CurseSchool คำสาปโรงเรียนผี
เขียนโดย WinnerShadow
วันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 13.48 น.
แก้ไขเมื่อ 16 เมษายน พ.ศ. 2556 14.05 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) ช่วยใครไม่ได้
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
Chapter 5
Not help anyone.
ตั้งแต่คาบเช้าที่มีเหตุเสียชีวิตของนักเรียนชาย 2 คน ก็เล่นเอาพวกผมเครียดกันไป จนตอนนี้พักกลางวัน พวกผมก็ทานอะไรไม่ลงกันเลย แถมยังเกิดขึ้นจากวิญญาณที่ผู้หญิงนั้น ที่มาเตือนเราไว้เมื่อวาน ตอนนี้พวกผมนั่งอยู่ในห้องเรียนที่มีเสียงของพวกเพื่อนในห้องกำลังนั่งกันเป็นกลุ่มๆ และคุยกันอย่างสนุก สวนพวกผมก็ทานได้แค่น้ำผลไม้กระป๋องและชาอู่หลงเท่านั้น
พวกเรานั่งเงียบกันเหมือนไม่มีอะไรจะคุย แต่ถ้าเป็นเหมือนเมื่อก่อนพวกผมมักจะนั่งคุยพร้อมกับขนมปังที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อของโรงเรียน แต่ตอนนี้... มันไม่ใช่ พวกเรากำลังนั่งดื่มน้ำผลไม้และชาด้วยสีหน้าที่เครียดอย่างเห็นได้ชัด วันนี้ก็ดูฮินาตะจะแปลกๆ ไป เห็นเหม่อมาตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว แต่ผมก็สงสัยมาตั้งนานแล้วว่า ทำไมฮินาตะเหมือนไม่ใช่ฮินาตะในบางเวลา
“นี่ พวกนายสามคนทำหน้าบอกบุญไม่รับเลยนะ”
สาวแว่นผมยาวถึงแค่บ่า ดวงตาโตเดินมาทักพวกคลาวน์อย่างยิ้มแย้ม แต่พวกเขานั้นไม่ได้ยิ้มตอบเลยแม้แต่นิด ขนาดยูยะที่นับว่ายิ้มแทบจะตลอด ยังทำหน้าเครียดด้วยเลย
“แล้วพวกนายไม่ทานอะไรเลยนะ ในฐานะที่เป็นรองหัวหน้า ก็คงต้องดูแลหัวหน้าห้องของเราให้ดีที่สุด แน่นอนว่าเพื่อนๆ ของฮินาตะคุงด้วยนะ”
“....”
พวกเขานั่งก้มหน้ากันไป เพราะตอนนี้รู้สึกไม่อยากพูดกับใครเลย ก่อนคลาวน์จะลุกออกไปพร้อมกระป๋องชาที่อยู่ในมือ และยูยะกับฮินาตะก็ลุกตามๆ กันไป พร้อมน้ำของตัวเอง
“ขอโทษนะ ฮินะจัง พวกผมรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไร” ฮินาตะหันมาพูดด้วยใบหน้าที่เศร้าที่ก็ยังยิ้มให้เด็กสาวที่เข้ามาทัก
“อะ..อืม ไม่เป็นไร” เด็กหญิงว่าพลางปัดมือไปมา
พวกเขาทั้งสามคนเดินมาที่ลานนั่งพักของพวกนักกีฬาที่ซ้อมกันแล้วมาพัก มีม้านั่งให้เพียงตัวเดียว และข้างๆ ก็มีถังกระป๋องน้ำที่ซื้อจากเครื่องขายน้ำอัตโนมัติที่อยู่ฝั่งตรงข้ามสองเครื่อง ยูยะกับฮินาตะนั่งลงที่ม้านั่งด้วยความรู้สึกเศร้า เพราะต้องเข้าไปพัวพัน คลาวน์มองทั้งสองคนอย่างรู้สึกผิด ที่ทำให้เพื่อนคนสำคัญทั้งสองต้องมาเกี่ยวข้องกับเรื่องบ้ากับโรงเรียนที่เขารอดมาได้
“ขอโทษพวกนายด้วยนะ ที่ต้องให้มาเกี่ยวน่ะ จริงๆ ฉันไม่อยากจะเรียนด้วยซ้ำ เพราะมันอาจจะเกิดเรื่องแบบนี้เมื่อไรก็ได้” คลาวน์พูดพลางยืนพิงกำแพง และมองขึ้นไปบนฟ้าที่มีไม่มีแดดเลยสักนิด นับว่าเป็นท้องฟ้าที่สดใสอย่างที่ยูยะบอก แต่ถ้าไม่เกิดเรื่องขึ้นคงจะดีกว่านี้
“ไม่เอาน่า จริงๆ นายก็บอกฉันตั้งแต่ปีที่แล้วแล้วนิ ว่าไม่อยากมีเพื่อน แต่ฉันก็อยากจะเข้ามายุ่งกับนายเอง และเรื่องนี้ฉันก็อยากจะหยุดมันนะ”
“ยูยะ” คลาวน์เรียกชื่อของเพื่อนที่ตอนนี้ยิ้มออกมาอย่างใจจริง
“จริงๆ ฉันก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งหรอกนะ แต่พอนึกถึงพวกเพื่อนๆ ภายในห้องและเมกุมิจังที่ตายไป ฉันก็รู้สึกว่าไม่อยากเสียใครไปอีกแล้ว”
“ฮินาตะ...”
“ถึงฉันจะมองไม่เห็นวิญญาณเหมือนพวกนายสองคน แต่ฉันก็อยากจะหยุดเจ้าวิญญาณนั้น ถึงตอนนี้พวกเราจะไม่มีแผนหรือวิธีการหยุดเลย แต่ฉันก็อยากจะเป็นพลังให้พวกนายสองคนที่เป็นเพื่อนคนสำคัญนะ” ฮินาตะหันมายิ้มให้ยูยะและคลาวน์
“ฮินาตะ นายนี่มันสุดยอดเลยนะเนี้ย” ยูยะพูดพลางกอดเพื่อนอย่างดีใจ
“เบาๆ สิ มันเจ็บนะ”
คลาวน์ยืนมองเพื่อนทั้งสอง ทั้งๆ ที่เมื่อกี้ยังนั่งเศร้าอยู่เลยแท้ๆ แต่ตอนนี้กลับยิ้มกันออกมาแล้วพูดเหมือนจะช่วยเขาอย่างเต็มที่นี่มัน...
จะไม่ทำให้พวกนายเดือดร้อนเหรอ...?
“อ๊าก! อย่าทำผม”
เสียงคนร้องเหมือนทรมาณดังขึ้นที่ด้านหลังลานโล่งซึ่งมีอาคารเรียนของพวกเขากั้นอยู่ ทำให้พวกคลาวน์รีบวิ่งไปตามเสียงอย่างไม่ต้องนัดหมายเพราะคิดว่าวิญญาณนั้นเริ่มทำงานตามที่เตือนไว้แล้ว ซึ่งเป็นคนที่สุดท้ายที่มันจะเล่นงาน พวกคลาวน์วิ่งไป เพราะไม่ต้องการให้ใครตายอีก
พวกคลาวน์มาหยุดที่กลุ่มรุ่นพี่ 5 คนที่กำลังรุมชกต่อยรุ่นน้อง ม.ต้น คนหนึ่งอย่างสนุกสนาน พร้อมหัวเราะเย้าะเย้ยอย่างได้ใจ ที่เด็กนั้นลงไปนอนกุมท้องเพราะโดนเตะ ที่หน้าของเด็กคนนั้นมีรอยบวมเพราะโดนชกอยู่ เขาร้องไห้ออกมาเพราะความเจ็บปวดที่โดนพวกรุ่นพี่ทำร้าย
“เฮ้! พวกแกทำอะไรน่ะ” ยูยะโพล่งขึ้น ทำให้พวกรุ่นพี่ทั้งห้าหันมาทางพวกคลาวน์เป็นตาเดียว
“เห้ย พวกแกจะร่วมด้วยเหรอวะ!? ไอ้เด็กเนี้ยไม่ตอบโต้เลย โครตจะสนุกอ่ะ ฮ่าฮ่า” รุ่นพี่คนหนึ่งในกลุ่ม ทรงผมตั้งขึ้นและยังเงาเพราะเยลที่แต่ง และยังหูที่เจาะตั้งเยอะ พูดพลางยิ้ม และเท้าที่เขี่ยตัวของเด็กรุ่นน้องคนนั้น และดูจะไปกระตุ้นต่อมโมโหของฮินาตะเข้าอย่างจัง
“พวกแกทำบ้าอะไรว่ะ สนุกนักเหรอ ทำการทารุณเด็กคนนั้นน่ะ!!” ฮินาตะโพล่งขึ้นมาด้วยอารมณ์โมโหและตาที่จ้องเขม็ง ตัวคลาวฯกับยูยะสะดุ้งกันไปตามๆ กัน เพราะไม่คิดว่าฮินาตะที่ใจเย็นเหมือนเจ้าชายสงบอย่างเขา จะพูดกับรุ่นพี่ได้น่ากลัวขนาดนี้
“เห้ย! ไอ้เด็กนี้! ข้าไปทำอะไรแกมาว่าความสนุกของพวกข้าว่ะ” รุ่นพี่อีกคนในกลุ่มพูดตอนนี้พวกรุ่นคงจะโกรธฮินาตะน่าดู เพราะพวกเขาจ้องมาทางเขาอย่างประสงค์ร้าย
“ถ้าพวกแกจะเข้ามา ก็เอาเลยสิเว้ย!!” ฮินาตะพูดด้วยความโมโหอีกครั้ง ก่อนจะมีลมที่พัดมาอย่างแรง ทั้งๆ ที่ท้องฟ้ายังสว่างและสดใสอยู่เลยแท้ ฝุ่นผงที่พื้นสายพัดตามแรงจนพวกรุ่นพี่ที่ตกใจกับลมนี้ถึงกับหลับตาเพราะผงเข้าตา พวกคลาวน์กับยูยะกลับไม่รู้สึกอะไร เพราะพวกเขาไม่เห็นจะมีอะไรขึ้นเลยในรอบข้างของเขาทั้งสอง
“เฮ้ย! นี่แกทำอะไรว่ะ!! โอ้ย..ฝุ่นเข้าตา” รุ่นพี่ผมตั้งพูดขึ้น
“ถอยไปสิโว้ย!!” ฮินาตะพูด จนพวกรุ่นพี่เริ่มโมโห แต่ตากลับมองไม่เห็นเพราะฝุ่นเข้า ก่อนจะพูดสั่งให้เพื่อนๆ ในกลุ่มหนีไป เพราะลมที่พวกเขาเห็นไม่ใช่ลมที่คิดว่าจะหยุดง่ายๆ
“เห้ย! รีบหนีเร็ว!!”
“เออ!”
พวกรุ่นพี่ทั้งห้าวิ่งไปพลางเอามือขยี้ตา ฮินาตะเดินไปทางเด็กผู้ชายที่นอนร้องไห้เพราะความเจ็บอย่างเงียบๆ และใบหน้าที่นิ่งแต่ในตาแฝงไปด้วยความเศร้า คลาวน์กับยูยะก็เดินตามอย่างงงๆ และยังคงตกใจกับอารมณ์โกรธของฮินาตะ
“เป็นไงบ้าง แผลเยอะเลยนะ” ฮินาตะพูดกับเด็กผู้ชายด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม แตกต่างจากคนเมื่อกี้อย่างสิ้นเชิง
“ฮึก ผมไม่เป็นไร ฮึก หรอกครับ”
“ไม่เป็นไรที่ไหนกัน แผลเยอะขนาดนี้ ยังไงเดี๋ยวพี่พาไปห้องพยาบาลดีกว่านะ” ฮินาตะพูด แล้วลูบหัวเด็กชายที่ร้องไห้อย่างน่าสงสาร
“แต่พวกพี่ ฮึก ไม่ไปเรียนกันเหรอครับ?”
“พี่ไม่เป็นไรหรอก เอ้า ขึ้นหลังพี่สิ”
“ขะ..ขอบคุณมากๆ ครับ”
เด็กชายขึ้นหลังของฮินาตะที่นั่งลงมาให้ขี่หลัง คลาวน์กับยูยะยิ้มให้กับความใจดีของฮินาตะอย่างภาคภูมิ แต่คลาวน์ก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่าเมื่อกี้ใช่ฮินาตะจริงๆ เหรอ?
“พวกนายสองคนขึ้นห้องก่อนก็ได้นะ” ฮินาตะที่มีเด็กขี่หลังพูดขึ้นเมื่อเห็นพวกเขาทั้งสองยืนยิ้ม
“ไม่เป็นไรๆ ไปไหนไปด้วยกัน จริงมั้ย? คลาวน์” ยูยะว่าพลางหันไปทางคลาวน์
“อะ..อ่า”
เมื่อฮินาตะได้ยินอย่างนั้นจึงยิ้มและเดินนำเพื่อนทั้งสองไปกับเด็กผู้ชายที่ยังคงมีน้ำตาอยู่คลาวน์กับยูยะเดินตามมาอย่างเงียบ แต่คลาวน์ก็ยังคงคิดต่อไปเรื่อยๆ และพยายามคิดย้อนกลับไปตอนที่ฮินาตะหัวเราะกับเคตอนอยู่บนดาดฟ้า และก็เริ่มสงสัยว่า ทั้งๆ ที่ฮินาตะมองไม่เห็นวิญญาณแล้วทำไมถึงพูดต่อจากเคในตอนนั้นได้ แถมยังหัวเราะอย่างที่ไม่เคยมาก่อนด้วย
ห้องพยาบาล
ฮินาตะวางเด็กหนุ่มที่หยุดร้องไห้ไปลงบนเตียงในห้องพยาบาล และอาจารย์ที่อยู่ในห้องก็ทำแผลให้ ก่อนจะบอกกับพวกคลาวน์ว่ามีธุระขอตัวไปข้างนอกก่อน และยังบอกให้พาน้องคนนี้ไปส่งที่ห้องเพราะอาจจะเดินไม่ไหว กับแผลที่โดนเตะจนจุกที่ท้อง และยูยะก็เริ่มถามเด็กคนนี้ด้วยความสงสัย
“แล้ว..ทำไมน้องถึงโดนพวกรุ่นพี่ทำร้ายแบบนั้นล่ะ”
“ผมเพียงแค่เดินอยู่ในสนาม แล้วก็โดนพวกรุ่นพี่พวกนั้นใช้ให้ไปซื้อน้ำให้ แต่ผมดันซุ่มซ่ามทำหกไปแก้วหนึ่ง เลยโดนพวกพี่ๆ เขา...”
“โหดร้ายเกินไปแล้ว” ยูยะพูด
“ฉันไม่คิดว่าโรงเรียนเราจะมีรุ่นพี่เลวๆ แบบนั้นเลยนะเนี้ย” คลาวน์พูด
“นี่” ฮินาตะเรียกเด็กคนนั้น
“ครับ?”
“ต่อไปนี้นะ ถ้านายโดนคนพวกนั้นทำร้ายอีก ให้เรียกหาพี่นะ เดี๋ยวพี่จะมาช่วยให้เร็วที่สุด เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวอีกแล้วล่ะ”
“เอ๊ะ?” คลาวน์กับยูยะทำหน้างงกับสิ่งที่เพื่อนคนนี้พูด เพราะพวกเขาสองคนคิดว่า คนอย่างฮินาตะไม่น่าจะอาสาปกป้องเด็กผู้ชายที่โดนพวกรุ่นพี่ทำร้ายเลยแม้แต่นิดเดียว แต่เขาอาจจะมีเหตุผลจำเป็นก็ได้
“พี่ชื่อ ฮินาตะ ถ้าน้องตกอยู่ในอันตรายก็เรียกพี่ได้ตลอดเลยนะ”
“คะ..ครับ ผมชื่อ ชิมะ ผมขอบคุณพี่ๆ มากครับ” เด็กหนุ่มยิ้มอย่างเขินอาย แต่นั้นก็ทำให้คลาวน์กับยูยะยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ไปด้วย ที่เพื่อนคนนี้จะเอาจริงช่วยเด็ก แต่นั้นอาจจะเป็นความใจดีอีกอย่างของฮินาตะที่พวกเขาคาดไม่ถึงก็ได้
และพวกฮินาตะก็พาเด็กที่ชื่อชิมะไปส่งที่ห้องเรียนของเขา เด็กคนนี้มีสีหน้าที่ดูดีขึ้น ผิดจากเมื่อกี้ที่ร้องไห้เลยล่ะ ฮินาตะก็ดูจะยิ้มอย่างดีใจที่ช่วยเด็กไว้ด้วย แต่เมื่อถึงห้องเรียน พวกเขาก็ตกใจกับห้องเรียนของชิมะคนนี้ ที่เมื่อพวกเด็กๆ ภายในห้องมองมาทางชิมะที่ปรากฏตัวด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ และเหมือนจะไม่ต้อนรับชิมะสักเท่าไรนัก
“ขอบคุณที่มาส่งครับ” ชิมะพูดพลางยิ้ม
“อะ..อืม ไม่เป็นไรแน่นะ เพื่อนๆ ของนาย...”
“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่เป็นไรแน่ๆ” ชิมะพูด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้มเมื่อเห็นฮินาตะมีสีหน้ากังวล เมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อนภายในห้องของเขา
“เข้าใจแล้ว”
ประตูห้องเรียนของชิมะปิดลงด้วยฝีมือของเด็กผู้ชายคนหนึ่ง ก่อนพวกเขาทั้งสามจะเดินห่างจากห้องไป และตรงกลับห้องเรียนของพวกตน แต่เมื่อถึงห้องเรียนกลับไม่มีอาจารย์มาสอนสักที รองหัวหน้าที่ชื่อฮินะเดินตรงมาที่ทั้งสามคน พร้อมกับสายตาของเพื่อนทั้งห้องที่มองมาอย่างสงสัย
“พวกฮินาตะคุงไปไหนมาเหรอ?”
“พวกผมแค่ไปห้องพยาบาลมาน่ะ”
“อ่อ ก็ว่าทำไมช้า แต่คาบต่อไปเรียนพละนะ รีบไปเตรียมกันได้แล้ว!” ฮินะพูด ก่อนจะหันไปทางเพื่อนทั้งห้องที่มองมาพอดี และพวกเพื่อนๆ ในห้องก็ลุกขึ้น พร้อมถุงชุดพละที่เตรียมกันมาเดินไปที่ห้องเปลี่ยนชุดที่แบ่งไว้สำหรับชายและหญิง
เมื่อผ่านไปไม่นานทั้งสามคนก็ออกมา คลาวน์ที่อยู่ในชุดพละเสื้อยืดสีขาว และกางเกงพละยาวถึงเข่า ใบหน้าที่หล่อผิวขาวกับผมสีดำยาวถึงต้นคอของเขานั้นดูหล่อมากเลยทีเดียว พวกผู้หญิงภายในห้องที่ออกมาแล้วสี่ห้าคนหันมามองทางคลาวน์ด้วยสายตาปิ๊งๆ
ส่วนยูยะก็ติดกิ๊บที่ผมหน้าสีทองตามสไตล์พวกน่าหล่อและขี้เล่นอย่างเขา อีกคนที่น่าหวานหล่ออย่างฮินาตะก็ไม่แพ้กับทั้งสองคน เมื่อเอากิ๊บยาวมาติดรวบผมขึ้นและจอนที่เหลือไว้นิดหน่อยนั้นก็เท่มากๆ จนเคที่ไม่รู้โผล่มาตอนไหนผิวปากอย่างตกใจกับความหล่อเท่ของทั้งสาม ผู้ชายหลายคนในห้องก็อิจฉากันไปกับความหล่อเท่นั้น
ในเวลาเรียนคาบพละที่สนามโรงเรียน
ตอนนี้ทุกคนภายในห้องก็มารวมกันอยู่ที่สนามเพื่อเรียนกีฑากัน แต่นั้นก็ทำให้พวกผู้หญิงเดือดร้อนกับพวกผู้ชายที่ดูจะหื่นๆ กันทั้งนั้น เพราะการวิ่งจะเป็นการวิ่ง 5 คน โดยจะมีพวกที่นั่งดูอยู่ด้วย ถึงพวกผู้หญิงจะใส่กางเกงขายาวถึงเข่าเหมือนพวกผู้ชาย แต่ใช่ว่าร่างกายส่วนบนจะเหมือนกันนั้นเอง
“กรี๊ดดด!!”
เสียงผู้หญิงจากรุ่นน้องที่เรียนกันอยู่ข้างๆ กับกลุ่มและเสียงผู้หญิงภายในห้องดังขึ้นเมื่อคลาวน์ที่วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก และคนที่สองคือฮินาตะ คนที่สามคือยูยะนั้นเอง และเพื่อนผู้ชายภายในห้องอีกสองคนที่วิ่งตามมา
“8.14 - 8.21 - 8.35 - 10.17 - 11.55” อาจารย์ผู้สอนบอกเวลาที่วิ่งได้ตามลำดับคนที่เข้าเส้นชัยจากก่อนไปทีหลัง พวกผู้หญิงยิ่งกรี๊ดด้วยความหลงที่คลาวฯนั้นวิ่งเข้าเป็นคนแรก และกรี๊ดให้กับความหล่อเท่ของฮินาตะกับยูยะ เช่นกัน
“สมแล้วที่เป็นรุ่นพี่ริกเตอร์”
“พวกรุ่นพี่สามคนนั้นเท่มากเลย”
“อยากเป็นแฟนกับฮินาตะคุงจัง”
“พี่ยูยะน่ารักเนอะ”
“สมแล้วที่เป็นเพื่อนกันน่ะเนอะ”
บทพูดถึงคนที่หลงมากมายวิ่งเข้าหาภายในหูของพวกคลาวน์เข้า จนทั้งสามคนถอนหายใจกับความคิดของพวกผู้หญิงที่หวังแต่คนหล่อๆ นั้น และการเรียนการสอนก็ดำเนินต่อไปอย่างปกติ และเสียงหอบของคนที่เรียนกลางสนามในตอนนี้ แต่ข้างสนามก็มีกลุ่มหมอกดำที่หัวเราะอย่างชอบใจเหมือนกำลังเย้อยั๋นอะไรสักอย่าง ก่อนจะหายไปเหมือนอากาศ
พี่ฮินาตะ...
เสียงของเด็กผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมาในหัวของฮินาตะก่อนจะสะดุ้งตามเสียงของพวกคนที่อยู่ริมสนาม เมื่อมองไปตามเสียง ก็เห็นว่าคนพวกนั้นกำลังเงยหน้าไปบนดาดฟ้าอาคารเรียนด้วยความตกใจอะไรสักอย่าง ฮินาตะจึงมองตามไป โดยมีพวกคลาวน์มองตามไปด้วยความสงสัย
และสิ่งที่เห็นก็ทำให้ฮินาตะรีบวิ่งไปทางอาคารนั้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหายเข้าไปในอาคาร คลาวน์กับยูยะที่ไม่รู้เรื่องเรียกฮินาตะอย่างตกใจ และพวกเขาก็มองไม่เห็นอะไรบนดาดฟ้าตามที่คนอื่นมองแล้วตกใจด้วย ทำไมล่ะ...
“คลาวน์ ยูยะ ฉันว่าพวกนายตามฮินาตะไปดีกว่านะ หึหึ” เคโผล่ขึ้นมาและพูดขึ้น
“เอ๊ะ?”
“ถึงพวกนายไม่เห็น หึ แต่ฉันที่เป็นวิญญาณเห็นชัดเลย ว่ากำลังมีเด็กผู้ชายที่ดวงตาว่างเปล่ายืนอยู่ที่ขอบกั้นของดาดฟ้านั้นน่ะ” พอเคพูดจบ คลาวน์กับยูยะก็ตกใจก่อนจะรีบวิ่งตามฮินาตะไป แต่นั้นอาจจะสายไปแล้วก็ได้ พอรู้สึกตัวอีกทีก็เห็นเด็กคนนั้น เด็กที่ชื่อชิมะร่วงลงมาจากดาดฟ้า ก่อนจะมีเสียงกระแทกอย่างแรงและเลือดที่กระจายออกจากหัวเพราะแรงกระแทกจากความสูง 5 ชั้นของอาคาร
คลาวน์กับยูยะตกใจหน้าซีด เพราะเมื่อกี้พวกเขาทั้งสองยังมองไม่เห็นใครบนดาดฟ้าเลยสักนิด และยังมีอีกอย่างที่ทำให้เขาตกใจ เมื่อไปที่ร่างของชิมะก็เห็นหมอกสีดำนั้นรอยออกมาพร้อมกับเสียงหัวเราะสะใจและบ้าคลั่งของดวงวิญญาณสีดำนั้น “ฮ่าฮ่าฮ่าๆๆ”
“รีบตามฮินาตะขึ้นไปก่อน เดี๋ยววิญญาณนั้นฉันจัดการเอง” เคพูดเตือนสติ ก่อนจะหายไปตามวิญญาณสีดำนั้น
ดาดฟ้า
“แฮ่ก..แฮ่ก” เสียงหอบของคนทั้งสองที่วิ่งขึ้นมาเพราะความเหนื่อย ก่อนทั้งสองจะเงยหน้าขึ้นแล้วมองไปทางฮินาตะที่ยืนร้องออกมาเหมือนกำลังทรมาณ และมือทั้งสองข้างที่กุมหน้าปากอย่างบ้าคลั่ง
“อ๊ากกก!!!”
“ฮินาตะ!” คลาวน์วิ่งเข้าไปที่ตัวผมกับยูยะที่ตอนนี้ตกใจกับสิ่งที่เห็น เมื่อฮินาตะล้มลงไปสลบอยู่กับพื้นทั้งน้ำตาก่อนจะพึมพำออกมาด้วยเสียงที่แหบแห้งเพราะร้องออกมาเมื่อกี้
“ฉัน..ช่วยใครไม่ได้...”
-------------------------------------------------------------------------------
เอาล่ะ! ตอนนี้ยาวหน่อยคับ พรุ่งนี้ผมอาจจะไม่ได้อัพนะคับ พอดีต้องไปทำเพื่อเพื่อนที่อาจจะจาก
กันแล้ว ก็เลยจะไปอัพวันมะรืน และจะเพิ่มความยาวของแต่ละตอนขึ้นมาด้วยคับ แน่นอนว่าคนที่
ติดตามกันในตอนนี้ต้องได้มันส์และลุ้นว่าต่อไปจะเป็นยังไงแน่ๆ คับ หึหึหึ
(ผมกัดการลดขนาดตัวหนังสือนิดหน่อย เพราะมันจะดูไม่สวยนะคับ^^)
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ