You are my hope.เจ้าเท่านั้น ที่ข้าจะรอ yaoi

10.0

เขียนโดย ปรัสรา

วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2555 เวลา 10.13 น.

  20 chapter
  3 วิจารณ์
  28.01K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) บทที่2

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

        ใครบางคนที่กำลังปลุกเขาเพราะอาหารเตรียมพร้อมแล้วทำให้จุนจำใจตื่นขึ้นมาทั้งที่กำลังสบายในฟูกนอนที่จัดไว้ให้ในห้องพักสำหรับแขก  ซึ่งเป็นเพราะเขาปฏิเสธคำชวนในการนอนห้องเดียวของมาซารุ  แล้วจัดการขนฟูกหมอนผ้าห่มออกมา

        อาหารเช้าถูกจัดขึ้นอย่างง่ายๆแต่อร่อย  ปกติเขามักจะได้กินแต่อาหารจำพวกซีเรียลไม่ก็ขนมปังทาเนยสักแผ่นเพราะใกล้สายเต็มที่  อาหารเช้าครบถ้วนแบบนี้ครั้งล่าสุดมันเมื่อไหร่กันนะ?

        พูดถึงเวลา  จุนรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแล้วร้องลั่น  รีบกินเอาๆจนมาซารุต้องมองอย่างงุนงง  เด็กหนุ่มขอบคุณสำหรับอาหารและวิ่งไปโรงเรียน  โชคดีที่เหลือเงินเล็กน้อยจากเมื่อวาน  มันเป็นค่ารถบัสในการกลับไปยังในเมือง

        แต่คำว่าสายก็ย่อมเป็นสาย  โชคดีที่บทลงโทษสำหรับคนมาสายที่โรงเรียนนี้ไม่ได้รุนแรงอะไร  แต่จุนยังคงถอนหายใจอย่างเซ็งๆ  เหม่อมองโรงเรียนที่มีแต่ความสับสนวุ่นวายและเสียงจอแจของเด็กนักเรียนคนอื่นๆ

        อาจารย์สาวคิริเอะจัดกว้างขว้างชอล์กไปที่เด็กหนุ่มที่เอาแต่มองไปยังภูเขาฟูมิเนเนะ  อย่าหวังว่าจะให้ไปยืนเหม่ออะไรอีกแล้ว  ให้เสียงดังตลอดชั่วโมงยังดีกว่าให้ลูกศิษย์มาโรงเรียนเพื่ออย่างนี้  เห็นเธอเปรี้ยวซ่าแบบนี้ก็มีสปิริตความเป็นอาจารย์สูงไม่แพ้ใครหรอกนะ!

        ช่างช่วยไม่ได้จริงๆ  เมื่อวิชาตอนนี้คือวิชาวิทยาศาสตร์ที่จุนเกลียดที่สุดซะนี่  ผลของการนั่งเหม่อคือการทนฟังการแบ่งเซลล์พืชเสียงดังฟังชัดตลอดชั่วโมง

 

        ในชั่วโมงชมรมเวียนมาในที่สุด  จุนเดินมาโดยมีเพื่อนอีกสองคนคอยหิ้วไหล่ไม่ให้เขาเมาการแบ่งเซลล์จนเป็นลมล้มพับไปซะก่อน

        จิเสะแิอบมองเด็กหนุ่มด้วยความเป็นห่วง  โชคดีที่เขานั่งที่สุดท้ายในการสอบ  เธอได้แต่หวังว่าเขาคงจะสังเกตคนก่อนหน้าให้ดีๆ  ความรู้สึกผิดที่ไม่ได้ไปช่วยสอนตั้งแต่แรกเอ่อขึ้นมา

        "ผ่าน!"

        ประธานชมรมประกาศเสียงดังและเลื่อนคิวต่อจากจิเสะ  เด็กสาวถ้วยชาลงแล้วแอบหันไปมองจุนด้่วยความลุ้นระทึก

        แต่เขาเองกลับไม่ทันสังเกตสายตาที่มีแต่ความห่วงใยเลยแม้แต่น้อย  ซ้ำยังไม่ได้ชายตาแลมองพวกคิวก่อนหน้าที่ทำพลาดบ้างผ่านบ้าง  ความจริงเขาเอาแต่คิดถึงยามที่มาซารุสอนเขาชงชา

        "จุน...คาเมซากิ จุน!"  คุณประธานชมรมเสียงเข้ม  "ถึงคิวสอบของนายแล้วนะ"

        เด็กหนุ่มพยักหน้าอย่างตกใจเล็กน้อยแล้วนึกถึงเสียงอ่อนโยนที่คอยสอนเขาในตอนเย็นเมื่อวาน  การสอบจึงมีความว่า 'ผ่าน' อย่างง่ายดาย  มิหนำซ้ำยังมีคำชมให้อีกด้วย  จิเสะแอบยิ้มปลื้มปนโล่งใจ  แม้จะแปลกใจว่าใครกันที่เป็นคนสอนเขา

        แต่ที่สำคัญ เด็กสาวได้ถือโอกาสตอนที่ชมรมเลิกและจุนอยู่คนเดียวในการเรียกให้ตามเธอไปที่ดาดฟ้าโรงเรียน

        "ฉัน...ฉันเองก็ไม่คิดโกรธจุนคุงแล้วหรอกนะ"  เธอพูดด้วยน้ำเสียงน่ารัก  "ความจริงแล้ววันนั้นจุนคุงคงมีธุระด่วนสินะ  วันนั้น จุนคุงอยากจะบอกอะไรกับฉันเหรอ"

        "เอ่อ..."  จุนเกิดอาการพูดไม่ออกเมื่อมองหน้าเขินอายของจิเสะ  "ตอนนั้น ฉันตั้งใจจะบอกว่า..."

        เสียงประกาศของโรงเรียนดังขึ้น  "คาเมซากิ จุน  มีคนมารอพบที่ห้องประชาสัมพันธ์  ย้ำ คาเมซากิ จุน  มีคนมารอพบที่ห้องประชาสัมพันธ์"

        เด็กหนุ่มมองไปยังห้องประชาสัมพันธ์ีที่มีคาเมซากิ จินเนะ น้องสาวของตัวเองซึ่งกำลังโพสต์ท่าถ่ายรูปตามปกติให้กับบรรดาแฟนคลับอย่างสบายอารมณ์

        แน่นอน...การขึ้นดาดฟ้าของคนทั้งสองอยู่ในสายตาเธอพอดี  เพราะชมรมการละครอันแสนอึกทึกอยู่ห่างชมรมชงชาอันเงียบสงบไปไม่เท่าไหร่  และเมื่อเป็นเช่นนั้น  เด็กสาวตั้งใจเร่งฝีเท้าเต็มที่มาที่ห้องประชาสัมพันธ์  แล้วให้แฟนคลับต่างโรงเรียนช่วยประกาศตามที่สั่งให้

        หึ! ทำตามอย่างไม่ถาม  ข้อดีของแฟนคลับพวกนี้ล่ะ

        เด็กสาวเงยหน้าขึ้นไปมองพี่ชายซึ่งมองเธอลงมาเช่นเดียวกัน  ดวงตาของเด็กสาวเต็มไปด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน

        "จุนคุงไปที่ประชาสัมพันธ์ก่อนเถอะจ้ะ"

        จิเสะกล่าวพร้อมรอยยิ้มที่มีความเสียดายปะปนอยู่ด้วย  เมื่อครู่ คู่สนทนากำลังจะบอกอะไรเธอแล้วแท้ๆ

        แน่นอนว่าถ้าจิเสะรู้เรื่องการกลั่นแกล้งนี้  เธอคงใช้เชือกมัดไว้ไม่ให้เขาเดินจากไปง่ายๆแบบนี้แล้วบังคับให้พูดมาซะ  ว่าสิ่งนั้นใช้การบบอกรรักอย่างที่กลุ่มเพื่อนของเธอแซวกันวันนั้นหรือเปล่า

 

        จุนเดินกลับมายังบ้านด้วยจิตใจที่ไม่ได้ห่อเหี่ยวนัก  ต่างจากความคิดคาดการณ์ของจินเนะ  น้องสาวที่เดินอยู่อีกด้านของถนนด้วยสีหน้าเชิดหยิ่ง  เตรียมรอความเศร้าหรืออย่างน้อยเธอก็หวังมาตลอดว่าจะได้เห็นพี่ชายของตัวเองร้องไห้ด้วยแผนของเธอสักครั้ง!

        น่าเสียดายที่วันนั้น  ใบหน้าไม่ได้มีความผิดปกติอะไรของจุนยังคงแสดงต่อไปอีกวันหนึ่ง

        อาหารมื้อเย็นถูกเตรียมไว้อย่างรวดเร็ว  จุนมองเวรทำอาหารที่อยู่บนปฏิทินด้วยความแล้วนึกถึงเมนูทำอาหาร  ความจริงก็ใช่ว่าเขาไม่อยากแก้เผ็ดน้องสาวจอมป่วนที่ชอบทำแต่อาหารไม่ถูกปากเขาหรอกนะ  แต่เธอคนนั้นไม่ชอบกินอะไรเนี่ยสิปัญหา  เฮ้อ...การไม่มีข้อมูลนี่มันแย่จริงๆเลยนะ

        ไ้่ม่เปิดช่องว่างให้โจมตีเอาซะเลย!

        จุนนึกโทษจินเนะในใจแล้วนึกถึงต้มเผือกกับโกโบที่แสนอร่อยของมาซารุ  ถึงอยากไปที่นั่นแต่เขาก็ต้องกลับมาเตรียมชุดและใช้สิ่งอำนวยความสะดวกหลายๆอย่างในบ้าน

        ระหว่างที่รอของในหม้อต้มเดือด  เด็กหนุ่มคิดถึงตอนที่มาซารุยืนรอเขาที่หน้าศาลเจ้าขึ้นมาทันที

        "แย่ชะมัด  อย่าว่าแต่ไม่รู้เบอร์เลย  ที่นั่นไม่มีโทรศัพท์ด้วยซ้ำไป"

        เขาได้แต่ภาวนาว่ามาซารุคงจะไม่ยืนรอเขาอยู่หรอกนะ  ร่างในชุดกิโมโนนั่นคงรอเขาอยู่พักหนึ่งและกลับเข้าไปในศาลเจ้าเองนั่นล่ัะ  จุนคิดในใจกันการรู้สึกผิด

 

        แต่สิ่งที่ปรากฏกลับผิดไปจากที่คิดไว้  ท้องฟ้ามืดครึ้มพร้อมส่งประกายแวบวาบ  ลมพัดหวีดหวิว  เป็นสัญญาณบอกว่าฝนกำลังจะตกลงมา  มาซารุนั่งลงกอดเข่าและมีใบหน้าเศร้าโศกไม่ต่างจากจุนในวันนั้น  น้ำตาที่เชื่องช้าและใสเกินไปจนไม่เป็นธรรมชาตินั่นเริ่มไหลลงมารวมกับฝนที่ตกหนัก

        "จุน"  มาซารุเอ่ยอย่างแผ่วเบา  "วันนี้ทำไมเจ้าไม่มาหาข้า"

        ในเมืองเองก็มีฝนตกเช่นเดียว  ราวกับคำพูดซึ่งกล่าวด้วยเสียงเย็นยะเยือกนั้นสื่อมาตามสายลมได้  เด็กหนุ่มรู้สึกหนาวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก  เขารีบเดินไปจะปิดหน้่าต่างซึ่งมีละอองฝนพัดมาประปรายอย่างรวดเร็ว

        ท่ามกลางความมืด สายตาของจุนทอดมองไปยังภูเขาฟุมิเนเนะ  ในใจนึกเป็นห่วงปนร้อนรนอย่างประหลาด

        มุมหนึ่ง จินเนะแอบมองพี่ชายด้วยสายตาที่เย็นชา  เธอสังเกตได้ว่าเขาไม่มีท่าทีเซื่องซึมอะไรสักนิด  ถึงจะพอเดาได้ว่าเธอคงจะขัดขวางการปรับความเข้าใจกับจิเสะไม่ทัน  แต่เรื่องสารภาพรัก...ความสุขบนหน้ามันจะน้อยไปหน่อยรึเปล่า  แถมยังวันนี้ยังจ้องไปนอกหน้าต่าง  มองอะไรอยู่กันนะ?

        กริ๊งๆ กริ๊งๆ

        เสียงกระดิ่งเมสเสจที่จินเนะลุกลี้ลุกลนรับไม่ได้ส่งไปถึงจุนแต่อย่างใด  เนื่องจากเสียงฝนที่ตกหนักได้กลบเสียงนั้นไปหมด

        'ส่งกำหนดการณ์ของงานวันพรุ่งนี้มาให้  ตรวจเมลล์ด้วย จาก...เซโตะ'

        นายผู้จัดการจอมจุ้นนั่น!

        จินเนะบีบมือแน่นแล้วเดินโมโหไปตรวจอีเมลล์ตามที่อีกฝ่ายส่งเมสเสจมาบอก  ตารางงานของไอดอลถึงมันจะแน่นเอี๊ยดและบางงานก็หนักไปบ้าง  แต่นี่คือสิ่งที่เธอชอบทำ  ไม่ใช่แค่ชื่อเสียงอย่างเหตุผลของใครบางคนที่พยามจะเป็นและได้เป็น...ไอดอล

        ท่ามกลางสายฝนอันกระหน่ำลงมาจากฟากฟ้า  ใครบางคนกดกริ่งที่หน้าบ้านคาเมซากิ  เพียงแต่เสียงกริ่งมันฟังดูเบาๆลอยๆมาตามสายลมอยางบอกไม่ถูก

จุนเป็นคนลงไปเปิดประตูบ้านเองด้วยความรู้สึกสังหรณ์ใจบางอย่าง  สายฝนที่ตกกระหน่ำยังไม่มีท่าทีจะซาลง  ใครกันนะที่มาดึกดื่นแบบนี้

"จุน..."

มาซารุยิ้มให้เขาอย่างดีใจปนโล่งอก  มือทิ้งร่มเก่าๆที่แทบจะกันฝนอะไรไม่ได้แล้วโผเข้ากอดทันที  กิโมโนเปียกชุ่มเม็ดฝนทำให้พื้นหน้าบ้านเปียกเป็นจุดๆและยังเปียกเด็กหนุ่มเจ้าของบ้านด้วย  เนื้อตัวที่เย็นเฉียบจนแทบไม่มีอุณหภูมิความร้อนเมื่อเจอฝนจึงเย็นขึ้นไปอีก  สำหรับจุนแล้วผิวเนื้อของอีกฝ่ายมันหนาวราวกับน้ำแข็งเลยทีเดียว...

จะให้กลับไปก็ไม่ได้  ต่อให้กังวลการก่อกวนของจินเนะก็ตาม

"เปียกหมดแล้วนะ  มาซารุซัง  ว่าแต่ทำไมมากลางดึกกลางดื่นแบบนี้ล่ะ  อันตรายออกนะ  ยิ่งฝนตกหนักอยู่ด้วย  รถราเอย  พวกแก๊งอันธพาลเอย  คนที่ดูบอบบางชวนรังแกอย่างมาซารุซังจะตกเป็นเป้าเอาง่ายๆนะ รู้ไหม"

"ข้ามาหาเจ้า"  มาซารุยังคงยิ้ม  "เพราะวันนี้รอตั้งนานแล้วเจ้าไม่ไปที่ศาลเจ้า  และตอนเช้าเจ้าก็บอกว่า  ถ้ามีธุระอะไรให้มาที่นี่  ข้ามาตามที่เจ้าบอกแล้วไง"

จุนเหลือบมองขึ้นไปด้านบน  เขายังคงกังวลเรื่องน้องสาวไม่หาย  แต่โชคดีอยู่ฝ่ายคนดีเสมอ  เมื่อเด็กสาวยังคงตรวจอีเมลล์ไปก็บ่นอุบไปไม่หยุด

ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบงันครู่ใหญ่เพราะต่างฝ่ายต่างไม่มีอะไรจะพูด  มาซารุเองก็มีที่นี่ 'เพื่อพบกัน' เท่านั้น  ไม่ได้มีเจตนาจะมาทำอะไรเป็นพิเศษ

แต่ในที่สุด พ่อของจุน คาเมซากิ ชิโร่  ต้องเดินลงมาดูเพราะเห็นเงียบกันไปนาน

"จุน  ใครมานะ"

"อ้อ ขอแนะนำใหู้้รู้จักครับ  มาซารุซังจากศาลเ้จ้าฟุมิเนเนะครับ"  

จุนผายมือไปที่บุคคลร่างกิโมโนซึ่งโค้งตัวทักทายตามธรรมเนียมญี่ปุ่น  ชิโร่มองดูด้วยความแปลกใจแล้วถามทันทีว่า

"ตรงไหนกันล่ะ"

ชิโร่กระพริบตาสองสามทีจึงจะสังเกตคนในชุดกิโมโนโบราณกำลังนั่งอยู่ข้างๆจุน  แม้จะติดสงสัยเล็กน้อยแต่เสียงของภรรยาก็เรียกให้กลับไปที่ห้องนั่งเล่นซึ่งถัดไปอีกไม่กี่ห้อง

ชิโร่พูดอีกสองสามคำพอเป็นพิธีและเดินกลับไปตามเสียงของภรรยา

"เจ้าทำไมไม่ไปหาข้าล่ะ"

มาซารุพูดอย่างเศร้าสร้อย  น้ำเสียงลอยล่องในอากาศเยียบเย็น  ชวนให้จุนรู้สึกลำบากใจ

"คือ...ผมต้องกลับมาที่บ้านเพราะข้าวของอยู่ที่นี่นะ  แล้วจะไปพบเธอทุกวันมันก็ไม่มีเงินค่ารถบัสทุกครั้งด้วย...เอ่อ"

"เรื่องเงินข้ามีให้เจ้านะ"  

เหรียญเงินแบบเก่าอย่างที่จุนจะพบเฉพาะในพิพิธภัณฑ์หล่นลงมาจากแขนเสื้อกิโมโนเกรียวกราวจนเด็กหนุ่มอ้าปากค้าง  เขารีบโกยเหรียญเหล่านั้นส่งคืนให้มาซารุทันที

"พบรับไว้ไม่ได้หรอกนะครับ  ยังไงพรุ่งนี้ผมจะไปพบเธอแล้วกันนะ"

จุนตัดสินใจพูดไปแบบนั้นและเพื่อค่ารถบัสก็คงต้องงดขนมประจำวันบ้างอะไรบ้าง  ค่าขนมรายอาทิตย์เพิ่งออกวันนี้ซะด้วยสิ

"คืนนี้ค้างที่นี่แล้วกันนะ  ฝนตกหนักแบบนี้เธอจะกลับไปได้ยัีงไงกัน"  จุนมองร่มที่เกือบขาดอยู่รอมร่อแล้วถอนหายใจ  "วันหลังรอตอนเช้าค่อยมาก็ได้นี่ครับ  เธอฝ่าฝนมาแบบนี้จะเป็นหวัดเอาได้ง่ายๆ  ดูสิ ห่มผ้าขนาดน้ตัวยังไม่อุ่นขึ้นเลย"

มาซารุกล่าวพร้อมกับสัมผัสอีกฝ่าย  

"แต่เนื้อตัวของจุนอุ่นดี  เป็นอุณหภูมิแบบเดิมอย่างที่ข้าชอบ"

เมื่อได้ยินเช่นนั้น จุนอดรู้สึกประหม่าขึ้นมาไม่ได้  มันก็ไม่ใช่อะไรหรอกนะ  แต่คำชมประหลาดๆอย่างการชอบอุณหภูมินี่  ตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยได้รับเลยเนี่ยสิ  ฟังดูพิลึกชอบกล

 

ุ่งเช้าวันถัดมา  ครอบครัวคาเมซากิต้องประหลาดใจเมื่อมีชุดอาหารเช้าจัดไว้ให้เรียบร้อย  จุนชิมรสอาหารก็รู้เลยว่าต้องเป็นฝีมือของมาซารุแน่นอน  เพียงแต่บุรุษชุดกิโมโนคนนั้นหายไปไหนแล้วล่ะ

ถ้าให้จินเนะต้่องรู้จักกับมาซารุและหาทางแกล้งเขาเหมือนที่ทำกับจิเสะล่ะก็...ไม่มีทาง  จุนได้แต่บอกว่าเพื่อนที่มาตอนกลางดึกมาทำไว้ให้เท่านั้น

เด็กสาวมองตามแผ่นหลังของพี่ชายไปอย่างรู้สึกติดใจสงสัยบางอย่าง  อาหารเช้าเหล่านั้นมันน่าจะเกินความสามารถของเด็กมัธยมทั่วไปแน่นอน  ฉะนั้น เพื่อนที่ว่าเนี่ย...ใครกันล่ะ?

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา