CurseSchool คำสาปโรงเรียนผี
เขียนโดย WinnerShadow
วันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 13.48 น.
แก้ไขเมื่อ 16 เมษายน พ.ศ. 2556 14.05 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) วิญญาณปริศนา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
Chapter 3
Wraith Enigma
ตกเย็นหลังจากตอนกลางวันได้มีรถพยาบาลมารับศพไป และมีนักข่าวมาที่โรงเรียนมากมาย แต่เพื่อความสงบและรักษาชื่อเสียงโรงเรียนไว้ ทางโรงเรียนจึงปิดประตูเพื่อไม่ให้นักข่าวได้เข้ามา และเพื่อไม่ให้เสียเวลาของนักเรียน จึงทำการเรียนการสอนต่อไปและเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทางฮินาตะก็เล่าเรื่องของรุ่นน้องที่ชื่อ เมกุมิ ผู้ตายให้คลาวน์กับยูยะฟัง ได้ความว่า เมกุมิเป็นเด็กที่ร่าเริงและอ่อนโยนกับทุกคนซึ่งไม่น่าไปทำให้เป็นการลบหลู่พวกวิญญาณอะไรเลย จะว่าเป็นอุบัติเหตุก็ไม่ได้ เพราะคลาวน์และฮินาตะรู้สึกได้ถึงความอึดอัดตั้งแต่เช้า จนถึงเวลาเกิดเหตุในตอนนั้น
และทางโรงเรียนก็ปล่อยให้นักเรียนกลับบ้านก่อนเวลา 2 ชั่วโมง
“เอาไงดีล่ะทีนี้” ยูยะถามเพื่อนที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆ ในห้องพักที่หอของพวกเขา
“ฉันยังไม่สามารถบอกได้ในตอนนี้หรอกนะ เพราะยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าวิญญาณตนนั้นเป็นคนทำรึเปล่า อีกอย่าง มันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุก็ได้”
พวกเขาทั้งสองคนมองหน้ากันก่อนจะหันมาหายใจ ด้วยความรู้สึกที่ว่า ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ได้ ในวันท้องฟ้าสดใสอย่างที่ยูยะบอกแบบนี้ คลาวน์วางหนังสือที่อ่านค้างลงข้างตัวก่อนจะหยิบผ้าห่มที่ขาวที่พับและวางไว้ที่ปลายเตียงอย่างเรียบร้อย เพื่อมาห่มหัว
ส่วนยูยะที่กำลังนั่งกดโทรศัพท์เล่นก็เอาผ้าห่มมาห่มแล้วล้มตัวลงนอน ทั้งๆ ที่ในมือยังกดเล่นอยู่อย่างสนุกสนาน จนทำให้คลาวน์ถอนหายใจอีกครั้งด้วยความเอือมระอากับการที่เพื่อนของตนดูจะไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลย
“นี่คลาวน์อย่าถอนหายใจบ่อยสิ เขาว่ากันว่าถอนหายใจหนึ่งครั้ง อายุสั้นหนึ่งปีนะ”
“ฉันก็ไม่ได้อยากจะถอนหายใจหรอกนะ แต่พอเห็นนายไม่ค่อยทุกข์ร้อนอะไรแล้วมันรู้สึกเอือมๆ ยังไม่รู้”
“ฮ่าฮ่า ฉันเป็นแบบนี้อยู่แล้วนี่ ฉันว่าการทำตัวแบบนี้ มันทำให้ตัวเรามองทุกอย่างในแง่บวก และไม่ต้องเครียดหรือคิดมากในเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย แต่ไอ้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนั้นน่ะ ฉันเองก็เกือบจะร้องออกมาแล้วล่ะ” ยูยะว่าพลางเอาโทรศัพท์ของตัวเองวางไว้ข้างหมอนก่อนพลิกตัวเข้ามามองหน้าเพื่อนอย่างระรื่น
“มองอะไร?”
“ก็เปล่านี่ แค่คิดว่าฉันมีเพื่อนแบบนายเนี้ย มันดีมากๆ เลยล่ะ”
“พะ..พูดอะไรของนายน่ะ” คลาวน์ว่าพลางพลิกตัวหันหลังให้เพื่อนเหมือนกำลังบอกว่าน่ารำคาญ แต่ในใจกับอายอย่างบอกไม่ถูก ที่ถูกเพื่อนคนนี้พูดด้วยใบหน้าที่ยิ้ม
“คิคิ งั้นฉันนอนก่อนนะ ราตรีสวัสดิ์” ยูยะพูดทักทายก่อนนอนแล้วหลับตาลงอย่างผ่อนคลาย และลืมเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ เช่นเดียวกับคลาวน์ที่พูดทักทายก่อนนอนแล้วข่มตาหลับไป
คืนนั้นคลาวน์หลับไปโดยไม่คิดอะไรมาก แต่นั้นกลับทำให้เขาฝันเห็นบางสิ่งบางอย่างที่มันทำให้เขาต้องคิดมาก เพราะนั้นคือเด็กรุ่นน้องซึ่งอยู่โรงเรียนเดียวกับเขาจำนวน 4 คนกำลังนั่งจัดของที่อยู่ในห้องเรียนวิทยาศาสตร์ โดยมีร่างของเขาที่ยืนมองอยู่ที่ทางเดินหน้าห้องเรียน
“นี่ๆ วันนี้ไปคาราโอเกะกันมั้ย?”
“ไปสิป่ะ เมกุมิล่ะไปมั้ย?”
“ขอโทษนะ ฉันไปด้วยไม่ได้หรอก”
“อ้าว..ทำไมอ่ะ”
“วันนี้เป็นวันเกิดของพี่สาวน่ะ เลยจะไปช่วยแม่เตรียมงานวันเกิด”
“จริงเหรอ!? ยินดีด้วยนะ”
สี่สาวสนทนากันตามประสาเพื่อนร่วมกลุ่มเดียวกัน พวกเธอหัวเราะกันอย่างสนุกสนานและมีตีตบไหล่กันเพื่อหยอกล้อกัน โดยมีสายตาของคลาวน์จองมาทางพวกเธอด้วยความรู้สึกเหงาๆ ที่เพื่อมองย้อนเรื่องของตัวเองไป กลับมีแค่หญิงสาวที่เป็นเพื่อนสนิทและรักมากเท่านั้น แต่เธอต้องมาตายบนร่างของเขาด้วยลักษณะที่ถูกฟันด้วยเลื่อยไฟฟ้าที่กลางหลัง เรื่องทุกอย่างมันเปลี่ยนไปตั้งแต่ตอนนั้น และเขาก็ได้รู้จักกับเคที่ตามเขามาจากโรงเรียนแห่งนั้น
“หึหึหึ” เสียงของเคดังขึ้นจากข้างหลัง จริงๆ ผมก็ยังไม่เคยเห็นหน้าตาของเคอย่างชัดๆ เลย เพราะหมอนี้ใส่ฮู้ดอยู่ตลอด และยังมีผมปกหน้าเยอะเกิน เห็นได้แค่ดวงตาจองเขาเท่านั้น ที่ไม่มีแม้แต่เส้นเลือด มีเพียงผิวและดวงตาที่ซีด แต่ก็ไม่ค่อยน่ากลัวเพราะลูกตาดำของเขา
“นายเองเหรอ? ยังจะเข้ามาในฝันฉันอีกนะ”
“หึ ดูที่ตู้กระจกนั้นซะก่อนซิ” เคว่าพลางชี้ไปที่ตู้ที่อยู่หลังห้องเรียนแห่งนี้ คลาวน์ที่เห็นสิ่งบางอย่างที่อยู่ข้างตู้นั้น ก็ตาโตเพราะไม่คิดว่าจะน่ากลัวขนาดนี้
นั้นคือวิญญาณที่มีหมอกดำอยู่รอบๆ เป็นวิญญาณของผู้หญิงที่กำลังยิ้มแสยะพลางหัวเราะชอบใจกับบทสนทนาของพวกผู้หญิงทั้งสี แต่กับแฝงไปด้วยความอำมหิต
“นี่คือความทรงจำในตอนที่เกิดเหตุเหรอ?” คลาวน์พึมพำจนเคยิ้มที่มุมปากที่ลอยลงมากอดคอของคลาวน์ พร้อมพูดด้วยเสียงที่ฟังดูน่ากลัวอยู่ไม่น้อย
“หึหึ นั้นคือเรื่องราวในวันนี้ไงล่ะ แต่นั้นเป็นวิญญาณของใครน้า หึหึหึ”
คลาวน์หันไปมองกลุ่มสาวด้วยความเป็นห่วง เพราะเขาไม่อยากเห็นพวกเธอที่กำลังยิ้มหัวเราะอย่างดีใจกับเพื่อนๆ ต้องมาร้องไห้ และเสียใจไปกับการที่เพื่อนต้องไม่กลับมาตลอดชีวิต สาวทั้งสี่เดินออกมาจากบริเวณที่พวกเธอจัดเสร็จแล้วกำลังจะเดินกลับห้องเรียนของตัวเอง
“ถึงมันเป็นแค่ภาพย้อนรอย แต่นายก็อยากจะเข้าไปช่วยสินะ คลาวน์คุง” เคว่าแล้วเอานิ้วชี้ลูบไล้ไปตามใบหน้าของคลาวน์เพื่อหยอกล้อและกวนประสาทตามเสียงของเขา แต่คลาวน์ไม่เล่นด้วยแล้วปัดมือออกไป ก่อนจะมองหาดวงวิญญาณสีดำนั้นที่หายไป
“ถ้าช่วยได้น่ะนะ แต่ตอนนี้...”
โครม!!เพล้ง!!!
“มันสายไปแล้วล่ะ”
เสียงตู้ที่ล้มลงมาพร้อมกับบานกระจกของตู้ที่แตก เรียกให้สามสาวที่เดินออกมาหันกลับไปมองเพื่อนที่ยังไม่เดินออกมาและสงสัยว่ามันคือเสียงอะไร และนั้นทำให้พวกเธอร้องออกมาด้วยความตกใจและน้ำตาของพวกเธอที่ไหลออกมา เมื่อเห็นเพื่อนของพวกตนโดนตู้นั้นล้มทับด้วยความบังเอิญ ร่างของเด็กสาวที่ตายอย่างอนาถและร่างที่ยังดิ้นด้วยความที่ยังพอมีสติ ก่อนจะหยุดลงพร้อมกับลมหายใจ
“กรี๊ดดดดดดดด”
“เมกุมิ!! เมกุมิ!!”
พวกเธอกรีดร้องออกมาจากใจ และเรียกชื่อของเพื่อนที่ไม่มีลมหายใจและวิญญาณในร่างนั้น อย่างอาลัยอาวรณ์ ทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้ด้วย แล้ววิญญาณนั้นคือใคร คำถามมากมายเกิดขึ้นในความคิดของคลาวน์เมื่อเขาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดนั้น เพราะภาพย้อนรอย
“เอาล่ะ จบการแสดงเท่านี้ หึ” เคปรบมือให้กับเหตุการณ์ตรงหน้า
“นี่นาย..ยังจะ...” คลาวน์มองหน้าเคที่ลอยขึ้นไปกลางอากาศด้วยสายตาเย็นชาและเสียงที่เย็นยะเยือก
“ไม่เอาน่า ฉันแค่จะทำให้นายสบายใจขึ้นกับสิ่งที่เห็นน่ะ แต่ฉันชอบสายตานั้นของนาย..แล้วไว้เจอกัน ฉันจะไปเฝ้าโรงเรียนให้เหมือนเดิม”
ร่างของเคหายไป ท่ามกลางเสียงร้องไห้ และเสียงที่มามุงดูของนักเรียนมากมาย เสียงที่ชัดมากๆ ภายในหูของคลาวน์คือเสียงหัวเราะของวิญญาณผู้หญิงปริศนานั้น และนั้นก็ทำให้คลาวน์คิดว่า เหตุการณ์นี้ต้องติดต่อไปอีกแน่ และภาพตรงหน้าก็หายไปด้วยความมืดที่เข้ามาปกคลุม ก่อนจะเห็นหน้าของดวงวิญญาณนั้นแว๊บๆ ซึ่งทำให้เขาใจเต้นขึ้นมาและรู้สึกคุ้นๆ มาก แต่ก็ภาพตรงหน้าก็หายไปในความมืดแล้ว...
เช้าวันรุ่งขึ้น
ผมถูกปลุกจากการนอนต่อกับการฝันเมื่อคืนด้วยนาฬิกาปลุกที่โทรศัพท์ของยูยะ ซึ่งการกดโทรศัพท์ของหมอนั้นไม่ใช่การเล่นเกมส์แต่อย่างใด แต่เป็นการกดเตรียมปลุกในยามเช้า พวกเขาเดินมาถึงหน้าโรงเรียนโดยไม่รู้ตัว
“สีหน้านายไม่ดีเลยนะ” ยูยะถามคลาวน์ที่มีสีหน้าบอกบุญไม่รับ และใบหน้าที่เย็นชากว่าเดิม
“แค่หลับไม่ค่อยเต็มอิ่ม เพราะใครบางคน”
“ฮ่าฮ่าฮ่า คงเพราะนาฬิกาปลุกยามเช้าของฉันสินะ ขอโทษทีนะ”
ยูยะพูดด้วยน้ำเสียงที่อ้อนวอนให้ผมยกโทษให้ แต่นั้นก็ทำให้ผมรู้สึกเหมือนกำลังโดนความสวยงามบางอย่างเข้าสิง เลยต้องยอมโดยการชูนิ้วโอเคให้ ตามว่าด้วยเสียงของความยินดีของยูยะ จนคนรอบข้างที่เดินสวนไปมามองด้วยสีหน้ายิ้มๆ เหมือนคิดว่า เป็นเพื่อนที่รักกันดี
เพื่อนที่รัก...กันดี
ฉันมีเพื่อนแบบนายเนี้ย มันดีมากๆ เลยล่ะ...
ความคิดของคลาวน์ที่นึกขึ้นได้กับคำพูดของยูยะเมื่อคืนทำให้เขาน่าแดงขึ้นมา
“อ้าว ทำไมน่าแดงล่ะนั้น” ยูยะถามแล้วก้มมาตรงหน้าเพื่อดูหน้าเพื่อนให้ชัดๆ
“เปล่านิ”
คลาวน์เดินหนียูยะและเข้าโรงเรียนไปพร้อมกัน ก่อนจะเจอฮินาตะที่ยืนอยู่ที่ประตูรั้วเหมือนรอพวกเขา โดยมีเคยืนแอบอยู่ข้างๆ แต่ฮินาตะไม่รู้เลยว่าเคอยู่ข้างหลัง เพราะฮินาตะเป็นคนที่รู้สึกได้เท่านั้น ไม่ได้เห็นเต็มๆ เหมือนคลาวน์และยูยะ จนเคหายไปเมื่อเขาทั้งสองเดินมาสมทบกับเพื่อนอีกคน
ชิ้ง
คลาวน์หันไปด้านหลังด้วยความรู้สึกที่เหมือนมีใครมอง ยูยะกับฮินาตะหันไปมองตามกัน เพราะไม่รู้ว่าทำไมคลาวน์ก็หันไปอย่างรวดเร็วอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพื่อนทั้งสองมองหน้ากันก่อนจะเอ่ยถามเพื่อนคนนี้
“มีอะไรเหรอ?”
“....” คลาวน์เงียบไม่ตอบ แล้วมองไปรอบๆ เพราะความสงสัยกับความรู้สึก
“คลาวน์...”เพื่อนทั้งสองเรียกออกมาพร้อมกัน จนคลาวน์สะดุ้ง
“เป็นอะไรน่ะ จู่ๆ ก็หันไปมองข้างหลัง” ยูยะถาม
“เปล่าๆ ไม่มีอะไร”
ยูยะกับฮินาตะก็ยังคงทำหน้าสงสัย แต่ก็ปล่อยวาง เพราะคงไม่มีอะไรจริงๆ แต่ไม่รู้เลยว่าที่ด้านหลังต้นไม้ที่พวกทั้งสามเดินผ่านมานั้น มีดวงวิญญาณกำลังมองพวกเขาด้วยสายตาเย็นชา และไม่มีทีท่าว่าจะขยับเลยแม้แต่น้อย แต่ไม่นานเธอก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าครั้ง และคำพูดที่คลาวน์ต้องไม่อยากได้ยินเป็นแน่
“ฮ่าฮ่าฮ่า มันจะกลับมาอีกครั้ง ฮ่าฮ่าฮ่าๆๆๆๆ”
-----------------------------------------------------
รู้สึกที่จะที่ได้แต่งเรื่องนี้มากๆ งับ T^T
มันทำให้เราจิ้น และอยากจะแต่งออกมาเรื่อยๆ ถ้าชอบก็เม้นกันด้วยนะงับ ว่าควรเติมตรงไหน
หรือเม้นเป็นกำลังใจงับ ขอบคุณมากๆ งับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ