รักฉันนั้น...เพื่อเธอ

-

เขียนโดย Topazio

วันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 15.10 น.

  10 ตอน
  0 วิจารณ์
  13.92K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 24 เมษายน พ.ศ. 2556 20.38 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) เพื่อนกันแน่เหรอวะ!

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          

            http://www.keedkean.com   http://www.keedkean.com

           “แก้มกับเก้ามันก็แบบนี้แหละ วันไหนไม่ทะเละกันนั่นซิแปลกแล้วทำไมแพรไม่กลับไปนั่งกับเมฆล่ะ?”   แอนกับแพรวานั่งคุยกันในรถตู้อีกคัน แอนหันมาถามแพรวาอย่างแปลกใจ

 

          “ไม่อ่ะ เมฆชอบกวนประสาทแพรอยู่เรื่อยเลยดีแล้วที่แก้มกลับไปนั่งกับเก้าน่ะไม่งั้นแพรก็ไม่ได้นั่งตรงนี้”  เสียงแพรวาตอบมาเรื่อยๆ หันมองดูวิวสองข้างทางที่รถวิ่งผ่าน ชัฎนั่งขมวดคิ้วมองแพรวาจากเบาะอีกฝั่งอย่างแปลกใจที่เห็นแพรวามานั่งกับแอนเพราะปกติแพรวากับเมฆมักจะตัวติดกันเสมอ...สงสัยคงจะงอนกัน..ชัฏคิดหัวเราะขำก้มหน้ามองเคนที่หลับชนิดที่เรียกว่าไม่สนใจฟ้าดิน ไม่รู้ว่าเคนไปอดหลับอดนอนมาจากที่ไหน  แถมยังมานั่งพิงเขาจนเขาเหลือที่นั่งอยู่นิดเดียว  ชัฏรู้สึกชอบแพรวาตั้งแต่วันแรกที่ชัฏเห็นแพรวาเดินหน้าตาตื่นเข้ามาในห้องแล้วมองหาที่นั่งก่อนจะเดินไปที่โต๊ะเมฆที่ว่างอยู่อย่างกล้าๆ กลัวๆ ชัฏเห็นแพรวาก้มหน้าคุยกับเมฆแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ว่าง   ชัฏแอบมองแพรวามาตลอดเวลาโดยที่แพรวาไม่เคยรู้ตัว ชัฏไม่รู้ว่าจริงๆ    แล้วเมฆรู้สึกยังงัยกับแพรวาเพราะถึงแม้เมฆจะมีแฟนอยู่แล้วแต่ชัฏเห็นเมฆเป็นห่วงแพรวายิ่งกว่าแฟนตัวเองเสียอีก 


                                              
          เมื่อรถเคลื่อนตัวเข้ามาถึงเข้าเขตอุทยานแห่งชาติภูกระดึงนักเรียนต่างทยอยช่วยกันขนสัมภาระลงมาจากรถ อาจารย์คมกฤษกับหัวหน้าชมรมและเพื่อนอีก 2-3    คนเข้าไปติดต่อเรื่องที่พัก หลังจากจัดการเรื่องที่พักเรียบร้อยแล้วอาจารย์คมกฤษเรียกพวกผู้ชายไปช่วยแบกเต้นท์แล้วเข้าไปในจุดที่ทางเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้จัดไว้ให้   เพราะเป็นช่วงวันหยุดยาวทำให้มีคนมาเที่ยวค่อนข้างหนาตาและช่วงนี้อากาศหนาวด้วยทำให้เห็นทิวทัศน์สวยงาม มีเต้นท์นักท่องเที่ยวหลายหลังที่กางอยู่ก่อนแล้วนับรวมๆ ได้เกือบห้าสิบหลัง เมฆกับชัฏเดินไปรับเต้นท์จากหัวหน้าชมรมฯ      เต้นท์ที่ได้มาหลังใหญ่มากพักได้แปดคนทำให้ใช้เวลาขึงค่อนข้างนานเพราะมีเสามากต้องใช้ไม้หลักตอกและต้องมีคนช่วยขึง

 

          “แพร! ช่วยเมฆจับตรงนี้หน่อย เมฆจะไปเอาเชือก”    เมฆตะโกนบอกแพรวาที่กำลังเดินขนของมารวมกันไว้ใกล้ๆ เต้นท์  แพรวาเดินไปช่วยเมฆจับขาเต้นท์ไม่ได้มองหน้าคนที่ขอให้มาช่วยเมฆชำเลืองมองแพรวาด้วยความหมั่นไส้เพราะยังฉุนไม่หายที่แพรวาย้ายไปนั่งรถอีกคันโดยที่ไม่บอกเขาแถมทิ้งกระเป๋าให้เขาขนมาให้อีก    เมฆลุกขึ้นเดินไปหาเชือกพอเดินกลับมาเห็นแพรวายังนั่งจับเชือกอยู่

 

          “ขอบใจนะ”   เมฆบอกแพรวาไม่ได้พูดอะไรลุกขึ้นเดินไปช่วยชัฏจับขาเต้นท์อีกฝั่งหนึ่งเพราะเห็นมีคนกางเต้นท์แค่เมฆกับชัฏสองคน

 

          “เป็นอะไร..หน้างอเชียว” ชัฏถาม

 

          “เมฆว่าแพรอ่ะ”

 

          “ชัฏไปเตะมันให้เอามั๊ย!!” ชัฏบอก แพรวาเงยหน้าขึ้นมามองชัฏก่อนจะก้มหน้าลงไปอีก

 

          “จริงๆ ก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก” แพรวาบอก

 

           “อึมม..”     ชัฏพยักหน้ารับรู้อมยิ้มมองสาวน้อยแก้มแดงที่นั่งอยู่ตรงหน้าคุยโน่นคุยนี่ ชัฏแอบเห็นเมฆชำเลืองมองมาเป็นระยะอย่างก็นึกขำ กว่าชัฏกับเมฆและแพรวาจะช่วยกันกางเต้นท์และจัดข้าวของเข้าที่เสร็จก็ใช้เวลาเกือบชั่วโมง ว่าน แอน เก้าและแก้มเดินกลับมาพอดี ว่านบอกว่าไปช่วยอาจารย์คมกฤษขนของลงจากรถตู้อีกคัน หลังจากนั้นก็ต่างแยกย้ายกันไปหาที่หลับที่นอนและทำภารกิจส่วนตัวเพราะอาจารย์นัดทานอาหารเย็นตอนหนึ่งทุ่ม พรุ่งนี้จะพาไปเดินขึ้นภู 

 


          ขณะที่แพรวา แอน และแก้มกำลังเดินไปรวมกับคนอื่นๆ เพื่อทานอาหารเย็น
เมฆก็เดินเข้ามาหาแพรวายกนิ้วดีดหน้าผากแพรวา

 

          “โอ๊ย..เจ็บน้า..”.แพรวาร้องพลางเอามือจับหน้าผากแล้วทำหน้ามุ่ย

 

          “หายงอนยัง!” เมฆก้มหน้าถามส่งยิ้มละลายใจสาวมาให้

 

          “แพรไม่ได้งอน แต่ไม่อยากพูดกับเมฆ”  คนขี้งอนบอกใช้มือผลักหน้าอกเมฆแล้วเดินหนีไป เมฆเดินตามแพรวาต้อยๆ    ชัฏกับเคนเดินกอดคอกันมาเงยหน้าเมฆแล้วหัวเราะ  ระหว่างทานอาหารค่ำ    แพรวา แอน เมฆและชัฎมอง เก้า ว่าน       และเคนที่กำลังจะโชว์พลังเสียงอยู่บนเวที ว่านนั่งประจำที่ตรงมือกอง ส่วนเก้าเล่นเบส เคนเล่นกีต้าร์ สาวๆ   กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่เพราะสามหนุ่มนี่ก็ไม่ธรรมดาแถมเรียนห้องคิงนานๆ  จะขึ้นมาร้องเพลงทีเล่นเอาสาวๆ อยากละลายกลายเป็นไอ แพรวาหันไปมองสาวๆ กลุ่มหน้าที่ยืนเชียร์สามหนุ่มแล้วหัวเราะขำ แพรวาดูเคนกับเพื่อนๆ บนเวทีอย่างตื่นเต้น เคยตามพวกเพื่อนๆ ไปซ้อมดนตรีบ่อยๆ   แต่ไม่เคยเห็นไปเล่นที่ไหนนอกจากในห้องซ้อมไม่บ้านป้าชัฏก็บ้านเมฆ  อาหารที่วางอยู่กล่อยไปเลยเพราะสาวๆ ต่างส่งเสียงเชียร์นักร้องบนเวที แก้มส่งสายตาหวานเยิ้มไปให้เก้าที่ตอนนี้กำลังร้องเพลงอยู่ แอนเลยหยิกแขนแก้มไปทีนึง

 

          "อย่าออกนอกหน้านักนะยะ!" แอนบอกแก้มหันมาหัวเราะชอบใจ แพรวาเห็นเมฆมองมาอย่างพยายามขอคืนดี แพรวาคิดได้ว่ายังไม่เคยเห็นเห็นเมฆร้องเพลงเลย

 

          “ถ้าเมฆกล้าขึ้นไปร้องเพลงให้แพรฟัง...แพรจะหายงอน”  เมฆหันไปมองหน้าชัฏอย่างอึ้งๆ

 

          “แพรแกล้ง...กันหรืองัยแบบนี้” ชัฏหันมาบอกแพรวา แอนกับแก้มหันมามองเมฆเป็นตาเดียวด้วยความอยากรู้ว่าเมฆจะกล้าขึ้นไปร้องเพลงหรือเปล่า เพราะไม่เคยมีใครเคยได้ยินเมฆร้องเพลงเลยซักครั้ง ขนาดตอนที่เคน ว่าน   และเก้าไปซ้อมดนตรีที่บ้านป้าของชัฏ แล้วสาวๆ  ตามไปด้วยนั้นยังไม่มีใครเคยเห็นเมฆร้องหรือเล่นดนตรีเลย เมฆเเห็นทุกคนมองมาก็หน้าแดงแต่ยังเก็กหล่อ ก่อนจะหันไปกระซิบกับถามแพรวา “ถ้าเมฆร้องเพลงให้ฟัง..แพรจะมีรางวัลให้หรือเปล่า?”

 

           “มีซิ แพรก็จะเลิกงอนเมฆงัย”

 

           “แค่เนี้ย..นี่ยังไม่หายงอนอีกเหรอ”

 

           “อ่ะ...งั้นแพรจะเป็นทาสรับใช้เมฆสองวัน”

 

           “อะไรกัน...ทำไมเมฆรู้สึกเหมือนขาดทุน”

 

           “ก็ได้ ก็ได้ เป็นทาสรับใช้หนึ่งอาทิตย์ก็แล้วกัน”

 

           “อยากฟังร้องกันสองคนก็ได้ ไม่เห็นต้องให้เมฆทำอย่างนี้เลย”

 

           “เมฆอ่ะ..ไม่อยากร้องก็ไม่ต้องร้องก็ได้”  แพรวาพูดหันไปตักข้าวในจานกินไปได้สองสามคำหยุดเขี่ยไปมาแบบไม่ค่อยเจริญอาหาร เมฆมองหน้าชัฎลุกเดินไปหน้าเวที   ชัฏมองตามเมฆไปรู้สึกเห็นใจเมฆเพราะปกติเขาก็ไม่เคยเห็นเมฆร้องเพลง
เมฆเดินไปหยิบกีต้าร์ตัวที่วางอยู่ข้างหลังมาลองเช็คสายกีตาร์ครู่หนึ่งแล้วเดินออกมาด้านหน้า ว่าน เคน  เก้ามองด้วยความประหลาดใจที่เห็นเมฆขึ้นมาทำท่าเหมือนจะขึ้นมาร้องเพลง เมฆยักคิ้วให้เพื่อนๆ บอกประมาณว่า..มีปัญหาอะไร! สาวๆ หลายคนตั้งท่าจะกรี๊ดเพราะปกติเมฆก็เป็นที่สนใจของใครๆ อยู่แล้วเพราะความหล่อแถมเป็นนักบาสฯ ของโรงเรียน  เมฆยืนกวาดสายตามองไปรอบๆ ก่อนจะมาหยุดที่แพรวาที่นั่งทำตาโตอยู่ข้างล่าง  ชัฏนั่งพิงเสารอฟังเพลงก่อนยกมือชูสองนิ้วท่าทางกวนๆ ให้กำลังใจ

 

           “คือมีคนจ้างผมให้ขึ้นมาร้องเพลงเพราะคิดว่าผมไม่กล้า เผอิญผมมันพวกหน้าหนาเพราะอยากได้ของรางวัล ของรางวัลที่บอกจะให้น่ะไม่เอาหรอกมันน้อยไปเพราะผมร้องเป็นแค่เพลงนี้เพลงเดียว ขอเวลาเพื่อนๆสักห้านาทีนะครับ..ถ้าใครทนไม่ไหวก็ช่วยอุดหูไว้แป๊บนึง”   พูดจบเมฆก็โปรดยิ้มละลายใจสาวพร้อมขยิบตาให้อย่างขี้เล่นเรียกคะแนนนิยมนำโด่งไปก่อนจะได้ร้องเพลงเสียอีก  สาวๆ ยกมือขึ้นอุดหูส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดดังสนั่น เมฆหันไปกระซิบอะไรกับเพื่อนหลังเวที  เมื่อเก้าเริ่มตีกลองเสียงกรี๊ดก็เงียบลง สายตาทุกคู่จ้องมองสี่หนุ่มบนเวที


            
            เธอกับฉันเมื่อวันวาน เป็นเช่นเพื่อน
            กลับลางเลือน คำว่าเพื่อนจางหายไป
            เหตุได้ชิดเคียงใกล้ จึงได้รัก ฝังใจ
            ไม่ผิดใช่ไหม เพราะรู้ใจกันตลอดเวลา
            ก่อนเคยเศร้าซึม เงียบเหงาและขืนข่ม
            เธอมาประโลมปลอบโยน ให้สุขอุรา
            ไม่เคยทิ้งร้างลา สุขและทุกข์ฟันฝ่า
            กาลเวลาล่วงมาแปรเปลี่ยนใจ
            เปลี่ยนความรักฉันเพื่อน กลบลบเลือนหายไป
            เกิดความรักขึ้นใหม่..ซึ้งใจทดแทน..
            (เพลงเพื่อน-บี พีรพัฒน์)


             
            เสียงร้องของเมฆเนิบๆ แต่ทรงพลัง ทำให้สาวๆ ที่อยู่บริเวณนั้นนั่งเงียบกริบ.....แม้แต่เพื่อนๆ  เองยังอึ้งเพราะไม่เคยได้ยินเมฆร้องเพลงมาก่อน โดยเฉพาะชัฏที่เงียบไปทันทีก่อนจะแค่นยิ้มหันไปมองแพรวาที่นั่งนิ่งเหมือนถูกสะกด  ชัฏยิ้มให้กับตัวเองเหมือนขำในโชคชะตา 

 

            …ความรักเกิดขึ้นได้ง่าย..จริงหรือ…  

 

           มองหน้าแพรวาที่ส่งให้ยิ้มเมฆตอนเสียงเพลงจบลง เมฆโบกมือให้สาวๆ
ที่ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดยังกับซ้อมกันมาแล้วหันไปเก็บกีต้าร์ไว้ที่เดิมเดินลงจากเวที เสียงเคนเอ่ยแซวมาจากบนเวที...สารภาพไปเลยเพื่อน….. 

 

           “ซุ่มเงียบนี่หว่ามึง”  ชัฏพูดระหว่างที่เมฆเดินกำลังเดินเข้ามายกมือตบกับชัฏที่ชูขึ้นมาก่อนโยกหัวแพรวา

 

           “ตอนนี้ยังไม่บอกว่าจะขออะไรเป็นรางวัล..เป็นงัย ซึ้งป่ะ”

 

           “แหวะ..งั้นๆ แหละ” แพรวาแกล้งบอกแต่จริงๆ แล้วชอบมาก เมฆทำสีหน้าซีเรียสสุดๆ บอกชัฏแพรวานั่งฟังตาโต

 

           “ไอ้ชัฏ..กูพูดจริงๆ สาบานก็ได้ กูยังไม่ได้ทำอะไรแพรเลย  ทำไมท้องได้วะ” 

 

           “กรี๊ดดดด....ไอ้บ้าเมฆ!!”    แพรวาร้องเสียงหลงกระโดดขึ้นไปบนเก้าอี้ทุบเมฆอั๊กๆ   คนโดนทุบก็แกล้งเจ็บจนเกินเหตุหัวเราะขำ ชัฏต้องอุ้มแพรลงมาจากเก้าอี้แพรวาหน้างอปากแบะทำท่าจะร้องไห้ตาแดงไม่กล้าเงยหน้ามองคนอื่น  ชัฏ แอน แก้มหัวเราะขำเมฆกับแพรวาที่ชอบแกล้งกันอยู่เรื่อย

 

           “เมฆล้อเล่นนน..โอ๋..อย่างอนนะ เมฆอุตส่าห์ขึ้นไปร้องเพลงให้ฟัง” เมฆนั่งง้อแพรวา สาวตรงหน้านั่งเอามือเช็ดน้ำตาป้อยๆ   จนกระทั่งสามหนุ่มบนเวทีพากันกลับมานั่งที่หลังจากสนุกกันพอแล้ว  เคนเดินมาเห็นแพรวากับเมฆก็พูดขึ้นมาว่า

 

           “โห..แพรซาบซึ้งขนาดนั่งร้องไห้เลยเหรอ?” เคนทำหน้าเหลือเชื่อ

 

           “แก้มอยากฟังเพลงอะไร เก้าขึ้นไปร้องให้ฟัง แต่ต้องซาบซึ้งแบบนี้นะ” เก้าบอกหัวเราะชอบใจใหญ่ ก่อนที่สามหนุ่มจะพากันเหวอ

 

           “ฮือ..ฮือ..ฮือ ฮึก ฮึก”

 

           “แพร..เมฆขอโทษทีหลังไม่แกล้งแพรแล้ว อย่าร้องนะ โอ๋..โอ๋”  เมฆป้อหน้าป้อหลัง เพราะแพรวาอายร้องไห้ลุกหนีทำท่าจะกลับเต้นท์ ชัฏ แอน แก้ม นั่งหัวเราะขำเมฆแล้วพากันสมน้ำหน้าชอบหาเรื่องดีนัก

 

           “แพร เป็นอะไรวะไอ้ชัฏ” เคนถามหน้าตาเหรอหรา

 

           “ก็ไอ้เมฆ เสือกไปแกล้ง..สมน้ำหน้า..กินข้าวซิพวกมึง ไม่มีอะไรหรอก เดี๋ยวก็คงพากลับมา”  ชัฏบอกเคนพยักหน้าคนอื่นๆ เลยมาพากันมานั่งกินข้าวต่อ

 

           “ตอนบ่ายกูไปช่วยน้องน้องแนทกางเตนท์มา น้องแนทนะโคตรน่ารักเลย เฮ้ย! ชัฏสนใจป่าววะ เพื่อนๆ น้องเนทนะ โหะ  โหะ” เคนเอามือปิดปากแล้วทำท่าทางหน้าหม้อ...จนเพื่อนๆ อยากจะ.....

 

           “ไอ้ห่า!..หลีสาวนี่เองปล่อยให้กูกับไอ้เมฆกางเต้นท์กันอยู่เป็นชั่วโมง ไม่รู้ว่าหายหัวไปไหนหันหมด” ชัฏบอก

 

           “ไม่สนจริงๆ เหรอไอ้ชัฏ”

 

           “มึงจะมายุ่งอะไรกับกู” ชัฏบอก

 

           “ก็กูอุตส่าห์เหล่สาวไว้ให้มึง เผื่อมึงจะเปลี่ยนใจ”

 

           “เปลี่ยนใจอะไร..พูดไปเรื่อย” ชัฏบอก เคนยักไหล่เหมือนรู้ทัน ไม่นานเมฆกับแพรวาก็เดินกลับมาแพรวาแก้มแดงตาแดงไม่กล้ามองหน้าใคร   แอนกับชัฏเขยิบให้แพรวากับเมฆเข้ามานั่งคนอื่นๆพากันอมยิ้มที่เห็นเมฆจ๋อย

 

           “แพร จะไปไหน?”  เมฆถามเมื่อเห็นแพรวานั่งลงแล้วทำท่าจะยืนขึ้น แพรวาบอกเสียงอ่อยๆ  เพราะยังอายคนอื่นอยู่

 

            “แพร...หิวน้ำ”

 

            “เดี๋ยวเมฆไปเอามาให้” เมฆรีบกุลีกุจอจะไปหาน้ำมาให้แพรวา

 

            “กูก็หิว” เก้าบอก

 

            “กูด้วย” เคนพูด

 

            “ของกูแป๊ปซี่” เคนบอก

 

            “ของกูน้ำส้ม” เก้าบอก

 

            “เชี่ยนี่!! หิวก็มาหยิบเองซิ” เมฆตะโกนมา

 

            “อ้าว! กูก็เพื่อนมึงเหมือนกับแพร เอาให้แพรได้ทำไมเอาให้กูไม่ได้วะ” เคนบอก

 

            “พวกมึงนี่..ชอบไปแกล้งมัน”  ชัฏบอก หันไปมองแพรวาที่ทำหน้าสงสารเมฆค่อยๆ ลุกเดินไปหาเมฆแล้วอยากจะขำ เมื่อกี๊ยังงอนไอ้เมฆอยู่เลย วิ่งไปหาเค้าแล้วแอนกับแป้งมองตามแพรวาก่อนจะหันมายิ้มให้กัน


             
            อาจารย์คมกฤษกับหัวหน้าชมรมก็พูดเรื่องกำหนดการของวันพรุ่งนี้ว่าต้องทำอะไร   หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันกลับไปที่พักของตัวเอง ขณะที่แอนและแพรวากำลังจะเข้าไปในเต้นท์ก็สวนกับเมฆที่กำลังจะออกไปอาบน้ำ 

   

            “เมฆรอแพรด้วย...แพรไปเอาเสื้อผ้าก่อน”  แพรวากับแอนรีบเข้าไปเอาเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวออกมาแล้วเดินตามเมฆ  ชัฏและเคนที่ยืนรออยู่ พอทุกคนอาบน้ำเสร็จแล้วก็ออกมายืนรอแพรวาอยู่ข้างนอก เมฆเห็นคนอื่นคงจะหนาวกันเลยบอกให้ไปก่อนแล้ว เมฆก็ยืนรอแพรอยู่คนเดียว ไม่นานแพรวาก็ออกมา

 

            “อากาศหนาวขนาดนี้ สระผมทำไม เดี๋ยวก็ได้ไม่สบายหรอก”  เมฆพูดขึ้นเมื่อเห็นแพรวาเดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำ

 

            “แอนกลับไปแล้วเหรอ?”

 

            “อึม เมฆบอกให้แอน เดินไปกับชัฏแล้วก็เคนก่อน” หลังจากนั้นแพรวากับเมฆก็พากันเดินกลับมาที่พัก

 

            “เช็ดผมให้แห้งก่อนนอนนะ เดี๋ยวเป็นหวัด”

 

            “รู้แล้วน่า เมฆสั่งอย่างกับแพรเป็นเด็กไปได้” แพรวาบอกเดินเช็ดผมกลับมาที่เต้นท์  เมฆเดินตามมาชวนคุยโน่นคุยนี่ก่อนจะบอกให้แพรวาเข้าไปข้างในก่อน      เพราะเมฆจะไปหาชัฏกับเคนที่เดินออกไปหายไปอีกด้านหนึ่งของเต้นท์

 

            “อ้าว!แพร สระผมเหรอ หนาวจะตายแอนไม่เอาด้วยหรอก แล้วเมฆไปไหนแล้วล่ะ”

 

            “ไม่รู้สิ พวกผู้ชาย สงสัยไปจีบสาว”

 

             “สงสัยแก้มกับเก้ายังชมจันทร์กันอยู่มั้ง สวีทกันเหลือเกินคู่นี้ เรานอนกันก่อนแล้วกัน พรุ่งนี้จะได้มีแรงเพราะต้องเที่ยวอีกเยอะ” หลังจากสองสาวพากันนอนไปได้ไม่นานแพรวาก็รู้สึกตัวเตื่นเพราะเห็นแก้มเปิดเต้นท์เข้ามา

 

            “แก้มเหรอ?”

 

            “อึม แพรยังไม่นอนเหรอ”

 

            “หลับไปตื่นนึงแล้ว เป็นงัยสนุกป่าว”

 

            “ก็ดีนะ แต่แก้มง่วงนอนเก้าเลยมาส่ง แล้วกลับไปหาเพื่อนคงต่อกันอีกยาว ข้างนอกหนาวมาก”

 

             “ในนี้ก็หนาวเหมือนกัน แพรไม่ได้เอาเสื้อกันหนาวมาไม่คิดว่าจะหนาวขนาดนี้” 

          

            “ล้อเล่นน่ะ ไม่หนาวเท่าไร แก้มนอนเหอะ”แพรวาบอก ยิ่งตกดึกอากาศยิ่งหนาว แพรวาสะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียงพวกผู้ชายกลับมาแล้ว ท่าทางจะเมาเดินเป๋กันมาเลย สักพักเสียงก็เงียบหายไป

 

             แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาทางช่องหน้าต่างที่เปิดไว้  เมื่อปรับสภาพกับความมืดได้แล้ว แพรวาจึงค่อยๆ ลุกขึ้นเพื่อมองหาเจ้าที่ที่นอนเกลื่อนอยู่ภายในเต้นท์

 

            “เฮ้ย!  เชื่อเค้าเลยสงสัยคืนนี้ไอ้พวกนี้ได้หนาวตายกันแน่” แพรวาบ่น

 

            “เมฆ เมฆ ทำไมนอนกันแบบนี้ นอนดีๆ ซิ เมฆ ชอบนักนะเหล้าเนี่ย แพรไม่ปลุกแล้วนะ”

 

            “อึมม..”

 

            “สงสัยกว่าจะรู้ตัวก็เช้าละมั๊งแพรไม่สนใจแล้วด้วย” พูดเสร็จแพรวาก็กลับไปนอนที่ตัวเองต่อ รู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้งตอนประมาณตีสามอากาศกำลังอุ่นสบาย

 

            "ใครเอามาให้เนี่ย ถึงว่าซิทำไมสบายจัง..” แพรวามองเสื้อที่สวมอยู่แล้วส่งสายตามองหาเมฆแต่ไม่เห็นอยู่ที่เดิมจึงเอามือควานหาไฟฉาย

 

            “อย่าเปิดไฟนะ เมฆอยู่ตรงนี้” เมฆพูด

 

            “อ้าว!...เมฆตื่นนานแล้วเหรอ?” แพรวาถาม

 

             “สักพักนึงแล้วหละ เห็นแพรนอนตัวสั่น เมฆเลยเอาเสื้อไปใส่ให้”

 

             “เมฆไม่หนาวเหรอ”

 

             “ไม่หรอก”

 

             “ได้งัย  เมฆเอาคืนไปเหอะ แพรไม่หนาวแล้ว”

 

             “ปากแข็งจริง มานี่เลย มานอนตรงนี้ ยังไม่สว่างนอนต่อเหอะ” ว่าแล้วเมฆดึงแพรมานอนใกล้ๆ

 

              “ไม่เอา ไม่เอา แพรเป็นผู้หญิงนะ จะนอนกับเมฆได้งัย”

 

              “คิดอะไรเนี่ยแพร ประสาท! เมฆไม่ได้คิดจะทำอะไรแพรซะหน่อย นอนได้แล้ว”  เมฆพูดแล้วดึงแพรวามานอนข้างๆ ตัวเองก่อนจะหลับไปด้วยกัน

       

              เช้ามืดวันต่อมา ชัฏและเคนตื่นมาเกือบๆ  พร้อมกันสองคนชวนกันเดินออกไปสูดอากาศยามเช้าด้านนอก   ก่อนจะพากันมุดเข้าเต้นท์มาหลังจากนั้นเกือบชั่วโมงคิดจะมาปลุกเมฆออกไปหาอาจารย์เผื่อมีอะไรให้ช่วยตอนเช้า  สองคนหันมามองหน้ากันอย่างอึ้งๆ

 

              “เมฆ เมฆ  ไอ้เมฆ”

 

              "อะไรวะ” เมฆกำลังมึนๆ ถามออกไปด้วยความรำคาญ

 

              “กูว่ามึงลูกขึ้นมานอนตรงนี้เหอะว่ะ”  เคนคลานมาสะกิดเมฆร้องบอก

 

              “อะไรของมึงวะ” เมฆถามหงุดหงิด

 

              “คือ...กูกลัวว่าแพรตื่นขึ้นมา หรือคนอื่นตื่นขึ้นมาเห็นจะตกใจก็มึงเล่นนอนกอดแพรเหมือนเป็นผัวเมียกัน  ตกลงมึงสองคนเป็นอะไรกันแน่วะ” เมฆหันกลับมามองค่อยๆ  คลายอ้อมกอดเขยิบออกมาห่มเสื้อให้แพรวาอีกครั้ง

 

              “สงสัยเมื่อคืนกูเมา”

 

              “มึงแน่ใจ?”

 

              “แล้วมึงจะมาถามเซ้าซี้กูทำไมวะ!!”


             
              เวลา 06.00 น. นักเรียนมารวมกันอยู่ใกล้ๆ ทางขึ้นภู  อาจารย์คมกฤษและหัวหน้าชมรมให้นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็นสี่กลุ่มเหมือนเดิม ร้อมทั้งให้นักเรียนศึกษาระบบนิเวศวิทยาของธรรมชาติบนภูกระดึงเพื่อกลับไปทำรายงานกลุ่มของแพรวาและเพื่อนๆ   ได้หัวข้อ ลักษณะของป่าและพันธุ์พืชที่ค้นพบ เมื่อนักเรียนแต่ละกลุ่มได้หัวข้อกันเรียบร้อย 

 

             หัวหน้าชมรมนัดให้ทุกคนมาเจอกันอีกครั้งตอนบ่ายสองโมงเย็นโดยแจกอาหารกลางวันเป็นข้าวเหนียวหมูทอดคนละสองห่อกับส้มคนละหนึ่งผล หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันออกเดินทางเพื่อสำรวจป่า  กลุ่มของแพรวาเดินลัดเลาะเข้าไปในป่าด้านทิศตะวันตกตามแผนที่ที่ได้รับมาจากอาจารย์  หนทางค่อนข้างเดินลำบากอีกทั้งอากาศก็ค่อนข้างเย็นในตอนเช้าและพื้นดินลื่นทุกคนมีไฟฉายติดตัวคนละกระบอก

 
             แก้ม เก้า ว่าน แอน เคน ชัฎ เมฆและแพรวาเดินตามกันมาเรื่อยๆ มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ต้องเดินผ่านแอ่งน้ำ  ทุกคนต้องถอดรองเท้าออกแล้วเดินลุยน้ำข้ามมา  แอนยืนมองแพรวาหลังจากตัวเองข้ามผ่านมาแล้วเห็นแพรวายืนเฉยไม่ยอมข้ามมาสักทีก็ทำหน้าสงสัยหันไปมองเมฆ เห็นเมฆเดินคุยอยู่กับชัฎและแคน  สักพักแอนก็เห็นเมฆมองซ้ายทีขวาทีพอไม่เห็นแพรวา เมฆก็หันหลังกลับมาขมวดคิ้วสงสัยมองแพรวาที่เดินเอ้อระเหยอยู่คนเดียวยังไม่ยอมข้ามมาสักที เมฆหยุดคุยเดินย้อนกลับมาหาแพรวา ชัฎกับเคนยืนรออยู่  แอนเองก็ยังยืนอยู่ที่เดิมมองแพรวาอย่างเป็นห่วง

 

            “ทำไมไม่ข้ามมาล่ะ..แพร?” เมฆตะโกนถามทำหน้าสงสัยเพราะแพรวาไม่ตอบทำเหมือนไม่ได้ยิน  เมฆสงสัยเลยถอดรองเท้าเดินข้ามกลับไปหาแพรวาอีกครั้ง แอนเห็นเมฆคุยอะไรกับแพรวาสักพักก็เห็นเมฆทำหน้าบึ้งนั่งลงให้แพรวาขึ้นหลัง      แอนยิ้มขำเดินกลับไปรวมกับคนอื่นๆ ชัฏกับเคนยังยืนรอแพรวากับเมฆอยู่  เมฆกระชับสองมือไว้ที่ต้นขาของแพรวาเพื่อกันไม่ให้ตก  แพรวาอมยิ้มอย่างพอใจก่อนจะเอาศีรษะแนบแผ่นหลังกอดคอเมฆไว้แน่น

 

            “แพร..กอดแบบนี้เมฆหายใจไม่ออกนะ!”

 

            “เมฆนี่...ไม่มีความโรแมนติกเอาซะเลย ไม่เคยดูหนังหรืองัย เวลานางเอกขี่คอพระเอกก็ต้องกอดแน่นแบบนี้ทั้งนั้นแหละ ไม่งั้นได้ตกลงไปตายกันพอดี” แพรวาบอก เมฆได้แต่สายหน้ากับความคิดของแพรวา

                        
            “ทำไมแพรไม่บอกตั้งแต่แรกว่าไม่อยากถอดรองเท้าต้องเมฆข้ามไปข้ามมาด้วย?”  เมฆพูดกับแพรวาหลังจากหย่อนแพรวาลงใกล้ๆ โขดหินแล้วตัวเองก็ก้มลงใส่รองเท้า

 

            “ก็เมฆอยากคุยไม่รอแพรทำไมล่ะ!”  แพรวาทรุดตัวลงนั่งแหงนมองเมฆที่สีหน้าเรียบสนิท

 

            “แค่นี้ก็โกรธ....ไม่อยากให้ขี่หลังแพรเดินเองก็ได้” แพรวาพูดด้วยความน้อยใจเอานิ้วขีดเขียนบนพื้นดิน เมฆใส่รองเท้าเสร็จก็ดึงมือแพรวาให้ลุกขึ้น

 

             “ไปเถอะ...คนอื่นเดินไปถึงไหนแล้ว” เมฆพูด แพรวาเดินตามพูดเสียงอ่อยๆ

        

             “ไม่อยากให้ขี่หลังแพรเดินข้ามมาเองก็ได้”  เมฆเหลือบมองแพรวาส่ายหน้ากับคนที่ใจมีอยู่นิดเดียว

 

               “เป็นอะไรแพร...โรคกลัวน้ำเหรอ?”  เคนที่ยืนมองอยู่อมยิ้มขำๆ เพราะเห็นเมฆเดินหน้าบึ้งเลยเอ่ยแซวแพรวาที่เดินคอตกมาด้านหลัง ชัฎมองแพรวาแต่ไม่ได้พูดอะไร แพรวาฝืนยิ้มให้เคนกับชัฎแล้วรีบเดินไปหาแอน  เมฆเดินคุยไปกับเคนและชัฏระหว่างทางสามหนุ่มก็ทยอยถ่ายรูปเก็บภาพต่างๆ ไปด้วย เมฆแอบถ่ายรูปแพรวาหลายใบตอนที่แพรวาเผลอ   ก่อนจะอมยิ้มเมื่อมองรูปถ่ายในมืออย่างพอใจ แพรวากับเพื่อนๆที่ตอนนี้เอ้ากล้องขึ้นมาถ่ายรูปหมู่บ้าง รูปป่าไม้ และพันธุ์ไม้ต่างๆ ที่จะเอามาทำรายงาน ชัฎเดินไปใกล้ๆ  ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งที่อยู่ใกล้หน้าผาสูง  ล้วงเอากล้องส่องทางไกลมาแล้วยืนส่องปรับกล้องมองไปทางฝูงกระทิงที่อยู่ใกล้บึงใหญ่ แพรวาเห็นเดินเข้าไปหา            “ชัฏดูอะไรอยู่เหรอ ขอดูบ้างได้ป่าว?”   ชัฎหันมายิ้มให้แพรวาดึงกล้องออกมาจากคอสวมให้แพรวา  แล้วบอกจุดปรับตำแหน่งของกล่องให้แพรวาดูเพื่อจะได้เห็นภาพชัดเจนขึ้น

 

             “ว้าวว....สวยจังเลย...มีกี่ตัวกันเนี่ย”

 

             “น่าจะเกือบยี่สิบตัวนะ...ชัฎไม่เคยเห็นของจริงมาก่อน น่าจะมีสัตว์อื่นอีก แพรลองส่องดูทั่วๆ ซิ”  ชัฏยิ้มมองแพรวาที่เหมือนเด็กซนๆ คนหนึ่งไม่เหมือนสาวหลายคนที่เขารู้จัก

 

             “ดูอะไรอยู่วะ?”   เมฆเดินเข้ามาเห็นแพรวากับชัฎกำลังส่องดูอะไรกันก็เข้ามาใกล้ๆ  เมฆยกกล้องส่องทางไกลของตัวเองขึ้นมาส่องดูบ้างเห็นฝูงกระทิงกลุ่มใหญ่จึงมองดูด้วยความสนใจก่อนที่จะย้ายไปดูสัตว์อื่นๆ โดยเฉพาะนกที่เมฆสนใจเป็นพิเศษ   แพรวาถอดกล้องออกจากคอส่งให้ชัฏแล้วชวนกันเดินไปดูที่อื่นต่อ ใกล้ๆ      เที่ยง เพื่อนๆ ต่างมานั่งรวมกันพร้อมทั้งเตรียมอาหารที่แต่ละคนนำติดตัวมากองรวมแบ่งกันกิน แพรวา เมฆ ชัฎเดินตามมาสมทบทีหลัง เมฆล้วงเอาของกินในกระเป๋าเขาออกมาเทกองรวมกับเพื่อนๆ

 

           “โห..มึงเหมามาหมดร้านเลยเหรอว่ะ ไอ้เมฆ”  เคนหันไปเห็นของกินกองอยู่เต็มก็ถามเมฆอย่างอึ้งๆ

 

           “ของกูซะที่ไหน นี่มันของแพรทั้งนั้น...ช่างซื้อนักคงเห็นว่ามีคนช่วยขนมั๊ง”
เมฆบอกอย่างไม่จริงจังนัก

 

            “ไหนดูซิ...แอนอยากได้ช็อคโกแล็ต น่ารักจริงๆ เลยแพร ว่าน..โยนมาให้หน่อย..ขอบใจนะ.”   แอนหันไปรับช็อกโกแล็ตจากว่านที่โยนมาให้ เพื่อนๆ ต่างทานอาหารกันอย่างสนุกสนานและหันไปหาที่นั่งพักผ่อนกันตามใต้ต้นไม้บ้าง  ขอนไม้บ้าง แอนเดินไปนั่งข้างๆ ว่าน ส่วนแก้มกับเก้าก็ตัวติดกันเป็นปลาท่องโก๋ แพรวา เคน ชัฎ และเมฆนั่งอยู่รวมกันแพรวานั่งพิงไหล่เมฆ ปากก็กินขนมไม่หยุดก่อนจะร้องบอกเมฆ

 

            “เมฆ..น้ำ” เมฆหันหน้ามามองแพรวาที่สะกิดเขาอยู่ข้างๆ  ทำท่าติดคอ เมฆส่งขวดน้ำที่เพิ่งจะกินให้แพรวาที่ชี้นิ้วมาทำท่าเหมือนเป็นคุณนาย แพรวารับมาดื่มอั๊กๆ

 

            “เบา ๆ ก็ได้ไม่ต้องรีบเดี๋ยวสำลักกันพอดี”  พูดยังไม่ทันขาดคำ

 

            “แอ๊ก!..แอ๊ก!..แอ๊ก.!.!” แพรวาสำลักน้ำหน้าตาแดง เป็นเรื่องให้เมฆต้องมานั่งทุบหลังปากก็บ่นพรึมพรำ เพื่อนๆ เห็นแพรวาแล้วก็อดที่จะขำไม่ได้ ชัฏมองแพรวายิ้มๆ

 

           ”เป็นงัยบ้างแพร.?” แอนตะโกนถาม  แพรวาเหลือบมองเมฆนิดนึงยิ้มแหยๆ เพราะเมฆหน้าตาบอกบุญไม่รับสงสัยว่าทำไมแพรวาไม่รู้จักระวังมีแต่เรื่องให้ห่วงอยู่เรื่อย

 

           “แหะ แหะ ไม่เป็นไร” แพรวาร้องบอก  ก่อนจะเดินตามเมฆที่ฉุดแขนให้ลุกขึ้นไปนั่งกับชัฏและเคนที่กำลังกางผ้าใบผืนใหญ่ที่เคนใส่กระเป๋าเป้มาด้วยทั้งสี่คนแลกเปลี่ยนกันดูรูปที่ไปถ่ายกันมา 



            เมฆล้วงกล้องส่องทางไกลมาส่งให้แพรวา แพรวารับกล้องมาแล้วก็นั่งส่องดูวิวทิวทัศน์ไปเรื่อยๆ   เมฆนั่งเลือกรูปที่ต้วเองชอบแล้วลบรูปที่ไม่สวยออกไป  ในกล้องของเมฆมีรูปแพรวารูปหนึ่งที่บังเอิญเมฆถ่ายไว้ตอนก่อนจะข้ามมาฝั่งนี้ แพรวายิ้มน่ารักตาสวยเหมือนตากวาง ก่อนจะอมยิ้มแล้วกดย้ายรูปภาพไปเก็บไว้ที่โฟล์เดอร์ส่วนตัว  หลังจากนั้นก็ส่งกล้องให้เพื่อนคนอื่นดู  เมฆหันกลับมาหาแพรวาอีกครั้งเห็นแพรวากำลังนอนหลับท่าทางมีความสุขเอาหมวกปิดหน้าไว้พลางนึกในใจ …แหงละ มีเมฆทั้งคนแพรก็เลยไม่ต้องทำอะไรเลย... ก่อนจะยิ้มให้ด้วยความเอ็นดู    ชัฏมองหน้าเมฆแล้วแค่นยิ้ม...บอกไม่รักใครจะเชื่อ...

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา