You are my hope.เจ้าเท่านั้น ที่ข้าจะรอ yaoi

10.0

เขียนโดย ปรัสรา

วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2555 เวลา 10.13 น.

  20 chapter
  3 วิจารณ์
  27.78K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

9) บทที่9

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

        จินเนะตื่นตั้งแต่เช้าแล้วออกเดินเล่นไปเรื่อยๆโดยไม่มีแฟนคลับคอยล้อมหน้าล้อมหลัง  เพราะเป็นที่รู้กันว่าวันนี้จะเป็นวันพักผ่อนของไอดอลสุดโปรดของพวกเธอ  ห้ามรบกวนเด็ดขาด

        เด็กสาวครุ่นคิดถึงความสัมพันธ์ของพี่ชายกับมาซารุแล้วตัดสินใจไม่ถูกว่าจะวางแผนป่วนหรือปล่อยให้พวกเขารักกันต่อไปดี

        "นี่ หนูน้อยคนนั้นนะ  มาลองดูดวงหน่อยไหม"

        การเรียกลูกค้าของคุณย่าร้านทำนายดวงเป็นไปแบบวันต่อวัน  ฉะนั้น ในวันนี้เธอจึงได้เลือกจินเนะเป็นตัวเรียกลูกค้า

        เด็กสาวหรี่ตาลงอย่างครุ่นคิดแล้วตัดสินใจไปนั่งที่เก้าอี้เพื่อดูมาหญิงสูงอายุคนนี้จะทำอะไรบ้าง

        "อะแฮ่ม ความรักดีไหม?  เรื่องเรียนเรื่องงาน?  แป๊ปหนึ่งนะ ฉันขอเช็คอะไรนิดหนึ่ง  อ้า! นั่นไงๆ  นี่เจ้าเป็นน้องสาวของเจ้าหนูหรอกหรือ"

        จินเนะคิ้วกระตุก  เรียกเธอว่าหนูน้อยไม่พอ  ยังพูดอีกว่าเป็นน้องสาวของเจ้าหนู  ถึงจะไม่เอ่ยชื่อแต่คนเป็นน้องสาวก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าหญิงมีอายุคนนี้หมายถึงใคร

        แต่อย่างหนึ่งที่จินเนะรู้ก็คือ คุณย่าร้านทำนายดวงนี่คงจะไม่มั่วอย่างร้านดูดวงหลายๆเจ้าแน่นอน

        "เอาล่ะ ข้าได้อะไรเด็ดๆมาแล้ว  ดูเหมือนว่าเจ้ากำลังเกี่ยวข้องกับดวงความรักของเจ้าหนูนั่นนะ  ไม่ใช่ในแบบฉันชู้สาวหรอก  แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการช่วยเหลือหรือผลักดัน"

        "ช่วยเหลือ?  ฉันเนี่ยนะ  ฮึ! อย่ามั่วไปหน่อยเลย"

        จินเนะพูดอย่างไม่เกรงใจ  เธอเริ่มคิดแล้วว่าความน่าเชื่อถือเมื่อครู่ลดฮวบฮาบ  แค่รู้ว่ามีพี่ชายก็ใช่ว่าจะถูกทุกข้อสักหน่อย  อีกอย่าง คุณย่าร้านทำนายดวงคนนี้อาจเป็นคนที่รู้ว่าจุนเป็นพี่ชายของเธอก็ได้  มันก็ไม่ใช่ข้อมูลความลับยิ่งใหญ่สักหน่อย

        ระหว่างที่จะเดินออกไปนั้นเอง  หญิงสูงอายุก็พูดขึ้นมาเสียงดังเพื่อรั้งไว้ก่อน

        "ตัวเจ้าอาจไม่ตั้งใจ  แต่สำหรับเจ้าหนูนั่นแล้วเจ้าคือตัวนำโชคด้านความรักนะ  รวมทั้งเป็นคนที่ชักจูงให้เขาพบกับคนพิเศษคนหนึ่งด้วย!"

        เท้าของจินเนะชะงักกึก  เธอหันไปคุณย่าร้านทำนายดวงซึ่งทำสีหน้าล่วงรู้ทุกอย่างอยู่  สุดท้าย เด็กสาวก็กลับไปนั่งที่เก้าอี้ตัวเดิม

        "ในระหว่างที่เจ้าเป็นตัวนำโชคในความรักของพี่ชาย  รู้ไหม เจ้าคือมารร้ายสำหรับความรักของคนที่อยู่ในดวงความรักคนก่อนของเจ้าหนูนั่นด้วย  แต่โชคชะตาไม่เป็นใจ  เจ้าเลยดำเนินการขัดขวางสำเร็จ"

        จินเนะพูดด้วยเสียงเย็นชาว่าเธอเองมีความสามารถพอถึงได้เปลี่ยนจดหมายรักสำเร็จ  ไม่ใช่เพราะโชคช่วยอย่างที่หญิงสูงอายุกล่าวหา

        แต่แทนที่จะโกรธ  คุณย่าร้านทำนายดวงหัวเราะหึๆ  ถามเธอว่าเรื่องการชักจูงนั่นเล่า  เด็กสาวจะปฏิเสธอย่างไร  แน่นอนว่าทีแรกจินเนะตั้งใจจะพูดว่าเธอไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลย  แต่เมื่อคิดดูดีๆ สถานที่ซึ่งเธอวางจดหมายรักของจิเสะปลอมคือศาลเจ้าฟุึมิเนเนะ!

        "เอาล่ะ  อีกไม่นานเจ้าคงจะได้รู้ข้อมูลของคนพิเศษที่ข้าเคยพูดถึงแล้วล่ะนะ  จะมีเรื่องให้เจ้าตัดสินใจ  โชคชะตาคราวนี้อยู่ตรงกลาง  ไม่เอนเอียงไปทางใดทั้งสิ้น  จะช่วยหรือไม่นั่นคือการตัดสินใจของเจ้า  เอ้า! ขอบใจนะ  เจ้าไปได้แล้ว"

        ขอบใจ?

        จินเนะหันไปมองกลุ่มคนด้านหลังที่ยืนออกันอยู่ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์แล้วเดินจากมา  ไม่มีความจำเป็นต้องพูดอะไรกันอีกแล้ว  ครั้งแรกในรอบสามปีที่โดนหลอกใช้ทำให้จินเนะโมโหสุดๆ!

        ตอนนั้นเอง เสียงมือถือได้ดังขึ้นมาขัดความคิดทีี่เดือดปุดของเด็กสาว  ซึ่งชื่อนั้นไม่ใช่ใคร  จิเสะนั่นเอง!

        "ฮัลโหล"  จินเนะพยามไม่ทำน้ำเสียงรำคาญความวุ่นวายเต็มที่  "มีอะไรหรือคะ  หรือเกี่ยวกับจุน?"

        สิ่งเดียวที่นึกออกว่าทำไมปลายสายสัญญาณโทรศัพท์อีกด้านจึงโทรมามีแค่เรื่องนี้เท่านั้น  ถ้าไม่ใช่เรื่องของพี่ชายของเธอจะเป็นใครได้อีก

        "จะ...จินเนะจัง!  แย่แล้วล่ะ ฮือ..."

        เสียงของจิเสะสั่นเทาละเริ่มร้องไห้โฮ  ทำเอาจินเนะอยากเหวี่ยงมือถือทิ้งซะแล้วหมกตัวอยู่ในห้อง  อ่านตารางงานอย่างสบายอารมณ์  นี่อุตสาห์ตกลงวันพักผ่อนกับบรรดาแฟนคลับได้แล้วแท้ๆเลยนะ  เสียเวลาเปล่าจริงๆ

        ถึงกระนั้น เด็กสาวยังคงบอกให้คู่สนทนาพูดมาว่าเกิดอะไรขึ้น

        "ฉัน...ฉันค้นหาเรื่องราวของศาลเจ้าฟุมิเนเนะจากหนังสือในห้องสมุด  แล้วมัน...ฮือ"

        เด็กสาวไอดอลผู้นี้ไม่ได้อยากรู้เลยสักนิดว่าจิเสะจะค้นหาเรื่องอะไรที่ไหน  แล้วพอจะเข้าเรื่องกลับร้องไห้ออกมาซะนี่

        จินเนะพูดอย่างกลั้นรำคาญไม่ไหว  "มันอะไรล่ะ"

        "ฮึก...ฮือ  ที่นั่นสร้างขึ้นในสมัยเอโดะนะ"

        "อ๋อ"  จินเนะตอบรับสั้นๆด้วยเสียงไร้ความรู้สึก  แต่ความจริงคืออารมณ์เดือดสุดขีด  "งั้นวางล่ะนะ"

        "เดี๋ยว!  เดี๋ยวสิ...ฮือ อย่าเพิ่งวางสิ  นี่มันสำคัญมากนะ  ที่นั่นถูกสร้างขึ้นโดยสมัยเอโดะ  ต่อมา มีผู้คนพบเห็นวิญญาณของบุตรชายขุนนางคนหนึ่งซึ่งกำลังรอใครบางคนอยู่  เล่าลือกันว่าทำให้ที่นั่นไม่เคยมีใครกล้าเข้าใกล้เลย"

        "เรื่องนั้นรู้แล้วน่า  ต้องการอะไรก็พูดมาชัดๆสิ"

        ฉันรู้เรื่องนั้นตั้งนานแล้วย่ะ!  ตอนกำลังปรึกษาแฟนคลับเรื่องจดหมายรักปลอมจากเธอก็มีคนเสนอที่นั่นมา  ชิ! แทนที่จะแกล้งจุนสำเร็จ  กลับกลายเป็นว่าได้เพื่อนรักรักเพื่อนมาซะนี่  ฮึ่ย โมโห!

        จินเนะยิ่งคิดยิ่งโมโห  พูดตัดบทอย่างง่ายๆว่าจะวางโดยคราวนี้ไม่คิดจะสนเสียงห้ามปรามของจิเสะอีก

        "แล้วเธอรู้ไหมว่าวิญญาณนั้นชื่ออะไรนะ!"

        จินเนะตวาดเงียบๆ  "จะไปรู้ไหม!  นี่เธอจะบอกฉันสักที..."

        "มาซารุ!  ชื่อเดียวกับเพื่อนที่ศาลเจ้าของจุนคุงไงล่ะ  โฮ...ฮือ"

        จินเนะพยามตะโกนใส่มือถือซึ่งถูกวางสายไปแล้วอย่างสุดเสียง  นี่มันอะไรกันเนี่ย  ตกลงเด็กสาวผู้นั้นกำลังจะบอกว่าพี่ชายของเธอคบอยู่กับ... กับ...  ไม่จริงน่า!?  ไม่หรอก! อาจจะเป็นแค่ชื่อเหมือนก็ได้นี่

        ในตอนนั้นเอง รถของไซโตะก็แล่นเข้ามาพร้อมบอกให้เธอรีบไปด้วยกันเพราะมีงานเข้ามาด่วน

        ถึงในตอนที่ทำงานอยู่จะดูปกติก็ตาม  แต่เมื่อถึงตอนพัก จินเนะก็เอาแต่เหม่อและคิดเรื่องที่จิเสะพยามบอกเธอ  หรือแม้แต่ตอนที่กำลังนั่งรถกลับมาที่บ้านก็ตาม  ไซโตะมองเด็กสาวข้างกายผ่านแว่นตาแล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้น

        "ไซโตะ  นายมี...เอ่อ น้องสาวไหมล่ะ"

        เขาเหลือบมองเด็กสาวแวบหนึ่งแล้วยิ้มนิดๆ  "ก็มีคนหนึ่งนะ"

        จินเนะรู้ดีว่าเขาหมายถึงตนเองก็แอบค้อนเล็กน้อย  แต่ยังคงตั้งคำถามต่อไป  ถ้าหากมีคนมาบอกว่าคนรักของไซโตะไม่ใช่คน  เขาจะเชื่อไหม?

        "ถ้ามีหลักฐานก็เชื่อ  ถ้าไม่มีก็คงไม่เชื่อ  ส่วนเรื่องจะเลิกกันไปไหมก็คงต้องดูสถานการณ์ก่อน  ถ้ารับได้ก็ไม่จำเป็นต้องเลิกหรอก  แต่ยังไงฉันก็คงไม่ค้านว่าคนรักของฉันเป็นมนุษย์ทั้งที่หลักฐานมันทนโท่หรอก  แต่จุนคุงไม่รู้จะรับความจริงได้แค่ไหน"

        ชายหนุ่มกล่าวอย่างรู้ดีว่าจินเนะกำลังสมมติเหตุการณ์เพราะอะไร  แต่เป็นครั้งแรกที่มันดูจะไม่ใช่แผนแกล้งคน  เขาดูออกหรอกว่าจินเนะทำหน้ายังไงถึงจะเป็นการคิดแผนแกล้งคนอื่นเขานะ

        เมื่อถูกรู้ความจริง  จินเนะก็ถอนหายใจแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างพลางกล่าวด้วยเสียงขอร้องว่า  "ช่วยอะไรหน่อยสิ  ฉันรู้ว่านายมีเส้นสายเยอะ  ช่วยสืบเรื่องศาลเจ้าฟุมิเนเนะให้หน่อย  แล้วก็หาดูว่าคนที่ชื่อมาซารุเป็นใครมาจากไหน  รบกวนด้วยนะ"

        "ครับๆ  ท่านเจ้าหญิง"  ไซโตะมองเด็กสาวที่แม้จะพูดด้วยเสียงขอร้องแต่กลับสั่งหัวข้อมาไม่หยุดอย่างระอาใจ  "ว่าแต่มาซารุอะไรนั่นมีความสำคัญยังไงถึงต้องหาที่มาที่ไปกันนะ  ถ้าเอาไปแกล้งคน ฉันจะบอกข้อมูลแค่ครึ่งเดียวนะ"

        จินเนะอ้ำอึ้งอยู่สักครู่  ความลังเลที่ปรากฏไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกยากที่จะอธิบาย  แต่สุดท้ายก็กล่าวออกมาจนได้

        "ดูเหมือน...เขาจะเป็นแฟนของจุนนะ"

 

        วันรุ่งขึ้น เด็กสาวดักรอที่หน้าโรงเรียนไคเซย์เพื่อพบคนที่เธอแอบชอบโดยไม่รู้ว่าตอนนี้  จุนไม่ได้ว่างสำหรับเธออีกต่อไปแล้ว  ความคิดมากต่างๆนานาปรากฏ  เป็นความคิดที่คล้ายกับจินเนะซึ่งมันคือการที่เขาจะเชื่อเธอไหมนั่นเอง

        จินเนะมาโรงเรียนตั้งแต่เช้าด้วยสีหน้าแจ่มใส  ไม่ได้เอาแต่ครุ่นคิดเหมือนเมื่อวาน  เธอโพสต์ท่าถ่ายรูปไปก็รอดูสถานการณ์ไป  จุนกับจิเสะจะทำให้บทสนทนาออกมาในรูปแบบไหนกันนะ  ช่างเป็นอะไรที่น่าสนุกจริงๆ

        จุนเดินมาจากอีกด้านหนึ่งต่างจากน้องสาว  บ่งบอกว่าเขานั่งรถบัสมาจากฟุมิเนเนะอย่างแน่นอน

        "จุนคุง"  จิเสะรีบวิ่งไปหาเด็กหนุ่มแล้วพูดอย่างร้อนรน  "แย่แล้วล่ะ  แย่มากๆด้วย!"

        เขายิงคำถามออกไปเป็นสิบ  จำพวกมีใครมาแกล้ง  มีใครมาแย่งห้องชมรมหรือมีใครมาทำอะไรแปลกๆกับเด็กสาวหรือเปล่า

        "ไม่ใช่ฉันหรอก  จุนคุงรู้ไหมว่าเพื่อนที่ชื่้อมาซารุของเธอนะ ไม่ใช่คน!"

        เด็กหนุ่มชะงักแล้วมองจินเ้นะซึ่งถ่ายรูปอยู่แล้วคิดทันทีว่าน้องสาวตัวป่วนของเขาต้องเป่าหูอะไรเด็กสาวมาอีกแน่  แต่จิเสะยืนกรานว่าเธอไม่ได้โดนหลอกพร้อมทั้งเปิดหนังสือที่ยืมมาจากห้องสมุดเล่มนั้นให้จุนอ่านทันที

        เขาอ่านไปอ่านมาแล้วหน้าซีดลงเล็กนอย  แต่หลังจากยืนเงียบอยู่นาน เขาก็พูดร่ายยาวออกมาว่า

        "คิืชิดะั มาซารุ ห้อง B  มาซารุ เอโกะ ห้อง A  รุ่นพี่มาซารุ ทาเคชิโร่ นักฟุตบอลเทนโดะ มาซาโอะ เ๊อ๊ะ อันหลังนี่คนละชื่อกันแล้วแฮะ  เอาเถอะ จิเสะจัง  ผมว่าชื่อคนเราก็ซ้ำกันได้  นี่มันเรื่องเมื่อสมัยเอโดะเชียวนะ  ผ่านมานานขนาดนี้คงมีใครกล้าเข้าไปบ้างหรอก  มาเถอะ รีบเข้าห้องเรียนกัน"

        "จุน...จุนคุง  จุนคุง!"

        จินเนะมองเรื่องทั้งหมดแล้วส่ายหน้า  เธอว่าแล้วเชียวว่าเรื่องต้องจบลงแบบนี้  พี่ชายผู้ไม่นึกอะไรมากของเํธอจะเชื่อคำสันนิษฐานของจิเสะไปได้อย่างไรกัน

        จิเสะมองตามแผ่นหลังของเด็กหนุ่มไปด้วยความคิดบางอย่าง

 

        ถึงคนอื่นจะคิดว่าเขาไม่กลุ้มใจอะไรเลย  แต่ลึกๆแล้วใจของจุนก็เอนเอียงไปทางเชื่อจิเสะอยู่บ้าง  เขารู้สึกเหมือนว่าเคยเห็นมาซารุที่มีอะไรผิดปกติ  แต่นึกยังไงก็นึกไม่้ออกสักที

        ร่างในชุดกิโมโนเสิร์ฟน้ำชาพร้อมถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง  ถึงจะพยามไม่แสดงความกลัดกลุ้ม  แต่คนคนนี้ยังคงรู้ใจเขาเสมอสิน่า

        "เกิดอะไรขึ้น"  มาซารุโอบกอดเขาจากทางด้านหลังแล้วกระซิบถาม  "มีเรื่องอะไรไม่น่าพอใจ  หรือว่าน้องสาวของเจ้ากลั่นแกล้งอะไรงั้นหรือ"

        ถึงจุนจะบอกว่าจินเนะแกล้งเขาจริงๆ  มาซารุก็ไม่คิดทำอะไรเด็กผู้หญิงคนนั้นด้วยเหตุผลง่ายๆนั่นคือการที่จุนเป็นพี่ชายของเธอ

        ถึงจะไม่รู้ว่าทั้งจุนและจินเนะรักกันหรือเกลียดกันแค่ไหน  แต่การเสี่ยงกับการโดนเด็กหนุ่มผู้นี้โกรธ  มาซารุไม่มีทางกระทำหรอก

        "จริงสิ ข้ามีม้วนคัมภีร์จะให้เจ้า  เป็นทักษะการใช้ดาบทั้งหมดที่ข้ามี"

        ม้วนกระดาษที่ขาวสะอาดถูกส่งให้จุน  ตัวอักษรเป็นดูเรียบง่ายและตวัดไปมาอย่างงดงามปรากฏอยู่ในนั้นและแน่นอนว่าตัวอักษรทั้งหลายถูกเขียนด้วยพู่กันจุ่มหมึก  ไม่ใช่ปากกาหรือดินสอ

        "ความจริงข้าคิดๆดูแล้ว  จุนเองคงไม่อยากฝึกดาบหรอกใช่ไหม  ก็เจ้าเคยบอกว่าถนัดการต่อสู้แบบระยะไกลมากกว่า"

        จุนพยักหน้ารับแล้วพยามนึกว่าตนเองบอกไปตั้งแต่ตอนไหน  แต่มันก็เป็นเรื่องจริง  เพราะตั้งแต่เด็กแล้วที่เขามักจะแม่นปืนหรือแม่นธนู  อาวุธที่ต้องใช้ในระยะไกลเขาล้วนทำได้ดี  ถึงสายตาจะไม่สั้นไม่ยาวและเทียบเท่าคนปกติทั่วไปก็ตาม

        เขากับจินเนะเหมือนจะมีทักษะตรงข้ามกันอยู่หลาย  เ่ช่นตรงที่จินเนะต้องฝึกอยู่นานกว่าจะแม่นปืนหรือยิงธนูได้ดี  แต่ในขณะเดียวกัน เด็กสาวถนัดการต่อสู้แบบประชิดตัวเป็นที่สุด

        ระหว่างที่กำลังนั่งรับลม  คุยเรื่องสมัยเด็กๆซึ่งตอนนั้นจินเนะยังไม่เกลียดเขา  จุนก็โพล่งขึ้นมาว่า

        "นี่ ช่วยเล่าเรื่องของคนที่เธอรอมาตลอดให้ฟังหน่อยได้ไหม"

        รอยยิ้มของมาซารุชะงักกึก  แล้วมองไปที่จุนซึ่งบัดนี้กำลังจ้องมองเขาอยู่ด้วยความสงสัย  ถึงกระนั้น เมื่อเจอความเงียบแทนคำตอบ  เขา่ก็รีบลนลานบอกว่าไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไร

        "ไม่ใช่ไม่อยากเล่า"  มาซารุทำหน้านึกถึงอดีตแล้วย้อนถามกลับ  "ทำไมถึงอยากรู้ขึ้นมาล่ะ"

        จุนเกาแก้มเขินๆ  กล่าวเหตุผลว่าคนแบบไหนกันที่ทำให้คนที่ใจดีและอ่อนโยนอย่างมาซารุต้องรอ  ถ้าเป็นเขาคงจะไม่มีวันห่างกายร่างในชุดกิโมโนไปนานขนาดนั้นแน่  ถึงจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครและห่างไปแค่ไหน  แต่ดูจากปฏิกริยาตอนแรกที่มาซารุพบเขา  เดาได้ว่าคงไม่ต่ำกว่าหนึ่งปีหรือสองปีแน่ๆ

        "หลายร้อยปี"  มาซารุเอ่ย  "ข้ารอเจ้ามาหลายร้อยปีต่างหาก"

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา