CurseSchool คำสาปโรงเรียนผี
เขียนโดย WinnerShadow
วันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 13.48 น.
แก้ไขเมื่อ 16 เมษายน พ.ศ. 2556 14.05 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) เอาเรื่อง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
Chapter 4
Exceedingly
ในตอนนี้พวกผมก็ต้องมานั่งเคลียงานในช่วงเย็นด้วยความรู้สึกที่ไม่อยาก เพราะผลโหวตจากเพื่อนในห้องที่เห็นว่าพวกผมกับยูยะ เหมาะสมกับงานนี้ที่สุด โดยมีฮินาตะเป็นแกนนำเพราะความขี้เกียจของอาจารย์ประจำห้องผม
“ขอโทษนะ ทั้งๆ ที่พวกนายอยากจะกลับไปพักผ่อนแท้ๆ” ฮินาตะพูดด้วยสีหน้ารู้สึกผิดแบบยิ้มๆ พร้อมกับมือที่กำลังทำงานไปด้วยกับการเขียน
“ไม่เป็นไรๆ จริงๆ พวกเราก็วางอยู่แล้ว” ยูยะพูดแล้วปั้มตรายางลงไปที่กระดาษด้วยความรู้สึกสนุก ผิดกับคลาวน์ที่ทำแบบน่านิ่งเหมือนไม่รู้สึกอะไร
พวกเขาสามคนคุยกันตามประสาเพื่อนชาย ทั้งเรื่องผู้หญิง ทั้งเรื่องกีฬา ข่าวหนัง และอะไรมากมายที่เจอมาแต่ยังไม่เคยเล่ากัน จนกระทั่งฮินาตะเริ่มเปิดประเด็นเรื่องเคลียด
“นี่ สรุปพวกนายสองคิดไง กับเรื่องที่เกิดขึ้นล่ะ?”
“เรื่องนั้นน่ะเหรอ? ฉันพอจะเห็นดวงวิญญาณแล้วล่ะ” คลาวน์ตอบออกมาด้วยสีหน้าเคลียดอย่างเห็นได้ชัด
“เอ๊ะ!? จริงดิ” ยูยะตกใจขึ้นมา เพราะไม่คิดว่าเพื่อนน่าจะเห็นได้ แล้วหยุดมือ ก่อนจะกลับมาสนุกกับการปั้มอีกครั้ง
“ไปเห็นเมื่อไรน่ะ” ฮินาตะถาม
“เมื่อคืน ในฝันกับเค มันเป็นภาพย้อนความทรงจำน่ะ ไม่แน่อาจจะเป็นของเด็กที่ชื่อ เมกุมิก็ได้” คลาวน์ตอบไป ก่อนจะวางตัวปั้มแล้วยืดเส้นยืดสายด้วยสีหน้าเย็นชา ยูยะกับฮินาตะถึงกับวางงานที่ทำอยู่ แล้วมองเพื่อนของตนอย่างสงสัย
“ดูเหมือนจะพูดถึงฉันนะ”
“ว๊าก!”
เสียงยูยะตกใจ เมื่อเคโผล่มาแค่หัวที่ตะที่พวกเขาทำงานอยู่ในตอนนี้ ฮินาตะที่ไม่รู้ว่ายูยะตกใจอะไรจึงมองอย่างสงสัย แต่ก็ตกใจที่จู่ๆ เพื่อนก็ร้องขึ้นมา คลาวน์ถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกเบื่อหน่ายกับการโผล่มาของวิญญาณเจ้าเล่ห์ตนนี้
“ยังไม่ชินอีกเหรอ?” เคถามด้วยปากที่ยิ้มอย่างดีใจ
“ก็นายชอบโผล่มาแบบนี้นั้นแหละ” ยูยะพูด
“เอ่อ... เคคุงโผล่มาเหรอ? ฉันไม่เห็นน่ะ” ฮินาตะพูด
“อ่อ ใช่ เจ้าบ้านั้นอยู่ตรงหน้านายนั้นแหละ” คลาวน์ว่าพลางชี้ไปทางหัวของเค และเคก็ลอยออกมาทั้งตัวก่อนจะไปยืนตรงหน้าต่างข้างหลังฮินาตะด้วยปากที่ยิ้มอย่างมีเลศนัย
“วันนี้ฉันแอบเห็นดวงวิญญาณปริศนาตนนั้นด้วยนะ แถมยังสามารถบอกได้ด้วยว่ามาจากไหน เจ้านั้นเป็นวิญญาณที่มีกลิ่นของคำสาปโชยมาเลยล่ะ และยังมีอะไรบางอย่างที่แปลกไปด้วย”
“นี่นายจะพูดอ้อมสินะ อย่ามาเสียเวลาได้มั้ย ได้ความว่าไง?” คลาวน์ที่ทนไม่ไหวกับความกวนประสาทจึงพูดออกมา จนฮินาตะงงเพราะเขาเป็นคนมองไม่มีสัมผัสที่6 ยูยะที่ได้แต่ฟังยังคงยิ้มต่อไปอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ก็วิญญาณตนนั้นน่ะ เป็นวิญญาณที่หลุดมาจากโรงเรียนแห่งโศกนาฏกรรมชวนสยองอย่างโรงเรียนไรเซ็นคุไงล่ะ หึหึหึ”
สีหน้าของคลาวน์และยูยะเปลี่ยนไปเป็นตกใจเมื่อได้ยินชื่อโรงเรียนที่คลาวน์ออกมาได้เพียงคนเดียว ยูยะหันไปมองหน้าเพื่อนด้วยหน้าที่บอกว่าเสียใจด้วยนะ
แผลที่เคยโดนแทงเจ็บแซบขึ้นมา คลาวน์กุมรอยแผลที่ท้องด้วยสีหน้าที่สบถกับตัวเอง และกล่าวโทษตัวเองพลางกำหมัดแน่นที่ไม่สามารถช่วยคนที่ตัวเองรักได้ ทุกอย่างมันเกิดจากอะไร ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ คลาวน์ก้มหน้าลงด้วยความรู้สึกผิด เคเริ่มหัวเราะอีกครั้ง ก่อนจะปรากฏร่างของวิญญาณผู้หญิงในชุดนักเรียนซึ่งมีหมอกดำอยู่รอบตัว
“ออกมาแล้วเหรอ? เจ้าวิญญาณคำสาป หึหึหึ”
“พวกแก คงจะเป็นคนที่มีสัมผัสสินะ” วิญญาณหญิงสาวชุดนักเรียนพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าที่นิ่ง แต่ก็ยังเห็นไม่ชัดอยู่ดีว่าน่าตาเป็นยังไง
คลาวน์ลุกขึ้นกับยูยะหันไปมองอย่างร้อนรนที่ตอนนี้ไม่คิดว่าจะได้เผชิญหน้ากับวิญญาณที่คาดว่าจะเป็นคนฆ่านักเรียนรุ่นน้องที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ด้วยสายที่สงสัยของฮินาตะ แต่ยิ่งเป็นคำสาปแล้ว คลาวน์ยิ่งทนไม่ได้ที่จู่ๆ ชีวิตของเขาที่เคยผ่านเรื่องแบบนั้นมาแล้ว ต้องมาเจอกับมันอีกครั้ง คำถามที่ว่าทำไมคำสาปจึงเกิดขึ้นอีกครั้งนั้น วนเวียนไปมาในหัวของคลาวน์ไม่รู้จบ ในตาแฝงไปด้วยความเศร้า
“แล้วจะทำไมเหรอ เธอเป็นวิญญาณจากโรงเรียนไรเซ็นคุสินะ” เคพูดออกมาแล้วชี้ไปทางวิญญาณนั้นอย่างชอบใจ
“ก็ใช่ แต่ที่ฉันมาที่นี้ ก็เพื่อที่จะทำให้โรงเรียนแห่งนี้เป็นโศกนาฏกรรมนั้นอีกครั้ง”
“อะ..อะไรกัน แต่นั้นไม่เกี่ยวกับทุกคนที่นี้นิ” ยูยะพูด
“ไม่เกี่ยวงั้นเหรอ? หึหึหึ แต่ฉันอยากสนุกกับมันนิ!!!” วิญญาณนั้นพูดด้วยความบ้าคลั่งอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะหัวเราะอย่างชอบใจเหมือนเป็นการอวยชัยให้กับคำสาปที่กำลังจะฆ่าใครอีกหลาย หากแต่ใจที่ไม่อยากจะให้มันเกิดขึ้นอีกนั้นของคลาวน์ ทำให้เขาถามออกไปอย่างจริงจัง
“หรือว่าเธอ คิดจะฆ่าคนอีกงั้นเหรอ?”
“หึหึหึ แน่นอน ฉันจะฆ่าให้หมอนั้นแหละ แต่จะค่อยๆ ไปอย่างช้าๆ แล้วกันนะ หึหึหึ”
“....”
ความเงียบเข้ามาเยือนท่ามกลางเสียงหัวเราะอันน่าสยดสยองของเด็กสาวคนนี้ พวกเขามีสีหน้าที่เริ่มไม่ดีนัก เคที่รู้สึกว่าเรื่องนี้มันเหมือนจะใกล้ตัวเกินไปเริ่มมีข้อสงสัยมากมาย คลาวน์กุมที่ท้องอีกครั้งเพราะรู้สึกที่เจ็บแปล๊บมันแล่นเข้ามาอย่างบอกไม่ถูก ยูยะก็รู้สึกอยากจะห้ามวิญญาณตนนี้ แต่เขาไม่รู้ว่าจะทำยังไง ฮินาตะได้แต่มองอย่างงงๆ แต่ตัวเขาก็พอจะรู้สถานการณ์บ้างแล้ว เพราะมีใครบางคนกำลังกระซิบบอกอย่างช้าๆ
“แล้วแกจะทำไงต่อล่ะ” เคถาม
“หึ พรุ่งนี้..ฉันจะฆ่าคนอีกสามคน พวกแกก็พยายามดูเอาแล้วกันนะ ว่าใครจะตาย ฉันขออวยพรให้พวกแกโชคดี...หึหึหึ”
ร่างของวิญญาณค่อยๆ หายไปอย่างช้าเหมือนอากาศ ตัวของยูยะนั่งลงพลางถอนหายใจ ฮินาตะที่รู้เรื่องแล้วก็มีสีหน้าไม่สู้ดี ส่วนคลาวน์ก็ทุบโต๊ะเพื่อสบถกับตัวด้วยคำถามเดิมว่า ทำไมคำสาปถึงเกิดขึ้น คำสาปนั้นมันมาจากไหน แล้วจะหยุดได้ด้วยวิธีใด เคค่อยๆ หายไปอีกคน ทิ้งไว้เพียงใบหน้าที่เย็นชาของเขา
“วันนี้พอแค่นี้ แล้วกลับบ้านไปพักผ่อนดีกว่านะ”
“อืม...”
ตอนนี้ทั้งสามคนเหมือนจะท้ออย่างบอกไม่ถูก ที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ก่อนจะมีวิญญาณของใครบางคนที่ยิ้มอย่างสนุกสนานกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทางด้านหลังของฮินาตะ...
ผ่านมา 20 นาที ในซอยบ้านของฮินาตะ
เด็กหนุ่มซึ่งอยู่ในชุดนักเรียน และกระเป๋าที่พาดไหล่มา พร้อมกับผมสีเงินขาวที่ยาวแต่รวบไว้เรียบร้อยกำลังมีสีหน้าวิตกกังวล กับเรื่องที่เกิดขึ้นตลอดสองวันมานี้ ตัวเขาไม่ค่อยอยากจะยุ่งเรื่องพวกนี้สักเท่าไรนัก แต่เพราะเขาเป็นคนที่รู้สึกสัมผัสได้ จึงพยายามเข้าหาคนที่มองเห็นอย่างยูยะและคลาวน์ แต่นั้นก็อาจจะเป็นการหาเรื่องใส่ตัวก็ได้
“เฮ้อ...”
เด็กหนุ่มถอนหายใจออกมา ที่คิดว่าเป็นการหาเรื่องใส่ตัว ทั้งๆ ที่ทั้งสองคนเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับเขาในตอนนี้ และเขาไม่อยากที่จะเสียเพื่อนดีๆ แบบนี้ไป เขานึกย้อนไปตอน มัธยมต้นที่ถูกเพื่อนของตนหักหลัง และนั้นก็ทำให้เขาคิดจะฆ่าตัวตาย แต่...
“ยังคิดถึงเรื่องนั้นอีกเหรอ?” เสียงของคนๆ หนึ่งดังขึ้นด้านหลังของเด็กหนุ่ม ก่อนจะปรากฏร่างของวิญญาณชายผมดำรวบผมเหมือนฮินาตะ และน่าตาที่เหมือนกันอย่างกับแกะ หากแต่พวกเขาสองคนไม่ใช่พี่น้องฝาแฝดแต่อย่างใด
“ปะ..เปล่า?”
“หึ จริงๆ ถ้าฉันไม่ใช่พลังของฉันให้นายรอดล่ะก็ คงตายไปแล้วจริงมั้ย?”
สิ่งที่วิญญาณพูดนั้น เป็นเพื่อนคมดาปที่แทงเข้าที่หัวใจของเด็กหนุ่ม และนั้นก็ทำให้ย้อนกลับไปคิดจนได้
เด็กชายผมเงินขาวยืนอยู่บนด่านฟ้าเพียงคนเดียว รอบตัวมีลมที่พัดเย็นสบาย และเสียงหัวเราะสนุกสนานที่ดังขึ้นจากด่านล้างภายในสนามโรงเรียนของเขา แต่หัวใจของเด็กหนุ่มกลับว่างเปล่า เพราะแรงกดดันและการโดนกลั่นแกล้งอย่างแสนสาหัส ก่อนที่เขาจะเริ่มขึ้นไปยืนที่รั้วนั้น เหมือนจะ...
“นี่นาย! คิดจะทำอะไรน่ะ” วิญญาณที่น่าเหมือนเขารอยออกมาตรงหน้าเหมือนจะห้าม แต่ด้วยความที่เขาเป็นเพียงวิญญาณจึงไม่สามารถที่จะจับต้องเขาได้อย่างเต็มที่หรือยื้อไว้ได้
“พอสักทีได้มั้ย? อีกแค่นิดเดียวนายก็จะจบออกไปได้แล้วนะ ใจเย็นหน่อยสิ”
“...ฉันทนไม่ได้อีกแล้ว...”
ร่างของเด็กหนุ่มร่วงลงไปด้วยความตั้งใจ วิญญาณน่าเหมือนเขา รีบเหาะตามไปอย่างรวดเร็วเหมือนคิดจะช่วย แต่เขาไม่สามารถช่วยอะไรได้เลยเมื่อตัวของชายหนุ่มตกลงถึงพื้น ท่ามกลางความตกใจของคนที่อยู่รอบข้างและผู้เห็นเหตุการณ์ หัวของเด็กหนุ่มกระแทกอย่างแรงจนเลือดไหลออกมานองที่พื้น สติที่เลือนรางกับชีวิตที่กำลังดับสูญกำลังจะมอดดับไปในไม่ช้า
แต่ร่างของเด็กหนุ่มก็มารู้สึกตัวที่โรงพยาบาลภายในห้องพักผู้ป่วย ที่หัวพันผ้าไว้เพราะปาดแผล แต่ตัวเขากลับไม่เป็นอะไรเลย ทำไม...
“นายติดหนี้ฉันแล้วนะ” วิญญาณหน้าเหมือนพูดขึ้นและการปรากฏตัวที่นั่งอยู่ข้างเตียงด้วยสีหน้าเย็นชา จนเด็กหนุ่มที่เห็นหน้าแบบนั้นถึงกลับตกใจ เพราะไม่คิดว่าวิญญาณตนนี้จะทำสีหน้าเย็นชาและเสียงที่เย็นอย่างบอกไม่ถูกนั้น
“นาย...”
“หึ ฉันช่วยนายไว้นะ”
“ทำไมต้องช่วยฉันไว้ด้วย! ทั้งๆ ที่ฉันต้องการจะตายแท้ๆ”
“ก็เพราะนายมันอ่อนแอไงล่ะ ทำไมถึงไม่คิดจะทนกับมัน ทำไมไม่เผชิญหน้ากับเจ้าพวกนั้นอย่างเข้มแข็งเพื่อฝ่าฟันมันไปล่ะห๊ะ!!” วิญญาณตะคอกออกมาจนเด็กหนุ่มนิ่งไป
“ทั้งๆ ที่ฉันเองก็อยู่กับนายมาตั้งแต่ยังเด็กแท้ จนหน้าตาของฉันเปลี่ยนไปเป็นเหมือนนายเลยนะ ฉันน่ะยังทรมาณกว่านายมากกว่ามั้ย!? ที่ต้องเจอกับพิธีกรรมบ้าๆของคนละโมบโลภมากอย่างพวกนั้นน่ะ!! นายคิดจะหักหลังฉันเหมือนคนพวกนั้นงั้นเหรอไง...” สีหน้าของเขาเย็นลงพร้อมกับในตาที่แฝงไปด้วยความเศร้า
“ฉะ..ฉันขอโทษ”
“หึ งั้นฉันจะใช้ร่างนายแทนค่าตอบแทนที่ช่วยนายได้มั้ยล่ะ”
“เอ๊ะ?”
“ไม่ต้องห่วง ฉันจะอยู่กับนายอย่างเงียบๆ จนกว่านายจะถึงเวลาที่ต้องลาโลกไงล่ะ หึหึหึ”
เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน ในช่วงที่ใกล้จะจบภาคเรียนสุดท้ายของฮินาตะ และนั้นก็เป็นจุดเริ่มของเขาและดวงวิญญาณตนนี้ที่ต้องใช้ร่างร่วมกัน เพราะการช่วยชีวิตของฮินาตะไว้จากการฆ่าตัวตายนั้นเอง แต่นั้นก็ทำให้ได้รู้ว่า วิญญาณที่อยู่กับเขาไม่ใช่วิญญาณธรรมดาแน่นอน
“เดินกลับบ้านต่อได้แล้ว เดี๋ยวป้าก็เป็นห่วงหรอก”
“อะ..อืม”
เด็กหนุ่มเดินต่อไป และลืมเรื่องพวกนั้นให้ได้...
วันต่อมา
ในวันนี้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นภายในโรงเรียน นั้นเป็นการตายที่หน้าสยดสยองอีกครั้งในช่วงคาบเช้าระหว่างเรียนที่ห้องหัตถกรรม เพราะหลอดไฟที่คิดว่าไม่หน้าจะคาดตกลงมานั้น กลับตกลงมาอย่างง่ายได้จนแกว่งอย่างแรงมาโดนหัวของนักเรียนชายรุ่นเดียวกันจนล้มลงไปกระแทกกับชั้นวางของ จนมีดที่วางอยู่นั้นร่วงลงแทงหัวของเด็กหนุ่มจนตายนั้นเอง
คนที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์เห็นเข้าอย่างจังจนช๊อคกันไปตามๆ และนั้นก็เป็นอีกคนเกิดเป็นโรคหัวใจอย่างกะทันหันจนช๊อคเข้าโรงพยาบาล แต่หารู้ไม่ว่าวิญญาณของเด็กหนุ่มทั้งสองคนโดนนำทางไปประตูแห่งความตายแล้ว....
------------------------------------------------------------
พอผมมองย้อนไป ก็ไม่คิดว่าจะแต่งออกมาได้ขนาดนี้คับ -__-'
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ