาก็ไปถึงสถานที่นัดทันที
“เกิดอะไรขึ้นว่ะ” เดลล์ถามด้วยน้ำเสียงงัวเงีย
“ขายไข่โดนลักพาตัว แล้วยัยนี้ก็พยายามจะปล้ำฉัน” คาร์ลหันไปมองเดลล์ที่เริ่มจะตื่นตัวขึ้นแล้วเมื่อเห็นสาวสวยสลบอยู่ตรงหน้า
“เลือดเธอออก” เดลล์หันไปถามคาร์ลด้วยความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
“นิดหน่อย อย่างที่บอกเธอพยายามปล้ำฉัน” คาร์ลไม่แยแสกับสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป
“แล้วได้เรื่องอะไรหรือยัง” เดลล์ถาม
“ยัง ลูกน้องของฉันกำลังตามหา”
“ต้องการห้ฉันช่วยตามหาว่างั้น”
“ใช่ แล้วนี้ก็คือของตอบแทน” คาร์ลชี้นิ้วไปที่หญิงสาวที่นอนสลบไม่รู้เรื่อง “ฉันขอเตื่อนให้นายเช็คดูก่อนว่าเธอมีโรคอะไรหรือเปล่า” คาร์ลเตือนด้วยความหวังดี
“เรื่องนั้นฉันรู้แล้วน่า” เดลล์พูดเสร็จก็อุ้มสาวสวยเข้าห้องไปทันที “ไม่ต้องห่วง อีกครึ่งชั่วโมง นายรู้ข้อมูลแน่” เดลล์หันมาบอกคาร์ลที่ตอนนี้หน้าเครียดยิ่งกว่าเจอหุ้นตกซะอีก
“ขอให้มันจริงเถอะ” ยัยบ้าเอ่ย ตอนนี้เธอเป็นยังไงบ้างนะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ