You are my hope.เจ้าเท่านั้น ที่ข้าจะรอ yaoi

10.0

เขียนโดย ปรัสรา

วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2555 เวลา 10.13 น.

  20 chapter
  3 วิจารณ์
  28.04K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) บทที่3

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
        จุนมองดูนาฬิกาเมื่อเสียงกริ่งหมดคาบดังขึ้นมาพลางนับคำนวณการใช้เงินว่าทำอย่างไรจึงจะพอทานข้าวกลางวันและค่ารถบัส
        เรื่องที่จะให้มาซารุต้องตากฝนมาพบเขานั้นไม่เอาแล้ว  นอกจากอันตรายแล้วยังมีเรื่องของสุขภาพเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
        ที่สำคัญ การไปที่ศาลเจ้าฟุมิเนเนะมันก็ช่วยผ่อนคลายได้มากทีเดียว  ความรู้สึกตัดขาดจากปัญหาของโลกภายนอกมันมากกว่าแค่การไปพักรักษาแผลใจของจุนซะแล้ว
        แต่โชคชะตาเหมือนจะไม่เป็นใจนัก  จิเสะเดินเข้ามาพร้อมกับท่าทีเขินๆ  โดยมีกลุ่มเพื่อนส่งเสียงเชียร์อยู่ข้างนอก
        "เอ่อ...จุนคุง  วันนี้จะทานไอติมที่ร้านไอเสะกับฉันได้ไหม  คือว่าที่นั่นเขามีเมนูใหม่ื  แล้วก็มีคนชวนให้ไปชิมกันเยอะ  เอ่อ...ฉันได้บัตรส่วนลดมาด้วยนะ!"
        บัตรส่วนลดที่แทบชิดติดหน้าของเด็กหนุ่มทำให้เขากระพริบตาปริบๆ  นึกถึงมาซารุที่เขานัดไว้  ถึงจะไม่ได้นัดว่าจะไปเมื่อไหร่ก็เถอะ
        แต่นี่ถือเป็นโอกาสในการจะสานสัมพันธ์กับจิเสะแล้ว!  จุนรับบัตรทานไอติมไว้หนึ่งใบแทนการตอบตกลง
 
        "เอ่อ...ฮาร์ท สตรอว์เบอรี่ราดคาราเมลค่ะ"
        เด็กสาวสั่งตามโพยที่เพื่อนแอบส่งมาจากโต๊ะเยื้องขวาที่จุนไม่ทันสังเกต  แม้ว่าความจริงแล้วเธอจะชอบกินรสบลูเบอรี่มากกว่าก็ตาม  แต่การสั่งอะไรที่สื่อความนัยก็เป็นการบอกที่ดีนะ
        แต่จุนไม่ได้ทันคิดเรื่องนั้น  เพราะเขาไม่รู้ว่าเด็กสาวชอบทานอะไร  ความจริงเขาคิดด้วยซ้ำว่าจิเสะที่น่ารักอ่อนโยนต้องชอบกินอะำไรที่เป็นของเด็กผู้หญิงอยู่แล้ว
        จุนจิ้มส่งเดชไปรายการหนึ่งแล้วมองท่าทีเขินอายของจิเสะด้วยความรู้สึกประหม่าเล็กน้อย
        นี่เป็นโอกาสบอกความในใจเลย!
        "เอ่อ...จิเสะจัง  ความจริงแล้วฉันมีเรื่องอยากจะบอกเธอนะ  ฉันรู้สึกมานานแล้ว  แต่ไม่เคยกล้าพูดเพราะกลัวจะโดนปฏิเสธ..."
        จิเสะใจเต้นตึกตัก  นี่มันบทพูดในนิยายรักหวานแหววตอนที่พระเอกกำลังจะสารภาพรักกับนางเอกชัดๆเลยนี่นา!
        เด็กสาวกล่าวตะกุกตะกัก
        "อะ...อะไรเหรอ"
        จุนเงยหน้าจากการมองพื้นแล้วพยามทตัวฮึดสู้
        "ฉันชอบ..."
        "สตรอว์เบอรี่ พาเฟ่ต์ได้แล้วค่ะ!"  พนักงานเสิร์ฟพูดดังเกินกว่าเหตุแล้ววางถ้วยพาเฟ่ต์ลง  แต่ก็สะดุดกึกขึ้นมา  "เอ๊ะ...นี่ของโต๊ะเอนี่นา  ขอโทษนะคะ คุณลูกค้าโต๊ะบี  แต่ก็ถือเป็นของขอโทษแล้วกัน"
        ท่าทางตอนเดินจากไปของพนักงานเสิร์ฟดูจะมีความสุขยิ่งกว่าอะไร  ทั้งนี้ทั้งนั้น เธอเป็นแฟนคลับตัวยงของเมยามิ ริกะ  หรือก็คือแฟนคลับของจินเนะนั่นเอง!
        'แม้จะไม่รู้ว่าทำไมคุณริกะให้ขัดขวางการสารภาพรักของพวกนั้น  แต่แค่ได้ช่วยคุณริกะก็ดีใจมากแล้วล่ะ!  แถมยังจะได้ลายเซ็นกับภาพถ่ายคู่เป็นรางวัลอีก!'
        พนักงานเสิร์ฟนามว่าไอคาว่าคิดอย่างปลื้มปีติแล้วเดินไปถ่ายรูปกับจินเนะที่ทานไอติมอยู่มุมหนึ่งของร้านตามรางวัลที่ได้ทันที
        จิเสะมองไปที่พนักงานเสิร์ฟด้วยความไม่ติดใจสงสัยอะไรมาก  ผิดกับจุนที่มองน้องสาวอย่างเซ็งๆ
        แต่ความกล้าเกิดขึ้นได้ไม่กี่ครั้ง  จิเสะและจุนนั่งทานไอติมกันอย่างเงียบๆ  ถึงเด็กสาวอยากจะบอกเขาว่าเธอรู้สึกยังไง  แต่ก็อยากให้เขาพูดเรื่องสำคัญนั้นก่อนนี่นา!
        การทานไอติมวันนั้น  จบลงด้วยชัยชนะของจินเนะเท่านั้นเอง
 
        ไซโตะ ผู้จัดส่วนตัวที่ขับรถมารับเมยามิ ริกะถึงร้านไอศกรีมไอเสะเหมือนเป็นผู้นำโชคดีมาให้  เพราะจุนไม่อยากไปภูเขาฟุมิเนเนะด้วยการขัดขวางของน้องสาวหรอกนะ!
        การต่อรถบัสในช่วงสองสามวันนี้ทำให้เขาเริ่มจำราคาบัตรได้แล้ว  เฮ้อ...และราคาตั๋วของเขาจะมากกว่าคนอื่นเพราะฟุมิเนเนะมันเป็นสุดปลายทางพอดี
        มาซารุยืนรออยู่หน้าศาลเจ้าเฉกเช่นเคย  แม้จะไม่ได้นัดเวลาไว้แต่นี่ก็นานกว่าเวลาที่เขาควรจะมาตามปกติ  ดังนั้น จุนจึงอดขอโทษไม่ได้
        "ไม่เป็นไรหรอก แค่จุนมาที่นี่  ข้าก็ดีใจแล้ว"
        รอยยิ้มที่แสนเริงร่าของอีกฝ่ายทำให้การเดินตั้งแต่ลงรถบัสมาถึงที่นี่หายไปเป็นปลิดทิ้ง  มันเหมือนกับ...ได้รับคำชมจากคนที่ชอบมากๆ  อะไรแบบนั้น
        เด็กหนุ่มได้รับขนมโกโบโมจิเป็นของว่างระหว่างทำการบ้านวิชาวิทยาศาสตร์ของคิริเอะ  ความอร่อยของมันทำให้ความรู้สึกเบื่อหน่ายเรื่องการแพร่พันธุ์พืชลดลงไปได้มากเลยทีเดียว
        "ภาพวาดนี่สื่อถึงอะไรเหรอ"
        มาซารุอดชี้ไปที่ภาพดอกไม้ดอกหนึ่งซึ่งแสดงถึงส่วนประกอบของพืชได้เป็นอย่างดี
        บุรุษในชุดกิโมโนเอียงคอแล้วพยามทาย
        "รูปร่างคงจะเป็นดอกไม้ไม่ผิดแน่  อ้อ!"  มาซารุทุบกำปั้นบนมือตัวเองเบาๆแสดงท่าทีนึกออก  "คงจะเป็นความจริงที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความสวยงามใช่ไหม"
        "เอ่อ..."  จุนมองภาพ 'ความจริงที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความสวยงาม' ในหนังสือวิทยาศาสตร์แล้วเริ่มขำออกมา  "ฮ่าฮ่าฮ่า  คือ...ความจริงมันคือส่วนประกอบของพืชนะ  เธอไม่เคยเจอในหนังสือวิทยาศาสตร์เหรอ"
        "ข้าไม่รู้จักวิทยาศาสตร์  มันคืออะไรเหรอ"
        จุนเริ่มเหงื่อตก  เขาเองพอจะรู้ว่าวิทยาศาสตร์คืออะไร  แต่จู่ๆให้มาอธิบายมันก็พูดยากอยู่นะ  
        "เอ่อ...เทคโนโลยี  อะไรพวกนั้นล่ะมั้ง?  เอาเป็นว่ามันคือสิ่งที่ทำให้สบายแล้วก็ยุ่งยากไงล่ะ"
        แม้มาซารุจะไม่ค่อยเข้าใจแต่เขาก็ยังคงจ้องมองส่วนประกอบของพืชด้วยความสนใจใคร่รู้  สำหรับเขาแล้วทุกภาพวาดย่อมมีความหมายหรือสื่อถึงอะไรสักอย่าง
        แต่เขาก็พอจะเข้าใจว่าจุนกำลังทำงานบางอย่างอยู่  จึงไม่ได้เข้าไปถามอะไรมากไปกว่านั้น
        ในที่สุด ชั่วโมงสนทนาก็กลับมาเมื่อการบ้านและงานทุกอย่างเสร็จสิ้น
        "โรงเรียนคือสถานที่ให้ความรู้ไงล่ะ  มีคนเยอะๆไปเรียน  มาซารุซังโตขึ้นมาแบบไหนเหรอ  หรือว่าอยู่แต่ในศาลเจ้า"
        บุรุษคนงามในชุดกิโมโนเอียงคอเล็กน้อย  ครุ่นคิดถึงเรื่องอดีตและตอบคำถามครบถ้วน
        "ข้าถูกสอนสิ่งต่างๆที่ปราสาท  แต่ตอนนี้ข้าอาศัยอยู่ที่นี่"
        จุนสะดุดกึก  "ปราสาทเหรอ"
        "ข้าเป็นลูกขุนนาง"  มาซารุยังคงไม่รู้สึกถึงความผิดปกติของคู่สนทนาที่จ้องเขาตาโต  "ถูกสอนการอ่านและเขียนกวี  สอนเพลงดาบ  สอนมารยาทในพิธีชงชา  แล้วก็อะไรทำนองนั้นที่ปราสาท"
        เด็กหนุ่มเหมารวมเอาว่าปราสาทที่ว่านี่คือคฤหาสถ์หลังใหญ่ๆ  ส่วนขุนนางก็คือนักการเมือง
        "แต่นั่นมันเรื่องนานมาแล้วล่ะ"
        จุนพยักหน้ารับรู้  ที่แท้ก็เป็นลูกอดีตนักการเมืองอย่างนั้นสินะ
        "แล้วทำไมมาอยู่้ที่ฟุมิเนเนะนี่ได้ล่ะ  หรือว่าหนีออกจากบ้าน!?"
        "ข้ามารอใครคนหนึ่ง"  น้ำเสียงของบุรุษชุดกิโมโนฟังดูเศร้าสร้อยและโหยหา  "ซึ่งก็คือเจ้ายังไงล่ะ"
        จุนตัวแข็งทื่อเมื่อริมฝีปากของอีกฝ่ายสัมผัสกับเขา...
 
        "จุน  อีกแล้วรึไงยะ!"
        อาจารย์คิริเอะพูดเสียงดังลั่นข้างหูเด็กหนุ่มที่กำลังเหม่อแทนการเรียกสติแล้วปาดเหงื่อที่ไม่มีอยู่จริงบนหน้าผาก
        ไม้บรรทัดตวัดไปมาจนเกิดเสียงผ่านลมเป็นการประคอบคำพูดขู่ไม่กี่คำ  ทำให้เด็กหนุ่้มไม่เหม่ออีกทั้งชั่วโมงเลยทีเดียว
        ในที่สุด ชั่วโมงชมรมก็เวียนมาถึง  จิเสะออกไปจากห้องเรียนและเดินไปห้องชมรมพร้อมกันกับเขา  ต่างจากวันอื่นๆที่จะไปกับกลุ่มเพื่อนสาว
        จินเนะเหลือบมองภาพนั้นด้วยความแค้นใจ  พยามคิดแผนที่ทำให้พี่ชายแตกคอกับเด็กสาวผู้น่าสงสารคนนั้นให้เร็วที่สุด!
        หลังคิดไปคิดมา คำตอบก็ปรากฏ
        สิ้นสุดชั่วโมงชมรมเป็นเวลาที่จิเสะรอคอย  เธอรีบเดินไปหาจุนอย่างรวดเร็วและรั้งเขาไว้จนในห้องเหลือเพียงสองคน  แต่เป็นที่แน่นอนว่านอกห้องยังคงมีกลุ่มเพื่อนสาวที่ทั้งลุ้นทั้งพยามบอกใบ้ยืนออกันอยู่
        "เอ่อ...ถ้าเป็นที่นี่  จะบอกได้ไหมว่า...ว่าจะบอก เอ่อ เรื่องอะไรเหรอ"
        จุนมองท่าทีเขินด้วยความรู้สึกแปลกใจ  งุนงงว่าจิเสะต้องการให้เขาพูดอะไร  แต่ไปๆมาๆเขาก็นึกได้ว่าคู่สนทนายังไม่ได้รับฟังคำสารถาพรักของเขาเลย
        แต่คราวนี้  ยังไม่ทันพูดอะไร  เด็กสาวน่ารักคนหนึ่งก็พุ่งมาจากประตูแล้วพูดอย่างรวดเร็วว่า
        "ฉันชอบรุ่นพี่ค่ะ!"
        จิเสะอ้าปากค้าง  มองใบหน้าของจุนที่ออกอาการไม่แปลกใจอะไรด้วยความรู้สึกสับสน  เธอวิ่งร้องไห้ออกไปพร้อมกับกลุ่มเพื่อนสาว
        จุนถามด้วยใบหน้าเย็นชา
        "คราวนี้ได้อะไรล่ะ"
        "ปากกาพร้อมลายเซ็นของเมยามิ ริกะัค่ะ"
        สาวน้อยน่ารักโรงเรียนเดียวกันนามว่า ซายากะ ตอบอย่างฉะฉานด้วยรอยยิ้ม  เธอก็เป็นหนึ่งในแฟนคลับที่ทำทุกเรื่องได้เพื่อเมยามิ ริกะ โดยไม่ถามอะไรทั้งนั้น
 
        จุนไม่ได้ไปที่ศาลเจ้าฟุมิเนเนะเพราะเรื่องเมื่อวานนี้  หลังจากนั้นเหตุการณ์นั้นดูเหมือนเขาจะไม่ได้ทำอะไรนอกจากวิ่งหนีมา
        ก็ไม่ได้จะว่าอะไรหรอกนะ  แต่ว่าการที่โดนล่วงเกินแบบนี้มันเป็นอะไรที่รู้สึกว่ามากเกินไป  ถึงเขาจะไม่ได้รังเกียจรังงอนก็เถอะ
        หลังจากนั่งทำการบ้านวิชาวิทยาศาสตร์ซึ่งน่าเบื่อหน่ายเป็นที่สุดไปพร้อมกับการนึกถึงขนมโกโบโมจิแสนอร่อยก็มีคนมาหาจุนถึงที่บ้าน  จิเสะและกลุ่มเพื่อนเดินเข้ามาด้วยชุดกิโมโนลายสวยสีสันสดใสและพัดหนึ่งอัน
        "วันนี้มีงานเทศกาลทานาบาตะ  จุนคุงจะไปด้วยกันไหม"
        หน้าตาของเพื่อนเด็กสาวบ่งบอกกับเขาว่า  หากตอบปฏิเสธเมื่อไหร่พวกเธอจะไม่ปล่อยให้เขากลับห้องง่ายๆแน่!
        จินเนะเดิืนลงมาจากห้องนอนด้วยชุดกิโมโนน้ำเงินและจ้องมองพวกพี่ชายด้วยความไม่พอใจ  แต่ตอนนี้เธอไม่สามารถขัดอะไรเขาได้เลย  แต่ใช่ว่าแค่ได้ไปงานเทศกาลกับจิเสะแล้วเขาจะชนะเธอได้แล้วหรอกนะ!
        ที่สำคัญ  แผนคราวที่แล้งดูเหมือนจะพลาดเพราะเด็กสาวได้รับคำอธิบายทางโทรศัพท์แล้วว่าเขาไม่ได้คิดอะไรและไม่ได้ตอบตกลง
        คุณพ่อของเด็กหนุ่มเดินมาตบไหล่ลูกชายพร้อมกับชูนิ้วโป้งยิ้มกว้าง
        "เอาเลยสิ!  ชุดกิโมโนก็มีเตรียมไว้ใช่ไหมล่ะ  ยังไงก็เดินเที่ยวกับจิเสะจังสักหน่อยแล้วกัน"
        คาเมซากิ ชิโร่ เชิญกลุ่มเด็กสาวไปที่ห้องรับแขกด้วยความใจดีระหว่างที่รอจุนแต่งตัว
        จินเนะกดโทรศัพท์ด้วยมือขวาอย่างรวดเร็วเพื่อคุยกับใครบางคนด้วยสีหน้าที่ไม่ยินดียินร้ายอะไร
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา