You are my hope.เจ้าเท่านั้น ที่ข้าจะรอ yaoi
10.0
9) บทที่9
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ จินเนะตื่นตั้งแต่เช้าแล้วออกเดินเล่นไปเรื่อยๆโดยไม่มีแฟนคลับคอยล้อมหน้าล้อมหลัง เพราะเป็นที่รู้กันว่าวันนี้จะเป็นวันพักผ่อนของไอดอลสุดโปรดของพวกเธอ ห้ามรบกวนเด็ดขาด
เด็กสาวครุ่นคิดถึงความสัมพันธ์ของพี่ชายกับมาซารุแล้วตัดสินใจไม่ถูกว่าจะวางแผนป่วนหรือปล่อยให้พวกเขารักกันต่อไปดี
"นี่ หนูน้อยคนนั้นนะ มาลองดูดวงหน่อยไหม"
การเรียกลูกค้าของคุณย่าร้านทำนายดวงเป็นไปแบบวันต่อวัน ฉะนั้น ในวันนี้เธอจึงได้เลือกจินเนะเป็นตัวเรียกลูกค้า
เด็กสาวหรี่ตาลงอย่างครุ่นคิดแล้วตัดสินใจไปนั่งที่เก้าอี้เพื่อดูมาหญิงสูงอายุคนนี้จะทำอะไรบ้าง
"อะแฮ่ม ความรักดีไหม? เรื่องเรียนเรื่องงาน? แป๊ปหนึ่งนะ ฉันขอเช็คอะไรนิดหนึ่ง อ้า! นั่นไงๆ นี่เจ้าเป็นน้องสาวของเจ้าหนูหรอกหรือ"
จินเนะคิ้วกระตุก เรียกเธอว่าหนูน้อยไม่พอ ยังพูดอีกว่าเป็นน้องสาวของเจ้าหนู ถึงจะไม่เอ่ยชื่อแต่คนเป็นน้องสาวก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าหญิงมีอายุคนนี้หมายถึงใคร
แต่อย่างหนึ่งที่จินเนะรู้ก็คือ คุณย่าร้านทำนายดวงนี่คงจะไม่มั่วอย่างร้านดูดวงหลายๆเจ้าแน่นอน
"เอาล่ะ ข้าได้อะไรเด็ดๆมาแล้ว ดูเหมือนว่าเจ้ากำลังเกี่ยวข้องกับดวงความรักของเจ้าหนูนั่นนะ ไม่ใช่ในแบบฉันชู้สาวหรอก แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการช่วยเหลือหรือผลักดัน"
"ช่วยเหลือ? ฉันเนี่ยนะ ฮึ! อย่ามั่วไปหน่อยเลย"
จินเนะพูดอย่างไม่เกรงใจ เธอเริ่มคิดแล้วว่าความน่าเชื่อถือเมื่อครู่ลดฮวบฮาบ แค่รู้ว่ามีพี่ชายก็ใช่ว่าจะถูกทุกข้อสักหน่อย อีกอย่าง คุณย่าร้านทำนายดวงคนนี้อาจเป็นคนที่รู้ว่าจุนเป็นพี่ชายของเธอก็ได้ มันก็ไม่ใช่ข้อมูลความลับยิ่งใหญ่สักหน่อย
ระหว่างที่จะเดินออกไปนั้นเอง หญิงสูงอายุก็พูดขึ้นมาเสียงดังเพื่อรั้งไว้ก่อน
"ตัวเจ้าอาจไม่ตั้งใจ แต่สำหรับเจ้าหนูนั่นแล้วเจ้าคือตัวนำโชคด้านความรักนะ รวมทั้งเป็นคนที่ชักจูงให้เขาพบกับคนพิเศษคนหนึ่งด้วย!"
เท้าของจินเนะชะงักกึก เธอหันไปคุณย่าร้านทำนายดวงซึ่งทำสีหน้าล่วงรู้ทุกอย่างอยู่ สุดท้าย เด็กสาวก็กลับไปนั่งที่เก้าอี้ตัวเดิม
"ในระหว่างที่เจ้าเป็นตัวนำโชคในความรักของพี่ชาย รู้ไหม เจ้าคือมารร้ายสำหรับความรักของคนที่อยู่ในดวงความรักคนก่อนของเจ้าหนูนั่นด้วย แต่โชคชะตาไม่เป็นใจ เจ้าเลยดำเนินการขัดขวางสำเร็จ"
จินเนะพูดด้วยเสียงเย็นชาว่าเธอเองมีความสามารถพอถึงได้เปลี่ยนจดหมายรักสำเร็จ ไม่ใช่เพราะโชคช่วยอย่างที่หญิงสูงอายุกล่าวหา
แต่แทนที่จะโกรธ คุณย่าร้านทำนายดวงหัวเราะหึๆ ถามเธอว่าเรื่องการชักจูงนั่นเล่า เด็กสาวจะปฏิเสธอย่างไร แน่นอนว่าทีแรกจินเนะตั้งใจจะพูดว่าเธอไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลย แต่เมื่อคิดดูดีๆ สถานที่ซึ่งเธอวางจดหมายรักของจิเสะปลอมคือศาลเจ้าฟุึมิเนเนะ!
"เอาล่ะ อีกไม่นานเจ้าคงจะได้รู้ข้อมูลของคนพิเศษที่ข้าเคยพูดถึงแล้วล่ะนะ จะมีเรื่องให้เจ้าตัดสินใจ โชคชะตาคราวนี้อยู่ตรงกลาง ไม่เอนเอียงไปทางใดทั้งสิ้น จะช่วยหรือไม่นั่นคือการตัดสินใจของเจ้า เอ้า! ขอบใจนะ เจ้าไปได้แล้ว"
ขอบใจ?
จินเนะหันไปมองกลุ่มคนด้านหลังที่ยืนออกันอยู่ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์แล้วเดินจากมา ไม่มีความจำเป็นต้องพูดอะไรกันอีกแล้ว ครั้งแรกในรอบสามปีที่โดนหลอกใช้ทำให้จินเนะโมโหสุดๆ!
ตอนนั้นเอง เสียงมือถือได้ดังขึ้นมาขัดความคิดทีี่เดือดปุดของเด็กสาว ซึ่งชื่อนั้นไม่ใช่ใคร จิเสะนั่นเอง!
"ฮัลโหล" จินเนะพยามไม่ทำน้ำเสียงรำคาญความวุ่นวายเต็มที่ "มีอะไรหรือคะ หรือเกี่ยวกับจุน?"
สิ่งเดียวที่นึกออกว่าทำไมปลายสายสัญญาณโทรศัพท์อีกด้านจึงโทรมามีแค่เรื่องนี้เท่านั้น ถ้าไม่ใช่เรื่องของพี่ชายของเธอจะเป็นใครได้อีก
"จะ...จินเนะจัง! แย่แล้วล่ะ ฮือ..."
เสียงของจิเสะสั่นเทาละเริ่มร้องไห้โฮ ทำเอาจินเนะอยากเหวี่ยงมือถือทิ้งซะแล้วหมกตัวอยู่ในห้อง อ่านตารางงานอย่างสบายอารมณ์ นี่อุตสาห์ตกลงวันพักผ่อนกับบรรดาแฟนคลับได้แล้วแท้ๆเลยนะ เสียเวลาเปล่าจริงๆ
ถึงกระนั้น เด็กสาวยังคงบอกให้คู่สนทนาพูดมาว่าเกิดอะไรขึ้น
"ฉัน...ฉันค้นหาเรื่องราวของศาลเจ้าฟุมิเนเนะจากหนังสือในห้องสมุด แล้วมัน...ฮือ"
เด็กสาวไอดอลผู้นี้ไม่ได้อยากรู้เลยสักนิดว่าจิเสะจะค้นหาเรื่องอะไรที่ไหน แล้วพอจะเข้าเรื่องกลับร้องไห้ออกมาซะนี่
จินเนะพูดอย่างกลั้นรำคาญไม่ไหว "มันอะไรล่ะ"
"ฮึก...ฮือ ที่นั่นสร้างขึ้นในสมัยเอโดะนะ"
"อ๋อ" จินเนะตอบรับสั้นๆด้วยเสียงไร้ความรู้สึก แต่ความจริงคืออารมณ์เดือดสุดขีด "งั้นวางล่ะนะ"
"เดี๋ยว! เดี๋ยวสิ...ฮือ อย่าเพิ่งวางสิ นี่มันสำคัญมากนะ ที่นั่นถูกสร้างขึ้นโดยสมัยเอโดะ ต่อมา มีผู้คนพบเห็นวิญญาณของบุตรชายขุนนางคนหนึ่งซึ่งกำลังรอใครบางคนอยู่ เล่าลือกันว่าทำให้ที่นั่นไม่เคยมีใครกล้าเข้าใกล้เลย"
"เรื่องนั้นรู้แล้วน่า ต้องการอะไรก็พูดมาชัดๆสิ"
ฉันรู้เรื่องนั้นตั้งนานแล้วย่ะ! ตอนกำลังปรึกษาแฟนคลับเรื่องจดหมายรักปลอมจากเธอก็มีคนเสนอที่นั่นมา ชิ! แทนที่จะแกล้งจุนสำเร็จ กลับกลายเป็นว่าได้เพื่อนรักรักเพื่อนมาซะนี่ ฮึ่ย โมโห!
จินเนะยิ่งคิดยิ่งโมโห พูดตัดบทอย่างง่ายๆว่าจะวางโดยคราวนี้ไม่คิดจะสนเสียงห้ามปรามของจิเสะอีก
"แล้วเธอรู้ไหมว่าวิญญาณนั้นชื่ออะไรนะ!"
จินเนะตวาดเงียบๆ "จะไปรู้ไหม! นี่เธอจะบอกฉันสักที..."
"มาซารุ! ชื่อเดียวกับเพื่อนที่ศาลเจ้าของจุนคุงไงล่ะ โฮ...ฮือ"
จินเนะพยามตะโกนใส่มือถือซึ่งถูกวางสายไปแล้วอย่างสุดเสียง นี่มันอะไรกันเนี่ย ตกลงเด็กสาวผู้นั้นกำลังจะบอกว่าพี่ชายของเธอคบอยู่กับ... กับ... ไม่จริงน่า!? ไม่หรอก! อาจจะเป็นแค่ชื่อเหมือนก็ได้นี่
ในตอนนั้นเอง รถของไซโตะก็แล่นเข้ามาพร้อมบอกให้เธอรีบไปด้วยกันเพราะมีงานเข้ามาด่วน
ถึงในตอนที่ทำงานอยู่จะดูปกติก็ตาม แต่เมื่อถึงตอนพัก จินเนะก็เอาแต่เหม่อและคิดเรื่องที่จิเสะพยามบอกเธอ หรือแม้แต่ตอนที่กำลังนั่งรถกลับมาที่บ้านก็ตาม ไซโตะมองเด็กสาวข้างกายผ่านแว่นตาแล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้น
"ไซโตะ นายมี...เอ่อ น้องสาวไหมล่ะ"
เขาเหลือบมองเด็กสาวแวบหนึ่งแล้วยิ้มนิดๆ "ก็มีคนหนึ่งนะ"
จินเนะรู้ดีว่าเขาหมายถึงตนเองก็แอบค้อนเล็กน้อย แต่ยังคงตั้งคำถามต่อไป ถ้าหากมีคนมาบอกว่าคนรักของไซโตะไม่ใช่คน เขาจะเชื่อไหม?
"ถ้ามีหลักฐานก็เชื่อ ถ้าไม่มีก็คงไม่เชื่อ ส่วนเรื่องจะเลิกกันไปไหมก็คงต้องดูสถานการณ์ก่อน ถ้ารับได้ก็ไม่จำเป็นต้องเลิกหรอก แต่ยังไงฉันก็คงไม่ค้านว่าคนรักของฉันเป็นมนุษย์ทั้งที่หลักฐานมันทนโท่หรอก แต่จุนคุงไม่รู้จะรับความจริงได้แค่ไหน"
ชายหนุ่มกล่าวอย่างรู้ดีว่าจินเนะกำลังสมมติเหตุการณ์เพราะอะไร แต่เป็นครั้งแรกที่มันดูจะไม่ใช่แผนแกล้งคน เขาดูออกหรอกว่าจินเนะทำหน้ายังไงถึงจะเป็นการคิดแผนแกล้งคนอื่นเขานะ
เมื่อถูกรู้ความจริง จินเนะก็ถอนหายใจแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างพลางกล่าวด้วยเสียงขอร้องว่า "ช่วยอะไรหน่อยสิ ฉันรู้ว่านายมีเส้นสายเยอะ ช่วยสืบเรื่องศาลเจ้าฟุมิเนเนะให้หน่อย แล้วก็หาดูว่าคนที่ชื่อมาซารุเป็นใครมาจากไหน รบกวนด้วยนะ"
"ครับๆ ท่านเจ้าหญิง" ไซโตะมองเด็กสาวที่แม้จะพูดด้วยเสียงขอร้องแต่กลับสั่งหัวข้อมาไม่หยุดอย่างระอาใจ "ว่าแต่มาซารุอะไรนั่นมีความสำคัญยังไงถึงต้องหาที่มาที่ไปกันนะ ถ้าเอาไปแกล้งคน ฉันจะบอกข้อมูลแค่ครึ่งเดียวนะ"
จินเนะอ้ำอึ้งอยู่สักครู่ ความลังเลที่ปรากฏไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกยากที่จะอธิบาย แต่สุดท้ายก็กล่าวออกมาจนได้
"ดูเหมือน...เขาจะเป็นแฟนของจุนนะ"
วันรุ่งขึ้น เด็กสาวดักรอที่หน้าโรงเรียนไคเซย์เพื่อพบคนที่เธอแอบชอบโดยไม่รู้ว่าตอนนี้ จุนไม่ได้ว่างสำหรับเธออีกต่อไปแล้ว ความคิดมากต่างๆนานาปรากฏ เป็นความคิดที่คล้ายกับจินเนะซึ่งมันคือการที่เขาจะเชื่อเธอไหมนั่นเอง
จินเนะมาโรงเรียนตั้งแต่เช้าด้วยสีหน้าแจ่มใส ไม่ได้เอาแต่ครุ่นคิดเหมือนเมื่อวาน เธอโพสต์ท่าถ่ายรูปไปก็รอดูสถานการณ์ไป จุนกับจิเสะจะทำให้บทสนทนาออกมาในรูปแบบไหนกันนะ ช่างเป็นอะไรที่น่าสนุกจริงๆ
จุนเดินมาจากอีกด้านหนึ่งต่างจากน้องสาว บ่งบอกว่าเขานั่งรถบัสมาจากฟุมิเนเนะอย่างแน่นอน
"จุนคุง" จิเสะรีบวิ่งไปหาเด็กหนุ่มแล้วพูดอย่างร้อนรน "แย่แล้วล่ะ แย่มากๆด้วย!"
เขายิงคำถามออกไปเป็นสิบ จำพวกมีใครมาแกล้ง มีใครมาแย่งห้องชมรมหรือมีใครมาทำอะไรแปลกๆกับเด็กสาวหรือเปล่า
"ไม่ใช่ฉันหรอก จุนคุงรู้ไหมว่าเพื่อนที่ชื่้อมาซารุของเธอนะ ไม่ใช่คน!"
เด็กหนุ่มชะงักแล้วมองจินเ้นะซึ่งถ่ายรูปอยู่แล้วคิดทันทีว่าน้องสาวตัวป่วนของเขาต้องเป่าหูอะไรเด็กสาวมาอีกแน่ แต่จิเสะยืนกรานว่าเธอไม่ได้โดนหลอกพร้อมทั้งเปิดหนังสือที่ยืมมาจากห้องสมุดเล่มนั้นให้จุนอ่านทันที
เขาอ่านไปอ่านมาแล้วหน้าซีดลงเล็กนอย แต่หลังจากยืนเงียบอยู่นาน เขาก็พูดร่ายยาวออกมาว่า
"คิืชิดะั มาซารุ ห้อง B มาซารุ เอโกะ ห้อง A รุ่นพี่มาซารุ ทาเคชิโร่ นักฟุตบอลเทนโดะ มาซาโอะ เ๊อ๊ะ อันหลังนี่คนละชื่อกันแล้วแฮะ เอาเถอะ จิเสะจัง ผมว่าชื่อคนเราก็ซ้ำกันได้ นี่มันเรื่องเมื่อสมัยเอโดะเชียวนะ ผ่านมานานขนาดนี้คงมีใครกล้าเข้าไปบ้างหรอก มาเถอะ รีบเข้าห้องเรียนกัน"
"จุน...จุนคุง จุนคุง!"
จินเนะมองเรื่องทั้งหมดแล้วส่ายหน้า เธอว่าแล้วเชียวว่าเรื่องต้องจบลงแบบนี้ พี่ชายผู้ไม่นึกอะไรมากของเํธอจะเชื่อคำสันนิษฐานของจิเสะไปได้อย่างไรกัน
จิเสะมองตามแผ่นหลังของเด็กหนุ่มไปด้วยความคิดบางอย่าง
ถึงคนอื่นจะคิดว่าเขาไม่กลุ้มใจอะไรเลย แต่ลึกๆแล้วใจของจุนก็เอนเอียงไปทางเชื่อจิเสะอยู่บ้าง เขารู้สึกเหมือนว่าเคยเห็นมาซารุที่มีอะไรผิดปกติ แต่นึกยังไงก็นึกไม่้ออกสักที
ร่างในชุดกิโมโนเสิร์ฟน้ำชาพร้อมถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง ถึงจะพยามไม่แสดงความกลัดกลุ้ม แต่คนคนนี้ยังคงรู้ใจเขาเสมอสิน่า
"เกิดอะไรขึ้น" มาซารุโอบกอดเขาจากทางด้านหลังแล้วกระซิบถาม "มีเรื่องอะไรไม่น่าพอใจ หรือว่าน้องสาวของเจ้ากลั่นแกล้งอะไรงั้นหรือ"
ถึงจุนจะบอกว่าจินเนะแกล้งเขาจริงๆ มาซารุก็ไม่คิดทำอะไรเด็กผู้หญิงคนนั้นด้วยเหตุผลง่ายๆนั่นคือการที่จุนเป็นพี่ชายของเธอ
ถึงจะไม่รู้ว่าทั้งจุนและจินเนะรักกันหรือเกลียดกันแค่ไหน แต่การเสี่ยงกับการโดนเด็กหนุ่มผู้นี้โกรธ มาซารุไม่มีทางกระทำหรอก
"จริงสิ ข้ามีม้วนคัมภีร์จะให้เจ้า เป็นทักษะการใช้ดาบทั้งหมดที่ข้ามี"
ม้วนกระดาษที่ขาวสะอาดถูกส่งให้จุน ตัวอักษรเป็นดูเรียบง่ายและตวัดไปมาอย่างงดงามปรากฏอยู่ในนั้นและแน่นอนว่าตัวอักษรทั้งหลายถูกเขียนด้วยพู่กันจุ่มหมึก ไม่ใช่ปากกาหรือดินสอ
"ความจริงข้าคิดๆดูแล้ว จุนเองคงไม่อยากฝึกดาบหรอกใช่ไหม ก็เจ้าเคยบอกว่าถนัดการต่อสู้แบบระยะไกลมากกว่า"
จุนพยักหน้ารับแล้วพยามนึกว่าตนเองบอกไปตั้งแต่ตอนไหน แต่มันก็เป็นเรื่องจริง เพราะตั้งแต่เด็กแล้วที่เขามักจะแม่นปืนหรือแม่นธนู อาวุธที่ต้องใช้ในระยะไกลเขาล้วนทำได้ดี ถึงสายตาจะไม่สั้นไม่ยาวและเทียบเท่าคนปกติทั่วไปก็ตาม
เขากับจินเนะเหมือนจะมีทักษะตรงข้ามกันอยู่หลาย เ่ช่นตรงที่จินเนะต้องฝึกอยู่นานกว่าจะแม่นปืนหรือยิงธนูได้ดี แต่ในขณะเดียวกัน เด็กสาวถนัดการต่อสู้แบบประชิดตัวเป็นที่สุด
ระหว่างที่กำลังนั่งรับลม คุยเรื่องสมัยเด็กๆซึ่งตอนนั้นจินเนะยังไม่เกลียดเขา จุนก็โพล่งขึ้นมาว่า
"นี่ ช่วยเล่าเรื่องของคนที่เธอรอมาตลอดให้ฟังหน่อยได้ไหม"
รอยยิ้มของมาซารุชะงักกึก แล้วมองไปที่จุนซึ่งบัดนี้กำลังจ้องมองเขาอยู่ด้วยความสงสัย ถึงกระนั้น เมื่อเจอความเงียบแทนคำตอบ เขา่ก็รีบลนลานบอกว่าไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไร
"ไม่ใช่ไม่อยากเล่า" มาซารุทำหน้านึกถึงอดีตแล้วย้อนถามกลับ "ทำไมถึงอยากรู้ขึ้นมาล่ะ"
จุนเกาแก้มเขินๆ กล่าวเหตุผลว่าคนแบบไหนกันที่ทำให้คนที่ใจดีและอ่อนโยนอย่างมาซารุต้องรอ ถ้าเป็นเขาคงจะไม่มีวันห่างกายร่างในชุดกิโมโนไปนานขนาดนั้นแน่ ถึงจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครและห่างไปแค่ไหน แต่ดูจากปฏิกริยาตอนแรกที่มาซารุพบเขา เดาได้ว่าคงไม่ต่ำกว่าหนึ่งปีหรือสองปีแน่ๆ
"หลายร้อยปี" มาซารุเอ่ย "ข้ารอเจ้ามาหลายร้อยปีต่างหาก"
เด็กสาวครุ่นคิดถึงความสัมพันธ์ของพี่ชายกับมาซารุแล้วตัดสินใจไม่ถูกว่าจะวางแผนป่วนหรือปล่อยให้พวกเขารักกันต่อไปดี
"นี่ หนูน้อยคนนั้นนะ มาลองดูดวงหน่อยไหม"
การเรียกลูกค้าของคุณย่าร้านทำนายดวงเป็นไปแบบวันต่อวัน ฉะนั้น ในวันนี้เธอจึงได้เลือกจินเนะเป็นตัวเรียกลูกค้า
เด็กสาวหรี่ตาลงอย่างครุ่นคิดแล้วตัดสินใจไปนั่งที่เก้าอี้เพื่อดูมาหญิงสูงอายุคนนี้จะทำอะไรบ้าง
"อะแฮ่ม ความรักดีไหม? เรื่องเรียนเรื่องงาน? แป๊ปหนึ่งนะ ฉันขอเช็คอะไรนิดหนึ่ง อ้า! นั่นไงๆ นี่เจ้าเป็นน้องสาวของเจ้าหนูหรอกหรือ"
จินเนะคิ้วกระตุก เรียกเธอว่าหนูน้อยไม่พอ ยังพูดอีกว่าเป็นน้องสาวของเจ้าหนู ถึงจะไม่เอ่ยชื่อแต่คนเป็นน้องสาวก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าหญิงมีอายุคนนี้หมายถึงใคร
แต่อย่างหนึ่งที่จินเนะรู้ก็คือ คุณย่าร้านทำนายดวงนี่คงจะไม่มั่วอย่างร้านดูดวงหลายๆเจ้าแน่นอน
"เอาล่ะ ข้าได้อะไรเด็ดๆมาแล้ว ดูเหมือนว่าเจ้ากำลังเกี่ยวข้องกับดวงความรักของเจ้าหนูนั่นนะ ไม่ใช่ในแบบฉันชู้สาวหรอก แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการช่วยเหลือหรือผลักดัน"
"ช่วยเหลือ? ฉันเนี่ยนะ ฮึ! อย่ามั่วไปหน่อยเลย"
จินเนะพูดอย่างไม่เกรงใจ เธอเริ่มคิดแล้วว่าความน่าเชื่อถือเมื่อครู่ลดฮวบฮาบ แค่รู้ว่ามีพี่ชายก็ใช่ว่าจะถูกทุกข้อสักหน่อย อีกอย่าง คุณย่าร้านทำนายดวงคนนี้อาจเป็นคนที่รู้ว่าจุนเป็นพี่ชายของเธอก็ได้ มันก็ไม่ใช่ข้อมูลความลับยิ่งใหญ่สักหน่อย
ระหว่างที่จะเดินออกไปนั้นเอง หญิงสูงอายุก็พูดขึ้นมาเสียงดังเพื่อรั้งไว้ก่อน
"ตัวเจ้าอาจไม่ตั้งใจ แต่สำหรับเจ้าหนูนั่นแล้วเจ้าคือตัวนำโชคด้านความรักนะ รวมทั้งเป็นคนที่ชักจูงให้เขาพบกับคนพิเศษคนหนึ่งด้วย!"
เท้าของจินเนะชะงักกึก เธอหันไปคุณย่าร้านทำนายดวงซึ่งทำสีหน้าล่วงรู้ทุกอย่างอยู่ สุดท้าย เด็กสาวก็กลับไปนั่งที่เก้าอี้ตัวเดิม
"ในระหว่างที่เจ้าเป็นตัวนำโชคในความรักของพี่ชาย รู้ไหม เจ้าคือมารร้ายสำหรับความรักของคนที่อยู่ในดวงความรักคนก่อนของเจ้าหนูนั่นด้วย แต่โชคชะตาไม่เป็นใจ เจ้าเลยดำเนินการขัดขวางสำเร็จ"
จินเนะพูดด้วยเสียงเย็นชาว่าเธอเองมีความสามารถพอถึงได้เปลี่ยนจดหมายรักสำเร็จ ไม่ใช่เพราะโชคช่วยอย่างที่หญิงสูงอายุกล่าวหา
แต่แทนที่จะโกรธ คุณย่าร้านทำนายดวงหัวเราะหึๆ ถามเธอว่าเรื่องการชักจูงนั่นเล่า เด็กสาวจะปฏิเสธอย่างไร แน่นอนว่าทีแรกจินเนะตั้งใจจะพูดว่าเธอไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลย แต่เมื่อคิดดูดีๆ สถานที่ซึ่งเธอวางจดหมายรักของจิเสะปลอมคือศาลเจ้าฟุึมิเนเนะ!
"เอาล่ะ อีกไม่นานเจ้าคงจะได้รู้ข้อมูลของคนพิเศษที่ข้าเคยพูดถึงแล้วล่ะนะ จะมีเรื่องให้เจ้าตัดสินใจ โชคชะตาคราวนี้อยู่ตรงกลาง ไม่เอนเอียงไปทางใดทั้งสิ้น จะช่วยหรือไม่นั่นคือการตัดสินใจของเจ้า เอ้า! ขอบใจนะ เจ้าไปได้แล้ว"
ขอบใจ?
จินเนะหันไปมองกลุ่มคนด้านหลังที่ยืนออกันอยู่ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์แล้วเดินจากมา ไม่มีความจำเป็นต้องพูดอะไรกันอีกแล้ว ครั้งแรกในรอบสามปีที่โดนหลอกใช้ทำให้จินเนะโมโหสุดๆ!
ตอนนั้นเอง เสียงมือถือได้ดังขึ้นมาขัดความคิดทีี่เดือดปุดของเด็กสาว ซึ่งชื่อนั้นไม่ใช่ใคร จิเสะนั่นเอง!
"ฮัลโหล" จินเนะพยามไม่ทำน้ำเสียงรำคาญความวุ่นวายเต็มที่ "มีอะไรหรือคะ หรือเกี่ยวกับจุน?"
สิ่งเดียวที่นึกออกว่าทำไมปลายสายสัญญาณโทรศัพท์อีกด้านจึงโทรมามีแค่เรื่องนี้เท่านั้น ถ้าไม่ใช่เรื่องของพี่ชายของเธอจะเป็นใครได้อีก
"จะ...จินเนะจัง! แย่แล้วล่ะ ฮือ..."
เสียงของจิเสะสั่นเทาละเริ่มร้องไห้โฮ ทำเอาจินเนะอยากเหวี่ยงมือถือทิ้งซะแล้วหมกตัวอยู่ในห้อง อ่านตารางงานอย่างสบายอารมณ์ นี่อุตสาห์ตกลงวันพักผ่อนกับบรรดาแฟนคลับได้แล้วแท้ๆเลยนะ เสียเวลาเปล่าจริงๆ
ถึงกระนั้น เด็กสาวยังคงบอกให้คู่สนทนาพูดมาว่าเกิดอะไรขึ้น
"ฉัน...ฉันค้นหาเรื่องราวของศาลเจ้าฟุมิเนเนะจากหนังสือในห้องสมุด แล้วมัน...ฮือ"
เด็กสาวไอดอลผู้นี้ไม่ได้อยากรู้เลยสักนิดว่าจิเสะจะค้นหาเรื่องอะไรที่ไหน แล้วพอจะเข้าเรื่องกลับร้องไห้ออกมาซะนี่
จินเนะพูดอย่างกลั้นรำคาญไม่ไหว "มันอะไรล่ะ"
"ฮึก...ฮือ ที่นั่นสร้างขึ้นในสมัยเอโดะนะ"
"อ๋อ" จินเนะตอบรับสั้นๆด้วยเสียงไร้ความรู้สึก แต่ความจริงคืออารมณ์เดือดสุดขีด "งั้นวางล่ะนะ"
"เดี๋ยว! เดี๋ยวสิ...ฮือ อย่าเพิ่งวางสิ นี่มันสำคัญมากนะ ที่นั่นถูกสร้างขึ้นโดยสมัยเอโดะ ต่อมา มีผู้คนพบเห็นวิญญาณของบุตรชายขุนนางคนหนึ่งซึ่งกำลังรอใครบางคนอยู่ เล่าลือกันว่าทำให้ที่นั่นไม่เคยมีใครกล้าเข้าใกล้เลย"
"เรื่องนั้นรู้แล้วน่า ต้องการอะไรก็พูดมาชัดๆสิ"
ฉันรู้เรื่องนั้นตั้งนานแล้วย่ะ! ตอนกำลังปรึกษาแฟนคลับเรื่องจดหมายรักปลอมจากเธอก็มีคนเสนอที่นั่นมา ชิ! แทนที่จะแกล้งจุนสำเร็จ กลับกลายเป็นว่าได้เพื่อนรักรักเพื่อนมาซะนี่ ฮึ่ย โมโห!
จินเนะยิ่งคิดยิ่งโมโห พูดตัดบทอย่างง่ายๆว่าจะวางโดยคราวนี้ไม่คิดจะสนเสียงห้ามปรามของจิเสะอีก
"แล้วเธอรู้ไหมว่าวิญญาณนั้นชื่ออะไรนะ!"
จินเนะตวาดเงียบๆ "จะไปรู้ไหม! นี่เธอจะบอกฉันสักที..."
"มาซารุ! ชื่อเดียวกับเพื่อนที่ศาลเจ้าของจุนคุงไงล่ะ โฮ...ฮือ"
จินเนะพยามตะโกนใส่มือถือซึ่งถูกวางสายไปแล้วอย่างสุดเสียง นี่มันอะไรกันเนี่ย ตกลงเด็กสาวผู้นั้นกำลังจะบอกว่าพี่ชายของเธอคบอยู่กับ... กับ... ไม่จริงน่า!? ไม่หรอก! อาจจะเป็นแค่ชื่อเหมือนก็ได้นี่
ในตอนนั้นเอง รถของไซโตะก็แล่นเข้ามาพร้อมบอกให้เธอรีบไปด้วยกันเพราะมีงานเข้ามาด่วน
ถึงในตอนที่ทำงานอยู่จะดูปกติก็ตาม แต่เมื่อถึงตอนพัก จินเนะก็เอาแต่เหม่อและคิดเรื่องที่จิเสะพยามบอกเธอ หรือแม้แต่ตอนที่กำลังนั่งรถกลับมาที่บ้านก็ตาม ไซโตะมองเด็กสาวข้างกายผ่านแว่นตาแล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้น
"ไซโตะ นายมี...เอ่อ น้องสาวไหมล่ะ"
เขาเหลือบมองเด็กสาวแวบหนึ่งแล้วยิ้มนิดๆ "ก็มีคนหนึ่งนะ"
จินเนะรู้ดีว่าเขาหมายถึงตนเองก็แอบค้อนเล็กน้อย แต่ยังคงตั้งคำถามต่อไป ถ้าหากมีคนมาบอกว่าคนรักของไซโตะไม่ใช่คน เขาจะเชื่อไหม?
"ถ้ามีหลักฐานก็เชื่อ ถ้าไม่มีก็คงไม่เชื่อ ส่วนเรื่องจะเลิกกันไปไหมก็คงต้องดูสถานการณ์ก่อน ถ้ารับได้ก็ไม่จำเป็นต้องเลิกหรอก แต่ยังไงฉันก็คงไม่ค้านว่าคนรักของฉันเป็นมนุษย์ทั้งที่หลักฐานมันทนโท่หรอก แต่จุนคุงไม่รู้จะรับความจริงได้แค่ไหน"
ชายหนุ่มกล่าวอย่างรู้ดีว่าจินเนะกำลังสมมติเหตุการณ์เพราะอะไร แต่เป็นครั้งแรกที่มันดูจะไม่ใช่แผนแกล้งคน เขาดูออกหรอกว่าจินเนะทำหน้ายังไงถึงจะเป็นการคิดแผนแกล้งคนอื่นเขานะ
เมื่อถูกรู้ความจริง จินเนะก็ถอนหายใจแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างพลางกล่าวด้วยเสียงขอร้องว่า "ช่วยอะไรหน่อยสิ ฉันรู้ว่านายมีเส้นสายเยอะ ช่วยสืบเรื่องศาลเจ้าฟุมิเนเนะให้หน่อย แล้วก็หาดูว่าคนที่ชื่อมาซารุเป็นใครมาจากไหน รบกวนด้วยนะ"
"ครับๆ ท่านเจ้าหญิง" ไซโตะมองเด็กสาวที่แม้จะพูดด้วยเสียงขอร้องแต่กลับสั่งหัวข้อมาไม่หยุดอย่างระอาใจ "ว่าแต่มาซารุอะไรนั่นมีความสำคัญยังไงถึงต้องหาที่มาที่ไปกันนะ ถ้าเอาไปแกล้งคน ฉันจะบอกข้อมูลแค่ครึ่งเดียวนะ"
จินเนะอ้ำอึ้งอยู่สักครู่ ความลังเลที่ปรากฏไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกยากที่จะอธิบาย แต่สุดท้ายก็กล่าวออกมาจนได้
"ดูเหมือน...เขาจะเป็นแฟนของจุนนะ"
วันรุ่งขึ้น เด็กสาวดักรอที่หน้าโรงเรียนไคเซย์เพื่อพบคนที่เธอแอบชอบโดยไม่รู้ว่าตอนนี้ จุนไม่ได้ว่างสำหรับเธออีกต่อไปแล้ว ความคิดมากต่างๆนานาปรากฏ เป็นความคิดที่คล้ายกับจินเนะซึ่งมันคือการที่เขาจะเชื่อเธอไหมนั่นเอง
จินเนะมาโรงเรียนตั้งแต่เช้าด้วยสีหน้าแจ่มใส ไม่ได้เอาแต่ครุ่นคิดเหมือนเมื่อวาน เธอโพสต์ท่าถ่ายรูปไปก็รอดูสถานการณ์ไป จุนกับจิเสะจะทำให้บทสนทนาออกมาในรูปแบบไหนกันนะ ช่างเป็นอะไรที่น่าสนุกจริงๆ
จุนเดินมาจากอีกด้านหนึ่งต่างจากน้องสาว บ่งบอกว่าเขานั่งรถบัสมาจากฟุมิเนเนะอย่างแน่นอน
"จุนคุง" จิเสะรีบวิ่งไปหาเด็กหนุ่มแล้วพูดอย่างร้อนรน "แย่แล้วล่ะ แย่มากๆด้วย!"
เขายิงคำถามออกไปเป็นสิบ จำพวกมีใครมาแกล้ง มีใครมาแย่งห้องชมรมหรือมีใครมาทำอะไรแปลกๆกับเด็กสาวหรือเปล่า
"ไม่ใช่ฉันหรอก จุนคุงรู้ไหมว่าเพื่อนที่ชื่้อมาซารุของเธอนะ ไม่ใช่คน!"
เด็กหนุ่มชะงักแล้วมองจินเ้นะซึ่งถ่ายรูปอยู่แล้วคิดทันทีว่าน้องสาวตัวป่วนของเขาต้องเป่าหูอะไรเด็กสาวมาอีกแน่ แต่จิเสะยืนกรานว่าเธอไม่ได้โดนหลอกพร้อมทั้งเปิดหนังสือที่ยืมมาจากห้องสมุดเล่มนั้นให้จุนอ่านทันที
เขาอ่านไปอ่านมาแล้วหน้าซีดลงเล็กนอย แต่หลังจากยืนเงียบอยู่นาน เขาก็พูดร่ายยาวออกมาว่า
"คิืชิดะั มาซารุ ห้อง B มาซารุ เอโกะ ห้อง A รุ่นพี่มาซารุ ทาเคชิโร่ นักฟุตบอลเทนโดะ มาซาโอะ เ๊อ๊ะ อันหลังนี่คนละชื่อกันแล้วแฮะ เอาเถอะ จิเสะจัง ผมว่าชื่อคนเราก็ซ้ำกันได้ นี่มันเรื่องเมื่อสมัยเอโดะเชียวนะ ผ่านมานานขนาดนี้คงมีใครกล้าเข้าไปบ้างหรอก มาเถอะ รีบเข้าห้องเรียนกัน"
"จุน...จุนคุง จุนคุง!"
จินเนะมองเรื่องทั้งหมดแล้วส่ายหน้า เธอว่าแล้วเชียวว่าเรื่องต้องจบลงแบบนี้ พี่ชายผู้ไม่นึกอะไรมากของเํธอจะเชื่อคำสันนิษฐานของจิเสะไปได้อย่างไรกัน
จิเสะมองตามแผ่นหลังของเด็กหนุ่มไปด้วยความคิดบางอย่าง
ถึงคนอื่นจะคิดว่าเขาไม่กลุ้มใจอะไรเลย แต่ลึกๆแล้วใจของจุนก็เอนเอียงไปทางเชื่อจิเสะอยู่บ้าง เขารู้สึกเหมือนว่าเคยเห็นมาซารุที่มีอะไรผิดปกติ แต่นึกยังไงก็นึกไม่้ออกสักที
ร่างในชุดกิโมโนเสิร์ฟน้ำชาพร้อมถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง ถึงจะพยามไม่แสดงความกลัดกลุ้ม แต่คนคนนี้ยังคงรู้ใจเขาเสมอสิน่า
"เกิดอะไรขึ้น" มาซารุโอบกอดเขาจากทางด้านหลังแล้วกระซิบถาม "มีเรื่องอะไรไม่น่าพอใจ หรือว่าน้องสาวของเจ้ากลั่นแกล้งอะไรงั้นหรือ"
ถึงจุนจะบอกว่าจินเนะแกล้งเขาจริงๆ มาซารุก็ไม่คิดทำอะไรเด็กผู้หญิงคนนั้นด้วยเหตุผลง่ายๆนั่นคือการที่จุนเป็นพี่ชายของเธอ
ถึงจะไม่รู้ว่าทั้งจุนและจินเนะรักกันหรือเกลียดกันแค่ไหน แต่การเสี่ยงกับการโดนเด็กหนุ่มผู้นี้โกรธ มาซารุไม่มีทางกระทำหรอก
"จริงสิ ข้ามีม้วนคัมภีร์จะให้เจ้า เป็นทักษะการใช้ดาบทั้งหมดที่ข้ามี"
ม้วนกระดาษที่ขาวสะอาดถูกส่งให้จุน ตัวอักษรเป็นดูเรียบง่ายและตวัดไปมาอย่างงดงามปรากฏอยู่ในนั้นและแน่นอนว่าตัวอักษรทั้งหลายถูกเขียนด้วยพู่กันจุ่มหมึก ไม่ใช่ปากกาหรือดินสอ
"ความจริงข้าคิดๆดูแล้ว จุนเองคงไม่อยากฝึกดาบหรอกใช่ไหม ก็เจ้าเคยบอกว่าถนัดการต่อสู้แบบระยะไกลมากกว่า"
จุนพยักหน้ารับแล้วพยามนึกว่าตนเองบอกไปตั้งแต่ตอนไหน แต่มันก็เป็นเรื่องจริง เพราะตั้งแต่เด็กแล้วที่เขามักจะแม่นปืนหรือแม่นธนู อาวุธที่ต้องใช้ในระยะไกลเขาล้วนทำได้ดี ถึงสายตาจะไม่สั้นไม่ยาวและเทียบเท่าคนปกติทั่วไปก็ตาม
เขากับจินเนะเหมือนจะมีทักษะตรงข้ามกันอยู่หลาย เ่ช่นตรงที่จินเนะต้องฝึกอยู่นานกว่าจะแม่นปืนหรือยิงธนูได้ดี แต่ในขณะเดียวกัน เด็กสาวถนัดการต่อสู้แบบประชิดตัวเป็นที่สุด
ระหว่างที่กำลังนั่งรับลม คุยเรื่องสมัยเด็กๆซึ่งตอนนั้นจินเนะยังไม่เกลียดเขา จุนก็โพล่งขึ้นมาว่า
"นี่ ช่วยเล่าเรื่องของคนที่เธอรอมาตลอดให้ฟังหน่อยได้ไหม"
รอยยิ้มของมาซารุชะงักกึก แล้วมองไปที่จุนซึ่งบัดนี้กำลังจ้องมองเขาอยู่ด้วยความสงสัย ถึงกระนั้น เมื่อเจอความเงียบแทนคำตอบ เขา่ก็รีบลนลานบอกว่าไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไร
"ไม่ใช่ไม่อยากเล่า" มาซารุทำหน้านึกถึงอดีตแล้วย้อนถามกลับ "ทำไมถึงอยากรู้ขึ้นมาล่ะ"
จุนเกาแก้มเขินๆ กล่าวเหตุผลว่าคนแบบไหนกันที่ทำให้คนที่ใจดีและอ่อนโยนอย่างมาซารุต้องรอ ถ้าเป็นเขาคงจะไม่มีวันห่างกายร่างในชุดกิโมโนไปนานขนาดนั้นแน่ ถึงจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครและห่างไปแค่ไหน แต่ดูจากปฏิกริยาตอนแรกที่มาซารุพบเขา เดาได้ว่าคงไม่ต่ำกว่าหนึ่งปีหรือสองปีแน่ๆ
"หลายร้อยปี" มาซารุเอ่ย "ข้ารอเจ้ามาหลายร้อยปีต่างหาก"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ